หากใครที่ได้ติดตามข่าวในทวีตเตอร์ของ @Oops_Mobile เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมาคงได้เห็นความสามารถของเจ้า Nokia Lumia 1020 กันไปพอสมควรแล้ว แต่สำหรับใครที่พลาดไปหรืออยากทราบรายละเอียดมากกว่านี้ มาติดตามในบทความนี้ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะสรุปรวบตึงให้กับทุกท่านได้อ่านกันแบบเต็มๆ ไปเลย
คุณสมบัติเด่นของ Nokia Lumia 1020
เริ่มแรกขอสรุปจุดเด่นหรือ Key Selling Point ของเจ้า Lumia 1020 ให้ทราบกันก่อนว่าทางโนเกียวางตำแหน่งสินค้ารุ่นนี้ไว้ที่จุดไหน
1. กล้องความละเอียด 41 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี PureView ตัวล่าสุด โดยมีหลักการทำงานคือถ่ายก่อนแล้วซูมทีหลัง ซึ่งทุกภาพที่ถ่ายจะถูกบันทึกเป็นภาพในมุมกว้างสุดของเลนส์เอาไว้ก่อน แล้วเวลาซูมก็จะขยายไฟล์ภาพส่วนนั้นขึ้นมา โดยที่รายละเอียดยังคมชัดเสมือนการซูมด้วยเลนส์แบบออปติคอลซูม
2. แอพถ่ายภาพขั้นเทพ Nokia Pro Camera ที่สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ได้แบบแมนวลเหมือนกล้องดิจิตอลคอนแพ็กระดับ Hi End ได้เลย และยังมาพร้อมกริปที่เป็นแบตเตอรี่เสริมในตัวอีกด้วย
3. บันทึกภาพแบบ Dual Capture คือ จะบันทึกภาพที่ถ่ายไว้ 2 ความละเอียด คือ 5 ล้านพิกเซลสำหรับแชร์ขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์ค และ 38 ล้านพิกเซล ไว้สำหรับปรับแต่งในภายหลัง เปรียบเสมือนไฟล์ Raw นั่นเอง
4. ถ่ายวิดีโอระดับ Full HD พร้อมระบบลดภาพสั่นไหว OIS ที่ตัวเลนส์ และ Nokia Rich Recording ที่บันทึกเสียงได้ดีเยี่ยมแม้จะซูมภาพเข้าไป ก็จะซูมเสียงตรงจุดนั้นเข้าไปให้ชัดเจนขึ้นด้วย และช่วยในการบันทึกเสียงจากคอนเสิร์ตที่มีความดังมากกว่าปกติ ให้เสียงไม่แตกพล่า
5. รองรับระบบ 4G บนระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 พร้อมฟรี SkyDrive 7 GB
เริ่มกิจกรรม Workshop
สำหรับกิจกรรม Workshop ในครั้งนี้เราจะเดินทางไปทดสอบกันที่ Santorini Park และ The Venezia ที่หัวหินกัน โดยก่อนออกเดินทาง ทางโนเกียได้ปรีฟให้เราชมคุณสมบัติและเทคนิคการใช้งานคร่าวๆ ให้เหล่าสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์ได้ดูกันก่อน ซึ่งผมได้เก็บภาพประเด็นเด็ดๆ มาให้ชมกันดังนี้ครับ
สาเหตุที่โนเกียโฟกัสเรื่องกล้องเพราะทุกวันนี้มีการถ่ายภาพแล้วแชร์ขึ้น Facebook มากกว่า 300 ล้านรูปต่อวัน
Nokia Lumia 1020 มาพร้อม CPU 1.5 GHz Dual core แรม 2 GB พร้อมหน่วยความจำภายใน 32 GB ขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว อัตราส่วน 15:9 ความละเอียด 768×1280 พิกเซล
เปรียบเทียบกับความสามารถของเลนส์จากกล้อง DSLR ของ Canon รุ่น EF 24-105 mm F/4L IS USM และเลนส์ Nikon AF-S 24-70 mm F/2.8G ED เรียกว่ากล้านำมาเทียบกับรุ่นใหม่ระดับ DSLR กันเลยทีเดียว
สาธิตเรื่องของการซูมแบบ Lossless ซึ่งเป็นการซูมที่ไฟล์ภาพไม่ได้ซูมจากระบบแมคานิคของเลนส์ ซึ่งโนเกียเน้นว่าสามารถเก็บรายละเอียดได้อย่างคมชัด
เปรียบเทียบภาพถ่ายที่ให้รายละเอียดเมื่อซูมเข้าไป กับคู่แข่งที่ติดเลนส์ซูมแบบออปติคัล เห็นเลนส์แล้วเดากันเอาเองนะครับว่าเป็นแบรนด์ใด (ต่อย่อ S) อิอิ
การซูมแบบ Lossless มีจุดเด่นตรงที่ตัวเลนส์ไม่ต้องยืดเข้าออกเวลาซูม จึงทำให้เลนส์ไม่หนา พกพาสะดวกกว่านั่นเอง
ถ่ายก่อนซูมทีหลัง เป็นคอนเซ็ปของเจ้า Lumia 1020 โดยใน 1 ภาพ สามารถสร้างเรื่องราวได้หลายมุมมอง
จากภาพตัวอย่างด้านบน เมื่อเลือกซูมหรือครอปมาเฉพาะส่วนก็จะได้เป็นอีก 1 ภาพ ที่สามารถแชร์ออกไปได้ทันที โดยที่ภาพยังคงมีความละเอียดคมชัดอยู่ และสามารถย้อนกลับมาแก้ไขภาพแรกได้ไม่จำกัด
ดูโฉมหน้าตัวเป็นๆ ของ Lumia 1020
Nokia Lumia 1020 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows Phone 8 ในเวอร์ชั่น Lumia Amber อัพเดทล่าสุดจากทีมพัฒนาของโนเกียเอง โดยมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้นจากเดิมอีกด้วย
บอดี้จะเป็นผิวสัมผัสแบบด้าน (Matte) โดยใช้วัสดุเป็นโลหะ งานประกอบแข็งแรงทนทาน ไร้รอยต่อหรือแบบยูนิบอดี้เหมือน iPhone นั่นเอง มีขาย 3 สี เหลือง, ดำ, ขาว
ด้านบนของตัวเครื่องจะเป็นถาดใส่ไมโครซิมเป็นแบบสล็อตที่ต้องใช้เข็มจิ้มแบบ iPhone และ ช่องเสียบหูฟัง
ด้านล่างของตัวเครื่องจะเป็นพอร์ต Micro USB และลำโพง
ข้างขวาจะจัดวางปุ่มควบคุมหลักไว้ทั้งหมด โดยจะมีปุ่มชัตเตอร์, ปุ่มล็อกสกรีน และปุ่มเพิ่ม ลดเสียง (เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา)
หน้าตาของอินเตอร์เฟสของแอพ Nokia Pro Cam แค่แตะบนไอคอนชัตเตอร์รูปกล้องค้างไว้แล้วลากมาทางกลางจอก็จะเปิดอินเตอร์เฟสดังภาพขึ้นมาให้สามารถปรับแต่งค่ารูรับแสง, สปีดชัตเตอร์, ISO, โฟกัสแมนวล และ White Balance โดยสไลด์ตามเส้นโค้งของแต่ละฟังก์ชั่นที่ต้องการได้เลย
เลนส์ของ Lumia 1020 จะมีีม่านชัตเตอร์เปิดปิดเวลาถ่ายภาพ เหมือนกล้องดิจิตอลคอมแพ็ก ซึ่งจะต่างจากกล้องบนสมาร์ทโฟนทั่วไปที่จะไม่มีม่านชัตเตอร์ แต่จะใช้เซนเซอร์รับภาพในการแคปเจอร์ภาพถ่ายในแต่ละครั้งแทน
ปรับโฟกัสแบบแมนวลแค่สไลด์ตามเส้นโค้งของแถบโฟกัส
ลงภาคสนามกับ Lumia 1020
เอาล่ะครับได้เวลาทดสอบของจริงกันแล้ว โดยฟังก์ชั่นที่ทดสอบในครั้งนี้จะใช้แอพ Nokia Pro Cam เป็นหลักนะครับ ไปดูรูปจาก Lumia 1020 กันเลยดีกว่า (คลิกบนรูปเพื่อขยาย)
?
[ภาพซ้าย] เมื่อซูมเข้าไปก็ยังเก็บรายละเอียดได้ดี ซึ่งถือว่าเทคนิคการซูมแบบ Lossless ทำได้สมบูรณ์พอสมควร [ภาพขวา] เป็นภาพต้นฉบับที่จะบันทึกเก็บไว้เป็นเหมือนไฟล์ Raw ที่สามารถแก้ไขหรือครอปในภายหลังได้ โดยมีขนาด 9.09 MB ความละเอียด 7712×4352 พิกเซล ซึ่งไฟล์นี้จะไม่แสดงให้เห็นใน Camera roll ?แต่จะถูกดึงข้อมูลไปใช้แสดงเฉพาะช็อตที่ถ่ายไว้ล่าสุด หรือมีการ reframe ปรับแต่งแก้ไขภาพครั้งล่าสุดเท่านั้น ซึ่งเป็นช็อตแยกอีกไฟล์ที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เอาไว้สำหรับแชร์นั่นเอง ดังนั้นจึงหมายความว่าภาพที่ถูกถ่ายด้วย Nokia Pro Cam จะถูกบันทึกเป็น 2 ไฟล์ หรือ Dual Capture เสมอ คือ JPEG 5 ล้านพิกเซล + 34 ล้านพิกเซล แต่หากต้องการประหยัดหน่วยความจำก็สามารถปิดฟังก์ชั่นนี้ได้ ให้เหลือบันทึกเป็น JPEG 5 ล้านพิกเซลเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
การถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอก็สามารถทำได้ดี เลือกจุดโฟกัส และปรับระยะโฟกัสได้เอง แต่เสียอย่างคือสามารถวางกล้องใกล้วัตถุได้แค่ 15 ซม. ซึ่งอาจจะดูห่างไปสักนิดสำหรับการถ่ายภาพมาโคร แต่แก้ไขได้ด้วยการใช้วิธีซูมภาพเข้าไปแทน
?
[ซ้าย] ถ่ายมือเปล่าด้วย Lumia 1020 [ขวา] ถ่ายมือเปล่าด้วย iPhone 5
ลองเทคนิคการถ่ายภาพแบบ Light Painting โดยตั้งค่าสปีดชัตเตอร์นานสุด 4 วินาที, โฟกัสเป็นอินฟินิตี้, White Balance ออโต้, ISO ออโต้ แล้ววางบนขาตั้งกล้อง ผลออกมาก็ได้ภาพอย่างที่เห็น สวยงามมั้ยล่ะครับ
ภาพนี้เป็นการลองปรับแต่งด้วยฟังก์ชั่น reframe โดยเลือกครอปเฉพาะน้องพริตตี้มา ซึ่งเก็บรายละเีอียดได้คมชัดดีมาก
ภาพจริงก่อนที่จะแก้ไขด้วยฟังก์ชั่น reframe
แอพ 6Tag ใช้แทน Instagram ได้
หลังจากได้ลองสัมผัสกับเจ้า Nokia Lumia 1020 ในแง่ของการใช้งานกล้องถือว่าทำได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะในเรื่องของความคมชัด และเก็บรายละเอียดได้ดีทั้งการถ่ายภาพวิวในมุมกว้าง และการถ่ายภาพในที่มืด นอกจากนี้ยังสามารถแก้ไขปรับแต่งหรืิอครอปเฉพาะส่วนที่ต้องการได้แบบไม่จำกัดจากการถ่ายด้วยแอพ Nokia Pro Cam โดยไฟล์จะไม่ถูก Save ทับไป ทำให้เราสามารถแชร์ภาพเดียวกัน จากหลายมุมมองได้ไม่จำกัด ที่สำคัญยังคงรายละเอียดภาพไว้ได้ดีอีกด้วย และตลอดทั้งวันที่ได้ทำการทดสอบท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด และเปิดกล้องถ่ายต่อเนื่องพอสมควร จนสัมผัสได้ว่าที่ชุดเลนส์ร้อนขึ้นมาทันใด แต่ก็ไม่พบอากาศเครื่องแฮงค์หรือดับไปเองแต่อย่างใด
สำหรับในแง่ของความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง รวมถึงการบันทึกภาพนั้น หากใช้แอพ Nokia Pro Cam ถ่ายภาพ จะไม่สามารถถ่ายแบบ Burst Shot หรือถ่ายภาพต่อเนื่องได้ จะรองรับได้แค่การถ่ายแบบ Snap Shot ทีละภาพ ส่วนการบันทึกไฟล์หลังจากถ่ายในแต่ละช็อตจะใช้เวลาประมาณ 3 วินาที ซึ่งอาจจะนานพอสมควร เนื่องจากจะต้องบันทึกไฟล์ Raw และไฟล์ JPEG นั่นเอง
ในส่วนของการใช้งานอื่นๆ เช่น โซเชียลต่างๆ ที่จำเป็น ทั้ง Facebook, Twitter ก็มีมาให้ แต่ที่หลา่ยคนรอกันอยู่อย่าง Instagram อาจจะต้องใช้แอพ 6Tag แทนกันไปก่อน ซึ่งถือว่าใช้งานแทน Instagram ได้ครบทุกฟังก์ชั่นหลักเลยเหมือนกัน
สำหรับ Nokia Lumia 1020 วางจำหน่ายในราคา 24,990 บ. โดยเริ่มจองได้แล้วตั้งแต่บัดนี้ และเริ่มรับเครื่องได้ตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. เป็นต้นไป
ขอขอบคุณ บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด ที่ให้เกียรติเชิญเราไปร่วมทริป Workshop ในครั้งนี้