iOS 7 Beta 3 มาแล้ว พร้อมดาวน์โหลดที่นี่

iPAD-MINI-IOS-7

หลังจากที่ผมได้ลองติดตั้ง iOS 7 Beta 1 ลงไป ก็เจอกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะเรื่องการสูบแบตจนต้องยอมแพ้ ถอยกลับมาใช้ iOS 6 เหมือนเดิม จนกระทั่งไม่นานก็มี Beta 2 ออกตามมา แต่ก็ยังไม่กล้าอัพเดทเพราะเกรงว่าัยังมี Bug อีกเพียบ จนเมื่อคืน iOS 7 ได้ปล่อยอัพเดท Beta 3 ออกมาให้กับนักพัฒนาได้ลองกัน ซึ่งก็มีอินเตอร์เฟสบางอย่างที่เปลี่ยนไป เช่น บนแถบ Notification Center ได้เพิ่มแถบเวลาของการเล่้นเพลงเข้ามา และภาพนาฬิกาปรับจากใสมาเป็นแบบทึบแทน, เปลี่ยนรูปแบบกราฟิกแสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแอพ, ปฏิทินเพิ่มจุดสีเทาในวันที่สร้างนัดหมายเอาไว้ เป็นต้น สำหรับผู้ที่ใช้ iOS Beta 2 ก็สามารถอัพเดทผ่าน WiFi หรือ OTA ได้เลย ส่วนใครที่ต้องการติดตั้ง iOS 7 Beta 3 ก็สามารถ ดาวน์โหลดไปติดตั้ง ด้วยวิธีการกดปุ่ม Shift แล้วคลิกปุ่ม Check for Update ในโปรแกรม iTunes สำหรับ Windows ได้เลย หรือสำหรับ Max OS กดปุ่ม?Option+Shift เสร็จแล้ว คลิกที่ปุ่ม?Check for Update ?(ห้ามกด?Shift + Restore เด็ดขาด) จากนั้นก็เลือกไฟล์ .ipsw ตามรุ่นที่เราได้ดาวน์โหลดมา แล้วรอให้ติดตั้งจนเสร็จ

 

ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 7 Beta 3

[youtube link=”http://www.youtube.com/watch?v=695k8U6yhjI” width=”590″ height=”315″]

 

คำเืตือน : ควรแบ็กอัพทุกสิ่งอย่างให้เรียบร้อยก่อนติดตั้ง iOS 7 Beta 3 และที่สำคัญ iOS Beta ทุกเวอร์ชั่นจะมีวันหมดอายุ ต้องอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ที่ออกมาหรือรีสโตร์กลับไปเวอร์ชั่นเก่าถึงจะใช้งานต่อได้ และการอัพเดทนี้อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้ระบบปฏิบัติการเสียหายได้ ซึ่งถือเป็นความสมัครใจของผู้ใช้งานเอง ทางเว็บไซต์ไม่มีส่วนในการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

 

iOS 7 beta 3 Downloads

คลิกโหลดกันให้ตรงรุ่นนะครับ อยากรู้้่ว่าเครื่องเราเป็น Model อะไร คลิก วิธีเช็ค iPhone 5 ว่าเป็น Model อะไร

  • iPad (4th generation Model A1458) (LINK)
  • iPad (4th generation Model A1459) (LINK)
  • iPad (4th generation Model A1460) (LINK)
  • iPad mini (Model A1432) (LINK)
  • iPad mini (Model A1454) (LINK)
  • iPad mini (Model A1455) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi (3rd generation) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi + Cellular (model for ATT) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi + Cellular (model for Verizon) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi (Rev A) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi + 3G (GSM) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi + 3G (CDMA) (LINK)
  • iPhone 5 (Model A1428) (LINK)
  • iPhone 5 (Model A1429) (LINK)
  • iPhone 4S (LINK)
  • iPhone 4 (GSM Rev A(8GB) (LINK)
  • iPhone 4 (GSM) (LINK)
  • iPhone 4 (CDMA) (LINK)
  • iPod touch (5th generation) (LINK)

หรือดาวน์โหลดได้ที่?http://imzdl.com/ios.php

หมายเหตุ : เมื่อดาวน์โหลดไฟล์เรียบร้อยแล้วจะได้เป็น Image File นามสกุล .dmg ให้ใช้โปรแกรมแตกไฟล์อย่าง Power ISO แล้วก็อปเฉพาะไฟล์นามสกุล .ipsw ออกมาใช้งาน

Source?:?gdeluxe

ฟีเจอร์ไหนที่ iOS 7 ก๊อปปี้เค้ามาบ้าง แซวขำๆ

hero

คงมีหลายบล็อกที่รีิวิวฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 7 ออกมากันเต็มไปหมดแล้ว ฉะนั้นเราจึงไม่อยากจะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวซ้ำอีก เพราะยังไงๆ ก็คงเป็นข้อมูลที่เหมือนๆ กัน เนื่องจากได้มาจากแหล่งข่าวเดียวกัน ดังนั้นวันนี้เราจะมานั่งจับผิดกันดีกว่า ว่ามีฟีเจอร์ไหนบ้างที่ iOS 7 ก็อปปี้แอนด์เดเวล็อปเขามาบ้าง อิอิอิ

Control Center <เหมือน> Quick Bar บน Android

images_1370893951iOS-7-01?quickbar

Quick Bar บน Galaxy S4

เปิดประเด็นแรกกันที่แถบควบคุมลัดหรือ Control Center ที่เพียงลากนิ้วบนหน้าจอจากล่างขึ้นบน ก็จะเปิดแถบนี้ขึ้นมา โดยจะมีปุ่มช็อตคัทต่างๆ เช่น เิปิด-ปิด WiFi, Bluetooth, Flight Mode, ไฟฉาย, นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข เป็นต้น ซึ่งเหมือนกับแถบควบคุมในหน้า Notifications บน Android 4.2 อย่างใน Galaxy S4 ที่จะมีแถบ Quick Bar ให้แตะเลือกเปิด-ปิดใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ แถมยังเพิ่มปุ่มควบคุมที่รองรับได้ตามต้องการอีกด้วย และที่สำคัญมันมีรองรับมาตั้งแต่รุ่น Galaxy S3, Note 2 แล้วนะจ๊ะ

 

Multitasking พรีวิวได้ <เหมือน> Windows Phone 8?
images_1370894662iOS-7-03??261753-microsoft-windows-phone-7-mango-multitasking

Multitasking บน Windows Phone 8

ถัดมาเป็นส่วนของการพรีวิวหน้าแอพที่รันค้างไว้แบบมัลติทาส์กกิ้ง ซึ่งจะแสดงหน้าแอพที่เปิดไว้ล่าสุดเอาไว้ด้วย จากเดิมที่เป็นเพียงแค่ไอคอน ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็คงได้แรงบันดาลใจมาจากกิ๊กเก่าอย่าง Windows Phone 8 นั่นเอง แต่แอปเปิ้ลก็ขอพัฒนาต่อยอดให้เหนือกว่าด้วยความสามารถในการรีเฟรชข้อมูลให้อัตโนมัติอย่างเช่น Facebook ที่จะอัพเดทข่าวใหม่ที่เข้ามาล่าสุดให้ทันทีเมื่อเรียกสลับแอพขึ้นมาใช้งาน แต่ได้ข่าวว่าจะทำให้กินแบตมากยิ่งขึ้น

 

Camera ใส่ฟิลเตอร์ก่อนถ่ายและหลังถ่ายได้ <เหมือน> Android

camera_filter_process_still_screen

อยากจะตะโกนดังๆ ให้ไปถึงเฮียจ๊อบส์ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ได้ยินเสียเหลือเกินว่าฟังก์ชั่นกล้องบน iPhone เนี่ย ล้าสมัยกว่าเค้าเสียทุกที อย่ามาใช้ข้ออ้างเรื่องคอนเซ็ปที่ต้องการให้ง่ายในการใช้งานอีกเลย เพราะถึงไงผู้ใช้ต้องหาแอพมาตกแต่งภาพกันอยู่ดี แต่ถ้ามีมาให้แต่แรกทุกอย่างก็จะได้เสร็จสรรพ ไม่ต้องเสียเวลาตกแต่งในภายหลังให้ยุ่งยาก ซึ่งจุดนี้ บน Android Phone ทุกยี่ห้อ เค้าก็มีกันมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้วจะครับ เจ้านายยยยยยย

 

AirDrop ส่งไฟล์ผ่าน WiFi เดียวกัน <เหมือน> Samsung Link

images_1370895934iOS-7-08

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ไม่ได้สดใหม่อะไร และใครๆ เค้าก็ทำได้กันมานานแล้ว สำหรับการโอนถ่ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน ซึ่งบน Mac OS ด้วยกันก็ทำได้มานานแล้ว แต่เพิ่งจะปล่อยให้รองรับได้บน iOS ก็เท่านั้น ที่สำคัญ คู่ไม้เบื่อไม่เมาอย่าง Samsung ก็มีฟีเจอร์แบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดยเมื่อก่อนใช้ชื่อว่า Samsung Kies พอมาเป็นบน S4 ก็เปลี่ยนมาใช้ชื่อแอพว่า Samsung Link แทน

 

Safari สไลด์เลือกแท็บได้ <เหมือน> Chrome Browser

images_1370896819iOS-7-09Chrome

?Tab ใน Chrome

หากใครเคยใช้ Chrome บน Android แล้วล่ะก็คงรู้ดีว่าเวลาที่เราจะสลับเปลี่ยนหน้าไปยังแท็บอื่นๆ ที่เปิดค้างไว้ก็เพียงแค่สไลด์ขึ้นๆ ลงๆ เลือกได้ตามสบาย แอปเปิ้ลเห็นแล้วคงอยากขออินเทรนด์กกับเค้าบ้างไรบ้างเลยจับมันใส่ลงใน Safari ของตัวเองเลยซะงั้น

 

App Store Auto Update อัพเดทแอพให้อัตโนมัติ <เหมือน> Play Store

images_1370898048iOS-7-014

อี๋! แอปเปิ้ลเพิ่งทำ ออโต้อัพเดทแอพได้เหรอเทอว์…นี่คงเป็นคำหยิกแกมหยอกจากสาวกแอนดรอยด์ด้วยความสะใจอย่างแน่นอน เพราะบน Play Store เค้าสามารถให้ผู้ใช้งานตั้งค่าอัพเดทแอพได้อัตโนมัติมานานแล้ว แต่สำหรับ App Store เพิ่งจะมาคิดได้ว่าเอ้…นี่สงสัยเราลืมอะไรไปรึเปล่านะ หุหุหุ

และนี่ก็เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ผมได้จับมาแซวเล่นๆ ขำๆ เท่านั้นนะครับ อย่างน้อยเชื่อว่าทุกอย่างที่แอปเปิ้ลได้พัฒนามา ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งานนั่นเอง โดยแอปเปิ้ลจะเริ่มปล่อยให้อัพเดทกันจริงๆ ก็ประมาณเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ครับ ท้ายนี้ผมมีรูปจริงๆ ของ iOS7 เวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนามาฝากให้ดูกันด้วยครับ

379582_10200894514838924_441954170_n
หน้า Home
7247_10200894516558967_1527709049_n
Folder สไตล์ใหม่
972267_10200894523559142_1211346161_n
แสดงแอพแบบมัลติทาส์ก
992971_10200894516118956_2117756610_n
หน้าแอพ Phone
969204_10200894522079105_1942570734_n
Control Center
602402_10200894515958952_96849112_n
เมนูใน Settings

 

iPad mini พร้อมวางจำหน่าย 16 พ.ย. นี้ ที่ iStudio

เตรียมตัวช็อปกันอีกแล้วกับ iPad mini ที่ล่าสุดทางเว็บไซต์ Siampod รายงานว่า จะมีการวางจำหน่ายที่ iStudio ในวันศุกร์ที่ 16 พ.ย. นี้ โดยราคาก็คงเท่ากับในเว็บ Apple Store ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายเฉพาะรุ่น Wi-Fi ก่อน ส่วนรุ่นที่ใส่ซิมได้ (Cellular) ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอนออกมา เนื่องจากอยู่ในกระบวนการอนุมัติจาก กสทช. ซึ่งคาดว่าน่าจะวางจำหน่ายตามหลังในอีกไม่นาน

สำหรับราคา iPad mini รุ่น Wi-Fi มีดังนี้

  • iPad mini รุ่น Wi-Fi 16GB ราคา 11,200 บาท
  • iPad mini รุ่น Wi-Fi 32GB ราคา 14,200 บาท
  • iPad mini รุ่น Wi-Fi 64GB ราคา 17,200 บาท

ที่มา – siampod

5 เหตุผลกวนๆ สำหรับคนที่อยากได้ iPad mini

เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว สำหรับ iPad mini ซึ่งเป็นไปตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ (อีกแล้ว) จนทำให้หลายคนอาจจะไม่ีได้ร้อง WOW มากนัก เมื่อได้เห็นตัวจริงของมันในงานเปิดตัว นอกจากนี้ยังมี iPad 4 ที่เป็นรุ่น Minor Change จาก The New iPad หรือที่เราเรียกติดปากว่า iPad3 นั่นเอง ฉะนั้นจุดโฟกัสของเรื่องนี้จึงเปลี่ยนไปที่ iPad mini เสียมากกว่า เอาล่ะครับ เชื่อว่าในเรื่องของสเปกและคุณสมบัติต่างๆ ทุกท่านคงได้เห็นตามเว็บบล็อคต่างๆ กันอยู่แล้ว ดังนั้นโทรโข่ง.คอม จึงไม่ขอเอ่ยให้เปลืองเวลา แต่ของสรุปเหตุผลกวนๆ สำหรับคนที่อยากได้ iPad mini มา่ครอบครอง แม้ว่าจะมี iPad รุ่นเดิมอยู่แล้วก็ตามที

1 ก็มันเล็ก พกสะดวกกว่าอ่ะ ด้วยขนาดหน้าจอที่เล็กลงมาเป็น 7.9 นิ้ว จากเดิม 9.7 นิ้ว ซึ่งยังคงความละเอียดเท่ากับ iPad 2 คือ 1024×768 พิกเซล และลดขอบด้านข้างที่หน้าจอให้แคบลง ทำให้เวลาอ่านอีบุ๊กด้วยมือเดียวสะดวกขึ้นนะตัวเธอ แถมน้ำหนักก็เหลือเพียง 308 กรัม (รุ่น Wi-Fi) และยังบางเบาได้ใจเพียง 7.2 มม.

2 ถือแล้วไฮโซ ดูดีมีชาติตระกูล ก็อย่างที่รู้กันอยู่ว่าแอปเปิ้ลเค้าดีไซน์อะไรมาแต่ละอย่าง ก็เรียบหรูดูดีซะหมด ถึงแม้ว่าจะคุณจะแต่งตัวธรรมดา รากหญ้า โหนรถเมล์ แค่ไหน แต่เมื่อยก iPad mini ขึ้นมา คุณจะดูเจิดจรัส ฟินสุดๆ ขึ้นมาทันใด ด้วยบอดี้แบบเดียวกับ iPhone5 ที่เป็น Aluminum unibody มี 2 สีให้เลือก Black & Slate กับ White & Silver

3 สวยๆ กับ 275,000 iPad Apps เริ่ดสุดเหวี่ยงกับแอพเฉพาะ iPad ที่รองรับมากกว่าใครในปฐพี ไม่ใช่นำแอพจากสมาร์ทโฟน มาขยายหน้าจอเหมือนอย่างแท็บเล็ตหุ่นกระป่องเขียวให้ดูแล้วเสียสายตา ถึงแม้ว่าจะใช้ประจำอยู่แค่ Facebook, Twitter เป็นหลักก็ตาม แต่ขอมากไว้ก่อนใครจะทำไม

4 เส้น(สาย) เดียวเอาอยู่ ไม่ต้องรำคาญกลับหน้ากลับหลังให้ถูกด้านเวลาเสียบสายชาร์จอีกต่อไป เพราะสาย Lightning (ไลน์นิ่ง) ออกแบบให้เสียบได้ทั้ง 2 ด้าน แถมเล็กกว่าเดิมมากๆ

5 ราคาถูกใจมว๊าก เปิดตัวด้วยราคามินิๆ ที่ 329 เหรียญ หรือประมาณ 10,200 บาท สำหรับรุ่น Wi-Fi 16 GB คราวนี้ใครๆ ก็ฟินได้ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้วล่ะนะ

เป็นไงล่ะครับกับเหตุผล 5 ข้อที่เข้าข้างตัวเองสุดๆ เพื่อให้ได้มาซึ่ง iPad mini โดยคาดว่าน่าจะเข้ามาจำหน่ายในเมืองไทยช่วงปลายเดือน พ.ย. หรือ ธ.ค. ก่อนปีใหม่นี้แน่นอน โอ๊ย!!! แล้วอย่างนี้จะเก็บเงินกันทันมั้ยเนี่ย iPhone 5 ก็จะมาวันเช้าวันพรุ่้งแล้ว แถมปลายปีก็ยังมี iPad mini มา่ยั่วน้ำลายอีก แต่ยังไงก็อย่าลืมใช้จ่ายอย่างมีสติกันนะจะ สาวกทั้งหลาย

อ่านรีิวิวดูสเปก iPad mini จาก Techmoblog ได้ครับ