iPad Air – Thorakhong

เราจะได้เห็นอะไรในงาน Apple Event 16 ตุลาคมนี้

พรุ่งแล้วสินะก็จะถึงวันเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ ในงาน Apple Event ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคม 2557 ณ สำนักงานใหญ่ Apple ที่ Cupertino, Calif ในเวลา 10 โมงเช้าเป็นต้นไป ซึ่งตรงกับเวลาในบ้านเราประมาณเกือบเที่ยงคืน โดยในงานนี้จะมีอะไรใหม่ให้สาวกได้ตื่นเต้นกันอีกบ้างนั้น ก็มีการคาดการณ์กันเอาไว้บ้างแล้ว นอกจากนี้อาจจะมีการอัพเดทใหม่ของ Mac Mini และ iMac ที่ไม่ได้อัพเดทมา 2 ปีแล้ว อีกด้วย

จะมีอะไรใหม่ใน iPad

• NFC + Apple Pay แน่นอนว่าเมื่อ iPhone 6 + 6 Plus มาพร้อม NFC และ Apple Pay ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมนี้ จึงน่าจะเป็นไปได้ที่ Apple จะนำ NFC ติดตั้งลงใน iPad รุ่นใหม่นี้ด้วย เพราะเชื่อว่าขาช้อปออนไลน์บน iPad ก็น่าจะมีอยู่ไม่น้อย

• Touch ID และต่อเนื่องจากการรองรับ NFC + Apple Pay ก็ควรจะต้องใส่ปุ่ม Touch ID ลงใน iPad เข้ามาด้วย เพื่อจะได้รองรับการสแกนลายนิ้วมือเวลาจ่ายตังค์ผ่าน Apple Pay

• เพิ่มรุ่นสีทอง น่าจะถึงเวลาของบอดี้สีทองสำหรับ iPad ได้แล้วหลังจากที่ iPhone 5s เริ่มทำสีทองออกมาเป็นครั้งแรกก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

• CPU A8 ตามสูตรของ CPU ที่จะต้องเพิ่มสปีด และประสิทธิภาพด้านกราฟิก ซึ่งก็น่าจะมาพร้อมซีพียู A8 รุ่นใหม่

• ยกเลิกหน่วยความจำ 32 GB แล้วขยายเพดานหน่วยความจำไปถึง 128 GฺB เหมือน iPhone 6 ซึ่งก็จะมี 3 ขนาดให้เลือกเป็น 16 GB, 64 GB และ 128 GB

• กล้องละเอียดขึ้น และรูรับแสงที่มากขึ้น แต่เชื่อว่าคงไม่เกิน 8 ล้านพิกเซล ไปอย่างแน่นอน

• หน้าจอ Retina HD จากเดิมที่เป็น Retina Display ซึ่งจะเท่ากับหน้าจอของ iPhone 6 Plus และอาจจะเพิ่มคุณสมบัติ Anti – Reflective ที่ป้องกันแสงสะท้อนบนหน้าจอ

• บางเบาได้อีก และสิ่งที่ Apple สร้างความแตกต่างเหนือใครในการดีไซน์ คือเรื่องของน้ำหนักที่เบา และบอดี้ที่บางลงเรื่อยๆ ซึ่ง iPad Air ที่ว่าบางเบาแล้ว ยังจะทำให้บางลงได้อีก

• iPad Pro 12.9 นิ้ว จากข่าวลือว่าจะมี iPad Pro ออกมา ซึ่งถ้ามีจริงคงจะได้เห็นกัน แต่คาดว่าจะเปิดตัวจริงๆ ในปีหน้าอีกครั้ง

• iPad mini อาจจะติดตาย ด้วย iPhone 6 Plus ที่มีขนาดใหญ่ในระดับ Phalet จึงไปคาบเกี่ยวกับตำแหน่งของ iPad mini ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะหนีไปใช้งาน iPhone 6 Plus เพราะด้วยขนาดที่ใหญ่พอเหมาะและโทรออกได้ จึงอาจทำให้ iPad mini จะต้องปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นเพื่อทิ้งห่างความเหลื่อมล้ำดังกล่าว

จะมีอะไรใหม่ใน กลุ่มเครื่อง Mac
• Mac mini แทบจะไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวใด เกี่ยวกับ Mac mini มานานกว่า 2 ปีแล้ว ถ้าจะมีก็คงแค่อัพเดทฮาร์ดแวร์ภายใน ทั้ง CPU และ หน่วยความจำ ตามปกติ

• iMac ก็เช่นเดียวกันที่หลังจากดีไซน์ล่าสุดที่เป็นเครื่อง All in one ดีไซน์บางเฉียบ ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว 2 ปี มาปีนี้อาจจะมีอะไรให้ฟินนอกจากสเปกที่จะต้องอัพ มาคอยติดตามกัน

• Macbook Air มีข่าวว่าจะมีการติดตั้ง Touch ID เพิ่มขึ้นมาด้วย

• OS X Yosemite หลังจากเปิดตัวไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน พร้อมกับปล่อยตัวเบต้าให้นักพัฒนาได้ลอง ในงานนี้คงถึงเวลาที่จะปล่อยตัวจริง ให้ผู้ใช้ Mac ได้ดาวน์โหลดกันเสียที

Source : Cnet

GSMA มอบรางวัลสุดยอดสมาร์ทโฟน 2014 ให้กับ “HTC One” ส่วนแท็บเล็ตตกเป็นของ “iPad Air”

Wassuppp! นอกจากงาน MWC จะเป็นเวทีเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ยังเป็นเวทีประกาศรางวัล Global Mobile awards ครั้งที่ 19 ณ เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน โดยจะแบ่งหมวดรางวัลออกเป็น 6 ประเภทหลักๆ ด้วยกันคือ The Connected Life Awards, Best Mobile Services, Social & Economic Development, Apps of the Year, Best Mobile Handsets & Devices และ Best Mobile Technology ซึ่งผลโหวตนี้ได้ผ่านการคัดสรรจากทีมนักข่าว, นักวิจารณ์, ผู้เชี่ยวชาญชื่อดังในวงการไอทีและโมบายกว่าร้อยชีวิต จะมีใครได้รางวัลอะไร โดยเฉพาะ Best Smartphone และ Best Mobile Tablet ถือเป็นช็อตเด็ดของงานนี้เลยก็ว่าได้

Best Mobile Handsets & Devices

Best Smartphone : HTC One

รางวัลสุดยอดสมาร์ทโฟนปีนี้เป็นของ HTC One (ปีที่แล้ว Samsung Galaxy S3) ชนะด้วยดีไซน์ที่สวยงาม, UI ใช้งานง่าย, ประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ, หน้าจอคมชัด, เสียงดังและชัดเจน (HTC BoomSound) รวมถึงฟีเจอร์ที่ลงตัวอย่าง HTC BlinkFeed สามารถสตรีมรายการโปรดทั้งหมดของคุณไปไว้ในหน้าจอเดียว

คุณสมบัติเด่น

หน้าจอแสดงผล : 4.7 นิ้ว, Full HD 1080p, 468 PPI
ความเร็วซีพียู : Qualcomm® Snapdragon™ 600, quad-core, 1.7GHz
แบตเตอรี่ : Li-polymer แบบชาร์จได้ฝังในตัวเครื่อง ความจุ 2300 mAh
ราคา : 17,900 บาท

Best Low Cost Smartphone : Nokia Lumia 520

รางวัลสุดยอดสมาร์ทโฟนราคาประหยัด ได้แก่ Nokia Lumia 520 เป็นอีกรุ่นที่บุกเบิกตลาดสมาร์ทโฟนราคาไม่ถึงหมื่น แต่ได้ฟังก์ชั่นที่ครบครันบน Windows Phone 8 กับระบบทัชสกรีนที่ใช้ถุงมือสัมผัสได้ รวมถึงฟีเจอร์หลักๆ เช่น Nokia MixRadio, HERE Maps และแอพพลิคชั่นโซเชียล รวมถึง Microsoft Office เป็นต้น

คุณสมบัติเด่น

ขนาดเซ็นเซอร์มาตรฐาน: 5 ล้านพิกเซล
ขนาดหน้าจอ: 4นิ้ว
หน่วยประมวลผล: Qualcomm Snapdragon™ 400
ระยะเวลาสนทนา(สูงสุด) 3G: 9.7ชม.
ระยะเวลาเปิดเครื่องรอรับสายสูงสุด (3G): 390.0 ชม.
ระยะเวลาเล่นเพลง (สูงสุด): 52.0ชม.
การแชร์รูปถ่าย: SkyDrive, PhotoBeamer, Facebook
ส่งเป็นเอกสาร: แนบไปกับอีเมล, แชร์ผ่าน Bluetooth
ราคา : 4,690 บาท

Best Entry Level or Featurephone : Nokia 105

รางวัลสุดยอดโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานง่ายเหมาะกับการเริ่มใช้เป็นครั้งแรก หรือถ้าต้องการโทรศัพท์สำรองสักเครื่องต้อง Nokia 105 ตามสโลแกน “ดูดี ใช้นาน” (ปีที่แล้ว Nokia Asha 305) เป็นอีกรุ่นจาก Nokia ที่เน้นราคาประหยัด (มากก) ดีไซน์กระทัดรัด สีสันสดใส ตัวหนังสือใหญ่ชัดเจน รวมถึงฟีเจอร์ที่คุ้มค่าราคาสุดๆ เช่น ฟังวิทยุ FM, มีนาฬิกาปลุก, แบตอึดอยู่ได้เป็นเดือน

คุณสมบัติเด่น

ขนาดหน้าจอ: 1.4นิ้ว
คุณสมบัติวิทยุ: วิทยุ FM
ระยะเวลาเปิดเครื่องรอรับสาย (สูงสุด): 35วัน
ระยะเวลาสนทนา(สูงสุด) 2G: 12.5ชม.
ราคา : 630 บาท

Most Innovative Device Manufacturer of the Year : LG

รางวัลสุดยอดผู้ผลิตนวัตกรรมใหม่ ได้แก่ LG (ปีที่แล้ว Samsung) แค่ดีไซน์จอโค้งของ LG G FLEX ที่ทำให้การรับเสียงมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และทำให้ช่องว่างระหว่างไมค์กับปากน้อยลงก็ชนะได้อย่างสบายๆ

คุณสมบัติเด่น

ขนาดหน้าจอ : 6.0″ CURVED HD POLED DISPLAY
หน่วยประมวลผล : QUALCOMM® SNAPDRAGON™ 800
แบตเตอรี่ : 3,500MAH CURVED BATTERY
ราคา : 24,990 บาท

Best Mobile Tablet : Apple iPad Air

รางวัลสุดยอดแท็บเล็ตปีนี้เป็นของ iPad Air (ปีที่แล้ว Google & Asus >> Nexus 7) เอาชนะไปเบาๆด้วยน้ำหนักเพียง 1 ปอนด์ โดยรวมเบากว่ารุ่นก่อน 28% และบางกว่า 20% หน้าจอเรตินาให้ความคมชัดสมจริงทั้งภาพและวิดีโอ แต่ที่ได้รับคำชมหนาหูน่าจะอยู่ที่ชิป A7 ทั้งเร็วและแรง แถมประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิม 2 เท่า จะลงแอพพลิเคชั่นแค่ไหนก็เอาอยู่

คุณสมบัติเด่น

ขนาดหน้าจอ : จอภาพ Multi-Touch แบบ LED-backlit ขนาด 9.7 นิ้ว ความละเอียด 2048 x 1536 ที่ 264 พิกเซลต่อนิ้ว
หน่วยประมวลผล : ชิพ A7 พร้อมสถาปัตยกรรม 64 บิต และโปรเซสเซอร์ร่วม M7 สำหรับประมวลผลการเคลื่อนไหว
แบตเตอรี่ : ลิเธียมพอลิเมอร์ชนิดชาร์จซ้ำได้ 32.4 วัตต์ต่อชั่วโมง
ราคา : 16,900 – 31,900

รายงานไปครบทั้ง 5 รางวัลสำหรับหมวด Best Mobile Handsets & Devices ที่คนใช้สมาร์ทโฟนไม่ควรพลาด นอกจากนี้ยังมีรางวัลอื่นๆที่น่าสนใจสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่นี่ ส่วนรุ่นที่พลาดรางวัลก็แอบเสียดายบ้าง แต่รางวัล The Best ยังรอสำหรับทุกรุ่นที่คู่ควรเสมอ แล้วกลับมาลุ้นกันใหม่ปีหน้าว่าจะเป็นยี่ห้อไหนรุ่นอะไรในงาน MWC 2015 แน่นอนค่ะ

Source : iclarified

ในตระกูล iPad ที่จะมาในปีนี้อาจมีแค่ iPad Air

อย่างที่มีข่าวกันออกมา ว่าปีนี้ Apple อาจจะปล่อย iPad Pro ออกมามีนักวิเคราะห์ได้วิเคราะห์ออกมาว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ และที่มีข่าวว่า น่าจะมี iPad mini Slim ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้อีก แต่ที่น่าจะเป็นไปได้สุดๆคือ น่าจะมี iPad Air ตัวใหม่ออกมามากกว่า

เหตุผลเรื่องที่ว่าไม่น่าจะมี iPad Pro ในปีนี้ยังดูฟังไม่ค่อยมีน้ำหนักเท่าไหร่ แต่เหตุผลที่วิเคราะห์ว่าจะไม่มี iPad mini ตัวใหม่ในปีนี้คือ ปีนี้ถ้า Apple ต้องปล่อย iPad ถึง 3 รุ่น ดูไม่น่าจะทันสำหรับระยะเวลาในการพัฒนา และในปี 2013 เมื่อเทียบระหว่าง iPad mini with Retina กับ iPad Air แล้ว iPad Air ดูจะมีความนิยมมากกว่า เมื่อดูจากยอดขายแล้ว ไหนจะลือว่า iWatch ที่จะต้องมาในปีนี้แน่นอน (ซึ่งลือกันมายาวนานมาก ก็ควรจะมาซะที) ไหนจะ iPhone 6 ดูแล้ว Apple น่าจะทำงานหนักอยู่ และคาดว่า ถ้าเป็นตระกูล iPad ก็น่าจะมีแค่ iPad Air ที่ดูน่านำมาพัฒนาต่อที่สุด

ส่วนข่าวสดๆร้อนๆที่เพิ่งออกมาว่า จะมีการปล่อย Microsoft Office ให้ใช้งานใน iPad ได้ในเร็วๆนี้ iPad ตัวใหม่ล่าสุดที่จะได้ใช้น่าจะเป็น iPad Air แล้วล่ะ ยังไงก็ยังคิดว่า Microsoft Office ดูคู่ควรกับ iPad Pro มากกว่า เพราะตามข่าวที่ออกมา iPad Pro คือ iPad จอ 12.9 นิ้ว ซึ่งมีขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถใช้แทน NoteBook ได้ แต่ยังไงทั้งเรื่อง iPad Air , iPad mini Slim, iPad Pro ก็ยังเป็นข่าวลือ ที่เรายังเดากันไม่ได้อยู่ดี

Source: Cnet

Apple ปล่อยโฆษณา iPad Air “Your Verse” มาอีก 2 เวอร์ชั่น

เมื่อสองสัปดาห์ก่อน Apple ได้ปล่อยโฆษณา iPad Air ชื่อว่า ” Your Verse “ ออกมา ตอนนี้ Apple ได้ปล่อยโฆษณาชุดนี้แบ่งย่อยมาเป็นอีก 2 เวอร์ชั่น คือ ” Light Verse “ กับ “Sound Verse”

โฆษณาตัวแรก ” Your Verse “ ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากประโยคของ Robin Williams

ในหนังเรื่อง“Dead Poets Society ”

[youtube link=”http://youtu.be/jiyIcz7wUH0″ width=”590″ height=”315″]

ซึ่ง ” Your Verse “ คือโฆษณาที่เป็น Full Version ของ ” Light Verse “ กับ ” Sound Verse “ ที่เพิ่งจะปล่อยออกมานี้ และทั้งสองโฆษณานี้จะนำประโยคเด็ดจาก Robin Williams ซึ่งก็คือ ‘You are here — that life exists, and identity; that the powerful play goes on and you may contribute a verse.’ What will your verse be?” มาเป็นประโยคเดินเรื่อง

ทั้งสองโฆษณานี้จะเน้น ความสามารถของ iPad Air ที่สามารถใช้ในขณะปีนเขา ดำน้ำ เอาเป็นว่าบุกน้ำลุยไฟว่างั้น?

ความยาวของโฆษณา ” Light Verse “ กับ ” Sound Verse “ ยาว 30 วินาที ส่วน “Your Verse “ ที่เป็น Full Version จะยาวและอลังการงานสร้างกว่า

[youtube link=”http://youtu.be/MghxMfFgoXQ” width=”590″ height=”315″]

[youtube link=”http://youtu.be/8ShyrAhp8JQ” width=”590″ height=”315″]

Source: Apple insider

[คลิปวิดีโอ] ถ่าย+ตัดต่อ+แชร์ ด้วย iMovie แอพฟรีสำหรับ iDevice 2013

Wassuppp! เรียกได้ว่าคุ้มจริงๆ สำหรับ iDevice 2013 ทั้ง iPhone 5s, iPad Air และ iPad mini with retina display ที่สามารถดาวน์โหลดแอพตระกูล iWork และ iLife ได้ฟรีทั้งหมด ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ iMovie ทำให้ตอนนี้เรามีผู้ช่วยตัดต่อและแชร์วิดีโอได้อย่างมืออาชีพ ถ่ายเอง ตัดต่อเอง แชร์เอง และดูเองได้ง่ายๆ ไม่ต้องง้อคอมพิวเตอร์อีกต่อไป

คลิปวิดีโอนี้เราจะเริ่มตั้งแต่ถ่ายวิดีโอ + ตัดต่อ + แชร์ขึ้น youtube โดยจะเลือกสร้างเป็น Movie (iMovie มีให้เลือก 2 โหมดคือ Movie ธีมสร้างหนัง และ trailer ธีมสร้างหนังตัวอย่าง) ซึ่งทีเด็ดอยู่ที่ขั้นตอนการตัดต่อ ตั้งแต่เลือกธีม, เพิ่มวิดีโอ, เพิ่มข้อความ, เพิ่มเอฟเฟ็คต์, แบ่งวิดีโอ, เร่ง-ลดความเร็ว, ตั้งค่า fade in-out เป็นต้น

เผยราคา iPad Air และ iPad mini with Retina รุ่น Wi-Fi+Cellular แล้วบน Apple Store สั่งออนไลน์ได้เลย

เผยราคาอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ iPad Air และ iPad mini with Retina รุ่น Wi-Fi+Cellular ที่จะพร้อมขายผ่านโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ราย ในวันที่ 29 พ.ย. นี้ (สำหรับ iPad Air) และวันที่ 4 ธ.ค. (สำหรับ iPad mini with Retina) โดยราคาดังกล่าวถูกเปิดเผยบนเว็บ Apple Store นี่เอง ซึ่งสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บได้เลยทันที โดยใช้เวลาส่งของประมาณ 5-7 วันทำการ ซึ่งถ้าสั่งวันนี้ก็จะได้ขอราวๆ วันที่ 29 พ.ย. ที่จะถึงนี้เช่นเดียวกัน โดยส่วนต่างของราคาในรุ่น Wi-Fi+Cellular นั้นจะบวกเพิ่มไปอีกถึง 4,500 บ. ในแต่ละความจุกันเลยทีเดียว

ราคา iPad Air Wi-Fi+Cellular

ราคา iPad mini with Retina Wi-Fi+Cellular

iPad Air รุ่น Wi-Fi+Cellular โดนโรคเลื่อน

จากกำหนดวางจำหน่าย iPad Air ของโอเปอร์เรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย ที่ประกาศไว้เป็นวันที่ 4 ธ.ค. นี้ ที่สุดแล้วต้องเจอกับโรคเลื่อน แต่คราวนี้เลื่อนมาเร็วขึ้นกว่าเดิม เป็นวันที่ 29 พ.ย. แทน เอ๊า เฮกันเลยสิครับพี่น้อง… เพิ่งจะเคยได้พบกับการเลื่อนวันวางจำหน่ายมาเร็วขึ้นกว่าเดิมถึง 1 อาทิตย์ งานนี้สาวกที่รอ iPad Air รุ่น Wi-Fi+Cellular อยู่ก็เตรียมช้อปกันได้เลยนะครับ ตรงกับช่วงสิ้นเดือนพอดีเลยนะ แหม่… ส่วนราคายังไม่เปิดเผยอีกเช่นกัน ไงรอลุ้นใกล้วันกันอีกทีนะครับว่าจะมีราคาหลุดออกมาไหม

Source : AIS, dtac, TrueMove H

4 ธ.ค. นี้ เจอกัน iPad Air และ iPad mini with Retina รุ่น Wi-Fi+Cellular ทุกเครือข่าย ทั่วไทย

iPad Air และ iPad mini with Retina รุ่น Wi-Fi+Cellular จะพร้อมวางจำหน่ายแล้วในวันที่ 4 ธันวาคม นี้ โดยผ่านโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย AIS, dtac, TrueMove H ซึ่งขณะนี้บนหน้าเว็บของทั้ง 3 ค่าย ได้ขึ้นข้อมูลของ iPad รุ่นใหม่ ทั้ง 2 รุ่นไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งนับจากวันที่รุ่น Wi-Fi ได้วางจำหน่ายเมื่อวันที่ 15 พ.ย. แล้ว ก็มีระยะห่างกัน 19 วันเท่านั้น

ทั้งนี้ยังไม่มีการเปิดเผยราคาขายอย่างเป็นทางการออกมา รวมถึงแพ็กเกจของแถมจากโอเปอเรเตอร์แต่ละเจ้าจะเป็นอย่างไรนั้นคงต้องรอดูเร็วๆ นี้กันอีกที

เบื้องต้น TrueMove H ได้เปิดให้ลงทะเบียนรับความสนใจผ่านหน้าเว็บแล้ว ซึ่งเสมือนเปิดให้จองนั่นแหละ ส่วนเจ้าอื่นยังไม่เปิดให้ลงทะเบียนแต่อย่างใด

Source : AIS, dtac, TrueMove H

iPad Air และ iPad mini with retina เปิดขายแล้วบน apple store ประเทศไทย

ไม่ต้องรีรอกันแล้ว สำหรับ iPad Air และ iPad mini with retina เมื่อแอปเปิลเปิดให้สั่งซื้อผ่านเว็บ Apple Store ประเทศไทย เรียบร้อยแล้ว โดยราคาของ iPad mini with retina จะแพงขึ้นกว่าเดิมประมาณ 2,500 บาท โดยราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บ. ขนาด 16 GB Wi-Fi และหากสั่งซื้อออนไลน์จะใช้เวลา 5-10 วันในการส่งถึงมือคุณ

ส่วน iPad Air ราคาเริ่มต้นที่ 16,900 บ. ขนาด 16 GB Wi-Fi โดยใช้เวลาจัดส่งประมาณ 5-7 วัน

โดย iPad ทั้ง 2 รุ่นนี้ยังไม่มี รุ่น Wi-Fi + Cellular ให้สั่งซื้อผ่านออนไลน์ได้ คงต้องรอการเจรจากับโอเปอเรเตอร์รายต่างๆ ให้เรียบร้อยเสียก่อน ถึงจะทราบราคาอย่างเป็นทางการอีกที ซึ่งปกติก็จะมีราคาที่ต่างขึ้นไปอีกประมาณ 4,000 บ.

Source : Apple Store TH

iPad Air เปิดรับจองแล้ว ที่ iStudio !!!

เว็บไซต์ http://www.mustlovemac.co/ เปิดให้พี่น้องชาวไทยจอง iPad Air ล่วงหน้าได้แล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุราคาแต่อย่างใด โดยร้าน iStudio by Copperwired ซึ่งเป็นหนึ่งตัวแทนจำหน่ายภายใต้ร้าน iStudio ได้ทำการเปิดจองผ่านหน้าเว็บไซต์แล้วในขณะนี้ โดยผมได้ทดลองทำการจองไปแล้วปรากฏว่าเป็นเพียงการจองสิทธิ์เอาไว้เท่านั้น ยังไม่ต้องเสียเงินจองแต่อย่างใด โดยทางร้านจะติดต่อกลับมายืนยันอีกทีว่าจะได้ของเมื่อไร ทั้งนี้คาดว่าอีกไม่นานเราคงได้สัมผัส iPad Air อย่างเป็นทางการแล้วสินะ

Source : mustlovemac