Guided Access และ Restrictions คำสั่งบน iOS ที่วัยรุ่นเซ็ง แต่คุณแม่ปลื้ม!

Wassuppp! ใครที่ได้อ่านข่าวแอพศัลยกรรมตุ๊กตาบาร์บี้ คงสงสัยว่าเกมนี้หลุดลอดสายตา Apple และ Google มาถึงมือปราบออนไลน์ และฟ้องให้ลบแอพออกจากสโตร์เนื่องจากไม่เหมาะสมทั้งด้านคำพูด ค่านิยม และพฤติกรรมได้อย่างไร โดยเฉพาะเป็นแอพสำหรับเด็กด้วยแล้วยิ่งต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ดังนั้นด่านแรกที่จะป้องกันไม่ให้ผ่านถึงมือเด็กๆ คือ คุณพ่อคุณแม่ ถ้ามีลูกอายุไม่เกิน 9 ขวบ ยังพอจะห้ามและเลือกเกมให้ได้ แต่พอโตขึ้นมาเริ่มรู้รหัสผ่าน ค้นหาเอง เล่นเอง เผลอๆสมัครแอคเคาท์ใหม่เอง คราวนี้คงต้องให้ฟีเจอร์บน iOS ช่วยบ้างไรบ้าง แต่ก็ต้องระวังอย่าให้คุณลูกรู้รหัสผ่านนะคะ .. รับรองคุณแม่ปลื้ม! นั่นก็คือ Guided Access กำหนดพื้นที่และตำแหน่งที่ไม่อนุญาตให้ใช้งาน และ Restrictions ยกเลิกแอพที่ไม่ต้องการให้ใช้งานไปเลย (credit หนังสือคู่มือ iPhone 5S ios 7 ฉบับสมบูรณ์ by Provision)

 

เปิดใช้งาน Guided Access
1. แตะไอคอน Settings > General > Accessibility > Guided Access

2. แตะปุ่มเปิดใช้งานที่ Guided Access

3. แตะที่ Set Passcode

4. ตั้งรหัสผ่านเป็นตัวเลข 4 หลัก และยืนยันรหัสผ่านอีกครั้ง

 

1-21-2014 9-47-29 PM copy

 

เริ่มกำหนดพื้นที่ล็อคหน้าจอด้วย Guided Access
1. หลังจากเปิดใช้งาน Guided Access ให้เปิดแอพที่อนุญาตให้เด็กๆเล่นขึ้นมา (ในตัวอย่างคือ Line)

2. กดปุ่ม Home ติดกัน 3 ครั้ง แล้วลากเส้นวงรอบตำแหน่งที่ไม่ต้องการให้ใช้งาน

3. จะแสดงกรอบสีเทาขึ้นมา สามารถลากปุ่มกลมๆเพื่อย่อ-ขยายพื้นที่ได้ เสร็จแล้วแตะ Start

 

IMG_0145 copy
จากรูปไม่ต้องการให้แตะปุ่ม Back หรือตั้งค่าต่างๆในแอพ Line (แถมคุยได้แค่คนเดียวด้วยสินะ)

 

4. จะกลับมาที่หน้าจอแอพอีกครั้ง โดยคำสั่งที่อยู่นอกบริเวณสีเทาจะใช้งานได้ตามปกติ ส่วนคำสั่งที่อยู่ในพื้นที่สีเทาที่ล็อคไว้จะใช้งานไม่ได้

5. นอกจากนี้จะไม่สามารถกดปุ่ม Home และปุ่ม Sleep/wake หรือหากกดปุ่ม Home ติดกัน 2 ครั้งจะขึ้นข้อความ Guided Access is enabled… ยังใช้แอพอื่นไม่ได้นะ และขึ้นให้ใส่รหัสผ่าน 4 ตัวทันที ทางที่ดีเลือกเล่นเฉพาะแอพที่กำหนดไว้ดีกว่า (แต่ขอบอกว่าบางทีก็เปิดแอพใน Multitasking ได้ด้วย เพราะฉะนั้นควรปิดแอพใน Multitasking ให้หมดเพื่อความปลอดภัยค่ะ..วัยรุ่นเซ็ง!)

6.เมื่อจะออกจาก Guided Access ให้กดปุ่ม Home ติดกัน 3 ครั้ง จากนั้นกรอกรหัสผ่าน แล้วแตะ End อีกที

 

IMG_0151
Guided Access Ended กลับมาใช้งานได้ตามปกติ

 

เปิดใช้งานคำสั่ง Restrictions
1. ไปที่ Settings > General > Restrictions

2. แตะ Enable Restrictions

3. ตั้งรหัสผ่านเป็นตัวเลข 4 ตัว (ไม่จำเป็นต้องใช้รหัสเดียวกับที่ใช้ปลดล็อคเครื่องแต่จะตั้งซ้ำกันก็ได้)

4. ยืนยันรหัสผ่านอีกครั้ง จะเห็นว่าแอพหลักถูกเปิดใช้งานไว้ทุกตัว

5. ปิดการใช้งานแต่ละแอพได้ตามต้องการ (รองรับเฉพาะแอพที่มาพร้อมเครื่องเท่านั้น)

6. แตะ < General กลับไปยังหน้าก่อน เพียงเท่านี้ไอคอนแอพที่มาพร้อมเครื่องอย่าง App Store ก็จะถูกซ่อนทันที

 

1-21-2014 10-50-21 PM copy
เมื่อต้องการยกเลิกให้ไปที่ Settings > General > Restrictions แตะ Disable Restrictions

 

หวังว่าทั้ง 2 ฟีเจอร์จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่วางใจการเล่น iPhone, iPad ของเด็กๆได้มากขึ้นนะคะ ถ้าไม่เห็นรหัสผ่านกันซะก่อน..อุ๊ปส์!!

 

ทำ MV เองง่ายๆ ด้วย iMovie

 
ใครที่เล่น iPhone 5s, iPad Air, iPad mini With Retina หรือ Mac ก็คงทราบกันดีว่าเมื่อ Apple เปิดตัว iOS 7 และ OSX Mavericks ก็มีของแถมให้เราเล่นกันฟรีๆ นั่นก็คือ iMovie ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นสุดคลาสสิคที่เอาไว้ทำมิวสิควีดีโอ หรือทำหนัง ก่อนหน้านี้ iMovie มีราคาแพงมากๆ แต่ไม่รู้ว่า Apple เกิดใจดีอะไรปล่อยมาให้โหลดฟรีสำหรับผู้ที่ซื้อ iPhone 5s และ iPad รุ่นใหม่ ซะงั้น แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ของได้มาฟรีก็ต้องลองเล่นกันหน่อย
 

iMovie-2.0-for-iOS-app-icon-small

 

วันนี้จะมาลองทำ MV หรือมิวสิควีดีโอสั้นๆให้ดูกันเผื่อใครสนใจอยากจะทำ ก่อนอื่นต้องโหลด iMovie จาก App store กันก่อน ซึ่งมีให้ดาว์นโหลดกันทั้งในไอโฟน ไอแพด หรือ แมค ซึ่งอันนี้ดาว์นโหลดมาจากไอแพด    Download iMovie

หลังจากดาว์นโหลดเสร็จ ก็เริ่มกันได้เลย

 

 

เปิดมาจะเจอหน้าแรก ถ้าใครเคยสร้างโปรเจคอะไรไว้จะขึ้นหน้าที่มีโปรเจคของเราที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ ให้เราแตะไปที่มุมบนขวาสุดที่เป็นเครื่องหมายบวก เพื่อเป็นการสร้างโปรเจคใหม่

iMovie01 12.59.46 PM

 

 

ะขึ้นหัวข้อ New Project ให้เราเลือกระหว่าง Movie  กับ Trailer  Movie  โดยหากเลือกโหมด Movie จะใช้ในกรณีที่เราใส่วีดีโอ ใส่เพลงหรือใส่รูป และเพิ่มลูกเล่นเอฟเฟกต์ต่างๆ ได้ ส่วน Trailer จะเป็นการสร้างมิวสิควีดีโอเหมือนกันแต่จะมีเทมเพลตให้ใส่ประกอบภาพไปด้วย อันนี้เราทำแค่ MV เราเลือก Movie

iMovie02

 

 

เมื่อแตะไปที่ Movie แล้ว จะเจอหน้า New Movie ให้เราแตะ Creat Movie

iMovie03

 

 

แตะที่ Tab to insert media ในกรณีที่เราเตรียมวีดีโอหรือรูปภาพไว้แล้ว (แต่ถ้าจะถ่ายวีดีโอสดๆทางนี้เลย ให้เราแตะไปที่ Tab to record video) แต่กรณีนี้เราเตรียมวีดีโอไว้แล้ว

iMovie4

 

 

ทีนี้จะมีแถบด้านล่างให้เลือกว่าจะใส่ Video Photos หรือ Audio อันนี้ต้องเลือก Video ก่อนค่ะ ซึ่งเราไม่ต้องเสียเวลาไปดึงวีดีโอจาก Camera Roll เลย เพราะเจ้า iMovie จัดมาให้เราแล้วค่ะ ไม่ว่าเราจะเก็บวีดีโอที่ไหนก็จะขึ้นที่ไฟล์วีดีโอของ iMovie โดยอัตโนมัติเลย ทีนี้แตะเลือกวิดีโอที่เราจะใช้ตามในลิสต์ที่มีค่ะ เสร็จแล้วจะมีลูกศรชี้ลง ซึ่งเป็นตัว import วีดีโอของเราออกมา ให้แตะที่ลูกศร

iMovie05

 

 

ทีนี้เราจะเห็นว่าวีดีโอของเราลงมาอยู่ในไทม์ไลน์แล้ว  หลังจากนั้นแตะไปที่มุมขวาบนสุดที่เป็นรูปฟิล์มกับตัวโน้ต ปุ่มนี้หมายถึงการแอดตัวมีเดียเข้าไป

iMovie06

 

 

ในที่นี้เราเลือก Audio เพื่อเพิ่มเพลงประกอบ

iMovie07

 

 

ก็จะขึ้นหมวดหมู่ของเพลงที่เราเก็บไว้ใน iTunes ก็แล้วแต่เราจะเลือกว่าเพลงที่เราจะใช้อยู่หมวดหมู่ไหน พอแตะเลือกหมวดหมู่แล้ว ก็จะขึ้นรายชื่อเพลงที่เราเก็บไว้ ในนี้เราขอเลือกเพลงที่ทำเองกับมือชื่อเพลง On the road

iMovie08

พอแตะชื่อเพลงก็จะขึ้นลูกศรชี้ลงเหมือนตอนแอดรูป แตะที่ลูกศรเพื่อเป็นการ import เพลงลงไป

 

 

ทีนี้ก็คือเสร็จละ เราสามารถเช็คความเรียบร้อยจากไทม์ไลน์ที่เห็นโดยกดปุ่ม Play  แต่ถ้ายังไม่ดีต้องการย้อนกลับไปทำใหม่หรือแก้ไข เราจะเห็นลูกศรชี้ลง นั่นคือปุ่ม Undo

iMovie09

 

 

หากต้องการดูผลงานที่ได้ตัดต่อไว้ ให้แตะเครื่องหมาย < ทางซ้ายมือนั่นคือการกลับไปดูไฟล์ MV ที่เราสร้างไว้ซึ่งมันจะออโต้เซฟหรือบันทึกให้อัตโนมัติ

iMovie10

 

 

ถ้าเราอยากที่จะเซฟลงไว้ที่อื่นหรือแชร์ไปเฟซบุ๊ค ยูทูป หรือเก็บลงในไอแพดหรือไอโฟนของเรา ให้เรากดปุ่มแชร์ที่เป็นกรอบสีแดงวงไว้ในภาพ เลือกแชร์ตามต้องการ

iMovie11

 

 

เสร็จแล้ว ทีนี้มาดูผลงาน MV ที่ทำไว้ดีกว่า

[youtube link=”http://www.youtube.com/watch?v=08B7wY6tkkw&feature=share&list=UU9fdNKp8sQhWcMue74Sq5Og” width=”590″ height=”315″]

 

 

[iOS] ติดถ่ายวิดีโอแนวตั้ง แต่อยากได้คลิปแนวนอนอัตโนมัติ Horizon จัดให้

Wassuppp! เคล็ดลับการถ่ายวิดีโอให้ดูดีต้องเริ่มจากพลิกเครื่องให้อยู่ในแนวนอน แต่ถ้าเรารีบหรือติดการถ่ายวิดีโอในแนวตั้งคงแก้ไขกันลำบาก เพื่อไม่ให้กังวลในเรื่องนี้ขอแนะนำแอพ Horizon ที่ไม่ว่าจะถือ iPhone ในแนวไหนก็จะได้คลิปวิดีโอแนวนอนกลับมาเสมอ โดยสามารถเลือกสัดส่วน และความละเอียดต่างๆ เช่น 1920×1080 (16:9), 1280×720  (16:9) , 640 × 640 (1:1) , 640 × 480 (4:3 ) และ 480 × 480  (1:1) มีเฉพาะ  iPhone 4S และ iPad 2 ที่รองรับ 640×480 และ 480×480 คราวนี้ก็หมดปัญหาคลิปเอียง คลิปหมุน และที่สำคัญเพื่อนๆไม่เหวี่ยงใส่เวลาเปิดดูคลิปแน่นอน

 

Horizon มีให้เลือกทั้งหมด 3 โหมดคือ

• Just Rotate เลือกใช้กรณีต้องหมุนหรือพลิกเครื่องหลายๆรอบ โดยจะตั้งค่ากรอบแนวนอนให้เท่ากันเสมอ

• Rotate & Scale กรอบจะเพิ่มหรือลดขนาดตามหน้าจอที่เราหมุน ซึ่งส่วนใหญ่นิยมใช้โหมดนี้กัน

• Disabled ปิดการใช้กรอบแนวนอนอัตโนมัติ

 

1-16-2014 3-21-46 PM

 

นอกจากนี้ยังมีฟิลเตอร์ให้ตกแต่งได้ถึง 8 แบบ (Sepia, Movie, Retro, Grayscale, Washout, Sketch, Toon, Nightowl) รวมถึงบันทึกตำแหน่ง, ติดแท็กสถานที่ และแชร์ขึ้นแหล่งโซเชียลได้ทันที

 

Photo-14-01-2014-11-25-04-220x252

 

ขณะนี้ Horizon อยู่ในช่วงลดราคา 50% เหลือเพียง $0.99 (ต้องรีบโหลด ก่อนจะปรับเป็น $1.99 เร็วๆนี้นะจ๊ะ)

 

 

เตรียมรับมือ 10 ดีไซน์ใหม่บน iOS 7.1

Wassuppp! ระหว่างที่เราใช้ iOS 7.0.x เป็นธรรมเนียมที่ Apple จะต้องพัฒนา iOS 7.1 เวอร์ชั่น beta ออกมาเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ 7.1 beta 3 และอนุญาตให้เฉพาะนักพัฒนาได้ติดตั้งก่อน (ข่าวลือ iOS 7.1 จะปล่อยอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคม) และคงอีกหลายเดือนกว่าผู้ใช้งานทั่วไปอย่างเราจะได้เล่นตัวจริงกัน แต่เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเตรียมความพร้อมรับมือกับ 10 ดีไซน์ใหม่ล่าสุดบน iOS 7.1 beta 3 ที่นักพัฒนาเผยโฉมให้ดูกันก่อนดีกว่าค่ะ จะมีอะไรเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน และเปลี่ยนไปเพื่ออัลไล..เลื่อนลงมาเลยสินะ!

 

Phone : โทรออก รับสาย วางสาย

IMG_4226
ปุ่ม Call สำหรับแตะโทรออกในหน้า Keypad เปลี่ยนเป็นวงกลมและใช้รูปโทรศัพท์แทนตัวหนังสือ และใต้เบอร์โทรเปลี่ยนจากคำสั่ง +Add to Contacts เป็นสัญลักษณ์ + มุมบนซ้ายแทน

 

 

IMG_4237
เปลี่ยนแถบ Slide to answer ในหน้า Lock Screen ให้โปร่งแสงเห็นแบ็คกราวน์แทนสีเขียว ใช้ไอคอนรูปโทรศัพท์แทนลูกศร

 

 

1-8-2014 5-56-55 PM
ปุ่มตัวเลือกเมื่อไม่สะดวกรับสายพื้นสีขาวหายไป ส่วนปุ่มปฏิเสธ และปุ่มรับสายเปลี่ยนเป็นวงกลมใช้รูปโทรศัพท์แทนตัวหนังสือ

 

 

IMG_5252
ปุ่มวางสายเปลี่ยนเป็นวงกลมและใช้รูปโทรศัพท์แทนตัวหนังสือ

 

FaceTime : คุยแบบเห็นหน้า

IMG_2175
FaceTime ทั้งโหมดโทรออกและรับสาย ไอคอนจะเปลี่ยนเป็นวงกลมทั้งหมด

 

Shut down : ปิดเครื่อง

IMG_3988
เปลี่ยนชัดเจนมากในส่วนการปิดเครื่องทั้งในหน้า Home และ Lock Screen จะเห็นว่าแถบ slide to power off ด้านบนไม่ใช้พื้นสีแดงใช้ไอคอนแทนลูกศร ส่วนปุ่ม Cancel ด้านล่างเปลี่ยนเป็นวงกลมใช้สัญลักษณ์กากบาทแทนตัวหนังสือ

 

Icon : ไอคอนแอพ

newios7colors
ไอคอน Phone, Message และ Facetime ปรับให้สว่างน้อยลง (แถวบนคือ iOS 7.1 beta 3 จะเข้มขึ้นกว่าของเดิมเล็กน้อย..ช่างสังเกตจริงๆ)

 

Keyboard : คีย์บอร์ด

ios71keyboard
เพิ่มความหนาและความคมชัดของตัวหนังสือบนคีย์บอร์ด และปรับสีพื้นให้เข้มมากขึ้น โดยเฉพาะคีย์ Shift และคีย์ Blackspace จะมีพื้นสีขาวเพิ่มเข้ามา ทำให้ง่ายต่อการมองเห็นมากขึ้น

 

Music : แอพเพลง

musicios71
เมื่อแตะปุ่ม Repeat All (เล่นวนซ้ำ) และปุ่ม Shuffle All (สลับเพลง) จะเน้นสีพื้นให้โดดเด่นขึ้น และใช้ฟอนต์สีขาวแทนชมพู

 

IMG_0798
ในหน้า iTunes Radio เพิ่มคำสั่ง “New” สำหรับเพิ่มสถานีใหม่ได้ด้วย

 

Safari : เปิดดูเว็บและข้อมูล

IMG_3078
ในช่องค้นหาจะเปลี่ยนข้อความเป็น “Search web or enter site name” ใช้ตัวอักษรหนาและสีเข้มขึ้นกว่าเดิม

 

IMG_3062
ไม่ใช่แค่ตัวหนังสือหนาขึ้นนะคะ เส้นไอคอนบนปุ่มคำสั่งยังหนาขึ้นเช่นกัน

 

 

Camera : กล้องและภาพถ่าย

IMG_0192
เรียงฟิลเตอร์ปรับแต่งภาพแบบใหม่

 

Wallpaper : ภาพวอลล์เปเปอร์

IMG_0799
สามารถเปิดปิดเอฟเฟ็คต์ parallax ขณะตั้งค่าภาพวอลล์เปเปอร์

 

Accessibility : คำสั่งใน Accessibility

IMG_0800
ล่าสุดเพิ่มคำสั่ง Reduce White Point ลดจุดขาว ช่วยลดความสว่างลง ซึ่งก่อนหน้านี้มีคำสั่ง Darken Colors และ Rudece Transparency ใน 7.1 beta ก่อนๆ

 

ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก macrumors.com

 

ชมคลิปตัวอย่างจาก iDownloadblog ค่ะ

Flipagram ทำภาพสไลด์โชว์ รวมเด็ดสะเก็ดข่าว บน Instagram

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นเพื่อนๆใน IG ต่างโพสต์คลิปวิดีโอภาพรวมเด็ดสเก็ดข่าว ของตัวเองกันใหญ่ เลยสงสัยว่าทำไงอ่ะ อยากเล่นบ้าง ดีนะที่แอพนี้ตามหาได้ไม่ยาก เนื่องจากมีลายน้ำบอกชื่อแอพอยู่ ซึ่งแอพนั้นก็คือ Flipagram นั่นเอง โดยแอพนี้มีให้ดาวน์โหลดทั้ง iOS และ Android โดยคราวนี้จะขอสาธิตวิธีการใช้งานบน แอนดรอยด์กันบ้าง ซึ่งจะขอใช้ LG G2 ในการแคปเจอร์ภาพนะครับ ส่วนเครื่องยี่ห้ออื่นๆ ก็อาจจะใช้งานคล้ายๆ กัน ลองประยุกต์ใช้กันดูนะครับ

ดาวน์โหลด Flipagram : iOS , Android

 

 

1. เมื่อเปิดแอพขึ้นมาครั้งแรก ให้แตะปุ่ม เริ่ม จากนั้นจะมีตัวเลือกแหล่งเก็บภาพขึ้นมา ถ้าเลือก คลังภาพ หรือ Gallery ก็จะเป็นการเลือกรูปจากในเครื่อง แต่ถ้าเลือก Instagram ก็จะเป็นการเลือกรูปจาก Instagram ของเรา ในที่นี้ผมขอเลือกภาพจาก Instagram นะครับ

Flipagram-01

 

2. ใส่แอคเคาท์ และรหัสผ่านของ Instagram ของเรา จากนั้นก็แตะปุ่ม เข้าสู่ระบบ รอสักครู่ แล้วแตะปุ่ม Authorize

Flipagram-02

 

3. ระบบจะแสดงภาพบน Instagram ทั้งหมดขึ้นมาให้เราแตะเลือก โดยสามารถเลือกได้ทีละหลายๆ รูป เมื่อเลือกครบจนพอใจแล้วให้แตะปุ่มเครื่องหมายถูก จากนั้นรอให้ดาวน์โหลดภาพออกมาสักครู่

Flipagram-03

 

4. จะได้ภาพที่เลือกทั้งหมดเข้ามาอยู่ใน ไทม์ไลน์ โดยเราสามารถจัดเรียงลำดับภาพตามความพอใจก่อนได้ เพียงแตะค้างบนรูปแล้วลากไปวางยังลำดับที่ต้องการ แต่หากต้องการเพิ่มรูปอีก ก็ให้แตะปุ่ม +Add หรือหากต้องการลบ ก็ให้แตะปุ่ม ถังขยะ เมื่อจัดเรียงได้ตามต้องการแล้วให้แตะปุ่มลูกศรชี้ถัดไป

Flipagram-04

 
5. แตะที่ เพลง(หากต้องการ) เพื่อเพิ่มเพลงประกอบคลิปสไลด์โชว์ จากนั้นแตะที่ My Music

Flipagram-05

 
6. แตะเลือกแอพที่จะลองเล่นเพลง อันไหนก็ได้ จากนั้นแตะเลือกเพลงที่ต้องการ

Flipagram-06

 
7. แตะที่ ใส่ชื่อเรื่อง เพื่อเพิ่มไตเติ้ลลงในคลิป จากนั้นแตะเลือกฟอนต์ได้ตามต้องการ

Flipagram-07

 
8. เมื่อใส่เพลงประกอบและไตเติ้ลเรียบร้อยแล้ว ให้แตะที่เครื่องหมายถูก แล้วแตะ ใช่

Flipagram-08

 
9. จากนั้นแตะปุ่ม แชร์ แล้วเลือกแอพที่ต้องการแชร์ได้เลย หากแชร์ไปยัง Instagram แล้วแอพเด้งออก ให้ใช้วิธีการโพสต์วิดีโอโดยตรงจากแอพ Instagram จะดีกว่านะครับ เพราะคลิปวิดีโอ Flipagram ที่เราทำไว้จะถูกเก็บอยู่ใน Gallery เรียบร้อยแล้ว

Flipagram-09

 

เพียงเท่านี้เราก็จะได้คลิปวิดีโอสไลด์โชว์ ไว้โพสต์บน Instagram ได้่ง่ายๆ แล้วล่ะครับ ใครมีภาพสวยๆ ก็โพสต์มาโชว์กันที่ Fanpage OopsMobile กันบ้างนะครับ

 

 

แอปเปิ้ลแจก MV Royal จาก Lorde ยั่วน้ำลาย ในเทศกาล 12 DAYS แจกแอพฟรี เทศกาลปีใหม่นี้

Photo 18-12-56 11 28 28

ช่วงเทศกาลดีๆ อย่างนี้แอปเปิ้ลก็ขอขอบคุณผู้บริโภคกันบ้างไรบ้าง กับเทศกาลแจกของฟรีใน App Store ไม่ว่าจะเป็น แอพ, เพลง, หนัง, อีบุ๊ค หรือคอนเทนต์ต่างบน App Store ที่จะเริ่มแจกตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 56 – 6 มกราคม 57 โดยในแต่ละวันจะีมีของมาแจกให้ดาวน์โหลดกันฟรีๆ แบบวันต่อวัน ดังนั้นภายใน 24 ชั่วโมง ของทั้ง 12 วันนี้ ก็อย่าได้พลาดกันเลยล่ะครับ

 

และเพื่อไม่ให้พลาดจากรายการของแจกในแต่ละวัน ให้รีบไปโหลดแอพ 12 Days of Gifts ที่จะมีแอพต่างๆ รวมถึงคอนเทนต์ที่มาแจกฟรีให้กับคุณๆ ท่านๆ กันอย่างต่อเนื่อง

 

ล่าสุดแอปเปิ้ลเริ่มประเดิมแจกเพลง No Better ซิงเกิ้ลล่าสุด จาก Lorde รวมถึง MV เพลง Royal ที่ใช้เป็นเพลงประกอบโฆษณา Galaxy Note 3 สำหรับแอคเคาท์อเมริกา ออกมายั่วน้ำลายกันก่อนเลย

Photo 18-12-56 11 42 43

 

ตัวอย่าง MV เพลง Royal ที่แจกให้

[youtube link=”http://www.youtube.com/watch?v=LFasFq4GJYM” width=”590″ height=”315″]

 

Download App 12 Days of Gifts ได้ที่นี่ https://itunes.apple.com/app/id777716569

 

ทรูมูฟ เอช เปิดแคมเปญ “หลงรักประเทศไทยกับทรูมูฟ เอช” ผ่าน H TRAVEL ชวนเที่ยวส่งท้ายปี ลุ้นรางวัลที่พักโรงแรมสุดหรูทุกสัปดาห์

For Press 1

 

ทรูมูฟ เอช นำโดย นางรุ่งฟ้า เกียรติพจน์ (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้ช่วยบริหารงานกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้อำนวยการด้านบริหารแบรนด์และบริหารสื่อโฆษณา กลุ่มทรู บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดแคมเปญ “หลงรักประเทศไทยกับทรูมูฟ เอช” ชวนคนไทยถ่ายรูป และแชร์ภาพการท่องเที่ยวสุดประทับใจผ่านแอพพลิเคชั่น H Travel บนเครือข่าย 3G จากทรูมูฟ เอช เร็วแรงเต็มสปีดทุกเส้นทางทั่วไทย ผู้ที่สนใจทุกเครือข่าย สามารถดาวน์โหลด H Travel พร้อมร่วมสนุกสะสมระยะทาง ลุ้นรับรางวัลที่พักโรงแรมสุดหรูทุกสัปดาห์ และรางวัลพิเศษอีกมากมายรวมมูลค่าทั้งสิ้น 700,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2557

 

ทั้งนี้ พนักงานของทรูมูฟ เอช ได้ร่วมจัดทำ QR Code ฟางยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนพื้นที่ 1 ไร่ ณ ฟาร์มโชคชัย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อเชิญชวนให้โหลดแอพพลิเคชั่น H TRAVEL ที่เป็นมากกว่าไกด์ส่วนตัว พาท่องเที่ยว 77 จังหวัด ทั้งสถานที่กิน เที่ยว ที่พัก ช้อป พร้อมสายด่วน เบอร์โทรฉุกเฉิน ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น H TRAVEL ได้จาก App Store หรือ Google Play ลงทะเบียนร่วมสนุกในแคมเปญ “หลงรักเมืองไทยกับทรูมูฟ เอช” ได้ที่ http://www.truemove-h.com/htravel
 
For Press 3

Buzzebees แอพโซเซียล พรีวิเลจ เพลตฟอร์ม ต้นแบบความสำเร็จของบริษัท Start up ที่หันมาเลือกใช้ คลาวด์ เซอร์วิสจาก Windows Azure

Microsoft Thailand and Buzzebees

วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ได้รับข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเรื่องของ Cloud Service ซึ่งทางไมโครซอฟต์ประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวกลุ่มย่อยให้กับสื่อมวลชนได้รู้จักกับ Windows Azure มากยิ่งขึ้น ซึ่งในงานนี้ก็ได้นางเอกจาก Buzzebees (บัซซี่บีส์) แอพพลิเคชั่นสะสมแต้มแลกของรางวัลจากการคลิกไลค์บน Facebook ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วที่มีผู้ใช้งานกว่า 2 ล้านคน ภายในเวลา 1 ปี ที่นำทีมโดยคุณณัฐธิดา สงวนศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด มาแชร์ประสบการณ์ถึงเส้นทางความสำเร็จในครั้งนี้อีกด้วย

 

Buzzebees คืออะไร?
จากที่เกริ่นไว้แล้ว ว่าแอพ Buzzebees คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับแอพตัวนี้ให้มากขึ้นอีกนิด โดยเจ้าแอพตัวนี้เป็นการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดีย รอยัลตี้โปรแกรม และอีคอมเมิร์ช เข้าด้วยกัน ด้วยแนวคิดที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ Facebook ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้เข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านแอพ Buzzebees ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ แชร์ข้อความ รูปภาพ กด Like หรือแสดงความคิดเห็น รวมถึงการชวนเพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยผู้ใช้จะได้รับคะแนนเป็นการตอบแทน หลังจากนั้นจะสามารถนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า หรือใช้บริการ รวมถึงลุ้นรับของรางวัลได้ฟรีจากธุรกิจที่เข้าร่วม โดยรองรับทั้ง Android และ iOS หรือจะเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ www.buzzebees.com ก็ได้ ส่วนแอพบน Windows Phone จะเปิดให้บริการประมาณ ต้นปีหน้า

buzzebees

นอกจากที่จะทำแอพของตัวเองด้วยแล้ว Buzzebees ยังได้รับทำแอพให้กับองค์กรต่างๆ อีกด้วย โดยใช้แพลตฟอร์มของแอพตัวเองเป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็น AIS Privilege, Samsung Galaxy Gift, Galaxy Social Plus, Kimheng Gold และล่าสุดอย่าง SingTel จากสิงคโปร์ก็หันมาใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเพิ่มมูลค่าให้บริการของธุรกิจตัวเองอีกด้วย

 

เส้นทางสู่ความสำเร็จ

Nattida Sanguansin - Buzzebees. Co. Ltd.
คุณณัฐธิดา เล่าให้ฟังว่า จากที่เริ่มทำแอพ Buzzebees ที่เป็นแพลตฟอร์มต้นแบบของโซเีชียล พริวิเลจ เราได้ตั้งเป้าหมายแต่แรกว่าจะต้องก้าวไปยังต่างประเทศให้ได้ ดังนั้นจึงต้องหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกให้ได้ โดยเราได้ลองเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นนี้ให้กับทาง Samsung ซึ่งถือเป็นจังหวะที่พอดีมากที่ทางซัมซุงกำลังอยากทำแคมเปญมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าพอดี เราจึงได้มีโอกาสร่วมงานกับทางซัมซุงโดยรับทำแอพ Samsung Galaxy Gift ที่มีแคมเปญให้ลูกค้าซัมซุงจองตัวคู่กรรมผ่านแอพได้ฟรี ทำให้ขณะนั้นมีคนจองตั๋วเข้ามากว่า 20,000 คน ภายใน 1 วินาที ซึ่งถือว่ามี Hit Rate ที่สูงมาก ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จมากๆ เลยทีเดียว

 

ซึ่งการจะทำให้ระบบรองรับการใช้งานสูงๆ ในเวลาเดียวกันได้นั้นจะต้องมีระบบที่มีเสถียรภาพมาก โดยเราเลือกใช้ระบบ Cloud Service ของ Microsoft Windows Azure ซึ่งช่วยในการประหยัดต้นทุนโดยที่จะไม่ต้องลงทุนระบบ Server หรือโครงสร้างพื้นฐา่นด้านไอทีเองทั้งหมด ซึ่งถือเป็นทางออกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ Start Up ต่างๆ ที่กำลังเติบโตอยู่ในขณะนี้

 

หากถามว่าทำไมถึงเลือกใช้บริการคลาวด์เซอร์วิสจาก Windows Azure ต้องบอกว่าเรามองถึงการขยายตลาดในต่างประเทศเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงเหลือผู้ให้บริการเพียง 2 เจ้า คือ Microsoft Windows Azure และ Amazon Web Service ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบความต้องการทางเทคนิคที่เหมือนกัน ปริมาณโหลดเท่ากัน และความง่ายในการใช้งาน Windows Azure นั้นใช้งานได้ง่ายกว่า ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญ การเลือกเป็นไลเซ่นส์ Enterprise Agreement (EA) นั้นมีความคุ้มค่ามาก ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ตัดสินใจได้ทันที

 

อนาคตจะเป็นอย่างไร?
Buzzebees ยังมีแผนที่จะขยายไปยังกลุ่มผู้ใช้ในโซเชียลมีเดียแำพลตฟอร์มอื่นๆ และการเติบโตของตลาดภายในประเทศ ทั้งจำนวนสมาชิก จำนวนธุรกิจที่จะใช้บริการ Privilege CRM Application และจำนวนธุรกิจที่จะเข้ามาร่วมในส่วน E-Commerce ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมากจากตลาดต่างประเทศ

 

นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดเป็นแอพ adBuzz เืพื่อนำยอดสมาชิกกว่า 2 ล้านคน มาต่อยอดทางธุรกิจ โดยเฉพาะในวงการสื่อและโฆษณา ซึ่งประยุกต์หลักการคล้ายๆ กัน คือสมาชิกที่ชมโฆษณา จะได้คะแนนสะสมเพื่อแลกของรางงวัล หรือรับสินค้าตัวอย่าง ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้ว

 

สรุปข้อมูลที่น่าสนใจของ Windows Azure ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2553

 

• ในแต่ละวัน มีลูกค้ากว่า 1,000 ราย ลงทะเบียนใช้งาน Windows Azure
• ปัจจุบัน มีลูกค้ากว่า 200,000 ราย ใช้ Windows Azure
• สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก Windows Azure (ซึ่งรวม IaaS บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure as a Service) และ PaaS (บริการด้านแพลตฟอร์ม Platform as a Service) เติบโตถึง 3 เท่า ซึ่งเร็วกว่าอัตราการเติบโตของตลาดโดยรวม
• ไอดีซี ได้คาดการณ์ตัวเลขการใช้บริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในปี 2556 ไว้ที่ 5,300 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2560
• คาดว่าธุรกิจ IaaS (Infrastructure as a service) และ PaaS (Platform as a service) จะเติบโต 25 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2560 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น)
• สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันมีลูกค้าที่หันมาใช้บริการ Windows Azure แล้ว 800 ราย โดยมีรายได้เติบโตสูงถึง 400 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ธุรกิจในประเทศไทยที่ใช้ Windows Azure อาทิ
บริษัท อุ๊คบี จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจสิ่งพิมพ์ดิจิตอลบนโปรแกรมที่ชื่อ อุ๊คบี (Ookbee) บนระบบคลาวด์ วินโดว์ อาชัวร์ จนเติบโตเป็นร้าน E-bookstore ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท Semantic Touch ผู้ให้บริการด้านเครื่องมือการทำตลาดด้าน อี-คอมเมิร์ซ บนโซเชียล เน๊ตเวิร์ค อย่าง เฟซบุ๊ค ที่ชื่อ BentoWeb
บริษัท Computerlogy สตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการ Social Media Management Tool ซึ่งเป็นบริษัทรายแรกและรายเดียวในเมืองไทยที่เป็น Facebook Preferred Marketing Developer ปัจจุบัน Computerlogy ได้ประกาศเข้าร่วมทุนและได้รับการสนับสนุน จากโครงการ InVent ของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTOUCH อย่างเป็นทางการในวงเงิน 29 ล้านบาท
บริษัท บิลค์ ดอทคอม (Builk.com) ดำเนินธุรกิจให้บริการระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) บนเว็บเบสที่ใช้งานง่าย สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยถึงขนาดกลาง เพื่อให้ลูกค้าใช้งานแอ็พพลิเคชั่นของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วและเข้าใจง่าย
บริษัท Ecartstudio จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้คำปรึกษาทางด้านระบบ Web-Based Application และระบบ Enterprise Location-Based Application แบบครบวงจร
เว็บไซต์ Thaicreate.com ชุมชนออนไลน์ของนักพัฒนาแอพลิเคชั่นที่ใหญ่ที่สุดในไทย

สร้างป้ายตามกระแสพร้อมรับมุขทุกสถานการณ์

head-banner-app

ช่วงนี้มีกระแสข่าวการเมืองเกี่ยวกับการคัดค้าน พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ออกมาเต็มโลกโซเชียลกันไปหมด โดยเฉพาะการเปลี่ยนภาพโปรไฟล์เป็นป้าย คัดค้าน…  ทั้งแนวจริงจัง และแนวฮาๆ ขำๆ อยากรู้ใช่มั้ยละครับว่าเค้าทำเป็นกันยังไง วันนี้เราได้รวบรวมแอพพลิเคชั่นสำหรับการสร้างป้ายตามกระแสมาให้ทุกท่านได้ลองไปสร้างสรรค์กัน

 

เว็บแอพฯ สร้างป้ายคัดค้านในแบบของคุณ

IMG_7776  IMG_7777

เว็บไซต์ http://against.splendith.com/ วินาทีนี้คงหนีไม่พ้นกับเว็บแอพที่ดังเพียงข้ามคืนตัวนี้ ซึ่งให้เราสามารถสร้างป้ายคัดค้านในสไตล์คำพูดของตัวเองได้อย่างง่ายๆ โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ก็สามารถทำป้ายที่เราต้องการได้ทันที แถมยังเปลี่ยนสีพื้นหลัง หรือสีตัวอักษร ปรับขนาดตัวอักษรเล็กใหญ่ได้ตามต้องการ หรือเพิ่มบรรทัดก็ทำได้ เสร็จแล้วก็กดปุ่ม Download PNG เพื่อนำรูปไปโพสต์สู่ Facebook หรือโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ได้ทันที รองรับการใช้งา่นบนมือถือทุกแพลทฟอร์ม โดยเข้าผ่าน Browser เช่น Chrome, Safari, Internet เป็นต้น

 

แอพนี้สร้างสรรค์โดย  “น้องบุ๊ค” คุณัช ฉัตรมงคลพร นศ.วิศวะ คอมพิวเตอร์ ม.เกษตร โดยแอพฯ นี้มียอดผู้ใช้งานแตะที่ 20,000 คนแรกในเวลาเพียง 10 กว่าชั่วโมงนับจากเปิดตัวแอพฯ และมีสถิติล่าสุดเฉลี่ยวินาทีละ 7 คน และมีคนออนไลน์พร้อมกันถึง 1,700 คนในเวลาเดียวกัน ตามไปอ่านบทสัมภาษณ์กันได้ที่นี่เลยครับ http://lekasina.blogspot.com/2013/11/blog-post.html?spref=fb ขอบคุณพี่เล็ก Asina Pornwasin ที่เขียนบทสัมภาษณ์เรื่องนี้มาให้ได้อ่านกันครับ

 

ลิงค์สร้างป้าย http://against.splendith.com/

 

MOLOME

molome_logo

แอพอีกตัวนึงที่สามารถสร้างสรรค์ป้ายได้มากกว่าข้อความคงต้องเป็นตัวนี้เลยครับ MOLOME ซึ่งเป็นแอพแชร์รูปคล้ายๆ กับ Instagram โดยภายในจะมี Frames ให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติม คล้ายกับ Sticker ของ Line โดยแตะปุ่มเมนูแล้วเลือก Store จากนั้นที่แท็บ New ให้แตะเลือกเฟรมที่ชื่อว่า Sign แล้วแตะ Download เมื่อดาวน์โหลดเสร็จเรียบร้อยแล้วเวลาจะโพสต์ก็สามารถเลือกรูปภาพของเราที่ต้องการใส่กรอบไว้ในรูปทรงต่างๆ ได้เลย นอกจากนี้ยังมี item น่ารักๆ ไว้ให้แปะหรือ Stamp ตกแต่งเพิ่มเติมในภาพของเราได้อีกด้วย เมื่อตกแต่งเสร็จเรียบร้อยก็แตะเครื่องหมายถูกเพื่อบันทึกภาพเก็บไว้ใน Camera Roll ตัวแอพจะเข้าสู่ขั้นนตอนการแชร์ไปยังแอพต่างๆ

IMG_7770 IMG_7772

IMG_7774 IMG_7778

IMG_7779

 

เนื่องจากเวอร์ชั่นบน iOS ยังไม่สามารถเพิ่มข้อความได้ ดังนั้นจึงต้องใช้แอพอีกตัวช่วย คือแอพ Line Camera เพื่อใส่ข้อความที่ต้องการเพิ่มเติมลงไป เท่านี้ก็จะได้ป้ายส่วนตัวที่มีรูปหน้าของเรา หรือรูปภาพเก๋ๆ ที่ต้องการในแบบไม่ซ้ำใคร

IMG_7783
เพิ่มข้อความด้วยแอพ Line Camera

 

แต่สำหรับ Android จะมีฟังก์ชั่นเพิ่มข้อความลงในรูปภาพได้เลย เรียกว่าทำบนแอพตัวเดียวจบเลย แถมได้ป้ายเก๋กว่าใคร ลองดูการใช้งานได้ที่ http://droidsans.com/molome-anti-amnesty-sign-maker

tempFileForShare
Molome บน Android เพิ่มข้อความได้ในตัว

iOS ดาวน์โหลดที่นี่
Android ดาวน์โหลดที่นี่

ลองเล่นกันดูนะครับ ใครสร้างป้ายเก๋ๆ ก็อย่าลืมแชร์มาให้ดูกันบ้างนะครับ

 

Source : blogเก็บข่าวมาเล่า, droidsans