8 สิ่งสุดล้ำ เมื่อ iPhone 5/5s/5c อัพเดท iOS8 แล้วใช้ได้เหมือน iPhone 6/6plus

 
ios8-ip5-ip6-hero
 

สำหรับใครที่มี iPhone 5, iPhone 5s และ iPhone 5c อยู่ในมือ แต่ด้วยความอยากได้ หรือกิเลสบังตา พร้อมหาเหตุผลที่จะซื้อ iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus ใหม่ โปรดฟังทางนี้ก่อน

 

เพราะอีกไม่ช้าในวันที่ 17 ก.ย. นี้ เราๆ ท่านๆ ทั้งหลายก็จะได้รับการอัพเดท iOS8 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการล่าสุด เช่นเดียวกับที่มาพร้อมใน iPhone รุ่นล่าสุด ลองไปดูกันก่อนว่าเมื่อเราอัพเดท iOS8 ไปแล้วจะมีฟีเจอร์ไหนที่ใช้งานได้ไม่ต่างกัน

 

1. ถ่ายภาพแบบ Time Lapse พร้อมฟิลเตอร์และฟังก์ชั่นแต่งภาพขั้นเทพ
ฟังก์ชั่นกล้องยังคงจัดเต็มได้อยู่ โดยเมื่อผู้ใช้ iPhone 5/5s/5c อัพเดทเป็น iOS8 จะทำให้กล้องสามารถถ่ายวิดีโอแบบ Time Lapse หรือภาพวิดีโอแบบเร่งสปีดที่มักเอาไว้บันทึกภาพการเคลื่อนไหวของก้อนเมฆ หรือวิวทิวทัศน์ แบบสารคดีต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ แบบ 3 วินาที หรือ 10 วินาทีได้แล้ว เพิ่มความสะดวกในการถ่ายเซลฟีโดยเฉพาะ
ios8-ip5-ip6-01

 

ส่วนในแอพ Photo ก็ยังเพิ่มลูกเล่นการแต่งภาพได้แบบขั้นเทพ โดยเฉพาะการปรับแต่งแสงสีอัตโนมัติให้อย่างอัจฉริยะหรือจะปรับเองก็ทำได้ พร้อมด้วยฟิลเตอร์ให้เลือกมากยิ่งขึ้น

ios8-ip5-ip6-02

 

2. ระบบเดาคำตามประโยค และเพิ่มคีย์บอร์ดเสริมได้
ios8-ip5-ip6-10

 

เปิดใช้ระบบเดาคำได้แบบหายห่วงเสียที เพราะมาคราวนี้ Apple พัฒนาขึ้นมาก กับระบบเดาคำ ที่ไม่ใช่แค่เดาทีละคำ แต่เดาให้เป็นประโยคเลยล่ะ แค่พิมพ์คำแรก คำถัดมาที่ใกล้เคียงกับประโยคนั้นก็จะขึ้นมาให้เราเลือกทันที สะดวกขึ้นมาก และจากที่ลองเล่นเวอร์ชั่น Beta ขอบอกว่าเดาคำเป็นประโยคได้ดีเลยทีเดียว พูดเลย ประหยัดเวลาพิมพ์ไปเยอะ
นอกจากนี้ใครไม่พอใจกับคีย์บอร์ดมาตรฐานของ Apple ก็สามารถโหลดคีย์บอร์ดจากผู้พัฒนารายอื่นๆ มาติดตั้งเพิ่มเติมได้ คล้ายๆ กับของแอนดรอยด์ที่มีแอพคีย์บอร์ดให้ติดตั้งมากมาย
3. อินเตอร์เฟสใหม่ใช้ได้เหมือนกัน

ios8-ip5-ip6-03
อีกสิ่งที่เราจะใช้งานได้ไม่ต่างจาก iPhone 6/6 Plus ก็คือเรื่องของอินเตอร์เฟส ณ จุดนี้พูดเลยว่า iOS8 ชนะเลิศ ไม่ว่าจะเป็นการตอบกลับได้ทันทีจากทุกๆ การแจ้งเตือนบนแถบ Notification หรือจะเป็นการแสดงรายชื่อบุคคลที่โทรติดต่อกันล่าสุด รวมถึงรายชื่อจากรายการโปรด ในหน้ามัลติทาสกิ้ง และยังเชื่อมโยงประวัติการใช้งานกับทุกอุปกรณ์ iDevice ที่เรามีอยู่ ไม่ว่าจะใช้งานบน iPhone แล้วไปใช้ต่อบน iPad ก็อัพเดทล่าสุดถึงกัน

ios8-ip5-ip6-04

 

4. ส่งคลิปเสียงหรือคลิปวิดีโอผ่าน SMS

ios8-ip5-ip6-10

สำหรับการส่งข้อความ SMS มันจะไม่ธรรมดาอีกต่อไป เพราะ Apple พัฒนาให้มันสามารถส่งแนบคลิปเสียงไปยังผู้รับได้อีกด้วย เมื่อจะฟังข้อความก็แค่ยกเครื่องแนบหูก็จะได้ยินคลิปเสียงทันที หรือแม้แต่วิดีโอก็สามารถถ่ายแล้วส่งคลิปวิดีโอแนบไปได้ทันที และเอาใจขาแชทด้วยการส่งข้อความเป็นกลุ่มได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถแนบพิกัดเพื่อแชร์ตำแหน่งไปให้เพื่อนๆ และยังเพิ่มความสามารถในการแนบรูปหรือวิดีโอได้ทีละหลายรูปในการส่งครั้งเดียว

 

5. ใช้ได้กับ Apple Watch พร้อมแอพ Health

ios8-ip5-ip6-09
สำหรับคนรักสุขภาพ แอพ Health จะเป็นศูนย์รวมมอนิเตอร์สุขภาพของเรา โดยจะเก็บสถิติการออกกำลังกายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น อัตราการเต้นของหัวใจ, จำนวนก้าวเดิน, การเผาผลาญแคลอรี, ระดับน้ำตาลในเลือด หรือแคลอรี จากแอพฟิตเนส และอุปกรณ์ต่างๆ ยิ่งมี Apple Watch ที่กำลังจะเปิดตัวด้วย ก็รองรับการใช้งานร่วมกับ iPhone 5/5s/5c ด้วยเช่นกัน ส่วนบารอมิเตอร์ที่ใช้วัดความกดอากาศเวลาไปปีนเขา เดินป่า ที่มีเพิ่มขึ้นมาอีกแค่ 1 เซนเซอร์ บน iPhone 6/6 Plus นั้น ก็ไม่น่าจะจำเป็นอะไรมาก ลองถามตัวเองดูว่าปีๆ นึงเคยปีนเขาสักกี่ครั้ง

ios8-ip5-ip6-11

 

6. Handoff เชื่อมโยงกับทุกอุปกรณ์ของ Apple

ios8-ip5-ip6-06
สำหรับสาวก Apple ที่มีทั้ง iPhone, iPad, Mac (Yosemite) ครบสูตร จะสามารถเชื่อมโยงอุปกรณ์เข้าด้วยกัน ซึ่งจะทำให้การใช้งานที่ต่อเนื่องเป็นหนึ่งเดียว เช่นกำลังพิมพ์อีเมล์บน iPhone อยู่ เมื่อเปิดแอพอีเมล์บนเครื่อง Mac ก็จะมีอีเมล์ฉบับนั้นให้เขียนต่อได้ โดยทุกเครื่องจะผูกด้วยแอคเคาท์ iCloud เดียวกันนั่นเอง โดยฟีเจอร์นี้จะรองรับกับแอพ Safari, Pages, Numbers, Keynote, Maps, Messages, Reminders, Calendar และ Contacts

ios8-ip5-ip6-07

เท่านั้นยังไม่พอฟีเจอร์นี้ยังทำให้ iPad และเครื่อง Mac โทรออก และรับสายได้ โดยจะต้องเชื่อมต่อในเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน เมื่อสายเข้า แล้วเราเก็บ iPhone ไว้ในกระเป๋า แต่กำลังทำงานอยู่บนเครื่อง Mac ก็สามารถรับสายจากการแจ้งบนเครื่อง Mac ได้ทันที หรือจะใช้โทรออกก็ได้ เห็นมั้ยว่าชีวิตง่ายขึ้นเยอะ

 

7. ซื้อแอพ หนัง เพลง แล้วแบ่งปันได้ทั้งครอบครัว

ios8-ip5-ip6-08
กลยุทธนี้พี่ยอม เมื่อ Apple ใจป้ำ ยอมให้แบ่งปันแอพ หนัง เพลง อีบุ๊ก ให้คนสนิทในครอบครัวได้ฟรี คือซื้อคนเดียว สามารถแชร์ให้คนอื่นได้อีก 6 คน เท่านั้นยังไม่พอใครมีลูกมีหลานที่ยังไม่พร้อมมีบัตรเครดิต ก็สามารถอนุญาติให้ลูกหลานซื้อแอพผ่านแอคเคาท์ตัวเองได้ โดยที่เขาไม่ต้องมี Apple ID ที่สำคัญคือสามารถควบคุมการซื้อแอพได้ชัวร์ เพราะทุกครั้งที่ใครจะโหลด จะต้องผ่านการอนุมัติจากเราก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้ก็ยังสามารถแชร์รูป แชร์พิกัด และปฏิทินนัดหมายร่วมกันได้

 

8. iCloud Drive เลิกพกทรัมไดร์ฟไปได้เลย

ios8-ip5-ip6-09
ใครใช้ Dropbox คงเข้าใจดีอยู่แล้ว เพราะ iCloud Drive ก็มีคุณสมบัติคล้ายๆ กันที่ให้เราเก็บไฟล์ต่างๆ เอาไว้บนคลาวด์ได้ นอกจากนี้ยังรองรับกับไฟล์ต่างๆ ได้มาขึ้น เช่น ไฟล์ PDF, Page, Numbers, Keynote, รูปภาพ, เพลง, วิดีโอ โดยทั้งหมดสามารถเข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ ทั้ง iPhone, iPad, iPod Touch, Mac รวมถึง Windows 7 ขึ้นไป ดังนั้นไม่ว่าจะแก้ไขไฟล์ที่เครื่องไหน เราก็จะได้ไฟล์อัพเดทล่าสุดเหมือนกันหมด หรือหากมีใครแก้ไขเอกสารอยู่พร้อมกัน เราก็จะเห็นไปด้วย

 

อุปกรณ์ที่รองรับ iOS8
ios8-ip5-ip6-14

 

เห็นมั้ยล่ะครับว่าฟีเจอร์ไฮไลต์หลักๆ ของ iOS8 ก็สามารถใช้งานได้สมบูรณ์เท่ากับ iPhone 6/6plus ได้ไม่แพ้กันเลย ฉะนั้นลองคิดกันดูดีๆ ก่อนนะครับว่าคุณจำเป็นแค่ไหนในการใช้ฟีเจอร์ใหม่ที่มากกว่าเพียงเล็กน้อย กับเงินที่ต้องจ่ายเพิ่มอีก 2 หมื่นกว่าบาท และที่สำคัญบางคนอาจจะยังผ่อน iPhone 5S ไม่หมดด้วยช้ำ ฉะนั้นจึงอยากจะย้ำให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะน้องๆ หนูๆ นักเรียน นักศึกษา หรือแม้แต่คนทำงาน ให้ใช้สติก่อนใช้สตางค์กันนะครับ ด้วยความปรารถนาดี จาก Oopsmobile ที่อยากให้ทุกคนใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด โดยไม่ตกเป็นทาสของเทคโนโลยี…

 
 

เช็คราคาเครื่องเปล่า iPhone 6/iPhone 6 Plus จาก 9 ประเทศ ใครขายถูกที่สุด

iphone6-th

วันนี้ถือเป็นวันแรก ที่ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เริ่มเปิดให้จอง (Pre-Order) ในประเทศที่ได้วางจำหน่ายเป็นกลุ่มแรก ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีราคาที่แตกต่างกันเล็กน้อย โดยเมื่อนำราคาเครื่องเปล่าที่เปิดตัวในแต่ละประเทศมาเทียบกับราคาในสหรัฐอเมริกาแล้ว ปรากกฎว่าประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีราคาถูกที่สุด โดย iPhone 6 ราคาเริ่มต้นเพียง $634 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 20,500 บาท เท่านั้น ส่วนประเทศที่ราคาแพงสุดคือ ฝรั่งเศส

 

ส่วนราคาประเทศฮ่องกง และสิงคโปร์ ซึ่งอยู่ใกล้เราที่สุด จะมีราคาสูงกว่าอเมริกา โดยที่ฮ่องกงมีราคาสูงกว่าโดยเฉลี่ยประมาณ $78 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ +2,500 บ.) ส่วนประเทศสิงค์โปร์ เฉลียสูงกว่า $160 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ +5,148 บ.)

 

ดังนั้นเครื่องหิ้วส่วนใหญ่จึงน่าจะนำเข้าจาก ฮ่องกง เพราะมีต้นทุนที่ถูกกว่า โดยคาดว่าเครื่องหิ้ว จะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 35,000 ไปจนถึง 55,000 บาท ตามรุ่น ตามความจุ ซึ่งในขณะนี้ร้านตู้ต่างๆ ใน MBK ก็ประกาศรับหิ้วกันแล้ว

 

iphone6-6p-prize

 

ส่วนราคาคาดการณ์ในประเทศไทยนั้น คิดว่าน่าจะบวกเพิ่มจากราคาเดิมขึ้นไปไม่ต่ำกว่า 2,500-3000 บาท

iphone6-iphone6-pz

 

Source : iClarified

 

 

สรุปรวบตึง iPhone 6, iPhone 6 Plus และ Apple Watch

 

iPhon6-watch

 

และแล้วข่าวลือ ข่าวหลุด ทั้งหลาย ก็กลายเป็นจริงไปกว่า 99% กับการเปิดตัว iPhone 6 และ iPhone 6 Plus รวมถึง Wearable Device ตัวแรกของ Apple ที่ชื่ออย่างเป็นทางการอาจจะผิดคาดไปเล็กน้อย กับ Apple Watch โดยรายละเอียดทั้งหมดนี้ เราได้สรุปรวบตึงให้เพื่อนๆ เอาไว้แล้ว ไปอ่านกันได้เลยครับ

 

เริ่มต้นการถ่ายทอดสดผ่านเว็บ ปีนี้ต้องบอกว่าล่มไม่เป็นท่า ด้วยสัญญาณขัดข้องจนไม่สามารถชมได้ต่อเนื่อง จนผู้คนทั่วโลกบ่นกันเต็มไทม์ไลน์ ยังดีที่มีเว็บ Live Blog ต่างๆ ไว้สำรอง และ Apple เองก็มี Live Feed เฉพาะภาพนิ่งและข้อความเป็นครั้งแรกเอาไว้ด้วย ก็พอถูๆ ไถๆ กันไปก่อน

 

IMG_0228

 

เมื่อ Tim Cook ขึ้นสู่เวที ก็ได้พูดถึงการเปิดตัว เครื่อง Macintosh ที่เป็นสุดยอดนวัตกรรม ครั้งแรก และยิ่งใหญ่ ซึ่งเคยเปิดตัวที่นี่ และเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมาแล้วกว่า 30 ปี และวันนี้พวกเราจะมาสร้างประวัติศาสตร์กันอีกครั้ง

 

bfd0fe1c-1b7a-4658-a63b-e8ec094b0130

และก็สมกับที่รอคอยกับการเปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus

DSC_4451

 

โดย iPhone 6 มาพร้อมหน้าจอ 4.7 นิ้ว Retina Display ความละเอียด 1334×750 พิกเซล ความหนาแน่นต่อจุด 326 ppi ส่วน iPhone 6 Plus หน้าจอ 5.5 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล ความหนาแน่นต่อจุด 401 ppi

Apple_Oct_2014_101

Apple_Oct_2014_105

 

เปรียบเทียบความหนาของตัวเครื่อง iPhone 5s หนา 7.6 มม. , iPhone 6 บางสุดเพียง 6.9 มม. ส่วน iPhone 6 Plus บางเพียง 7.1 มม.

Apple_Oct_2014_107

 

One-Handed รูดขึ้นลงซ้ายขวาในแอพ safari และ Mail เพื่อเลื่อนตำแหน่งเวลาจะพิมพ์ URL หรือข้อความต่างๆ ด้วยมือเดียว

Apple_Oct_2014_111

 
ซีพียู A8 64 บิตเจน 2 มีขนาดเล็กกว่า A7 อยู่ 13% ส่วนความเร็ว เหนือกว่า 50 เท่า จาก iPhone รุ่นแรก

Apple_Oct_2014_121

 

ส่วน GPU หน่วยประมวลผลด้านกราฟิก ก็แรงขึ้นถึง 84 เท่า จาก iPhone Original รุ่นแรก

Apple_Oct_2014_123

 

หน้า Home หมุนหน้าจอได้ในแนวนอน ซึ่งรองรับเฉพาะบน iPhone 6 Plus เท่านั้น จึงทำให้แอพ Mail สามารถเปิดอ่านอีเมล์ได้ง่ายขึ้น ในหน้าเดียว เหมือนการใช้งานบน iPad

30c89059-288e-40c2-9af8-950d1c46794cc

 

เพิ่ม sensor ใหม่คือ Barometer วัดความกดอากาศ ทำให้บอกระดับความสูงได้เวลาเดินป่าเขา
DSC_4577

 

 
ความอึดแบตเตอรี่เมื่อเทียบกันระหว่าง iPhone 5s/6/6plus มีทั้งเท่ากันและดีกว่า เมื่อเปรียบเทียบการทำงานในแต่ละด้าน

f1410283510

 

ปัจจุบันนี้มีแอพมากกว่า 1.3 ล้านแอพแล้วนะจ๊ะ

DSC_4484

 

ในส่วนของการสื่อสาร สามารถรองรับระบบ 4G LTE ได้ด้วยความเร็วสูงถึง 150 Mbps และยังรองรับกับผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง 3 ค่ายในประเทศจีน

Apple_Oct_2014_147

 

นอกจากนี้ยังรองรับการโทรผ่านเน็ต 4G LTE ด้วยฟังก์ชั่น VoLTE หรือ Voice Over LTE แต่ยังไม่รองรับกับเครือข่ายในเมืองไทย ต้องรอเปิดประมูล 4G กันก่อน

DSC_4591

 

ส่วน Wi-Fi รองรับมาตรฐาน 802.11ac เรียบร้อยแล้ว เร็วขึ้นกว่าเดิม 3 เท่า ซึ่งสามารถเชื่อมต่อด้วยความเร็วสูงสุดกว่า 500 Mbit/s ใกล้เคียง LAN Gigabit
DSC_4596

 
กล้องก็ยังคงความละเอียดแค่ 8 ล้านพิกเซล iSight รูรับแสงกว้าง F2.2 เท่าเดิม แต่พัฒนาให้ระบบออโต้โฟกัสแบบ phase detection ซึ่งเร็วและแม่นยำขึ้นเหมือน DSLR นอกจากนี้ยังโฟกัสใบหน้าหรือ Face Detection ได้เร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น และรองรับการถ่ายโหมดพาโนรามาด้วยความละเอียดถึง 43 ล้านพิกเซล

f1410282535

 

มาพร้อมระบบลดภาพสั่นไหว OIS (Optical Image Stabilizer) ขยับเลนส์ชดเชยการสั่นที่ชิ้นเลนส์ เหมือนกล้องดิจิตอลบางรุ่น แต่มีเฉพาะบน iPhone 6 Plus เท่านั้น

f1410283998

 
กล้องหน้า FaceTime HD ตรวจจับใบหน้าแบบ Face Detection ได้เร็วขึ้น รวมถึง blink detection และ smile detection ด้วย ช่วยให้ทุกใบหน้าคมชัดเวลาถ่ายหมู่แบบ Selfie พร้อมด้วยโหมด burst selfie สำหรับถ่ายเซลฟีแบบรัวต่อเนื่อง 10 ช็อตต่อวินาที และที่สำคัญในแอพ Camera มาพร้อมระบบตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติได้แล้วนะครับ เลือกได้ 3 วินาที หรือ 10 วินาที
DSC_4689

DSC_4692

 
ถ่ายวิดีโอ 1080p ที่ 30fps และ 60fps และโหมด SLO-Mo ที่ 240fps เพิ่มขึ้นจาก 5s 120fps

f1410284090

 

มาถึง ระบบปฏิบัติการ iOS 8 พร้อมปล่อยตัวเต็ม 17 กันยายนนี้ ตามรายชื่อรุ่นต่างๆ ในภาพ

Apple_Oct_2014_199

 

ราคาวางจำหน่าย iPhone 6 Plus เริ่มต้นที่ $299 เหรียญ กับขนาด 16 GB แล้วกระโดดไป 64GB และขนาดใหม่ 128GB ไปเลย ราคานี้ติดสัญญา 2 ปี ด้วยนะจะ ราคาเครื่องเปล่าคงแพงพอตัว

Apple_Oct_2014_197

 

ราคา iPhone 6 เริ่มที่ $199 เหรียญ ติดสัญญา 2 ปี เช่นเดียวกัน อันนี้ดูแล้วราคาเท่าเดิม ค่อยพอรับได้หน่อย

Apple_Oct_2014_194

 

iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เปิดจองวันที่ 12 ก.ย. นี้  และจะวางจำหน่าย 19 ก.ย. ในสหรัฐและอีก 8 ประเทศแรก ซึ่งไม่มีประเทศไทยเป็นหนึ่งในนั้น แต่คาดว่าจะวางจำหน่ายในไทยช่วงกลุ่มประเทศที่ 2 ราวเดือนตุลาคม

f1410284478

f1410284361

 

ยังไม่จบ Tim Cook กลับขึ้นสู่เวทีเพื่อนำเข้าสู่ฟีเจอร์ที่ทุกคนรอคอยกับระบบ Payment เตรียมบอกลากระเป๋าตังค์ คนอเมริกาใช้บัตรเครดิตรูดปรืดๆ สูงถึง 83% ลุงคุกจะจัดการด้วยอะไรดูรูปถัดไป

f1410284710

 

ระบบนี้มีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Apple Pay

f1410284882

 
หมายเลขบัตรจะไม่ถูกเก็บหรือใช้ร่วมกัน สามารถเพิ่มบัตรด้วยการถ่ายจากกล้อง iSight กรณี iPhone หายหรือถูกขโมยสามารถระงับการชำระเงินทั้งหมดได้ ส่วนหมายเลขบัตรไม่ต้องยกเลิกเพราะไม่ได้เก็บไว้ในเครื่องนั่นเอง

f1410285056

 

เวลาจะชำระเงินก็เพียงแต่นำ iPhone แตะที่แท่นตัดเงิน (คล้ายกับบัตรแรบบิต ของไฟฟ้า BTS) แล้วสแกนลายนิ้วมือผ่าน Touch ID บนปุ่ม Home เพื่อยืนยัน โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอหรือเข้าสู่แอพแต่อย่างใด เมื่อระบบตัดเงินเรียบร้อยแล้ว เครื่องจะสั่นและมีเสียงเตือนขึ้นมา

Apple_Oct_2014_222

 

คอนเฟิร์ม iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่นมาพร้อม NFC

Apple_Oct_2014_227

 
Apple Pay มีบัตรผู้ให้บริการบัตรเครดิตที่เข้าร่วมแล้วคือ American Express, Visa และ Master Card ซึ่งครอบคลุมผู้ถือบัตรเข้าไปกว่า 83% แล้ว และมีเคาน์เตอร์ Contactless payment รองรับตามร้านค้าต่างๆ กว่า 220,000 จุด ในสหรัฐอเมริกา โดยจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนประเทศอื่นๆ ยังไม่มีรายละเอียด

Apple Pay-01

 

นอกจากนี้ยังใช้จ่ายเงินผ่านแอพต่างๆ สำหรับขาช้อปออนไลน์อีกด้วย เช่น Groupon, Starbucks, UBER เป็นต้น

Apple Pay-02

 

แต่น แตน แต้น… ในที่สุดก็มาถึงไฮไลต์อีกตัวหนึ่งที่สำคัญ นั่นคือ Apple Watch สรุปไม่ใช่ชื่อ iWatch อย่างที่ลือกันมานาน ซึ่งวัสดุดูหรูหราพมีเมี่ยมมากๆ ทำจากสแตนเลส นาฬิกาที่ทิมคุกกล้าพูดว่าแม่นเวอร์ หากจะเพี้ยนก็แค่ 50 มิลลิวินาทีเท่านั้น

f1410285559

 

มีสีทอง 18 K ให้เลือกด้วย และมาพร้อมเซ็นเซอร์ถึง 4 จุด ที่ด้านหลัง

f1410285606

 

ควบคุมการใช้งานของ นาฬิกาด้วยกลไกพิเศษ ผ่านปุ่มหมุนที่เรียกว่า digital crown อารมณ์ให้ความรู้สึกเหมือนใช้นาฬิกาแบบเข็ม คลาสิกดี

f1410285849

 

หมุนที่ปุ่ม digital crown เพื่อซูมเข้า ซูมออกได้

f1410285880

 

Digital crown ยังทำหน้าที่เป็นปุ่ม Home ส่วนปุ่มติดๆกันด้านล่างคือ Digital Touch สำหรับแสดงรายชื่อที่เราสามารถติดต่อ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น และแชร์ข้อมูลการเต้นของหัวใจ

f1410286105

 

S1 processor ชิปประมวลผลที่ออกแบบเอง รวมทั้งเซ็นเซอร์ตรวจสอบการเต้นของหัวใจ, อินฟาเรด และ light LEDs

f1410286270

 

Taptic Engine เทคโนโลยีที่ทำให้ระบบสัมผัส, การแสดงผล และการได้ยินเป็นไปอย่างลงตัว
f1410286225

 

มีสายนาฬิกาให้เลือกเปลี่ยนถึง 6 แบบ ทั้งหนัง และสแตนเลส หน้าปัดเปลี่ยนได้หลายดีไซน์

f1410286544

 
Apple watch มีตัวเรือน 3 แบบคือ
Apple Watch ธรรมดา เป็นสเตนเลส
Apple Watch Sport ตัวเรือนอลูมิเนียมแบบเดียวกับ iPhone ซึ่งเบากว่า
Apple Watch Edition ตัวเรือนโลหะผสมทอง 18K ดูหรูหรา

แต่ละแบบจะมี 2 ขนาด เล็กและใหญ่ ขนาดเล็กสำหรับผู้หญิง เด็ก หรือคนที่ข้อมือเล็ก ส่วนขนาดใหญ่ก็เหมาะสำหรับผู้ชาย
f1410286479

 

แตะแอพพลิเคชั่นเลื่อนขึ้นลงซ้ายขวา หรือหมุนปุ่ม crown ซูมเข้าออก สามารถกดปุ่มลงไปเพื่อกลับหน้า Home ฟีเจอร์เกี่ยวกับดาราศาสตร์ถือว่าแม่นยำ อยากรู้ว่าเราอยู่ตรงไหนบนโลกใบนี้ต้องลอง แต่ไม่ใช่แค่โลกเท่านั้น ดวงจันทร์ก็รู้

f1410286757

 

เมื่อมีรายการแจ้งเตือนสามารถตอบกลับด้วยข้อความเสียง หรือส่งเป็นอีโมจิก็ได้ ส่วนวิธีใช้ Siri บน Apple Watch ให้กดปุ่ม digital crown ค้างไว้แล้วพูด

f1410287061

 

Apple Maps แสดงเส้นทางเท้าและรถยนต์ชัดเจน พร้อมลูกศรบอกทิศทางในการนำทาง

f1410287269

 

Digital Touch ด้านล่างปุ่ม digital crown จะแสดงรายชื่อที่ติดต่อได้ เพื่อแตะโทรออกหรือส่งข้อความ

f1410287301

 
นอกจากนี้ยังสามารถวาดรูปบนหน้าจอเพื่อส่งแทนข้อความไปให้เพื่อนที่ใช้ Apple Watch ด้วยกัน, ใช้เป็น Walkie Talkie, แตะเพื่อส่งข้อความการแจ้งเตือนเบาๆ ให้กับเพื่อนหรือคนรัก ว่าเรากำลังคิดถึงอยู่ และแตะ 2 ครั้งบนหน้าจอเพื่อดูอัตราการเต้นของหัวใจ แล้วส่งต่อให้เพื่อนหรือคนพิเศษเพื่อบอกความรู้สึกได้อีกด้วย
apple-watch-sketch

 

มีการแจ้งเตือนจากแอพอื่นๆ ใน iPhone มาที่ Apple Watch เช่น Facebook, Twitter นอกจากนี้ยังเปิด API ให้นักพัฒนาสามารถเขียนแอพมาแจ้งเตื่อนบน Apple Watch ได้อีกด้วย ซึ่งเรียกว่า WatchKit

f1410287448

f1410287495

 

รวบรวมสถิติการออกกำลังกายที่มีการเคลือนไหวตั้งแต่เดินเร็วไปจนถึงวิ่ง แนะนำว่าควรให้ถึง 30 นาทีต่อวัน โดยสามารถตั้งเป้าหมายได้ 3 ภารกิจ Goal to sit less, move more และ get some exercise.

f1410287823

 

Apple Watch มาพร้อมระบบชาร์จไร้สายและเป็นแม่เหล็กแบบเดียวกับ Magsafe ตัวชาร์จของเครื่องแมค จึงทำให้ตัวเครื่องสามารถกันน้ำได้แต่ไม่ถึงขั้นจุ่มน้ำได้นะ เพราะไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อใดๆ ส่วนแบตเตอรี่ยังไม่เปิดเผยว่ามีความจุเท่าไร ใช้งานได้นานแค่ไหน

AppleEvent_0616

 

ทั้งนี้ มันยังรองรับการใช้งานร่วมกับระบบจ่ายเงิน Apple Pay อีกด้วย

DSC_5410

 
Apple Watch สามารถทำงานกับ iPhone ได้ทั้งหมด 5 รุ่น ตั้งแต่ iPhone 5 ขึ้นไป

f1410288053

 

Apple Watch เปิดราคาเริ่มต้นมาที่ $349 ต้นปี 2015 ถึงจะได้ใช้กันนะครับ แต่รับรองว่าคุ้มค่าการรอคอย

f1410288105

 

ปิดท้ายงานด้วยมินิคอนเสิร์ต เปิดอัลบั้มใหม่ของวง U2 และในวันที่ 13 ตุลาคมนี้ เตรียมเปิด iTunes รับอัลบั้มฟรีวง U2 ที่ iTunes music library, iTunes Radio และ Beats Music

f1410288364

Apple_Oct_2014_551 apple-one-more-thing

 

ทั้งหมดที่ทุกท่านอ่านมานี้ ได้อัพเดทแก้ไขเพิ่มเติมบางส่วนให้สมบูรณ์และถูกต้องขึ้นแล้วนะครับ หลังจากเวอร์ชั่นแรกที่ได้โพสต์บทความขึ้นไป ซึ่งมีหลายประเด็นที่ขาดหายไป ขอบคุณที่ติดตามกันนะครับ

 

เครดิตภาพ จาก : The Verge, Thenextweb

 

 

วัดให้ดูกันแบบจะๆ ชิ้นส่วนหน้าจอ iPhone 6 ขนาด 5.5 นิ้ว

 

iphone-6-phablet

 

 

เชื่อกันว่า Apple กำลังผลิต iPhone รุ่นใหม่ที่จะมาพร้อมหน้าจอ 2 ขนาดให้เลือก ระหว่าง 4.7 นิ้ว กับ 5.5 นิ้ว ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วงของปีนี้

 

และอย่างที่เป็นข่าวหนาหูหนาตามาอยู่เรื่อยๆ กับชิ้นส่วน โน้น นี่ นั่น ที่หลุดออกมาไม่เว้นแต่ละวัน ล่าสุดมีการเผยภาพของพาเนลหน้าจอ iPhone 6 ออกมาอีกชุด ซึ่งมีการวัดให้เห็นขนาดที่ชัดเจนคือ 14 เซนติเมตร หรือเท่ากับ 5.5 นิ้ว พอดี

 

ภาพนี้ 9to5Mac เว็บไซต์ที่เผยแพร่ข่าวนี้ บอกว่าภาพดังกล่าวได้ถูดส่งมาจากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ ซึ่งจะเป็นใครไม่ได้นอกจาก Sonny Dickson ผู้ที่เคยเผยภาพชิ้นส่วนของ iPhone 5c, 5s และชิ้นส่วนอื่นๆ ของสินค้า Apple มาตลอด แต่อย่างไรก็ตามผู้อ่านจงใช้วิจารณญาณในการรับชมด้วยนะครับ

 

สำหรับ iPhone 6 รุ่นหน้าจอ 5.5 นิ้ว น่าจะมาพร้อมกระจกแบบแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ซีพียู A8 และกล้องที่สุดยอดยิ่งขึ้น รันบนระบบปฏิบัติการ iOS8 นอกจากนี้ยังลือกันอีกว่า iPhone รุ่นหน้าจอใหญ่อาจจะมีจำนวนจำกัด และอาจจะวางจำหน่ายช้ากว่ารุ่น 4.7 นิ้ว ในอีกไม่กี่สัปดาห์ถัดมา

 

ทั้งนี้ก็ยังไม่มีคำแถลงการณ์ใดๆ ออกมาจาก Apple ทั้งหมดเป็นเพียงกระแสข่าวลือที่ต้องฟังหูไว้หูกันนะครับ (แต่ส่วนใหญ่จะจริง อิอิ…) หากมีความคืบหน้าใดๆ เพิ่มเติม เราจะรีบรายงานให้ทราบกันอีก ติดตามได้ที่นี่นะครับ

 

Source : 9to5Mac ผ่าน GeekyGadgets

 

แคปเจอร์วิดีโอการใช้แอพบน iPhone, iPad ผ่านเครื่อง Mac ที่รัน OS X Yosemite ได้แล้ว

 

ios8-video-capture

 

ขอเสียงกรี๊ดดังๆ ให้กับนักพัฒนา iOS ที่ต่อไปนี้พวกเขาจะสามารถทำคลิปวิดีโอสาธิตการใช้งานแอพ ได้อย่างง่ายดาย โดยการแคปเจอร์เป็นวิดีโอผ่านหน้าจอบนเครื่อง Mac ที่รัน OS X Yosemite ได้แล้ว

 

เพราะก่อนหน้านี้ เป็นอะไรที่ยากลำบากมาก ที่จะแคปเจอร์หน้าจอเป็นวิดีโอออกมาได้ ต้องใช้วิธีการเจลเบรกอย่างเดียว เพื่อลงแอพเสริมในการบันทึกวิดีโอการใช้งาน

 

ง่ายๆ แค่เชื่อมต่อ iPhone หรือ iPad ที่รัน iOS 8 แล้วเสียบสาย USB เข้ากับเครื่อง Mac ที่รัน OS X Yosemite ตัวล่าสุด จากนั้นก็จะมีฟังก์ชัน กล้อง แสดงขึ้นมา เพื่อให้นักพัฒนาสามารถแคปเจอร์วิดีโอการใช้งานแอพของตัวเองได้ และนำไปพรีเซนต์บน AppStore ที่รองรับวีดีโอตัวอย่างได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป

 

เบื้องต้นจากที่มีการทดลองใช้งาน ยังบันทึกวิดีโอได้ไม่ลื่นไหล มีกระตุกๆ อยู่ คาดว่าหากมีการปล่อยระบบปฏิบัติการตัวเต็มออกมาเมื่อไร คงจะใช้งานได้ดีขึ้น

 

Source : 9to5mac

 

[Udpate] สรุปรวบตึง มีอะไรใหม่ใน iOS 8 ใครใช้ iPhone, iPad, iPod Touch ไม่ควรพลาด

ios8Head

 

สำหรับใครที่ไม่ได้ติดตามงาน WWDC14 เมื่อคืนที่ผ่านมา ซึ่งงานนี้มีการเปิดตัวเฉพาะระบบปฏิบัติการใหม่ นั่นคือ OS X Yosemite สำหรับเครื่อง Mac และ iOS 8 สำหรับ iPhone, iPad, iPod Touch ซึ่งเราจะมาพูดถึง iOS 8 กันก่อนว่ามีอะไรใหม่บ้าง ส่วน OS X จะขอแยกเป็นอีกบทความไว้ดีกว่า

 

มีอะไรใหม่บ้างใน iOS 8

f1401731427

 

แถบ Notification โต้ตอบได้ทันทีเมื่อมีข้อความเข้ามา ไม่จำเป็นต้องออกจากหน้าแอพที่กำลังใช้งานอีกต่อไป รวมถึงหน้า Lock Screen ก็ใช้งานแถบแจ้งเตือนได้เลยเช่นกัน
f1401731513

 

ในหน้า Multitasking จะแสดงรายชื่อล่าสุดที่โทรออก, รายชื่อในรายการโปรด Favorite, ส่งข้อความ หรือ FaceTime หาคุณขึ้นมาด้วย
f1401731680

 

 

ช่อง Sportlight search ทำหน้าที่คล้ายกับ OS X คือหาข้อมูลได้แทบทุกแอพในเครื่อง รวมถึงค้นหาแอพที่ยังไม่ได้ติดตั้งในเครื่องได้ด้วย..บระเจ้า ไม่ต้องเข้า App Store แล้วพี่น้อง

f1401731843

 

Smartest Keyboard คีย์บอร์ดมีระบบช่วยเดาคำอัตโนมัติได้ฉลาดยิ่งขึ้น โดยวิเคราะห์จากรูปประโยคให้ใกล้เคียงยิ่งขึ้น แล้วแสดงคำขึ้นมาให้เลือกแม้ว่าเรายังไม่ได้พิมพ์ตัวอักษรแรกก็ตาม นอกจากนี้ยังสามารถรู้ได้ว่าควรเลือกใช้คำแบบไหนให้เหมาะสมตามสถานะการณ์เช่นคุณกับเพื่อนใน iMessage ก็จะใช้คำสบายๆ หน่อย หรือหากคุยอีเมล์เรื่องงานก็จะใช้คำที่เป็นทางการมากขึ้น  ที่สำคัญรองรับหลายภาษาไม่ใช่แค่อังกฤษ มีภาษาไทยด้วย ซึ่งก็ต้องลองดูว่าภาษาไทยจะทำงานได้ดีแค่ไหน หวังว่าคงไม่เจอคำว่า “สัตว์ปีก” มาให้โน้ต อุดม ได้แซวเล่นกันอีกนะครัสสส อิอิอิ

f1401731932

 

 

สามารถแชทกันแบบ Group Messaging สนทนากันเป็นกลุ่มได้แล้ว แต่ยังไม่เป็นบล็อค 4 กรอบตามสิทธิบัตรที่จดไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ถือเป็นเรื่องดีๆที่ผ่านเข้ามา ฟังก์ชั่นหลักๆ สามารถตั้งชื่อกลุ่ม, เพิ่มลบเพื่อนและดีดตัวเองออกจากกลุ่มได้ทุกเมื่อ, เปิดระบบห้ามรบกวนได้ เป็นต้น

f1401732051

 

 

iMessage ส่งคลิปวิดีโอ และคลิปเสียงได้แล้ว โดยสามารถเปิดจากหน้า Lock Screen ก็ได้นะ #ถ้าโอเคให้ทำปากจู๋  นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดให้ คลิปวิดีโอ หรือคลิปเสียงสามารถเปิดฟังไปแล้วจะลบไปในกี่นาทีตามกำหนดได้อีกด้วย

f1401732266

 

 

เวลาจะฟังคลิปเสียงก็แค่ยกแนบหูก็ฟังได้เลย ส่วนเวลาจะส่งคลิปเสียงก็แค่กดปุ่มบันทึกเสียงค้างไว้ เมื่อเสร็จแล้วก็ปัดนิ้วขึ้นไปด้านบนเพื่อส่งได้ทันที

 

ios8-imessage

 

 

สามารถ Share Location หรือตำแหน่งปัจจบุันของเรา พร้อมกำหนดได้ว่าจะให้สิ้นสุดลงเมื่อไหร่ เช่น ภายใน 2 ชั่วโมง,  ภายในวันนี้เท่านั้น หรือ เปิดตลอด

ios8-imessage-location

 

Handoff เชื่อมต่อการใช้งานให้ต่อเนื่องระหว่าง iPhone, iPad, Mac (Yosemite) เข้าด้วยกัน เช่นกำลังเขียนอีเมล์บน iPhone แล้วกลับมาเขียนต่อบน Mac ได้โดยที่เมื่อเครื่องทั้ง 2 อยู่ใกล้กันระบบจะเปิดแอพนั้นขึ้นมาให้เขียนอีเมล์ต่อโดยอัตโนมัติ โดยรองรับการแอพต่างๆ อีกมากมายทั้ง Safari, Pages, Numbers, Keynote, Maps, Messages, Reminders, Calendar และ Contacts นอกจากนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวยังช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi Hotspot ระหว่าง iPhone กับ iPad ได้ง่ายขึ้นแค่วางไว้ใกล้กัน ส่วน Mac ก็จะถามทันทีว่าจะใช้ Hotspot ของ iPhone มั้ย และที่เป็นฟีเจอร์สุดล้ำอีกอย่างที่หลายคนรอคอยคือการให้เครื่อง Mac รับสาย และโทรออก โดยใช้สัญญาณโทรศัพท์จาก iPhone ได้ด้วย

Handoff

 

Enterprise Feature 

มีการเพิ่มคุณสมบัติสำหรับการใช้งานภายในองค์กร โดยให้ติดตั้งแอพและตั้งค่าการทำงานตามกติกาขององค์กรนั้นๆ โดยอัตโนมัติ รวมทั้ง Email, Calendar ฯลฯ นอกจากนี้ยังรวมถึงการจัดการหนังสือ และไฟล์ PDF ใน iBook ตามที่สถาบันนั้นๆ จัดเตรียมไว้ด้วย ซึ่งมีประโยชน์มากในการใช้งานด้านการศึกษา

DSC_1243

DSC_1252

 

 

iCloud Drive บน iOS 8 สามารถเปิดไฟล์เอกสารหรือซิงค์ขึ้นคลาวด์ รวมถึงติดตั้งคลาวด์จากแอพอื่นๆ เช่น OneDrive, Box ได้ด้วย

f1401732413

 

 

มีแอพ Health เพื่อคนรักสุขภาพจริงๆด้วย เป็นที่รวมข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพจากแอพอื่นๆ ทั้งหมดไว้ในที่เดียว ตั้งค่าร่วมใช้งานกับแอพอื่น หรือกำหนดให้แจ้งเตือนเมื่อถึงวันนัดหมอ หรือตั้งให้ส่งข้อความไปถึงหมอ หากต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉินโดยอัตโนมัติได้ถ้ามีค่าผิดปกติมาก เช่น ความดันสูง โดยมีการทำงานร่วมกับ Mayo Clinic  เครือข่ายสุขภาพชื่อดังของอเมริกา (เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลประโยชน์ ที่มีแพทย์ นักวิจัย และบุคคลากรกว่า 50,000 คน)

f1401732590

 

Family Sharing ศูนย์รวมของคนในครอบครัว โดยสามารถ แชร์รูปภาพ, แชร์แอพ (ซื้อคนเดียวใช้ได้ 6 คน), เพลง, หนัง, อีบุ๊ก, ปฏิทิน ให้คนในครอบครัวได้ถึง 6 คน ค้นหาตำแหน่งคนในครอบครัว ให้กันได้ ที่สำคัญสามารถซื้อแอพให้กันได้ เช่น เกิดลูกจะซื้อแอพก็สามารถใช้บัตรเครดิตของพ่อเพื่อจ่ายตังค์ให้ได้ โดยที่ลูกไม่ต้องมีแอคเคาท์ Apple ID (แต่จะมีหน้าจอแจ้งเตือนให้พ่อแม่อนุญาติก่อนนะ ไม่ต้องกลัว Shock Bill 555)

f1401732795

 

Photo Edit สามารถตกแต่งภาพ โดยปรับส่วนที่มืดให้สว่างได้โดยดูการไล่ระดับแสงสว่างจากน้อยไปมากได้ นอกจากนี้ยังใช้ปรับค่าต่างๆ เพิ่มเติมได้อีกมากมาย เช่น สี, ความสว่าง, คอนทราสต์ ฯลฯ ได้อย่างมืออาชีพแล้ว ยังสามารถปรับแต่งแบบง่ายกว่านั้นคือ ปรับแค่สีและความสว่าง โดยที่แอพจะช่วยลดค่าอื่นๆ ที่เหมาะสมให้เอง เช่น ปรับให้สีสันสดขึ้น จะมีการไปลดหรือเพิ่มค่าคอนทราสต์ และความสว่างภาพให้อัตโนมัติ โดยไม่ทำไม่ทำให้แสงส่วนอื่นสูญเสียรายละเอียดไปด้วย อย่างการปรับภาพย้อนแสงบนใบหน้าให้สว่างขึ้น โดยที่ฉากหลังเป็นท้องฟ้า หรือแบ็กกราวด์วิวก็ยังคมชัดอยู่

 

นอกจากนี้ยังสามารถทำงานร่วมกับแอพจัดการภาพหรือ Photo ตัวใหม่ที่จะออกมาสำหรับ Mac OS X Yosemite ในต้นปีหน้าได้อีกด้วย

f1401733038

 

 

หากให้อัพโหลดรูปขึ้นคลาวด์จะไม่จำกัดแค่ 1,000 รูป อีกต่อไปแล้ว ซึ่งอาจะเป็นกลยุทธ์ล่อให้คนต้องซื้อพื้นที่  iCloud มากขึ้นก็ได้ เพราะพื้นที่ฟรี 5GB อาจจะไม่พอยาไส้ แต่ถ้าซื้อเพิ่มก็มีการปรับราคาลงมาเป็น 20 GB จ่าย $0.99 ต่อเดือน (เดิม $3.33/เดือน) หรือ 200 GB จ่าย $3.99 ต่อเดือน

DSC_1346

 

 

แอพ Photos แสดงภาพในเครื่องและ iCloud จากทุกอุปกรณ์ โดยที่ช่อง Spotlight สามารถค้นหาภาพตามตำแหน่ง, เวลา, และอัลบั้มได้ตามต้องการ

f1401732953

 

พูดเลย “Hey, Siri” จะสั่งให้ค้นหาเพลงจากการฟังเสียงด้วย Shazam หรือสั่งซื้อของใน iTunes ก็ทำได้ ไม่รู้ว่าจะมีภาษาไทยติด 1 ใน 22 ภาษารึเปล่าสินะ

f1401733336

 

 

ในส่วนของ App Store เพิ่มแท็บ explore ช่วยค้นหาแอพ และเพิ่ม App bundles ให้ผู้ขายแอพ จัดแอพขายแบบยกชุดได้ในราคาพิเศษ

f1401733534

 

 

Notification Center มี Widgets กับเค้าแล้วหรือนี่..คล้ายๆ Google Now บน Android วิธีเรียกเปิดใช้งานให้พูดว่า “one new widget available.” แล้วเพิ่มหรือแก้ไขรายการกีฬาโปรดของคุณ ขณะนี้รองรับบน iPad เช่นกัน

f1401733795

 

เย้ๆๆๆๆ ฉีกข้อจำกัดเรื่องคีย์บอร์ดเสียที โดย iOS 8 ยอมให้ติดตั้งคีย์บอร์ดเสริม หรือคีย์บอร์ดแบบอื่นๆ เพิ่มเติมได้ (เช่น swype คีย์บอร์ดจากผู้พัฒนาร่วมรายอื่นๆ) โดยไม่ต้องไป Jailbreak อีกต่อไป  แถมยังคุยว่ามีระบบป้องกันไม่ให้คีย์บอร์ดเหล่านั้นไปยุ่งกับส่วนอื่นๆ ของระบบได้ (แอบขโมยข้อมูลที่คุณคีย์แล้วส่งออกไปไม่ได้) นอกจากคุณจะยอมอนุญาตเป็นพิเศษ

f1401734021

 

iPhone 5S มีผู้ใช้งาน Touch ID ประมาณ 83% ใน iOS 8 จะเพิ่มความสามารถให้ป้องกันข้อมูลแอพอื่นๆได้มากขึ้น ไม่ใช่แค่ App Store หรือปลดล็อคหน้าจออีกต่อไป

f1401734087

 

HomeKit พร้อมรองรับระบบ Smart Home โดย iDevice จะทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้บ้านปลอดภัยยิ่งขึ้น เช่น สั่งล็อคประตู, ปิดเปิดไฟ, กล้องวงจรปิด ฯลฯ หรือไม่ต้องเปิดแอพก็สามารถใช้ Siri สั่งงานด้วยเสียงได้ โดย Apple ได้เจรจากับบริษัทต่างๆ ที่ทำระบบอัตโนมัติทั้งหลายในบ้าน ตั้งแต่กุญแจล็อค ไฟส่องสว่าง ฯลฯ ไว้แล้วหลายสิบบริษัท

f1401734203

DSC_1458

 

iOS 8 Beta หรือเวอร์ชั่นทดลอง เริ่มปล่อยให้นักพัฒนาดาวน์โหลดได้แล้ว ส่วนเวอร์ชั่นเต็มจะปล่อยให้คนทั่วให้ดาวน์โหลดได้ในช่วงฤดูใบไม้ร่วม หรือประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม ปีนี้

f1401735310

 

สำหรับนักพัฒนา Developer

นอกจากคุณสมบัติใหม่สำหรับผู้ใช้แล้ว ยังมีคุณสมบัติใหม่หลายๆ อย่างสำหรับ developer หรือผู้พัฒนาโปรแกรม ซึ่งบางอย่างมีผลกับผู้ใช้ด้วย เช่น

 

• App Preview แสดงวิดีโอของการทำงานแอพในหน้า App Store เลย

DSC_1382


Test Flight นักพัฒนาสามารถเชิญผู้ใช้เข้าร่วมทดสอบรุ่น beta ของแอพได้ด้วยก่อนปล่อยตัวจริงออกไป

DSC_1384


Metal ระบบกราฟิกใหม่ที่ช่วยลด overhead และเพิ่มความเร็วในการทำงานแสดงผลได้เร็วขึ้นเป็นสิบเท่ ซึ่งหากเป็นอย่างที่แอปเปิลวางไว้ iOS ก็จะเริ่มสามารถเข้าไปสู้ในตลาดเกมคอนโซลที่เคยเป็นของ Sony PlayStation, microsoft Xbox, Nintendo Wii และอื่นๆ ได้มากขึ้น รวมทั้งยังรองรับการใช้งานแอพที่ใช้พลังกราฟิกหนักๆ อย่างพวก 3: visualization, Virtual หรือ Augmented Reality ได้มากขึ้นด้วย

DSC_1482

DSC_1518


Extensibility เปิดช่องทางให้แอพต่างๆ สามารถรับส่งข้อมูลและทำงานร่วมกัน เช่น จาก Photos สามารถไปเรียกใช้ความสามารถในการแต่งภาพของแอพอื่น หรือบราวเซอร์ Safari เรียกใช้ตัวแปลภาษาจาก Bing ได้เป็นต้น ถ้าแอพที่ถูกเรียกใช้นั้นเปิดให้บริการไว้ตามกติกา”

DSC_1397 DSC_1401

 

อุปกรณ์ที่สามารถรองรับ iOS 8 ได้มีดังนี้

iPhone 4s

iPhone 5

iPhone 5c

iPhone 5s

iPod Touch 5 gen

iPad 2

iPad with Retina Display

iPad Air

iPad mini

iPad mini with Retina display

ส่วน iPhone 4 เสียใจด้วยครับ คุณไม่ได้ไปต่อ

 

ios8 compatible

 

ดูฟีเจอร์ iOS 8 อย่างเป็นทางได้ที่เว็บ Apple

 

เครดิตภาพบางส่วนจาก The Verge

 

 

 

คืนนี้แล้วสินะกับงาน WWDC2014 ที่สาวก Apple รอคอย ชมสดผ่านเว็บ เที่ยงคืนเป็นต้นไป [แจกฟรีคู่มือ Mac OS X ที่นี่]

 

เตรียมพร้อมกันแล้วยังครับ กับงานใหญ่ประจำปี WWDC 2014 ซึ่งเป็นงานของเหล่านักพัฒนาสาวกแอปเปิ้ล มารวมตัวเพื่อที่จะรอชมการเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่คาดกันว่าจะเป็น iOS 8 กับ Mac OS 10.10 งานนี้ผมเตรียมป็อปคอนกันชาเย็นๆ ไว้เป็นเพื่อนแล้วล่ะครับ ไปลุ้นด้วยกันนะ เที่ยงคืนเป็นต้นไปครับ

 

ชมการถ่ายทอดสดผ่านเว็บ Apple ได้โดยตรงที่เดียวเท่านั้นนะครับ คลิกเลย http://www.apple.com/apple-events/june-2014/

WWDC14

นอกจากการดูผ่านพีซีแล้ว ยังสามารถดูผ่าน Safari ทั้งบน iPhone, iPad, iPod Touch ได้ด้วยนะครับ

 

สำหรับงานนี้ใครคาดหวังว่าจะได้เจอกับ iPhone 6 หรือ iPad, iWatch อะไรก็ตาม อาจจะยังไม่ได้เจอในงานนี้ เพราะเนื่องจากงาน WWDC เป็นงานสำหรับนักพัฒนาเท่านั้น ซึ่งจะเน้นไปที่ซอฟต์แวร์ ไม่ได้เน้นที่ฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ แต่หากเกิดมีอะไรใหม่โผล่มาในงานครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นเซอร์ไพสร์แรงๆ เลยล่ะครับ

 

OopsMobile ชวนร่วมกิจกรรม

สำหรับใครที่ติดตามงานในคืนนี้ เรามีเกมสนุกๆ มาให้ร่วมชิงหนังสือคู่มือ Mac OS X Mavericks ฉบับสมบูรณ์ ที่มีหนึ่งในทีมงาน OopsMobile เป็นผู้เขียนหนังสือเล่นนี้ด้วยนะครับ
Photo-2-6-57-19-03-56

 

 

กติกา

1. กด Like Fanpage OopsMobile

2. ตอบคำถามง่ายๆ ใน Comment ใต้รูปนี้ ว่างาน WWDC14 ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไร

3. แชร์ภาพกิจกรรมนี้ ไปยังหน้าวอลล์ Facebook ของตัวเอง โดยตั้งให้เป็น สถานะ (Publish)

4. หมดเขตร่วมสนุกเที่ยงคืนนี้ (2 มิ.ย. 57)
5. จับรางวัลโดยการสุ่มจับฉลาก ผู้โชคดี 5 ท่าน รับคู่มือ Mac OS X Mavericks ฉบับสมบูรณ์ ไปเลยคนละ 1 เล่ม มูลค่า 399 บ. จาก Provision

 

ประกาศชื่อผู้โชคดีภายในวันที่ 3 มิ.ย. 57

 

มาเล่นกันเยอะๆ นะครับ ….

 

 

 

ชมวิดีโอคอนเซ็ป Apple iWatch อีกหนึ่งสุดยอดดีไซน์ ที่อยากให้เป็นจริง

 

apple-iwatch2

ทุกครั้งที่แอปเปิ้ลจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ มักจะมีเหล่าดีไซน์เนอร์ ออกมา มโนว่ามันจะออกมาหน้าตายังไง โดยเฉพาะ iWatch ซึ่งก็มีภาพคอนเซ็ปในฝันออกมามากมายหลาย 10 แบบแล้ว

 

ล่าสุดมีคลิปวิดีโอคอนเซ็ปของ iWatch ออกมาอีก 1 ดีไซน์ จาก Mindspi Vision ซึ่งเรียกว่าดูสวยล้ำ เหนือจินตนาการไปเลย โดยตามข่าวคาดว่าแอปเปิ้ลน่าจะเปิดตัวอุปกรณ์ Smartwatch ภายในปีนี้ ราวๆ เดือนกันยายน ซึ่งเชื่อว่าน่าจะอยู่ในช่วงของการวางจำหน่าย iPhone 6 พอดี

 

นอกจากนี้ยังมีข่าวอีกว่า Apple จะเปิดตัว iWatch 2 ขนาดด้วยกันคือ หน้าจอ 1.3 นิ้ว สำหรับผู้หญิง และ หน้าจอ 1.7 นิ้ว สำหรับผู้ชาย

 

[youtube link=”http://youtu.be/qLmMiraK7ok” width=”590″ height=”315″]

 

สำหรับฟีเจอร์ที่คาดว่าจะต้องมี ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของสุขภาพและ ฟิตเนส แทร็คกิ้ง และที่สำคัญคือออกแบบให้ใช้งานร่วมกับ iPhone 6 บน iOS 8 โดยเฉพาะ

 

แน่นอนว่านี่ยังไม่ใช้ของจริง เป็นเพียงการจิ้นกันไปเท่านั้น หากมีข่าวความคืบหน้า หรือรายละเอียดสเปกต่างๆ เพิ่มเติม เราจะรีบรายงานให้ทุกท่านทราบ