365 รุกตลาด 3G 850 MHz จับมือ GNET เตรียมแพ็กเกจราคาแรง ดันเป้าปีแรกทะลุ 100,000 ราย

 

365-gnet

 

365 ถือเป็นอีกผู้ให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ภายใต้โครงข่ายของ CAT หรือ บริษัท กสท โทรคมนามา จำกัด (มหาชน) ซึ่งได้เปิดให้บริการเรียบร้อยแล้ว โดยล่าสุดได้ลงนามข้อตกลงร่วมกับ บริษัท โมเดอน จีเน็ต จำกัด ผู้จัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือยี่ห้อ GNet ในการทำตลาดร่วมกัน เพื่อผลักดันยอดผู้ใช้บริการให้ทะลุเป้าตามที่ตั้งไว้ 100,000 ราย ภายในปีนี้

 

ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือน 365 ได้ส่งซิมทดลองให้ผู้ใช้ที่สนใจจาก Facebook และ เว็บไซต์ต่าง ๆ ประมาณ 3 หมื่น คน เพื่อให้ได้ทดลองใช้งานเครือข่าย ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ร่วมทดสอบจาก 65 จังหวัด แล้วพบว่าความเร็วเฉลี่ย 3G ทั่วประเทศสูงกว่าผู้ให้บริการรายอื่นถึง 2 เท่า ถือเป็นการยืนยันถึงคุณภาพของเครือข่าย 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ที่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วไทยทุกจังหวัด 928 อำเภอ 7,394 ตำบล

 

สำหรับการทำตลาดร่วมกับ GNet ในครั้งนี้จะมีการส่งสมาร์ทโฟน ลงตลาด 6-8 รุ่น โดยจะทยอยออกมาเรื่อยๆ ซึ่งตัวแรกที่จะเริ่มวางจำหน่าย พร้อมแพ็กเกจจาก 365 นั้นจะมีสมาร์ทโฟนรุ่น 714 และ Tablet รุ่น OLI ขนาดหน้าจอไม่เกิน 7 นิ้ว โทรออกได้ โดยเน้นที่สเปกขั้นต่ำจะมาพร้อมซีพียูระดับ Quad Core ภายใต้คอนเซ็ป Fast & Slim

 

สำหรับผู้ที่สนใจแพ็กเกจของ 365 ที่มีให้เลือกกว่า 20 แพ็กเกจ เริ่มต้นที่ 199 บ. สามารถสมัครใช้บริการผ่านเว็บไซต์ www.365.co.th หรือจะทำเรื่องย้ายค่ายเบอร์เดิมก็ได้ ส่วนช่องทางการชำระเงินจะชำระผ่านบัตรเครดิตบนเว็บไซต์เลยก็ได้ หรือจ่ายเงินที่ ร้านสะดวกซื้อ 7-11 โดย 365 จะจัดส่งซิมให้ฟรีถึงบ้าน

 

ทั้งนี้ 365 ยังได้เตรียมทำตลาดในรูปแบบ Music Marketing และ Sport Marketing ที่รับรองว่าจะมีอะไรมันส์ๆ สนุก ออกมาให้ได้เห็นกันอย่างแน่นอนภายในปีนี้

 

 

Zenfone 6 (A601CG) รุ่นใหม่ CPU 1.6 GHz หน่วยความจำ 16 GB พร้อมวางขายแล้ว ใน Lazada ราคา 7,990 บ.

 

ZenFone-6-all-2

พร้อมวางจำหน่ายแล้วสำหรับ ASUS Zenfone 6 รุ่นใหม่ในรหัส A601CG ซึ่งเป็นรุ่นที่มีราคาถูกกว่าตัวก่อนหน้าในรหัส (A600CG) ไปถึง 1,000 บาท (รุ่นแรกราคา 8,990 บาท) และสาเหตุที่ทำให้ราคาถูกลงไปนั้นคือการลดสเปกลงนั่นเอง

 

โดย Zenfone 6 (A601CG) รุ่นใหม่ จะลดซีพียูลง จาก 2.0 GHz เหลือเพียง 1.6 GHz ส่วนหน่วยความจำก็ 16 GB เท่ากัน รวมถึงสเปกอื่นๆ ด้วย

ZenFone-6-all

โดยในเว็บไซต์ Lazada ได้วางขายออนไลน์ พร้อมส่งเรียบร้อยแล้ว ในราคา 7,990 บาท หากใครลงทะเบียนอีเมล์ใหม่ ก็จะได้รับโค้ดส่วนลดไปอีก 100 บาท ให้ใช้งานได้ทันที

 

อ่อ สำหรับ Zenfone 6 (A600CG) รุ่นแรก จะมีขนาด 8 GB ขายใน Lazada ด้วยนะครับ ซึ่งจะมีราคา 7,990 บาท เท่ากัน แต่รุ่นนี้จะใช้ ซีพียู 2.0 GHz นะครับ เวลาเลือกซื้อก็สังเกตที่สเปกให้ดีล่ะครับ แต่ถ้าจะให้ดูง่ายใน Lazada จะประกาศเป็นรุ่น Asus Zenfone6 Dual SIM ครับ แต่ถ้ารุ่นใหม่ ก็จะประกาศเป็นชื่อ Zenfone 6 (A601CG)

 

สเปกที่น่าสนใจของ Zenfone 6 (A601CG)
• ซีพียู Intel Atom Z2560 dual-core 1.6 GHz
• แรม 2 GB LPDDR2 RAM
• หน่วยความจำ 16 GB เพิ่ม Micro Sd ได้สูงสุด 64 GB
• หน้าจอ 6 นิ้ว ความละเอียด HD 1280×720 พาเนลแบบ IPS
• รองรับ 2 ซิม ขนาด Micro SIM
• เครือข่าย 3G : UMTS :900/1900/2100, 2G :EDGE/GPRS : 850/900/1800
• ระบบปฏิบัติการ Android 4.3

 

 

เปิดตัวแล้ว Samsung Galaxy Alpha ลบคำว่าบอบบางไปได้เลย ด้วยบอดี้โลหะ หรูหรา มีสไตล์

 

GALAXY-ALPHA_KV_Woman_Gold_Horizontal_0804

 

แอบเป็นข่าวลือให้แซด… อยู่พอสมควรกับ Samsung Galaxy Alpha สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่มาพร้อมบอดี้โลหะ ดูหรูหรา แข็งแรง ลบภาพเดิมๆ ของมือถือซัมซุงที่มักใช้พลาสติกเป็นวัสดุ ที่ทำให้มีคนบางส่วนไม่ปราบปลื้ม

 

สเปกของ Samsung Galaxy Alpha
• หน้าจอ 4.7 นิ้ว Super AMOLED
• ซีพียู Samsung Exynos octacore (8 แกนสมอง)
• แรม 2 GB
• หน่วยความจำภายใน 32 GB
• มีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
• กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล
• กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล
• รองรับ 4G LTE
• ระบบปฏิบัติการ Android 4.4.4
• บางเพียง 6.7 มม.
• น้ำหนักรวม 115 กรัม

 

Galaxy Aplha จะวางจำหน่าย 5 สี คือ ขาว, ดำ, ทอง, เงิน และฟ้า โดยจะเริ่มวางจำหน่ายพร้อมกัน 150 ประเทศทั่วโลกในเดือนกันยายนนี้ แหมๆ กะว่าจะออกมาตัดหน้า iPhone 6 อีกแล้วสินะ ว่าแต่สังเกตในรูปที่ฝาหลังก็ยังดูเหมือนเป็นพลาสติกขึ้นลายคล้าย Galaxy S5 อยู่นะ ไม่น่าจะเป็นโลหะทั้งหมดอยู่ดี เอาเถอะครับยังไงก็รอดูของจริงกันอีกทีว่าหมากเกมนี้จะคุ้มค่ากับการลงทุนรึเปล่า

 

galaxy-alpha-official-1-620x381

galaxy-alpha-official-4-620x413

galaxy-alpha-official-5-620x413

galaxy-alpha-official-3-620x413

galaxy-alpha-official-2-620x413

galaxy-alpha-official-6-620x413

galaxy-alpha-official-11-620x413

galaxy-alpha-official-10-620x413

galaxy-alpha-official-8-620x413

galaxy-alpha-official-7-620x413

 

 

Source : Sammobile

 

 

ASUS ZenFone 4 ใหม่ จอ 4.5 นิ้ว เสริมฟีเจอร์กล้อง PixelMaster ต้อนรับวันแม่ราคา 3,990 บ.

 

zenfone5-4.5
 

เอซุส ประกาศเปิดตัว ZenFone 4 รุ่นใหม่ (A450CG) หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า ZenFone 4.5 หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว พร้อมเสริมเทคโนโลยีกล้อง PixelMaster ช่วยให้การถ่ายภาพและบันทึกภาพเคลื่อนไหวทำได้อย่างสวยงามไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบใดก็ตาม ด้วยระบบอินเตอร์เฟซแบบใหม่ ASUS ZenUI ที่มีการพัฒนามากกว่า 1,000 ครั้ง จึงทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและหลื่นไหลเป็นธรรมชาติ

 

มร. โจอี้ เฉิน ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ต้องขอบคุณแฟนๆเอซุสที่ให้การตอบรับ ZenFone ในตลาดสมาร์ทโฟนบ้านเราเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในโลกอินเทอร์เน็ต เราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ดีที่สุดคือเทคโนโลยีที่เข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีกล้อง PixelMaster ที่รวบรวมลูกเล่นต่างๆมากมายโดยเฉพาะโหมด Low-Light ที่จะช่วยให้ภาพสว่างขึ้นกว่า 400% ดังนั้น ZenFone 4 รุ่นใหม่นี้จะสามารถเติมเต็มความสุขของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างแน่นอน”

 

ZenFone 4 (A450CG / ZenFone 4.5) ประกอบไปด้วยการออกแบบที่สวยงามพร้อมวัสดุที่มีคุณภาพสูง การันตีโดย Reddot Award 2014 ด้วยหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว จับถือถนัดมือ พร้อมเทคโนโลยี Corning Gorilla Glass 3 สำหรับป้องกันการขีดข่วนและลดรอยนิ้วมือ ทำให้มือถือของคุณทนทานยิ่งขึ้น สามารถตอบสนองการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว รองรับการใช้งาน 3G แบบ 2 ซิม ประมวลผลด้วย Intel Atom Z2520 Processor with Intel Hyper-Threading Technology กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat แรม 1 GB พร้อมหน่วยความจำภายในเครื่อง 8 GB เพิ่มเมม Micro SD ได้สูงสุด 64 GB ฟรีพื้นที่เก็บข้อมูลบน ASUS Webstorage ขนาด 5 GB ตลอดอายุการใช้งาน สำหรับการเก็บภาพ วีดีโอ แอพพลิเคชั่น และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ถือเป็นโอกาสอันดีที่คุณลูกจะเลือกสรรสมาร์ทโฟนคุณภาพคับแก้วไว้เป็นของขวัญแทนใจสำหรับคุณแม่อันเป็นที่รัก ด้วยฟีเจอร์กล้องโดนๆอย่าง PixelMaster สำหรับแบ่งปันความรู้สึกดีๆแก่กันและกัน แถมยังมี ASUS ZenUI ที่มาพร้อมลูกเล่นเด็ดๆมากมาย อาทิ Easy Mode ที่จะทำให้คุณแม่สามารถมองเห็นไอคอนในขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างชัดเจน ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 3,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีด้วยกัน 5 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว สีแดง สีเหลือง และสีฟ้า พร้อมวางจำหน่ายเดือนสิงหาคมนี้

 

PixelMaster – การถ่ายภาพให้เหมือนมืออาชีพ ในทุกๆโอกาส

pixelmaster

 

PixelMaster เป็นเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพสุดพิเศษจาก เอซุส ที่จะรวมคุณสมบัติต่างๆมากมาย อาทิ Low-Light Mode, Time Rewind, Selfie Mode และ Depth of Field Mode ที่จะทำให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอที่สวยงามได้อย่างง่ายดาย

 
http://youtu.be/7qW-kkMBnX4
 

Low-light Mode จะเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องถ่ายรูปในขณะที่ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย โดยจะปรับเปลี่ยนขนาดของพิกเซลได้อย่างชาญฉลาด สามารถปรับเพิ่มความสว่างได้ถึง 400% และความคมชัดถึง 200% จึงทำให้ผู้ใช้ได้รูปภาพที่ชัดและสว่างโดยไม่จำเป็นต้องใช้แสงแฟลช นอกจากนี้ Electronic Image Stabilizer (EIS) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อยโดยจะส่งผลให้ได้ภาพที่คมชัด นอกจากนี้ Low-light Mode ยังสามารถใช้ได้กับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย

 

การถ่ายภาพเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ท้าทายเนื่องจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ แต่ Time Rewind จะสามารถจับภาพในช่วงเวลาที่สมบูรณ์ได้อย่างง่ายดาย โดยการถ่ายภาพหลายๆ ภาพอย่างอัตโนมัติทำให้โอกาสของการได้รับภาพที่สมบูรณ์มีมากขึ้น ภายหลังจากที่ผู้ใช้ถ่ายภาพเหล่านั้นแล้ว ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปดูภาพเหล่านั้นและเลือกภาพที่ดีสุดได้หรือบันทึกภาพทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

 

Selfie Mode คือนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่จะทำให้สามารถถ่ายภาพตนเอง (Selfies) ได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยการใช้กล้องด้านหลังที่มีความละเอียดสูงแทนที่กล้องหน้าในการถ่ายภาพตนเองหรือกับกลุ่มเพื่อนได้ กล้องถ่ายภาพจะตรวจจับจำนวนของคนที่อยู่ในกรอบอย่างอัตโนมัติ และจะเริ่มนับถอยหลังก่อนที่จะถ่ายภาพสามภาพ หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดเพื่อที่จะบันทึกหรือแบ่งปันทางออนไลน์

 

Depth of Field Mode จะทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่โฟกัสได้อย่างคมชัด พร้อมพื้นหลังที่เบลอ ซึ่งการถ่ายภาพเช่นนี้ช่างภาพจะรู้กันเป็นอย่างดีว่า สามารถทำได้กับกล้องถ่ายภาพแบบไฮเอนด์เท่านั้น

 

ASUS ZenUI — ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และสวยงาม

http://youtu.be/gcWFTWQhg18
 
ASUS ZenUl ระบบอินเตอร์เฟซของโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการพัฒนาจากแนวคิดของความมีอิสรภาพ พร้อมกับการออกแบบที่มีประสิทธิภาพด้วยไอคอนที่ทันสมัย ธีมสีสดใส ประกอบไปด้วย 2 คุณสมบัติเด่น คือ What’s Next และ Do It Later ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานจัดการกับข้อมูลที่หลากหลายได้อย่างอิสระ และทำให้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

What’s Next จะถ่ายทอดข้อมูลปัจจุบันที่สำคัญและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ เช่น การนัดหมายที่ใกล้จะมาถึง ข้อความใหม่ รวมถึงสายที่ไม่ได้รับจากผู้ติดต่อคนสำคัญ สภาพอากาศสำหรับจุดหมายปลายทางต่อไป และอื่นๆ อีกมากมาย สังเกตได้ง่าย เช่น หน้าจอข้างหน้าและตรงกลางในขณะที่ล็อค Home Screen และ Notification Drawer

 

Do It Later จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถมุ่งเน้นไปที่งานสำคัญที่จะต้องทำ ถ้าผู้ใช้อยู่ระหว่างการเขียนอีเมลและรับสายโทรเข้า ก็จะมีปุ่มด้านล่างทำการเตือนให้ผู้ใช้โทรกลับสายที่โทรเข้าในภายหลัง ผู้ใช้สามารถบันทึกสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ เช่น บทความ วีดีโอบน YouTube หรือเว็บไซต์อื่นๆ การเตือนหรือการบันทึกแต่ละอันจะได้รับการจัดเก็บไปที่แอพพลิเคชั่น Do It Later ที่ได้รวบรวมทางลัดของสิ่งที่จะต้องทำเข้าไปด้วย เช่น โทรหาผู้ติดต่อหรือเข้าชมเว็บไซต์ต่าง ๆ

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.asus.co.thและ www.facebook.com/ASUSTHAILAND,www.twitter.com/ASUSTHAILAND หรือโทรสอบถามที่ เอซุส คอลเซ็นเตอร์ 02-401-1717

 

Source : notebookspec

 

 

เล่นแชต Line, Facebook ขณะขับขี่ จับจริง ปรับจริง เริ่มแล้ววันนี้

 

texting_while_driving

 

ผมเองก็เป็นคนหนึ่งที่สูญเสียบุคคลสำคัญในครอบครัว นั่นคือ คุณย่า จากอุบัติเหตุที่คนขับคุยโทรศัพท์ขณะขับรถ เมื่อหลายปีก่อน ซึ่งถือเป็นการสูญเสียที่ไม่น่าเกิดขึ้น เหตุการณ์นั้น ทำให้ผมระลึกอยู่เสมอ ว่าไม่ควรเล่นมือถือขณะขับขี่เป็นอันขาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแชตหรือการเล่นแอพ ต่างๆ บนมือถือ ยิ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น

 

และวันนี้ ถึงเวลาแล้วที่เราควรจะเริ่มจริงจังกับการขับขี่อย่างไม่ประมาท ซึ่งตั้งแต่ วันที่ 5 ส.ค.57 นี้เป็นต้นไปเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มมาตรการพิเศษ “จับจริงจอมแชท” สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือในขณะขับรถเนื่องจากเป็นอันตรายเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุและเป็นการกระทำที่ผิดตามพ.ร.บ.จราจรทางบก แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่8) พ.ศ.2551 ตามมาตร 43 ห้ามมิให้ผู้ขับรถใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ขณะขับรถเว้นแต่การใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่โดยมีอุปกรณ์เสริมสำหรับสนทนา(สมอลล์ทอล์ค)โดยผู้ขับขี่ไม่ต้องถือหรือจับโทรศัพท์

 

นอกจากนี้ยังรวมไปถึงกรณีการใช้อุปกรณ์ติดตั้งสมาร์ทโฟนบนพวงมาลัย หรือสแตนดี้ เพื่อใช้ในแชต ซึ่งหากเราขับไปแชตไป ขอบอกว่าโดนจับจริงไรจริงแน่นอนครับ ที่สำคัญพี่ตำรวจเค้าจะมีกล้องหรือพกมือถือไว้ถ่ายภาพซูมไว้เป็นหลักฐานมัดตัว พร้อมจับกุม หรือตักเตือนกันก่อน (อันนี้ไม่ค่อยจะมีหรอก) ก็แล้วแต่ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งหากพบว่ามีความผิดตามกฎหมายดังกล่าว จะมีโทษปรับไม่เกิน 400-1,000 บาท

Standy-Mobile

 

สำหรับใครที่ยังชอบแชตตลอดเวลา ไม่ว่าจะทั้ง Facebook Messenger, Line หรือเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค Instagram, Facebook, Twitter ในระหว่างขับขี่ ขอร้องเลยเถอะครับ ว่าให้พักไว้ก่อน ขอให้มีสมาธิอยู่กับการขับขี่ตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยของผู้อื่น และตัวคุณเองนะครับ อันนี้จากใจของคนสูญเสียคนที่เรารัก แบบไม่สามารถมีอะไรมาทดแทนได้
 
Source : Dailynews
 

 

Acer Liquid E3 และ Z4 เซลฟีสมาร์ทโฟน สเปกสุดคุ้ม ราคาประหยัด วางขายแล้ว

 

Acer เปิดตัว สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ใหม่ล่าสุด 2 รุ่น ในซีรีส์ E และ Z โดยเน้นดีไซน์สุดล้ำ สเปกแรง กล้องหน้าฟรุ้งฟริ้ง เอาใจสาวกที่ชอบ Selfie โดยเฉพาะ ในราคาสุดประหยัด

 

Acer Liquid E3

Liquid_E3
• หน้าจอ IPS ความละเอียด HD 1080 x 720 พิกเซล ขนาด 4.7 นิ้ว
• เทคโนโลยีหน้าจอ One-Glass-Solution ที่บางกว่าจอแสดงผลทั่วไปเพิ่มความสดใสสวยงามให้กับภาพ
• หน่วยประมวลผล Quad-core MT6589 ความเร็ว 1.2 GHz
• แรม 1 GB
• หน่วยความจำในตัว 4 GB
• ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.2.2 (Jelly Bean)
• กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล พร้อม “ultra-fast focus” เทคโนโลยีที่ช่วยให้โฟกัสได้อย่างรวดเร็ว
• กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
• พร้อมแฟลช LED
• AcerRAPID™ ตั้งค่าปุ่มเองได้ โดยใช้เป็นปุ่มสำหรับถ่ายภาพ หรือใช้เป็นทางลัดในการเข้าถึงแอพพลิเคชั่นต่างๆ รวมทั้งช่วยให้การปิดเปิดเครื่อง หรือกดรับสายหรือวางสายทำได้ในปุ่มเดียว
• Acer Float UI ที่ช่วยให้เปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นหลัก กล้อง แผนที่ เครื่องคิดเลข สมุดโน้ต ในแบบ Multitask โดยไม่ต้องปิดแอพพลิเคชั่นอื่นที่ยังต้องการใช้งาน
• น้ำหนักเพียง 135 กรัม

Acer Liquid E3 วางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

 

Acer Liquid Z4

Liquid_Z4
• หน้าจอ 4 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 พิกเซล
• หน่วยประมวลผล Dual-Core MT6572 ความเร็ว 1.3 GHz
• ระบบปฏิบัติการ Android 4.2.2 Jelly Bean
• แรม 512 MB
• หน่วยความจำในตัว 4 GB
• โดดเด่นด้วยระบบเสียง DTS Sound™ ลำโพงคุณภาพที่เพิ่มประสบการณ์ความบันเทิงได้อย่างเต็มเปี่ยมแบบไม่สะดุด
• ดีไซน์ขอบโค้งมนเรียบง่ายจับถนัดมือ
• กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล (ไม่มีกล้องหน้า)
• รองรับระบบเครือข่าย Wi-Fi, Bluetooth และ 3G
• ใช้งานง่ายด้วยการออกแบบโหมดการใช้งานให้เหมาะกับผู้ใช้ที่แตกต่างกัน เช่น Keypad Mode, Classic Mode, Basic Mode และ Senior Mode
• มาพร้อมแอพ Polaris Office ที่ให้คุณสร้างและแก้ไขงานเอกสารต่างๆ ในฟอร์แมทของ Microsoft Office ได้อย่างง่ายดาย
• น้ำหนักเบาเพียง 122 กรัม

Acer Liquid Z4 จำหน่ายในราคา 2,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

 

 

เงิบ… เมื่อ ASUS Zenfone 5 จะอัพสเปกขึ้นเป็น 16 GB ในราคาเท่าเดิม

 

asus-zenfone-5-16g

 

จากกระแสความแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ของ ASUS Zenfone 5 ซึ่งตอนนี้ของก็ยังขาดตลาดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็มีข่าวแว่วตามโลกออนไลน์ออกมาว่า ทาง ASUS ประเทศไทย กำลังจะนำ Zenfone 5 ล็อตใหม่ล่าสุด ที่มีการปรับขนาดความจุจากเดิม 8 GB เป็น 16 GB แต่ยังขายในราคาเดิม คือ 5,990 บ. งานนี้ใครที่ซื้อไปก่อนคงเงิบไปตามๆ กัน ที่สำคัญอาจจะมีดราม่ายาวมาให้ติดตามกันสินะ อิอิ…

 

ส่วนสเปกอื่นๆ ยังคงเหมือนเดิม ทั้ง ซีพียู Intel สปีด 1.6 GHz (ไม่ใช่ 2.0 GHz เหมือนเครื่องจากไต้หวัน) ส่วนแรมขนาด 2 GB เท่าเดิม

 

ล่าสุดมีข่าววงในบอกมาว่าสาเหตุที่เพิ่มเป็น 16 GB เพราะชดเชยกับการเปลี่ยนไปใช้หน้าจอแบบ Soda-Lime Glass ที่ไม่ค่อยทนทานต่อรอยขีดข่วน จากเดิมที่ใช้หน้าจอแบบ Gorilla Glass ที่ทนรอยขีดข่วนมากกว่าถึง 10 เท่า ฉะนั้นหากเป็นจริงตามนี้ สาวกที่ซื้อก่อนก็น่าจะสบายใจได้นะครับ

 

อัพเดท ข่าวยืนยันจากทาง ASUS ประเทศไทย แล้ว ว่าจะไม่มีการลดสเปกหน้าจออย่างที่เป็นข่าว และยังคงอัพสเปก Rom เป็น 16 GB แล้วขายในราคาเดิมคือ 5,990 บ. ส่วนรุ่นเดิมที่มีขนาด 8 GB ก็จะปรับลดราคาลง ว่าแต่งานนี้ลูกค้าที่ซื้อไปก่อน จะได้รับการเยี่ยวยายังไงละเนี่ย ฝากผู้บริหาร ASUS คิดเรื่องนี้ต่อด้วยนะครับ (ที่มา : mxphone)

 

สเปก ASUS Zenfone 5
• ซีพียู Intel Atom ความเร็ว 1.6GHz 2×2 (Z2560)
• แรม 2 GB
• หน้าจอ Super IPS 5 นิ้ว HD 720p
• รองรับ 3G คลื่น 850/900/1900/2100MHz
• ความจุ 16GB (เดิม 8GB) (เพิ่มการ์ด microSD ได้สูงสุด 64GB)
• กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล F2.0 Pixelmaster
• กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
• Bluetooth 4.0, Wi-Fi Direct, Wi-Fi 802.11 b/g/n, GPS/A-GPS GLONASS
• ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 Jelly Bean พร้อม Zen UI
• รองรับ 2 SIM
• แบตเตอรี่ 2110 mAh

 

ราคา 5,990 บาท

 

Source : Whatphone

 

[Sneak Preview] OPPO N1 Mini สุดยอดสมาร์ทโฟน กล้อง Selfie หมุนได้ 195 องศา

 

OPPO N1 Mini ถือเป็นมือถือกล้องฟรุ้งฟริ้งที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพแบบ Selfie โดยเฉพาะ ด้วยกล้องที่สามารถหมุนได้ 195 องศา จะถ่ายด้านหน้าหรือด้านหลังก็เพียงแค่หมุนกล้องเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การใช้งานสำหรับสาวก Selfie ที่ต้องการกล้องหน้าความละเอียดสูง ซึ่ง OopsMobile ก้ได้รับเกียรติเชิญเข้าร่วมงาน OPPO N1 Mini Blogger Day เลยถึอโอกาสนี้เก็บภาพมาฝากครับ

 

OPPO N1 mini มาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว ทำให้มีขนาดที่เหมาะมือ กะทัดรัดยิ่งขึ้น ความละเอียดหน้าจอระดับ HD 1280 x 720 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 293 พิกเซลต่อนิ้ว

preview-oppo-n1mini-01

 

กล้องหมุนได้ 195 องศา ความละเอียด 13 พิกเซล เซนเซอร์ CMOS จากโซนี่ พร้อมเลนส์ที่มาพร้อมรูรับแสงกว้างถึง F2.0ให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้โดยไม่ต้องใช้แฟลช แต่เพื่อให้รองรับได้ทุกสภาพแสงจึงได้เตรียมแฟลช LED มาให้ 1 ดวง จากเดิมในรุ่นที่แล้วจะมี 2 ดวง

preview-oppo-n1mini-02

 

นอกจากกล้องที่หมุนได้แล้ว ยังมีโหมดถ่ายภาพ Selfie ที่ช่วยปรับให้ใบหน้าเนียนใส และยังมีโหมด Ultra HD ที่ถ่ายภาพต่อเนื่อง 6 ภาพแล้วนำภาพที่ดีที่สุดมารวมกัน จนได้ความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล ซึ่งทำให้เก็บรายละเอียดของภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น นำไปอัดเป็นรูปโปสเตอร์ขนาดใหญ่ได้สบายๆ

preview-oppo-n1mini-07

 

ด้านข้างก็ดูไม่หนา ด้วยความบาง 9.2  มม. ดูตัวเลขแล้วเหมือนจะหนา แต่ดีไซน์ที่โค้งรับไปกับบอดี้ด้านหลังจึงทำให้ดูบาง

preview-oppo-n1mini-04

 

ขอบด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ช่องเสียบสาย USB และลำโพง

preview-oppo-n1mini-03

 

ช่องใส่ซิมต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิมเหมือน iPhone ถัดลงมาจะเป็นปุ่มโวลุ่มปรับระดับเสียง

preview-oppo-n1mini-05

 

ปุ่ม Power/Sleep อยู่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ตัวบอดดี้สีขาวจะเป็นผิวพลาสติกเนื้อด้าน ตัดขอบด้านข้างด้วยเส้นเมทาลิกคู่

preview-oppo-n1mini-06

 

เพื่อเพิ่มความสะดวกในการถ่าย Selfie ได้มากยิ่งขึ้น OPPO ได้เตรียม Oclick รีโมทชัตเตอร์บลูทูธ มาให้อีกด้วย โดยสามารถสั่งกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายรูปได้เลย ขายแยกเป็นอุปกรณ์เสริมในราคา 990 บาท

preview-oppo-n1mini-08

 

อุปกรณ์ในกล่องที่มีมาให้ คือ สาย USB, หัวชาร์จอะแดปเตอร์ และ หูฟัง

preview-oppo-n1mini-09

 

หัวอะแดปเตอร์ดีไซน์คุ้นๆ เนอะ ว่ามั้ย

preview-oppo-n1mini-10

 

สุดท้าย ย้อนให้ดูกล่องแพกเกจของ OPPO N1 Mini กับกล่อง OClick ที่ดูเรียบหรู

preview-oppo-n1mini-11

 

OPPO N1 mini มี 2 สีให้เลือก โดยตอนนี้วางจำหน่ายตัว สีขาวไปแล้ว ส่วนสีฟ้าอ่อน จะวางจำหน่ายประมาณกลางเดือน สิงหาคม นี้ สนนราคา 12,990 บ.

n1-mini_16

 

สเปก OPPO N1 Mini
• หน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280×720 พิกเซล  (293 PPI) ใช้หน้าจอแบบ IPS
• ซีพียู Qualcomm MSM8928 Quad-core 1.6GHz
• แรม 2 GB
• หน่วยความจำในตัว 16 GB (เพิ่มการ์ดหน่วยความจำไม่ได้)
• กล้อง 13 ล้านพิกเซล หมุนได้ 195 องศา พร้อมโหมด Ultra HD 24 ล้านพิกเซล
• แฟลช LED 1 ดวง
• โหมดถ่ายภาพ Normal, HDR, Ultra-HD, Beautify, Panorama, Slow Shutter, Audio Photo, GIF mode
• ขนาดซิม Micro SIM
• เครือข่าย รองรับ 3G 850/900/1700/1900/2100MHZ

• ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 พร้อม ColorOS  1.4
• การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0, NFC, USB OTG, GPS
• แบตเตอรี่ 2140 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้
• ขนาด 148.4 x 72.2 x 9.2 มม.
• น้ำหนัก 150 กรัม

 

ณ จุดนี้ ก็ชมรายละเอียดคร่าวๆ ไปก่อนนะครับ ไว้ได้เครื่องมารีวิวเมื่อไร จะรีวิวแบบจัดเต็มมาให้ชมกันนะครับ พร้อมทิ้งท้ายกับภาพบรรยากาศภายในงาน Blogger Day

 

 

[Sneak Preview] Nokia Lumia 930 ครั้งแรกของการเปิดตัวในนาม Microsoft Device

 

Nokia-Lumia-930-Apps
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 57 ที่ผ่านมา สำหรับ Nokia Lumia 930 ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในนามของ Microsoft Device ประเทศไทย โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเรือธงตัวสำคัญของตระกูล Lumia ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows Phone 8.1 พร้อมบอดี้โลหะ แข็งแรง ทนทาน ดูมีระดับ มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกันคือ ส้มสด, เขียวสด, ดำ และ ขาว โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป เอาล่ะครับ ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวจริงกัน เราได้เก็บภาพจากงานแถลงข่าวมาพรีวิวให้ชมกันก่อน

 

Lumia 930 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว Full HD

Nokia-Lumia-930-01

 

แม้หน้าจอจะใหญ่ขึ้น แต่ตัวบอดี้ยังคงกะทัดรัด ถือใช้งานด้วยมือเดียวได้สะดวก

Nokia-Lumia-930-02

 

บอดี้ใช้วัสดุเป็นโลหะ ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ ดีไซน์ตรงบริเวณขอบให้โค้งรับสัมผัสกับการถือใช้งาน

Nokia-Lumia-930-03

 

ขอบด้านข้างตัวเครื่องค่อนข้างหนาไปหน่อย และยิ่งดีไซน์เหลี่ยมๆ ทำให้ดูหนาไปอีก

Nokia-Lumia-930-04

 

ขอบด้านบนมาพร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และสล็อตถาดใส่นาโนซิม

Nokia-Lumia-930-05

 

กล้องหลัง PureView ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED คู่ ส่องแสงถ่ายได้ถึง 3 เมตร และยังมีไมโครโฟน 4 ทิศทางมาให้ในตัว เพื่อการบันทึกวิดีโอด้วยระบบเสียง Dolby Surround Sound

Nokia-Lumia-930-07

 

Lumia 930 มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows Phone 8.1 ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Qualcomm Snapdragon 800 Quad-core 2.2 GHz, หน่วยความจำภายใน 32 GB (เพิ่ม SD Card ไม่ได้), แรม 2 GB

Nokia-Lumia-930-08

 

เทียบขนาดกับ Lumia 1020 ตัวเครื่องยาวกว่าเล็กน้อย แต่ Lumia 930 มีพื้นที่หน้าจอมากกว่า

Nokia-Lumia-930-09

 

เทียบความกว้างแล้ว ขนาดพอๆ กัน

Nokia-Lumia-930-10

 

เทียบกล้องหลัง ยังไง Lumia 1020 ก็ยังสเปกสูงกว่าเป็นเท่าตัว

Nokia-Lumia-930-11

 

Nokia Lumia 930 สนนราคา 19,890 บาท พร้อมโปรโมชั่น 1,000 คนแรก รับ Treasure Tag WS-2 มูลค่า 990 บาท ฟรี ส่วนโปรโมชั่นสำหรับ dtac TriNet ได้ลดค่าบริการรายเดือน 50 % นาน 1 ปี

product2-jpg

 

7 สิ่งมหัศจรรย์ใน OPPO Find 7 สมาร์ทโฟน สุดฟรุ้งฟริ้งในอวังกาศ

 

oppo_find7_03

 

เมื่อคืนวันที่ 17 มิถุนายน ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปร่วมงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง OPPO Find 7 อย่างเป็นทางการ และอลังการดาวล้านดวงมากๆ จนรู้สึกแปลกใจว่าแบรนด์ OPPO เติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขนาดนี้เลยเหรอ เพราะด้วยรูปแบบการจัดงานต้องบอกว่ายิ่งใหญ่มากจริงๆ คือแค่พนักงานที่คอยสาธิตฟังก์ชั่นการใช้งานตามฐานต่างๆ กว่า 7 ฐาน ก็เยอะมากจะแทบจะไม่มีที่ให้แขก สื่อมวลชนได้ยืนกันแล้วล่ะครัชชชช (อันนี้แซวนะ เปรียบเทียบให้รู้ว่าเยอะมากกว่าปกติจริงๆ)

 

เอาล่ะครับสำหรับใครที่อยากจะทำความรู้จักกับ OPPO Find 7 ว่ามันน่าสนใจแค่ไหน ผมจะสรุปรวบตึง ให้เห็นกันชัดๆ กับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ใน OPPO Find 7 ไปดูกันเลยว่ามันจะฟรุ้งฟริ้งแค่ไหน

 

1. หน้าจอ 5.5 นิ้ว 2K Quad HD

3

เริ่มจากสิ่งแรกคือหน้าจอของ Find 7 ได้พัฒนาต่อยอดจากระดับ Full HD ใน Find 5 โดยร่วมกับ JDI ผู้ผลิตจอภาพระดับโลกที่ได้พัฒนาให้มีควมคมชัด และปรับสมดุลภาพหน้าจอให้ดูสมจริง บนขนาด 5.5 นิ้ว ที่ให้ความละเอียดสูงระดับ 2K Quad HD (2560 x 1440 พิกเซล) มากกว่า 4 เท่าของระบบ HD (HD = 1280×720 พิกเซล) โดยมีความหนาแน่นของพิกเซลต่อตารางนิ้วถึง 538 PPI (Pixel Per Inch) เรียกว่าหน้าจอของ OPPO Find 7 ออกมาปะทะกับคู่แข่งอย่าง LG G3 แบบเต็มๆ

 

2. VOOC Rapid Charge ระบบชาร์จแบตไว 4 เท่า

1_fast charge
ถือเป็นรุ่นแรกของ OPPO ที่ได้นำนวัตกรรมการชาร์จความเร็วสูง VOOC Rapid Charge ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้เต็ม 100% ภายในเวลา 40 นาที ซึ่งเร็วกว่าการชาร์จแบบปกติถึง 4 เท่า สาเหตุที่ทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นก็เพราะมีการออกแบบให้อะแดปเตอร์มีขั่วต่อพิเศษถึง 7 PIN ทำให้การประจุไฟมีประสิทธิภาพและเร็วยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะร้อนและเป็นอันตราย

 

3. จัดเต็มซีพียู Quad Core 2.5 GHz แรม 3 GB

oppo_find7_01
สิ่งนี้ถือว่าเป็นจุดที่ OPPO Find 7 ใช้เอาชนะคู่แข่งแบนด์ดังได้หมดก็ว่าได้ ด้วยซีพียู 4 แกนสมอง (Quad Core) Qualcomm Snapdragon 801 ตัวล่าสุด ความเร็ว 2.5 GHz ระบบประมวลผลกราฟฟิก Adreno 330 พร้อมด้วยแรมขนาด 3 GB เพียงพอต่อการรันกราฟฟิกหรือใช้งานแอพหลายๆ ตัวพร้อมกันได้อย่างลื่นไหล และที่สำคัญ ยังให้พื้นที่หน่วยความจำในตัวเครื่องมามากถึง 32 GB และเพิ่ม Micro SD ได้สูงสุด 128 GB

 

4. ถ่ายวิดีโอระดับ 4K ถ่ายภาพนิ่ง 50 ล้านพิกเซล

oppo_find7_02
กล้องหลังมาพร้อมเซนเซอร์รุ่นล่าสุดของ Sony Stacked CMOS IMX214 กับความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างถึง f2.0 ถ่ายที่มืดได้สบายๆ นอกจากนี้ยังรองรับการบันทึกวิดีโอด้วยความละเอียดสูงระดับ 4K (3840 x 2160 พิกเซล) ซึ่งละเอียดกว่า Full HD ถึง 4 เท่า เรียกว่าชัดบาดตากันไปเลย แต่ที่ลำบากกว่านั้นคงต้องซื้อทีวีไหม่ที่รองรับภาพ 4K หรือ Ultra HD เพื่อเอาไว้รับชมนั่นเอง เหอะๆ และยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slow Motion 120 เฟรม/วินาที ที่ความละเอียดระดับ HD 720 P

 

ส่วนของการถ่ายภาพนิ่งจะมีเทคโนโลยี Pure Image 2.0 ที่จะเลือกส่วนที่ดีที่สุดของทั้ง 10 ภาพถ่ายแล้วนำมารวมกันจนได้ภาพความละเอียดสูง 50 ล้านพิกเซล สามารถพิมพ์ออกมาได้ภาพขนาดใหญ่เท่า Billboard

 

5. เปิดชัตเตอร์ได้นานสุด 32 วินาที

5
OPPO Find 7 มาพร้อมโหมดถ่ายภาพ Slow Shutter ที่สามารถเปิดหน้ากล้องหรือชัตเตอร์ได้นานสูงสุดถึง 32 วินาที เพียงเรามีขาตั้งกล้อง แล้วเข้าสู่โหมดนี้ จากนั้นก็ตั้งเวลาถ่ายตามต้องการ จะให้เปิด 10 วิ 20 วิ หรือสูงสุด 32 วินาที เพื่อถ่ายภาพแสงไฟจากรถบนท้องถนนให้เป็นเส้นๆ หรือจะวาดเป็นภาพกราฟิกจากไฟฉาย หรือดอกไม้ไฟก็ได้

 

6. Skyline Notification แสงไฟแจ้งเตือนสุดล้ำ

5OPPO Find7
ไฟแจ้งเตือนจากแอพต่างๆ ไม่ได้กะโหลกกะลานะเลยนะครับ มีการออกแบบอย่างตั้งใจ ด้วยการใช้นวัตกรรมกำเนิดแสง LGF (Light Guide Film) เป็นครั้งแรก ด้วยจุดกำเนิดแสงที่เรียงกันบนแผง LGF ถึง 3,140 จุด เพื่อทำให้เกิดเส้นแสงสีน้ำเงินสุดล้ำตรงส่วนท้ายของตัวเครื่อง

 

7. รองรับ 4G พร้อมวัสดุเกรดเดียวกับเครื่องบินอวกาศ

4_4G
แม้ 4G ยังไม่บังเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการในเมืองไทย แต่ค่ายไหนที่มีให้ลองใช้ก็สามารถพร้อมรองรับได้ทันที เพื่อการชมวิดีโอความละเอียดสูงแบบออนไลน์ไม่สะดุด นอกจากนี้ในแง่ของการดีไซน์ยังได้ผลิตจากวัสดุเกรดเดียวกับเครื่องบินอวกาศ ด้วยไทเทเนี่ยม-อลูมิเนี่ยมอัลลอย คงทน แข็งแรง น้ำหนักเบา ระบายความร้อนได้ดี และดีกว่าแมกนีเซี่ยมอัลลอยที่นิยมใช้กันทั่วไป

 

OPPO Find 7 วางจำหน่ายแล้วในราคา 19,990 บ.