สร้างสติกเกอร์ไลน์ เป็นของตัวเองได้ฟรีๆ ด้วยแอพ Line Selfie Sticker

 

Line มีของเล่นใหม่มาให้ลองกันอีกแล้ว โดยเป็นครั้งแรกที่เราสามารถสร้างสติกเกอร์เป็นของตัวเองไว้ใช้งานได้ ที่สำคัญฟรี และทำได้ง่ายๆ แค่ชอบถ่าย Selfie
ดาวน์โหลด : iOS

 

อ่อ ก่อนอื่นขอบอกว่า Line Selfie Sticker มีให้โหลดได้เฉพาะบน iPhone เท่านั้นนะครับ สำหรับ Android ยังไม่มีในตอนนี้ เมื่อเปิดขึ้นมาครั้งแรก ให้แตะปุ่ม Start

Line-selfie-sticker-01

 

จากนั้นจะมีรูปตัวการ์ตูนต้นแบบที่จะใช้เป็นสติกเกอร์ขึ้นมาให้เลือก 17 แบบด้วยกัน ให้แตะเลือกแบบที่ต้องการได้เลย

 

Line-selfie-sticker-02

 

จากนั้นก็ถ่าย Selfie ใบหน้าของเราเองโดยให้อยู่ภายในกรอบที่กำหนด แล้วแตะปุ่มชัตเตอร์ จากนั้นจะแสดงรูปที่ถ่ายขึ้นมาดังรูปขวา ถ้าถูกใจแล้วก็แตะปุ่ม OK

Line-selfie-sticker-03

 

จะมีภาพตัวอย่างชุดสติกเกอร์ที่มีใบหน้าของเราฝังอยู่ในนั้นให้แตะ OK จากนั้นจะเข้าสู่ Gallery ให้แตะเลือกสติกเกอร์เพื่อแก้ไข บันทึก หรือแชร์ได้

Line-selfie-sticker-04

 

กรณีที่ต้องการแก้ไขก็เพียงแตะบนสติกเกอร์ที่ต้องการ เราก็จะสามารถปรับขนาดใบหน้าให้พอดี และสามารถแก้ไขข้อความได้ด้วย

Line-selfie-sticker-05

 

สามารถส่งสติกเกอร์ไปให้เพื่อในไลน์ได้โดยตรง แต่ยังไม่รองรับการส่งเป็นกลุ่ม และสามารถแชร์ไปยัง Facebook, Twitter, Instagram และโซเชียลอื่นๆได้

Line-selfie-sticker-06

 

 

เทคนิคการทำให้สติกเกอร์ของเราให้น่าสนใจ และสนุกยิ่งขึ้น คือการแอคชั่นหน้าแปลกๆ เข้าไว้ ตามตัวอย่างที่แนะนำ

IMG_0195

 

Line-selfie-sticker-07

 

เพื่อนๆ ลองทำสติกเกอร์ไลน์เป็นของตัวเองกันดูนะครับ ของใครฮาๆ เก๋ๆ สวยๆ ก็ส่งมาให้ดูกันบ้างนะครับ

 

Kairos นาฬิกาอัจฉริยะ Mechanical Smart Watch Hybrid รองรับทั้ง iOS, Android และ Windows Phone

 

watch_large_noReflection_msw_black_05

 

ไม่ลงไม่รอมันแล้วนะ iWatch ที่ลือกันอยู่นั่นแหละ… ก็ในเมื่อมีผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะอย่าง Kairos ที่นำระบบนาฬิกาแบบแมคานิค (แบบเข็ม) มารวมกับ Smart Watch เข้าไว้ด้วยกัน จนกลายเป็นนาฬิกาอัจฉริยะลูกผสม หรือ Hybrid ซึ่งจะออกมาให้เราได้สัมผัสจริงในอีกไม่นานนี้

 

ความสามารถของเจ้า Kairos เรือนนี้ นอกจากจะเป็นนาฬิกาแบบเข็มสุดหรูแล้ว มันยังมาพร้อมหน้าปัดแสดงผล แบบโปร่งใส่ Transparent OLED (TOLED) ซึ่งเวลามีการแจ้งเตือนต่างๆ เข้ามาก็จะแสดงผลบนหน้าจอ ให้เห็นซ้อนบนหน้าปัดนาฬิกาขึ้นมาอย่างชัดเจน โดยสามารถแจ้งเตือนสายเข้า, อีเมล์, Line, Twitter, Facebook ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เปิด-ปิดเพลงบนมือถือ, แสดงข้อมูลฟิตเนส, เป็นนาฬิกาจับเวลาดิจิตอล และ มี GPS ไว้เทียบตำแหน่งเพื่อระบุเวลาได้ทั่วโลก

watch_large_noReflection_ssw_black_03 watch_large_noReflection_ssw_chrome_05

 

watch_large_noReflection_ssw_gold_01 watch_large_noReflection_msw_chrome_05

 

Kairos มาพร้อม 2 โมเดลให้เลือกระหว่าง MSW 115 ที่มาพร้อมระบบกลไกขับเคลื่อน Miyota Japanese Movement ส่วนรุ่น SSW 158 จะขับเคลื่อนด้วยกลไล SWISS Movement จาก SOPROD ที่มีชื่อเสียงที่น่าเชื่อถือ โดยทั้ง 2 รุ่น เป็นตัวเรือนแบบสเแตนเลสสตีล ใช้สายหนัง และหน้าปัดเป็นคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน

watch_large_noReflection_msw_all
MSW 115 Model

 

SSW 158
SSW 158

 

จุดเด่นอีกอย่างของ Kairos ก็คือแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับการทำงานของระบบ Smart Watch ได้นาน 5-7 วัน (รองรับส่วนของนาฬิกาแมคานิคได้ 42 ชั่งโมง) โดยให้แบตเตอรี่มาในตัว 180 mAh ชาร์จผ่านคอนเน็คเตอร์แบบแม่เหล็กด้วยสาย USB ซึ่งเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานก็เพราะว่าไม่ต้องใช้หน้าจอในการแสดงผลนาฬิกาเหมือน Smart Watch รุ่นอื่นๆ ดังนั้นมันจะใช้พลังงานจากแบตฯ ก็ต่อเมื่อมีการแสดงผลบนหน้าจอจากการแจ้งเตือนต่างๆ เท่านั้น

watch_large_noReflection_msw_chrome_02

 

สำหรับหน่วยประมวลผลก็มาพร้อม Arm Cortex M4 หรือ Intel (มี 2 รุ่นให้เลือก) ส่วนระบบปฏิบัติการก็จะมี Android Wear OS กับที่เป็นออปชั่นคือใช้ระบบปฏิบัติการ Kairos OS (ใช้ได้กับ IOS, Android และ Windows Phone) พร้อมด้วยเซนเซอร์ Touch sensor, 3 axis accelerometer และ Gyroscope

 

[youtube link=”http://youtu.be/ndycU_dUHNQ” width=”590″ height=”315″]

 

ในขณะนี้ นาฬิกา Kairos กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต ซึ่งจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ และเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วผ่านหน้าเว็บไซต์ Kairoswatches ทั้งนี้ยังมีบริการให้อัพเกรดรุ่นใหม่ได้อีกด้วย โดยเสียค่าบริการเพียง $99 เหรียญเป็นอย่างต่ำ

 

นาฬิกา Kairos สนนราคาเริ่มต้นที่ $499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16,000 บาท จนถึง $1,199 ประมาณ 38,900 บาท

 

Source : gizmag

 

Tikko “ตอบคำถาม สะสมแต้ม แลกของ” โหลดที่ iOS และ Android

 

TikkoApp

 

เปลี่ยนรูปแแบบการทำแบบสอบถามแบบเดิมๆ ที่น่าเบื่อ และไร้ซึ่งผลที่แม่นยำ ด้วยแอพ Tikko แอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้การทำแบบสอบถามง่ายและสนุกขึ้นเยอะ

 

โดยผู้ใช้ iOS หรือ Android สามารถดาวน์โหลดแอพ Tikko จากนั้นก็ลงทะเบียนเพื่อตอบแบบสอบถามง่ายๆ โดยผู้ตอบจะสามารถเก็บแต้มและนำไปแลกของรางวัลต่างๆ ได้ เช่น บัตรเติมเงินมือถือ ตั๋วหนัง เป็นต้น ไม่ใช่แค่ได้ลูกอม 1 เม็ด หรือปากกา 1 แท่ง เหมือนการกรอกแบบสอบถามทั่วไป

 

และมากกว่านั้น Tikko มีกิจกรรมทุกสัปดาห์ให้ร่วมสนุก เช่น ร่วมลุ้นรับบัตร Starbucks Gift Card หรือร่วมลุ้นรับตั๋วหนังจาก Major เพียงด้วยวิธีการง่ายๆ ไม่ใช้เวลาเยอะ

 

สำหรับแอพ Tikko นั้นถือเป็นตัวกลางของบริษัทต่างๆ ที่ต้องการทำแบบสอบถามเกี่ยวกับผู้บริโภคและนำมาปรับปรุงสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางตรงที่เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

 

สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ลอง Download Tikko มาเล่นดูได้ตาม Link นี้เลยครับ

App Store : bit.ly/1guMoIr
Google Play : bit.ly/1k8nd9q

 

ป.ล. หาข้อมูลเพิ่มเติมของ Tikko ได้ที่ www.tikkoapp.com หรือติดตามข้อมูลข่าวสารต่างๆที่ www.facebook.com/tikkoapp

 

 

ภาพหลุด ฝาหลังชิ้นล่าสุดของ iPhone 6

 

back-cover

 

พบภาพหลุดออกมาเรื่อยๆ ของ iPhone 6 โดยล่าสุดเว็บบล็อคในออสเตรเลีย Macfixit ได้เผยภาพชิ้นส่วนฝาหลังของ iPhone 6 ที่อ้างว่าได้มาจากโรงงานผลิตชิ้นส่วนให้แอปเปิ้ล โดยมีขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ตรงตามกระแสข่าวลือที่ผ่านมา ส่วนขนาด 5.5 นิ้ว ยังไม่พบภาพหลุดของชิ้นส่วนใดออกมา

 

อย่างไรก็ตามชิ้นส่วนดังกล่าว ก็ดูเหมือนจะเป็นไปได้เพราะค่อนข้างตรงกับภาพหลุดของตัวดัมมี่ iPhone 6 ที่ออกมาก่อนหน้านี้เช่นกัน สำหรับ iPhone 6 หรือ iPhone รุ่นใหม่นี้ คาดว่าจะเปิดตัวในเดือนกันยายนของปีนี้ และจะต้องมาพร้อมระบบปฏิบัติการ iOS8 ที่กำลังจะเปิดตัวในงาน WWDC 2014 ต้นสัปดาห์หน้านี้

 

gold-9to5 goldfront

ภาพหลุดตัวดัมมี่ของ iPhone 6

 

สำหรับตัววัสดุนั้น ดูจากภาพแล้ว สังเกตตรงช่องเลนส์กล้อง น่าจะเห็นเป็นโลหะสีเงิน ส่วนตัวขอบด้านข้างจะโค้งมน ดูบางขึ้น คล้ายกับ iPod Touch ซึ่งถ้าได้อย่างนี้จริงๆ ขอบอกว่าเลิฟเลยๆ

 

Source : 9 to 5 mac

 

LG เปิดตัว Lifeband Touch บันทึกทุกกิจกรรมสำหรับคนรักสุขภาพ รองรับทั้ง iOS และ Android

 

LG-LifeBand-Fitness-Tracker

 

ได้เวลา LG เปิดตัวอุปกรณ์ Wearable มาแข่งกับเค้าแล้วนะ กับ LG Lifeband Touch อุปกรณ์สวมใส่ที่ข้อมือเพื่อเก็บบันทึกกิจกรรมต่างๆ ของเราไว้เป็นสถิติการเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละวัน

 

LG Lifeband Touch จะเป็นผู้ตามติดกิจกรรม Fitness ของเรา โดยมันสามารถแสดงระดับความเร็วในการวิ่ง, ระยะทางที่วิ่ง และจำนวนก้าวเดินทั้งหมด โดยภายในจะมาพร้อมเซนเซอร์วัดระดับความสูง และไจโรสโคป โดยสามารถซิงค์ข้อมูลต่างๆ ไปยังสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่น Fitness ต่างๆ ได้ ที่สำคัญมันสามารถรองรับได้ทั้ง iOS และ Android โดยไม่ผูกกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เหมือนซัมซุง

[youtube link=”http://youtu.be/UVb7WEsAR7c” width=”590″ height=”315″]

 

ในส่วนของการใช้ควบคุม สามารถแจ้งเตือนสายเข้าหรือมี SMS เข้ามา และควบคุมการเล่นเพลงบนสมาร์ทโฟนได้โดยตรง

 

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกตัวที่ออกมาพร้อมกันคือ Heart Rate Monitor Earphones ที่เป็นหูฟังซึ่งมาพร้อมระบบวัดอัตราการเต้นหัวใจในตัว โดยสามารถซิงค์ข้อมูลผ่านบลูทูธไปยังสมาร์ทโฟนหรือ Lifeband Touch โดยอัตโนมัติได้อีกด้วย ฟังเพลงไปด้วยก็สามารถรู้ระดับ Heart Rate ของเราไปด้วยระหว่างเวลาที่ออกกำลังกาย

fr74-medium01

 

HRM---display

และ LG ยังได้เตรียมแอพ LG Fitness ไว้รองรับการใช้งานโดยเฉพาะอีกด้วย โหลดฟรีทั้ง Android และ iOS อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับแอพฟิตเนสยอดนิยมอื่นๆ อย่าง MyFitnessPal®, RunKeeper® และอีกมากมาย

FB84---COMPATIBILITY

LG Lifeband Touch มาพร้อมหน้าจอ OLED ระบบสัมผัส และมี GPS ในตัว สนนราคา $149.99 เหรียญ วางจำหน่ายแล้วในสหรัฐ ส่วนประเทศอื่นๆ ยังไม่มีรายละเอียด

 

Heart Rate Monitor Earphone สนนราคา $179.99 เหรียญ

 

Source : LG

 

Swarm แอพใหม่จาก Foursquare ค้นหาเพื่อนที่อยู่ใกล้ พร้อมแชต หรือโทรหาได้ทันที

 

Swarm_05
หากเป็นเมื่อปีสองปีก่อนหน้านี้ Foursquare ถือเป็นแอพเช็คอินตัวแรกๆ ที่คนไทยนิยมใช้งานกัน จนมีหลายร้านค้านำไปใช้ทำกิจกรรมเพื่อแลกส่วนลดต่างๆ ล่าสุดเมื่อวานนี้ 15 พ.ค. Foursquare ได้ออกแอพน้องใหม่ที่ชื่อว่า Swarm ซึ่งถือเป็นแอพลูก ที่มาช่วยเสริมแอพหลักให้มีลูกเล่นการใช้งานเพิ่มขึ้น ซึ่งมีความสามารถอะไรน่าสนใจบ้างไปดูกัน

 
สามารถค้นหาเพื่อนที่อยู่ใกล้เคียงในระยะ 150 เมตรได้
Swarm_01

 

สามารถโทรหาเพื่อน ส่งข้อความ หรือแชตไปยัง Facebook Messenger ของเพื่อนที่อยู่ในลิสต์ใกล้เคียงได้เลย

Swarm_02

 

เช็คอิน โพสต์รูป โพสต์สถานะ ได้สะดวกขึ้นแถมตัวอักษรที่ใหญ่สะใจ และสามารถเพิ่มไอคอนตามความรู้สึกหรือกิจกรรมที่เราต้องการได้

Swarm_03

 

สามารถโพสต์สถานะเพื่อบอกว่าจะไปไหนในอนาคต และสามารถดูได้ว่าเพื่อนๆ ของเรากำลังจะมีแพลนไปไหนกัน เผื่อว่าเราจะตามไป Hangout ด้วยคน

Swarm_04

 

เรียกว่าก็เป็นอีกหนึ่งแอพที่ทำให้การค้นหาเพื่อนในระยะใกล้เคียง ทำได้ง่ายขึ้น แถมยังสามารถติดต่อโทรหาหรือแชตถึงกันได้ทันที ยังไงก็ลองไปเล่นกันดูนะครับ โหลดได้ทั้ง iOS และ Android ว่าแต่จะเหลือใครเล่น Foursquare ในบ้านเราสักกี่คนนะ อิอิ

 

อะโดบีเปิดตัวแอพใหม่สุดล้ำ “Adobe Voice” รองรับ “การสร้างสรรค์เรื่องราว” บน iPad

 

Adobe Voice - Theme Picker Adobe Voice - Icons

 

อะโดบี (Nasdaq:ADBE) เปิดตัว Adobe Voice แอพวิดีโอภาพเคลื่อนไหวสำหรับ iPad ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถสร้างสรรค์และแบ่งปันวิดีโอบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ Adobe Voice ช่วยให้ผู้คนสามารถแจ้งข้อมูล เชิญชวน หรือสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆในการสร้างสรรค์และแบ่งปันวิดีโอ โดยใช้เสียงพูดที่บันทึกไว้ รูปภาพ เพลง รวมถึงกราฟิกและเอฟเฟ็กต์คุณภาพระดับภาพยนตร์ Adobe Voice ออกแบบเป็นพิเศษเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์ผลงานในโลกออนไลน์และโซเชียลเน็ตเวิร์ก โดยไม่จำเป็นต้องมีการถ่ายทำหรือตัดต่อภาพยนตร์ เหมาะสำหรับมืออาชีพด้านครีเอทีฟที่ต้องการดำเนินโครงการต้นแบบ (project prototyping) หรือองค์กรการกุศลที่ต้องการรณรงค์โครงการเพื่อสาธารณะประโยชน์ หรือผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อยที่ต้องการติดต่อกับลูกค้า หรือนักศึกษาที่ต้องการจัดทำรายงานแบบอินเทอร์แอคทีฟที่น่าสนใจ ผู้ใช้จะสามารถแชร์วิดีโอภาพเคลื่อนไหวผ่านทางโซเชียลมีเดีย อีเมล บล็อกส่วนตัว และเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยการโพสต์ลิงค์เพียงรายการเดียว และสามารถเรียกดูได้บนทุกอุปกรณ์

 
Adobe Voice เปิดให้ใช้งานฟรีผ่านทาง App Store และใช้บริการ Adobe Creative Cloud เพื่อนำเสนอประสบการณ์แอพ iPad ที่แปลกใหม่อย่างแท้จริง
Adobe Voice เพิ่มชีวิตชีวาให้กับรูปแบบการนำเสนอพรีเซนเทชั่น ด้วยการเพิ่มเติมเสียงพูดและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำของอะโดบี แอพใหม่นี้ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับประสบการณ์โมบายล์ โดยมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย พร้อมเทคโนโลยีการผลิตระดับมืออาชีพ ซึ่งช่วยสร้างสรรค์วิดีโอสนุกๆ ที่คมชัด สวยงาม และน่าประทับใจ เหมาะสำหรับทุกคน คุณสมบัติสำคัญๆ มีดังนี้:

 

Adobe Voice - Story Starter
เรื่องเล่าเบื้องต้นและวิดีโอตัวอย่าง: ซึ่งจะเสริมสร้างประสบการณ์ให้แก่ผู้ใช้ด้วยวิดีโอที่สร้างแรงบันดาลใจจากชุมชมผู้ใช้ พร้อมด้วย “วงล้อ” สำหรับไอเดียเรื่องเล่า (wheel of story ideas) ซึ่งจะช่วยพัฒนาโครงสร้างของเรื่องราวที่มีความหมายตั้งแต่คลิกแรก
กราฟิกสวยงาม: ซึ่งผู้ใช้สามารถใส่เพิ่มเติมลงในผลงาน มีให้เลือกใช้ได้มากมาย ทั้งไอคอนกว่า 25,000 รายการในไลบรารี รูปภาพหลายล้านรูปจากเว็บ หรือภาพถ่ายของผู้ใช้
เอนจิ้นกราฟิกที่ก้าวล้ำ: ภายใต้แรงบันดาลใจจากเครื่องมือ After Effects ของอะโดบี รองรับการใช้กราฟิกระดับภาพยนตร์สำหรับเรื่องราวของคุณในแบบเรียลไทม์ รวมไปถึงการทำภาพเบลอ ภาพ 3 มิติ แสง-เงา และเอฟเฟ็กต์ระดับมืออาชีพอีกมากมาย
ชุดรูปแบบภาพเคลื่อนไหว: ออกแบบเป็นพิเศษสำหรับเรื่องราวทุกประเภทที่สามารถใช้เอฟเฟ็กต์ภาพเคลื่อนไหวอย่างยืดหยุ่น เพื่อให้คอนเทนต์มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ตั้งแต่สไตล์การวาดแบบกระดานดำ ไปจนถึงภาพวาดสีน้ำแบบเคลื่อนไหว ซึ่งทำให้ดูเหมือนว่าคุณกำลังวาดภาพสีน้ำบนหน้าจอ ด้วยการแตะหน้าจอเพียงครั้งเดียว คุณจะสามารถเลือกสิ่งที่ต้องการ เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้กับวิดีโอของคุณ
เสียงดนตรีที่มีให้เลือกมากมาย: ช่วยเติมเต็มอารมณ์ความรู้สึกสำหรับข้อความที่คุณต้องการสื่อ โดยจะมีการปรับแต่งเสียงอัตโนมัติให้สอดรับกับเสียงพูดที่บันทึกไว้ด้วย Adobe Voice จนใกล้เคียงกับผลงานจากห้องอัดเสียงระดับมืออาชีพ
หน้ารายชื่อผู้จัดทำและผู้มีส่วนร่วม ซึ่งจะถูกใส่ไว้โดยอัตโนมัติที่ส่วนท้ายของทุกวิดีโอ เพื่อให้แน่ใจว่ามีการระบุชื่อเจ้าของผลงานไอคอน Creative Commons หรือรูปภาพทั้งหมดที่ใช้ในวิดีโอ ดังนั้นผู้ใช้จึงไม่ต้องกังวลเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์อีกต่อไป

 
 
คำกล่าวของอะโดบี
วินสตัน เฮนดริกสัน รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์โซลูชั่นครีเอทีฟมีเดียของอะโดบี
• “Adobe Voice นำเสนอเทคโนโลยีเสียงและวิดีโอระดับชั้นนำของ Creative Cloud สู่ผู้ใช้ทั่วไป โดย Creative Cloud ช่วยขยายขอบเขตการสร้างสรรค์นวัตกรรมและดึงดูดผู้ใช้รายใหม่ๆ ให้หันมาใช้เทคโนโลยีของอะโดบีกันมากขึ้น เราเชื่อว่า Adobe Voice และโมบายล์แอพอื่นๆ ที่จะนำออกเผยแพร่ในอีกสองสามเดือนข้างหน้า จะตอกย้ำความมุ่งมั่นและความสำเร็จของเราอย่างต่อเนื่อง”

 
 
คำกล่าวของลูกค้า
เจฟฟ์ ลาร์สัน อาจารย์ที่โรงเรียนมัธยมปลาย Balboa High School ในซานฟรานซิสโก
• “ฟังก์ชั่น Story starter ใน Adobe Voice ช่วยให้นักเรียนของเราสร้างสรรค์เรื่องราวได้ตรงตามวัตถุประสงค์และความตั้งใจ ด้วยกรอบโครงสร้างที่เหมาะสม พร้อมคำแนะนำทีละขั้นตอนสำหรับการบอกเล่าเรื่องราว สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ การได้เห็นนักเรียนทำงานร่วมกันอย่างกระตือรือร้น เพื่อบอกเล่าและแบ่งปันเรื่องราวและแนวคิดต่างๆ ให้แก่คนอื่นๆ ในฐานะอาจารย์ในโรงเรียนที่เน้นหลักสูตรบูรณาการนี้ ผมพบว่านักเรียนสามารถใช้ Adobe Voice ในชั้นเรียนวิชาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ”

 
ลิงค์ที่มีประโยชน์: 
แนะนำ Adobe Voice
ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ Adobe Voice
Adobe Voice สำหรับอาจารย์
Adobe Voice สำหรับผู้ประกอบการ
Adobe Voice สำหรับองค์กรการกุศล
Adobe Creative Cloud

 

การวางจำหน่าย
Adobe Voice เปิดให้ดาวน์โหลดได้ฟรีจาก App Store โดยแอพนี้ต้องใช้ iPad 2 หรือรุ่นใหม่กว่า พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 7 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Adobe Voice ได้ที่ http://getvoice.adobe.com/

 

Flappy Bird กำลังจะกลับมา คราวนี้เล่นได้แบบ Multiplayer อีกด้วย

 

flappy

 

คงจำกันได้ดีกับ เกมยอดฮิตอย่าง Flappy Bird ที่เจ้าของเกมเกิดอาการติสแตกหยุดให้ดาวน์โหลดเกมในขณะที่คนกำลังฮิตกันทั่วโลก แต่ล่าสุดก็มีข่าวออกมาว่าจะกลับมาให้ดาวน์โหลดอีกครั้ง โดยคราวนี้จะมาในรูปแบบของการเล่นได้ทีละหลายคนหรือ Multiplayer

 

Flappy Bird ถือเป็นเกมที่ดูง่ายๆ แต่เวลาเล่นไม่ง่ายอย่างที่คิด ซึ่งก่อนหน้านี้ ที่ใครโหลดทันก็จะนั่งเล่นกับมันจนไม่ต้องทำอะไรกันเลยทีเดียว เพื่อจะทำคะแนนและเอาชนะในแต่ละด่านให้ได้ ที่สำคัญยังมีคนนำ iPhone ที่ติดตั้งเกมนี้ ไปประมูลขายใน eBay จนได้มูลค่าสูงเป็นหลักหมื่นเหรียญสหรัฐมาแล้ว ดังนั้นการกลับมาคราวนี้ก็น่าจับตามมองเหมือนกันว่าจะสร้างกระแสได้ดีแค่ไหน

 

สำหรับ Flappy Bird เวอร์ชั่นใหม่นี้ คาดว่าจะออกมาในราวเดือนสิงหาคมโดยประมาณ

 

Source : TechCrunch

 

Google Maps ปล่อยอัพเดท เวอร์ชั่น 3.0.0 ชี้ชัดช่องจราจรขณะนำทาง ทั้ง iOS และ Android

 

เดี๋ยวนี้พูดเลยว่าเวลาจะออกไปไหน ก็ต้องพึ่ง Google Maps เพื่อวางแผนเดินทางก่อนออกจากบ้าน เพราะมันสามารถนำทางไปสู่จุดหมายในพื้นที่ที่เราไม่คุ้นเคยได้ แต่ก็มีหลายเสียงที่บ่นมาว่า พิกัดไม่ถูกต้องบ้าง หรือแผนที่ดูมั่วๆ ไปบ้าง ล่าสุด Google Map ได้ปล่อยอัพเดทเวอร์ชั่น 3.0.0 ออกมาแล้วโดยมีขนาดไฟล์ 13.4 MB ซึ่งก็เยอะพอสมควร มีการเพิ่มและปรับปรุงหลายส่วนให้ดีขึ้น ไปดูเลยว่ามีอะไรบ้าง

 

ในฟังก์ชั่นนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว ได้เพิ่มการแสดงช่องจราจรขึ้นมาให้สังเกตได้ง่ายขึ้นว่าจะต้องวิ่งเข้าเลนไหนขณะขับขี่ และเพิ่มความเร็วในการคำนวณเส้นทางมากขึ้น พร้อมทั้งแสดงเวลาเดินทาง ระยะทาง และเวลาที่จะไปถึง ในหน้านำทางเดียวกันทั้งหมด
Navigation with Lane Guidance

 

บันทึกแผนที่ไว้ดูแบบออฟไลน์ จริงๆ แล้วเมื่อก่อนฟังก์ชั่นนี้ก็มีอยู่ แต่อาจจะซ่อนไว้ให้ใช้งานยากนิดหนึ่ง แต่ในเวอร์ชั่นนี้เราสามารถค้นหาสถานที่ปลายทางแล้วบันทึกลงในเครื่องเพื่อใช้งานแบบออฟไลน์ เวลาไม่มีอินเทอร์เน็ต หรือเน็ตช้าก็ได้
Offline Maps

 

แสดงตารางเวลาเดินรถโดยสาร ที่รวมเวลาในการเดินเข้าไปด้วย พร้อมโชว์เวลาของรถขบวนถัดไป

Transit Directions

 

กรองการค้นหาสถานที่สำคัญสำหรับร้านอาหาร, บาร์ และโรงแรม ตามคะแนนเรทติ้ง, ราคา, เวลาทำการ ฯลฯ

Local Search Filters

 

หากติดตั้งแอพ Uber จะสามารถแตะเพื่อเข้าสู่แอพ Uber เพื่อเรียกรถ Taxi ได้อีกด้วย (ลองแล้ว ยังไม่เห็นรองรับในกรุงเทพ)

Uber

 

ว่าแล้วก็ไปลองอัพเดทกันดูนะครับ ได้ทั้งผู้ใช้ iOS และ Android ใครลองใช้แล้ว ฟีเจอร์ไหนมีหรือไม่มียังไงก็ แสดงความเห็นกันมาได้นะครับ เท่าที่ผมลองเล่นคร่าว มีหลายฟีเจอร์ที่ยังไม่รองรับในบ้านเราอยู่เหมือนกัน

 

วิธีตั้งค่าให้แสดงเปอร์เซ็นต์แบตเตอรี่ ทั้ง iPhone และ Android

 

show-percent-batt

ทุกครั้งที่เราซื้อสมาร์ทโฟนมาใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Android ก็มักจะงงๆ กับวิธีการเปิดฟังก์ชั่นแสดงเปอร์เซ็นระดับแบตเตอรี่ที่เหลือ เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ลึกลับซับซ้อน ยิ่งมือใหม่หัดใช้ก็ยิ่งมึนกันไปใหญ่ วันนี้เราเลยจะมาบอกเคล็ดลับวิธีการเปิดฟังก์ชั่นเปอร์เซ็นแบตเตอรี่ ทั้ง iPhone และ Android เพื่อจะให้แสดงบนแถบสถานะ ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ว่าตอนนี้เหลือแบตฯ เท่าไรแล้ว

 

iPhone/iPad
สำหรับบน iPhone/iPad รวมถึงอุปกรณ์ iOS ทั้งหลาย ขออ้างอิงที่ระบบปฏิบัติการ iOS 7.1 (ล่าสุดในขณะเขียนบทความ) สามารถเปิดโชว์เปอร์เซ็นแบตเตอรี่ได้ดังนี้

แตะไอคอน Settings > General > Usage

show-percent-batt-iphone-01

 

เลื่อนเปิดสวิตช์ Battery Percentage ให้เป็นสีเขียว เท่านี้เราจก็จะมีเปอร์เซ็นแบตฯ แสดงบนแถบสถานะแล้วล่ะครับ

show-percent-batt-iphone-02

 

Android
ในส่วนของ Android จะขออ้างอิงจากเวอร์ชั่น Android 4.4 Kitkat ซึ่งแต่ละยี่ห้ออาจจะวางตำแหน่งเมนูแตกต่างบ้างเล็กน้อย แต่สามารถประยุกต์ใช้กันได้

 

จากหน้า Apps แตะไอคอน Settings แล้วแตะแท็บ General จากนั้นแตะที่เมนู Battery

show-percent-batt-LG-01

 

แล้วติ๊กถูกที่ Battery percentage on status bar (LG G2 mini) / Show battery percentage (Galaxy Note 3)

show-percent-batt-LG-02
สำหรับ LG

 

show-percent-batt-Note3
สำหรับ Galaxy Note 3

 

เพียงเท่านี้ก็สามารถดูปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่เป็นเปอร์เซ็นได้แล้วล่ะครับ เวลาแบตใกล้หมดจะได้ไม่ต้องกังวลพะวงห่วงแบบไร้จุดหมาย ส่วนพี่น้อง Windows Phone หรือ โนเกีย คงต้องรอกันไปก่อนนะครับเพราะยังไม่สามารถแสดงเปอร์เซ็นแบตฯ ได้บนแถบสถานะ อาจจะต้องใช้แอพแล้วตั้งเป็นไอคอนไทล์ ไว้หน้า Home ไปก่อนนะครับบบ