เลือก Wearable Device อย่างไรให้เหมาะกับคุณ

 

wearable-device-all
 

นับว่าช่วงนี้เป็นยุคของ Wearable Device หรืออุปกรณ์สวมใส่ดิจิตอลเพื่อสุขภาพ ที่มีออกมาให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ แต่คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอุปกรณ์ตัวไหนที่เหมาะกับความต้องการของคุณ ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกับเรื่องกันดีกว่า

 

Wearable Device คืออะไร?

หากจะให้ความหมายโดยรวมของ Wearable Device ที่สามารถเข้าใจง่ายๆ คงหมายถึง อุปกรณ์สวมใส่เข้ากับร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของนาฬิกา, แว่นตา, กำไรข้อมือ, สายรัดข้อมือ ฯลฯ โดยมันจะทำหน้าที่ตรวจวัดค่าต่างๆ ด้านสุขภาพ หรือแสดงผลข้อมูล การแจ้งเตือน ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน หรือไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน โดยมันสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ต หรือซิงค์ข้อมูลกับคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟนได้ ซึ่งภายในระบบคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว ที่ประกอบด้วยหน่วยประมวลผล เซนเซอร์ต่างๆ และหน่วยความจำ เพื่อใช้บันทึกข้อมูล และสามารถแสดงผลบนหน้าจอได้ หรือบางรุ่นก็ไม่มีหน้าจอต้องซิงค์ร่วมกับสมาร์ทโฟนเพื่อดูข้อมูล โดย Wearable Device จะมีทั้งแบบที่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน และแบบที่ไม่ต้องพึ่งการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

 

Wearable Device มีกี่ประเภท?

และคำถามถัดมาที่หลายคนสงสัยคือ Wearable Device มันมีกี่ประเภท แล้วแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร เราควรเลือกใช้แบบไหนถึงจะเหมาะกับการใช้งาน ซึ่งจะขอแบ่งตามประเภทการใช้งานดังนี้เลยครับ

 

สายรัดข้อมือ Smart Band

Sony-smartwatch3-03

สำหรับ Wearable Device แบบ Smart Band หรือที่เป็นสายรัดข้อมือนั้น ส่วนใหญ่จะออกแบบมาเพื่อการใช้งานสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะมันจะเน้นไปที่การตรวจจับสุขภาพของเรา ไม่ว่าจะเป็น การนับจำนวนก้าวเดินหรือวิ่งในแต่ละวัน เพื่อคำนวณการเผาผลาญแคลอรี่, วัดระยะทางได้ด้วย GPS, ตรวจจับการนอนว่าเราหลับสนิทไปกี่ชั่วโมง, ตั้งปลุกโดยให้สั่นเตือนได้ หรือกระทั่งคำนวนแคลอรี่จากอาหารที่รับประทานเข้าไป โดยซิงค์ข้อมูลร่วมกับสมาร์ทโฟน ทั้งนี้บางรุ่นก็สามารถใช้ควบคุมการเล่นเพลงได้อีกด้วย รวมถึงยังสามารถแชร์ข้อมูลไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์กันผู้ใช้ร่วมกัน ทำให้เกิดความท้าทายมากยิ่งขึ้น

 
Smart Band ยังถูกแบ่งย่อยออกไปหลายรูปแบบ ทั้งแบบที่เป็นกำไร หรือสายรัดข้อมือที่ไม่มีหน้าจอ และแบบที่มีจอแสดงผลในตัว ซึ่งก็ต่างดีไซน์ออกมาให้เป็นเครื่องประดับไฮเทคไปในตัว

 
คุณสมบัติหลักๆ ที่ Smart Band ต้องมี
• ตรวจวัดจำนวนก้าวเดิน/วิ่งได้
• มี GPS วัดระยะทาง
• ตรวจจับการนอน
• คำนวณการเผาผลาญแคลอรี่
• ซิงค์ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้
• แบตเตอรี่อยู่ได้นานอย่างน้อย 7 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (รุ่นที่มีหน้าจออาจจะน้อยกว่า)

*หมายเหตุบางรุ่นอาจจะไม่มีคุณสมบัติบางอย่าง

 
Smart Band เหมาะกับใคร : เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนรักสุขภาพ เน้นใส่ติดตัวไว้ตลอดเวลา เพราะตรวจวัดการเผาผลาญแคลอรี่ จากกิจกรรมต่างๆ รวมถึงตรวจจับการนอนว่าเรานอนหลับไปกี่ชั่วโมง เพียงพอกับการพักผ่อนแล้วหรือยัง และที่สำคัญใครที่ไม่อยากวุ่นว่ายกับการโหลดแอพ ตั้งค่าให้มากมาย รวมถึงไม่ต้องเสียเวลาชาร์จแบตทุกวัน Smart Band ก็ตอบโจทย์คุณได้แล้วครับ

 

นาฬิกาอัจฉริยะ Smart Watch

AplWatch42_34R_HomeScreen_HERO

สำหรับ Smart Watch หรือนาฬิกาอัจฉริยะ ซึ่งแน่นอนว่ามันใช้สวมใส่แทนนาฬิกาข้อมือได้เลย แต่สิ่งที่เหนือกว่านาฬิกาคือมันจะมาพร้อมหน้าจอที่สามารถสัมผัสที่ควบคุมแอพพลิเคชั่นต่างๆ ภายในตัวได้ หรือบางรุ่นก็อาจจะใช้ปุ่มแทนหน้าจอสัมผัส โดยความสามารถหลักๆ ก็จะคล้ายกับ Smart band ในการตรวจวัดสุขภาพต่างๆ แต่จะเพิ่มเซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจขึ้นมา เซนเซอร์วัดระดับความสูง  เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ เซนเซอร์วัดรังสียูวี และในบางรุ่นสามารถใส่ซิมเพื่อโทรออกและเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตในตัวได้อีกด้วย สิ่งสำคัญอีกอย่างของ Smart Watch คือระบบปฏิบัติการในตัว ที่จะใช้ขับเคลื่อน ซึ่งในปัจจุบันมีระบบปฏิบัติการที่ออกแบบมาโดยเฉพาะอย่าง Android Wear และ Tizen (Samsung) และในต้นปี 2015 ก็จะมี Apple Watch ออกมาอีก 1 แพลตฟอร์ม ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกับสมาร์ทโฟน

 
คุณสมบัติหลักๆ ที่ Smart Watch ต้องมี

• ใช้สวมใส่แทนนาฬิกาข้อมือ
• ตรวจวัดจำนวนก้าวเดิน/วิ่งได้
• มี GPS วัดระยะทาง
• มีหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่
• ควบคุมผ่านหน้าจอระบบสัมผัส หรือปุ่มควบคุม
• คำนวณการเผาผลาญแคลอรี่
• มาพร้อมเซนเซอร์ วัดอัตราการเต้นของหัวใจ, วัดระดับความสูง, วัดอุณหภูมิ, วัดรังสียูวี
• บางรุ่นใส่ซิมโทรศัพท์ได้
• ซิงค์ร่วมกับสมาร์ทโฟนได้
• มีแอพพลิเคชั่น และติดตั้งเพิ่มเติมได้
• แบตเตอรี่อยู่ได้นานอย่างน้อย 1-2 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง (บางรุ่นอยู่ได้ถึง 7 วัน เพราะใช้หน้าจอแบบ E-Paper)

*หมายเหตุบางรุ่นอาจจะไม่มีคุณสมบัติบางอย่าง

 
Smart Watch เหมาะกับใคร : ผู้ที่จะใช้ Smart Watch คือผู้ที่ต้องการฟังก์ชั่นที่หลากหลาย ครบครัน และต้องการติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมลงในตัวเครื่องได้ โดยใช้แทนนาฬิกาข้อมือ และต้องการความสะดวกในการเข้าถึงการแจ้งเตือนต่างๆได้ทันที โดยไม่ต้องยกโทรศัพท์ขึ้นมาดู หรือบางคนที่อยากใช้แบบโทรศัพท์ได้ในตัวก็มีให้เลือกครับ

 

เสื้ออัจฉริยะ Smart Shirt

ralph-lauren-wearable-2014-08-25-01

นอกเหนือจากนาฬิกา หรือสายรัดข้อมือที่ Wearable Device สามารถพัฒนาเข้าถึงมนุษย์ได้แล้ว ยังก้าวล้ำไปถึงเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ ล่าสุด Ralph Lauren Polo เตรียมที่จะผลิตเสื้อ Polo Tech shirt ที่สามารถตรวจจับ อัตราการเต้นของหัวใจ, อัตราการหายใจ รวมถึงสเต็ปการเคลื่อนไหวของร่างกาย โดยจะมีเซนเซอร์ติดอยู่กับเสื้อ และเส้นใย Biosensing Silver Fiber เพื่อตรวจจับ แล้วเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อส่งข้อมูลไปยังแอพบน iPhone/iPad ซึ่งสามารถถอดออกได้เมื่อถึงเวลาต้องซักเสื้อ

 

Smart Shirt เหมาะกับใคร : เหมาะกับนักกีฬา หรือผู้ที่รักสุขภาพ ที่ต้องการทราบข้อมูลประสิทธิภาพการออกกำลังกายอย่างละเอียด เพื่อใช้ในการกำหนดเป้าหมายในการออกกำลังกายให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นเรื่อยๆ

 

แว่นตาอัจฉริยะ Glasses


google-glass-sport
Wearable Device อีกประเภทที่เกิดขึ้นจริงแล้วคือ แว่นตาอัจฉริยะ อย่าง Google Glass ที่ผู้ส่วมใส่ สามารถดูข้อมูลผ่านหน้าจอเล็กๆ ใกล้ดวงตา โดยที่เราสามารถมองทะลุไปยังภาพจริงข้างหน้าได้อยู่ เหมือนสวมแว่นตาปกติ แต่มันสามารถแสดงผลข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นทั้งเส้นทางที่จะเดิน สภาพการจราจร ข่าว และข้อมูลอื่นๆ ที่หาได้จากเน็ต การควบคุมจะใช้การรับคำสั่งด้วยเสียงเป็นหลัก และต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังมีกล้องที่สามารถบันทึกภาพกิจกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นมุมมองเดียวกับสายตาของเรา โดยสามารถถ่ายแล้วแชร์ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คได้ทันที แม้ว่าตอนนี้ Google Glass จะวางจำหน่ายไปบ้างแล้วในบางประเทศ แต่ด้วยราคาที่ค่อยข้างสูงมาก จึงอาจจะยังไม่เป็นอุปกรณ์ที่นิยมใช้มากเท่ากับ Wearable Device ประเภทอื่น

google_glass_golf_01
ภาพในมุมมองจาก Google Glass

 
Google Glasses เหมาะกับใคร : อันนี้ตอบได้ไม่ยาก เหมาะสมกับคนมีตังค์เหลือใช้ที่สุดครับ 555 เอาจริงๆ ก็คงเหมาะกับคนที่ต้องการข้อมูลแนะนำในแบบทันทีทันใด หรือจะเป็นนักกอล์ฟซึ่งกูเกิ้ลก็มีฟีเจอร์รองรับสำหรับนักกอล์ฟโดยเฉพาะอีกด้วย หรือใครที่ชอบผจญภัยก็สามารถใช้มันเก็บบันทึกภาพในเวลาที่กำลังปีนเขา หรือล่องแก่ง ซึ่งเป็นกิจกรรมโลดโผนที่ไม่สามารถใช้กล้องถ่ายภาพได้ และอนาคตก็จะมีฟีเจอร์ที่รองรับการทำกิจกรรมต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น

 
 

Asus Smartwatch กำลังจะเป็นสุดยอดฮีโร่โปรดักษ์ ตามที่ Jonney Shih กล่าวไว้

 

asus-smartwatch
Asus ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่เชื่อว่ากำลังซุ่มผลิต Smartwatch ที่คาดว่าน่าจะเป็น Android Wear อีกตัวที่กำลังจะออกมา โดยน่าจะเปิดตัวในงาน IFA 2014 เดือนกันยายนนี้

 

ซึ่งตามที่นาย Jonney Shih ซีอีโอ Asus ได้บอกไว้ว่า Asus Smartwatch จะเป็น Hero Product ตัวสำคัญที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่น และยังบอกด้วยว่าการออกแบบดีไซน์ และปัจจัยในการใช้งานของตัวอุปกรณ์ดังกล่าว ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ก็เขาก็ยังไม่ได้เปิดเผยสเปกออกมาแต่อย่างใด

 

และก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินว่า Asus กำลังมองไปในแนวทางการทำ Smartwatch ให้บางที่สุด และเป็นตัวแรกในตลาด ซึ่งนี้ก็สอดคล้องกับความเห็นที่นาย Jonney Shih ได้พูดถึงเรื่องการออกแบบเอาไว้

 

อย่างไรก็ตาม Asus ก็น่าจะเป็นอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการคอนเฟิร์มใดๆ จาก Asus ในขณะนี้

 

ส่วนราคาก็คาดว่าน่าจะอยู่ราว 100 – 150 เหรียญสหรัฐ หรือไม่เกิน 4900 บ.

 

เผยโฉม Moto 360 นาฬิกาอัจฉริยะที่ดูดีที่สุด ในบรรดา Android Wear ทั้งหมด

 

moto360lead

 

นี่ก็เป็นอีกหนึ่ง Smartwatch ม้ามืดที่มีข่าวลือออกมาก่อนงาน Google I/O อยู่พอสมควร ซึ่งสุดท้ายเมื่อเผยโฉมตัวจริงภายในงานนี้ ก็เป็นไปตามข่าวลือเป๊ะๆ

 

เรียกว่าเป็น Smartwatch ที่โดดเด่นที่สุดของงานนี้เลย เพราะด้วยดีไซน์หน้าปัดเป็นวงกลม เหมือนกับนาฬิกาแบบเข็ม จึงทำให้ Moto 360 เป็นที่จับตามองเป็นพิเศษ ถึงการออกแบบหน้าจอระบบสัมผัสให้เป็นวงกลม โดยภายในรันระบบปฏิบัติการ Android Wear ตัวล่าสุดเช่นเดียวกัน และมาพร้อมฟีเจอร์หลักๆ อย่างการสั่งงานด้วยเสียง, ตรวจนับก้าว, ดูพยากรณ์อากาศ, รายงานนัดหมาย หรือแจ้งเตือนข้อมูลต่างๆ ซึ่งดูเหมือนเป็นการนำฟีเจอร์ของ Google Now มาอยู่บน Smartwatch นั่นเอง

 

สำหรับตัวเรือนเป็นโลหะแต่หนาไปหน่อยนะ ส่วนสายที่ให้มาดูจากลักษณะน่าจะเป็นสาย PU พลาสติก แต่ตามข่าวระบุว่าจะมีสายหนังแท้ขายแยกให้ด้วย แต่แอบสังเกตที่หน้าจอจะมีส่วนท้ายที่เป็นพื้นดำซะงั้น สงสัยคงจะออกแบบหน้าจอได้สุดขอบแค่นี้

 

สำหรับ Moto 360 จะวางจำหน่ายถัดจาก LG G Watch และ Samsung Gear Live ไปประมาณอีก 1 เดือน ระหว่างนี้ก็ลองไปชมภาพยั่วกิเลสกันไปก่อน

 

DSC_0397-2040_verge_super_wide DSC_0389-2040_verge_super_wideDSC_0447-2040_verge_super_wide DSC_0445-2040_verge_super_wide DSC_0440-2040_verge_super_wide DSC_0436-2040_verge_super_wide DSC_0423-2040_verge_super_wide DSC_0422-2040_verge_super_wide DSC_0419-2040_verge_super_wide DSC_0408-2040_verge_super_wide DSC_0404-2040_verge_super_wide DSC_0379-2040_verge_super_wide DSC_0375-2040_verge_super_wide

 

Source : The Verge, Engadget

 

เปิดตัว Samsung Gear Live อีกหนึ่ง Android Wear จากงาน Google I/O

 

gear-live-03

 

เผยโฉมตัวเป็นๆ เรียบร้อยแล้วกับ Samsung Gear Live อุปกรณ์สวมใส่หรือ Wearable Device ซึ่งเป็น Smartwatch ตัวล่าสุดที่รันบนระบบปฏิบัติการ Android Wear ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดสำหรับติดตั้งลงในอุปกรณ์สวมใส่โดยเฉพาะ โดยเพิ่งเปิดตัวไปในงาน Google I/O นั่นเอง

 

โดย Samsung Gear Live ยังคงมาในดีไซน์เดียวกับ Galaxy Gear, Gear 2, Gear Neo แต่ต่างกันตรงที่ก่อนหน้านี้ Galaxy Gear ทั้งหลายจะรันบนระบบปฏิบัติการ Tizen และ Android เป็นหลัก ทั้งนี้ Gear Live ยังติดตั้งเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจมาให้ ส่วนซีพียูความเร็ว 1.2 GHz, Ram 512 MB, หน่วยความจำภายใน 4 GB, หน้าจอทัชสกรีน 1.63 นิ้ว Super AMOLED 320×320 พิกเซล แบตเตอรี่ 300 mAh (น้อยกว่า LG G Watch) รองรับ Bluetooth 4.0 ขนาด 37.9 x 56.4 x 8.9 มม. น้ำหนัก 59 กรัม

gear-live-04gear-live-05

สำหรับฟีเจอร์การใช้งานยังคงทำได้เฉพาะฟีเจอร์หลักๆ ของระบบ Android Wear เช่น การนับก้าว, แสดงการพยากรณ์อากาศ และข้อมูลสำคัญจาก Google Now เป็นต้น ยังไม่เห็นว่าซัมซุงได้ใส่แอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมอะไรของตัวเองลงไปเหมือนอย่างรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ Gear Live สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่รันบน Android 4.3 Jelly Bean ขึ้นไปได้ทุกรุ่น และน่าจะทุกยี่ห้อด้วยครับ

gear-live-02

gear-live-01

 

Samsung Gear Live มี 2 สี ให้เลือกคือ ดำ กับ ไวน์แดง โดยจะวางจำหน่ายพร้อมกับ LG G Watch ใน Google Play Store ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ สนนราคา $199 เหรียญ หรือประมาณ 6,500 บาท

 

Source : Engadget, gsmarena, Techcrunch

 

ชมวิดีโอคอนเซ็ป Apple iWatch อีกหนึ่งสุดยอดดีไซน์ ที่อยากให้เป็นจริง

 

apple-iwatch2

ทุกครั้งที่แอปเปิ้ลจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ มักจะมีเหล่าดีไซน์เนอร์ ออกมา มโนว่ามันจะออกมาหน้าตายังไง โดยเฉพาะ iWatch ซึ่งก็มีภาพคอนเซ็ปในฝันออกมามากมายหลาย 10 แบบแล้ว

 

ล่าสุดมีคลิปวิดีโอคอนเซ็ปของ iWatch ออกมาอีก 1 ดีไซน์ จาก Mindspi Vision ซึ่งเรียกว่าดูสวยล้ำ เหนือจินตนาการไปเลย โดยตามข่าวคาดว่าแอปเปิ้ลน่าจะเปิดตัวอุปกรณ์ Smartwatch ภายในปีนี้ ราวๆ เดือนกันยายน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะอยู่ในช่วงของการวางจำหน่าย iPhone 6 พอดี

 

นอกจากนี้ยังมีข่าวอีกว่า Apple จะเปิดตัว iWatch 2 ขนาดด้วยกันคือ หน้าจอ 1.3 นิ้ว สำหรับผู้หญิง และ หน้าจอ 1.7 นิ้ว สำหรับผู้ชาย

 

[youtube link=”http://youtu.be/qLmMiraK7ok” width=”590″ height=”315″]

 

สำหรับฟีเจอร์ที่คาดว่าจะต้องมี ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของสุขภาพและ ฟิตเนส แทร็คกิ้ง และที่สำคัญคือออกแบบให้ใช้งานร่วมกับ iPhone 6 บน iOS 8 โดยเฉพาะ

 

แน่นอนว่านี่ยังไม่ใช้ของจริง เป็นเพียงการจิ้นกันไปเท่านั้น หากมีข่าวความคืบหน้า หรือรายละเอียดสเปกต่างๆ เพิ่มเติม เราจะรีบรายงานให้ทุกท่านทราบ

 

 

MLINK ปรับโฉม เตรียมนำ Smartwatch, Gadgets และ Set Top Box ดิจิตอลทีวี บุกตลาด พร้อมตั้งทีม M-Seed ผลักดันนักพัฒนาเกมไทย สู่ระดับโลก

 

MLINK ถือเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ Nokia มานาน ล่าสุดมีการปรับโฉมใหม่โดยได้ ดร.ประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ มานั่งแท่นเป็นกรรมการและกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม ลิ้งค์ เอเชียคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งหลังจากที่ได้เข้ามาบริหารงานก็เตรียมเพิ่มไลน์สินค้าใหม่ๆ โดยได้ร่วมลงนามกับบริษัท อเวเนียร์ เทเลคอม เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เสริมแบรนด์หรูจากประเทศฝรั่งเศส ซึ่งได้แก่ แบรนด์ Energizer ที่เป็นอุปกรณ์เสริมโทรศัพท์มือถือ, แบรนด์ Beewi สินค้าหูฟังบลูทูธ และ แบรนด์ OXO Platinum จะเป็นสินค้าที่เน้นดีไซน์ ไว้ป้องกันโทรศัพท์มือถือ นอกจากนี้ยังจะเป็นตัวแทนจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ iMobile เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแบรนด์

 

และอีกสินค้าที่กำลังเป็นที่จับตามองโดย MLINK เห็นว่าเป็นโอกาสในการสร้างรายได้มหาศาล คือการนำเข้า Set Top Box สำหรับดิจิตอลทีวี มาจำหน่าย ซึ่งได้จับมือร่วมกับ บริษัท ZTE ผู้นำในการผลิตอุปกรณ์โทรศัพท์และแท็บเล็ตรายใหญ่อันดับ 2 ของจีน ในการเตรียมขาย Set Top Box ซึ่งรัฐบาลก็ได้เตรียมแจกคูปองส่วนลดให้กับประชาชนเพื่อไว้เป็นส่วนลดสำหรับซื้อกล่องทีวีดิจิตอล จึงยิ่งทำให้ช่วยผลักดันยอดขายสินค้าให้มากขึ้น

 

นอกจากนี้ยังเสริมทัพด้วยทีมงานคนรุ่นใหม่ภายใต้ชื่อ M-Seed ที่จะเป็นหน่วยงานส่งเสริมและผลักดันเหล่านักพัฒนาเกมคนไทย ให้ไปไกลในระดับโลก โดยจะจัดตั้งศูนย์ M-Seed StartUp Center ทั่วประเทศ ซึ่งจะทำหน้าที่ส่งเสริม ให้คำปรึกษา และจัดอบรม รวมถึงจัดหานักลงทุนเพื่อสร้างโอกาสให้กับบริษัท StartUp ไทย ได้พัฒนาเกมให้ดังในระดับโลกให้ได้

 

นอกจากนี้ภายในงานผมได้เก็บภาพ Gadgets หลายๆ อย่างที่น่าสนใจ ซึ่ง MLINK จะเริ่มวางจำหน่ายเร็วๆ นี้ ไปชมภาพกันเลยครับ

mlink-06
นาฬิกา Smartwatch 2 รุ่น รันบน Android

 

mlink-08
รุ่นนี้ใส่ซิมใช้เป็นโทรศัพท์ได้เลย มีสไตลัสมาให้ด้วย พร้อมกล้องถ่ายรูปในตัว

 

mlink-10
แอบส่องตัวเรือนด้านหลัง

 

mlink-07
ใช้ซิมขนาดปกติ และยังเพิ่ม Micro SD ได้อีกด้วยนะ

 

mlink-05
รุ่นนี้จะใส่ซิมไม่ได้ เอาไว้ซิงค์กับสมาร์ทโฟน เพื่อใช้รับสาย หรือดูข้อความ รวมถึงเล่นแอพต่างๆ ได้ คล้ายกับ Galaxy Gear

 

mlink-09
ปุ่มเปิดปิดหน้าจอดูทะลุออกมานิสนุง

 

mlink-02 mlink-03

ลำโพงบลูทูธ รุ่นนี้จะเก๋ตรงที่เวลาวางบนพื้นผิวต่างๆ จะให้เสียงที่แตกต่างกันด้วย เช่นบนโต๊ะกระจกก็จะให้เสียงใส หรือวางบนโต๊ะไม้ก็จะให้เสียงนุ่ม

 

mlink-04
ชุดแบตสำรองที่ชาร์จไฟด้วยแผงโซลาเซลล์

 

mlink-13
อุปกรณ์ตรวจจับแคลอรี่ พร้อมการ์ดโปรแกรมฝึกรูปแบบต่างๆ สำหรับคนรักสุขภาพ

 

mlink-12
กล้อง Skype Camera ไว้ติดในบ้านเพื่อเฝ้าระวัง

 

mlink-01
กล่อง Set Top Box ดิจิตอลทีวี

 

mlink-11
อุปกรณ์ป้องกันการลืมมือถือ โดยมันจะมีเสียงเตือนหากเราลืมมือถือทิ้งไว้

 

mlink-14
แท่นชาร์จไร้สายสำหรับ iPhone

 

 

 

 

 

 

จับกระแส Smartwatch เทรนด์ใหม่มาแรง ปี 2014

smartwatch-main-2014

 

เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอุปกรณ์แบบสวมใส่นาฬิกาข้อมือ Smartwatch ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น สำหรับนาฬิกาข้อมือไฮเทคนั้นเป็นการนำเอาเทคโนโลยีบนมือถือ มาพัฒนาและออกแบบให้เป็นผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กเหมือนนาฬิกาข้อมือ Smartwatch ที่แสนชาญฉลาด
 
Smartwatch นาฬิกาข้อมือไฮเทคอาจจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายและใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น และยังคงเป็นกระแสร้อนแรงกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดก็ได้มีข่าวการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือ Smartwatch อุปกรณ์แบบสวมใส่ ให้ได้ติดตามกันหลายรุ่น มีทั้งที่เปิดตัววางจำหน่ายไปแล้ว หรือบางรุ่นก็เป็นเพียงข่าวลือที่หลุดออกมาจากค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ทั้ง Samsung, Apple, Google, Sony
 
สำหรับอุปกรณ์ Smartwatch นาฬิกาอัจฉริยะ ไม่ได้เป็นเพียงแค่นาฬิกาดูเวลาเท่านั้น แต่มาพร้อมคุณสมบัติการทำงานที่ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว โดยใช้งานได้ทั้งการสนทนาโทรศัพท์และวิดีโอสนทนา และใช้ในการกล้องถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ มีระบบการแจ้งเตือน นอกจากนี้ยังใช้เป็นอุปกรณ์เพื่อสุขภาพและออกกำลังกาย และการใช้งานอื่นๆ ทางเราได้รวบรวมนาฬิกาข้อมือไฮเทค มีของค่ายไหนบ้างที่น่าสนใจบ้างมาดูกันเลย
 

Samsung Galaxy Gear
 

Galaxy Gear 2 และ Galaxy Gear 2 Neo
Galaxy Gear 2 และ Galaxy Gear 2 Neo

 
Samsung Galaxy Gear รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปลายปี 2013 คู่หูข้างกายของ Galaxy Note 3 ได้รับตอบรับจากผู้ใช้งานมากมาย จนเป็นกระแสฮิตชั่วข้ามคืน ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าจะมีการเปิดตัว Galaxy Gear รุ่น 2 ในงาน MWC 2014 นี้ รายงานข่าวแจ้งมาว่า เครื่องรุ่นใหม่จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ Galaxy Gear 2 และ Galaxy Gear 2 Neo รุ่นหลังนี้จะเป็นรุ่นราคาถูก โดยทั้งสองรุ่นจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Tizen มีฟังก์ชั่นการใช้งานกับมือถือ สามารถสั่งการด้วยเสียง S Voice เล่น LINE ได้ และยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีกมาก เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้
 

Apple iWatch
 

ภาพคอนเซ็ปของนาฬิกาข้อมือ iWatch
ภาพคอนเซ็ปของนาฬิกาข้อมือ iWatch

 
iWatch อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ปลุกกระแสอุปกรณ์ smartwatch เลยก็ว่าได้ โดยมีข่าวลือออกมาให้เห็นตั้งแต่ต้นปี 2013 ว่าแอปเปิลจะออกวางจำหน่ายอุปกรณ์ smartwatch จนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่มีข่าวการเปิดตัวอุปกรณ์ชนิดนี้ แต่ก็ยังคงมีข่าวลือออกมายั่วน้ำลายสาวกแอปเปิลกันอยู่เลื่อนๆ ในข่าวรายงานว่าช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้จะมีการเปิดตัว iWatch ที่งาน WWDC ประจำปีของแอปเปิล แต่ก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไป
 

Google Smartwatch
 

ภาพคอนเซ็ปของ Google Smartwatch
ภาพคอนเซ็ปของ Google Smartwatch

 
กูเกิลขอเกาะกระแสความฮิตด้วยการส่ง Google Smartwatch นาฬิกาอัจฉริยะออกมาบ้าง ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือออกมาว่ากูเกิลวางแผนจะผลิตสินค้าแบบสวมใส่นาฬิกาข้อมือไฮเทค ในข่าวยังรายงานอีกว่าอุปกรณ์จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat คุณสมบัติเด่นที่กูเกิลจะนำมาใส่ไว้ในนาฬิกาไฮเทคนั้นคือจะสามารถสั่งควบคุมการทำงานด้วยเสียง ส่วนสเปคเครื่องยังไม่มีรายงานข่าวออกมาอย่างเป็นทางการ สำหรับบริษัทที่ได้เป็นผลิตอุปกรณ์ให้กับกูเกิลนั้นอาจจะไม่ใช่บริษัท Motorola โดยกูเกิลจะผลักดันให้ออกวางจำหน่ายในปี 2014 นี้ ซึ่งโมโตโรล่าอาจจะผลิตออกมาช้าเกินไป กูเกิลอาจจะโอนไปให้บริษัท HTC เป็นผู้ผลิตก็ได้ ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือออกมาเท่านั้นข้อมูลบางอย่างอาจเปลี่ยนแปลงได้
 

Sony Smartwatch 2
 

หน้าตาของ Sony Smartwatch 2
หน้าตาของ Sony Smartwatch 2

 
Sony Smartwatch 2 เป็นความพยายามอีกครั้งสำหรับค่ายโซนี่ ในการพัฒนานาฬิกาข้อมือไฮเทค ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ที่นำมาเป็นอุปกรณ์เสริมการใช้งานของมือถือของโซนี่ แต่หากตัดขาดออกจากมือถืออาจจะทำให้ไม่สามารถใช้งานอื่นๆ ได้ (อาจเป็นเพียงนาฬิกาบอกเวลาเท่านั้น) โดยอุปกรณ์จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.0 (Ice Cream Sandwich) หน้าจอ 1.6 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอที่ 220 x 176 พิกเซล หน้าจอแสดงตัวเลขบอกเวลาอยู่เสมอ ตัวเครื่องสีดำ ส่วนสายรัดทำจากพลาสติกมีให้เลือก 5 สี ดำ, ชมพู, ม่วง, ฟ้าคราม และเหลือง
 

Pine Smartwatch
 

Pine Smartwatch
Pine Smartwatch

 

Pine Smartwatch ได้รับการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกลุ่มที่ชื่อว่า Neptune ซึ่งที่ได้รับเงินสนับสนุนในการประดิษฐ์และพัฒนาสินค้าจากเว็บไซต์ Kickstarter ที่มีผู้สนใจร่วมบริจาคเงินสนับสนุนมากมาย โดยรูปร่างหน้าตาของนาฬิกานั้นจะมีหน้าจอขนาดใหญ่และหนา หน้าจอกว้างถึง 2.4 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 320 x 240 พิกเซล ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean เชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi สำหรับท่องอินเตอร์เน็ต รองรับการสนทนาโทรศัพท์และวิดีโอสนทนา มีช่องใส่ Micro SIM การใช้งานแอพพลิเคชั่นสามารถดาวน์โหลดแอพได้จาก Play Store มาดูกันที่กล้องถ่ายภาพกันบ้าง กล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิเซล และกล้องหน้าความละเอียด VGA ส่วนหน่วยความจำเครื่องมีให้เลือกตั้งแต่ 8 GB, 16 GB, 32 GB และ 64GB เรียกได้ว่าความสามารถใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว
 
นอกจากนี้ยังมีบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไฮเทคอีกหลายเจ้าที่เปิดตัวสินค้านาฬิกาข้อมือไฮเทคออกมา เช่น Pebble Watch นาฬิกาที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้ทั้ง iOS และ Android, Huawei smartwatch ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่จากจีน, LG smartwatch ที่ส่งรุ่น G Arch นาฬิกาข้อมือและ G Health สายรัดข้อมืออุปกรณ์เพื่อสุขภาพ และยังมีบริษัทอื่นๆ อีกหลายเจ้า
 
เมื่อดูจากสเปคและฟังก์ชั่นการใช้งานของนาฬิกาข้อมือไฮเทค ก็จะมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่มาใช้ในชีวิตประจำวันแทนมือถือหรือไม่นั้นก็คงต้องรอดูกันไป
 
นี่เป็นเพียงตัวอย่างนาฬิกาอัจฉริยะที่คัดสรรเอาเฉพาะบางรุ่นมาแนะนำเท่านั้น จริงๆ ก็จะมีอีกหลายรุ่น คุณสามารถติดต่ออัพเดทข่าวจากทางเว็บของเราในครั้งต่อไป
 

Samsung Gear 2 วางจำหน่ายเมษายนนี้

Group_Gear 2, Gear 2 Neo
 
Samsung Gear 2 นาฬิกาอัจฉริยะอุปกรณ์คู่กายของคนวัยมันส์ ปรับรูปโฉมใหม่เหมาะกับผู้หญิงและผู้ชาย พร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้
 
หน้างาน MWC 2014 ที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นก็ได้มีรายงานข่าวเกี่ยวกับสเปคและรูปโฉมของตัวเครื่อง Gear 2 ออกมาให้เห็นกันก่อน โดย Samsung Gear 2 นั้นก็ได้รับการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ ตัวเครื่องมีออกมาให้เลือกถึง 2 รุ่น คือ Gear 2 และ Gear 2 Neo มีปุ่ม Home บนตัวเครื่องเพื่อให้สลับเปิด-ปิดหน้าจอแอพได้ง่ายขึ้น ทั้งสองรุ่นจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Tizen ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องรุ่นแรกที่ติดตั้ง Tizen OS ที่ซัมซุงและพันธมิตรได้ร่วมพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาเอง

 

GEAR 2
GEAR 2

GEAR 2 สีทอง
GEAR 2 สีทอง

 
GEAR 2 Neo
GEAR 2 Neo

 
สำหรับตัวเครื่องมี Gear 2 จะมีขนาด 37.9 x 58.8 x 10.0 มม. มีน้ำหนัก 68 กรัม (ใหญ่และหนักกว่ารุ่น Neo) เครื่องจะมีสี Charcoal Black, Gold Brown และ Wild Orange สำหรับเครื่องรุ่น Gear 2 Neo จะมีขนาด 36.9 x 58.4 x 10.0 มม. ตัวเครื่องหนัก 55 กรัม เครื่องจะมีสี Charcoal Black, Mocha Grey และ WIld Orange
 
ส่วนสเปคเครื่องทั้งสองรุ่นจะแตกต่างจากเล็กน้อย โดยเครื่องมีขนาด 1.63 นิ้ว หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล ซีพียู dual-core 1 GHz, RAM 512MB, หน่วยความจำ 4GB, กล้องถ่ายภาพ 2 ล้านพิกเซล โฟกัสภาพอัตโนมัติ (AutoFocus) บันทึกถ่ายวิดีโอ 720p (30 เฟรมต่อวินาที), รองรับการสั่งงานด้วยเสียง S Voice, เซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจสำหรับใช้งานด้านสุขภาพ และโหมดการออกกำลังกาย อุปกรณ์ทั้งสองรุ่นรองรับ IP67 สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดี และคุณสมบัติการใช้งานเดิม เช่น โทรศัพท์, บลูทูธ, การแจ้งเตือน SMS, อีเมล์, เครื่องเล่นเพลง, นาฬิกาจับเวลา, ตั้งเวลานับถอยหลัง และตรวจสอบสภาพอากาศ แบตเตอรี่ 300mAh ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 2-3 วัน หรือเปิดเครื่องทิ้งไว้จะอยู่ได้นานถึง 6 วัน
 
นอกจากนี้ ยังรองรับแอพพลิเคชั่นเด็ดๆ เช่น CNN, eBay, Paypal, Evernote, BMW และอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญเล่น LINE ได้ด้วย
 
หากใครสนใจต้องการอยากได้นาฬิกาข้อมือสุดไฮเทคไว้คู่กาย เมษายนนี้เทรนด์แน่นอน
 

อัพเดทข่าว : ซัมซุงจะไม่ใช้ชื่อ Galaxy กับนาฬิกาข้อมือ Gear รุ่นใหม่แล้ว จะใช้ชื่อใหม่เป็น Gear 2 และ Gear 2 Neo แทน
 
source : androidcommunity

Galaxy Gear 2 มาพร้อม Tizen OS ไม่ง้อ Google

galaxy-gear-2-tease-01
 
รายงานข่าวล่าสุดจากสำนักพิมพ์ชื่อดัง USA today เผยว่าซัมซุงวางแผนจะมีการเปิดตัว Galaxy Gear นาฬิกาอัจฉริยะรุ่น 2 โดยจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Tizen ของซัมซุงเอง จะไม่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android ของ Google เหมือนกับรุ่นแรก
 
แหล่งข่าวได้ออกมาเปิดเผยเกี่ยวกับนาฬิกาอัจฉริยะ Galaxy Gear รุ่นที่ 2 จะเป็นอุปกรณ์ที่ทำการติดตั้งระบบปฏิบัติการ Tizen ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในงาน MWC 2014 ที่จะมีขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ซัมซุงยังไม่ได้มีการเปิดเผยข้อมูลหรือรูปร่างหน้าตาของ Galaxy Gear 2 แต่อย่างใด เป็นเพียงข่าวลือที่หลุดออกมาเท่านั้น
 
แหล่งข่าวยังรายงานอีกว่าซัมซุงอาจจะหันไปใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen บนสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ของซัมซุงเอง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ Google ผูกขาดมากเกินไป และเห็นว่ากูเกิลกำลังวางแผนที่จะเปิดตัวสินค้าประเภทสวมใส่ wearable ด้วย นอกจากนี้ในตลาดสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต มีบริษัทผลิตอุปกรณ์จำนวนมากที่รันด้วยระบบปฏิบัติการ Android จึงทำให้บริการหลายๆ อย่างของกูเกิล เช่น การค้นหา, แผนที่, อีเมล์ สร้างรายได้หลายพันล้านจากการโฆษณา ส่วนบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ยังคงมีกำไรที่น้อยกว่า ซัมซุงจึงพยายามที่จะพัฒนาซอฟแวร์และมุ่งหากำไรของตัวเองนั่นเอง
 
tizen-logo
 
Tizen เป็นระบบปฏิบัติการแบบเปิด (Open-source) ระบบปฏิบัติการใหม่ของซัมซุงและพันธมิตรร่วมกันพัฒนาขึ้นมาเอง โดยได้ความร่วมมือกับพันธมิตรบริษัทยักษ์ใหญ่หลายค่าย อาทิ Samsung, Intel และ Linux นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรอีก 15 บริษัทเข้าร่วมด้วย เช่น Sprint, SoftBank และ Baidu
 
นี่อาจจะเป็นการเดิมพันครั้งใหญ่ ถ้าหากซัมซุงเริ่มเปลี่ยนไปใช้ Tizen OS จริง อาจจะเป็นอุปกรณ์โดดเดี่ยวที่ไม่สามารถเข้ากับอุปกรณ์อื่นๆ ได้เลย และรวมไปถึงแอพพลิเคชั่นด้วย
 
ถึงตอนนี้ก็ต้องติดตามดูกันต่อไปว่า อุปกรณ์ Galaxy Gear 2 และหน้าตาของระบบปฏิบัติการ Tizen จะมีรูปโฉมอย่างไร เตรียมพบกัน เร็วๆ นี้
 
source : usatoday
 

รวมฮิตทุกข่าวลือของ iWatch

Watches_4_1_610x458_610x458

 

ทาง Cnet ได้ทำการสรุปรวมทุกข่าวลือของ iWatch เท่าที่เคยมีมาแถมทำคลิปแบบเอาฮาให้ดูกันด้วย แหม่ ดูแล้วเป็นกระบอกเสียงแทนคนเขียนข่าวเลย ข่าวลือเยอะจริง แต่ไม่ปล่อยออกมาซักที  สำหรับเจ้า iWatch ตัวนี้ มาดูรวมฮิตข่าวลือกันเลยดีกว่า

 
 
20 มกราคม 2014

ย้อนไปเมื่อ ตุลาคม 2013 ที่มีข่าวลือว่า Apple จับมือกับ LG ผลิตหน้าจอให้ iWatch 1.52 นิ้ว เป็นหน้าจอ OLED แล้วคาดว่ายังไงก็ต้องปล่อยภายในปี 2014

 
 
7 มกราคม  2014

มีข่าวแว่วมาว่า เกิดปัญหาขัดข้องในขั้นตอนการผลิต เกี่ยวกับแบตเตอรี่ ซึ่งปัญหานี้ยังไม่ได้บอกว่าจะแก้ได้เมื่อไหร่ ซึ่งทำให้ iWatch ต้องเลื่อนเปิดตัวไปก่อน
 
 

29 ตุลาคม 2013

หลังจากที่ Apple ตกลงให้ LG ผลิตหน้าจอ iWatch ให้แล้ว แต่ติดปัญหาตรง Apple กลัวว่าจะกลายเป็นแบรนด์ของ LG ไป จึงขอเปลี่ยนชื่อหน้าจอเป็น  RiTDisplay 

 
 
11 ตุลาคม 2013

มีข่าวออกมาว่า iWatch จะมีความสามารถระดับที่สามารถควบคุมอุปกรณ์ทุกอย่างในบ้านได้ เช่นปรับระดับอุณภูมิ เปิด/ปิด ทีวี เปิด/ปิด ไฟ

 
 
7 ตุลาคม 2013

มีข่าวออกมาเกี่ยวกับราคาของ iWatch  อยู่ที่ประมาณ $350 หรือประมาณ  12,000 บาท และคาดว่าความอัจฉริยะของ iWatch ที่สามารถเชื่อมต่อกับ iPhone  ได้ จะขายได้ประมาณ  5-10 ล้านเครื่อง และคาดว่า 12% ของผู้ใช้ iPhone จะต้องซื้อ

iWatch_Concept_Ciccarese

 
 

1 ตุลาคม 2013

มีแหล่งข่าวจากเกาหลีรายงานว่า iWatch จะมีสามขนาด คือ หน้าจอ 1.5 นิ้ว,1.4 นิ้ว และ 1.3 นิ้ว ซึ่งข่าวลือเรื่องขนาดของ iWatch ได้ถูกปล่อยออกมาก่อนหน้านั้นไปครั้งนึงแล้ว เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2013

 
 
14  กรกฎาคม 2013

มีแหล่งข่าวทางด้านการเงิน ปล่อยข่าวออกมาว่า Apple กำลังเพิ่มทีมงานผลิต iWatch เพราะถือว่าเป็นงานใหญ่ ที่ต้องใช้จำนวนคนมาก ดังนั้นอาจจะทำให้ iWatch เปิดตัวล่าช้าไปถึงปีหน้า (2014)

 
 
2 กรกฎาคม 2013

ภายใต้แบรนด์ iWatch  Apple ได้เดินทางไปจดทะเบียนการค้าอยู่หลายประเทศ เช่น แมกซิโก ไต้หวัน โคลัมเบีย และตุรกี และเริ่มจดเมื่อวันที่  3 มิถุนายน

 
 
30 มิถุนายน 2013

Apple ได้เดินทางไปจดสิทธิบัตร iWatch ที่ญี่ปุ่น และอาจจะประกาศเปิดตัวสิ้นเดือนมิถุนายน 2013

 
 
7 มิถุนายน 2013

ได้มีข่าวปล่อยออกมาว่า Apple จะเปิดตัว iWatch ในช่วงครึ่งหลังของปี 2013 แน่นอน (ฮา)

 
 
5 มิถุนายน 2013

มีข่าวซึ่งชัวร์แล้วว่า Apple ได้ไปจดสิทธิบัตรชื่อ iWatch ที่รัสเซีย แต่ไม่มีข่าวออกมาว่า iWatch จะเปิดตัวเมื่อไหร่ Apple เพียงแต่ทำการจดสิทธิบัตรชื่อนี้ไว้ก่อนที่คนอื่นจะชิงเอาชื่อนี้ไป

 
 
20 พฤษภาคม 2013

ได้มีข่าวเรื่องขนาดหน้าจอของ iWatch ว่าตอนแรกจะมีขนาด 1.8 นิ้ว แต่ทาง Apple ก็เปลี่ยนใจ ให้เหลือแค่ 1.5 นิ้วแทน นอกจากนั้น ข่าวจากโรงงาน Foxconn ยังออกมาบอกว่าได้มีการทดลองสั่งผลิต iWatch  1,000 เครื่องเรียบร้อยแล้ว

 
 
13 เมษายน 2013

มีข่าวออกมาว่า Apple กำลังบุกตลาดประเภทอุปกรณ์สวมใส่ ซึ่งก็คือนาฬิกา และจะเป็น SmartWatch ที่ทำหน้าที่เหมือน SmartPhone ทุกอย่าง (ว้าววว)

iwatch7

 
 

4 มีนาคม 2013

มีข่าวค่อนข้างคอนเฟิร์มว่า iWatch จะเปิดตัวแน่นอนภายในปี 2013 เพราะทีมผลิตมีเป็นร้อยคนยังไงก็ทัน (ฮา)

 
 
21  กุมภาพันธ์ 2013

มีข้อมูลทางสิทธิบัตรที่ Apple  ไปจดไว้เมื่อเดือน สิงหาคม 2011 รายละเอียดสิทธิบัตรคือ หน้าจอโค้งของหน้าจอสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบ Touch Screen และสามารถทำให้หน้าจอแห้งเองได้ ถ้าหากหน้าจอไปโดนน้ำมา

iWatch

 
 
12 กุมภาพันธ์ 2013

 ได้มีรายงานว่า มีทีมผลิต SmartWatch จำนวน 100 คน และหนึ่งในนั้นก็มีชื่อ James Foste ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ในทีมวิศวะกรของ Apple ซึ่งแน่นอนว่า Apple กำลังทำ SmartWatch อยู่แน่ๆ

 
 

10 กุมภาพันธ์ 2013

มีข่าวหลุดออกมาเรื่อง iWatch ว่าจะมีหน้าจอโค้ง พร้อมกับ iPhone จอโค้งด้วย

 
 

27 ธันวาคม 2012

เป็นครั้งแรกที่มีข่าวลือมาว่า Apple จะทำ iOS SmartWatch เนื่องจากการสังเกตเห็นว่าในปี 2011 Apple  ได้เปิดตัว iPod Nano ซึ่งใส่เป็นนาฬิกาได้ ก็สันนิษฐานกันไป

HhiIpodNanoSporArmbndWht

 

จะเห็นได้ว่าข่าว iWatch เยอะจริงๆ ลือมาประมาณ 3 ปี แต่ก็ยังไม่ปล่อยออกมาซักที ปีนี้จะลืออีกมั้ย? และสุดท้ายจะเปิดตัวเมื่อไหร่? ก็คงดูไปเรื่อยๆเนอะ

 

Source: Cnet