อินเทลเปิดตัว อินเทล คอร์ เอ็ม โปรเซสเซอร์ สำหรับ Full PC แบบ 2 in 1 และ แท็บเล็ตดีไซน์บางเฉียบที่ไม่ใช้พัดลม

 

intel-core-m

 

อินเทล ผู้นำการผลิตชิปโปรเซสเซอร์สำหรับคอมพิวเตอร์อันดับโลก เปิดตัว อินเทล คอร์ เอ็ม โปรเซสเซอร์ ตัวใหม่ ภายใต้ชื่อโค้ดเนม บรอดเวลล์ วาย (Broadwell Y) ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีสถาปัตยกรรมการผลิตที่เล็กเพียง 14 นาโนเมตรชิ้นแรกของโลกที่มีวางจำหน่ายแล้ว โดยชิปรุ่นใหม่นี้ ถูกออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบบ 2 in 1 และแท็บเล็ต หรือแล็บท้อปที่เน้นดีไซน์บางเฉียบ เนื่องจากตัวซีพียูที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงร้อยละ 50 และใช้ไฟเพียง 4.5 วัตต์ จึงทำให้ลดความร้อนลงถึงร้อยละ 60 เลยทำให้สามารถออกแบบคอมพิวเตอร์ได้บางเบาและไม่ต้องใช้พัดลมในการระบายความร้อน ซึ่งสามารถออกแบบได้บางน้อยกว่า 9 มิลลิเมตรหรือบางกว่าแบตเตอรี่แบบ AAA เลยทีเดียว

 

ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานคอมพิวเตอร์ Intel Core M Processor ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแบบ Full PC ด้วยความเร็วขึ้นถึงร้อยละ 50 และประมวลผลด้านกราฟฟิกได้ดีกว่าถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับ อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ก่อนหน้านี้

Broadwell_Package_Diagonal

 

ดังนั้นด้วยประสิทธิภาพของซีพียูรุ่นใหม่นี้จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ 2 in 1 ออกมามากมายจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Acer, ASUS, Dell, HP และ Lenovo ซึ่งได้เผยตัวต้นแบบในงาน IFA เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีแผนที่จะนำเข้ามาวางจำหน่ายภายในสิ้นปีนี้กว่า 20 รุ่น เช่น Acer Aspire Switch 12 ที่ต่อยอดจากอุปกรณ์ 2 in 1 ด้วยหน้าจอ Full HD ขนาด 12.5 นิ้ว พร้อมด้วยคีย์บอร์ดแม่เหล็กที่มีขาตั้งให้ปรับระดับการใช้งานได้สะดวกสบายถึง 5 ระดับ

Acer Switch 12

 

ASUS Transformer T300 Chi อุปกรณ์แบบ 2 in 1 ที่บางเบาลงกว่าเดิม

ASUS Transormer T300 Chi

ในส่วนของราคาเฉลี่ยของอุปกรณ์แบบ 2 in 1 ณ ตอนนี้จะเริ่มตั้งแต่ 1 หมื่นต้นๆ ไปจนถึง 7 หมื่นบาท และมีแนวโน้มว่าจะถูกลงเรื่อยๆ เมื่อมีการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น

CoreM-inside

 

ทั้งนี้ด้านฝั่ง ซีพียู สำหรับสมาร์ทโฟน หลังจากที่ประสบความสำเร็จจาก ASUS Zenfone และ FonePad ที่ใช้ซีพียูของอินเทลกว่า 10 รุ่น ก็เตรียมพัฒนารุ่นใหม่ออกมาภายในปีหน้า ซึ่งก็จะได้เห็น ซีพียูตระกูลโซเฟีย (SoFIA) 3G Dual Core ที่เน้นกราฟฟิกที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพสูง ใช้แบตได้นานขึ้น และจะมีรุ่น 3G Quad Core ออกมาเพิ่มในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าอีกด้วย นอกจากนี้อินเทลยังเชื่อมั่นในประสิทธิภาพที่สูงกว่า แม้ว่าจะเทียบกับจำนวน Core ของคู่แข่งที่มีมากกว่าก็ตาม ซึ่งมีผลการทดสอบจากหลายสำนักที่เปรียบเทียบแล้ว อินเทลให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า พร้อมกันนี้จะต้องสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องให้กับผู้บริโภค โดยไม่มองเพียงตัวเลขของจำนวน Core ที่มากไว้ก่อน ในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว

Inter-zenfone

 

 

Acer Iconia One 7 | B1-730HD อิสระใหม่ของแอนดรอยด์แท็บเล็ต 10 สี จัดจ้าน ได้ใจ

 

Acer Iconia One7 B1-730HD_02

 

Acer Iconia One 7 (B1-730HD) แอนดรอยด์แท็บเล็ตที่รองรับความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างลงตัว บางเฉียบน้ำหนักเบา เปี่ยมประสิทธิภาพในการใช้งาน จอแสดงผล HD ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ให้รัศมีมุมมองที่กว้างถึง 178 องศาด้วยเทคโนโลยี IPS รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด ดีไซน์กระชับ จับถนัดมือ ใช้งานง่ายในมือเดียว ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ท่องเว็บ เล่นเกมส์ได้ลื่นไหลด้วยซีพียู Intel® AtomTM Z2560 1.6 GHz Dual Core ที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้กินไฟน้อยลง แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 ชม. พื้นที่ความจุ 8 GB รองรับ Micro SD สูงสุดถึง 32 GB หน่วยความจำ RAM 1 GB เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi เก็บบันทึกภาพความประทับใจด้วยกล้องหลัง 2 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 3 แสนพิกเซล ฉีกกฎใหม่ด้วยสีสันให้เลือกใช้งานถึง 10 สี Acer Iconia One 7 (B1-730HD) จัดจำหน่ายในราคา 3,990 บาท (รวม VAT 7%) สำหรับลูกค้าที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่อเซอร์ คอลล์ เซ็นเตอร์ โทรศัพท์ 02-685-4311 หรือคลิกที่ www.acer.co.th

Acer Iconia One7 B1-730HD_01

 

[Sneak Preview] Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ 10.5

 

ศุกร์นี้แล้วสินะ (4 ก.ค. 57) ที่ Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ Tab S 10.5 จะเริ่มวางจำหน่าย แต่หากใครกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ซื้อดี เรามาดูของจริงกันก่อนดีกว่า ซึ่ง OopsMobile ได้เก็บภาพจากงาน Samsung Blogger Day มาให้ชมกัน

 

เริ่มกันที่รุ่น Galaxy Tab 10.5 กันก่อน จุดเด่นที่สุดของ Galaxy Tab S คือเรื่องของหน้าจอ ที่เป็น Super AMOLED ความละเอียด WQXGA เท่ากับ 4 ล้านพิกเซล (มากกว่า iPad Air 1 ล้านพิกเซล) หรือ 2560 x 1600 อัตราส่วน 16:10 และมีความหนาแน่นของพิกเซลถึง 360 พิกเซลต่อนิ้ว

preview-tab-s-01

 

 

ตรงขอบจอ ยังคงมีปุ่ม Home, Mutitasking และ Back มาให้

preview-tab-s-02

 

พลิกดูด้านหลังตัวบอดี้ออกแบบให้มีลายจุดเรียงเป็นแถว ดูเรียบง่าย สีบอรนด์ทองเข้มๆ ดูคลาสิกดี (มีสีขาวให้เลือกด้วยนะ) ส่วนกล้องมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แฟลช LED 1 ดวง ส่วนกล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้แบบ Full HD เลยทีเดียว

preview-tab-s-03

 

ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อม ระบบสแกนลายนิ้วมือตรงปุ่ม Home เหมือนกับ Galaxy S5

preview-tab-s-04

 

ลองถ่ายใกล้ๆ หน้าจอดู เรียกว่าความละเอียดสูง ให้ภาพสีสันสดใส ตามคุณสมบัติของหน้าจอแบบ AMOLED

preview-tab-s-05

 

ตัวเครื่องบางเพียง 6.6 มม. (เท่ากันทั้ง 2 รุ่น) และน้ำหนักรุ่น 10.5″ เพียง 467 กรัม ส่วนรุ่น 8.4″ หนักเพียง 298 กรัม

preview-tab-s-06

 

ตัวเคสแบบ Book Cover ยึดติดด้วยแม่แหล็กที่ด้านหลังตัวเครื่อง พร้อมรองรับการเปิด ปิด หน้าจอ อัตโนมัติ

preview-tab-s-07

 

วางเป็นสแตนด์ขาตั้งปรับระดับได้

preview-tab-s-08

 

เปรียบเทียบขนาดหน้าจอของทั้ง 2 รุ่น

preview-tab-s-09

 

Galaxy Tab S 8.4 เมื่ออยู่ในมือก็กะทัดรัดดีนะ

preview-tab-s-10

 

ขอบบางเท่ากับรุ่น 10.5″

preview-tab-s-11

 

ดูสเปกอย่างเป็นทางการของ Galaxy Tab S 8.4″ / 10.5″

preview-tab-s-12

 

Galaxy Tab S 8.4 ราคา 16,900 บ.
Galaxy Tab S 10.5 ราคา 19,900 บ.

 

[Update] คอนเฟิร์มราคาและวันวางขาย Galaxy Tab S ทั้ง 2 รุ่น

 

เปิดราคากันไปเรียบร้อยแล้วสำหรับ Samsung Galaxy Tab S แท็บเล็ตตระกูลใหม่ล่าสุดจากซัมซุง โดยที่หน้าแฟนเพจของ Jaymart ได้โพสต์ราคาของ Galaxy Tab S ทั้ง 2 รุ่นออกมาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งตรงกับที่ซัมซุงประกาศในงาน Blogger Day เมื่อคืนที่ผ่านมา (30 มิ.ย. 57) ส่วนวันวางจำหน่ายทางซัมซุงได้ประกาศ ว่าจะวางขายวันศุกร์ที่ 4 ก.ค. นี้ ส่วนโอเปอเรเตอร์อย่าง Truemove H ที่ได้โพสต์ข่าวเตรียมพบ Galaxy Tab S ไว้ก่อนหน้านี้ ก็ยังไม่ได้เปิดรับจองและเผยราคาโปรโมชั่น แต่อย่างใดในขณะนี้
galaxy-tab-s-prize

Galaxy-tab-S-1
สไลด์จากงาน Samsung Blogger Day

 

Galaxy Tab S 8.4 ราคา 16,900 บ.
Galaxy Tab S 10.5 ราคา 19,900 บ.

 

Galaxy-tab-s-2

 

สำหรับตัวเคส Book Cover ก็จะนำมาขายด้วยเช่นกัน โดยรุ่น 8.4″ ราคา 1,890 บาท  ส่วนรุ่น 10.5″ ราคา 2,190 บาท

 

คลิก ดู Infographic เปรียบเทียบกับ iPad Air และ iPad mini (Retina)

 

คุณสมบัติเด่นของ Galaxy Tab S
• มีเซ็นเซอร์ IR (อินฟราเรด) ในตัว ไว้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ
• มีเซ็นเซอร์ สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home เหมือน Galaxy S5
• บอดี้ด้านหลังเป็นพลาสติกผิวสัมผัสคล้ายหนัง และขอบดีไซน์เป็นเมทัลลิคคล้าย Galaxy S5
• มาพร้อมอินเทอร์เฟสล่าสุด Samsung’s Magazine UX
• มี Ultra Power Saving Mode ช่วยประหยัดแบต เหมือน Galaxy S5
• รันบน Android 4.4 Kitkat
• มี 2 สีให้เลือก ขาว, ไทเทเนี่ยมบลอน
• รองรับ Multi Windows
• SideSync 3.0 เชื่อมต่อการใช้งานร่วมกันระหว่าง Tab S กับ Galaxy Smartphone เช่น แสดงผลหน้าจอมือถือบนแท็บเล็ตได้, ก็อปปี้ข้อมูล หรือใช้ Tab S รับสายจากมือถือแทนกันได้
• มีแอพและเกมให้โหลดฟรีๆ มากมาย ใน Galaxy Gifts รวมถึงแอพ Papergarden ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ไว้สำหรับดูแมกกาซีนแบบอินเตอร์แอคทีพโต้ตอบได้ ด้วยภาพที่คมชัดรองรับกับหน้าจอ SuperAMOLED โดยเฉพาะ (บางแอพรองรับในอเมริกาเท่านั้น)

 

Source : Jaymart

 

Infographic เปรียบเทียบ Galaxy Tab S กับ Apple iPad Air, iPad mini

 

ใกล้จะวางจำหน่ายในเมืองไทยแล้วสำหรับ Galaxy Tab S แท็บเล็ตตระกูลสลิม หลังจากเปิดตัวในอเมริกาไปเมื่อกลางเดือน ก.ค. กับขนาดหน้าจอมาตรฐานใหม่ 8.4 นิ้ว กับ 10.5 ที่ออกแบบให้เหมาะกับการพกพาได้สะดวก แต่ยังคงได้รับอรรถรสจากหน้าจอที่คมชัดในระดับ Super AMOLED ความละเอียด WQXGA 2560 x 1600 ด้วยสีสัน สวยสด งดงาม ที่สำคัญถ้าอยากรู้ว่ามันแตกต่างจาก iPad Air และ iPad Mini with Retina Display ยังไง เรามีภาพอินโฟกราฟิกมาให้ดูกัน

 

info-galaxy-tab-s

 

เมื่อดูการเปรียบเทียบจากสเปกแล้ว แน่นอนล่ะครับว่า iPad Air กับ iPad mini with Retina Display ยอมต่ำกว่าเป็นแน่ เนื่องด้วยเพราะออกมาก่อน ซึ่งแท็บเล็ตแอนดรอยด์ที่ออกรุ่นใหม่ๆ ก็ต้องเอาชนะด้วยสเปกทางฮาร์ดแวร์เป็นสิ่งแรก แต่สิ่งที่น่าพิจารณาอีกอย่างก็คือเรื่องของระบบปฏิบัติการ ซึ่งมีสไตล์การใช้งานที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับว่าคุณชอบแบบไหน ถ้ารักความอิสระ เล่นได้ทุกอย่างแบบไร้ขีดจำกัด แต่แอพปลอมเยอะต้องระวัง ก็เลือกแอนดรอยด์ หากชอบความง่ายในการใช้งาน ระบบมีความเสถียรภาพสูง แต่ทุกอย่างถูกจำกัดด้วยอารยธรรม Apple ก็เลือก iOS ไป…

 

สำหรับกำหนดวางจำหน่าย Galaxy Tab S ทั้ง 2 รุ่น จะวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ โดยทาง Jaymart ได้เผยราคาออกมาแล้ว

Galaxy Tab S 8.4 ราคา 16,900 บ.

Galaxy Tab S 10.5 ราคา 19,900 บ.

galaxy-tab-s-prize

 

เปิดตัว Acer Aspire Switch 10 ไฮบริดโน้ตบุ๊ค และ Acer Iconia One 7 (B1-730HD) แอนดรอยด์แท็บเล็ต พลังเทคโนโลยีซีพียูจากอินเทล

 

ACER__ (8)

 

บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด เปิดตัวผลิตภัณฑ์ไฮบริดโน้ตบุ๊ค Acer Aspire Switch 10 บนแพลทฟอร์มวินโดวส์ และแอนดรอยด์แท็บเล็ต Acer Iconia One 7 (B1-730HD) โดดเด่นด้วยดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม พร้อมนำเสนอการใช้งานอย่างลงตัวและสมบูรณ์แบบทั้งด้านการออกแบบ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย สร้างประสบการณ์ใหม่ของการใช้งานอุปกรณ์ไอทีที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการเน้นจุดขายการปฏิวัติรูปแบบการใช้งานแบบ Work, View & Play ที่รวมเอาประสบการณ์ทั้งความบันเทิงและการทำงานเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างดี

 

นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ รองผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า นวัตกรรมไอทีมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตามความต้องการใช้งานของผู้บริโภคที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามกระแสของเทคโนโลยี ไฮบริดโน้ตบุ๊คและแท็บเล็ตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการพัฒนาทั้งด้านดีไซน์และเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่ต้องการอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์ด้านการทำงานและความบันเทิงรวมกันไว้ในเครื่องเดียว เอเซอร์มีความพร้อมในด้านโซลูชั่นที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุมทั้งระบบปฏิบัติการวินโดวส์ และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ การเปิดตัวผลิตภัณฑ์ Acer Aspire Switch10 และ Acer Iconia One 7 (B1-730HD) ในครั้งนี้จะเป็นการช่วยเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์ของเอเซอร์ให้ครบทุกเซกเมนต์ อีกทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้นตลาดในครึ่งปีหลังให้คึกคักมากขึ้น

ACER__ (11)

 

 

“สำหรับผลิตภัณฑ์ Acer Aspire Switch10 และ Acer Iconia One 7 (B1-730HD) นับเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของเอเซอร์แสดงถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคตลอดมา ในวันนี้เอเซอร์มีความพร้อมอย่างมากในการที่จะให้ผู้บริโภคได้พบกับไฮบริดโน้ตบุ๊คและแอนดรอยด์แท็บเล็ต ที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานอย่างครอบคลุมในขนาดและราคาที่เหมาะสม และเรามั่นใจว่าทั้ง Acer Aspire Switch10 และ Acer Iconia One 7 (B1-730HD) จะสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้งานที่ต้องการทำงานบนแท็บเล็ต หรือผู้ใช้งานที่ต้องการความบันเทิง”

 

นายสุพงศ์ ตั้งตรงเบญจศีล ผู้จัดการฝ่ายกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊คและแท็บเล็ต บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า สำหรับ Acer Aspire Switch 10 เป็นไฮบริดโน้ตบุ๊คบนแพลทฟอร์มวินโดวส์ สามารถใช้งานได้แบบ 2 in 1 ทั้งแท็บเล็ต หรือ โน้ตบุ๊ค ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 4 รูปแบบ คือโน้ตบุ๊ค (Notebook) แท็บเล็ต (Pad) ตั้ง (Display) และเต็นท์ (Tent) เพื่อตอบสนองการใช้งานที่หลากหลาย (Multiple Functions) รวมถึงการเข้าถึงการใช้งานได้หลากหลาย (Multiple Accessibility) ตัวเครื่องได้รับการออกแบบให้มีดีไซน์ที่บางเพียง 8.9 มม ขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้ว แบบ TFT LCD พร้อมเทคโนโลยี Zero Air Gap ลดการสะท้อนของแสง เพื่อให้ได้ภาพที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแม้จะใช้งานกลางแจ้ง ทำให้มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นแต่แฝงไปด้วยการใช้งานที่ครอบคลุม มาพร้อมอุปกรณ เสริม Docking Keyboard (ภาษาอังกฤษ-ไทย) พร้อม HDD ขนาด 500GB ภายในตัวคีย์บอร์ด และระบบ Acer Snap Hinge ที่มีความทนทานทำให้ทุกการใช้งานไม่ว่าจะเป็น พลิก พับ เชื่อมต่อ หรือการถอดคีย์บอร์ดออกจากตัวเครื่องเป็นไปอย่างง่ายดาย ระบบประมวลผลสุดล้ำ Intel® Z3745 ความเร็วสูงสุดที่ 1.8 GHz พร้อมแรม 2GB และหน่วยความจําภายในสูงถึง 64GB แบบ SSD พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 8.1 และชุดโปรแกรม Office Home & Student 2013 ให้คุณทํางานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ราบรื่น ได้ทุกที่ ทุกเวลา

 

นายวิวัฒน์ เต็มสุขถวิล ผู้จัดการฝ่ายกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตแอนดรอยด์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ จำกัด กล่าวว่า Acer Iconia One 7 (B1-730HD) เป็นแอนดรอยด์แท็บเล็ตที่รองรับความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม บางเฉียบน้ำหนักเบาแต่เต็มประสิทธิภาพในการใช้งาน มาพร้อมจอแสดงผล HD ความละเอียด 1280 x 800 พิกเซล ขนาด 7 นิ้ว ใช้งานง่ายในมือเดียว รองรับการสัมผัสพร้อมกัน 5 จุด ขับเคลื่อนด้วยระบบปฏิบัติการ Android 4.2 ท่องเว็บ เล่นเกมส์ได้ลื่นไหลด้วยซีพียู Intel® AtomTM Z2560 1.6 GHz Dual Core ที่มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้กินไฟน้อยลง แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 7 ชม. พื้นที่ความจุ 8 GB รองรับ Micro SD สูงสุดถึง 32 GB หน่วยความจำ RAM 1 GB เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi กล้องถ่ายรูป 2 ล้านพิกเซล และ กล้องด้านหน้า 3 แสนพิกเซล พร้อมสีสันให้เลือกใช้งานถึง 10 สี

ACER__ (15)

 

 

ซัมซุงเปิดตัว “กาแลคซี่ แท็บ เอส” สุดยอดแท็บเล็ตหน้าจอซุปเปอร์ อะโมเล็ด

 

Galaxy Tab S-2

 

นิวยอร์ก, สหรัฐฯ – 12 มิถุนายน 2557 – ซัมซุงนำเสนอแท็บเล็ตระดับพรีเมียมรุ่นแรก “ซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส (Samsung Galaxy Tab S)” 2 ขนาดหน้าจอ คือ 10.5 นิ้ว และ 8.4 นิ้ว โดดเด่นด้วยหน้าจอ Super AMOLED ที่ล้ำหน้าที่สุด พร้อมดีไซน์มีสไตล์ บางและเบาที่สุด ง่ายต่อการใช้งาน ผสานคอนเทนต์พิเศษระดับพรีเมี่ยมเพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่เหนือระดับ รวมทั้งฟีเจอร์โดดเด่นมากมายเพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบที่สุด

 

มร. เจเค ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์พกพาซึ่งเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ผู้บริโภคจำนวนมากใช้แท็บเล็ตในการรับชมเนื้อหาหลากหลายรูปแบบ ดังนั้นคุณภาพของหน้าจอจึงเป็นปัยจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกแท็บเล็ต ซัมซุงจึงได้ยกระดับมาตรฐานของวงการแท็บเล็ตอีกครั้งด้วยการแนะนำ ซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส ที่จะมอบประสบการณ์ทั้งด้านการแสดงผลและความบันเทิงที่มีสีสันสมจริงที่สุด พร้อมกับดีไซน์บางและเบา จึงพกพาได้สะดวกยิ่งขึ้น”

 

ปิดรับทุกสีสันด้วยหน้าจอ Super AMOLED แท็บเล็ตที่มาพร้อมหน้าจอที่ดีที่สุด

ซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส ปฏิวัติความละเอียดหน้าจอแท็บเล็ตด้วยหน้าจอแบบ Super AMOLED ความละเอียด WQXGA 2560 x 1600 อัตราส่วนหน้าจอ 16:10 จึงสามารถแสดงสีได้อย่างถูกต้องมากกว่าร้อยละ 90 เพื่อสีสันที่สดใส สมจริงมากยิ่งกว่าที่เคยและด้วยอัตราส่วนการแสดงแสงสีดำและสีขาว (contrast ratio)ที่สูงถึง 100,000:1 ภาพที่แสดงผลจึงมีความชัดและสมจริงด้วยสีดำที่ดำสนิทและสีขาวที่สว่างกว่าที่เคย พร้อมเทคโนโลยีด้านการแสดงผลของซัมซุงที่เหนือชั้นยิ่งกว่า อาทิ คุณสมบัติ Adaptive Display ที่ช่วยปรับปรุงการแสดงผลให้ดีที่สุดในทุกๆ สถานการณ์ด้วยการปรับค่าการแสดงแสงให้เหมาะสมกับแหล่งที่มาของภาพ (gamma) ความอิ่มสีและความคมชัดของแสงเงา ซึ่งจะประเมินผลจากแอพพลิเคชันที่ใช้งาน อุณหภูมิสี (color temperature) ที่เกิดขึ้นขณะใช้งานและสภาพแสงภายนอกขณะใช้งาน นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับตั้งค่าต่างๆสำหรับการแสดงผลภาพหรือคลิปวิดีโอได้อย่างอิสระด้วยโหมดการแสดงผลภาพแบบมืออาชีพ 2 โหมดคือ AMOLED Cinema และ AMOLED Photo จึงสามารถรับชมเนื้อหาต่างๆ บนหน้าจอได้อย่างชัดเจนกว่าเดิมแม้จะอยู่กลางแจ้ง เนื่องจากมีเทคโนโลยีรองรับการแสดงผลกลางแจ้งที่ล้ำหน้า ดังนั้นเมื่อหน้าจออยู่กลางแจ้งจึงสวยงาม สมจริง และช่วยให้ผู้ใช้อ่านสิ่งต่างๆ บนหน้าจอได้ง่ายกว่าเดิม

 

เนื่องจากเทคโนโลยีหน้าจอ Super AMOLED ไม่จำเป็นต้องใช้แบ็คไลท์เป็นส่วนประกอบ จึงมีอัตราการใช้พลังงานที่ต่ำกว่าแท็บเล็ตรุ่นอื่นๆ ที่ใช้หน้าจอแอลซีดี นอกจากนี้ยังสะดวกต่อการพกพา ซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส ทั้ง 2 ขนาด มีความหนาเพียง 6.6 มิลลิเมตรและมีน้ำหนักที่เบามาก คือ 465 กรัม (สำหรับขนาด 10.5 นิ้ว) และ 294 กรัม (สำหรับขนาด 8.4 นิ้ว)* ทำให้ผู้ใช้งานสามารถพกพาได้โดยสะดวก ด้วยแบตเตอรี่ที่มีอายุการใช้งานนานและโหมดยืดพลังแบต (Ultra Power Saving Mode) จึงสามารถเพลิดเพลินกับความบันเทิงได้ยาวนานหลายชั่วโมงโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมด

 

รูปลักษณ์มีสไตล์ พร้อมอุปกรณ์เสริมเพื่อการใช้งานที่สมบูรณ์แบบ
ซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส เป็นแท็บเล็ตที่เพรียวบางและทันสมัยด้วยงานออกแบบที่งดงาม เพื่ออิสระที่มากขึ้น มาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมที่สวยงามและตอบรับกับทุกการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น Book cover ที่สามารถ พับเพื่อตั้งตัวแท็บเล็ตได้ 3 รูปแบบ เพื่อองศาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการชมภาพยนตร์ อ่านข้อมูล หรือการพิมพ์ นอกเหนือจากนี้ ซัมซุงยังมี Simple cover ที่มีขนาดบางและน้ำหนักเบากว่า แต่สามารถปกป้องแท็บเล็ตได้ดีเท่ากับ Book cover และเพื่อการปกป้องตัวแท็บเล็ตพร้อมกับเพิ่มขีดความสามารถในการพิมพ์ ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ Bluetooth keyboard รุ่นพิเศษที่ออกแบบเพื่อใช้งานกับกาแลคซี่ แท็บ เอส โดยเฉพาะ

 

คุณสมบัติพิเศษด้านการทำงานที่ช่วยให้ใช้งานได้อย่างเต็มที่
เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและสลับการทำงานระหว่างแอพพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างใจ กาแลคซี่ แท็บ เอส จึงมีคุณสมบัติที่เหนือชั้นเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและความปลอดภัยมากมาย เช่น คุณสมบัติ Call Forwarding ผ่านระบบ SideSync 3.0 จึงสามารถใช้แท็บเล็ตนี้โทรเข้า – ออก รวมทั้งโอนสายจากสมาร์ทโฟนมายังกาแลคซี่ แท็บ เอสได้ ไม่ว่าสมาร์ทโฟนจะอยู่ที่ใดก็ตาม นอกจากนี้ ยังสามารถเปิดใช้งานหลายแอพพลิเคชันพร้อมกันได้ ไม่ว่าจะเป็น การท่องอินเทอร์เน็ต ชมคลิปวีดิโอ แบ่งปันเนื้อหาต่างๆ หรือแม้แต่การใช้งานโทรศัพท์ โดยไม่ที่ไม่จำเป็นต้องปิดแอพพลิเคชันใดๆ คุณสมบัติ Quick Connect เพื่อการเชื่อมต่อและแบ่งปันเนื้อหากับอุปกรณ์ใกล้เคียง ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งาน สามารถใช้คุณสมบัติเหล่านี้ได้ทั้งในรุ่นไว-ไฟและแอลทีอี คุณสมบัติอื่นๆ อาทิ โหมด Multi User โดยผู้ใช้สามารถสร้างโปรไฟล์ในการใช้งานได้ คุณสมบัติ Fingerprint Scanner เพื่อการปลดล็อกเครื่องอย่างสะดวกและรวดเร็ว และ โหมด Kids ซึ่งมีส่วนต่อประสานผู้ใช้พิเศษสำหรับเด็กและแอพพลิเคชันสำหรับเด็กโดยเฉพาะ

Galaxy Tab S 10.5

เพียบพร้อมด้วยคอนเทนต์พิเศษมากมาย
ซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส สรรสร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะ และมีการติดตั้งคอนเทนต์พิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
• บริการนิตยสารใหม่ล่าสุดของซัมซุงชื่อ “เปเปอร์การ์เด้น – Papergarden” ซึ่งจะได้รับการติดตั้งมาพร้อมกับกาแลคซี่ แท็บ เอส เป็นรุ่นแรก บริการนิตยสารดังกล่าวนี้สรรสร้างขึ้นเพื่อการอ่านนิตยสารดิจิตอลแบบอินเตอร์แอกทีฟโดยเฉพาะ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถเลือกอ่านนิตยสารชื่อดังมากมายได้บนหน้าจอที่มีสีสันสวยงามเสมือนจริง
• กาแลคซี่ กิฟท์ โดยซัมซุงร่วมมือกับผู้ให้บริการและผู้ผลิตคอนเทนต์สำหรับอุปกรณ์มือถือกว่า 30 ราย เพื่อให้ผู้ใช้งานกาแลคซี่ แท็บ เอส ได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดจากบริการหรือคอนเทนต์พิเศษหลากรูปแบบ ไม่ว่าขณะอยู่บ้าน ขณะทำงาน หรือขณะพักผ่อน อาทิ
» ด้วยความร่วมมือเชิงกลยุทธระหว่างซัมซุงกับมาร์เวล จึงสามารถอ่านหนังสือการ์ตูนของมาร์เวลกว่า 15,000 เล่มได้ฟรีเป็นเวลา 3 เดือนผ่านแอพพลิเคชัน “มาร์เวล อันลิมิเทท – Marvel Unlimited”
» คินเดิลฟอร์ซัมซุง – Kindle for Samsung รับหนังสือฟรีได้ 1 เล่ม ทุกๆ เดือนจากโครงการซัมซุง บุ๊ก ดีลส์ (Samsung Book Deals) ซึ่งผู้ใช้งานสามารถอ่านหนังสือฟรีดังกล่าวได้จากจากแอพพลิเคชัน คินเดิลฟอร์ซัมซุงและสามารถเลือกซื้อหนังสืออื่นๆ ได้จากคินเดิลสโตร์

» ซัมซุงยังได้ร่วมมือกับกูเกิลเพลย์ ร้านค้าออนไลน์สำหรับสื่อดิจิตอลของกูเกิลที่มีทั้งแอพพลิเคชัน เกม เพลง ภาพยนตร์ หนังสือและนิตยสาร เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับคอนเทนต์เบื้องต้น ซัมซุงกับ กูเกิลเพลย์จึงร่วมกันมอบของขวัญพิเศษให้กับผู้ใช้งานมากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์หรือคอนเทนต์ด้านความบันเทิงต่างๆอั นรวมไปถึงภาพยนตร์ระดับรางวัลอคาเดมี่ อวอร์ดสเรื่อง “กราวิตี้” ของบริษัทวอร์เนอร์บราเธอร์ส, หนังสือหรือนิตยสารจากสำนักพิมพ์ชั้นนำซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกอ่านได้จากวิดเจ็ท “มาย ไลบรารี่” นอกจากนี้ผู้ใช้งานยังสามารถทดลองใช้งานกูเกิลเพลย์ มิวสิก ออล แอกเซส ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานรับฟังเพลงกว่า 22 ล้านเพลงจากคลังเพลงของ กูเกิลได้เป็นเวลา 90 วันได้อีกด้วย

Galaxy Tab S-3
ยิ่งไปกว่านี้ ผู้ใช้งานซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอสในประเทศที่รองรับบริการรับชมภาพยนตร์จากเน็ตฟลิกซ์ (Netflix) จะสามารถรับชมภาพยนตร์ความละเอียดสูงจากแท็บเล็ตรุ่นล่าสุดนี้ได้อีกด้วย

 

ซัมซุง กาแลคซี่ แท็บ เอส จะวางจำหน่าย 2 รุ่น คือ รุ่นไว-ไฟ และรุ่นแอลทีอี ใน 2 ขนาดหน้าจอคือ 10.5 นิ้ว และ 8.4 นิ้ว โดยมีหน่วยความจำ 16 หรือ 32 กิกะไบต์ ผู้ใช้สามารถเพิ่มหน่วยความจำด้วยการ์ดไมโครเอสดี ได้สูงสุด 128 กิกะไบต์ มี 2 สี คือไทเทเนี่ยม บรอนซ์และแดซลิ่ง ไวท์ โดย ซัมซุงกาแลคซี่ แท็บ เอส จะเริ่มวางจำหน่ายในบางท้องตลาดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สามารถเข้าชมได้ที่ www.samsungmobilepress.com

 

* น้ำหนักของอุปกรณ์วัดจากรุ่นไว-ไฟเท่านั้น

 

เปิดตัวแล้ว Samsung Galaxy Tab S 10.5 และ Galaxy Tab S 8.4 แท็บเล็ตตระกูลสลิม

 

tabs-head

 

เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับแท็บเล็ตซีรีส์ใหม่จากซัมซุงในตระกูล Galaxy Tab S เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย โดยงานนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่องาน SAMSUNG GALAXY PREMIERE 2014 ณ เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น มหานครนิวยอร์ค

 

สำหรับ Samsung Galaxy Tab S ตระกูลใหม่นี้ มาพร้อมหน้าจอขนาดใหม่อีกแล้ว โดยมี 2 ขนาดให้เลือกคือ 10.5 นิ้ว และ 8.4 นิ้ว ซึ่งเน้นความบางเบาระดับ Ultra Slim ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อ Tab S นั่นเอง นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ความละเอียดระดับ WQHD (2560 x 1600 พิกเซล) ซึ่งถือว่ามีความละเอียดสูงมากบนหน้าจอแท็บเล็ต และมีความละเอียดของพิกเซลต่อตารางนิ้ว สำหรับรุ่น Galaxy Tab S 10.5 อยู่ที่ 288 ppi ส่วนรุ่น Galaxy Tab S 8.4 อยู่ที่ 359 ppi

img_gallery01w  img_gallery01

img_gallery18 img_gallery18w

 

 

สำหรับการใช้หน้าจอ Super AMOLED ที่ซัมซุงเลือกเป็นจุดเด่นมานานนั้น นอกจากจะเน้นความคอนทรานต์และให้ความอิ่มสีที่สูงแล้ว มันยังมาพร้อมความบางที่เหนือกว่า ซึ่งทำให้ Galaxy Tab s ทั้ง 2 รุ่นมีความบางเพียง 6.6 มม. (แต่แท็บเล็ต Sony Xperia Z2 ยังบางกว่า 0.2 มม. นะครับ) ส่วนน้ำหนักของรุ่น Galaxy Tab s 10.5 รุ่น WiFi หนัก 465 กรัม รุ่น LTE หนัก 467 กรัม และ Galaxy Tab s 8.4 รุ่น WiFi หนัก 294 กรัม รุ่น LTE หนัก 298 กรัม

img_gallery820 img_gallery820w

img_gallery819 img_gallery812w

 

 

ในส่วนของซีพียู ซัมซุงได้มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกันคือ
รุ่น Wi-Fi จะมาพร้อม ซีพียูของซัมซุง Exynos 5 Octa 8 คอร์ โดยภายในจะแบ่งเป็นซีพียู 4 คอร์ 2 ตัว โดยมีความเร็ว 1.3GHz Cortex-A7 และ 1.9GHz Cortex-A15
รุ่น LTE จะมาพร้อม ซีพียูของ Qualcomm Snapdragon 800 ความเร็ว 2.3GHz quad-core Krait 400
โดยทั้ง 2 รุ่นจะให้ Ram มา 3 GB

 

ส่วนกล้องหลังทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED สามารถบันทึกวีดีโอได้ในระดับ Full HD 1080p และกล้องหน้าให้มา 2.1 ล้านพิกเซล สำหรับหน่วยความจำในตัวมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 16 GB กับ 32 GB แต่สามารถเพิ่ม Micro SD ได้สูงสุด 128 GB, แบตเตอรี่ในรุ่นหน้าจอ 10.5 นิ้ว มีความจุ 7,900mAh (ดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 11 ชม.) และรุ่นหน้าจอ 8.4 นิ้ว มีความจุ 4,900mAh (ดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 9 ชม.)

 

คุณสมบัติเด่นของ Galaxy Tab S
-มีเซ็นเซอร์ IR (อินฟราเรด) ในตัว ไว้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ
-มีเซ็นเซอร์ สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home เหมือน Galaxy S5
-บอดี้ด้านหลังเป็นพลาสติกผิวสัมผัสคล้ายหนัง และขอบดีไซน์เป็นเมทัลลิคคล้าย S5
-มาพร้อมอินเทอร์เฟสล่าสุด Samsung’s Magazine UX
-รันบน Android 4.4 Kitkat
-มี 2 สีให้เลือก ขาว, ไทเทเนี่ยมบลอน
-รองรับ Multi Windows
-SideSync 3.0 เชื่อมต่อการใช้งานร่วมกันระหว่าง Tab S กับ Galaxy Smartphone เช่น แสดงผลหน้าจอมือถือบนแท็บเล็ตได้, ก็อปปี้ข้อมูล หรือใช้ Tab S รับสายจากมือถือแทนกันได้
-มีแอพและเกมให้โหลดฟรีๆ มากมาย ใน Galaxy Gifts รวมถึงแอพ Papergarden ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ไว้สำหรับดูแมกกาซีนแบบอินเตอร์แอคทีพโต้ตอบได้ ด้วยภาพที่คมชัดรองรับกับหน้าจอ SuperAMOLED โดยเฉพาะ (บางแอพรองรับในอเมริกาเท่านั้น)

galaxygifts

 

สนนราคา เริ่มที่
$399 เหรียญสหรัฐ รุ่น Galaxy Tab S 8.4 WiFi 16 GB
$499 เหรียญสหรัฐ รุ่น Galaxy Tab S 10.5 WiFi 16 GB

 

สำหรับการวางจำหน่ายในเมืองไทย ตอนนี้บนหน้าเว็บ TruemoveH ได้ขึ้นข้อมูลให้เตรียมพบกับ Galaxy Tab S เร็วๆนี้ แล้ว

AW_TMH_NON_APPLE_MICROSITE_GALAXY_S4_PROMOTION

 

Source : Samsung US

 

วิธีป้องกัน มัลแวร์ ไม่ให้มาล่วงลับตับแตกข้อมูล บน Android ทั้งมือถือและแท็บเล็ต

 

Antimalware_Android_07

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อแล้วล่ะครับว่า ยุคนี้เป็นยุคของสมาร์ทโฟนจริงๆ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตของเราสะดวกและง่ายยิ่งขึ้น อยู่ที่ไหนทำอะไร ก็สามารถแชร์ หรือเช็คข่าวสารต่างๆ ได้ทุกที่ โดยสิ่งที่ขับเคลื่อนความสะดวกทั้งหลายให้อยู่ในมือเดียวนั้น ก็คือระบบปฏิบัติการนั่นเอง

 

และ Android ก็เป็นอีกหนึ่งระบบปฏิบัติการสำหรับสมาร์ทโฟน รวมถึงแท็บเล็ต ที่ได้รับความนิยมมากเป็นอันดับ 1 ของโลกเลยก็ว่าได้ ดังนั้นด้วยเหตุนี้จึงไม่แปลกที่จะมีไวรัส หรือมัลแวร์ต่างๆ คอยโจมตี เช่นเดียวกับระบบปฏิบัติการ Windows บนคอมพิวเตอร์พีซี

 

ในวันนี้เราจะมาพูดถึงเฉพาะตัว มัลแวร์ (Malware) บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ที่มีการระบาดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยความน่ากลัวของมันคือการเข้ามาสอดส่อง ล่วงลับตับแตก ข้อมูลที่อยู่บนสมาร์ทโฟนของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบนสมาร์ทโฟนของทุกคน มักจะเก็บข้อมูลสำคัญเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็น เลขบัญชีธนาคาร, อีเมล์ หรือ แอพที่เกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน ซึ่งผู้ใช้ Android จะมีวิธีการป้องกันอย่างไรนั้น เราจะมาไล่เรียงให้ดูกันเป็นข้อๆ ดังนี้ครับ

 

ดาวน์โหลดแอพจากแหล่งที่เชื่อถือได้

Antimalware_Android_01
อันดับแรกเลยคือการดาวน์โหลดแอพจากแหล่งที่มาที่เชื่อถือได้ ซึ่งก็คือ Google Play Store นั่นเอง หรือสำหรับคนที่ใช้อุปกรณ์ของ Amazon ก็โหลดจาก Amazon Appstore ซึ่งปกติ Google ก็จะมีการตรวจสอบแหล่งที่มาของแอพ และผู้ใช้ก็สามารถดูรายละเอียดของนักพัฒนาที่ผลิตแอพพลิเคชั่นเหล่านั้นได้ด้วย หากมีแอพไหนที่เป็นอันตรายก็จะมีการถอดออกจากสโตร์ทันที

 

ป้องกันการติดตั้งแอพเถื่อน

Antimalware_Android_02

หากคุณไม่ใช้ผู้ใช้งานระดับขั้นเทพ ขอแนะนำให้ปิดการติดตั้งแอพจากแหล่งที่มาอื่นๆ นอกเหนือจาก Play Store เอาไว้ โดยไปที่ การตั้งค่า>ระบบ>ระบบป้องกัน แล้วเอาตัวเลือกออกจากหัวข้อ แหล่งที่ไม่รู้จัก (Unknown Sources) ซึ่งหากคุณเผลอไปติดตั้งแอพจากสโตร์อื่นๆ จะมีการแจ้งเตือนก่อนการติดตั้ง เพื่อให้เราระมัดระวังว่าอาจจะมีมัลแวร์ติดมากับแอพดังกล่าวได้

 

อ่านรีวิวก่อนโหลด

Antimalware_Android_03
ข้อนี้ถือเป็นการป้องกันได้ง่ายที่สุด เพราะก่อนติดตั้งแอพ เราสามารถอ่านรีวิวจากผู้ใช้งาน ว่าแอพดังกล่าวดี ไม่ดี หรือมีปัญหากับการใช้งานอะไรมาก่อนรึเปล่า โดยจะต้องสุ่มอ่านสัก 2-3 คอนเม้นต์ ดูว่ามีคนวิจารณ์ไปในแนวทางไหน และอีกอย่างที่ต้องสังเกตคือจำนวนเรทติ้ง แนะนำว่าไม่ควรต่ำกว่า 3 ดาว ถึงจะดูน่าเชื่อถือ เพื่อเป็นการคัดกรองแอพที่ไม่มีคุณภาพ ซึ่งอาจมีความเสี่ยงสูงในการติดมัลแวร์

 

ดูชื่อผู้ผลิตแอพ

Antimalware_Android_04
นอกจากการดูเรทติ้งหรือรีวิวแล้ว สิ่งที่ต้องคำนึงถึงอีกอย่างก็คือชื่อผู้ผลิตแอพหรือชื่อบริษัทเจ้าของแอพนั้นๆ จะต้องสามารถเข้าถึงและตรวจสอบข้อมูลได้ เช่นคลิกไปดูเว็บไซต์ หรือมีเบอร์ติดต่อ อีเมล์ ไว้ชัดเจน หรือกรณีที่เป็นแอพขององค์กรต่างๆ เช่น ธนาคาร ก็จะต้องเป็นชื่อเดียวกับบริษัทนั้นๆ ไม่ใช่เป็นชื่อบริษัทอะไรที่ไม่คุ้นเคย เหมือนที่เคยเกิดการปลอมแปลงแอพของธนาคารต่างๆ มาแล้วก่อนหน้านี้

 

อ่านข้อตกลงก่อนแตะยอมรับทุกครั้ง

Antimalware_Android_06
วิธีนี้ดูเหมือนหลายคนมักจะไม่ค่อยสนใจและมองข้ามไป ด้วยความขี้เกียจอ่าน แต่หารู้ไม่ว่ามันสำคัญมากที่คุณจะเช็คได้ว่าแอพนี้ปลอดภัยแค่ไหน ทุกครั้งหลังจากแตะดาวน์โหลดแอพเพื่อติดตั้ง จะมีรายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ ขึ้นมาให้เราแตะ Accept หรือ ยอมรับ เงื่อนไขนั้น วิธีการสังเกตคือดูว่าเงื่อนไขดังกล่าวจะต้องสอดคล้องกับการใช้งานของแอพ เช่น หากติดตั้งแอพเกม Puzzle แต่ให้เราอนุญาตการเข้าถึงรายชื่อใน Contacts หรือแอพโทรศัพท์ Phone ได้ ก็คงจะไม่น่าไว้วางใจแล้วล่ะครับ หรือแอพไฟฉายที่ต้องการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเวลาใช้งาน อะไรอย่างนี้เป็นต้น ถ้าพบเงื่อนไขประหลาดๆ แบบนี้ก็อย่าได้แตะปุ่มยอมรับเป็นอันขาด

 

อย่าคลิกลิงค์จากข้อความหรืออีเมล์แปลกๆ

หากมีข้อความ SMS หรือ อีเมล์ที่ส่งลิงค์แปลกๆ เกี่ยวกับโฆษณา โดยเฉพาะเรื่องเซ็ก ที่เป็นตัวล่ออย่างดีให้เราเข้าไปติดกับ เพราะหากเราคลิกเข้าสู่ลิงค์จากแหล่งที่มาเหล่านั้น อาจจะทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดี แอบลักลอบเข้าระบบผ่านทางเว็บเบราเซอร์ได้ ซึ่งเสี่ยงต่อการโจรกรรมรหัสสำคัญเวลาเราทำธุรกรรมผ่านเว็บได้

 

เครื่องรูทเสี่ยงสุดๆ

cyanogenmod-10.1-jellybean
หากคุณเป็นผู้ใช้งานระดับขั้นเทพแล้วล่ะก็ การรูทเครื่อง หรือการติดตั้งรอมเถื่อนนั้น จะยิ่งเป็นการเปิดช่องให้กับผู้ไม่ประสงค์ดี เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของคุณได้ เพราะโดยส่วนใหญ่การรูทเครื่องก็เพื่อให้สามารถติดตั้งแอพเถื่อนต่างๆ จากแหล่งที่ไม่มีที่มานั่นเอง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงอยู่แล้ว ดังนั้นหากติดมัลแวร์ขึ้นมา ก็ก้มหน้ารับกรรมกันไป

 

ติดตั้งแอพ Anti Virus

Antimalware_Android_05
เพื่อความปลอดภัยขั้นสูงสุด ควรติดตั้งแอพ Anti Virus เอาไว้ประจำเครื่องของคุณ ซึ่งมีหลายเจ้าที่ให้คุณได้ลองดาวน์โหลดไปใช้งาน ทั้งแบบฟรีและเสียเงิน เช่น
• Avast! Mobile Security ดาวน์โหลด

• ESET Mobile Security ดาวน์โหลด

• Lookout Security & Antivirus ดาวน์โหลด

• Kaspersky Mobile Security ดาวน์โหลด

 

และนี่ก็เป็นวิธีที่สามารถป้องกันมัลแวร์ไม่ให้ข้อมูลบนมือถือของเราถูกผู้ไม่ประสงค์ดีโจรกรรมไป ซึ่งหากผู้อ่านท่านใด มีวิธีจัดการเพิ่มเติมได้มากกว่านี้ ก็แชร์ไอเดียที่คอมเม้นต์ใต้บทความนี้กันมาได้นะครับ ที่สำคัญหากเห็นว่าบทความนี้เป็นประโยชน์ ก็ช่วยๆ กันแชร์ให้กับเพื่อนๆ ได้ป้องกันตัวเองกันไว้นะครับ

 

เปิดตัว Asus FonePad 7 รุ่นราคาประหยัด แค่ 4 พัน กว่าๆ ก็เอาอยู่

 

fonepad-7

 

Asus เปิดตัวแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว รุ่นใหม่ โดยจับ Asus FonePad 7 มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง ให้มีราคาถูกลงและยังคงใช้ชื่อเดิม แต่รหัสรุ่นเปลี่ยนเป็น FE170CG สำหรับสิ่งที่เป็นจุดเด่นเพิ่มขึ้นมาคือ ดีไซน์ที่บางกว่าเดิม และราคาที่น่าสนใจประมาณ $137 เหรียญ หรือ 4 พันกว่าบาท โดยเปิดตัวที่แรกในประเทศฟิลิปปินส์

 

แน่นอนว่าการที่ทำให้เครื่องถูกลงนั้น ก็จะต้องแลกกับสเปกที่ถูกลดลงไปด้วย โดยหน้าจอจากเดิมที่เป็นระดับ WXGA กลายเป็น WSVGA, ส่วนหน่วยความจำในตัวเครื่องจากเดิม 8 GB ก็เหลือแค่ 4 GB และกล้องจากเดิมก็ไม่ได้มากอยู่แล้ว 5 พิกเซล เหลือเพียง 2 ล้านพิกเซล

 

สำหรับซีพียูมาพร้อม Intel Atom Z2560 1.6GHz, หน้าจอ 7 นิ้ว, แรม 1 GB, แบตเตอรี่ 3,950 mAh รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 Jelly Bean

 

Source : geeky-gadgets