[Udpate] สรุปรวบตึง มีอะไรใหม่ใน iOS 8 ใครใช้ iPhone, iPad, iPod Touch ไม่ควรพลาด

ios8Head

 

สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามงาน WWDC14 เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งงานนี้มีการเปิดตัวเฉพาะระบบปฏิบัติการใหม่ นั่นคือ OS X Yosemite สำหรับเครื่อง Mac และ iOS 8 สำหรับ iPhone, iPad, iPod Touch ซึ่งเราจะมาพูดถึง iOS 8 กันก่อนว่ามีอะไรใหม่บ้าง ส่วน OS X จะขอแยกเป็นอีกบทความไว้ดีกว่า

 

มีอะไรใหม่บ้างใน iOS 8

f1401731427

 

แถบ Notification โต้ตอบได้ทันทีเมื่อมีข้อความเข้ามา ไม่จำเป็นต้องออกจากหน้าแอพที่กำลังใช้งานอีกต่อไป รวมถึงหน้า Lock Screen ก็ใช้งานแถบแจ้งเตือนได้เลยเช่นกัน
f1401731513

 

ในหน้า Multitasking จะแสดงรายชื่อล่าสุดที่โทรออก, รายชื่อในรายการโปรด Favorite, ส่งข้อความ หรือ FaceTime หาคุณขึ้นมาด้วย
f1401731680

 

 

ช่อง Sportlight search ทำหน้าที่คล้ายกับ OS X คือหาข้อมูลได้แทบทุกแอพในเครื่อง รวมถึงค้นหาแอพที่ยังไม่ได้ติดตั้งในเครื่องได้ด้วย..บระเจ้า ไม่ต้องเข้า App Store แล้วพี่น้อง

f1401731843

 

Smartest Keyboard คีย์บอร์ดมีระบบช่วยเดาคำอัตโนมัติได้ฉลาดยิ่งขึ้น โดยวิเคราะห์จากรูปประโยคให้ใกล้เคียงยิ่งขึ้น แล้วแสดงคำขึ้นมาให้เลือกแม้ว่าเรายังไม่ได้พิมพ์ตัวอักษรแรกก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถรู้ได้ว่าควรเลือกใช้คำแบบไหนให้เหมาะสมตามสถานะการณ์เช่นคุณกับเพื่อนใน iMessage ก็จะใช้คำสบายๆ หน่อย หรือหากคุยอีเมล์เรื่องงานก็จะใช้คำที่เป็นทางการมากขึ้น  ที่สำคัญรองรับหลายภาษาไม่ใช่แค่อังกฤษ มีภาษาไทยด้วย ซึ่งก็ต้องลองดูว่าภาษาไทยจะทำงานได้ดีแค่ไหน หวังว่าคงไม่เจอคำว่า “สัตว์ปีก” มาให้โน้ต อุดม ได้แซวเล่นกันอีกนะครัสสส อิอิอิ

f1401731932

 

 

สามารถแชทกันแบบ Group Messaging สนทนากันเป็นกลุ่มได้แล้ว แต่ยังไม่เป็นบล็อค 4 กรอบตามสิทธิบัตรที่จดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีๆที่ผ่านเข้ามา ฟังก์ชั่นหลักๆ สามารถตั้งชื่อกลุ่ม, เพิ่มลบเพื่อนและดีดตัวเองออกจากกลุ่มได้ทุกเมื่อ, เปิดระบบห้ามรบกวนได้ เป็นต้น

f1401732051

 

 

iMessage ส่งคลิปวิดีโอ และคลิปเสียงได้แล้ว โดยสามารถเปิดจากหน้า Lock Screen ก็ได้นะ #ถ้าโอเคให้ทำปากจู๋  นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดให้ คลิปวิดีโอ หรือคลิปเสียงสามารถเปิดฟังไปแล้วจะลบไปในกี่นาทีตามกำหนดได้อีกด้วย

f1401732266

 

 

เวลาจะฟังคลิปเสียงก็แค่ยกแนบหูก็ฟังได้เลย ส่วนเวลาจะส่งคลิปเสียงก็แค่กดปุ่มบันทึกเสียงค้างไว้ เมื่อเสร็จแล้วก็ปัดนิ้วขึ้นไปด้านบนเพื่อส่งได้ทันที

 

ios8-imessage

 

 

สามารถ Share Location หรือตำแหน่งปัจจบุันของเรา พร้อมกำหนดได้ว่าจะให้สิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เช่น ภายใน 2 ชั่วโมง,  ภายในวันนี้เท่านั้น หรือ เปิดตลอด

ios8-imessage-location

 

Handoff เชื่อมต่อการใช้งานให้ต่อเนื่องระหว่าง iPhone, iPad, Mac (Yosemite) เข้าด้วยกัน เช่นกำลังเขียนอีเมล์บน iPhone แล้วกลับมาเขียนต่อบน Mac ได้โดยที่เมื่อเครื่องทั้ง 2 อยู่ใกล้กันระบบจะเปิดแอพนั้นขึ้นมาให้เขียนอีเมล์ต่อโดยอัตโนมัติ โดยรองรับการแอพต่างๆ อีกมากมายทั้ง Safari, Pages, Numbers, Keynote, Maps, Messages, Reminders, Calendar และ Contacts นอกจากนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวยังช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi Hotspot ระหว่าง iPhone กับ iPad ได้ง่ายขึ้นแค่วางไว้ใกล้กัน ส่วน Mac ก็จะถามทันทีว่าจะใช้ Hotspot ของ iPhone มั้ย และที่เป็นฟีเจอร์สุดล้ำอีกอย่างที่หลายคนรอคอยคือการให้เครื่อง Mac รับสาย และโทรออก โดยใช้สัญญาณโทรศัพท์จาก iPhone ได้ด้วย

Handoff

 

Enterprise Feature 

มีการเพิ่มคุณสมบัติสำหรับการใช้งานภายในองค์กร โดยให้ติดตั้งแอพและตั้งค่าการทำงานตามกติกาขององค์กรนั้นๆ โดยอัตโนมัติ รวมทั้ง Email, Calendar ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงการจัดการหนังสือ และไฟล์ PDF ใน iBook ตามที่สถาบันนั้นๆ จัดเตรียมไว้ด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากในการใช้งานด้านการศึกษา

DSC_1243

DSC_1252

 

 

iCloud Drive บน iOS 8 สามารถเปิดไฟล์เอกสารหรือซิงค์ขึ้นคลาวด์ รวมถึงติดตั้งคลาวด์จากแอพอื่นๆ เช่น OneDrive, Box ได้ด้วย

f1401732413

 

 

มีแอพ Health เพื่อคนรักสุขภาพจริงๆด้วย เป็นที่รวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจากแอพอื่นๆ ทั้งหมดไว้ในที่เดียว ตั้งค่าร่วมใช้งานกับแอพอื่น หรือกำหนดให้แจ้งเตือนเมื่อถึงวันนัดหมอ หรือตั้งให้ส่งข้อความไปถึงหมอ หากต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินโดยอัตโนมัติได้ถ้ามีค่าผิดปกติมาก เช่น ความดันสูง โดยมีการทำงานร่วมกับ Mayo Clinic  เครือข่ายสุขภาพชื่อดังของอเมริกา (เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ ที่มีแพทย์ นักวิจัย และบุคคลากรกว่า 50,000 คน)

f1401732590

 

Family Sharing ศูนย์รวมของคนในครอบครัว โดยสามารถ แชร์รูปภาพ, แชร์แอพ (ซื้อคนเดียวใช้ได้ 6 คน), เพลง, หนัง, อีบุ๊ก, ปฏิทิน ให้คนในครอบครัวได้ถึง 6 คน ค้นหาตำแหน่งคนในครอบครัว ให้กันได้ ที่สำคัญสามารถซื้อแอพให้กันได้ เช่น เกิดลูกจะซื้อแอพก็สามารถใช้บัตรเครดิตของพ่อเพื่อจ่ายตังค์ให้ได้ โดยที่ลูกไม่ต้องมีแอคเคาท์ Apple ID (แต่จะมีหน้าจอแจ้งเตือนให้พ่อแม่อนุญาติก่อนนะ ไม่ต้องกลัว Shock Bill 555)

f1401732795

 

Photo Edit สามารถตกแต่งภาพ โดยปรับส่วนที่มืดให้สว่างได้โดยดูการไล่ระดับแสงสว่างจากน้อยไปมากได้ นอกจากนี้ยังใช้ปรับค่าต่างๆ เพิ่มเติมได้อีกมากมาย เช่น สี, ความสว่าง, คอนทราสต์ ฯลฯ ได้อย่างมืออาชีพแล้ว ยังสามารถปรับแต่งแบบง่ายกว่านั้นคือ ปรับแค่สีและความสว่าง โดยที่แอพจะช่วยลดค่าอื่นๆ ที่เหมาะสมให้เอง เช่น ปรับให้สีสันสดขึ้น จะมีการไปลดหรือเพิ่มค่าคอนทราสต์ และความสว่างภาพให้อัตโนมัติ โดยไม่ทำไม่ทำให้แสงส่วนอื่นสูญเสียรายละเอียดไปด้วย อย่างการปรับภาพย้อนแสงบนใบหน้าให้สว่างขึ้น โดยที่ฉากหลังเป็นท้องฟ้า หรือแบ็กกราวด์วิวก็ยังคมชัดอยู่

 

นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับแอพจัดการภาพหรือ Photo ตัวใหม่ที่จะออกมาสำหรับ Mac OS X Yosemite ในต้นปีหน้าได้อีกด้วย

f1401733038

 

 

หากให้อัพโหลดรูปขึ้นคลาวด์จะไม่จำกัดแค่ 1,000 รูป อีกต่อไปแล้ว ซึ่งอาจะเป็นกลยุทธ์ล่อให้คนต้องซื้อพื้นที่  iCloud มากขึ้นก็ได้ เพราะพื้นที่ฟรี 5GB อาจจะไม่พอยาไส้ แต่ถ้าซื้อเพิ่มก็มีการปรับราคาลงมาเป็น 20 GB จ่าย $0.99 ต่อเดือน (เดิม $3.33/เดือน) หรือ 200 GB จ่าย $3.99 ต่อเดือน

DSC_1346

 

 

แอพ Photos แสดงภาพในเครื่องและ iCloud จากทุกอุปกรณ์ โดยที่ช่อง Spotlight สามารถค้นหาภาพตามตำแหน่ง, เวลา, และอัลบั้มได้ตามต้องการ

f1401732953

 

พูดเลย “Hey, Siri” จะสั่งให้ค้นหาเพลงจากการฟังเสียงด้วย Shazam หรือสั่งซื้อของใน iTunes ก็ทำได้ ไม่รู้ว่าจะมีภาษาไทยติด 1 ใน 22 ภาษารึเปล่าสินะ

f1401733336

 

 

ในส่วนของ App Store เพิ่มแท็บ explore ช่วยค้นหาแอพ และเพิ่ม App bundles ให้ผู้ขายแอพ จัดแอพขายแบบยกชุดได้ในราคาพิเศษ

f1401733534

 

 

Notification Center มี Widgets กับเค้าแล้วหรือนี่..คล้ายๆ Google Now บน Android วิธีเรียกเปิดใช้งานให้พูดว่า “one new widget available.” แล้วเพิ่มหรือแก้ไขรายการกีฬาโปรดของคุณ ขณะนี้รองรับบน iPad เช่นกัน

f1401733795

 

เย้ๆๆๆๆ ฉีกข้อจำกัดเรื่องคีย์บอร์ดเสียที โดย iOS 8 ยอมให้ติดตั้งคีย์บอร์ดเสริม หรือคีย์บอร์ดแบบอื่นๆ เพิ่มเติมได้ (เช่น swype คีย์บอร์ดจากผู้พัฒนาร่วมรายอื่นๆ) โดยไม่ต้องไป Jailbreak อีกต่อไป  แถมยังคุยว่ามีระบบป้องกันไม่ให้คีย์บอร์ดเหล่านั้นไปยุ่งกับส่วนอื่นๆ ของระบบได้ (แอบขโมยข้อมูลที่คุณคีย์แล้วส่งออกไปไม่ได้) นอกจากคุณจะยอมอนุญาตเป็นพิเศษ

f1401734021

 

iPhone 5S มีผู้ใช้งาน Touch ID ประมาณ 83% ใน iOS 8 จะเพิ่มความสามารถให้ป้องกันข้อมูลแอพอื่นๆได้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ App Store หรือปลดล็อคหน้าจออีกต่อไป

f1401734087

 

HomeKit พร้อมรองรับระบบ Smart Home โดย iDevice จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้บ้านปลอดภัยยิ่งขึ้น เช่น สั่งล็อคประตู, ปิดเปิดไฟ, กล้องวงจรปิด ฯลฯ หรือไม่ต้องเปิดแอพก็สามารถใช้ Siri สั่งงานด้วยเสียงได้ โดย Apple ได้เจรจากับบริษัทต่างๆ ที่ทำระบบอัตโนมัติทั้งหลายในบ้าน ตั้งแต่กุญแจล็อค ไฟส่องสว่าง ฯลฯ ไว้แล้วหลายสิบบริษัท

f1401734203

DSC_1458

 

iOS 8 Beta หรือเวอร์ชั่นทดลอง เริ่มปล่อยให้นักพัฒนาดาวน์โหลดได้แล้ว ส่วนเวอร์ชั่นเต็มจะปล่อยให้คนทั่วให้ดาวน์โหลดได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วม หรือประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม ปีนี้

f1401735310

 

สำหรับนักพัฒนา Developer

นอกจากคุณสมบัติใหม่สำหรับผู้ใช้แล้ว ยังมีคุณสมบัติใหม่หลายๆ อย่างสำหรับ developer หรือผู้พัฒนาโปรแกรม ซึ่งบางอย่างมีผลกับผู้ใช้ด้วย เช่น

 

• App Preview แสดงวิดีโอของการทำงานแอพในหน้า App Store เลย

DSC_1382


Test Flight นักพัฒนาสามารถเชิญผู้ใช้เข้าร่วมทดสอบรุ่น beta ของแอพได้ด้วยก่อนปล่อยตัวจริงออกไป

DSC_1384


Metal ระบบกราฟิกใหม่ที่ช่วยลด overhead และเพิ่มความเร็วในการทำงานแสดงผลได้เร็วขึ้นเป็นสิบเท่ ซึ่งหากเป็นอย่างที่แอปเปิลวางไว้ iOS ก็จะเริ่มสามารถเข้าไปสู้ในตลาดเกมคอนโซลที่เคยเป็นของ Sony PlayStation, microsoft Xbox, Nintendo Wii และอื่นๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งยังรองรับการใช้งานแอพที่ใช้พลังกราฟิกหนักๆ อย่างพวก 3: visualization, Virtual หรือ Augmented Reality ได้มากขึ้นด้วย

DSC_1482

DSC_1518


Extensibility เปิดช่องทางให้แอพต่างๆ สามารถรับส่งข้อมูลและทำงานร่วมกัน เช่น จาก Photos สามารถไปเรียกใช้ความสามารถในการแต่งภาพของแอพอื่น หรือบราวเซอร์ Safari เรียกใช้ตัวแปลภาษาจาก Bing ได้เป็นต้น ถ้าแอพที่ถูกเรียกใช้นั้นเปิดให้บริการไว้ตามกติกา”

DSC_1397 DSC_1401

 

อุปกรณ์ที่สามารถรองรับ iOS 8 ได้มีดังนี้

iPhone 4s

iPhone 5

iPhone 5c

iPhone 5s

iPod Touch 5 gen

iPad 2

iPad with Retina Display

iPad Air

iPad mini

iPad mini with Retina display

ส่วน iPhone 4 เสียใจด้วยครับ คุณไม่ได้ไปต่อ

 

ios8 compatible

 

ดูฟีเจอร์ iOS 8 อย่างเป็นทางได้ที่เว็บ Apple

 

เครดิตภาพบางส่วนจาก The Verge

 

 

 

อะโดบีเปิดตัวแอพใหม่สุดล้ำ “Adobe Voice” รองรับ “การสร้างสรรค์เรื่องราว” บน iPad

 

Adobe Voice - Theme Picker Adobe Voice - Icons

 

อะโดบี (Nasdaq:ADBE) เปิดตัว Adobe Voice แอพวิดีโอภาพเคลื่อนไหวสำหรับ iPad ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์และแบ่งปันวิดีโอบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ Adobe Voice ช่วยให้ผู้คนสามารถแจ้งข้อมูล เชิญชวน หรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆในการสร้างสรรค์และแบ่งปันวิดีโอ โดยใช้เสียงพูดที่บันทึกไว้ รูปภาพ เพลง รวมถึงกราฟิกและเอฟเฟ็กต์คุณภาพระดับภาพยนตร์ Adobe Voice ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์ผลงานในโลกออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยไม่จำเป็นต้องมีการถ่ายทำหรือตัดต่อภาพยนตร์ เหมาะสำหรับมืออาชีพด้านครีเอทีฟที่ต้องการดำเนินโครงการต้นแบบ (project prototyping) หรือองค์กรการกุศลที่ต้องการรณรงค์โครงการเพื่อสาธารณะประโยชน์ หรือผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยที่ต้องการติดต่อกับลูกค้า หรือนักศึกษาที่ต้องการจัดทำรายงานแบบอินเทอร์แอคทีฟที่น่าสนใจ ผู้ใช้จะสามารถแชร์วิดีโอภาพเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลมีเดีย อีเมล บล็อกส่วนตัว และเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการโพสต์ลิงค์เพียงรายการเดียว และสามารถเรียกดูได้บนทุกอุปกรณ์

 
Adobe Voice เปิดให้ใช้งานฟรีผ่านทาง App Store และใช้บริการ Adobe Creative Cloud เพื่อนำเสนอประสบการณ์แอพ iPad ที่แปลกใหม่อย่างแท้จริง
Adobe Voice เพิ่มชีวิตชีวาให้กับรูปแบบการนำเสนอพรีเซนเทชั่น ด้วยการเพิ่มเติมเสียงพูดและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของอะโดบี แอพใหม่นี้ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับประสบการณ์โมบายล์ โดยมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย พร้อมเทคโนโลยีการผลิตระดับมืออาชีพ ซึ่งช่วยสร้างสรรค์วิดีโอสนุกๆ ที่คมชัด สวยงาม และน่าประทับใจ เหมาะสำหรับทุกคน คุณสมบัติสำคัญๆ มีดังนี้:

 

Adobe Voice - Story Starter
เรื่องเล่าเบื้องต้นและวิดีโอตัวอย่าง: ซึ่งจะเสริมสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้ด้วยวิดีโอที่สร้างแรงบันดาลใจจากชุมชมผู้ใช้ พร้อมด้วย “วงล้อ” สำหรับไอเดียเรื่องเล่า (wheel of story ideas) ซึ่งจะช่วยพัฒนาโครงสร้างของเรื่องราวที่มีความหมายตั้งแต่คลิกแรก
กราฟิกสวยงาม: ซึ่งผู้ใช้สามารถใส่เพิ่มเติมลงในผลงาน มีให้เลือกใช้ได้มากมาย ทั้งไอคอนกว่า 25,000 รายการในไลบรารี รูปภาพหลายล้านรูปจากเว็บ หรือภาพถ่ายของผู้ใช้
เอนจิ้นกราฟิกที่ก้าวล้ำ: ภายใต้แรงบันดาลใจจากเครื่องมือ After Effects ของอะโดบี รองรับการใช้กราฟิกระดับภาพยนตร์สำหรับเรื่องราวของคุณในแบบเรียลไทม์ รวมไปถึงการทำภาพเบลอ ภาพ 3 มิติ แสง-เงา และเอฟเฟ็กต์ระดับมืออาชีพอีกมากมาย
ชุดรูปแบบภาพเคลื่อนไหว: ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับเรื่องราวทุกประเภทที่สามารถใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวอย่างยืดหยุ่น เพื่อให้คอนเทนต์มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ตั้งแต่สไตล์การวาดแบบกระดานดำ ไปจนถึงภาพวาดสีน้ำแบบเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าคุณกำลังวาดภาพสีน้ำบนหน้าจอ ด้วยการแตะหน้าจอเพียงครั้งเดียว คุณจะสามารถเลือกสิ่งที่ต้องการ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอของคุณ
เสียงดนตรีที่มีให้เลือกมากมาย: ช่วยเติมเต็มอารมณ์ความรู้สึกสำหรับข้อความที่คุณต้องการสื่อ โดยจะมีการปรับแต่งเสียงอัตโนมัติให้สอดรับกับเสียงพูดที่บันทึกไว้ด้วย Adobe Voice จนใกล้เคียงกับผลงานจากห้องอัดเสียงระดับมืออาชีพ
หน้ารายชื่อผู้จัดทำและผู้มีส่วนร่วม ซึ่งจะถูกใส่ไว้โดยอัตโนมัติที่ส่วนท้ายของทุกวิดีโอ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการระบุชื่อเจ้าของผลงานไอคอน Creative Commons หรือรูปภาพทั้งหมดที่ใช้ในวิดีโอ ดังนั้นผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่อไป

 
 
คำกล่าวของอะโดบี
วินสตัน เฮนดริกสัน รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นครีเอทีฟมีเดียของอะโดบี
• “Adobe Voice นำเสนอเทคโนโลยีเสียงและวิดีโอระดับชั้นนำของ Creative Cloud สู่ผู้ใช้ทั่วไป โดย Creative Cloud ช่วยขยายขอบเขตการสร้างสรรค์นวัตกรรมและดึงดูดผู้ใช้รายใหม่ๆ ให้หันมาใช้เทคโนโลยีของอะโดบีกันมากขึ้น เราเชื่อว่า Adobe Voice และโมบายล์แอพอื่นๆ ที่จะนำออกเผยแพร่ในอีกสองสามเดือนข้างหน้า จะตอกย้ำความมุ่งมั่นและความสำเร็จของเราอย่างต่อเนื่อง”

 
 
คำกล่าวของลูกค้า
เจฟฟ์ ลาร์สัน อาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมปลาย Balboa High School ในซานฟรานซิสโก
• “ฟังก์ชั่น Story starter ใน Adobe Voice ช่วยให้นักเรียนของเราสร้างสรรค์เรื่องราวได้ตรงตามวัตถุประสงค์และความตั้งใจ ด้วยกรอบโครงสร้างที่เหมาะสม พร้อมคำแนะนำทีละขั้นตอนสำหรับการบอกเล่าเรื่องราว สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ การได้เห็นนักเรียนทำงานร่วมกันอย่างกระตือรือร้น เพื่อบอกเล่าและแบ่งปันเรื่องราวและแนวคิดต่างๆ ให้แก่คนอื่นๆ ในฐานะอาจารย์ในโรงเรียนที่เน้นหลักสูตรบูรณาการนี้ ผมพบว่านักเรียนสามารถใช้ Adobe Voice ในชั้นเรียนวิชาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”

 
ลิงค์ที่มีประโยชน์: 
แนะนำ Adobe Voice
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ Adobe Voice
Adobe Voice สำหรับอาจารย์
Adobe Voice สำหรับผู้ประกอบการ
Adobe Voice สำหรับองค์กรการกุศล
Adobe Creative Cloud

 

การวางจำหน่าย
Adobe Voice เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีจาก App Store โดยแอพนี้ต้องใช้ iPad 2 หรือรุ่นใหม่กว่า พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 7 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Adobe Voice ได้ที่ http://getvoice.adobe.com/

 

Apple ปล่อย iOS 7.1.1 อัพเดทแล้ว แก้ไขระบบ Touch ID และ Fix Bug เบาๆ

ios7-1-1

 

 

เช้านี้ตื่นมาก็เจอกับหน้าจอแจ้งเตือนว่า iOS 7.1.1 พร้อมแล้วที่จะให้คุณได้อัพเดท… โดยการอัพเดทครั้งนี้ถือเป็นเพียงการแก้ไข Bug และปรับปรุงประสิทธิภาพเพียงเล็กน้อยไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากเท่าไร ซึ่งหลักๆ มีอยู่ 3 เรื่องคือ

 

• ปรับปรุงระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID ให้ดียิ่งขึ้น
• แก้ไข Bug สำหรับการใช้งานคีย์บอร์ดให้ตอบสนองดีขึ้น
• แก้ให้ใช้งานบลูทูธคีย์บอร์ดร่วมกับ VoiceOver ได้

 

วิธีอัพเดทก็ง่ายๆ แค่ไปที่ Settings>General>Software Update>Install Now

 

ใครที่ใช้ iPhone, iPad และ iPod touch ก็อัพเดทกันได้เลยนะครับ

 

วิธีตั้งค่าให้แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ ทั้ง iPhone และ Android

 

show-percent-batt

ทุกครั้งที่เราซื้อสมาร์ทโฟนมาใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Android ก็มักจะงงๆ กับวิธีการเปิดฟังก์ชั่นแสดงเปอร์เซ็นระดับแบตเตอรี่ที่เหลือ เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ลึกลับซับซ้อน ยิ่งมือใหม่หัดใช้ก็ยิ่งมึนกันไปใหญ่ วันนี้เราเลยจะมาบอกเคล็ดลับวิธีการเปิดฟังก์ชั่นเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ ทั้ง iPhone และ Android เพื่อจะให้แสดงบนแถบสถานะ ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่าตอนนี้เหลือแบตฯ เท่าไรแล้ว

 

iPhone/iPad
สำหรับบน iPhone/iPad รวมถึงอุปกรณ์ iOS ทั้งหลาย ขออ้างอิงที่ระบบปฏิบัติการ iOS 7.1 (ล่าสุดในขณะเขียนบทความ) สามารถเปิดโชว์เปอร์เซ็นแบตเตอรี่ได้ดังนี้

แตะไอคอน Settings > General > Usage

show-percent-batt-iphone-01

 

เลื่อนเปิดสวิตช์ Battery Percentage ให้เป็นสีเขียว เท่านี้เราจก็จะมีเปอร์เซ็นแบตฯ แสดงบนแถบสถานะแล้วล่ะครับ

show-percent-batt-iphone-02

 

Android
ในส่วนของ Android จะขออ้างอิงจากเวอร์ชั่น Android 4.4 Kitkat ซึ่งแต่ละยี่ห้ออาจจะวางตำแหน่งเมนูแตกต่างบ้างเล็กน้อย แต่สามารถประยุกต์ใช้กันได้

 

จากหน้า Apps แตะไอคอน Settings แล้วแตะแท็บ General จากนั้นแตะที่เมนู Battery

show-percent-batt-LG-01

 

แล้วติ๊กถูกที่ Battery percentage on status bar (LG G2 mini) / Show battery percentage (Galaxy Note 3)

show-percent-batt-LG-02
สำหรับ LG

 

show-percent-batt-Note3
สำหรับ Galaxy Note 3

 

เพียงเท่านี้ก็สามารถดูปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่เป็นเปอร์เซ็นได้แล้วล่ะครับ เวลาแบตใกล้หมดจะได้ไม่ต้องกังวลพะวงห่วงแบบไร้จุดหมาย ส่วนพี่น้อง Windows Phone หรือ โนเกีย คงต้องรอกันไปก่อนนะครับเพราะยังไม่สามารถแสดงเปอร์เซ็นแบตฯ ได้บนแถบสถานะ อาจจะต้องใช้แอพแล้วตั้งเป็นไอคอนไทล์ ไว้หน้า Home ไปก่อนนะครับบบ

 

ดาวน์โหลด Wallpaper งาน WWDC2014

 

Apple ได้ประกาศวันจัดงาน WWDC2014 (Apple Worldwide Developers Conference) อย่างเป็นทางการในวันที่ 2-6 มิถุนายน นี้ ซึ่งถือเป็นงานที่เหล่านักพัฒนาทั้งหลายรอคอย เพื่อจะได้เตรียมตัวพัฒนากับฟีเจอร์ใหม่ๆ ของระบบปฏิบัติการ iOS8 ที่กำลังจะมา รวมถึง OS X ด้วย

 

และเมื่อปีที่แล้ว Apple ขายบัตรเข้างาน WWDC หมดภายใน 120 วินาที เท่านั้น ส่วนปีนี้จะเริ่มขายบัตรในวันจันทร์ที่ 7 เมษายน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าเป็นต้นไป ตามเวลาท้องถิ่น และคงจะหมดในเวลาอันรวดเร็วอีกเช่นเคย ใครเป็น Developer ก็รีบจดจ่ออยู่ที่หน้าจอเว็บ wwdc14 ไว้เลยนะครับ

 

และเป็นธรรมเนียมทุกปีที่ก่อนงานจะมี Wallpaper ตาม Theme ของงานมาแจกให้สาวกดาวน์โหลดไปใช้กัน โดยมีนักพัฒนาหรือดีไซน์เนอร์อิสระ ต่างเอา Wallpaper ที่ตนออกแบบมาแชร์ให้ดาวน์โหลดกันหลากหลายดีไซน์อีกด้วย ไปโหลดกันได้เลยครับ

 

จาก Surenix Twitter @Surenix
wwdc2014_surenix
iPhone 5/s/cGreen BlueBlue RedRed Orange

 

WWDC-Surenix-GreenOrange-iPad-1024x1024

iPadRetina

 
จาก Stijin Twitter @Stijn_D3SIGN
Stijn-WWDC-iPhone-preview Stijn-WWDC-iPhone-no-brand-preview

iPhone 5/s/cBrandedSimple

 

จาก Eddy Younan Twitter @eddyounan

WWDC-Eddy-Younan-preview

iPhone 5/s/cDownload

 

จาก AR7 twitter @AR72014
WWDC-AR7-iPad-preview
DownloadiPadiPhone 5/s/c

 

Source : iDB

 

ผลิตภัณฑ์ Apple ได้ใจบริษัทกฎหมายในทวีปอเมริกา คะแนนความน่าเชื่อถือพุ่งขึ้นสุดติ่ง

Wassuppp+ ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ทั้งสมาร์ทโฟน พีซี แท็บเล็ต กลายเป็นอำนาจสำคัญในการเลือกสินค้าของบริษัทด้านกฎหมายที่ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือที่ดูเหมือนจะให้ความเชื่อมั่นกับสินค้าแบรนด์ Apple มากขึ้นกว่าปีก่อนๆ แต่คำถามคือ! Apple ทำให้พวกเขาเชื่อมั่นได้อย่างไร? จากผลการรายงานของ Clio บริษัทซอฟแวร์จัดการด้านกฎหมาย เผยว่าในปี 2013 ผลิตภัณฑ์จาก Apple ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 10 % ทั้งในออฟฟิศที่ใช้ Mac OS (จาก 56% เป็น 66%) และการใช้งาน iPad (จาก 57% เป็น 67 %) ส่วนการใช้งาน iPhone ดูจะพุ่งสูงขึ้นเป็นพิเศษจาก 12% เป็น 74% (ในขณะที่ Android และ Blackberry ความต้องการจากบริษัทกฎหมายลดลงมากกว่า เมื่อเทียบกับการใช้งานทั่วไปของคนส่วนใหญ่)

 

mobile devices

 

ยังไม่หมดแค่นั้น หลังจากทำแบบสอบถาม ร้อยละ 52 กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกผลิตภัณฑ์ Apple ว่าเพราะเทคโนโลยีมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และที่สำคัญมีความปลอดภัย ในขณะที่ร้อยละ 28 ได้ประโยชน์จากการใช้งานเต็มที่ อีกร้อยละ 10 มีความคุ้นเคยกับ Apple อยู่แล้ว และร้อยละ 3  ให้คะแนนเรื่องการออกแบบ ความสวยงาม

 

จากรายงานยังบอกอีกว่าตั้งแต่ Apple เปิดตัว iPad สามารถเจาะกลุ่มผู้ใช้งานในกลุ่มอาชีพด้านกฎหมายเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 67% และผู้นำบริษัทด้านกฎหมายยังบอกเป็นเสียงเดียวกันเรื่องเทคโนโลยีใหม่ที่ค่อนข้างเปลี่ยนโฉม โดยเฉพาะ iPhone และ iPad ถือว่าประสบความสำเร็จ และแพร่หลายในบริษัทด้านกฎหมายจนหาตัวจับยากในปัจจุบัน

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในวงการกฎหมายเค้าเล่น iPhone, iPad, Mac OS เยอะขึ้นขนาดนี้ เหมือนเป็นเครื่องชี้วัดว่าดีไซน์ไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยและการใช้งานที่แพร่หลาย .. ก็นี่เราสำรวจกันในทวีปอเมริกาเหนือสินะ นักกฎหมายฝั่งเอเชียจะว่าอย่างไรถ้าต้องไปอเมริกาอย่าลืมพกไว้สักเครื่องด้วยนะคะ.. Oops+

 

Source: cultofmac

 

[Tips] วิธีปรับขนาดรูปและแต่งรูปบนไอโฟน โดยไม่ต้องใช้แอพช่วย

บน iOS 7 จะว่าไปก็ของเล่นเยอะดี โดยเฉพาะในโหมดกล้องหรือโหมดรูป เดี๋ยวนี้จะทำอะไรไม่ต้องใช้แอพพลิเคชั่นเป็นตัวช่วยเลย สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเวลาใช้แอพกล้องในไอโฟนนี่แหละถ่ายรูป และปรับขนาด ปรับแต่งรูปตามต้องการ ไม่ต้องพึ่ง Camera360 แต่อย่างใด มาดูวิธีกัน

 

 
สมมติว่าเราอยากปรับขนาดรูป
 

 

เข้าไปที่ Photos

photos1

 

 

เลือกรูปที่เราต้องการปรับขนาด แตะที่ Edit 

photos2

 

 

ใต้รูปขวาสุดจะมีไอคอน Crop รูป แตะที่ไอคอนนั้น

photos3

 

 

แตะที่ Aspect

photos4

 

 

จะขึ้นขนาดรูปขนาดต่างๆแล้วแต่เราจะปรับให้อยู่ในขนาดไหน เลือกขนาดรูปเลย

photos5

 

 

เมื่อได้ขนาดรูปตามที่ต้องการแล้ว แตะไปที่ Save  เลย แค่นี้เราก็จะได้ขนาดรูปที่ต้องการ

photos6

 

 

ทีนี้มาดูวิธีแต่งรูปบ้าง ขั้นตอนเหมือนเดิม เลือกรูปแล้วแตะที่ไอคอนที่วงสีแดงไว้

photos7

 

 

เลือกโทนสีของรูปตามที่ต้องการได้เลย เลือกเสร็จแตะที่ Apply 

photos8

 

 

ยังมีการแต่งรูปแบบ FishEyes และแบบอื่นๆอีก ลองเล่นกันตามสะดวกเลย

[Tips] วิธีประหยัดแบตไอโฟน ด้วยการปิด Notification บางตัว

ในแต่ละวันเราจะรู้สึกว่าไอโฟนของเราทำงานหนักเหลือเกิน แบตก็หมดแล้วหมดอีก เพราะเดี๋ยว Line ดัง Facebook ดัง เดี๋ยวนู่นเดี๋ยวนี่ดัง เต็มไปหมด รู้รึเปล่า?ว่าเป็นตัวซดแบตเลยล่ะ ทีนี้ถ้าเราอยากจะปิดการแจ้งเตือนบางตัว เราทำได้ค่ะ ถ้ามันไม่สำคัญกับเรามาก เราก็สั่งให้มันไม่เตือนก็ได้

 

 

ไปที่ Settings>Notification Center

2014-02-25_09-18-45

 

 

จะเห็นว่ามีการแจ้งเตือนมากมาย เลือกอันที่เราไม่ต้องการให้แจ้งเตือน อันนี้ลองเลือก Photos

2014-02-25_09-19-46

 

 

ตรง Sound เลือกเป็น OFF , Show in Notification Center เลือกเป็น OFF ,Show on Lock Screen เลือกเป็น OFF

2014-02-25_09-20-42

 

 

ในนี้แค่ยกตัวอย่างปิดอันเดียว ถ้าอยากปิดการแจ้งเตือนหลายๆอันก็เลือกตัวแอพพลิเคชั่นที่เราอยากปิดการแจ้งเตือน แล้วทำตามขั้นตอนเดิม แค่นี้ก็ช่วยประหยัดแบตขึ้นเยอะแล้ว

[Tips] มาแล้ววิธีเจลเบรค iOS 7.0.6 แบบ Official

เพิ่งปล่อยไปได้วันเดียวทาง Evasi0n ทาง Evasi0n ก็รีบปล่อย Evasi0n 1.0.6 มาทันที สำหรับคนที่จะเจลเบรค
 
 
เราสามารถเจลเบรค iOS 7.0.6 ได้โดย Evasi0n 1.0.6
 
 
แนะนำให้อัพเดท iOS 7.0.6 ผ่าน iTunes  ก่อนจะทำการเจลเบรค สำหรับคนที่อัพเดทแบบ OTA ให้ Restore แล้วอัพเดทผ่าน ITunes เท่านั้น เสร็จแล้วทำตามขั้นตอนนี้เลย
 
 
ดาวน์โหลด Evasi0n 1.0.6 สำหรับ Windows

ดาวน์โหลด Evasi0n 1.0.6 สำหรับ Mac
 
 

ดาวน์โหลดเสร็จแล้วเสียบสาย iPhone iPad iPod Touch ที่จะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดEvasi0n ขึ้นมา กด JailBreak2014-02-23_08-13-38

เรียบร้อย

ล้วงลับโปรแกรม iTools มือขวาจัดการสารพัดไฟล์บน iDevice

Wassuppp! ถ้าพูดถึงโปรแกรม iTunes ใครๆก็บอกว่าใช้ยาก! (ทุกอย่างต้องอยู่ใน Library ถึงจะไม่หาย!!) แต่ถ้าจะให้ตัดขาดไปเลยก็คงทำไม่ได้ เพราะแม้แต่ iTools ที่เราจะมาล้วงตับ! เอ้ยล้วงลับกันในวันนี้ยังต้องพึ่งพา iTunes อยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะการดึงข้อมูลที่เคยแบ็คอัพ (Restore from Backup) หรือดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เป็นต้น

 

itools_01
หลายคนอาจไม่เคยเข้ามาดูหน้านี้ iTools มีแนะนำแอพแจกฟรีด้วยนะจ๊ะ เมื่อคลิก Download จะเปิดโปรแกรม iTunes ขึ้นมาให้ทันที

 

นอกจากนี้ที่ไม่ควรพลาดคือวิธีโอนไฟล์เข้าเครื่องเหมือนโยนเข้าโฟลเดอร์ (นี่ iOS นะ…นึกว่า Android) ทั้งรูปภาพ, เพลง, หนัง, แอพพลิเคชั่น (ถึงจะก็อปเข้า Camera โดยตรงไม่ได้แต่สร้างโฟลเดอร์ดึงภาพเข้าแอพ Photos ได้สบายๆ ที่สำคัญแปลงไฟล์หนังที่ไม่ใช่ mov, mp4 ด้วยปลั๊กอินในเสี้ยววินาทีช่วยให้เปิดดูผ่านแอพ Videos ได้แบบชิลๆ) รวมถึงมองเห็นโฟลเดอร์ของแอพพลิเคชั่นต่างๆบน iDevice อยากจะแก้ไขหรือลบก็ทำได้ ยกตัวอย่างเช่น เข้าไปเปลี่ยนธีมในโฟลเดอร์แอพ Line เป็นต้น ที่เล่ามายังเป็นแค่น้ำจิ้มเล็กๆ ถ้าพร้อมจะล้วงลับกับเราแล้วไปดาวน์โหลดและติดตั้ง iTools กันก่อน

 

ดาวน์โหลด iTools

เว็บหลักของ iTools อาจจะมีปัญหาเราเลยใช้วิธีดาวน์โหลดและติดตั้ง iTools เวอร์ชั่นเก่าไปก่อนแล้วค่อยอัพเดทภายหลัง

 

itools_01
เปิดโปรแกรม iTools ขึ้นมาให้รอสักครู่จะมีหน้าต่างแจ้งเตือน ให้คลิก Update Now รออัพเดทเวอร์ชั่นใหม่สักครู่

 

itools_03_1
เมื่อเชื่อมต่อ iDevice เข้าคอม จะเห็นข้อมูลและเมนูแสดง 3 ส่วนหลักๆ คือ Library, Online, และ Device

 

Library

ไลบรารีจะเป็นห้องเก็บไฟล์แบ็คอัพ 2 ส่วนคือ Application สำหรับเก็บไฟล์แอพ .ipa ที่ดาวน์โหลดจาก iTunes หรือเว็บแคร็ก เป็นต้น และ Tools เครื่องมือติดตั้งแอพ และดึงข้อมูลแบ็คอัพใน iTunes เข้ามา ดังนั้นถ้าใครมีไฟล์ .ipa อยู่แล้วสามารถลากมาฝากไว้ที่นี่หรือทำตามนี้ได้เลยค่ะ

 

itools_04
คลิก Add เพิ่มไฟล์แอพ .ipa จากคอมเข้าไลบรารีก่อน แล้วค่อยคลิก Install ติดตั้งลง iPhone ทีหลัง ส่วนแอพแคร็กจะลงได้ต่อเมื่อเป็นเครื่องเจลเบรคและติดตั้งทวีค Appsync เรียบร้อยแล้ว

 

itools_05
ในส่วนของเมนู Tools เราจะนิยมใช้ 2 เครื่องมือนี้เป็นหลัก คือ iTunes Backups ดึงข้อมูลที่เคยแบ็คอัพใน iTunes เข้าอุปกรณ์อีกครั้ง และ iTunes auto backup เลือกเปิดเป็น ON ให้แบ็คอัพอัตโนมัติ

 

Online

แนะนำแอพที่ควรดาวน์โหลด (Must-have), แอพแจกฟรี (Now Free) รวมถึงหมวดยอดฮิตบน iTunes มาให้เลือกและคลิกดาวน์โหลดได้ที่นี่ เมื่อคลิก Download จะเปิดโปรแกรม iTunes ขึ้นมาแทน เพื่อล็อกอิน Apple ID ได้นั่นเอง เมื่อดาวน์โหลดเรียบร้อยเราจะได้ไฟล์แอพ .ipa เข้าคอมอัตโนมัติ สามารถนำไฟล์เข้าไลบรารี (ดูหัวข้อข้างบน) หรือติดตั้งเข้าอุปกรณ์ได้ทันที (ดูหัวข้อถัดไป)

 

itools_06
iTools แบ่งหมวดและคัดแอพมาให้โดยเฉพาะ เป็นอีกช่องทางที่นักโหลดไม่ควรพลาด

 

Device

เป็นส่วนที่เราจะได้ใช้งานมากที่สุดหลังจากเชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าคอม ประกอบด้วยส่วนต่างๆ ดังนี้

 

Applications แอพทั้งหมดที่อยู่ในอุปกรณ์

• ถ้าต้องการติดตั้งแอพเพิ่มให้คลิก Install แล้วเลือกไฟล์แอพ .ipa (จะลากไฟล์เข้ามาในโปรแกรมเลยก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ)

• ลบพร้อมกันหลายๆแอพให้คลิก Uninstall ด้านบน หรือลบทีละแอพให้คลิก Uninstall ท้ายแอพนั้นๆ

• แบ็คอัพพร้อมกันหลายๆแอพให้คลิก Backup ด้านบน หรือแบ็คอัพทีละแอพให้คลิก Backup ท้ายแอพนั้นๆ โดยจะเก็บเป็นไฟล์ .ipa ให้นั่นเอง

• เปิดดูข้อมูลของแอพต่างๆให้คลิก Browse ท้ายแอพนั้นๆ จะพบโฟลเดอร์และไฟล์คำสั่งมากมาย ยกตัวอย่างแอพ Downloader เราจะสามารถเข้าไปก็อปปี้คลิปหรือไฟล์เอกสารออกมาไว้ในคอมได้อย่างรวดเร็ว ไม่แนะนำให้ลบหรือแก้ไขไฟล์ที่ไม่รู้จักเพราะอาจทำให้ใช้งานแอพไม่ได้ นอกเสียจากเป็นไฟล์ที่เปลี่ยนได้ เช่น เปลี่ยนภาพ หรือ เปลี่ยนธีมแอพ Line เป็นต้น ควรมีตัวอย่างก่อนลงมือทำ

 

itools_07

 

Media เพิ่มหรือลบไฟล์เพลง, หนัง, ริงโทน ฯลฯ ในอุปกรณ์ เพียงแค่ลากไฟล์เข้ามาวาง แนะนำว่าต้องเป็นอุปกรณ์ที่เคยซิงค์บน iTunes มาก่อนสักหนึ่งครั้ง ถ้าไม่แน่ใจก็ลองลากเข้ามาก่อน ถ้าไฟล์ไม่มาค่อยว่ากันบน iTunes อีกที

• ถ้าต้องการเพิ่มเพลง mp3 ให้คลิก Music แล้วลากไฟล์ .mp3 เข้ามาวางได้เลย หรือจะคลิก New playlist สร้างรายการใหม่ก่อนลากเพลงมาวางก็ได้ โดยเพลงจะเข้าไปอยู่ในแอพ Music แท็บ Songs ทันที

• ถ้าต้องการเพิ่มเสียงริงโทน ให้คลิก Ringtone แล้วลากไฟล์ .m4r, .m4a, .mp3, .wav เข้ามาวางได้เลย หรือจะคลิก Make Ringtone ตัดต่อเพลงให้เหลือ 25 หรือ 40 วินาทีตามช่วงเพลงที่ต้องการ โดยริงโทนจะเข้าไปอยู่ในแอพ Settings>Sounds>Ringtone ทันที

• ถ้าต้องการเพิ่มคลิปวิดีโอ ให้คลิก Video แล้วลากไฟล์ mp4, m4v, mov, rmvb, avi, wmv, mkv, flv, f4v เข้ามาวางได้เลย โปรแกรมจะทำการแปลงไฟล์ให้รองรับอัตโนมัติด้วยปลั๊กอิน Converter โดยคลิปวิดีโอจะเข้าไปอยู่ในแอพ Videos แท็บ Movies ทันที

 

itools_08
กำลังลากไฟล์วิดีโอเข้ามาวางอย่างง่ายดาย ไม่ต้องซิงค์บน iTunes แล้วสินะ

 

Photos เพิ่ม, ลบ หรือก็อปปี้ไฟล์ภาพ ยกเว้นอัลบั้ม CameraRoll ที่เพิ่มไม่ได้ แต่สามารถสร้างอัลบั้มอื่นเข้าไปแทนได้ ดังนี้

• คลิกแท็บ Photos ด้านบน คลิกปุ่ม New album ตั้งชื่อตามต้องการ แล้วลากไฟล์ภาพเข้ามาวางในอัลบั้มได้เลย โดยรูปภาพจะเข้าไปอยู่ในแอพ Photos แท็บ Albums ตามชื่ออัลบั้มที่ตั้งไว้

 

itools_09
รูปนี้มองไม่เห็นปุ่ม New album เนื่องจากกำลังเปิดดูรูป ให้คลิกที่ Album list จะกลับไปหน้าแรก Photos และเจอปุ่ม New album แน่นอนค่ะ

 

iBooks เพิ่ม, ลบ หรือก็อปปี้ไฟล์ Book และ PDF ในอุปกรณ์ (อย่าลืมติดตั้งแอพ iBooks ด้วยนะจ๊ะ)

• ให้คลิกปุ่ม Import ด้านบน หรือลากไฟล์ .epub และ .pdf มาวางได้เลย โดยไฟล์จะเข้าไปอยู่ในแอพ iBooks ที่หน้า Library ทันที

 

itools_10

 

Information จัดการข้อมูลเบอร์โทร, ข้อความ, โน้ต, บุ๊คมาร์ค ฯลฯ บนอุปกรณ์ ถ้าใครเปิด iCloud เอาไว้จะมองไม่เห็น ให้เข้าไปปิด Contact, Note, Bookmark, Calendar ใน Settings>iCloud ก่อน

• ถ้าต้องการเพิ่มรายชื่อใหม่ ให้คลิกปุ่ม New พิมพ์ชื่อ เบอร์โทร ฯลฯ เสร็จแล้วคลิก Save

• ถ้าต้องการนำเข้ารายชื่อจาก Outlook, Gmail, ไฟล์ CSV หรือ VCF ให้คลิกปุ่ม Import/Export คลิก Import แล้วเลือกไฟล์รายชื่อที่ต้องการ

• ถ้าต้องการบันทึกรายชื่อไปยัง Outlook, Gmail, ไฟล์ CSV หรือ VCF ให้ติ๊กถูกหน้ารายชื่อ แล้วคลิกปุ่ม Import/Export คลิก Export ตั้งชื่อไฟล์และที่เก็บไฟล์ได้เลย

 

itools_12
โดยส่วนตัวชอบเก็บไว้รูปแบบไฟล์ VCF เพราะสามารถเก็บไว้ในอีเมล์ แล้วใช้แอพพลิเคชั่นเช่น Easy Backup ดึงเข้ามาในอุปกรณ์ได้ทันที

 

Desktop จัดการไอคอนหน้า Home Screen, แคปภาพ และบันทึกวิดีโอบนหน้าจอ

• ถ้าต้องการสลับตำแหน่งไอคอน หรือสร้างโฟลเดอร์ในหน้า Home Screen ให้คลิกแท็บ Icons แล้วลากไอคอนไปวางตำแหน่งที่ต้องการ หรือลากไปทับกันเพื่อสร้างโฟลเดอร์นั่นเอง

• ถ้าต้องการถ่ายภาพหน้าจอ หรือบันทึกวิดีโอ ให้คลิกแท็บ Live Desktop เพื่อแสดงภาพตามหน้าจออุปกรณ์ทันที แล้วคลิกไอคอนกล้องเพื่อแคปภาพ หรือคลิกไอคอนวิดีโอ (จุดวงกลมสีแดง) เริ่มบันทึกเป็นวิดีโอได้เลย

 

itools_13

 

FileSystem การเข้าถึงข้อมูลระบบที่ให้มาพร้อมอุปกรณ์จะต่างกันสำหรับเครื่องไม่เจลเบรค และเจลเบรค แน่นอนว่าเครื่องเจลเบรคจะเห็นโฟลเดอร์ในระบบมากกว่า เช่น เข้าถึงไฟล์ริงโทนที่ให้มาในระบบ และวางริงโทนของเราเข้าไปในระบบได้ เป็นต้น

itools_14

 

หวังว่าการล้วงลับครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการโอนข้อมูลระหว่าง iDevice และข้อมูลในคอมพิวเตอร์มากขึ้น ต่อไปจะล้วงลับอะไรอย่าลืมติดตามกันนะคะ