อินเทลเปิดตัว อินเทล คอร์ เอ็ม โปรเซสเซอร์ สำหรับ Full PC แบบ 2 in 1 และ แท็บเล็ตดีไซน์บางเฉียบที่ไม่ใช้พัดลม

 

intel-core-m

 

อินเทล ผู้นำการผลิตชิปโปรเซสเซอร์สำหรับคอมพิวเตอร์อันดับโลก เปิดตัว อินเทล คอร์ เอ็ม โปรเซสเซอร์ ตัวใหม่ ภายใต้ชื่อโค้ดเนม บรอดเวลล์ วาย (Broadwell Y) ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีสถาปัตยกรรมการผลิตที่เล็กเพียง 14 นาโนเมตรชิ้นแรกของโลกที่มีวางจำหน่ายแล้ว โดยชิปรุ่นใหม่นี้ ถูกออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบบ 2 in 1 และแท็บเล็ต หรือแล็บท้อปที่เน้นดีไซน์บางเฉียบ เนื่องจากตัวซีพียูที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงร้อยละ 50 และใช้ไฟเพียง 4.5 วัตต์ จึงทำให้ลดความร้อนลงถึงร้อยละ 60 เลยทำให้สามารถออกแบบคอมพิวเตอร์ได้บางเบาและไม่ต้องใช้พัดลมในการระบายความร้อน ซึ่งสามารถออกแบบได้บางน้อยกว่า 9 มิลลิเมตรหรือบางกว่าแบตเตอรี่แบบ AAA เลยทีเดียว

 

ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานคอมพิวเตอร์ Intel Core M Processor ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแบบ Full PC ด้วยความเร็วขึ้นถึงร้อยละ 50 และประมวลผลด้านกราฟฟิกได้ดีกว่าถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับ อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ก่อนหน้านี้

Broadwell_Package_Diagonal

 

ดังนั้นด้วยประสิทธิภาพของซีพียูรุ่นใหม่นี้จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ 2 in 1 ออกมามากมายจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Acer, ASUS, Dell, HP และ Lenovo ซึ่งได้เผยตัวต้นแบบในงาน IFA เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีแผนที่จะนำเข้ามาวางจำหน่ายภายในสิ้นปีนี้กว่า 20 รุ่น เช่น Acer Aspire Switch 12 ที่ต่อยอดจากอุปกรณ์ 2 in 1 ด้วยหน้าจอ Full HD ขนาด 12.5 นิ้ว พร้อมด้วยคีย์บอร์ดแม่เหล็กที่มีขาตั้งให้ปรับระดับการใช้งานได้สะดวกสบายถึง 5 ระดับ

Acer Switch 12

 

ASUS Transformer T300 Chi อุปกรณ์แบบ 2 in 1 ที่บางเบาลงกว่าเดิม

ASUS Transormer T300 Chi

ในส่วนของราคาเฉลี่ยของอุปกรณ์แบบ 2 in 1 ณ ตอนนี้จะเริ่มตั้งแต่ 1 หมื่นต้นๆ ไปจนถึง 7 หมื่นบาท และมีแนวโน้มว่าจะถูกลงเรื่อยๆ เมื่อมีการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น

CoreM-inside

 

ทั้งนี้ด้านฝั่ง ซีพียู สำหรับสมาร์ทโฟน หลังจากที่ประสบความสำเร็จจาก ASUS Zenfone และ FonePad ที่ใช้ซีพียูของอินเทลกว่า 10 รุ่น ก็เตรียมพัฒนารุ่นใหม่ออกมาภายในปีหน้า ซึ่งก็จะได้เห็น ซีพียูตระกูลโซเฟีย (SoFIA) 3G Dual Core ที่เน้นกราฟฟิกที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพสูง ใช้แบตได้นานขึ้น และจะมีรุ่น 3G Quad Core ออกมาเพิ่มในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าอีกด้วย นอกจากนี้อินเทลยังเชื่อมั่นในประสิทธิภาพที่สูงกว่า แม้ว่าจะเทียบกับจำนวน Core ของคู่แข่งที่มีมากกว่าก็ตาม ซึ่งมีผลการทดสอบจากหลายสำนักที่เปรียบเทียบแล้ว อินเทลให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า พร้อมกันนี้จะต้องสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องให้กับผู้บริโภค โดยไม่มองเพียงตัวเลขของจำนวน Core ที่มากไว้ก่อน ในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว

Inter-zenfone

 

 

ASUS ZenFone 4 ใหม่ จอ 4.5 นิ้ว เสริมฟีเจอร์กล้อง PixelMaster ต้อนรับวันแม่ราคา 3,990 บ.

 

zenfone5-4.5
 

เอซุส ประกาศเปิดตัว ZenFone 4 รุ่นใหม่ (A450CG) หรือที่เรียกง่ายๆ ว่า ZenFone 4.5 หน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว พร้อมเสริมเทคโนโลยีกล้อง PixelMaster ช่วยให้การถ่ายภาพและบันทึกภาพเคลื่อนไหวทำได้อย่างสวยงามไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบใดก็ตาม ด้วยระบบอินเตอร์เฟซแบบใหม่ ASUS ZenUI ที่มีการพัฒนามากกว่า 1,000 ครั้ง จึงทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ง่ายขึ้นและหลื่นไหลเป็นธรรมชาติ

 

มร. โจอี้ เฉิน ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ต้องขอบคุณแฟนๆเอซุสที่ให้การตอบรับ ZenFone ในตลาดสมาร์ทโฟนบ้านเราเป็นอย่างดีโดยเฉพาะในโลกอินเทอร์เน็ต เราเชื่อว่าเทคโนโลยีที่ดีที่สุดคือเทคโนโลยีที่เข้าถึงผู้ใช้จำนวนมากได้ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีกล้อง PixelMaster ที่รวบรวมลูกเล่นต่างๆมากมายโดยเฉพาะโหมด Low-Light ที่จะช่วยให้ภาพสว่างขึ้นกว่า 400% ดังนั้น ZenFone 4 รุ่นใหม่นี้จะสามารถเติมเต็มความสุขของผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างแน่นอน”

 

ZenFone 4 (A450CG / ZenFone 4.5) ประกอบไปด้วยการออกแบบที่สวยงามพร้อมวัสดุที่มีคุณภาพสูง การันตีโดย Reddot Award 2014 ด้วยหน้าจอขนาด 4.5 นิ้ว จับถือถนัดมือ พร้อมเทคโนโลยี Corning Gorilla Glass 3 สำหรับป้องกันการขีดข่วนและลดรอยนิ้วมือ ทำให้มือถือของคุณทนทานยิ่งขึ้น สามารถตอบสนองการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว รองรับการใช้งาน 3G แบบ 2 ซิม ประมวลผลด้วย Intel Atom Z2520 Processor with Intel Hyper-Threading Technology กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat แรม 1 GB พร้อมหน่วยความจำภายในเครื่อง 8 GB เพิ่มเมม Micro SD ได้สูงสุด 64 GB ฟรีพื้นที่เก็บข้อมูลบน ASUS Webstorage ขนาด 5 GB ตลอดอายุการใช้งาน สำหรับการเก็บภาพ วีดีโอ แอพพลิเคชั่น และอื่นๆ อีกมากมาย

 

ถือเป็นโอกาสอันดีที่คุณลูกจะเลือกสรรสมาร์ทโฟนคุณภาพคับแก้วไว้เป็นของขวัญแทนใจสำหรับคุณแม่อันเป็นที่รัก ด้วยฟีเจอร์กล้องโดนๆอย่าง PixelMaster สำหรับแบ่งปันความรู้สึกดีๆแก่กันและกัน แถมยังมี ASUS ZenUI ที่มาพร้อมลูกเล่นเด็ดๆมากมาย อาทิ Easy Mode ที่จะทำให้คุณแม่สามารถมองเห็นไอคอนในขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างชัดเจน ทั้งหมดนี้ในราคาเพียง 3,990 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) มีด้วยกัน 5 สี ได้แก่ สีดำ สีขาว สีแดง สีเหลือง และสีฟ้า พร้อมวางจำหน่ายเดือนสิงหาคมนี้

 

PixelMaster – การถ่ายภาพให้เหมือนมืออาชีพ ในทุกๆโอกาส

pixelmaster

 

PixelMaster เป็นเทคโนโลยีกล้องถ่ายภาพสุดพิเศษจาก เอซุส ที่จะรวมคุณสมบัติต่างๆมากมาย อาทิ Low-Light Mode, Time Rewind, Selfie Mode และ Depth of Field Mode ที่จะทำให้การถ่ายภาพมีประสิทธิภาพมากขึ้นและทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอที่สวยงามได้อย่างง่ายดาย

 
http://youtu.be/7qW-kkMBnX4
 

Low-light Mode จะเพิ่มประสิทธิภาพของกล้องถ่ายรูปในขณะที่ถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย โดยจะปรับเปลี่ยนขนาดของพิกเซลได้อย่างชาญฉลาด สามารถปรับเพิ่มความสว่างได้ถึง 400% และความคมชัดถึง 200% จึงทำให้ผู้ใช้ได้รูปภาพที่ชัดและสว่างโดยไม่จำเป็นต้องใช้แสงแฟลช นอกจากนี้ Electronic Image Stabilizer (EIS) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการถ่ายภาพในขณะที่มีแสงน้อยโดยจะส่งผลให้ได้ภาพที่คมชัด นอกจากนี้ Low-light Mode ยังสามารถใช้ได้กับการบันทึกภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย

 

การถ่ายภาพเคลื่อนไหวเป็นสิ่งที่ท้าทายเนื่องจากการสั่นสะเทือนของวัตถุ แต่ Time Rewind จะสามารถจับภาพในช่วงเวลาที่สมบูรณ์ได้อย่างง่ายดาย โดยการถ่ายภาพหลายๆ ภาพอย่างอัตโนมัติทำให้โอกาสของการได้รับภาพที่สมบูรณ์มีมากขึ้น ภายหลังจากที่ผู้ใช้ถ่ายภาพเหล่านั้นแล้ว ผู้ใช้สามารถย้อนกลับไปดูภาพเหล่านั้นและเลือกภาพที่ดีสุดได้หรือบันทึกภาพทั้งหมดได้อย่างง่ายดาย

 

Selfie Mode คือนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่จะทำให้สามารถถ่ายภาพตนเอง (Selfies) ได้อย่างมีคุณภาพ ด้วยการใช้กล้องด้านหลังที่มีความละเอียดสูงแทนที่กล้องหน้าในการถ่ายภาพตนเองหรือกับกลุ่มเพื่อนได้ กล้องถ่ายภาพจะตรวจจับจำนวนของคนที่อยู่ในกรอบอย่างอัตโนมัติ และจะเริ่มนับถอยหลังก่อนที่จะถ่ายภาพสามภาพ หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถเลือกภาพที่ดีที่สุดเพื่อที่จะบันทึกหรือแบ่งปันทางออนไลน์

 

Depth of Field Mode จะทำให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพที่โฟกัสได้อย่างคมชัด พร้อมพื้นหลังที่เบลอ ซึ่งการถ่ายภาพเช่นนี้ช่างภาพจะรู้กันเป็นอย่างดีว่า สามารถทำได้กับกล้องถ่ายภาพแบบไฮเอนด์เท่านั้น

 

ASUS ZenUI — ลื่นไหล เป็นธรรมชาติ และสวยงาม

http://youtu.be/gcWFTWQhg18
 
ASUS ZenUl ระบบอินเตอร์เฟซของโทรศัพท์มือถือที่ได้รับการพัฒนาจากแนวคิดของความมีอิสรภาพ พร้อมกับการออกแบบที่มีประสิทธิภาพด้วยไอคอนที่ทันสมัย ธีมสีสดใส ประกอบไปด้วย 2 คุณสมบัติเด่น คือ What’s Next และ Do It Later ที่ได้รับการออกแบบเพื่อให้ผู้ใช้งานจัดการกับข้อมูลที่หลากหลายได้อย่างอิสระ และทำให้ใช้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

What’s Next จะถ่ายทอดข้อมูลปัจจุบันที่สำคัญและเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้ เช่น การนัดหมายที่ใกล้จะมาถึง ข้อความใหม่ รวมถึงสายที่ไม่ได้รับจากผู้ติดต่อคนสำคัญ สภาพอากาศสำหรับจุดหมายปลายทางต่อไป และอื่นๆ อีกมากมาย สังเกตได้ง่าย เช่น หน้าจอข้างหน้าและตรงกลางในขณะที่ล็อค Home Screen และ Notification Drawer

 

Do It Later จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถมุ่งเน้นไปที่งานสำคัญที่จะต้องทำ ถ้าผู้ใช้อยู่ระหว่างการเขียนอีเมลและรับสายโทรเข้า ก็จะมีปุ่มด้านล่างทำการเตือนให้ผู้ใช้โทรกลับสายที่โทรเข้าในภายหลัง ผู้ใช้สามารถบันทึกสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ เช่น บทความ วีดีโอบน YouTube หรือเว็บไซต์อื่นๆ การเตือนหรือการบันทึกแต่ละอันจะได้รับการจัดเก็บไปที่แอพพลิเคชั่น Do It Later ที่ได้รวบรวมทางลัดของสิ่งที่จะต้องทำเข้าไปด้วย เช่น โทรหาผู้ติดต่อหรือเข้าชมเว็บไซต์ต่าง ๆ

 

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.asus.co.thและ www.facebook.com/ASUSTHAILAND,www.twitter.com/ASUSTHAILAND หรือโทรสอบถามที่ เอซุส คอลเซ็นเตอร์ 02-401-1717

 

Source : notebookspec

 

 

เงิบ… เมื่อ ASUS Zenfone 5 จะอัพสเปกขึ้นเป็น 16 GB ในราคาเท่าเดิม

 

asus-zenfone-5-16g

 

จากกระแสความแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ของ ASUS Zenfone 5 ซึ่งตอนนี้ของก็ยังขาดตลาดอย่างต่อเนื่อง และล่าสุดก็มีข่าวแว่วตามโลกออนไลน์ออกมาว่า ทาง ASUS ประเทศไทย กำลังจะนำ Zenfone 5 ล็อตใหม่ล่าสุด ที่มีการปรับขนาดความจุจากเดิม 8 GB เป็น 16 GB แต่ยังขายในราคาเดิม คือ 5,990 บ. งานนี้ใครที่ซื้อไปก่อนคงเงิบไปตามๆ กัน ที่สำคัญอาจจะมีดราม่ายาวมาให้ติดตามกันสินะ อิอิ…

 

ส่วนสเปกอื่นๆ ยังคงเหมือนเดิม ทั้ง ซีพียู Intel สปีด 1.6 GHz (ไม่ใช่ 2.0 GHz เหมือนเครื่องจากไต้หวัน) ส่วนแรมขนาด 2 GB เท่าเดิม

 

ล่าสุดมีข่าววงในบอกมาว่าสาเหตุที่เพิ่มเป็น 16 GB เพราะชดเชยกับการเปลี่ยนไปใช้หน้าจอแบบ Soda-Lime Glass ที่ไม่ค่อยทนทานต่อรอยขีดข่วน จากเดิมที่ใช้หน้าจอแบบ Gorilla Glass ที่ทนรอยขีดข่วนมากกว่าถึง 10 เท่า ฉะนั้นหากเป็นจริงตามนี้ สาวกที่ซื้อก่อนก็น่าจะสบายใจได้นะครับ

 

อัพเดท ข่าวยืนยันจากทาง ASUS ประเทศไทย แล้ว ว่าจะไม่มีการลดสเปกหน้าจออย่างที่เป็นข่าว และยังคงอัพสเปก Rom เป็น 16 GB แล้วขายในราคาเดิมคือ 5,990 บ. ส่วนรุ่นเดิมที่มีขนาด 8 GB ก็จะปรับลดราคาลง ว่าแต่งานนี้ลูกค้าที่ซื้อไปก่อน จะได้รับการเยี่ยวยายังไงละเนี่ย ฝากผู้บริหาร ASUS คิดเรื่องนี้ต่อด้วยนะครับ (ที่มา : mxphone)

 

สเปก ASUS Zenfone 5
• ซีพียู Intel Atom ความเร็ว 1.6GHz 2×2 (Z2560)
• แรม 2 GB
• หน้าจอ Super IPS 5 นิ้ว HD 720p
• รองรับ 3G คลื่น 850/900/1900/2100MHz
• ความจุ 16GB (เดิม 8GB) (เพิ่มการ์ด microSD ได้สูงสุด 64GB)
• กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล F2.0 Pixelmaster
• กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
• Bluetooth 4.0, Wi-Fi Direct, Wi-Fi 802.11 b/g/n, GPS/A-GPS GLONASS
• ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 Jelly Bean พร้อม Zen UI
• รองรับ 2 SIM
• แบตเตอรี่ 2110 mAh

 

ราคา 5,990 บาท

 

Source : Whatphone

 

อินเทลจะให้ทุกวันศุกร์น่ารอคอยกว่าที่เคย ด้วยข้อเสนอพิเศษทุกสัปดาห์

 

Friday with Intel

 

บริษัท อินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับร้านค้ากว่า 40 ร้านทั่วประเทศ มอบความสุขทุกสัปดาห์ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษที่ไม่ซ้ำกัน ภายใต้แคมเปญ “ศุกร์หรรษา” โดยจัดโปรโมชั่นร่วมกับแบรนด์คอมพิวเตอร์ชั้นนำทุกสัปดาห์ ให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสประสบการณ์การ ใช้งานที่เหนือกว่าได้ง่ายยิ่งขึ้น กับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ซีพียูของอินเทล รวมถึงร่วมสนุก ลุ้นรับ เอซุส เซนโฟน 4 (ASUS Zenfone 4) จำนวน 40 รางวัล แท็บเล็ต เอเซอร์ เอ1 (Acer A1) จำนวน 40 รางวัล คอมพิวเตอร์ออลอินวัน (All in One) จำนวน 10 รางวัล และรางวัลใหญ่ รถจักรยานยนต์ คาวาซากิ นินจา 1 คัน รวมมูลค่ากว่า 700,000 บาท โดยสามารถรับสิทธิพิเศษนี้ได้ที่ตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศตั้งแต่วันนี้ – 13 กรกฎาคม 2557 หรือตรวสอบเงื่อนไขการแลกรับของรางวัลและร้านค้าที่เข้าร่วมรายการได้ที่ www.thailand.intel.com/promo

 

เปิดตัว Asus FonePad 7 รุ่นราคาประหยัด แค่ 4 พัน กว่าๆ ก็เอาอยู่

 

fonepad-7

 

Asus เปิดตัวแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว รุ่นใหม่ โดยจับ Asus FonePad 7 มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง ให้มีราคาถูกลงและยังคงใช้ชื่อเดิม แต่รหัสรุ่นเปลี่ยนเป็น FE170CG สำหรับสิ่งที่เป็นจุดเด่นเพิ่มขึ้นมาคือ ดีไซน์ที่บางกว่าเดิม และราคาที่น่าสนใจประมาณ $137 เหรียญ หรือ 4 พันกว่าบาท โดยเปิดตัวที่แรกในประเทศฟิลิปปินส์

 

แน่นอนว่าการที่ทำให้เครื่องถูกลงนั้น ก็จะต้องแลกกับสเปกที่ถูกลดลงไปด้วย โดยหน้าจอจากเดิมที่เป็นระดับ WXGA กลายเป็น WSVGA, ส่วนหน่วยความจำในตัวเครื่องจากเดิม 8 GB ก็เหลือแค่ 4 GB และกล้องจากเดิมก็ไม่ได้มากอยู่แล้ว 5 พิกเซล เหลือเพียง 2 ล้านพิกเซล

 

สำหรับซีพียูมาพร้อม Intel Atom Z2560 1.6GHz, หน้าจอ 7 นิ้ว, แรม 1 GB, แบตเตอรี่ 3,950 mAh รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 Jelly Bean

 

Source : geeky-gadgets

 

อินเทล เร่ง Atom Cherry Trail 14 นาโมเมตร ตัวแรก ลงตลาดสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ปลายปีนี้

 
Intel Mobility Roadshow 2014 (7)
 
เดี๋ยวนี้หากจะซื้อสมาร์ทโฟนสักเครื่อง สิ่งแรกที่ใช้วัดและตัดสินใจในการซื้อก็คือสเปกซีพียูหรือหน่วยประมวลผล เรียกว่าเหมือนกับการซื้อคอมพิวเตอร์ไปเสียแล้ว โดยหน่วยประมวลผลบนสมาร์ทโฟนที่นิยมและเป็นที่รู้จักกันเป็นส่วนใหญ่ก็หนีไม่พ้นค่าย Qualcomm ในชื่อรุ่น Snapdragon หรือจะเป็นของ Samsung ก็จะรู้จักกันในชื่อ Exynos แต่สำหรับอินเทลถือเป็นน้องใหม่สำหรับผู้ผลิตหน่วยประมวลผลสำหรับสมาร์ทโฟน ซึ่งปีนี้จะเป็นปีที่อินเทลให้ความสำคัญกับการพัฒนาซีพียู อินเทล อะตอม เป็นอย่างมาก โดยจะมีอะไรน่าตื่นตาตื่นใจ บ้างนั้นผมได้เก็บเกี่ยวประเด็นจากงาน Intel Mobility Roadshow 2014 มาฝากชาว OopsMobile เรียบร้อยแล้วครับ โดยจะสรุปเป็นประเด็นๆ สำคัญมาให้อ่านกันนะครับ

 

Intel Mobility Roadshow 2014 (4)
CPU Intel Atom ซีรี่ย์ Z34XX ผลิตแบบ 22 นาโนเมตร

 

สำหรับหน่วยประมวลผลหรือซีพียู สำหรับสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตของอินเทลจะอยู่ในตระกูล อะตอม (Atom) โดยจะแบ่งเป็นซีรี่ย์ต่างๆ ดังนี้
• Clover Trail+ จะรองรับสำหรับ Android โดยเฉพาะ (ออกมาเมื่อต้นปี 2013) (Asus Zenphone 4,5,6 ใช้ซีรีส์นี้)
• Clover Trail (ไม่มีเครื่องหมายพลัส)จะรองรับสำหรับ Windows Phone
• Bay Trail จะเป็นซีรีย์ใหม่ล่าสุด รองรับเทคโนโลยี 64 บิต ตัวแรก และรันได้ทั้ง Android และ Windows Phone สามารถรองรับการติดตั้งแบบมัลติโอเอสได้

 
แท็บเล็ตจากแบรนด์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ASUS, Dell, acer, lenovo, samsung, hp ที่ใช้ซีพียู Intel Atom
Intel_roadshow_14_02

 
มีอะไรใหม่ใน Bay Trail Platform
Intel_roadshow_14_03
• เป็นซีพียู 64 บิต หาก Android เปลี่ยนเป็น 64 บิต ก็สามารถรองรับได้เลยไม่ต้องเปลี่ยนเครื่อง
• เป็น Quad Core แท้ๆ
• แปลงวิดีโอได้เร็วกว่ารุ่นก่อนถึง 3 เท่า
• เมมโนรีใหญ่ขึ้น
• กินไฟลดลง
• มีระบบป้องกันความปลอดภัย
• สามารถเชื่อมต่อหน้าจอแบบ Wireless รองรับเทคโนโลยี Miracast

 
ซีพียู Platform ใหม่ และอนาคตที่กำลังจะมา
Intel_roadshow_14_04
• Merrifield เป็นซีพียู Dual Core กินไฟน้อย กราฟฟิกดีกว่าเดิม 2 เท่า (เทียบกับ Clover Trail+) รองรับ LTE
• Morefield เป็นซีพียู Quad Core ส่วนคุณสมบัติก็เหมือนกับ Merrifield
• SoFIA 3G, SoFIA LTE เป็นชิป SOC ตัวแรกที่รวมเอา Intel Application Processor ที่เรียกว่า ATOM มารวมกับ Comms Processor ที่เป็น 3G,2G,GPS รวมถึง Audio อยู่ในชิปเดียวกัน คือเป็นซิปที่รวมโปรเซสเซอร์และโมเด็มอยู่ในตัวเดียวกัน จะออกมาในไตรมาส 4 ของปีนี้ (เริ่มที่ SoFIA3G ก่อน) ราคาจะถูกกว่า Clover Trail+ อีก
• Cherry Trail จะเป็นซีพียูที่ผลิตด้วยสถาปัตยกรรม 14 นาโนเมตร ตัวแรก โดยจะออกมาสิ้นปีนี้
• Broxton จะเป็น 14 นาโนเมตรเหมือนกัน แต่ไว้รองรับสมาร์ทโฟนระดับ Hi-End จะออกมากลางปี 2015

 
ข้อมูลและตัวเลขที่น่าสนใจ
• 7-8 นิ้ว คือขนาดของหน้าจอแท็บเล็ตที่กำลังได้รับความนิยมในเมืองไทย ส่วน 10 นิ้ว จะลดลง
• ข้อดีของการใช้ซีพียูอินเทลในแท็บเล็ตคือการขยายหน้าจอที่ 2 หรือ Extend Screen โดยใช้เทคโนโลยี Wi-Di (ไวได) แต่ทำได้เฉพาะบนแท็บเล็ต Windows ถ้าเป็น Android จะได้แค่ Duplicate ที่แสดงผลเหมือนกันทั้ง 2 จอเท่านั้น
• ในแง่การใช้งานข้อมูล ทุกวันนี้มีข้อมูลเพิ่มขึ้นในอินเทอร์เน็ตมากถึง 5 Exabyte หรือ 5 ล้านล้านล้านไบต์ ในทุกๆ 2 วัน
• ซึ่งเทคโนโลยีมันทำให้เกิดการใช้งานอุปกรณ์มากขึ้นซึ่งสังเกตว่าใน 1 คน มีอุปกรณ์พกพามากกว่า 1 ตัว ดังนั้นอุปกรณ์เหล่านี้จึงทำให้เกิดการใช้งานข้อมูลเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
• ค่าเฉลี่ยทั่วโลก ที่คนใช้งานแท็บเล็ตต่อวันอยู่ที่ 50 นาที ส่วนมือถืออยู่ที่ 147 นาที แต่ที่สำคัญคือคนไทยใช้มากกว่านั้น โดยคนไทยใช้แท็บเล็ต 95 นาทีต่อวัน ส่วนมือถือ 167 นาทีต่อวัน แสดงว่าคนไทยเป็นสังคมก้มหน้าอย่างจริงจัง
• ถ้านับรวมการนั่งดูหน้าจอทุกประเภทแล้ว ใน 5 ชั่วโมง คนไทยสามารถใช้เวลาดูจอได้กว่า 7 ชั่วโมง ถามว่าเป็นไปได้ยังไง ผลสำรวจบอกว่า คนไทยสามารถเล่นมือถือไป ดูทีวีไปด้วยนั่นเอง
Intel_roadshow_14_01

 

อินเทลเปิดตัวเอสโอซีรุ่นใหม่แบบมัลติคอร์ กินไฟต่ำ สำหรับแท็บเล็ต อุปกรณ์ทูอินวัน และอุปกรณ์ประมวลผลอื่นๆ

bay intel

อินเทล ดิเวลล็อปเปอร์ ฟอรั่ม, ซานฟรานซิสโก, 12 กันยายน 2556 ? วันนี้ อินเทล คอร์ปอเรชั่น ประกาศเปิดตัวเอสโอซี (SoC ? system-on-a-chip) ซึ่งเป็นชิพแบบที่มีระบบประมวลผลต่างๆ ฝังอยู่ในชิพตัวเดียวกัน ตระกูลใหม่ล่าสุดซึ่ง กินไฟต่ำ ที่มีชื่อรหัสเดิมคือ ?เบย์เทรล? (Bay Trail) เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุปกรณ์ที่มีสมรรถนะสูงและประหยัดพลังงาน ตั้งแต่แท็บเล็ต อุปกรณ์ทูอินวัน ไปจนถึงอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ให้พร้อมรองรับความต้องการของทั้งนักธุรกิจและผู้บริโภคทั่วไปในราวไตรมาสสี่ของปีนี้ โดยมีผู้ผลิตชั้นนำที่เตรียมนำเสนอผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาด ได้แก่ เอเอวีเอ* เอเซอร์* เอซุส* เดลล์* เลอโนโว* และ โตชิบา* เป็นต้น

 

โปรเซสเซอร์ในตระกูล ?เบย์เทรล? ผลิตด้วยสถาปัตยกรรมระดับไมโคร ?ซิลเวอร์มอนท์? ของอินเทล ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงและกินไฟต่ำ และเปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 โดยมี อินเทล อะตอม แซท3000 โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ หรือ ?เบย์เทรล-ที? (Intel Atom Z3000 Processor Series or ?Bay Trail-T?) เป็น เอสโอซี มัลติคอร์ สำหรับอุปกรณ์โมบายล์รุ่นแรกที่มีสมรรถนะสูงที่สุดในปัจจุบันของอินเทล เหมาะสำหรับแท็บเล็ตและอุปกรณ์โมบายล์อื่นๆ ที่ต้องการดีไซน์บางเบา ทำงานได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัว และมีความลงตัวทั้งในเรื่องของประสิทธิภาพ อายุการใช้งานแบตเตอรี่ กราฟิกและคุณสมบัติอื่นๆ อีกมากมาย

 

สถาปัตยกรรมระดับไมโครรุ่นใหม่ดังกล่าวรองรับการทำงานในหลากรูปแบบ ทำให้เอสโอซีสามารถตอบสนองต่อความต้องการของตลาดกลุ่มต่างๆ ได้ โดยมีให้เลือกทั้ง อินเทล? เพนเที่ยม? โปรเซสเซอร์ (เบย์เทรล-เอ็ม) และ เซเลอรอน? โปรเซสเซอร์ (เบย์เทรล-ดี) สำหรับอุปกรณ์ทูอินวันระดับเริ่มต้น แล็ปท้อป เดสก์ท้อป และอุปกรณ์ออลอินวัน

 

เอสโอซีในตระกูล ?เบย์เทรล? เป็นทางเลือกให้ลูกค้ามากมาย ในการกำหนดอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ชิ้นหนึ่งให้สามารถใช้ได้ทั้งวินโดวส์ 8 และแอนดรอยด์?เพื่อดีไซน์ตัวเครื่องได้อย่างหลากหลายรูปแบบ และสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้หลายระดับราคาเพื่อให้ผู้บริโภคเลือกได้ตรงตามความต้องการทั้งในกลุ่มนักธุรกิจและผู้ใช้งานทั่วไป

 

เฮอร์แมน อูล รองประธานองค์กรและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มโมบายล์และการสื่อสารของอินเทล กล่าวว่า ?สิ่งที่เรานำเสนอในแพลตฟอร์ม เบย์เทรล คือ เอสโอซีที่มีพลังสมรรถนะสูงอย่างไม่น่าเชื่อ จุดแข็งที่โดดเด่นของแพลตฟอร์มนี้จึงมีทั้งด้านประสิทธิภาพ ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้คนที่ใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด พันธมิตรในระดับโออีเอ็มของเราที่นำเบย์เทรลไปพัฒนาสินค้าของตน จะสามารถดีไซน์ตัวอุปกรณ์ให้มีรูปแบบที่หลากหลายและมีจำหน่ายในหลายระดับราคา เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของผู้บริโภค นักธุรกิจ และผู้จัดการฝ่ายไอที?

 

เพื่อยกระดับประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์ให้ขึ้นไปถึงจุดซึ่งเป็นที่ต้องการของอุปกรณ์พกพา อินเทล จึงพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาและความท้าทายต่างๆ ทางด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน รวมถึงความสามารถในการทำงานมัลติทาสก์ ยืดระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ คุณสมบัติด้านกราฟิกที่ดีขึ้น ประสิทธิภาพที่เพิ่มสูงขึ้น และความคล่องตัวในการใช้อุปกรณ์พกพาที่ทำให้ใช้งานได้เพลิดเพลินยิ่งขึ้น สำหรับวิดีโอคลิปที่มีเนื้อหาและภาพเกี่ยวกับผู้บริหารและนักพัฒนาซึ่งเกี่ยวข้องกับเบย์เทรล สามารถดูได้ที่ intel.synapticdigital.com

 

แท็บเล็ตที่มีสมรรถนะสูงขึ้น อุปกรณ์ทูอินวันที่ใช้อินเทล อะตอม แซท3000 โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์
อินเทล อะตอม แซท3000 เป็นซีรี่ส์โปรเซสเซอร์ที่ให้สมรรถนะในระดับสูงพร้อมด้วยอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานตลอดวัน ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มของอินเทลที่มีความสามารถสูงที่สุดและให้ประสิทธิภาพดีที่สุดในปัจจุบันสำหรับแท็บเล็ตและอุปกรณ์พกพาอื่นๆ ที่ต้องการดีไซน์บางเบา ด้วยขนาดที่เล็กกว่าเดิม กินไฟต่ำ แต่มีสมรรถนะในการประมวลผลมากกว่าเดิมถึงสองเท่า และมีสมรรถนะด้านกราฟิกดีกว่าเดิมถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับอินเทล อะตอม โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่นปัจจุบัน แพลตฟอร์มเอสโอซีรุ่นกินไฟต่ำช่วยให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานได้นานกว่า 10 ชั่วโมง และเปิดสแตนด์บายได้นานถึงสามสัปดาห์โดยที่เครื่องยังสามารถเชื่อมต่อออนไลน์ได้ตลอดเวลา

 

นอกจากนี้ อินเทล อะตอม แซท3000 โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ ยังมีเทคโนโลยี Intel? Burst Technology 2.0 และมี 4 คอร์ 4 เธรด และแคช L2 ขนาด 2 MB โดยที่สมรรถนะดังกล่าวทำให้ผู้ใช้สามารถทำงานในลักษณะมัลติทาส์ก สร้างและอ่านหรือดูคอนเทนท์ได้เต็มที่ และเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะใช้บนแอนดรอยด์หรือวินโดวส์ 8 นอกจากนี้ ยังมีดีไซน์ของตัวเครื่องให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต หรือ อุปกรณ์ทูอินวัน โดยตัวอุปกรณ์สามารถดีไซน์ให้มีความบางเบาได้ตั้งแต่ขนาด 8 มม.ไปจนถึง 1 ปอนด์ (ประมาณ 0.45 กก.) และมีขนาดจอตั้งแต่ 7-11.6 นิ้ว สำหรับแท็บเล็ตที่ใช้ เอสโอซี อินเทล อะตอม จะมีจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 199 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 6,000 บาท)

 

สำหรับการใช้งานในองค์กรธุรกิจ อินเทล อะตอม แซท3000 ซีรี่ส์ ยังทำให้แท็บเล็ตมีประสิทธิภาพและดีไซน์ซึ่งเป็นที่ต้องการ โดยมาพร้อมกับระบบการปกป้องข้อมูลสำหรับองค์กรซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับฝ่ายไอที คุณสมบัติด้านการรักษาความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง ได้แก่ เทคโนโลยี McAfee? DeepSAFE*, AES hardware full disk encryption, Intel? Platform Trust Technology, Intel? Identity Protection Technology และ Intel Data Protection Technology โดยเทคโนโลยีต่างๆ เหล่านี้จะช่วยให้การทำงานบนแพลตฟอร์มนี้ปลอดภัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ยังรองรับการทำงานของ Microsoft Windows 8 Pro Domain Join and Group Policy และใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่นและอุปกรณ์พ่วงต่อต่างๆ ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

 

อินเทลได้ทำงานร่วมกับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นเพื่อให้มั่นใจว่า แพลตฟอร์มที่ใช้สถาปัตยกรรมอินเทลทั้งบนวินโดวส์และแอนดรอยด์จะให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด นักพัฒนาบางส่วนที่อินเทลร่วมงานด้วย ได้แก่ Cyberlink, Skype-HD และ Netflix-HD, PhiSix, Arcsoft, Tieto, Gameloft รวมถึงแอพพลิเคชั่นสำหรับธุรกิจอีกหลายราย โดยอินเทลมุ่งเน้นในด้านคุณภาพสูงสุดของภาพ กราฟิก และสมรรถนะโดยรวมทั้งหมดเพื่อให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับผู้บริโภค เนื่องจากอินเทลมีประสบการณ์ยาวนานในการใช้ระบบปฏิบัติการทั้งวินโดวส์และแอนดรอยด์ จึงสามารถดึงจุดเด่นของทั้งสองระบบมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

ในราวต้นปี 2557 อินเทลเตรียมเปิดตัวเทคโนโลยี 64 บิต สำหรับแท็บเล็ต เพื่อให้ผู้จัดการด้านไอทีได้ประโยชน์มากขึ้น โดยอุปกรณ์ที่ใช้เอสโอซีเวอร์ชั่นใหม่จะมีแอพพลิเคชั่นและระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับองค์กรในระดับเอ็นเตอร์ไพรซ์ นอกจากนี้ เทคโนโลยี Intel? Identity Protection Technology (IPT) ที่มี PKI ยังไม่จำเป็นต้องใช้รหัส VPN เมื่อมีการใช้งานร่วมกับระบบที่รองรับทั้ง IPT และ PKI อีกด้วย

 

เบย์เทรล โปรเซสเซอร์ เพิ่มพลังสมรรถนะให้กับอุปกรณ์ทูอินวันระดับเริ่มต้น โน้ตบุ๊ก เดสก์ท้อป และอุปกรณ์ออลอินวัน

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ ?เบย์เทรล-เอ็ม? จะมีวางจำหน่ายร่วมสี่รุ่น ซึ่งได้แก่ อินเทล เพนเที่ยม เอ็น3510 โปรเซสเซอร์ และ อินเทล เซเลอรอน โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ ซึ่งได้แก่ เอ็น2910, เอ็น2810 และ เอ็น2805 โปรเซสเซอร์ซีรี่ส์ดังกล่าวจะเพิ่มสมรรถนะให้กับนวัตกรรมอุปกรณ์ทูอินวันและโน้ตบุ๊กหน้าจอสัมผัส ทำให้ผู้ใช้กลุ่มใหม่ได้รับประสบการณ์ในระดับราคาที่ย่อมเยาลง

 

ด้วยสถาปัตยกรรมระดับไมโครที่มีความยืดหยุ่นต่อการผลิตสินค้าและคุณภาพของกราฟิกที่ดียิ่งกว่าเดิม ซึ่งเป็นจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทุกรุ่นที่ใช้เบย์เทรล โดยทั้ง เพนเที่ยม เอ็น3000 โปรเซสเซอร์ และ เซเลอรอน เอ็น2000 โปรเซสเซอร์ ซีรี่ส์ ต่างให้สมรรถนะในการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่รวดเร็วยิ่งกว่าเดิมถึงสามเท่า และมีคุณสมบัติด้านกราฟิกที่ดีกว่าเดิมสูงสุดถึงสามเท่า เมื่อเทียบกับโน้ตบุ๊กราคาเยาที่ใช้เทคโนโลยีอินเทลรุ่นก่อนหน้านี้สามปี โดยดีไซน์ของอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ ไม่ต้องใช้พัดลมระบายความร้อน ตัวเครื่องบางน้อยกว่า 11 มม. และเบาเพียง 2.2 ปอนด์ (ประมาณ 1 กิโลกรัม) อินเทลคาดว่าจะมีเครื่องวางจำหน่ายในตลาดด้วยราคาเริ่มต้นที่ 199 เหรียญสหรัฐสำหรับเครื่องที่เป็นแบบฝาพับ 250 เหรียญสำหรับโน้ตบุ๊กหน้าจอสัมผัส และ 349 เหรียญสำหรับอุปกรณ์ทูอินวัน
 
สำหรับผลิตภัณฑ์ ?เบย์เทรล-ดี? จะมีวางจำหน่ายสามรุ่นด้วยกัน คือ อินเทล เพนเที่ยม เจ2850 อินเทล เซเลอรอน เจ1850 และ อินเทล เซเลอรอน เจ1750 ซึ่งทั้งหมดมาในรูปของแพ็คเกจที่มีขนาดเล็กที่สุดของอินเทลสำหรับโปรเซสเซอร์เดสก์ท้อป เพื่อใช้ผลิตเดกส์ท้อปขนาดเล็กและไม่ต้องมีพัดลม สำหรับตลาดผู้ใช้ในระดับเริ่มต้น นอกจากนี้ โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ยังเป็นที่ต้องการของกลุ่มที่มีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง เช่น จอแสดงผลดิจิตอลอัจฉริยะ (intelligent digital displays) โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ระบบประหยัดพลังงาน สมรรถนะการทำงานที่เร็วกว่าเดิมถึงสามเท่า ระบบกราฟิกที่ดีขึ้นสูงสุดถึงสิบเท่า เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์ลักษณะเดียวกันที่อินเทลเคยนำเสนอเมื่อสามปีที่แล้ว สำหรับเครื่องชนิดเต็มรูปแบบที่ใช้โปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ดังกล่าว คาดว่าว่าจะมีวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 199 เหรียญสหรัฐ

 

อินเทลจับมือพันธมิตรผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทุกแบรนด์ จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับ อัลตร้าบุ๊ก โน้ตบุ๊กหน้าจอสัมผัส และแท็บเล็ต

Mother Day Promotion
ในเทศกาลวันแม่ปีนี้ อินเทลร่วมมือกับพันธมิตรผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ทุกแบรนด์ จัดโปรโมชั่นพิเศษสร้างความอบอุ่นรับเทศกาลวันแม่ด้วยของขวัญพิเศษ

ลูกค้าผู้ซื้ออัลตร้าบุ๊ก ที่ใช้ อินเทล? คอร์? โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่น 3 หรือ 4 ลุ้นรับทันที แพ็คเก็จห้องพักสุดหรู ที่มาราเกซ หัวหิน รีสอร์ท (2 วัน 1 คืน) มูลค่ารางวัลละ 12,000 บาท หรือ Power Bank 12,000 mAh เครื่องชาร์ทพลังงานแบบพกพา มูลค่ารางวัลละ 2,000 บาท (จำนวนจำกัดทั้ง 2 รางวัล) นอกจากนั้นยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผลิตภัณฑ์โน้ตบุ๊กหน้าจอสัมผัส และแท็บเล็ตที่ใช้โปรเซสเซอร์ของอินเทลอีกด้วย

โดยสิทธิพิเศษนี้มอบให้แก่ลูกค้าผู้ซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดังกล่าว ณ จุด Touch Experience Zone ที่ ร้านไอที ซิตี้ สาขาพันธุ์ทิพย์พลาซ่า, สาขาไอทีมอลล์ ฟอร์จูน, และสาขาเซียร์รังสิต, ร้านซีเอสซี สาขาพันธุ์ทิพย์พลาซ่าและสาขาเซียร์รังสิต รวมถึง ร้านเจ.ไอ.บี. สาขาเซียร์รังสิต ตั้งแต่วันนี้จนถึง 12 สิงหาคม 2556

ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์รุ่นต่างๆ ที่ร่วมโปรโมชั่น และเงื่อนไขการรับรางวัลได้ ณ จุดจำหน่ายสินค้าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เข้าร่วมรายการ

[PR]เอชพีจัดโรดโชว์ เพิ่มความแข็งแกร่งกับพันธมิตรคู่ค้า พร้อมส่งแท็บเล็ต Windows 8 สู้ศึกต้นปีหน้า

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 18 ตุลาคม 2555 – เอชพี นำโดย มร. เทียน ชอง อึ้ง (ขวา) รองประธานฝ่าย Channel Sales Organization กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และญี่ปุ่น บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด และ คุณวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ (ซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) จำกัด จัดโรดโชว์ Channel Odyssey สื่อสารไปยังพันธมิตรคู่ค้ากว่า 1000 ราย ใน 6 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย ซึ่งมีมากถึง 180 ราย เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอชพีที่มีต่อพันธมิตรคู่ค้า ภายใต้โครงสร้างของกลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ (พีพีเอส) ที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระบบช่องทางจัดจำหน่าย และเพิ่มความสะดวกคล่องตัวในการทำธุรกิจระหว่างเอชพีและคู่ค้า พร้อมนำเสนอนวัตกรรมทางผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนมากขึ้น และเพิ่มการลงทุนในการผลักดันและปรับปรุงด้านการบริการให้ดียิ่งขึ้น

 

เอชพี มุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งในระบบช่องทางจัดจำหน่าย ด้วยกรอบความร่วมมือแบบบูรณาการที่สะดวกและคล่องตัว พร้อมนำเสนอนวัตกรรมทางผลิตภัณฑ์ที่ชัดเจนมากขึ้น และเพิ่มการลงทุนในการผลักดันและปรับปรุงด้านการบริการให้ดียิ่งขึ้น

เอชพี ได้จัดงานโรดโชว์ Channel Odyssey สื่อสารไปยังพันธมิตรคู่ค้ากว่า 1000 ราย ใน 6 ประเทศทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นของเอชพีที่มีต่อพันธมิตรคู่ค้า โดยในงาน Channel Odyssey นี้ เอชพีมุ่งที่จะกระชับความสัมพันธ์กับพันธมิตรคู่ค้าให้แน่นแฟ้นและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ด้วยการส่งมอบนวัตกรรมอันล้ำสมัยซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งที่จะทำให้คู่ค้าของเอชพีสามารถขายผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้นและดียิ่งขึ้น

ความสะดวกคล่องตัวที่เพิ่มขึ้น

 

  • โครงสร้างของกลุ่มธุรกิจการพิมพ์และคอมพิวเตอร์ (พีพีเอส) ที่เพิ่งควบรวมนี้ ทำให้เอชพีมีความแข็งแกร่งด้านคู่ค้ามากยิ่งขึ้น และยังเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกิจระหว่างเอชพีและคู่ค้า  นอกจากนี้ เอชพียังได้พัฒนาระบบการทำงานร่วมกับคู่ค้าด้านช่องทางจัดจำหน่ายให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานร่วมกัน

–   การปรับปรุงขั้นตอนด้านการขาย – เอชพีได้ทำการลดขั้นตอนของการติดต่อ พร้อมผนวกไลน์ผลิตภัณฑ์ (ทั้งคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์) มาไว้ในช่องทางการติดต่อเดียวกัน เพื่อให้การติดต่อสื่อสารกับคู่ค้ามีความชัดเจนและมีความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น

–   ความชัดเจนของพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ – คู่ค้าจะไม่ต้องเผชิญกับปัญหา ที่จะต้องพยายามทำความเข้าใจและจัดการกับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่วางขายอยู่มากมายอีกต่อไป ด้วยพอร์ทโฟลิโอโซลูชั่นที่ครบครันของเอชพี ที่มาพร้อมการกำหนดกลยุทธ์ด้านการขายและราคาไว้อย่างชัดเจน ทำให้คู่ค้าเข้าใจพอร์ทโฟลิโอของผลิตภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น

–   เครื่องมือและระบบที่สะดวกง่ายดายขึ้น – เอชพีได้ทำการลดความยุ่งยากซับซ้อนในระบบการติดต่อซื้อขายของคู่ค้า โดยได้ปรับปรุงระบบให้เกิดความสะดวกง่ายดายมากขึ้น และสร้างมาตรฐานให้กับระบบช่องทางการจัดจำหน่าย เครื่องมือ และระบบรายงานผล ทำให้การดำเนินการต่างๆ ระหว่างเอชพีและ คู่ค้าสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยผ่านการใช้งานระบบและเครื่องมือที่ได้รับการพัฒนาในโปรแกรม PartnerOne

–   เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารผลตอบแทน – เอชพีได้อำนวยความสะดวกให้กับคู่ค้าในการเรียกรับผลตอบแทนหรือส่วนลด โดยการลดขั้นตอนในกระบวนการเรียกเก็บเงิน และควบคุมกระบวนการส่งเสริมการขายให้ดีขึ้นและคล่องตัวมากขึ้น

–   โปรแกรมความร่วมมือกับคู่ค้า – ด้วยบริษัทเอชพี ที่มีอยู่ในกว่า 170 ประเทศทั่วโลกนั้น เป็นการสร้างความมั่นใจให้แก่คู่ค้าที่จะได้รับโอกาสในการพัฒนาธุรกิจระดับนานาชาติ สำหรับคู่ค้าเอชพีที่เข้าร่วมโปรแกรมนี้ ยังจะสามารถเข้าร่วมโปรแกรม PartnerOne พร้อมทั้งได้รับการสนับสนุนจากเอชพี ทั้งด้านผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นต่างๆ อีกด้วย 

ผลกำไร

  • เอชพีเพิ่มการลงทุนในด้านการพัฒนาโปรแกรม บุคลากร และทรัพยากร เพื่อช่วยให้คู่ค้าสามารถขับเคลื่อนธุรกิจและสร้างผลกำไรได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ท่ามกลางสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา

–   สร้างโอกาสให้กับธุรกิจ – เอชพีได้พัฒนาทรัพยากรใหม่ๆ ขึ้น เพื่อช่วยสร้างความเติบโตทางธุรกิจให้กับคู่ค้า ด้วยระบบออนไลน์ Deal Registration ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของคู่ค้าเอชพี และ Lead Engine ที่ช่วยให้เอชพี สามารถส่งต่อข้อมูลด้านลูกค้าที่เป็นประโยชน์ไปยังช่องทางจำหน่ายได้มากยิ่งขึ้น

–   สู่ช่องทางตลาดใหม่ – ด้วยนวัตกรรมล่าสุดจากเอชพี จะทำให้คู่ค้าสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ความต้องการด้านกระแสนิยมการบริโภคด้านไอที (IT Consumerization)ความต้องการด้านโมบิลิตี้ และการใช้งานบริการด้านคลาวด์

  • พอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นจากเอชพี ประกอบด้วย ElitePad 900    แท็บเล็ตสำหรับเอ็นเตอร์ไพรส์เครื่องแรกจากเอชพี, เวิร์คสเตชั่นระดับรางวัล Z1 All-in-One Workstation, ผลิตภัณฑ์อัลตร้าบุ๊คแบบครบไลน์, ที่สุดแห่งความบางเบาและสมรรถนะเหนือชั้น กับ ENVY x2 hybrid PC, เครื่องพิมพ์โมบายล์ ออล-อิน-วัน ตัวแรกของโลก(1), เครื่องพิมพ์แบบมัลติฟังก์ชั่นระดับรางวัล และเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ตสำหรับธุรกิจที่มาพร้อมเทคโนโลยีการพิมพ์แบบไร้สายใหม่ล่าสุด และเครื่องพิมพ์แบบหน้ากว้างที่มาพร้อมเทคโนโลยีเชื่อมต่อเว็บ
ElitePad 900 แท็บเล็ต วินโดวส์ 8 จะเริ่มวางจำหน่ายไตรมาสแรกของปีหน้า

–   การพัฒนาในอนาคต – เอชพียังคงเดินหน้าพัฒนาและสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับคู่ค้า โดย เอชพีมุ่งมั่นที่จะส่งมอบโซลูชั่นล้ำสมัยที่มาพร้อมระบบคลาวด์ การเพิ่มประสิทธิภาพระบบรักษาความปลอดภัยและข้อมูล และที่สำคัญ เอชพีเป็นผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่นำเสนอโซลูชั่นที่ครบครัน ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และการบริการ ให้กับลูกค้าเอสเอ็มบีและองค์กรระดับเอ็นเตอร์ไพรส์

ความร่วมมือ

 

  • เอชพี มีทั้งผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทรัพยากร และ โซลูชั่นที่ครบครัน เพื่อช่วยผลักดันคู่ค้าให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ และเอชพียังให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์กับคู่ค้าให้แข็งแกร่งขึ้นอีกด้วย

–   พันธสัญญากับคู่ค้า – ช่องทางการจัดจำหน่ายถือเป็นส่วนสำคัญในกลยุทธ์การดำเนินงานที่มุ่งสู่ความสำเร็จของเอชพี เอชพีจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความสัมพันธ์อันดีกับคู่ค้าในระยะยาว

–   การสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่าย – เอชพีให้ความสำคัญกับช่องทางการจัดจำหน่ายในฐานะผู้ที่ติดต่อกับลูกค้าโดยตรง และเพื่อให้มั่นใจว่าคู่ค้าจะดำเนินงานสอดคล้องไปกับกลยุทธ์ทางการตลาดของเอชพี

–   การสื่อสารกับคู่ค้า – เอชพีได้ทำการสื่อสารกับคู่ค้าให้มากขึ้น โดยการจัดกิจกรรมและอีเว้นท์ต่างๆ ไปยังช่องทางการจัดจำหน่าย เพื่อส่งเสริมความร่วมมือกับคู่ค้า ซึ่งจะทำให้คู่ค้าของเอชพีได้รับข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่องและชัดเจนมากยิ่งขึ้น

–   สร้างสรรค์นิยามใหม่แห่งประสบการณ์การเรียนรู้ – เอชพีได้คิดค้นระบบการเรียนรู้แบบรวมศูนย์ขึ้น และได้นำไปใช้งานในทุกภูมิภาค ทั้งในส่วนของเอสเอ็มบี คอมเมอร์เชียล และช่องทางค้าปลีก ซึ่งจะทำให้คู่ค้าได้รับความรู้ และทักษะเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ โซลูชั่น ตลอดจนการบริการอย่างครบถ้วน เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้น