Buzzebees แอพโซเซียล พรีวิเลจ เพลตฟอร์ม ต้นแบบความสำเร็จของบริษัท Start up ที่หันมาเลือกใช้ คลาวด์ เซอร์วิสจาก Windows Azure

Microsoft Thailand and Buzzebees

วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ได้รับข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเรื่องของ Cloud Service ซึ่งทางไมโครซอฟต์ประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวกลุ่มย่อยให้กับสื่อมวลชนได้รู้จักกับ Windows Azure มากยิ่งขึ้น ซึ่งในงานนี้ก็ได้นางเอกจาก Buzzebees (บัซซี่บีส์) แอพพลิเคชั่นสะสมแต้มแลกของรางวัลจากการคลิกไลค์บน Facebook ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วที่มีผู้ใช้งานกว่า 2 ล้านคน ภายในเวลา 1 ปี ที่นำทีมโดยคุณณัฐธิดา สงวนศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด มาแชร์ประสบการณ์ถึงเส้นทางความสำเร็จในครั้งนี้อีกด้วย

 

Buzzebees คืออะไร?
จากที่เกริ่นไว้แล้ว ว่าแอพ Buzzebees คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับแอพตัวนี้ให้มากขึ้นอีกนิด โดยเจ้าแอพตัวนี้เป็นการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดีย รอยัลตี้โปรแกรม และอีคอมเมิร์ช เข้าด้วยกัน ด้วยแนวคิดที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ Facebook ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้เข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านแอพ Buzzebees ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ แชร์ข้อความ รูปภาพ กด Like หรือแสดงความคิดเห็น รวมถึงการชวนเพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยผู้ใช้จะได้รับคะแนนเป็นการตอบแทน หลังจากนั้นจะสามารถนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า หรือใช้บริการ รวมถึงลุ้นรับของรางวัลได้ฟรีจากธุรกิจที่เข้าร่วม โดยรองรับทั้ง Android และ iOS หรือจะเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ www.buzzebees.com ก็ได้ ส่วนแอพบน Windows Phone จะเปิดให้บริการประมาณ ต้นปีหน้า

buzzebees

นอกจากที่จะทำแอพของตัวเองด้วยแล้ว Buzzebees ยังได้รับทำแอพให้กับองค์กรต่างๆ อีกด้วย โดยใช้แพลตฟอร์มของแอพตัวเองเป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็น AIS Privilege, Samsung Galaxy Gift, Galaxy Social Plus, Kimheng Gold และล่าสุดอย่าง SingTel จากสิงคโปร์ก็หันมาใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเพิ่มมูลค่าให้บริการของธุรกิจตัวเองอีกด้วย

 

เส้นทางสู่ความสำเร็จ

Nattida Sanguansin - Buzzebees. Co. Ltd.
คุณณัฐธิดา เล่าให้ฟังว่า จากที่เริ่มทำแอพ Buzzebees ที่เป็นแพลตฟอร์มต้นแบบของโซเีชียล พริวิเลจ เราได้ตั้งเป้าหมายแต่แรกว่าจะต้องก้าวไปยังต่างประเทศให้ได้ ดังนั้นจึงต้องหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกให้ได้ โดยเราได้ลองเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นนี้ให้กับทาง Samsung ซึ่งถือเป็นจังหวะที่พอดีมากที่ทางซัมซุงกำลังอยากทำแคมเปญมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าพอดี เราจึงได้มีโอกาสร่วมงานกับทางซัมซุงโดยรับทำแอพ Samsung Galaxy Gift ที่มีแคมเปญให้ลูกค้าซัมซุงจองตัวคู่กรรมผ่านแอพได้ฟรี ทำให้ขณะนั้นมีคนจองตั๋วเข้ามากว่า 20,000 คน ภายใน 1 วินาที ซึ่งถือว่ามี Hit Rate ที่สูงมาก ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จมากๆ เลยทีเดียว

 

ซึ่งการจะทำให้ระบบรองรับการใช้งานสูงๆ ในเวลาเดียวกันได้นั้นจะต้องมีระบบที่มีเสถียรภาพมาก โดยเราเลือกใช้ระบบ Cloud Service ของ Microsoft Windows Azure ซึ่งช่วยในการประหยัดต้นทุนโดยที่จะไม่ต้องลงทุนระบบ Server หรือโครงสร้างพื้นฐา่นด้านไอทีเองทั้งหมด ซึ่งถือเป็นทางออกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ Start Up ต่างๆ ที่กำลังเติบโตอยู่ในขณะนี้

 

หากถามว่าทำไมถึงเลือกใช้บริการคลาวด์เซอร์วิสจาก Windows Azure ต้องบอกว่าเรามองถึงการขยายตลาดในต่างประเทศเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงเหลือผู้ให้บริการเพียง 2 เจ้า คือ Microsoft Windows Azure และ Amazon Web Service ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบความต้องการทางเทคนิคที่เหมือนกัน ปริมาณโหลดเท่ากัน และความง่ายในการใช้งาน Windows Azure นั้นใช้งานได้ง่ายกว่า ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญ การเลือกเป็นไลเซ่นส์ Enterprise Agreement (EA) นั้นมีความคุ้มค่ามาก ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ตัดสินใจได้ทันที

 

อนาคตจะเป็นอย่างไร?
Buzzebees ยังมีแผนที่จะขยายไปยังกลุ่มผู้ใช้ในโซเชียลมีเดียแำพลตฟอร์มอื่นๆ และการเติบโตของตลาดภายในประเทศ ทั้งจำนวนสมาชิก จำนวนธุรกิจที่จะใช้บริการ Privilege CRM Application และจำนวนธุรกิจที่จะเข้ามาร่วมในส่วน E-Commerce ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมากจากตลาดต่างประเทศ

 

นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดเป็นแอพ adBuzz เืพื่อนำยอดสมาชิกกว่า 2 ล้านคน มาต่อยอดทางธุรกิจ โดยเฉพาะในวงการสื่อและโฆษณา ซึ่งประยุกต์หลักการคล้ายๆ กัน คือสมาชิกที่ชมโฆษณา จะได้คะแนนสะสมเพื่อแลกของรางงวัล หรือรับสินค้าตัวอย่าง ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้ว

 

สรุปข้อมูลที่น่าสนใจของ Windows Azure ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2553

 

• ในแต่ละวัน มีลูกค้ากว่า 1,000 ราย ลงทะเบียนใช้งาน Windows Azure
• ปัจจุบัน มีลูกค้ากว่า 200,000 ราย ใช้ Windows Azure
• สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก Windows Azure (ซึ่งรวม IaaS บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure as a Service) และ PaaS (บริการด้านแพลตฟอร์ม Platform as a Service) เติบโตถึง 3 เท่า ซึ่งเร็วกว่าอัตราการเติบโตของตลาดโดยรวม
• ไอดีซี ได้คาดการณ์ตัวเลขการใช้บริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในปี 2556 ไว้ที่ 5,300 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2560
• คาดว่าธุรกิจ IaaS (Infrastructure as a service) และ PaaS (Platform as a service) จะเติบโต 25 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2560 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น)
• สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันมีลูกค้าที่หันมาใช้บริการ Windows Azure แล้ว 800 ราย โดยมีรายได้เติบโตสูงถึง 400 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ธุรกิจในประเทศไทยที่ใช้ Windows Azure อาทิ
บริษัท อุ๊คบี จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจสิ่งพิมพ์ดิจิตอลบนโปรแกรมที่ชื่อ อุ๊คบี (Ookbee) บนระบบคลาวด์ วินโดว์ อาชัวร์ จนเติบโตเป็นร้าน E-bookstore ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท Semantic Touch ผู้ให้บริการด้านเครื่องมือการทำตลาดด้าน อี-คอมเมิร์ซ บนโซเชียล เน๊ตเวิร์ค อย่าง เฟซบุ๊ค ที่ชื่อ BentoWeb
บริษัท Computerlogy สตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการ Social Media Management Tool ซึ่งเป็นบริษัทรายแรกและรายเดียวในเมืองไทยที่เป็น Facebook Preferred Marketing Developer ปัจจุบัน Computerlogy ได้ประกาศเข้าร่วมทุนและได้รับการสนับสนุน จากโครงการ InVent ของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTOUCH อย่างเป็นทางการในวงเงิน 29 ล้านบาท
บริษัท บิลค์ ดอทคอม (Builk.com) ดำเนินธุรกิจให้บริการระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) บนเว็บเบสที่ใช้งานง่าย สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยถึงขนาดกลาง เพื่อให้ลูกค้าใช้งานแอ็พพลิเคชั่นของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วและเข้าใจง่าย
บริษัท Ecartstudio จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้คำปรึกษาทางด้านระบบ Web-Based Application และระบบ Enterprise Location-Based Application แบบครบวงจร
เว็บไซต์ Thaicreate.com ชุมชนออนไลน์ของนักพัฒนาแอพลิเคชั่นที่ใหญ่ที่สุดในไทย

“ไมโครซอฟท์ เทค เดย์ 2013” (Microsoft TechDays 2013) งานสัมมนาไอทีประจำปีที่คอไอทีทุกคนห้ามพลาด!

matichon online 630x350 px

กลับมาอีกครั้งกับงานสัมมนาไอทีประจำปีที่ทุกคนรอคอย! โดยไมโครซอฟท์กับงาน TechDays ที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปีทั่วโลก เพื่อให้คอไอทีและนักพัฒนาซอฟต์แวร์ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างเครือข่ายของผู้เชี่ยวชาญด้านไอที พร้อมเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และโซลูชั่นล่าสุดต่างๆ ของไมโครซอฟท์ และในปีนี้ไมโครซอฟท์ได้ปฏิวัติการพัฒนา ดาต้า เซ็นเตอร์ และซอฟต์แวร์ให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในโลกของดีไวซ์และการบริการ ภายในงานท่านจะได้พบกับระบบปฏิบัติการคลาวด์ (Cloud OS) ล่าสุดจากไมโครซอฟท์

 

พร้อมร่วมเจาะลึกข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญของไมโครซอฟท์ ในการเปิดตัวทัพผลิตภัณฑ์ วินโดวส์ เซิร์ฟเวอร์ 2012 อาร์ทู (Windows Server 2012 R2), ซิสเต็ม เซ็นเตอร์ 2012 อาร์ทู (System Center 2012 R2), วินโดวส์ 8.1 สำหรับองค์กรธุรกิจ (Windows 8.1 Enterprise), วินโดวส์ อาชัวร์ (Windows Azure), วิช่วล สตูดิโอ 2013 (Visual Studio 2013) และรับชมการสาธิตโซลูชั่นที่ไม่เคยมีมาก่อนในงานนี้ก่อนใคร

 

นอกจากนี้ท่านจะได้สัมผัสและทดลองใช้ Surface 2 ก่อนใคร พร้อมลุ้นรับของรางวัลสุดเท่ โทรศัพท์มือถือ โนเกีย 925 จำนวน 2 รางวัล, แท็บเล็ตจากแบรนด์ดัง และของรางวัลพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ในวันอังคารที่ 26 พฤศจิกายน 2556 ณ ห้องบอลรูม โรงแรมแชงกรีลา บางรัก กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 8.30น. (เริ่มลงทะเบียน) ถึง 17.30น. งานสัมมนาไอทีเด็ดๆ อย่างนี้พูดคำเดียวว่าพลาดไม่ได้!

 

คอไอทีที่สนใจสามารถลงทะเบียนและอ่านรายละเอียดงานล่วงหน้าได้ที่
http://www.microsoft.com/thailand/seminar/FY14Q2_Techday/default.aspx

ไมโครซอฟท์ เผยโฉม Windows 8.1 พรีวิวเวอร์ชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจ เปิดให้ทดลองใช้แล้ว

windows8.1
ไมโครซอฟท์ เผยโฉม Windows 8.1 พรีวิวเวอร์ชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจ อัพเดทระบบปฏิบัติการสุดล้ำตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ โดยเปิดให้ทดลองใช้ได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ไมโครซอฟท์ เผยโฉม Windows 8.1 พรีวิวเวอร์ชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจ โดยเปิดให้ลูกค้าดาวน์โหลดเพื่อทดลองใช้ระบบปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยแล้ววันนี้ โดย Windows 8.1 พรีวิวเวอร์ชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจถูกพัฒนาจาก Windows 8.1 พรีวิวเวอร์ชั่น ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดทดลองใช้แล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งในเวอร์ชั่นนี้มีฟีเจอร์เด่นที่ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านต่างๆ ตามที่องค์กรธุรกิจต้องการทั้งในแง่ความสะดวกในการพกพา (Mobility), ความปลอดภัย (Security), การบริหารจัดการ (Management) และเวอร์ชวลไลเซชั่น (Virtualization) โดยไมโครซอฟท์จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Windows 8.1 พรีวิวเวอร์ชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจ และฟีเจอร์ต่างๆ เร็ว ๆ นี้

ท่านสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Windows 8.1 พรีวิวเวอร์ชั่นสำหรับองค์กรธุรกิจ และอัพเดทข่าวสารกี่ยวกับ Windows ได้ที่ Microsoft Windows Blog ที่เว็บไซด์ http://blogs.windows.com/windows/b/business/archive/2013/07/30/windows-8-1-enterprise-preview-now-available.aspx

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย เปิดตัวผู้บริหารคนใหม่ กำหนดทิศทาง “เทคโนโลยีช่วยพัฒนาชีวิตผู้คนให้ดีขึ้น”

กรุงเทพฯ 12 มีนาคม 2556—วันนี้ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำถึงพันธสัญญาในการนำประโยชน์ของเทคโนโลยีสู่ประเทศไทย ภายใต้วิสัยทัศน์ของบริษัท “We Make 70 Million Lives Better”  โดยในงานแถลงข่าวครั้งนี้ นายฮาเรซ คูบจันดานิ กรรมการผู้จัดการคนใหม่  ได้เน้นถึงแนวคิดที่เป็นหัวใจหลักของไมโครซอฟท์ที่ว่า “เทคโนโลยีนั้นสามารถเปลี่ยนโลกและเปลี่ยนชีวิตผู้คนให้ดีขึ้นได้”

นายฮาเรซ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการคนใหม่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เป็นผู้ที่เปี่ยมด้วยประสบการณ์  โดยได้ร่วมงานกับไมโครซอฟท์มาเป็นเวลานานกว่า 15 ปี  โดยก่อนหน้านี้ นายฮาเรซ เคยดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ไมโครซอฟท์ ประเทศอินโดนีเซีย โดยเขาสามารถสร้างการเติบโตให้กับไมโครซอฟท์ อินโดนีเซีย สูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์

ในงานแถลงข่าว นายฮาเรซ  ได้ตอกย้ำถึงชื่อเสียงของไมโครซอฟท์ในฐานะองค์กรที่เด็ดเดี่ยวและกล้าเผชิญกับความท้าทายที่ยากลำบากเพื่อที่จะนำเทคโนโลยีมาสู่ผู้คนในวงกว้าง  “ด้วยความเชื่ออย่างแรงกล้าที่ว่าเทคโนโลยีสามารถเปลี่ยนโลกและช่วยพัฒนาชีวิตของผู้คน ทำให้ไมโครซอฟท์ทำในสิ่งที่ทำอยู่ขณะนี้  เป็นระยะกว่า 20 ปี ในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย ที่ไมโครซอฟท์ได้ร่วมมือกับหลากหลายพันธมิตร  ไม่ว่าจะเป็น ภาครัฐ คู่ค้า ลูกค้า เอ็นจีโอ และองค์กรต่างๆ มุ่งมั่นที่จะนำสิ่งที่ดีสู่สังคมไทย ภายใต้วิสัยทัศน์  “We Make 70 Million Lives Better”  โดยเน้นให้ความรู้ถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและการเข้าถึงเทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสที่ดีกว่า” นายฮาเรซกล่าว

“ไมโครซอฟท์ ไม่ได้มีแต่ความเชื่อในการสร้างโอกาสให้กับผู้คนไม่ว่าจะเป็นพนักงานของเราหรือคนในสังคม แนวคิด “people-centric” ของไมโครซอฟท์ยังได้หยั่งรากลึก ตั้งแต่ยุคของการปฏิวัติการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยเทคโนโลยีจะต้องถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองต่อผู้ใช้อย่างดีที่สุดโดยไม่มีข้อแม้ สำหรับไมโครซอฟท์แล้วคอมพิวเตอร์ล้วนเป็นเรื่องเกี่ยวกับ “ส่วนบุคคล”  ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องแรก ไปจนถึงอุปกรณ์ไอทีที่ทันสมัยบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8  หรือมือถือบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ โฟน 8   โดยในวันนี้ แนวคิดของไมโครซอฟท์ได้ขยายจากคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล มาสู่เว็บ สู่โลกของอุปกรณ์ และคลาวด์ คอมพิวติ้ง”

นอกจากนี้ นายฮาเรซ ยังได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นของไมโครซอฟท์ที่มีต่อพันธมิตรคู่ค้า ว่า “แนวคิด partner-centric เป็นสิ่งที่ไมโครซอฟท์ยึดถือตั้งแต่เราเริ่มทำธุรกิจ  ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกำหนดความสำเร็จของเราในยุคของคอมพิวเตอร์พีซี และสร้างความแตกต่างให้กับเราในวันนี้ เมื่อเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคอุปกรณ์และบริการ (Devices and Services Era) ไมโครซอฟท์ได้ให้การสนับสนุนพันธมิตรและระบบอีโคซิสเต็มในประเทศไทยในการขยายธุรกิจให้กว้างมากขึ้น  ด้วยโปรแกรมการฝึกอบรมและบริการอย่างไม่เคยมีมาก่อน”

ทั่วโลก ไมโครซอฟท์ ได้ทำงานร่วมกับบริษัทพันธมิตรมากกว่า 640,000 ราย ซึ่งพวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เปิดกว้างของไมโครซอฟท์ พัฒนาธุรกิจจนประสบความสำเร็จ เครือข่ายพันธมิตรคู่ค้าของไมโครซอฟท์ในประเทศไทย (Microsoft Partner Network) มีจำนวน  1,140  ราย จาก ผลการศึกษาล่าสุด พบว่าทุก 1 เหรียญสหรัฐที่ไมโครซอฟท์สร้างรายได้  ไมโครซอฟท์สามารถช่วยให้พันธมิตรของเรานำไปสร้างรายได้ต่อได้มากกว่า 8 เหรียญสหรัฐ

นายฮาเรซ ได้กล่าวถึงการที่ไมโครซอฟท์กำลังก้าวเข้าสู่บริษัทที่ให้บริการสำหรับอุปกรณ์และด้านบริการ (devices and services) ว่า “ปัจจุบันผู้คนทั่วโลกเชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น มีการเคลื่อนที่ และพวกเขารู้ว่าเทคโนโลยีสามารถสร้างผลกระทบที่ดีให้กับพวกเขาได้อย่างไรบ้าง  ผู้คนเหล่านี้จะติดต่อและเชื่อมโยงถึงกันด้วยอุปกรณ์และบริการรูปแบบใหม่  จะเห็นได้จากการเพิ่มขึ้นของซอฟต์แวร์ของไมโครซอฟท์ที่เข้าไปอยู่ในอุปกรณ์และบริการต่างๆ ทั้งในตลาดผู้บริโภคและกลุ่มองค์กรธุรกิจ  ไมโครซอฟท์ได้ให้ความสำคัญกับอุปกรณ์และบริการ (devices and services) โดยมีซอฟต์แวร์รองรับมากขึ้น โดยแนวคิดนี้ได้ขยายไปยังกลุ่มผู้บริโภคและบริการด้านธุรกิจ  ด้วยเหตุนี้ เราจึงลงทุนมหาศาลไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ สร้างและเปิดโอกาสให้กับนักพัฒนาหน้าใหม่ รวมถึงพัฒนาโซลูชั่นสำหรับอุปกรณ์ที่หลากหลายที่เชื่อมต่อกับคลาวด์คอมพิวติ้ง”

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย มุ่งมั่นที่จะตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะพันธมิตรที่มีความน่าเชื่อถือ (Trusted Partner) ที่ทำงานร่วมกับภาคธุรกิจ ชุมชน และภาครัฐ ในการร่วมพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจให้เติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกคนมุ่งสู่คลาวด์ คอมพิวติ้ง ไมโครซอฟท์ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้นำในเรื่องของความปลอดภัย ความเป็นส่วนตัว และการปฏิบัติตามกฎระเบียบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทุกคนต่างมุ่งสู่คลาวด์ คอมพิวติ้ง  “เราไม่หยุดยั้งในการพัฒนาและดำเนินการปกป้องความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของลูกค้าของเรา ลูกค้าองค์กรธุรกิจสามารถไว้วางใจได้ว่าไมโครซอฟท์ได้พยายามอย่างเต็มที่จะช่วยเหลือและปกป้องข้อมูลทางธุรกิจที่สำคัญของลูกค้าของเรา ส่วนผู้บริโภค พวกเขาสามารถไว้วางใจไมโครซอฟท์ได้ว่าเราจะไม่ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลหรือนำข้อมูลไปใช้ในเชิงพาณิชย์  โปรแกรมความน่าเชื่อถือในการใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ หรือ The Trustworthy initiative ที่ได้เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2545 ยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของไมโครซอฟท์ ซึ่งรายละเอียดเกี่ยวกับหลักการได้ระบุไว้ในเว็บไซต์ Trust Center ซึ่งทุกคนสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้” นายฮาเรซ อธิบายเพิ่มเติม