Twitter เปลี่ยน Look เว็บไซต์ใหม่ให้เหมือน Facebook

อาจจะเป็นเพราะ Twitter ยังมีความนิยมน้อยกว่า Facebook และหน้าตาของเว็บไซต์ Twitter ยังดูจืดๆ เลยทำให้ twitter มีความคิดที่จะดีไซน์เว็บไซต์ใหม่ ให้ไปในทิศทางเดียวกับ Facebook  เพื่อที่จะนำคนที่นิยมชมชอบ Facebook เปลี่ยนใจมาเล่น Twitter บ้าง

TwitterLayout1_610x630

 
 

จากภาพที่เห็นเป็น Layout ที่ Twitter วางไว้ คือ หน้า Bio จะขึ้นรูปเจ้าของ Account และมี รูป Header เป็นรูปใหญ่อยู่ข้างหลังเหมือน  Facebook เด๊ะๆ และในส่วนของ Timeline ก็จะหน้าตาเหมือน Facebook คือมีการขยายพื้นที่ในการอ่านมากขึ้น ส่วนเรื่องจะเปลี่ยนเมื่อไหร่ อะไรยังไง? ยังไม่มีระบุ แต่ทาง Twitter ก็ได้ทำการแถลงเรียบร้อยแล้วในเรื่องนี้

 
 

จริงๆจะว่าไปส่วนตัวไม่ค่อยไปข้องแวะอะไรกับ  Facebook เท่าไหร่แต่ติด Twitter มากกว่า แต่คนไทยจำนวนน้อยมากที่ติด Twitter ก็นับว่าเป็นเรื่องดี เพราะหน้าตาของ Facebook อาจจะได้ใจคนส่วนใหญ่มากกว่า ถ้า Twitter ทำแบบ Facebook ไม่แน่จะมีคนหนีพี่มาร์กมาเล่น Twitter แทน

 

Source: Cnet

Infographic ครบรอบ 10 ปี Facebook

 

เมื่อวันที่ 4 ก.พ. ที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบ 10 ขวบ ของ Facebook เว็บไซต์สังคมออนไลน์ ที่มีต้นกำเนิดเล็กๆ จากภายในห้องของมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ในหอพักนักศึกษาของมหาวิทยาฮาร์วาร์ด แทบไม่น่าเชื่อว่าจนถึงวันนี้ Facebook กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องมีและพัฒนาลงในมือถือที่มีผู้ใช้งานประจำจากทั่วโลกมากกว่า 1.2 พันล้านคนต่อเดือน ทั้งนี้ Facebook ได้มอบของขวัญด้วยการทำคลิปย้อนความทรงจำของแต่ละคนในฟีเจอร์ Look back ที่ทุกคนได้แชร์ไปบนไทม์ไลน์กันมากมายแล้ว ดังนั้น เรามาดูไทม์ไลน์ครบรอบ 10 ปีของ Facebook พร้ิอมสถิติที่น่าสนใจ ว่ามีอะไรเกิดขึ้นมาบ้าง

 

Facebook_10th_Timeline_TH

 

ทั้งนี้ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ยังได้ฝากคำกล่าวไว้ว่า นับเป็นการเดินทางอันน่าเหลือเชื่อตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน และผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางนี้  การได้เห็นผู้คนใช้ Facebook สร้างเครือข่ายในสังคมจริง และใช้ Facebook ในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันในรูปแบบต่างๆ เป็นสิ่งที่ผมประทับใจมาก และในทศวรรษถัดไปนี้ เรายังคงมีโอกาสและแสดงความรับผิดชอบที่จะสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงทุกคนไว้ด้วยกัน และจะยังพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีที่สุดเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้ใช้งานอย่างสุดความสามารถ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Facebook กล่าว

 
หน้าโปรไฟล์ Facebook ในปี 2004 ใครทันใช้บ้างครับ
Facebook profile 2004_for media

 

 

Source : Email PR Facebook

 

 

[รีวิว] App Paper from Facebook คำเดียวสั้นๆ “เริ่ด”

เพิ่งเปิดให้โหลดกันเมื่อวานนี้เองที่อเมริกา ไหนๆก็มีแอคเคาท์ของที่โน่นก็จับมารีวิวเลยทันทีสำหรับ แอพพลิเคชั่นตัวใหม่ของ Facebook นั่นคือ Paper

 

paper

สิ่งแรกที่ยากพูดถึงคือฟังก์ชั่น Facebook ในแอพ Paper ที่เรียบหรูอลังการ ดูแล้วเหมือนอ่านแมกกาซีน มากกว่า  News Feed ตามปกติ โดยจะดึงภาพไฮไลต์ล่าสุดขึ้นมาเป็น Cover หรือปก ส่วนด้านล่างก็จะเป็นสถานะของเพื่อนคนอื่นๆ โดยยังคงสามารถกด Like, Share, Comment ได้เช่นเดียวกัน รวมถึงแชตได้อีกด้วย

paper1

IMG_0598

 

เพิ่มลูกเล่นการชมภาพบน Facebook ด้วยการเอียงตัวเครื่องไปทางซ้าย หรือขวา เพื่อชมภาพในมุมมองที่ถูกบังอยู่ และจะแสดงภาพในความละเอียดสูงขึ้น

paper02
เอียงไปทางซ้าย เพื่อดูภาพฝั่งซ้าย เอียงไปทางขวาเพื่อดูภาพฝั่งขวา

 

การเข้าสู่เมนูตั้งค่าต่างๆ ในแอพ Paper ให้แตะสไลด์เลื่อนลงมา ก็จะเข้าสู่เมนูหลัก ให้เราตั้งค่าต่างๆ ได้

paper9

 

 

เราสามารถเลือกหมวดข่าวต่างๆ ตามที่เราต้องการ และจัดวางเรียงตามลำดับในหน้า Paper ได้อีกด้วย โดยมีประเภทข่าวให้เลือกกว่า 19 หมวด ทั้งข่าวบันเทิง,ไอที,แฟชั่น รวมถึงหมวด Headlines ที่เป็นข่าวด่วน ข่าวเด่นจากทั่วโลก โดยการเลือกหมวดข่าวไปวางใน Paper นั้น จะทำให้เีราสามารถติดตามข่าวสารเฉพาะที่เราสนใจได้ ซึ่งทำให้ผู้ใช้ไม่ถูกรบกวนจากข่าวอื่นๆ

paper11

 

หน้ารวม Paper ก็จะสามารถสไลด์บนภาพ Cover เพื่อเลื่อนดูในหมวดอื่นๆ ตามที่เราเลือกไว้ได้ (รวมถึงหน้า Facebook) และสามารถเข้าสู่ลิงค์ข่าวเพื่ออ่านต่อ ด้วยการแตะหรือสไลด์ขึ้นบนข่าวนั้นได้ทันที โดยให้อารมณ์การใช้งานเหมือนการเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ดีนะ

paper01

 

สำหรับใครที่รอไม่ไหว เพราะตอนนี้ปล่อยให้โหลดที่อเมริกาเท่านั้น  ก็สามารถสมัคร Apple ID US ได้ ดูขั้นตอนการสมัคร (ลองเปลี่ยนเป็นประเทศสหรัฐอเมริกาดูนะคะ)

 

[youtube link=”http://youtu.be/J71ciw1gekk” width=”590″ height=”315″]

Facebook Paper รวมฟีดข่าวและโซเชียล ในสไตล์ Storytelling

Facebook-paper-01

Facebook ประกาศข่าวเตรียมเปิดตัวแอพ Paper สำหรับ iPhone แอพพลิเคชั่นล่าสุดที่จะออกมาเอาใจคนชอบอ่านข่าวโดยเฉพาะ ด้วยฟีเจอร์ที่มาในสไตล์คอนเซ็ปของ Storytelling ที่นำเสนอเรื่องราว ข่าวสารต่างๆ จากโซเชียลเน็ตเวิร์ค ได้อย่างสวยงาม โดยใช้ลูกเล่นการพลิกหน้าจอที่คล้ายกับการเปิดอ่านหนังสือพิมพ์ ดูๆ แล้วก็เหมือนกับแอพ Flipboard นั่นเอง ไปดูกันเลยครับว่ามีอะไรที่โดดเด่นกันบ้าง
แสดงสถานะ รูปภาพที่เพื่อนๆ แชร์ ในรูปแบบใหม่ที่จัดเรียงร้อยเป็นเรื่องราว คล้ายๆ กับ Flipboard

Facebook-paper-02

 

เวลาดูรูปสามารถที่จะเอียงเครื่องซ้าย ขวา เพื่อดูภาพในมุมมองที่เหลือได้

Facebook-paper-03

 

รูปในอัลบั้มจะถูกจัดเรียงภาพลงมาให้เพื่อนสามารถลากดูได้

Facebook-paper-04

 

ไฮไลต์ที่สุดของ Facebook Paper ก็คือศูนย์รวมข่าวจากแหล่งข่าวอันดับต้นๆ ของโลก โดยจะมีหลากหลายหมวดให้เลือก และสามารถเปิดอ่านได้ง่าย เพียงเลื่อนหน้าขึ้น ลง หรือ เลื่อน ซ้าย ขวา เพื่อให้ความรู้สึกเหมือนพลิกหน้าหนังสือพิมพ์

Facebook-paper-05

 

เลือกหมวดข่าวที่ต้องการได้ โดยมีมาให้กว่า 19 หมวด ทั้ง เฮดไลน์ข่าว, เทคโนโลยี, ตลก, อาหาร ฯลฯ
Facebook-paper-07

 

และแน่นอนว่ายังคงสามารถโพสต์รูป โพสต์สถานะต่างๆ ได้เหมือนกับ Facebook เช่นเดียวกัน จึงทำให้แอพ Paper อาจจะมาแทนที่แอพ Facebook ตัวเก่าไปเลยก็ได้

Facebook-paper-08

แอพ Paper จะเริ่มปล่อยให้ดาวน์โหลดผ่าน App Store ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์นี้ เฉพาะผู้ใช้ iPhone เท่านั้น ส่วนระบบปฏิบัติการอื่น อาจจะต้องรอกันไปก่อน

 

ดาวน์โหลด Facebook Paper for iPhone 
ชมคลิปแนะนำแอพ Paper

[youtube link=”http://youtu.be/IhrbT9O6kW8″ width=”590″ height=”315″]

Source : Facebook Paper

 

[Tips] เปลี่ยน Theme Facebook ด้วย Stylist in Chrome

ใน Chrome มีของเล่นเยอะเลย โดยเฉพาะ Plugin ตัวนี้ที่ชื่อว่า Stylist มันสามารถเปลี่ยน Theme Facebook ,Google หรือ Youtube บนหน้าบราวเซอร์ Chrome บนคอมพิวเตอร์ ทีนี้ก็เลยอยากโชว์วิธีเปลี่ยน Theme Facebook ให้ดูกันขำๆ ก่อน แล้วใครอยากเปลี่ยน Theme อย่างอื่นก็วิธีเดียวกันเลย เริ่มเลยละกัน

 

unnamed

 

 

ก่อนอื่นใครยังไม่มีบราวเซอร์ตัวนี้ไปโหลดกันก่อนได้เลย Download Chrome อันนี้โหลดได้ทั้ง Mac และ PC เลย

 

พอโหลดเสร็จเปิด Chrome ขึ้นมา เลือกไปที่  Store

theme

ทำไมหน้าตา Chrome เป็นแบบนี้เดี๋ยวมาเคลียร์

 

ขั้นตอนต่อมา ในช่อง Search พิมพ์คำว่า install stylist

theme2

 

 

จะเจอหน้านี้จะเห็นว่า Stylist มี 2 อัน มันเหมือนกันค่ะ เลือกเอาซักอัน แล้วกด Download ในภาพที่เห็นที่ไม่มีปุ่ม Download เพราะคนเขียนโหลดไปแล้วมันเลยขึ้นแบบนี้ แต่ตำแหน่งเดียวกันค่ะ ตรงปุ่มเขียวๆ

theme2.1

 

 

พอโหลดเสร็จแล้วดับเบิลคลิกที่ Stylist แล้วจะขึ้นมาหน้าที่เห็นนี้ มองไปด้านล่างจะเห็น Theme นั่น นี่ นู่น ให้เลือก เลือก Facebook Theme กดโหลดตรงคำว่า Free 

theme3

 

 

จะมีข้อความขึ้นมาอธิบายขั้นตอนการเปลี่ยน Theme จะลองอ่านดูก็ได้เพื่อความเข้าใจ อ่านจบ กด Get Started Now

theme4

 

 

ทางด้านบนขวาจะมีรูปตัว S กดเข้าไปเลย แล้วเลือก Find more styles for this site

theme5

 

 

Theme เต็มเบย เลือกเอาที่ชอบมาหนึ่งอันค่ะ แล้วกดไปที่ชื่อ Theme ที่เลือก

theme6

 

 

กด install with stylist

theme7

 

 

จะมีข้อความถามว่าจะใช้ Theme นี้ใช่มั้ย? กด OK

theme8

 

 

เสร็จแล้ว!!! ลองเข้าไปที่ facebook.com แล้ว Login เข้าไปตามปกติ เช็คดู

theme9

 

 

ทีนี้มาเคลียร์อันที่บอกไว้ 555 นั่นคือ Theme ของ Chrome ที่มันติดมากจาก Theme Google ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ แต่เมื่อยมือละ เลยอัดเป็นคลิปให้ดู วิธีเหมือนกันเลยจ้า

[youtube link=”http://youtu.be/6Wu0iqo7YxQ” width=”590″ height=”315″]

Buzzebees แอพโซเซียล พรีวิเลจ เพลตฟอร์ม ต้นแบบความสำเร็จของบริษัท Start up ที่หันมาเลือกใช้ คลาวด์ เซอร์วิสจาก Windows Azure

Microsoft Thailand and Buzzebees

วันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ได้รับข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเรื่องของ Cloud Service ซึ่งทางไมโครซอฟต์ประเทศไทย ได้จัดแถลงข่าวกลุ่มย่อยให้กับสื่อมวลชนได้รู้จักกับ Windows Azure มากยิ่งขึ้น ซึ่งในงานนี้ก็ได้นางเอกจาก Buzzebees (บัซซี่บีส์) แอพพลิเคชั่นสะสมแต้มแลกของรางวัลจากการคลิกไลค์บน Facebook ที่ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วที่มีผู้ใช้งานกว่า 2 ล้านคน ภายในเวลา 1 ปี ที่นำทีมโดยคุณณัฐธิดา สงวนศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด มาแชร์ประสบการณ์ถึงเส้นทางความสำเร็จในครั้งนี้อีกด้วย

 

Buzzebees คืออะไร?
จากที่เกริ่นไว้แล้ว ว่าแอพ Buzzebees คืออะไร เรามาทำความรู้จักกับแอพตัวนี้ให้มากขึ้นอีกนิด โดยเจ้าแอพตัวนี้เป็นการผสมผสานระหว่างโซเชียลมีเดีย รอยัลตี้โปรแกรม และอีคอมเมิร์ช เข้าด้วยกัน ด้วยแนวคิดที่กระตุ้นให้ผู้ใช้ Facebook ที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ได้เข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ผ่านแอพ Buzzebees ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ แชร์ข้อความ รูปภาพ กด Like หรือแสดงความคิดเห็น รวมถึงการชวนเพื่อนเข้าร่วมกิจกรรมด้วย โดยผู้ใช้จะได้รับคะแนนเป็นการตอบแทน หลังจากนั้นจะสามารถนำคะแนนเหล่านี้ไปใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้า หรือใช้บริการ รวมถึงลุ้นรับของรางวัลได้ฟรีจากธุรกิจที่เข้าร่วม โดยรองรับทั้ง Android และ iOS หรือจะเข้าผ่านหน้าเว็บไซต์ www.buzzebees.com ก็ได้ ส่วนแอพบน Windows Phone จะเปิดให้บริการประมาณ ต้นปีหน้า

buzzebees

นอกจากที่จะทำแอพของตัวเองด้วยแล้ว Buzzebees ยังได้รับทำแอพให้กับองค์กรต่างๆ อีกด้วย โดยใช้แพลตฟอร์มของแอพตัวเองเป็นต้นแบบ ไม่ว่าจะเป็น AIS Privilege, Samsung Galaxy Gift, Galaxy Social Plus, Kimheng Gold และล่าสุดอย่าง SingTel จากสิงคโปร์ก็หันมาใช้แพลตฟอร์มนี้ในการเพิ่มมูลค่าให้บริการของธุรกิจตัวเองอีกด้วย

 

เส้นทางสู่ความสำเร็จ

Nattida Sanguansin - Buzzebees. Co. Ltd.
คุณณัฐธิดา เล่าให้ฟังว่า จากที่เริ่มทำแอพ Buzzebees ที่เป็นแพลตฟอร์มต้นแบบของโซเีชียล พริวิเลจ เราได้ตั้งเป้าหมายแต่แรกว่าจะต้องก้าวไปยังต่างประเทศให้ได้ ดังนั้นจึงต้องหาพาร์ทเนอร์ที่เป็นบริษัทใหญ่ระดับโลกให้ได้ โดยเราได้ลองเข้าไปนำเสนอโซลูชั่นนี้ให้กับทาง Samsung ซึ่งถือเป็นจังหวะที่พอดีมากที่ทางซัมซุงกำลังอยากทำแคมเปญมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าพอดี เราจึงได้มีโอกาสร่วมงานกับทางซัมซุงโดยรับทำแอพ Samsung Galaxy Gift ที่มีแคมเปญให้ลูกค้าซัมซุงจองตัวคู่กรรมผ่านแอพได้ฟรี ทำให้ขณะนั้นมีคนจองตั๋วเข้ามากว่า 20,000 คน ภายใน 1 วินาที ซึ่งถือว่ามี Hit Rate ที่สูงมาก ทำให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จมากๆ เลยทีเดียว

 

ซึ่งการจะทำให้ระบบรองรับการใช้งานสูงๆ ในเวลาเดียวกันได้นั้นจะต้องมีระบบที่มีเสถียรภาพมาก โดยเราเลือกใช้ระบบ Cloud Service ของ Microsoft Windows Azure ซึ่งช่วยในการประหยัดต้นทุนโดยที่จะไม่ต้องลงทุนระบบ Server หรือโครงสร้างพื้นฐา่นด้านไอทีเองทั้งหมด ซึ่งถือเป็นทางออกที่คุ้มค่าสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ Start Up ต่างๆ ที่กำลังเติบโตอยู่ในขณะนี้

 

หากถามว่าทำไมถึงเลือกใช้บริการคลาวด์เซอร์วิสจาก Windows Azure ต้องบอกว่าเรามองถึงการขยายตลาดในต่างประเทศเป็นสำคัญ ดังนั้นจึงเหลือผู้ให้บริการเพียง 2 เจ้า คือ Microsoft Windows Azure และ Amazon Web Service ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบความต้องการทางเทคนิคที่เหมือนกัน ปริมาณโหลดเท่ากัน และความง่ายในการใช้งาน Windows Azure นั้นใช้งานได้ง่ายกว่า ช่วยให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญ การเลือกเป็นไลเซ่นส์ Enterprise Agreement (EA) นั้นมีความคุ้มค่ามาก ด้วยค่าใช้จ่ายที่น้อยกว่าครึ่งหนึ่ง จึงทำให้ตัดสินใจได้ทันที

 

อนาคตจะเป็นอย่างไร?
Buzzebees ยังมีแผนที่จะขยายไปยังกลุ่มผู้ใช้ในโซเชียลมีเดียแำพลตฟอร์มอื่นๆ และการเติบโตของตลาดภายในประเทศ ทั้งจำนวนสมาชิก จำนวนธุรกิจที่จะใช้บริการ Privilege CRM Application และจำนวนธุรกิจที่จะเข้ามาร่วมในส่วน E-Commerce ที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นอีกมากจากตลาดต่างประเทศ

 

นอกจากนี้ยังมีการต่อยอดเป็นแอพ adBuzz เืพื่อนำยอดสมาชิกกว่า 2 ล้านคน มาต่อยอดทางธุรกิจ โดยเฉพาะในวงการสื่อและโฆษณา ซึ่งประยุกต์หลักการคล้ายๆ กัน คือสมาชิกที่ชมโฆษณา จะได้คะแนนสะสมเพื่อแลกของรางงวัล หรือรับสินค้าตัวอย่าง ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดได้แล้ว

 

สรุปข้อมูลที่น่าสนใจของ Windows Azure ตั้งแต่เปิดตัวในปี 2553

 

• ในแต่ละวัน มีลูกค้ากว่า 1,000 ราย ลงทะเบียนใช้งาน Windows Azure
• ปัจจุบัน มีลูกค้ากว่า 200,000 ราย ใช้ Windows Azure
• สำหรับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก Windows Azure (ซึ่งรวม IaaS บริการด้านโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure as a Service) และ PaaS (บริการด้านแพลตฟอร์ม Platform as a Service) เติบโตถึง 3 เท่า ซึ่งเร็วกว่าอัตราการเติบโตของตลาดโดยรวม
• ไอดีซี ได้คาดการณ์ตัวเลขการใช้บริการคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น) ในปี 2556 ไว้ที่ 5,300 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ภายในปี 2560
• คาดว่าธุรกิจ IaaS (Infrastructure as a service) และ PaaS (Platform as a service) จะเติบโต 25 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2560 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น)
• สำหรับในประเทศไทย ปัจจุบันมีลูกค้าที่หันมาใช้บริการ Windows Azure แล้ว 800 ราย โดยมีรายได้เติบโตสูงถึง 400 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ธุรกิจในประเทศไทยที่ใช้ Windows Azure อาทิ
บริษัท อุ๊คบี จำกัด ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจสิ่งพิมพ์ดิจิตอลบนโปรแกรมที่ชื่อ อุ๊คบี (Ookbee) บนระบบคลาวด์ วินโดว์ อาชัวร์ จนเติบโตเป็นร้าน E-bookstore ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
บริษัท Semantic Touch ผู้ให้บริการด้านเครื่องมือการทำตลาดด้าน อี-คอมเมิร์ซ บนโซเชียล เน๊ตเวิร์ค อย่าง เฟซบุ๊ค ที่ชื่อ BentoWeb
บริษัท Computerlogy สตาร์ทอัพที่ดำเนินธุรกิจด้านการให้บริการ Social Media Management Tool ซึ่งเป็นบริษัทรายแรกและรายเดียวในเมืองไทยที่เป็น Facebook Preferred Marketing Developer ปัจจุบัน Computerlogy ได้ประกาศเข้าร่วมทุนและได้รับการสนับสนุน จากโครงการ InVent ของบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ INTOUCH อย่างเป็นทางการในวงเงิน 29 ล้านบาท
บริษัท บิลค์ ดอทคอม (Builk.com) ดำเนินธุรกิจให้บริการระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) บนเว็บเบสที่ใช้งานง่าย สำหรับผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยถึงขนาดกลาง เพื่อให้ลูกค้าใช้งานแอ็พพลิเคชั่นของบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วและเข้าใจง่าย
บริษัท Ecartstudio จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาและให้คำปรึกษาทางด้านระบบ Web-Based Application และระบบ Enterprise Location-Based Application แบบครบวงจร
เว็บไซต์ Thaicreate.com ชุมชนออนไลน์ของนักพัฒนาแอพลิเคชั่นที่ใหญ่ที่สุดในไทย