One Fast Cat กงล้อสวรรค์ ฟิตหุ่นให้ทูนหัวของบ่าว ระดมทุน เพียง 7 ชม. แรก ก็ทะลุ 10,000 เหรียญสหรัฐ

 

Cat-exercise-wheel
มีโปรเจ็คใหม่มาให้ร่วมระดมทุนกันอีกแล้ว กับเว็บไซต์ Kickstarter ภายใต้โปรเจ็คที่ชื่อว่า One Fast Cat โดยโปรเจ็คนี้เอาใจคนรักแมวโดยเฉพาะ ใครที่ตกเป็นทาสทูนหัวของบ่าว เชื่อว่ามันจะให้น้องเหมืยวของคุณได้เล่นสนุกกันทั้งวันอย่างแน่นอน

 

 

One Fast Cat เป็น Exercise Wheel หรือกงล้อ สวรรค์ ที่จะช่วยให้น้องแมวของเราได้วิ่งอยู่กับที่อย่างสนุกสนาน เหมือนกับวิ่งอยู่บนลู่วิ่งฟิตเนสไรงี้ ซึ่งจะทำให้น้องแมวได้ออกกำลังกาย จะได้มีสุขภาพแข็งแรง ยิ่งใครที่เลี้ยงอยู่ในคอนโดตามเมืองใหญ่ คงไม่มีพื้นที่ให้น้องแมวได้วิ่งสักเท่าไร ที่สำคัญมันสามารถประกอบง่ายด้วยตัวเอง น้ำหนักเบา ล้างทำความสะอาดได้สะดวก และแห้งไวภายในไม่กี่นาที

 

ด้วยเหตุนี้ โปรเจ็คดังกล่าวถึงได้รับการระดมทุนจากผู้สนใจเป็นอย่างมาก เพราะเพียงแค่เปิดรับระดมทุนไปแค่ 7 ชั่วโมง ก็ได้ยอดครบ $10,000 เหรียญสหรัฐ ไปเรียบร้อยแล้ว และจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังมีเงินช่วยสนับสนุนเข้ามาแล้วกว่า $276,xxx เหรียญสหรัฐ แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่ามีสาวกทูนหัวของบ่าวเป็นจำนวนมากอยู่บนโลกใบนี้

 

One Fast Cat เปิดให้ร่วมระดมทุนเพียง ชุดละ $199 เหรียญ หรือประมาณ 6,300 กว่าบาท ถามยังส่งฟรีให้ถึงบ้านอีกด้วย น่าเสียดายที่ยังไม่มีบริการส่งนอกประเทศสหรัฐอเมริกา ไม่งั้นนะ ทูนหัวของบ่าว ในไทยคงจัดเต็มช่วยระดมทุนให้ทะลุเป้าไปมากกว่านี้เป็นแน่

 

นอกจากนี้ยังมี Accessory ที่เป็น Traction Pad ซึ่งเป็นแผ่นลู่วิ่งสีต่างๆ มีให้เลือก 3 สี ฟ้า, เขียว, แดง ไว้ให้ตกแต่งบน On Fast Cat ได้อีกด้วย ซึ่งก็มียอดสนับสนุน ทะลุเป้าไปแล้วเช่นเดียวกัน

 

tractionpad

 

 

สำหรับโปรเจ็คนี้ยังเปิดรับระดมทุนจนถึงวันที่ 8 สิงหาคมนี้ เท่านั้น ใครที่มีเพื่อนอยู่อเมริกา ก็ฝากจองให้หิ้วกลับมากันได้นะครับ

 

Source : Kickstarter

 

 

 

สตาร์ทอัพหน้าใหม่ สนใจร่วมโครงการ dtac Accelerate อย่างล้นหลาม

 

Information session_Photo

 

หลังจากการเปิดตัว dtac Accelerate ในปีที่สองอย่างยิ่งใหญ่ไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้ ดีแทคได้ตอกย้ำความพิเศษของปีนี้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดงาน dtac Accelerate 2.0 : Information Session ให้กับสตาร์ทอัพผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้สอบถามข้อมูลเชิงลึก โดยมีนายกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ผู้อำนวยการโครงการ ได้มาตอบคำถามและแนะนำการเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางการเป็นสตาร์ทอัพด้วยอนาคตที่สดใสกับดีแทค งานนี้ได้รับความสนใจในการส่งใบสมัครอย่างคึกคักกว่า 100 คน มีทั้งสตาร์ทอัพเยาวชนอายุน้อยสุดเพียง 13 ปีที่พกไอเดียสุดเจ๋ง เตรียมมาเข้าโครงการในกลุ่ม Incubation Track ที่พร้อมเข้าร่วมอบรมตลอดโครงการ และสตาร์ทอัพมืออาชีพในกลุ่ม Acceleration Track ที่มีผลงานและเริ่มมีโมเดลทางธุรกิจที่ชัดเจน แต่ต้องการให้ดีแทคพัฒนาและผลักดันให้ผลิตภัณฑ์เติบโตมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งดีแทคได้เตรียมทีมการตลาด ที่พร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และทำตลาดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างแท้จริง รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง
 
ผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้ามาได้ตั้งแต่วันนี้ – 16 เมษายน 2557 โดยสามารถนำเสนอแนวคิด แผนการดำเนินงาน วิธีการใช้งาน การสร้างรายได้ กลุ่มเป้าหมาย ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ หรือเข้ามาดูรายละเอียดและกรอกใบสมัครได้ที่ www.dtac.co.th/accelerate
 
• วันที่ 17 – 20 เมษายน 2557 จะมีการคัดเลือกผลงาน 15 ทีมแรก
• วันที่ 22 เมษายน นำเสนอผลงานในรอบแรก (Pitch day) เลือก 5 ทีมสุดท้าย
• วันที่ 28 เมษายน ปฐมนิเทศ (Orientation)
• ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม เริ่มคอร์สอบรม intensive boot camp
• เดือนสิงหาคม นำเสนอผลงานรอบสุดท้าย และประกาศผลในวัน Demo day

 

ดีแทคและเทเลนอร์กรุ๊ปเปิดตัว dtac Accelerate ลงทุนตั้งบริษัทสร้างสตาร์ทอัพ เพื่อสร้างโอกาสในการหานวัตกรรมทางธุรกิจใหม่

dtac-startup

 

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดตัวโครงการ ดีแทค แอ็คเซอลอเรท (dtac Accelerate) ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท จัดตั้งบริษัทลงทุนให้กลุ่มสตาร์ทอัพ ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Corporate Strategy and Business Innovation โดยในงานได้ประกาศแต่งตั้ง นายแอนดรูว์ ควอลเสท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Corporate Strategy and Business Innovation เป็นผู้บริหารโครงการนี้ และทำภารกิจหลักในการช่วยขับเคลื่อนธุรกิจทางด้าน digital Services ในการสร้างความแตกต่างให้กับดีแทคในตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการใช้ข้อมูลจาก Mobile Internet รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง

 

ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดโครงการ dtac Accelerate สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ http://bit.ly/NUv8iR เพื่อเข้าฟัง dtac Accelerate 2.0 : Information Session โดยทุกคำถามจะมีคำตอบในวันอังคารที่ 18 มีนาคม 2557 อาคารดีแทค เฮ้าส์ จามจุรีสแควร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป โครงการเปิดรับสมัครผลงานตั้งแต่วันนี้ – 16 เมษายน 2557 สำหรับผู้ที่สนใจร่วมโครงการสามารถส่งผลงานนำเสนอแนวคิด แผนการดำเนินงาน วิธีการใช้งาน การสร้างรายได้ กลุ่มเป้าหมาย ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ หรือเข้ามาดูรายละเอียดและกรอกใบสมัครได้ที่ www.dtac.co.th/accelerate โดยจะมีการคัดเลือกผลงาน 15 ทีมแรก ในวันที่ 17 – 20 เมษายน 2557 หลังจากนั้นจัดนำเสนอผลงานในรอบแรก (Pitch day) 5 ทีมสุดท้ายในวันที่ 22 เมษายน เริ่มปัจฉิมนิเทศ (Orientation) วันที่ 28 เมษายน เริ่มคอร์สอบรม intensive boot camp ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม และนำเสนอผลงานรอบสุดท้ายประกาศผลในวัน Demo day ในเดือนสิงหาคมนี้

 

Buzzebees แอพโซเซียล พรีวิเลจ เพลตฟอร์ม ต้นแบบความสำเร็จของบริษัท Start up ที่หันมาเลือกใช้ คลาวด์ เซอร์วิสจาก Windows Azure

Microsoft Thailand and Buzzebees

วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ได้รับข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเรื่องของ Cloud Service ซึ่งทางไมโครซอฟต์ประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวกลุ่มย่อยให้กับสื่อมวลชนได้รู้จักกับ Windows Azure มากยิ่งขึ้น ซึ่งในงานนี้ก็ได้นางเอกจาก Buzzebees (บัซซี่บีส์) แอพพลิเคชั่นสะสมแต้มแลกของรางวัลจากการคลิกไลค์บน Facebook ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วที่มีผู้ใช้งานกว่า 2 ล้านคน ภายในเวลา 1 ปี ที่นำทีมโดยคุณณัฐธิดา สงวนศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด มาแชร์ประสบการณ์ถึงเส้นทางความสำเร็จในครั้งนี้อีกด้วย

 

Buzzebees คืออะไร?
จากที่เกริ่นไว้แล้ว ว่าแอพ Buzzebees คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับแอพตัวนี้ให้มากขึ้นอีกนิด โดยเจ้าแอพตัวนี้เป็นการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดีย รอยัลตี้โปรแกรม และอีคอมเมิร์ช เข้าด้วยกัน ด้วยแนวคิดที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ Facebook ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้เข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านแอพ Buzzebees ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ แชร์ข้อความ รูปภาพ กด Like หรือแสดงความคิดเห็น รวมถึงการชวนเพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยผู้ใช้จะได้รับคะแนนเป็นการตอบแทน หลังจากนั้นจะสามารถนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า หรือใช้บริการ รวมถึงลุ้นรับของรางวัลได้ฟรีจากธุรกิจที่เข้าร่วม โดยรองรับทั้ง Android และ iOS หรือจะเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ www.buzzebees.com ก็ได้ ส่วนแอพบน Windows Phone จะเปิดให้บริการประมาณ ต้นปีหน้า

buzzebees

นอกจากที่จะทำแอพของตัวเองด้วยแล้ว Buzzebees ยังได้รับทำแอพให้กับองค์กรต่างๆ อีกด้วย โดยใช้แพลตฟอร์มของแอพตัวเองเป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็น AIS Privilege, Samsung Galaxy Gift, Galaxy Social Plus, Kimheng Gold และล่าสุดอย่าง SingTel จากสิงคโปร์ก็หันมาใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเพิ่มมูลค่าให้บริการของธุรกิจตัวเองอีกด้วย

 

เส้นทางสู่ความสำเร็จ

Nattida Sanguansin - Buzzebees. Co. Ltd.
คุณณัฐธิดา เล่าให้ฟังว่า จากที่เริ่มทำแอพ Buzzebees ที่เป็นแพลตฟอร์มต้นแบบของโซเีชียล พริวิเลจ เราได้ตั้งเป้าหมายแต่แรกว่าจะต้องก้าวไปยังต่างประเทศให้ได้ ดังนั้นจึงต้องหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกให้ได้ โดยเราได้ลองเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นนี้ให้กับทาง Samsung ซึ่งถือเป็นจังหวะที่พอดีมากที่ทางซัมซุงกำลังอยากทำแคมเปญมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าพอดี เราจึงได้มีโอกาสร่วมงานกับทางซัมซุงโดยรับทำแอพ Samsung Galaxy Gift ที่มีแคมเปญให้ลูกค้าซัมซุงจองตัวคู่กรรมผ่านแอพได้ฟรี ทำให้ขณะนั้นมีคนจองตั๋วเข้ามากว่า 20,000 คน ภายใน 1 วินาที ซึ่งถือว่ามี Hit Rate ที่สูงมาก ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จมากๆ เลยทีเดียว

 

ซึ่งการจะทำให้ระบบรองรับการใช้งานสูงๆ ในเวลาเดียวกันได้นั้นจะต้องมีระบบที่มีเสถียรภาพมาก โดยเราเลือกใช้ระบบ Cloud Service ของ Microsoft Windows Azure ซึ่งช่วยในการประหยัดต้นทุนโดยที่จะไม่ต้องลงทุนระบบ Server หรือโครงสร้างพื้นฐา่นด้านไอทีเองทั้งหมด ซึ่งถือเป็นทางออกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ Start Up ต่างๆ ที่กำลังเติบโตอยู่ในขณะนี้

 

หากถามว่าทำไมถึงเลือกใช้บริการคลาวด์เซอร์วิสจาก Windows Azure ต้องบอกว่าเรามองถึงการขยายตลาดในต่างประเทศเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงเหลือผู้ให้บริการเพียง 2 เจ้า คือ Microsoft Windows Azure และ Amazon Web Service ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบความต้องการทางเทคนิคที่เหมือนกัน ปริมาณโหลดเท่ากัน และความง่ายในการใช้งาน Windows Azure นั้นใช้งานได้ง่ายกว่า ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญ การเลือกเป็นไลเซ่นส์ Enterprise Agreement (EA) นั้นมีความคุ้มค่ามาก ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ตัดสินใจได้ทันที

 

อนาคตจะเป็นอย่างไร?
Buzzebees ยังมีแผนที่จะขยายไปยังกลุ่มผู้ใช้ในโซเชียลมีเดียแำพลตฟอร์มอื่นๆ และการเติบโตของตลาดภายในประเทศ ทั้งจำนวนสมาชิก จำนวนธุรกิจที่จะใช้บริการ Privilege CRM Application และจำนวนธุรกิจที่จะเข้ามาร่วมในส่วน E-Commerce ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมากจากตลาดต่างประเทศ

 

นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดเป็นแอพ adBuzz เืพื่อนำยอดสมาชิกกว่า 2 ล้านคน มาต่อยอดทางธุรกิจ โดยเฉพาะในวงการสื่อและโฆษณา ซึ่งประยุกต์หลักการคล้ายๆ กัน คือสมาชิกที่ชมโฆษณา จะได้คะแนนสะสมเพื่อแลกของรางงวัล หรือรับสินค้าตัวอย่าง ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้ว

 

สรุปข้อมูลที่น่าสนใจของ Windows Azure ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2553

 

• ในแต่ละวัน มีลูกค้ากว่า 1,000 ราย ลงทะเบียนใช้งาน Windows Azure
• ปัจจุบัน มีลูกค้ากว่า 200,000 ราย ใช้ Windows Azure
• สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก Windows Azure (ซึ่งรวม IaaS บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure as a Service) และ PaaS (บริการด้านแพลตฟอร์ม Platform as a Service) เติบโตถึง 3 เท่า ซึ่งเร็วกว่าอัตราการเติบโตของตลาดโดยรวม
• ไอดีซี ได้คาดการณ์ตัวเลขการใช้บริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในปี 2556 ไว้ที่ 5,300 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2560
• คาดว่าธุรกิจ IaaS (Infrastructure as a service) และ PaaS (Platform as a service) จะเติบโต 25 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2560 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น)
• สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันมีลูกค้าที่หันมาใช้บริการ Windows Azure แล้ว 800 ราย โดยมีรายได้เติบโตสูงถึง 400 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ธุรกิจในประเทศไทยที่ใช้ Windows Azure อาทิ
บริษัท อุ๊คบี จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจสิ่งพิมพ์ดิจิตอลบนโปรแกรมที่ชื่อ อุ๊คบี (Ookbee) บนระบบคลาวด์ วินโดว์ อาชัวร์ จนเติบโตเป็นร้าน E-bookstore ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท Semantic Touch ผู้ให้บริการด้านเครื่องมือการทำตลาดด้าน อี-คอมเมิร์ซ บนโซเชียล เน๊ตเวิร์ค อย่าง เฟซบุ๊ค ที่ชื่อ BentoWeb
บริษัท Computerlogy สตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการ Social Media Management Tool ซึ่งเป็นบริษัทรายแรกและรายเดียวในเมืองไทยที่เป็น Facebook Preferred Marketing Developer ปัจจุบัน Computerlogy ได้ประกาศเข้าร่วมทุนและได้รับการสนับสนุน จากโครงการ InVent ของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTOUCH อย่างเป็นทางการในวงเงิน 29 ล้านบาท
บริษัท บิลค์ ดอทคอม (Builk.com) ดำเนินธุรกิจให้บริการระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) บนเว็บเบสที่ใช้งานง่าย สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยถึงขนาดกลาง เพื่อให้ลูกค้าใช้งานแอ็พพลิเคชั่นของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วและเข้าใจง่าย
บริษัท Ecartstudio จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้คำปรึกษาทางด้านระบบ Web-Based Application และระบบ Enterprise Location-Based Application แบบครบวงจร
เว็บไซต์ Thaicreate.com ชุมชนออนไลน์ของนักพัฒนาแอพลิเคชั่นที่ใหญ่ที่สุดในไทย

ดีแทคจับมือ Founder Institute ผู้สร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพระดับโลก ร่วมปั้นฝันผู้ประกอบการมืออาชีพหน้าใหม่ ครั้งแรกในเมืองไทย สู่ธุรกิจยุคดิจิตอล

IMG_1415
 
ดีแทค ร่วมกับ Founder Institute ผู้รังสรรค์เครือข่ายของสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จในการก่อตั้งบริษัท มาแล้วใน 42 เมืองทั่วโลก
จัดคอร์สการเรียนรู้สู่การเป็นสตาร์ทอัพอย่างมืออาชีพ เพื่อเดินหน้าสานต่อเส้นทางของการก้าวสู่บริษัทผู้นำทางด้าน โมบายล์ อินเทอร์เน็ต ตอกย้ำวิสัยทัศน์ เอ็มพาวเวอร์ โซไซตี้ (Empower Society) ที่ดีแทคช่วยผลักดันให้เกิดสังคมของการสื่อสารด้วยระบบดิจิตอล ช่วยให้สังคมโดยรวมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคต โดยดีแทคมุ่งมั่นที่จะสร้าง โครงข่ายพื้นฐานที่สำคัญ บริการและสินค้าใหม่ๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้น ไปพร้อมๆกับกลยุทธ์ Internet For All สร้างโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทยอย่างเท่าเทียมกัน ทุกพื้นที่ทั่วไทย
 
ข้อมูลจาก Nielsen ระบุว่า ศักยภาพของไทยตอนนี้มีสูงกว่าอินโดนิเซียทั้ง 2 ด้านอย่างชัดเจน โดยเฉพาะด้านธุรกิจบนโมบายล์ 80% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทยเป็นคนซื้อของบนโลกออนไลน์ด้วย และคาดว่าจะมีรายได้ที่เกิดขึ้นบนโลก e-commerce ในสิ้นปี 2555 นี้กว่า 73,000 ล้านบาท หรือเทียบได้เป็น 5% ของรายได้ทั้งหมดในประเทศ มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทยกว่า 24 ล้านคน และ 19 ล้านคนเป็นผู้ใช้งานบนโมบายล์

 

สตาร์ทอัพที่เป็นคนไทยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Builk ที่ชนะงาน Echelon 2012 ประเทศไทยคือตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยปริมาณประชากรประมาณ 70 ล้านคน อัตราการครอบครองแท็บเล็ตจากปี 2011 จนถึงปัจจุบันสูงขึ้น 300%
นอกจากนี้ ADMA ยังระบุอีกว่า 75% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทย อายุอยู่ระหว่าง 15-19 ปี นั่นหมายถึงมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นได้อีกมาก นักพัฒนาของไทยเริ่มเป็นที่รู้จัก และสร้างชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวทีระดับโลก

 

นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ดีแทคมีความมุ่งมั่น ที่จะส่งเสริมธุรกิจมือถือเข้าสู่โมบายอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่น ที่ช่วยสร้าง mobile internet ecosystem ให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบในไทย โดยที่ผ่านมาได้คว้าเอาพันธมิตรผู้นำสำคัญๆทางด้าน อินเทอร์เนต โซเชียลเน็ตเวิร์ค บริษัทและสถาบันที่เกี่ยวกับสตาร์ทอัพระดับโลกจากซิลิคอนวัลเล่ย์ เข้ามาร่วมจัดกิจกรรมสำคัญๆ หลายโครงการ เช่น dtac Accelerate การจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปกับสตาร์ทอัพระดับโลก เพื่อเป็นเวทีให้กับนักพัฒนาคนไทยรุ่นใหม่ ได้แจ้งเกิดในเส้นทาง การเป็นนักพัฒนา และผู้ประกอบการทางด้านเทคโนโลยี ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ และประสบความสำเร็จสร้างอาชีพใหม่ได้อย่างอย่างยั่งยืน
และวันนี้ก็นับเป็นก้าวที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งของดีแทคที่ได้ประกาศความร่วมมือเป็น strategic partner กับ Founder Institute หรือ FI ผู้รังสรรค์เครือข่ายของสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ระดับโลก ที่มีผลการดำเนินงานที่การันตีความโดดเด่นซึ่งสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาสู่วงการแล้วมากกว่า 550 คน มีถึง 41% ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนในเวลาเพียง 6 เดือน ความร่วมมือกับ FI ในครั้งนี้ดีแทคตั้งเป้าหมายว่า จะเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยได้เรียนรู้เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

 

เบญจามิน แรงค์ ผู้อำนวยการ Founder Institute กล่าวว่า “ Founder Institute หรือ FI เป็นผู้ก่อตั้งเครือข่ายของสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยทีมที่ปรึกษามืออาชีพ ที่ร่วมสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายซิลิคอน วัลเล่ย์ ศูนย์กลางของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ไปสู่เมืองต่างๆทั่วโลก จากการก่อตั้ง มาเป็นเวลา 4 ปี FI ประสบความสำเร็จในการผลักดัน 1,000 บริษัทใน 42 เมืองทั่วโลก ให้เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ยั่งยืนและมั่นคง ปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมจาก FI มากกว่า 550 คน จาก 22 เมืองทั่วโลก มีทีมที่ปรึกษามากกว่า 800 คน มีพันธมิตรมากกว่า 75 ราย

 

ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ FI ได้มาจัดอบรมให้กับเหล่าสตาร์ทอัพที่กรุงเทพ เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพและความพร้อมของคนไทย ที่มีความตื่นตัวและตอบรับเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ๆอย่างกว้างขวาง จากการเปิดให้บริการ 3G การเติบโตของการใช้งานดาต้า และสมาร์ทโฟน ล้วนเป็นปัจจัยที่ผลักดัน ให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันตลอดเวลา ประกอบกับบรรยากาศการส่งเสริมและการสร้างโอกาสใหม่ๆของ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ที่ร่วมสร้าง อินเทอร์เน็ต อีโคซิสเต็ม ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นทำธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างมืออาชีพ สามารถลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://fi.co/courses/3723

 

IMG_1474

 

สัมภาษณ์ 3 ทีม นักพัฒนาไทย ที่ชนะเลิศจากโครงการ dtac Accelerate – Wizard of Apps

dtac-accelerate-05

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา OopsMobile ได้มีโอกาสร่วมงาน Demo Day ซึ่งเป็นงานที่รวม 10 ทีมสุดท้าย จากโครงการ dtac Accelerate ซึ่งเป็นงานประกวดผลงานโมบายแอพพลิเคชั่น ในธีม Wizard of Apps เพื่อเฟ้นหานักพัฒนาแอพที่จะได้เป็นสุดยอดทีมในการก้าวสู่ ซิลิคอนแวลลีย์ ศูนย์กลางธุรกิจไฮเทคที่รู้จักกันทั่วโลก โดยงานนี้ ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ในการจัดโครงการนี้

โดยในรอบ 10 ทีมสุดท้าย จะให้แต่ละทีมขึ้นมานำเสนอผลงานว่ามีจุดเด่นของแอพอย่างไร มีกลยุทธ์ในการทำตลาดอย่างไร แล้วอะไรคือกุญแจความสำเร็จของแอพที่ตัวเองสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยให้เวลาทีมละ 10 นาที และทุกทีมต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการ 5 ท่าน เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ โดยช่วงท้ายคณะกรรมการจะมีเวลา 5 นาที ในการซักถามเพิ่มเติม งานนี้แต่ละทีมก็ได้สุ่มฟิตซ้อมกันมาอย่างดี และนำเสนอได้อย่างราบรื่น อาจจะมีบางทีมที่ตื่นเต้นแต่ก็ถือว่าทำกันได้ดี ลองไปดูภาพบรรยากาศของการนำเสนอกัน

dtac-accelerate-01
โฉมหน้าคณะกรรมการทั้ง 5 ท่าน

 

รายชื่อกรรมการมีดังนี้ เรียงจากขวาไปซ้าย

??Benjamin Ranck, CTO แห่ง Jetabroad บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสำรองตั๋วเครื่องบิน และการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในอนาคต

??Matt Walters, Principal จาก Ardent Capital? ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsNew และ Topicmarks มีความเชี่ยวชาญด้าน Rapid Scaling และการร่วมทุน

??ชวภาส องค์มหัทมงคล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร PrimeStreet Advisory บริษัทที่ปรึกษาด้านการร่วมทุน อาจารย์พิเศษ และที่ปรึกษาให้กับองค์กรธุรกิจและการศึกษาหลายแห่ง

??Stephanie Palmeri, Principal จาก SoftTech VC ที่ลงทุนในบริษัท Startup กว่า 15,000 ล้านบาท มืิอขวาของ Jeff Clavier หนึ่งในบุคคลที่อายุน้อยกว่า 30 ปี ที่มีอิทธิพลที่สุดของโลก คู่กับ Mark Zuckerberg แห่ง Facebook

??ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย Business Support System ดีแทค

 

dtac-accelerate-03
แต่ละทีมนำเสนอได้แบบมืออาชีพ

 

dtac-accelerate-02

 

dtac-accelerate-04
ทีม Story Log กรรมการบอกเลยว่านำเสนอได้ฮามาก

ได้เวลาประกาศผล

และหลังจากที่ทุกทีมได้ผ่านการนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการจนครบหมดแล้ว มาถึงช่วงเวลาลุ้นระทึกว่าทีมใดที่จะได้ไปซิลิคอนแวลลี่ย์ และทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ (ที่ 1) ก็ืคือ….

ทีม Fastinflow ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่จะทำให้นักการตลาด สามารถหาผลสำรวจความต้องการของลูกค้าได้ในเวลา 5 นาที

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 (ที่ 2) ได้แก่ ทีม Haamor ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน จากแพทย์ชั้นนำ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 (ที่3) ได้แก่ ทีม DietParty ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก ไปพร้อมกับเพื่อนๆ

เอาล่ะครับเราขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศทั้ง 3 ทีม ด้วยนะครับ ฉะนั้นทีม Fastinflow จะได้เข้าร่วมโปรแกรม Blackbox Connect ที่ซิลิคอน แวลลี่ย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเข้าคอร์สติวเข้ม เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลก จากผู้บริหารและนักธุรกิจชั้นนำของซิลิคอน แวลลี่ย์ ภายใต้แนวคิด “Half-a-year Silicon Valley experience condensed in a two-week immersion progran”

ส่วนทีมที่ผ่านเ้ข้ารอบโครงการ dtac Accelerate ก็จะได้รับการสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์จากดีแทคต่อไป เรียกว่าก็ไม่ได้ทอดทิ้งทีมที่เหลือ ซึ่งถือเป็นการดีที่ช่วยส่งเสริมให้นักพัฒนาแอพไทยได้มีโอกาสสร้า้งสรรค์ผลงานต่อยอดได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

Resize of IMG_4063

ทำความรู้จักกับแต่ละทีม

เอาล่ะครับ ถึงเวลาที่เรามาทำความรู้จักกับแต่ละทีมที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ โดยเรามีคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ความรู้สึกของแต่ละทีมมาให้ดูกันด้วยครับ

Fastinflow

เป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถสำรวจความต้องการจากลูกค้าได้อย่างรวดเร็วภายใน 5 นาที โดยแบ่งผู้่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งแรกจะเป็นส่วนของนักการตลาดที่จะต้องตั้งคำถาม ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นคนทั่วไปที่ตอบคำถาม โดยผู้ที่ตอบคำถามจะได้รับคะแนน หรือมีรางวัลต่างๆ เป็นของตอบแทน ส่วนผู้ที่ตั้งคำถามก็จะต้องเสียเงินให้กับแอพนี้ในการตั้งคำถามแต่ละครั้งนั่นเอง ดังนั้นความท้าทายของแอพพลิเคชั่นนี้ ก็อยู่ที่เรื่องของการทำอย่างไรให้มีจำนวนผู้ตอบคำถามที่มาก และหลากหลายที่่สุด เพราะแน่นอนว่าข้อมูลจากการตอบคำถามดังกล่าวจะมีความแม่นยำมากขึ้น ที่สำคัญคือจะช่วยให้สามารถนำไปใช้งานในเชิงสถิติได้จริงนั่นเอง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือผู้ตั้งคำถามสามารถระบุเพศ อายุ หรือรายละเอียดต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน เมื่อส่งคำถามออกไปแล้ว คำถามดังกล่าวก็จะไปแสดงเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดแอพ Fastinflow จาก Apple Store ประมาณปลายปีนี้

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม Fastinflow

[youtube link=”http://youtu.be/Ln8RyrM5A90″ width=”590″ height=”315″]

 

Haamor

เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยคลายปัญหาสุขภาพด้วยการตอบคำถามง่ายๆ จากแพทย์ชั้นนำ โดยสมมติว่าผู้ใช้มีอาการไม่สบาย แล้วอยากรู้ว่ามีแนวทางรักษาอย่างไร ต้องนัดพบแพทย์เมื่อไร เพียงพิมพ์อาการเข้าไป ก็จะมี Flow คำถามที่เกียวกับอาการนั้นขึ้นมา ให้ผู้ใช้ตอบเพียง Yer หรือ No เท่านั้น โดยจะมีฐานข้อมูลจากตำราแพทย์ระดับโลกที่รวบรวมเอาไว้ ซึ่งครอบคลุมโรคกว่า 6000 โรค พอสิ้นสุึดคำถามของ Flow นั้นๆ แล้ว ก็จะมีคำแนะนำขึ้นมาให้ว่าผู้ใช้จะต้องทำยังไง เช่น คุณจะต้องดูแลตัวเองยังไง คุณจะต้องไปพบแพทย์ได้แล้ว เป็นต้น ซึ่ง Flow คำถามเหล่านี้ได้ใช้ทีมแพทย์กว่า 100 ท่าน เขียน Flow พวกนี้ขึ้นมา ซึ่งมีความเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่แพทย์ทุกคนเรียนมา โดยความได้เปรียบของแอพนี้คงอยู่ที่การมีคอนเน็กชั่้นที่ดีกับแพทย์จากโรงพยาบาลต่างๆ โดยมีเว็บไซต์ Haamor.com ที่มีข้อมูลอยู่มากพอสมควรแล้ว ดังนั้นแอพนี้เหมือนเป็นการต่อยอดให้กับเว็บไซต์ที่ตนเองทำอยู่ ให้เข้าถึงผู้ใช้งา่นได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม Haamor

[youtube link=”http://youtu.be/XgTQR-NZCRk” width=”590″ height=”315″]

 

DietParty

เป็นแอพพลิเคชั่นเพื่อคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น โดยมีการแข่งขันกันลดน้ำหนักร่วมกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนาน โดยผู้ใช้จะต้องป้อนข้อมูลด้านอาหารการกิน รวมถึงเก็บสถิติการลดน้ำหนักของเราเอาไว้ โดยสามารถแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ เพื่อเป็นการแข่งขันกันลดน้ำหนักกับเพื่อนๆ นอกจากนี้ในระหว่างที่เล่นก็จะเป็นการสะสมแต้ม เพื่อสร้างให้เกิดแรงกระตุ้นในการลดน้ำหนัก โดยอาจจะมีของรางวัลจากสปอนเซอร์เป็นตัวดึงดูด เรียกว่าเป็นแอพที่ทันกระแสกับยุคนี้ที่คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น และยังมีช่องทางในการต่อยอดได้อีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมที่ใช้ในการวัดแคลอรี่ รวมถึงการคำนวนอัตราการเผาผลาญร่วมด้วย ก็จะเป็นอะไรที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม DietParty

[youtube link=”http://youtu.be/5a3b0aGbhNI” width=”590″ height=”315″]

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเวทีการประกวดดีๆ แบบนี้จะมีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วในเมืองไทยก็มีการตื่นตัวในเรื่องนี้มากโดยเฉพาะจากภาคเอกชน ที่โอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 รายใหญ่ ก็พยายามสร้างเวทีให้กับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นทั้งหลายได้มาประลองฝีมือกัน และจะเป็นการดีขึ้นอีกถ้าภาครัฐจะเข้ามาช่วยสนับสนุนและผลักดันโครงการเหล่านี้ ให้ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นระดับโลกกับเค้าบ้าง และที่สำคัญ OopsMobile จะขอเป็นสื่อกลางที่ช่วยในการผลักดันนักพัฒนาไทยให้ก้าวไกลระดับโลกอีกแรงหนึ่งด้วยนะครับ