LoopPay ระบบชำระเงินไร้สาย ไม้ตายจาก Samsung ลุ้นใช้ในไทยก่อน Apple Pay

  iPhone 6 และ iPhone 6 Plus มีบริการชำระเงินแบบไร้สายหรือ Apple Pay โดยใช้ NFC และ Touch ID เพิ่มความปลอดภัยในการชำระเงิน แต่สำหรับ Samsung รุ่นใหม่ (ไม่แน่ว่าจะเป็น Galaxy S6) เตรียมเพิ่มขดลวดขนาดเล็ก เมื่อปล่อยกระแสไฟฟ้าขดลวดจะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้นมา หากปล่อยคลื่นแม่เหล็กที่ถูกต้อง ขดลวดดังกล่าวจะสามารถเชื่อมต่อกับเครื่องอ่านบัตรเครดิตได้ทันที วะวะว้าว! (มันเยี่ยมกว่า NFC อีกนะ) looppay โดย Samsung สามารถใช้สิทธิบัตรของ

LoopPay เปลี่ยนเครื่องรูดบัตร หรือเครื่องเก็บเงินทั่วไปให้เป็นตัว reader ของระบบการจ่ายเงินจากมือถือ ลองคิดๆดูแล้วร้านค้าที่รองรับระบบการจ่ายเงินนี้ของ LoopPay มีเกินกว่า 10 ล้านแห่งทั่วสหรัฐฯ มากกว่า Apple Pay หลายเท่า แต่ประเด็นอยู่ที่ Samsung เกิดในตลาดเอเชียจะไม่เชียร์ให้รองรับการใช้งานในบ้านเราก็ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อยมั้ยคะ oops+   https://www.youtube.com/watch?v=bw1l149Rb1k   Source  

Apple และ Disney Store กำลังอัพเกรดระบบ iBeacons และตัวอ่าน NFC เตรียมรองรับฟีเจอร์ใหม่ใน iPhone 6

 

disney

 

สำหรับ Apple กับ Disney Store ถือเป็นพาร์ทเนอร์ที่ใกล้ชิดสนิทสนมกันมายาวนาน โดยล่าสุดทาง Disney Store ได้เตรียมอัพเกรดระบบการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่าน NFC รวมถึงวางระบบ iBeacons ภายในร้านไว้อีกด้วย

 

หลายคนคงสงสัยว่าระบบ iBeacons มันคืออะไร? ขออธิบายเป็นตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ อย่างเช่น เวลาที่ลูกค้าเข้าไปช้อปปิ้งในร้าน ระบบนี้ก็จะส่งข้อมูลแจ้งเตือนโปรโมชั่น หรือรายละเอียดของสินค้าในร้านดังกล่าว ให้ตรงกับความสนใจของลูกค้า โดยมีตัวกระจายสัญญาณบลูทูธ ไว้คอยตรวจจับเมื่อเราอยู่ในรัศมีใกล้จุดนั้นนั่นเอง และระบบ iBeacons อาจจะทำงานร่วมกับการจ่ายเงินผ่าน NFC ได้ในทันที หากลูกค้าถูกใจโปรโมชั่นดังกล่าว

 

[youtube link=”http://youtu.be/sUIqfjpInxY” width=”590″ height=”315″]

 

ดังนั้นนี่ไม่ใช่เป็นแค่ระบบ NFC ธรรมดาๆ ที่ใช้ไว้จ่ายเงินได้อย่างเดียว แต่รวมถึงนวัตกรรมทางการค้าปลีกที่จะทำให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิประโยชน์มากยิ่งขึ้น ส่วนผู้ค้าก็จะสร้างยอดขายได้มากขึ้นตามมา

 

นอกจาก Apple จะเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับ Disney Store ในการวางระบบดังกล่าวแล้ว ยังมีข่าวว่าอาจจะได้เห็นโลโก้ร้าน McDonalds ขึ้นเป็นพาร์ทเนอร์ในฟีเจอร์ NFC ของ iPhone 6 นี้อีกด้วย

 

และอีกจุดที่ยืนยันได้ว่าจะมี NFC อยู่ใน iPhone 6 นั้น ก็คือการอัพเดทแอพ Passbook ที่ไอคอนมีการเพิ่มสัญลักษณ์คล้ายบัตรเครดิตเข้ามาด้วย จึงคาดว่า iPhone รุ่นใหม่ จะต้องมาพร้อมระบบ NFC อย่างแน่นอน

passbook-ios-8-icon-credit-card

 

Source : 9to5mac

 
 

Jabra เปิดตัวหูฟังไร้สาย Rox Wireless สุดยอดนวัตกรรมเปิดปิดบลูทูธด้วยแถบแม่เหล็ก

 

Jabra_Rox_Wireless_01

 

หากนึกถึงหูฟังบลูทูธ แน่นอนว่า Jabra ต้องเป็นแบรนด์ที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้วยสินค้าที่มีนวัตกรรมและคุณภาพจากประเทศเดนมาร์ค ซึ่งเป็นประเทศที่รัฐบาลส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมด้านระบบเสียงไร้สายโดยเฉพาะ

 

Jabra Rox Wireless ถือเป็นหนึ่งนวัตกรรมล่าสุดของหูฟังบลทูธ แบบ In Ear Stereo ที่เพิ่มความสะดวกในการเปิดปิดเครื่องด้วยแถบแม่เหล็ก เพียงแค่นำแถบด้านหลังหูฟังมาติดกัน ก็สามารถปิดเครื่องได้ทันที และหากดึงออกจากกันก็จะเปิดเครื่องอัตโนมัติ ทำให้ง่ายและสะดวกในการใช้งาน และไม่สูญเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์จากการปิดเครื่องที่ยุ่งยากเหมือนก่อน
Jabra_Rox_Wireless_02

 

นอกจากนี้ยังมาพร้อม NFC เพื่อการเชื่อมต่อหรือ Pairing กับสมาร์ทโฟนต่างๆ โดยเฉพาะ Android ได้ด้วยการแตะที่ปุ่มรีโมท ไม่ต้องป้อนรหัสให้เสียเวลา ด้านระบบเสียงก็จัดเต็มมาด้วย High Definition Dolby กระหึมครบทุกรายละเอียด ผ่านระบบไร้สาย Bluetooth 4.0 ที่ให้คุณภาพเสียงถึง 99.99%

 

ด้านดีไซน์ผลิตด้วยโลหะและซิลิคอน มีน้ำหนักเบาเพียง 19 กรัม และยังใส่ใจในรายละเอียดสำหรับผู้ใช้ที่มีความแตกต่างด้วยการเตรียมยาง EarGel มาให้อีก 3 ขนาด พร้อมด้วย EarWing ที่ช่วยให้การสวมใส่กระชับยิ่งขึ้น และมาพร้อมคุณสมบัติกันละอองน้ำและฝุ่นที่ผ่านมาตรฐาน IP52

 

Jabra_Rox_Wireless_03

 

จุดเด่นของ Jabra Rox Wireless

• หูฟังบลูทูธสเตอริโอแบบ In ear

• ลำโพงขนาด 6 มม.

• รองรับความไวของเสียง 92 เดซิเบล ที่ 1 mW/1 kHz

• ตอบสนองความถี่เสียงตั้งแต่ 20 Hz – 20 kHz

• ระบบเสียง High Definition Dolby

• กันละอองน้ำและฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP52

• มีไมโครโฟนในตัว พร้อมรีโมทควบคุมการเล่นเพลง และรับสาย

• รองรับการเชื่อมต่อได้ 8 อุปกรณ์ และสามารถใช้งานพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์แบบ Multiuse

• สนทนาต่อเนื่องได้ 5.5 ชั่วโมง

• สแตนบายได้ 8 วัน

• รองรับ NFC

• Bluetooth 4.0

• ขนาด 16.5x20x16  มม. น้ำหนัก 19 กรัม

• มี 2 สี ดำ และ ขาว (สีขาวจะนำเข้ามาจำหน่ายอีก 3 เดือน นับจากนี้)

• สนนราคา 3,790 บาท

 

วางจำหน่ายที่ Jaymart, iStudio, .Life, PowerMall, PowerBuy, TG Fone และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ

 

ซัมซุงโชว์เทคโนโลยี NFC สุดล้ำ สร้างเทรนด์ให้คนรุ่นใหม่คล่องตัวกว่าเคย

samsung-tme-4
 
ซัมซุงจัดเต็มเรื่องเทคโนโลยี เตรียมสร้างเทรนด์การใช้เทคโนโลยี NFC สุดล้ำบนสมาร์ทโฟนที่จะเข้ามาเปลี่ยนให้ชีวิตคนรุ่นใหม่สะดวกสบายและคล่องตัวขึ้นกว่าที่เคย พร้อมแนะนำ “กาแลคซี่ แกรนด์ 2” และ “กาแลคซี่ โน้ต 3 รุ่น 4G LTE” ลงสู้ศึกในตลาดสมาร์ทโฟนจอใหญ่ ส่ง “กาแลคซี่ คาเมร่า 2” สมาร์ทคาเมร่าที่โดดเด่นด้วยขุมพลังแอนดรอยด์ ขนทัพสมาร์ทดีไวซ์และคอนเทนต์ พร้อมโปรโมชัน สุดคุ้มโดนใจและของสมนาคุณอีกเพียบ พิเศษเฉพาะลูกค้าซัมซุง ในงานไทยแลนด์ โมบายล์ เอ็กซ์โป 2014 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 13-16 กุมภาพันธ์นี้เท่านั้น

 

นายวิชัย พรพระตั้ง รองประธานธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ไม่เพียงแต่การพัฒนาสมาร์ทดีไวซ์เท่านั้นที่ซัมซุงให้ความสำคัญ การพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้บริโภคให้ดีขึ้นก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ซัมซุงให้ความสำคัญ ซัมซุงในฐานะที่เป็นแบรนด์แรกๆ ที่นำเทคโนโลยี NFC หรือ Near Field Communication มาอยู่บนสมาร์ทโฟน ซึ่งเทคโนโลยี NFC เป็นเทคโนโลยีในการรับส่งข้อมูลผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย ซึ่งปัจจุบันนี้เริ่มถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้นในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นการเงินการธนาคาร ระบบบัตรโดยสาร การจัดการคลังสินค้า หรือการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งซัมซุงกำลังจะสร้างเทรนด์การใช้เทคโนโลยี NFC ให้แพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย เพราะซัมซุงเชื่อว่า NFC จะเข้ามาเปลี่ยนให้ชีวิตของ คนรุ่นใหม่สะดวกสบายและคล่องตัวกว่าที่เคย ด้วยเทคโนโลยี NFC ที่จะเปลี่ยนสมาร์ทโฟนเครื่องเดิมเป็นกระเป๋าสตางค์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะเป็น การใช้สมาร์ทโฟนจับจ่ายซื้อของตามร้านค้าต่างๆ ใช้สมาร์ทโฟนแทนบัตรรถไฟฟ้า จึงไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวซื้อบัตรอีกต่อไป รวมไปถึงการขอรับสิทธิประโยชน์ได้อย่างมากมาย ทั้งหมดนี้ทำได้บนสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว”

 

samsung-tme-2
 
พร้อมกันนี้ ซัมซุงได้แนะนำสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่เอาใจคนรักสมาร์ทโฟนจอใหญ่อีกด้วย ได้แก่ “กาแลคซี่ แกรนด์ 2 (Galaxy Grand 2)” ที่มากับหน้าจอขนาด 5.25 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD สัดส่วน 16:9 เพื่อการรับชมภาพยนตร์ เล่นเกม หรืออ่านอีบุ๊คได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณสมบัติมัลติวินโดว์เพื่อการใช้งานหลายแอพพลิเคชันพร้อมกัน รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด และคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย วางจำหน่ายในราคา 11,900 บาท มี 2 สีให้เลือกคือสีดำและขาว และ “กาแลคซี่ โน้ต 3 รุ่น 4G LTE (Galaxy Note 3 4G LTE)” กาแลคซี่ โน้ต 3 รุ่นนี้รองรับการใช้งานเครือข่าย 4G วางจำหน่ายในราคา 24,900 บาท มี 2 สีให้เลือกคือสีดำและขาว พร้อมด้วย “กาแลคซี่ คาเมร่า 2 (Galaxy Camera 2)” สมาร์ทคาเมร่าที่โดดเด่นด้วยขุมพลังแอนดรอยด์เจลลี่บีน 4.3 ช่วยให้การแบ่งปันภาพถ่ายคุณภาพสูงและการเชื่อมต่อกับสังคมออนไลน์ต่างๆ เป็นเรื่องง่ายดาย ตอบรับความต้องการของผู้บริโภคที่ชื่นชอบการแชร์ภาพถ่ายคุณภาพสูงบนสังคมออนไลน์ได้เป็นอย่างดี กาแลคซี่ คาเมร่า 2 วางจำหน่ายในราคา 15,900 บาท มี 2 สีให้เลือกคือสีดำและขาว

 

samsung-tme-1
 
“ด้วยเทรนด์สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภคในขณะนี้ เพราะหน้าจอขนาดใหญ่สามารถ ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ใช้สมาร์ทโฟนทั้งในเรื่องความบันเทิงและการทำงานให้อย่างครบถ้วน ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ทำให้รับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างชัดเจน มีพื้นที่สำหรับสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ มากขึ้น ใช้งาน 2 แอพพลิเคชันพร้อมๆ กันได้ด้วยคุณสมบัติมัลติวินโดวส์ รวมไปถึงความสะดวกสบายในการใช้งานที่แม่นยำและรวดเร็ว เรียกได้ว่าสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ทั้งสะดวกสบายต่อการพกพา รวมทั้งเต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับทุกการใช้งานในชีวิตประจำวัน ซึ่งในครั้งนี้ ซัมซุงได้แนะนำสมาร์ทโฟนจอใหญ่ 2 รุ่นพร้อมกัน เพื่อครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม ให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรให้ตรงกับความต้องการ รวมทั้งยังรองรับการแข่งขันในทุกๆ เซ็กเมนต์ของตลาดสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่อีกด้วย สำหรับกาแลคซี่ คาเมร่า 2 นั้น ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นกล้องถ่ายรูปที่พกพาสะดวกและมีประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการ ของผู้บริโภคที่ชื่นชอบแชร์ภาพถ่ายคุณภาพสูงตามสังคมออนไลน์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกับการแชร์ภาพด้วยสมาร์ทโฟน”

 
“นอกเหนือจากเรื่องเทคโนโลยีและนวัตกรรมแล้ว เรื่องการให้บริการด้านคอนเทนต์รูปแบบใหม่ๆ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ซัมซุงให้ความสำคัญ เพราะเราเชื่อว่าคอนเทนต์ที่หลากหลายนั้น จะสามารถตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้สมาร์ท ดีไวซ์ ทั้งในเรื่องการทำงานและความบันเทิงได้อย่างแท้จริง ในวันนี้เราจึงแนะนำ 2 แอพพลิเคชันใหม่ เพื่อเติมเต็มความต้องการของทุกๆ ไลฟ์สไตล์ ด้วยการแนะนำแอพพลิเคชัน mZine แอพสำหรับอ่านแมกกาซีนที่หลากหลาย และ แอพพลิเคชัน Galaxy Horoscope แอพดูดวงเร็วทันใจบนสมาร์ทดีไวซ์ ซึ่งทั้ง 2 แอพ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ Google Play Store โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และเอ็กซ์คลูซีฟเฉพาะลูกค้าซัมซุง กาแลคซี่ เท่านั้น”

 

samsung-tme-3
 
ภายในงานไทยแลนด์โมบายล์ เอ็กซ์โป 2014 มีโปรโมชันและสิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าซัมซุงมากมาย อาทิ สิทธิ์ผ่อน 0% นานสูงสุด 12 เดือน หน่วยความจำ Micro SD 16 GB หมอนอิง Android เสื้อทีเชิร์ต I Love Samsung อะแด็ปเตอร์ สาย HDMI Flip Cover ฟิล์มกันรอยหน้าจอและ Case ดีไซน์พิเศษ นอกเหนือจากโปรโมชัน บริเวณ Galaxy Gift Lounge ยังมีบริการอาหารและเครื่องดื่มที่เป็นพาร์ทเนอร์ในแอพพลิเคชัน Galaxy Gift ซึ่งผู้ใช้ซัมซุง กาแล็คซี่ ทุกรุ่น สามารถนำเครื่องไปลงทะเบียนเพื่อรับอาหารหรือเครื่องดื่มฟรีได้ตามบูธพาร์ทเนอร์ต่างๆ รวมถึงร่วมฟังความรู้ดีๆ ในช่วงเทรนนิ่ง
 
“ภายในบูธซัมซุง มีทั้งสมาร์ทโฟน โน้ต และแท็บเล็ตจากตระกูลกาแลคซี่คับคั่ง พร้อมด้วยโทรศัพท์มือถือยอดนิยม รุ่นอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งซัมซุงยังคงเปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองและสัมผัสโทรศัพท์มือถือทุกๆ รุ่นอย่างใกล้ชิด พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำ และตอบข้อซักถามต่างๆ ซัมซุงมั่นใจว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคเหมือนเช่นเคย” นายวิชัย กล่าวปิดท้าย

 

เอไอเอส 3G 2100 เปิดตัว AIS mPAY Rabbit ใช้สมาร์ทโฟนแทนบัตร BTS และ BRT พร้อมฟรีค่าโดยสาร ค่าเน็ต ค่าโทร รวม 900 บาท

mpay-rabbit

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วนะครับ กับ AIS mPAY Rabbit ซึ่ง OopsMobile ได้เคยนำเสนอวิธีการใช้งานกันไปแล้ว โดยในขณะนั้นยังอยู่ในช่วงทดลอง แต่มาวันนี้ AIS 3G 2100 เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการแล้ว โดยลูกค้าที่อยากเพิ่มความสะดวกในการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS และ BRT โดยไม่ต้องพกบัตรโดยสาร เพียงแค่ใช้สมาร์ทโฟน Samsung รุ่นที่มี NFC พร้อมกับซิม AIS mPAY Rabbit ก็สามารถใช้แทนบัตรรถไฟฟ้าได้ทันที

 

สำหรับลูกค้าที่มีความสนใจจะใช้บริการ สามารถเปลี่ยนซิมหรือซื้อซิม AIS mPAY Rabbit ได้ที่เอไอเอส ช็อปทุกสาขาในกรุงเทพฯ พร้อมรับส่วนลดแพ็กเกจค่าโทรและอินเทอร์เน็ต รวมทั้งรับค่าโดยสาร BTS ฟรี รวมมูลค่าสูงสุด 900 บ. ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 56 – 31 ม.ค. 57

 

นอกจากนี้ยังมีแอพพลิเคชั่น mPAY App เวอร์ชั่น 2.0 ตัวล่าสุดที่ ที่สามารถเติมเงินแรบบิทได้บนมือถือเลย อีกทั้งตรวจสอบมูลค่าคงเหลือ หรือดูรายการใช้งานย้อนหลังได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

และแน่นอนว่าบริการต่างๆ ที่บัตร Rabbit มี ก็สามารถใช้งานได้เหมือนกันหมด ไม่ว่าจะเป็น ร้านแมคโดนัลด์ เมเจอร์ ซีเนเพล็กซ์ สตาร์บัคส์ หรือร้านค้าอื่นๆ ที่รองรับ ซึ่งมีกว่า 700 จุดทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล

 

สำหรับสมาร์ทโฟน ซัมซุงรุ่นที่รองรับมีดังนี้

• Samsung Galaxy Note 2

• Samsung Galaxy Note 3

• Samsung Galaxy S3

• Samsung Galaxy S3 mini

• Samsung Galaxy S4

• Samsung Galaxy Frame

 

นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับผู้ที่ซื้อมือถือซัมซุง ทั้ง 6 รุ่นนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 56 – 31 ม.ค. 57 จะได้รับฟรีซิม AIS mPAY Rabbit พร้อมค่าโดยสาร BTS 100 บ. รวมมูลค่า 500 บ.

 

 

 

แอลจี ด็อกกิ้ง สปีคเกอร์ ND8530 คุณภาพเสียงเหนือระดับ ดีไซน์สวยสะกดสายตา

LG ND8530
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำด็อกกิ้ง สปีคเกอร์ รุ่น ND8530 โดดเด่นด้วยคุณภาพเสียงเหนือระดับ และดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย มาพร้อมฟังก์ชั่นอัจฉริยะ มอบสุนทรีย์แห่งเสียงเพลงทุกรูปแบบได้อย่างเต็มอรรถรส

แอลจี ด็อกกิ้ง สปีคเกอร์ รุ่น ND8530 อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ได้เชื่อมต่อคอนเทนต์กับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย อาทิ iPad และ iPod รวมถึงสมาร์ทโฟนที่รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android พร้อมสามารถเชื่อมต่อบลูทูธ สำหรับการสตรีมเพลงไร้สายจากสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตและแล็ปทอป นอกจากนี้ยังมีช่องต่อ USB ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำกิจกรรมอื่นบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตได้อย่างสะดวกสบาย อาทิ สามารถรับฟังเพลงพร้อมกับชาร์จแบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟน หรือเพลิดเพลินกับการเล่นเกมบนสมาร์ทโฟนได้ในเวลาเดียวกัน

medium04

แอลจี ด็อกกิ้ง สปีคเกอร์ รุ่น ND8530 นี้ มอบพลังเสียง 80 วัตต์ ให้คุณภาพเสียงทรงพลังเมื่อเทียบกับขนาดที่กำลังพอเหมาะ หากผู้ใช้ต้องการฟังเพลงสบายๆ ระบบ Dynamic Loudness จะช่วยควบคุมระดับเสียงเบสและเสียงแหลมให้สมดุลแม้ขณะเปิดเสียงเบาที่สุด นอกจากนี้ ฟีเจอร์เข้ารหัสเสียง apt-X ยังสามารถปรับโทนเสียงให้ชัดใส มีชีวิตชีวา เมื่อเล่นเพลงที่สตรีมผ่านบลูทูธ โดยยังคงรักษาคุณภาพของต้นฉบับไว้

แอลจี ด็อกกิ้ง สปีคเกอร์ รุ่น ND8530 มีดีไซน์ที่โดดเด่น ล้ำสมัย เรียบหรูด้วยสีขาว พื้นผิวสัมผัสแบบเมทัลลิค พร้อม Mood Lamp แสงแบบซอฟท์โทนที่ผู้ใช้สามารถปรับระดับแสงได้ตามความต้องการ ช่วยสร้างบรรยากาศและเพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงมากยิ่งขึ้น

medium02

แอลจี ด็อกกิ้ง สปีคเกอร์ รุ่น ND8530 มีวางจำหน่ายแล้วในราคา 9,990 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข้อมูลแอลจี 0-2878-5757 หรือ www.lg.com/th

คุณสมบัติผลิตภัณฑ์รุ่น ND8530
? พลังเสียง 80 วัตต์ ระบบ 2 แชนแนล
? ดีไซน์ทรงกระบอกสีขาวเมทัลลิค (450 x 228 x 227 มม.)
? ด็อกกิ้งสองพอร์ตรองรับอุปกรณ์ระบบ iOS (พอร์ต Lightning) และ Android (Micro USB)
? Direct Dock และฟังก์ชั่น Playback รองรับอุปกรณ์ระบบ iOS และ Android (Jelly Bean)
? บลูทูธ (เวอร์ชั่น 3.0) และ ฟังก์ชั่น NFC (Tag On) สำหรับการเชื่อมต่อบลูทูธ
? ชาร์จแบตเตอรี่พร้อมกับฟังเพลงด้วยพอร์ต USB สำหรับอุปกรณ์ระบบ iOS และ Android
– ฟังเพลง: ตัวเชื่อม 30 พินและ 8 พินสำหรับอุปกรณ์ระบบ iOS (iPod / iPhone / iPad)
– ชาร์จแบตเตอรี่: อุปกรณ์ระบบ iOS และ Android (iPhone / iPod)
? ตัวเข้ารหัสเสียง apt-X และระบบ Dynamic Loudness
? Mood Lamp ปรับแสงได้ตามชอบ
? รองรับสัญญาณเสียงผ่านช่องต่อ Portable-in

[Video] ทดลองใช้ระบบ NFC บนมือถือ แทนบัตรรถไฟฟ้า BTS ด้วย AIS mPay Rabbit

วันนี้ Oops!mobile ได้รับภาระกิจพิเศษมา 1 อย่าง นั่นคือการทดสอบการใช้งานระบบ AIS mPay Rabbit ซึ่งเป็นบริการใหม่ล่าสุดจาก AIS 3G 2100 ที่สามารถใช้สมาร์ทโฟนแทนบัตร Rabbit ของรถไฟฟ้า BTS ซึ่งต่อไปลูกค้า AIS จะไม่ต้องพกบัตร Rabbit ให้รกกระเป๋าอีกต่อไป โดย AIS ได้ส่งซิมดังกล่าวไปให้ลูกค้าบางส่วนเพื่อเชิญให้ทดลองใช้ก่อน ซึ่งจะเปิดให้บริการจริงในเร็วๆ นี้

อุปกรณ์ที่ใช้ทดสอบ
1. ซิม AIS mPay Rabbit
2. Samsung Galaxy S4 เบื้องต้นยังใช้ได้เฉพาะมือถือของ Samsung ที่มีระบบ NFC เท่านั้น ในเว็บ AIS แจ้งว่ารองรับ Galaxy S3, S3 mini, S4, Note2
3. รถไฟฟ้า BTS (จะว่าเป็นอุปกรณ์ก็ไม่เชิงเพราะดูออกแนวใหญ่เกิ๊น! ถือว่าเป็นระบบในการร่วมทดสอบก็แล้วกันครับ อิอิ)

Mission 1 เติมเงินเข้าสู่ซิม AIS mPay Rabbit
สำหรับภาระกิจแรกที่เราจะทำกันคือการเติมเงินเข้าสู่ซิมของ AIS ที่ใส่ไว้ในเครื่อง Galaxy S4 โดยเมื่อใส่ซิมและเปิดเครื่องเรียบร้อยแล้วจะต้องทำการเปิดใช้ระบบ NFC เอาไว้ด้วย โดยแตะที่ไอคอน Settings แล้วแตะแท็บ Connections จากนั้นแตะเปิด NFC

Screenshot_2013-08-09-16-32-41

 

เอาล่ะครับเมื่อเซ็ตอัพเครื่องพร้อมแล้วก็ส่งมือถือไปให้เจ้าหน้าที่ พร้อมกับเงินที่ต้องการเติมได้เลย โดยขั้นต่ำสุดคือ 100 บ. เติมสูงสุดได้ถึง 4000 บ. และไม่สามารถคืนเงินได้ เมื่อเจ้าหน้าที่รับเครื่องไปแล้วก็จะวางมือถือไว้บนแท่นเติมเงิน จากนั้นก็แจ้งรายละเอียดการเติมเงินให้เหมือนเติมในบัตรตามปกติ

Ais_mpay_rabbit_02

Ais_mpay_rabbit_04

Ais_mpay_rabbit_03

Mission 2 เข้าสู่สถานีรถไฟฟ้า
เอาล่ะครับถึงเวลาที่เราจะพิสูจน์กันแล้วว่าจะใช้มือถือแทนบัตรโดยสาร BTS ได้จริงหรือไม่? เมื่อเอามือถือแตะบนประตูทางเข้าสถานี ก็จะมีเสียงและสัญญาณไฟแสดงขึ้นพร้อมกับเปิดประตูให้อัตโนมัติเพื่อให้เราเข้าสู่สถานีนี้ได้ทันที ส่วนบนหน้าจอก็จะแสดงยอดเงินคงเหลือที่อยู่มือถือให้ด้วย

Ais_mpay_rabbit_01

Mission Complete
ถือว่าเสร็จสิ้นภาระกิจได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยไม่มีอะไรติดขัด โดยที่สามารถใช้มือถือแทนบัตร Rabbit ได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ซื้อของในแมคโดนัล และแลกคูปองที่ตู้ Carrot rewards ได้อีกด้วย

ลองแลกคูปองจากตู้ Carrot rewards

Ais_mpay_rabbit_05
และที่ขาดเสียไม่ได้เราก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะสามารถนำไปแลกคูปองได้เหมือนกับบัตร Rabbit ด้วยหรือเปล่า จึงเดินไปที่ตู้เพื่อทดลองใช้งานดู ต้องบอกว่าเป็นครั้งแรกเหมือนกันที่ลองแลกคูปอง งงๆ ว่าต้องเริ่มยังไง อันดับแรกต้องกดปุ่มเลือกภาษาก่อน จากนั้นก็ให้นำมือถือแตะที่จุดเช็คพอยท์ฺ ในกรณีที่เป็นการใช้งานครั้งแรก จะต้องทำการสมัครเพื่ิอเปิดใช้งานระบบสะสมคะแนนเสียก่อน เมื่อกดปุ่มสมัคร และยอมรับเงื่อนไขแล้ว จะมีการพริ้น Username และ Password ออกมาให้

จากนั้นเราทดลองแลกคูปอง โดยกดปุ่มเลือกคูปองจากร้านค้าที่ต้องการ แล้วนำมือถือแตะที่จุดเช็คพอยท์ จากนั้นระบบก็จะตรวจสอบคะแนน และพริ้นคูปองออกมาให้ทันที

Ais_mpay_rabbit_06

 

ชมคลิปวิดีโอการใช้งานจริง
[youtube link=”http://youtu.be/CnsIATuVHDQ” width=”590″ height=”315″]