รวบตึง IFA 2014 ปีแห่ง Wearable Device อย่างแท้จริง

 
Smartwatch01
 
ถึงแม้ว่าทีมงาน Oopsmobile จะยังไม่มีโอกาสได้ไปตะลุยงาน IFA 2014 งานแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีระดับโลก ที่ทุกปีก็จะมีการเปิดตัวนวัตกรรมใหม่จากแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก จนทำให้กระเป๋าสตางค์ของใครหลายคนแฟ่บกันอีกแล้ว แต่อย่างไรก็ตามทีมงานก็จะมารวบตึง เพื่อให้เพื่อนๆ ได้อัพเดทความคืบหน้ากัน

 
ซึ่งพระเอกของปีนี้คงหนีไม่พ้นอุปกรณ์สวมใส่อย่าง Wearable Device ที่ตอนนี้เกือบทุกแบรนด์ต่างออกมาเปิดตัว Smart Watch และ Sport Band กันอย่างคึกคัก เอาเป็นว่าเรามาไล่เรียงดูกันทีละแบรนด์ ตามตัวอักษรเลยละกัน

 

ASUS ZenWatch : Android Wear

ASUS-ZenWatch-02

ถือเป็น Smart Watch ตัวแรกของ ASUS โดยเลือกใช้แพลตฟอร์ม Android Wear โดดเด่นด้วยหน้าปัดที่โค้ง 2.5D (เหมือน Gear S) ขนาด 1.63 นิ้ว (320×320 พิกเซล) AMOLED แต่หน้าจอยังคงเป็นสีเหลี่ยมปกติ เหมือนกับ Smart Watch ทั่วไป มาพร้อมสายหนังซึ่งทำให้ดูกลมกลืนเหมือนใส่นาฬิกาข้อมือจริงๆ พร้อมตัวล็อคที่สามารถปลดออกได้ทันที ในส่วนของอินเตอร์เฟส ASUS ZenWatch มาพร้อม ZenUI ที่ช่วยให้การใช้งานร่วมกับ ZenFone หรือสมาร์ทโฟนของ ASUS ได้อย่างขั้นกว่ามากยิ่งขึ้น

ZenWatch01

 เครดิตภาพ : gsmarena 

 
ฟีเจอร์หลักๆ ของ ZenWatch นั้น จะมาพร้อมการใช้งานเป็นรีโมทกล้อง, ใช้ตามหาโทรศัพท์, ควบคุม Presentation, มีเซนเซอร์ตรวจจับทิศทาง สามารถนับก้าวเดิน และวัดอัตราการเต้นของหัวใจได้ โดยมีแอพ ZenUI Wellness ไว้รองรับการใช้งาน ส่วนฟีเจอร์พื้นฐานที่ Android Wear มีอยู่ก็สามารถใช้งานได้ เช่น การค้นหาสถานที่ ดูพยากรณ์อากาศด้วย Google Now, ใช้รับสายเข้าเมื่อเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เป็นต้น และด้วยการใช้ Android Wear เป็นแพลตฟอร์ม จึงสามารถใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟน Android 4.3 ขึ้นไปได้ทุกยี่ห้อ สนนราคาประมาณ 199 ยูโร หรือประมาณ 8,300 บาท โดยจะวางจำหน่ายในปลายปีนี้

 

 

สเปกคราวๆของ ASUS Zen Watch

• หน้าจอ : 1.63 นิ้ว AMOLED ความละเอียด 320 x 320 (278ppi), Curved 2.5D Gorilla Glass 3
• ขนาดตัวเครื่อง : 50.6 x 39.8 x 7.9-9.4 มม.
• น้ำหนัก : 50 กรัม เฉพาะบอดี้, น้ำหนักสายอีก 25 กรัม
• ชิปเซ็ต : Snapdragon 400 1.2GHz, แรม 512MB
• ระบบปฏิบัติการ : Android Wear
• การเชื่อมต่อ : Bluetooth 4.0, เชื่อมต่อพอร์ต Micro USB ผ่าน Cradle หรือแท่นครอบ
• หน่วยความจำ : 4GB built-in
• แบตเตอรี่ : 1.4Wh
• อื่น : มาตรฐานการกันน้ำ IP55, ไมโครโฟนในตัว

 

LG G Watch R : Smart Watch หน้าปัดกลม

LG_G_WATCH_R1

LG ก็มิได้น้อยหน้า กับการเปิดตัว Smart Watch ที่มาพร้อมหน้าปัดวงกลม ซึ่งเป็นการใช้หน้าจอแสดงผลแบบใหม่ที่เรียกว่า P-OLED (Plastic OLED) ขนาด 1.3 นิ้ว (320×320 พิกเซล) ที่สามารถแสดงผลได้เต็มพื้นที่วงกลมตามหน้าปัด ซึ่งถือเป็นการปลัฟคู่แข่งอย่าง Moto 360 ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งจอแสดงผลดันไม่เป็นวงกลมตามหน้าปัดทำให้หน้าจอแหว่งไปนิดนึง

LG_G_WATCH_R_031

 

จริงๆ แล้ว LG G Watch R ได้แถลงข่าวเปิดตัวไปก่อนหน้างาน IFA 2014 ราว 1 อาทิตย์ ซึ่งในงานก็จะมีตัวต้นแบบของหน้าจอ P-OLED บนแผงวงจรมาให้ดูอีกด้วย จากภาพในงานแถลงข่าว สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือหน้าจอที่เป็นวงกลม และแสดงผลได้เหมือนนาฬิกาจริงๆ พร้อมดีไซน์เส้นสายที่ดูหรูหรา พรีเมี่ยมมากๆ LG G Watch R จะวางจำหน่ายภายในเดือนตุลาคมนี้ ส่วนราคาจะอยู่ที่ 299 ยูโร หรือประมาณ 12,500 บาท ลองชมคลิป Hand On จาก Android Central กันดูนะครับ
[youtube link=”http://youtu.be/4x62o342efY” width=”590″ height=”315″]
LG_G_WATCH_1

สเปกคราวๆ ของ LG G Watch R
• ชิปเซ็ต : 1.2 GHz Qualcomm Snapdragon 400
• หน้าจอ : 1.3 นิ้ว P-OLED Display (320 x 320)
• หน่วยความจำ : 4GB eMMC
• แรม : 512 MB
• แบตเตอรี่ : 410 mAh
• ระบบปฏิบัติการ : Android Wear (รองรับกับสมาร์ทโฟน ที่รัน Android 4.3 ขึ้นไป)
• เซนเซอร์ : 9-Axis (Gyro/ Accelerometer/ Compass), Barometer, PPG (Heart Rate Monitor)
• สี : ดำ
• อื่นๆ : กันน้ำ กันฝุ่น ตามมาตรฐาน IP67

 

Intel : MICA Smart bracelet กำไรแฟชั่น อัจฉริยะ

 

Collier_Schorr_Opening_Ceremony_Shot2

 

อินเทล ผู้ผลิตชิปหน่วยประมวลผล ก็ขอมาชิมลาง Wearable Device กับเขาบ้าง ด้วยการเปิดตัว Smart bracelet ที่เป็นกำไรอัจฉริยะ แต่มาพร้อมดีไซน์สุดชิค เพราะได้ร่วมมือกับ MICA (My Intelligent Communication Accessory) ซึ่งได้ Opening Ceremony แบรนด์เสื่อผ้าและเครื่องประดับแฟชั่นระดับโลก มาเป็นผู้ออกแบบให้

 

โดยไอเทมดังกล่าวได้ถูกออกแบบมา 2 สี แต่หลายสไตล์ด้วยกัน เช่น สีขาว white watersnake skin ที่ประดับในสไตล์ตาเสือจากแอฟริกาใต้ หรือหินดำ obsidian จากรัสเซีย ส่วนสีดำ black watersnake skin ก็จะประดับด้วย ไข่มุกจากจีน หรือหินสลักจากมาดากัสกา โดยนอกจากจะเป็น Accessory สุดชิคแล้ว มันยังมาพร้อมฟีเจอร์การแจ้งเตือนต่างๆ ทั้งจาก SMS, นัดหมายการประชุม และการแจ้งเตือนอื่นๆ ทั่วไป รวมถึงรองรับการชาร์จไร้สายได้อีกด้วย หน้าจอทัสกรีนใช้กระจกแซฟไฟร์ที่โค้งรับกับข้อมือ ทนทานต่อรายขีดข่วนเป็นอย่างดี

Collier_Schorr_Opening_Ceremony_Shot3

 

ส่วนสเปก และรายละเอียดอื่นๆ ยังไม่ได้เปิดเผยแต่อย่างใด โดย MICA Smart bracelet จะเปิดตัวสู่สาธารณะในงาน Opening Ceremony Spring/Summer 2015 fashion show ประมาณช่วงซัมเมอร์ของปี 2014 นี้

 

Samsung : Gear S Smart Watch ที่โทรออกได้

 
Gear S_2P_LR

 

เรียกว่าออกตัวแรง ล้ำหน้าก่อนใคร กับ Gear S ที่เป็น Smart Watch ใส่ซิม 3G ไว้เล่นเน็ตและโทรออกได้ ซึ่งเราได้เคยนำเสนอข่าวตอนเปิดตัวไปแล้ว เรียกว่าไม่ง้อการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ก็สามารถใช้งานในตัวเองได้ ทั้งการโหลดแอพต่างๆ เล่นโซเชียล โทรออก รับสาย และมีคีย์บอร์ดในการพิมพ์ข้อความได้เลย ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นกับขนาด 2 นิ้ว Super AMOLED แถมยังโค้งรับกับข้อมืออีกด้วย ลองไปชมความสามารถใหม่ๆ ของ Gear S ในคลิปล่าสุดจากซัมซุงกันได้เลย
[youtube link=”http://youtu.be/Ji6eoTrjtng” width=”590″ height=”315″]
นอกจากนี้ยังได้เพิ่มแอพเพื่อสุขภาพอย่าง Nike+ Running ให้คนรักการวิ่ง ได้สนุกและท้าทายมากยิ่งขึ้น พร้อมด้วยแผนที่ Here Map ที่สามารถนำทางสำหรับถนนคนเดินได้อีกด้วย ในส่วนของการออกแบบก็ยังคงเน้นความหรูหราทันสมัยในลุคพรีเมี่ยม และมีให้เลือก 2 สี คือ ขาว, ดำ

 

Specifications Gear S
• หน้าจอ 2.0 นิ้ว Super AMOLED (360 x 480)
• หน่วยประมาณผล Dual core 1.0 GHz
• แรม 512 MB
• หน่วยความจำภายใน 4GB
• ระบบปฏิบัติการ Tizen based wearable platform
• รองรับซิมในตัว 900/2100, 850/1900 (3G), 900/1800, 850/1900 (2G)
• ใช้โทรออก รับสายได้
• ไม่มีกล้อง
• เล่นเพลง ดูภาพในแกลอรี่ได้
• กันน้ำกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP67
• การเชื่อมต่อ WiFi: 802.11 b/g/n, A-GPS/Glonass, Bluetooth®: 4.1, USB 2.0
• เซนเซอร์ Accelerometer, Gyroscope, Compass, Heart Rate, Ambient Light, UV, Barometer
• แบตเตอรี่ 300 mAh ใช้ได้ตามปกติประมาณ 2 วัน
• มี 2 สี ขาว, ดำ

 

SONY : SmartWatch 3 , SmartBand Talk

Sony-smartwatch3-01

โซนี่ ก็ถือเป็นเจ้าแรกๆ เลยที่มี SmartWatch ก่อนซัมซุงเสียอีก แต่อาจจะไม่ค่อยได้รับกระแสตอบรับที่ดีเท่าไร โซนี่ก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะนี่ถือเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว กับ SmartWatch 3 และเป็นครั้งแรกที่นำระบบปฏิบัติการ Android Wear เข้ามาใช้งาน และยังต่อยอดในส่วนของ SmartBand มาเป็น SmartBand Talk ที่สามารถสั่งงานด้วยเสียง และมีหน้าจอเพิ่มขึ้นมาอีกด้วย

 

Smart Watch 3 มาพร้อมหน้าจอ 1.6 นิ้ว TFT LCD ความละเอียด 320×320 พิกเซล ซีพียู Quad Core 1.2 GHz มีพื้นที่หน่วยความจำมาให้ 4 GB แรม 512 MB แบตเตอรี่ 420 mAh สามารถรันแอพพร้อมกันได้หลายตัว เช่น ฟังเพลง ไปพร้อมกับตรวจจับการเล่นฟิตเนส โดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังปรับเปลี่ยนสายให้ออกไปในแนวสปอร์ตมากขึ้น ที่เป็นยางซิลิโคน สามารถถอดเปลี่ยนสีต่างๆ ได้ง่าย ในส่วนของการใช้งานสามารถโหลดเพลงในเครื่องได้ 4GB ใช้ฟังเพลงพร้อมกับออกกำลังกายไปด้วยกันได้ โดยมีระบบ GPS เพื่อเก็บบันทึกการเดินทางได้อีกด้วย และยังสามารถใช้เป็นรีโมททีวี ที่สามารถดูรายละเอียดของรายการที่กำลังจะมาได้อีกด้วย สนนราคา 229 ยูโร หรือประมาณ 9,500 บาท ส่วนชุดสายหากต้องการเปลี่ยนสีอื่นๆ เพิ่มเติม อยู่ที่ 25 ยูโร ประมาณ 1,000 บาท

 

 

SmartBand Talk ถือเป็นสปอร์ตแบนด์ ที่ต่อยอดขึ้นมา โดยการเพิ่มหน้าจอ e-ink ขนาด 1.4 นิ้ว เพื่อแสดงผลข้อมูลการออกกำลังกายโดยเฉพาะ และยังเพิ่มเซนเซอร์ Altimeter เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวในแนวดิ่ง เช่นการเดินขึ้นลงบรรได หรือขึ้นลงลิฟ นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงเพื่อควบคุมฟังก์ชั่นการทำงานได้อีกด้วย เจ้าสปอร์ตแบนด์นี้หน้าที่หลักๆ ของมันก็คือจะคอยตรวจจับกิจกรรมต่างๆ ของเราทั้งแต่การเดิน วิ่งออกกำลังกาย การนอนว่าหลับสนิทแค่ไหน โดยมีแอพ Lifelog ในการแสดงผลข้อมูล SmartBand Talk สามารถใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 3 วัน ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 70 mAh สามารถกันน้ำกันฝุ่นได้ทั้ง 2 รุ่น ตามมาตรฐาน IP68 สนนราคา 159 ยูโร หรือประมาณ 6,600 บาท โดยทั้ง 2 รุ่นจะวางจำหน่ายในฤดูใบไม้ร่วมของปีนี้

 
เรียกได้ว่าหลังจากที่ Android ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ Android Wear ไปเมื่อกลางปี จึงเป็นโอกาสให้ผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ ได้สร้างสรรค์ Smart Watch เป็นของตัวเองได้ ซึ่งแต่ละเจ้าก็พยายามดีไซน์ทั้งหน้าตาและฟีเจอร์การใช้งานให้แตกต่าง แต่สิ่งหลักที่ยังคงเหมือนกันคือการรันบนระบบปฏิบัติการ Android Wear จะมีแต่ของซัมซุงที่ Gear S ใช้ระบบปฏิบัติการของตัวเอง จึงทำให้ไม่สามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นได้นอกจากซัมซุงเองเท่านั้น และคงจะสนุกมากขึ้นหากว่าในวันที่ 9 ก.ย. นี้ แอปเปิ้ลจะเปิดตัว Smart Watch มาลงแข่งกับเขาด้วย ตามกระแสข่าวลือกันหนาหู แล้วมารอลุ้นที่นี่ด้วยกันนะครับ

 
 

[IFA2014] ซัมซุงเปิดตัว Galaxy Note Edge นวัตกรรมขอบจอโค้ง เพิ่มลูกเล่นการแจ้งเตือน แสดงผลแยกส่วนได้

samsung-galaxy-note-edge-06

และแล้วก็มาตามคำสัญญา กับแฟบเล็ตจอโค้ง ที่เคยออกโชว์เครื่องต้นแบบมาแล้วเมื่อปลายปีก่อน โดยในงาน IFA 2014 ปีนี้ ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการภายใต้ชื่อรุ่น Galaxy Note Edge น้องใหม่ในตระกูล Note ที่มาพร้อมหน้าจอ Curved OLED พร้อมด้วยปากกา S Pen แต่มีขนาดหน้าจอเล็กกว่านิดหนึ่งคือ 5.6 นิ้ว จาก Note 4 ที่มีขนาด 5.7 นิ้ว โดยสเปกเครื่องส่วนใหญ่ก็จะเหมือน Galaxy Note 4 เลยทีเดียว มีบางส่วนที่แตกต่างเล็กน้อย โดยเฉพาะตรง หน่วยประมวลผลที่มีให้เลือกเพียงตัวเดียวคือ 2.7 GHz Quad-Core Processor

 

• หน้าจอความละเอียดสูงระดับ Quad HD ความละเอียด 2560×1440 เท่ากับ Galaxy Note 4
• กล้องหลังก็ความละเอียดเท่ากันคือ 16 ล้านพิกเซล พร้อมระบบกันภาพสั่นไหว OIS
• กล้องหน้า ความละเอียดสูงถึง 3.7 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้างถึง F1.9
• หน่วยความจำ 32/64 GB แรม 3 GB
• แบตเตอรี่ 3,000 mAh พร้อมระบบ Fast Charge ชาร์จเร็วได้ 50% ภายในเวลา 30 นาที เช่นเดียวกัน
• แต่ไม่รองรับ การใช้งานร่วมกับ Gear VR

 

ฟังก์ชั่นเด่นที่ขอบจอโค้ง

• แสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ในขณะปิดหน้าจอ โดยจะแสดงผลเฉพาะตรงขอบจอโค้งเท่านั้น
• สไลด์เพื่อเปิดดูการแจ้งเตือนได้
• สไลด์เพื่อเลื่อนดูวิดีโอได้
• แสดงช็อตคัทไอคอนที่ขอบจอ ให้แตะเข้าใช้งานได้ทันที
• ควบคุมการเล่นเพลงได้
• แตะสไลด์เพื่อเปิดดูเวลาได้
• สามารถปรับแต่งแถบเครื่องมือ หรือเลือกธีมต่างๆ ได้

 

samsung-galaxy-note-edge-01

 

samsung-galaxy-note-edge-02

 

นอกจากนี้ซัมซุงยังเปิดให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นทั่วไป ได้นำฟีเจอร์นี้ไปใช้ในการพัฒนาแอพของตัวเองหรือเข้าถึงฟีเจอร์นี้ได้อีกด้วย ส่วนราคายังไม่เปิดเผยอีกเช่นเดียวกัน โดยกำหนดวางจำหน่ายในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มี 2 สี ขาว, ดำ

samsung-galaxy-note-edge-05

samsung-galaxy-note-edge-07

samsung-galaxy-note-edge-08

samsung-galaxy-note-edge-09

samsung-galaxy-note-edge-10

Source  : Samsung Mobile Press, Slash Gear 
 
 

Asus Smartwatch กำลังจะเป็นสุดยอดฮีโร่โปรดักษ์ ตามที่ Jonney Shih กล่าวไว้

 

asus-smartwatch
Asus ก็เป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่เชื่อว่ากำลังซุ่มผลิต Smartwatch ที่คาดว่าน่าจะเป็น Android Wear อีกตัวที่กำลังจะออกมา โดยน่าจะเปิดตัวในงาน IFA 2014 เดือนกันยายนนี้

 

ซึ่งตามที่นาย Jonney Shih ซีอีโอ Asus ได้บอกไว้ว่า Asus Smartwatch จะเป็น Hero Product ตัวสำคัญที่มาพร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่น และยังบอกด้วยว่าการออกแบบดีไซน์ และปัจจัยในการใช้งานของตัวอุปกรณ์ดังกล่าว ก็เป็นสิ่งสำคัญมาก แต่ก็เขาก็ยังไม่ได้เปิดเผยสเปกออกมาแต่อย่างใด

 

และก่อนหน้านี้เราเคยได้ยินว่า Asus กำลังมองไปในแนวทางการทำ Smartwatch ให้บางที่สุด และเป็นตัวแรกในตลาด ซึ่งนี้ก็สอดคล้องกับความเห็นที่นาย Jonney Shih ได้พูดถึงเรื่องการออกแบบเอาไว้

 

อย่างไรก็ตาม Asus ก็น่าจะเป็นอุปกรณ์อีกตัวหนึ่งที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear ซึ่งก็มีความเป็นไปได้สูงอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่มีการคอนเฟิร์มใดๆ จาก Asus ในขณะนี้

 

ส่วนราคาก็คาดว่าน่าจะอยู่ราว 100 – 150 เหรียญสหรัฐ หรือไม่เกิน 4900 บ.