Unbox แกะกล่อง Galaxy Note 4 เครื่องศูนย์ไทย

 
เปิดตัวและวางจำหน่ายในไทยเรียบร้อยแล้วกับ Samsung Galaxy Note 4 ที่เริ่มวางขายแบบจำกัดเพียง 100 เครื่องต่อวันในงาน Thailand Mobile Expo ที่ผ่านมา ส่วนใครที่พลาดจาก 100 เครื่องแรก แล้วจองสิทธิ์ในราคาพิเศษ 24,900 บาท จากในงาน ก็คงต้องรอรับหลังงานตามวันที่กำหนดกันอีกที ฉะนั้นก่อนจะถึงวันที่ต้องรับเครื่อง เรามาเตรียมตรวจสอบกันก่อนดีกว่าในกล่อง Galaxy Note 4 เครื่องศูนย์ไทย มีอะไรมาให้บ้าง

 

กล่องแพ็กเกจสไตล์เดิม แต่จะมีพิมพ์เลข 4 บนหน้ากล่องตัวใหญ่ชัดเจน

Unbox-Galaxy-Note4-TH-01

 

อุปกรณ์ที่ให้มาภายในกล่อง ตัวเครื่อง Note 4, แบตเตอรี่ 3220 mAh, หัวชาร์จอะแดปเตอร์, สาย USB 2.0, ชุดเปลี่ยนหัวปากกา S Pen จะมีหัวปากกาสำรองมาให้ 5 อัน, คู่มือและใบรับประกัน, หูฟังแบบ in-ear พร้อม earbuds อีก 2 ขนาด (2 คู่)

Unbox-Galaxy-Note4-TH-02

 

Galaxy Note 4 ถือเป็นรุ่นแรกของซัมซุงที่ใช้หน้าจอแบบ Quad HD Super AMOLED ที่ให้ความละเอียดและสีสันคมชัดถึง 2560 x 1440 พิกเซล แต่ยังคงมีขนาด 5.7 นิ้ว เท่ากับ Note 3

Unbox-Galaxy-Note4-TH-03

 
กรอบบอดี้ใช้วัสดุเป็นโลหะ ทำให้ Note 4 ดูแข็งแรง และหรูหราพรีเมียมยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเคลือบสีตามตัวเครื่องไว้อีกด้วย และมีการเจียรลบเหลี่ยมตรงสันขอบให้เห็นเนื้อโลหะ ส่วนความบางอยู่ที่ 8.5 มม. ส่วนน้ำหนักอยู่ที่ 176 กรัม หนักกว่า Note 3 ขึ้นมานิดหนึ่ง จาก 168 กรัม

Unbox-Galaxy-Note4-TH-05

 

ตรงขอบหน้าจอจะมีการดีไซน์ด้วยกระจกที่โค้งมน ซึ่งกำลังเป็นเทรนด์ที่นิยมใช้ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธง

Unbox-Galaxy-Note4-TH-07

 

ฝาด้านหลังยังคงถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ และใช้วัสดุพลาสติกที่มีลายหนังเทียมเป็นเอกลักษณ์อยู่เช่นเดิม

Unbox-Galaxy-Note4-TH-04

 

กล้องหน้าเอาใจสาวกเซลฟีด้วยความละเอียด 3.7 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.9 ถ่ายในที่แสงน้อยได้สว่างยิ่งขึ้น พร้อมโหมด Wide Selfie ที่สามารถถ่ายเซลฟีมุมกว้างได้ถึง 120 องศา

Unbox-Galaxy-Note4-TH-10

 

กล้องหลังมาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมเพิ่มระบบชดเชยภาพสั่นไหวในตัวเลนส์ Smart OIS ถัดลงมาจะมีแฟลช LED และ Heart Rate เซนเซอร์ กับ UV เซนเซอร์

Unbox-Galaxy-Note4-TH-06

 

วันรับเครื่องให้ลองทดสอบ Heart Rate เซนเซอร์ วัดอัตรากการเต้นของหัวใจดู ว่ามีแสงสีแดงขึ้นมาขณะตรวจวัดรึเปล่า นอกจากนี้เวลาถ่ายรูปด้วยกล้องหน้า จะสามารถแตะที่ Heart Rate เพื่อกดชัตเตอร์ได้อีกด้วย (ใช้งานคล้ายกับปุ่ม Rear Key ใน LG G3)

Unbox-Galaxy-Note4-TH-11

 

เป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่า Note 4 กลับมาใช้ USB 2.0 เหมือนเดิม จากรุ่นก่อนหน้าเคยใช้ USB 3.0 เป็นจุดขาย ส่วนช่องเสียบปากกา S Pen ก็ยังอยู่ในตำแหน่งขวาเหมือนเดิม

Unbox-Galaxy-Note4-TH-08

 

ช่องเสียบหูฟังจะอยู่ด้านบนของตัวเครื่อง และมีเซนเซอร์อินฟราเรดไว้ใช้งานเป็น Smart Remote ควบคุมทีวี เครื่องเล่น เครื่องเสียง และเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

Unbox-Galaxy-Note4-TH-09

 

สำหรับใครที่ยังจองไว้ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม คงจะเริ่มทยอยรับเครื่องกันตามคิว ส่วนเครื่องสีทองอาจจะต้องรอนานหน่อยเพราะจะเริ่มรับเครื่องได้ในวันที่ 24 ตุลาคม หลังจากนี้ก็คงจะมีวางขายทั่วประเทศในช่วงปลายเดือนตุลาคม ในราคา 25,900 บาท ส่วนของฟีเจอร์เด่นๆ ที่น่าสนใจ จะมารีวิวให้ชมกันเร็วๆ นี้นะครับ

 

 

สัมผัมแรก Nokia Lumia 1520 แฟบเล็ตตัวแรกของโนเกีย

และแล้ว Nokia Lumia 1520 แฟบเล็ตเครื่องแรกของโนเกีย ก็เปิดตัวในเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยเมื่อวันเสาร์ที่ 30 พ.ย. 56 ที่ผ่านมา OopsMobile ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรม Workshop กับ Nokia Lumia 1520 ณ ตลาดน้ำขวัญเรียม และร้านอาหาร Chocolate Ville โดยงานนี้มีภารกิจให้ได้ลองเล่นแอพใหม่ๆ หลายตัวเลยทีเดียว ซึ่งเดี๋ยวเราจะมาดูกันว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง แต่ก่อนอื่นขอเล่าในส่วนไฮไลต์สำคัญของเข้า Lumia 1520 กันก่อนนะครับ

 

สเปกหลักของ Lumia 1520 มาพร้อมหน้าจอ 6 นิ้ว แบบ IPS LCD, รองรับระบบ 4G LTE, กล้อง 20 ล้านพิกเซล เทคโนโลยี Pureview แบบ Lumia 1020, ซีพียู Quad core Snapdragon 800 2.2 GHz พร้อมแรม 2 GB, หน่วยความจำในตัวเครื่อง 32 GB และสามารถเพิ่ม Micro SD ได้ถึง 64 GB

Lumia1520-Workshop-01

 

ระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 Nokia Black ซอฟต์แวร์ล่าสุดจากโนเกีย พร้อมไทล์วางได้ 3 คอลัมน์

Lumia1520-Workshop-02

 

หน้าจอแบบ Full HD ขนาด 6 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี Clear Black สู้ท้าแดดได้สบาย สว่างคมชัดเวลาใช้งานกลางแจ้ง จากในพรีเซนต์มีการเปรียบเทียบกับ iPhone (น่าจะเป็น iPhone 5s) และ Samsung (น่าจะเป็น Note3) ให้เห็นถึงรายละเอียดของภาพ สังเกตได้ว่า Lumia 1520 จะแสดงรายละเอียดในส่วนของภาพในที่มืดได้ดีกว่า

Lumia1520-Workshop-03

 

ส่วนของการบันทึกวิดีโอ ได้ใส่ไมค์มาให้ถึง 4 ตัวเพื่อบันทึกเสียงได้แบบรอบทิศทาง

Lumia1520-Workshop-04

 

ถือเป็นข่าวดีสำหรับสาวกโนเกีย ที่วันนี้มีแอพพลิเคชั่นบน Windows Phone กว่า 190,000 แอพ แล้วนะครับ

Lumia1520-Workshop-05

 

เอาล่ะครับ เริ่มสัมผัสตัวเป็นๆ กับ Lumia 1520 กันเลยดีกว่า โดยตัวบอดี้จะมีทั้งหมด 4 สีให้เลือก คือ ขาว, ดำ, เหลือง และแดง โดยสีแดงจะใช้ผิวแบบกลอสซี่มันวาวอยู่เพียงตัวเดียว นอกนั้นเป็นผิวแบบเนื้อด้านทั้งหมด

Lumia1520-Workshop-08

 

ขนาดตัวเครื่องถือว่าออกแบบให้ขอบบางไม่กว้างจนเกินไป ขนาดผมมือเล็กยังถือได้สะดวกดีครับ ส่วนเวลาพิมพ์ ก็ง่ายขึ้นเพราะหน้าจอใหญ่ทำให้แป้นคีย์บอร์ดใหญ่ตาม ส่วนตัวไอคอนที่หน้าโฮมหรือที่เรียกว่าไทล์นั้น สามารถวางได้ถึง 3 คอลัมน์ ทำให้มีพื้นที่ในการวางไทล์ได้เยอะขึ้น บวกกับหน้าจอที่ยาวเข้าไปอีก จึงทำใ้ห้ขยายไทล์ของแอพต่างได้กว้างขึ้นเพื่อดูข้อมูลที่ฟีดเข้ามาได้ครบทุกโซเชียลแอพที่ใช้ประจำวัน โดยเฉพาะ Facebook, Twitter และล่าสุด Instagram ที่เพิ่งรองรับได้ไม่นาน

Lumia1520-Workshop-09

 

พอร์ต micro USB สำหรับชาร์จ และเชื่อมต่อข้อมูล ถูกวางไว้ท้ายตัวเครื่อง

Lumia1520-Workshop-10

 

ปุ่มควบคุมมาตรฐาน จัดวางอยู่ด้านขวาของตัวเครื่องเช่นเดิม มีปุ่มโวลุ่ม, เปิด-ปิด/พักหน้าจอ, ปุ่มชัตเตอร์

Lumia1520-Workshop-11

 

ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่ด้านบนตรงกลางของตัวเครื่องเลย ส่วนเลนส์ของตัวกล้องจะไม่หนาเท่ากับ Lumia 1020 แล้ว เนื่องจากความละเอียดที่รองลงมาเป็น 20 ล้านพิกเซล แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยี Oversampling และระบบซูมแบบ Lossless 2 เท่า รวมถึงระบบลดภาพสั่นไหว OIS ที่ชุดเลนส์ แฟลช LED 2 ดวงคู่

Lumia1520-Workshop-13

 

ถาดใส่ซิมและ MicroSD แบบใช้เข็มจิ้ม เพราะตัวบอดี้ถอดฝาหลังไม่ได้นะครับ หรือที่เรียกว่าแบบยูนิบอดี้นั่นเอง โดยวัสดุเป็นโพลีคาบอเนต ทำให้แข็งแรงทนทานแต่น้ำหนักเบา โดยน้ำหนักอยู่ที่ 209 กรัม

Lumia1520-Workshop-12

 

ฟีเจอร์กล้องได้ปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นแอพ Nokia Camera โดยรวมแอพ Nokia Pro Camera และ Nokia Smart Camera เข้าไว้ด้วยกัน เพียงสไลด์สลับโหมดตรงปุ่มชัตเตอร์

Lumia1520-Workshop-14

 

โหมดบันทึกภาพจะใีห้เลือก 3 รูปแบบ คือ JPEG ขนาด 5MP อย่างเดียว, JPEG ขนาด 5 MP และ 16 MP, JPEG ขนาด 5  MP และไฟล์ RAW ขนาด 16 MP (DNG)

Lumia1520-Workshop-15

 

แอพ Refocus ให้เราถ่ายภาพก่อนแล้วเลือกจุดโฟกัสทีหลังได้ ที่สำคัญเมื่อแชร์ลิงค์ภาพจากแอพดังกล่าว ไปยัง Facebook หรือโซเชียลต่างๆ เพื่อนของเราก็สามารถแตะบนภาพเพื่อเลือกจุดโฟกัสได้อีกด้วย

Lumia1520-Workshop-16

ลองเข้าไปเล่นกันได้ครับที่ลิงค์นี้ https://refocus.nokia.com/refocus/YsV3nqadNd6Q0FWF/image

 

แอพ So Zoom ของเล่นใหม่ที่สามารถโหลดมาใช้กับ Lumia 1020 และ Lumia 1520 ได้ โดยจะเป็นการดึงความสามารถของเซนเซอร์ที่มีความละเอียดสูง เพื่อซูมภาพในจุดที่ต้องการโดยสามารถมองเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนแม้วัตถุจะอยู่ไกลมากก็ตาม โดยสามารถทำบอลลูนซูมเข้าไปหลายๆ จุดก็ได้ แต่เสียดายที่ผมลืมทำตัวอย่างมาให้ดูกัน ซึ่งถือเป็นลูกเล่นที่สนุกอีกตัวหนึ่งเลยครับ แต่แอพตัวนี้ไม่ฟรีนะครับ

Lumia1520-Workshop-17

 

Lumia1520-Workshop-18

 

 

ชมไฟล์ภาพถ่ายจาก Lumia 1520 (JPEG 5 MP) คลิกเพื่อซูม

WP_20131130_17_08_37_Raw WP_20131130_14_54_22_Pro

WP_20131130_16_31_47_Refocus  WP_20131130_13_41_18_Pro

WP_20131130_13_03_21_Refocus WP_20131130_16_28_14_Refocus

WP_20131130_17_28_17_Refocus WP_20131130_17_33_16_Pro WP_20131130_17_30_55_Pro

 

Lumia 1520 จำหน่ายในราคา 22,900 บาท โดยเปิดจองแล้วตั้งแต่วันนี้ถึง 5 ธ.ค. 56 ที่โนเกียช็อป ทุกสาขา โดยใครที่จองในช่วงนี้จะได้รับของแถม Flip Case และ Power Bank โนเกีย มูลค่ารวม 2,080 บาท ซึ่งผู้ที่สั่งจองจะได้รับเครื่องประมาณวันที่ 10 ธ.ค. 56 และวางจำหน่ายทั่วประเทศประมาณปลายเดีอน ธันวาคม ปีนี้

NokiaLumia1520-Bandit-Preorder-1500x1500-2-jpg

[Video] Asha 501 So…Chic 2 Sim ไม่สองใจ

 

nokia-asha-501-color-range resize

ตั้งแต่ Nokia Series N หายไปจากตลาดมือถือ เจ๊ก็มิเคยได้กลับไปจับ Nokia อีกเลย (ยกเว้น Lumia 920 ที่โผล่มาแว้บนึง) จนกระทั่งเจ้า Asha 501 ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปหมาดๆถูกส่งมาถึงมือเจ๊นี่แหละ เอาเป็นว่ามาดูกันหน่อยดีกว่าว่าเจ้านี่มีอะไรเจ๋งๆให้เจ๊เล่นบ้างอะ

ระเบิดกล่อง

Asha 501 ถูกแพ็คนอนแอ้งแม้งมาในกล่องอย่างเรียบร้อยสง่างาม สีที่เจ๊ได้มาคือสีแดงแปร๊ดดดดสะท้อนแสงถูกใจเจ๊จุงเบย แต่ไม่ได้ถึงกับแดงเถือกนะ เป็นสีแดงในระดับความแซ่บที่ยกขึ้นมาโทร รับรองว่าเห็นไปยันปากซอยเลยทีเดียวเชียวล่ะ สรุปว่าอุปกรณ์ในกล่องที่ให้มามีดังนี้จ้ะหนุ่มๆสาวๆ

Review_Asha_501_01

1. ตัวเครื่อง + การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD 4 GB (รองรับสูงสุด 32 GB)
2. แบตเตอรี่
3. คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน
4. สายชาร์จแบบวอลล์ชาร์จ
5. หูฟังสีเดียวกับด้านหลังตัวเครื่อง หากซื้อเครื่องสีอื่นก็จะได้หูฟังสีนี้เช่นกันไม่มีสีอื่นให้เลือก
* จริงๆมีทั้งหมด 6 สีด้วยกันคือ แดง เหลือง ฟ้า เขียว ขาว และดำ

ลองเล่น

• ตัวเครื่องและดีไซน์

Review_Asha_501_02
เรียกว่าดีไซน์มาน่ารัก สไตล์โมโนบล็อค เหมาะกับใช้มือเดียวได้อย่างถนัด ด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นจอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้วแถมเป็นกระจกแบบที่ทนรอยขีดข่วน Gorilla Glass ด้วยนะเออ มีปุ่มย้อนกลับมาให้ด้านล่างของหน้าจอ ส่วนฝาหลังสีสันแซ่บใจสามารถถอดเปลี่ยนได้หากเป็นคนขี้เบื่อ บวกกับมีกล้องถ่ายภาพความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลมาให้ ด้านข้าง (ขวา) จะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม power ด้านบนเป็นช่องเสียบสายชาร์จ สาย micro-USB และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามมาตรฐานทุกอย่างเป๊ะ ประกอบได้แนบแน่นดีไม่มีกรอบแกรบเพราะตัวกรอบเป็นยูนิบอดี้ชิ้นเดียวจร้าาา ที่สำคัญใช้ได้ 2 ซิมนะคะคู๊ณณณณณ เลิศปะล่ะ

• ฟังก์ชั่นเด่น

Review_Asha_501_03 Review_Asha_501_04 Review_Asha_501_05
พอเปิดเครื่องมา แล้วเข้าสู่หน้าจอการใช้งานเท่านั้นเจ๊ก็ต้องร้องอู้ว!!! เพราะจัดหนักให้แอพพลิเคชั่นมาเพียบ ทั้งแอพเสริม และเกมส์ (โหลดเพิ่มได้)
ส่วนจุดเด่นที่โชว์หรามาเลยคือระบบ Fastlane หรือพูดง่ายๆว่าช่องทางด่วนนั้นแหละ คล้ายๆกับ Shortcuts โดยขณะอยู่ในหน้าจอพร้อมใช้ให้ปัดนิ้ว Swipe ไปทางขวาก็จะเจอกับ Fastlane ส่วนตัวของคุณ ซึ่งจะรวมแอพ หรือรายการที่สำคัญที่คุณใช้บ่อยๆเอาไว้ให้ โดย ซึ่ง Fastlane จะดึงข้อมูลมาจากการใช้งานของคุณนั่นแหละ เป็นไงฉลาดแมะ?

Review_Asha_501_08

นอกนั้นก็จะมีฟังก์ชั่นพื้นฐานสำหรับใช้งานทั่วๆไป อย่าง โทรศัพท์ รายชื่อ ข้อความ นาฬิกาปลุก ปฏิทิน บันทึกเสียง ฯลฯ ให้มาอย่างครบครัน ส่วนความบันเทิงเริงใจ แน่นอนว่าจัดเต็มกับ แกเลอรี่ ดูหนัง ฟังเพลง ฟังวิทยุ เกมส์ เรียกว่าแน่นจนสะใจเจ๊ หรือถ้ายังแน่นไม่พอ ก็ไปดาวน์โหลดเพิ่มได้เอง

• ถ่ายภาพ

Review_Asha_501_06
กล้องถ่ายภาพก็พอใช้ได้สมราคา สามารถตั้งค่าหน่วงเวลาถ่ายภาพ หรือปรับ White Balance ได้ จะขาดก็แต่ไม่มีแฟลชมาให้ (แต่จุดนี้เจ๊ก็ให้อภัย เพราะถึงมีแต่พอถ่ายภาพใช้แฟลชขึ้นมาทีไร เจ๊ไม่กล้าดูรูปตัวเองทุกที) อ๊ะๆ เค้ามีแอพถ่ายภาพ Camera 5 in 1 พร้อมเครื่องมือตกแต่งแสนเก๋มาให้ด้วย ไม่มี camera 360 ก็เอาไปใช้แทนขำๆก่อนได้

• ระบบเชื่อมต่อ

Review_Asha_501_07
จะ Wi-Fi b/g/n , Bluetooth 3.0, หรือ EDGE ก็มีมาให้หมด จะอยู่ที่ไหนก็ไม่พลาดการติดต่อแน่นอนจ้ะ รุ่นหน้าควรจะพ่วง 3G มาให้ด้วยแล้วนะคุณ Nokia

• แบตเตอรี่

ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเลยนะเจ๊ว่า เพราะปัจจุบันเราแทบจะต้องใช้โทรศัพท์กันเกือบตลอดเวลาเลยทีเดียว แบตยิ่งอึดก็ยิ่งได้เปรียบ Ahsa 501 เลยจัดแบตความจุ 1200 mAh มาให้ สามารถแสตนบายด์รับสายได้ 624 ชั่วโมง ย้ำ 624 ชั่วโมง!!! สนทนาโทรศัพท์ได้นาน 17 ชั่วโมง และเล่นเพลงได้นานถึง 56 ชั่วโมง เรียกว่าใช้กันจนลืมว่าชาร์จแบตครั้งที่แล้วตอนไหน ปรบมือให้เลยจ้ะ

• แอพพลิเคชั่น

Review_Asha_501_09
จัดเต็ม!! เพราะไม่ว่าจะ Facebook Line Twitter หรือเกม Asha 501 จัดมาให้แบบเต็มหน้าจอจ้ะ เลือกใช้กันได้ตามสบายอารมณ์

• ความคุ้มค่า

Review_Asha_501_10
หยิบราคามาดูแล้วก็ต้องรีบยกมือทาบอกด้วยความตกใจ เพราะวางขายในราคาแค่ 2,990 บาท เท่านั้น คุณพระ!!! เรียกว่าถ้าจะหาโทรศัพท์เครื่องแรกสำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการโทรศัพท์อลังการดาวล้านดวงสเป็คแรงรุ่งพุ่งไปดาวพลูโต เพียงแค่อยากได้โทรศัพท์เครื่องเล็กๆ กะทัดรัด สีสันจัดจ้าน ดีไซน์น่ารัก พ่วงมาด้วยฟังชั่นครบครันทันสมัยแบบไม่เขินอาย หรือใครที่อยากได้โทรศัพท์เครื่องที่สองเอาไว้ใช้โทรออกรับสาย ถ่ายรูปเล่น ฟังเพลงชิวๆ แบตถึกทน ใช้ได้ 2 ซิม 2 เบอร์ว่ารักแถบ (แบบว่ารักเธอ) รีบไปคว้ามาเลยนะ คุ้มจริง!!! เจ๊พูดเลย

สรุปผลคะแนน

• ดีไซน์และการประกอบ เอาไป 7.5 แต้ม
• ฟังก์ชั่น ฟีเจอร์ เอาไป 7.5 แต้ม
• ประสิทธิภาพการใช้งาน เอาไป 7.5 แต้ม
• ความคุ้มค่าและราคา เอาไป 8 แต้ม
• รวม 7.7 แต้ม

เจ็ขอแซว

ไหนๆก็อุตส่าห์ให้ microSD มาแล้ว เจ๊ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Nokia จะใจดีเพิ่มสาย micro USB มาให้ซักนิ๊ดดดดเถอะนะ แล้วเจ๊จะให้จุ๊บ 3 ทีเลยเอ้า!!!

รีวิวโดย : เจ้ปลวก

ท้ายนี้เรามีวิดีโอรีวิวมาให้ดูกันด้วย

[youtube link=”http://www.youtube.com/watch?v=RwBuBvhifbg” width=”590″ height=”315″]

Hottest tech gear this month & the threat of Anonymous

“Android is not in my world. It’s not in my attention span most days. Thinking about the iOS app is a full-time job, and staying competitive on iOS is a full-time job.” This quote comes from Instapaper creator Marco Arment not even three weeks ago in an interview with Joshua Topolsky on On The Verge.

Evidently, Arment was keeping a pretty big secret. Instapaper for Android launches today for $2.99 on smartphones and tablets, and you can find it in the Google Play Store and soon in the Amazon App Store and Nook Store. What makes the app launch so significant is that aside from Instagram and Flipboard, Instapaper might just be the next-most-desired (and elusive) Android app ever. The excitement surrounding a possible Instapaper Android app has not been just because people wanted the app itself, but also because creator Arment often publicly expressed distaste for building on Android — almost out of principle. "I think it was the success of the Kindle Fire and the Nook that tipped my hand," Arment told us.

So, he entrusted the Instapaper name to developer Mobelux, which has previously built Tumblr for iPhone and Android, as well as Carousel, a handsome Instagram viewer for Mac. Mobelux wasn’t the winner of the app-building challenge Arment started in jest, but was instead a great fit with a compatible heritage. Arment met Mobelux co-founder and Creative Director Jeff Rock all the way back in 2008 when Tumblr was in talks to buy Rock’s Tumblrette Tumblr client for iPhone. Arment (still full-time at Tumblr) got to know Rock and his team, who quickly became the backbone of Tumblr’s mobile app strategy.

Design / UI

[frame src=”http://www.thorakhong.com/wp-content/uploads/2012/11/entry_img_3.jpg” link=”” target=”_self” width=”182″ height=”274″ alt=”” align=”left” prettyphoto=”false”]

The excitement surrounding a possible Instapaper Android app has not been just because people wanted the app itself, but also because creator Arment often publicly expressed distaste for building on Android — almost out of principle. “I think it was the success of the Kindle Fire and the Nook that tipped my hand,” Arment told us.

Evidently, Arment was keeping a pretty big secret. Instapaper for Android launches today for $2.99 on smartphones and tablets, and you can find it in the Google Play Store and soon in the Amazon App Store and Nook Store. What makes the app launch so significant is that aside from Instagram and Flipboard, Instapaper might just be the next-most-desired (and elusive) Android app ever.

"Android is not in my world. It’s not in my attention span most days. Thinking about the iOS app is a full-time job, and staying competitive on iOS is a full-time job." This quote comes from Instapaper creator Marco Arment not even three weeks ago in an interview with Joshua Topolsky on On The Verge.