Facebook เตรียมเปิดฟีเจอร์ใหม่ ค้นหา Feeling เพลง, หนัง, รายการทีวี ได้ด้วยเสียง อัตโนมัติ ไม่ต้องพิมพ์

 

Facebook_feeling_01

 

 

แหล่มเป็ด เฟี้ยวฝุดๆ กับฟีเจอร์ใหม่ที่ Facebook กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ กับความสามารถในการเพิ่ม Feeling หรือใส่ความรู้สึกลงในสถานะ จากแต่เดิมจะเป็นเพียงไอคอน และเราต้องพิมพ์ค้นหา หนัง เพลง หรือทำกิจกรรมอะไรอยู่ ด้วยตัวเอง

Facebook_feeling_02

 

 

แต่สำหรับฟีเจอร์ใหม่นี้ จะทำให้เราไม่ต้องพิมพ์ค้นหาเพลงหรือกิจกรรมเหล่านั้นอีกต่อไป คล้ายๆ กับแอพ Soundhound หรือ Shazam เพราะมันสามารถค้นหาได้ด้วยเสียง เพียงเลือกกิจกรรมที่เราอยากแชร์ เช่น ฟังเพลง แล้วเราก็ให้มันจดจำเสียงที่เรากำลังฟังอยู่ หรือในขณะที่เรากำลังดูหนังซีรี่ย์เรื่องโปรด ระบบจะทำการค้นหาเพลงหรือหนังเรื่องนั้นด้วยเสียงให้อัตโนมัติทันที โดยที่เราไม่ต้องพิมพ์ชื่อเพลงหรือชื่อหนังให้เสียเวลาอีกต่อไป

Facebook_Feeling_03

 

นอกจากนี้สำหรับเพื่อนที่เห็นโพสต์ Feeling ของเราก็สามารถไลค์ คอนเม้นต์ และฟังตัวอย่างเพลงหรือชมคลิปวิดีโอนั้นได้ 30 วินาที แต่ที่สำคัญอย่าได้สปอยล์ตอนจบของหนังไปบนสถานะอันนั้นล่ะ เพราะคลิปวิดีโอต่างๆ ที่แชร์จะเป็นเพลงไฮไลน์ตัวอย่างที่ชวนให้ติดตามต่อ ไม่งั้นอาจจะเกิดดราม่าตามมาที่เราแทนก็ได้นะครับ 555

A New, Optional Way to Share and Discover Music, TV and Movies from Facebook on Vimeo.

 

Facebook_feeling_04

 

สำหรับฟีเจอร์นี้จะเริ่มเปิดให้ใช้ได้ทั้ง Android และ iOS ภายในสัปดาห์นี้ แต่เริ่มเฉพาะที่อเมริกาก่อน
Source : Facebook Newsroom

 

เตือนภัย ใครใช้ Chrome อย่าติดตั้ง Emotion ลงใน Facebook ที่เพื่อนแชร์มาให้

 

block-emotion-spam-00

 

เดี๋ยวนี้ไม่เพียงแต่ไวรัสที่จะระบาดบนระบบปฏิบัติการ Windows แล้วนะครับ มันกลายพันธ์ุขยายไปถึงโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook แล้วอีกด้วย ซึ่งหากใครที่กำลังโดนเพื่อน Tag เชิญชวนให้ติดตั้งไอคอนอิโมชั่นบน Facebook อยู่ล่ะก็อย่าได้หลงเชื่อไปทำตามเลยนะครับ เพราะนั่นคือ Spam ของมิจฉาชีพที่หลอกให้เราติดตั้งปลั๊กอินบนเบราเซอร์ Google Chrome เพื่อนำไลค์ของเราไปหลอกขายต่อ หากใครโดนติดตั้งไปแล้วก็ไม่ต้องกลัว สามารถลบปลั๊กอินตัวนี้ออกได้ครับ

 

ปลั๊กอินที่ระบบแอบหลอกให้ติิดตั้งคือ Tampermonkey หน้าตาเป็นแบบนี้นะครับ
block-emotion-spam-01

 

วิธีลบปลั๊กอินตัวนี้
1. คลิกที่ไอคอน list ขวาบน

2. เลือก Tools (เครื่องมือ)

3. เลือก Extensions (ส่วนขยาย)

block-emotion-spam-02
 
4. คลิก icon ถังขยะ ของ Extension ที่จะลบ

block-emotion-spam-03
 
5. กด Confirm (ลบออก) เพื่อลบ Extension ตัวดังกล่าว

 

แล้ว ปิด chrome เปิดใหม่ครับ
แต่เขาแถมของมาด้วยคือคุณได้ไป like page ที่เขาเตรียมไว้ให้ไปกด ดังนั้นให้เลิกติดตาม (Unfollow) ของ 3 Facebook Profile และ 2 รายชื่อ (List ) ดังนี้

• http://www.facebook.com/profile.php?id=100002022403514

• http://www.facebook.com/profile.php?id=100008016253113

• http://www.facebook.com/profile.php?id=100008056571539

• https://www.facebook.com/lists/603268919750516

• https://www.facebook.com/lists/602731359804272

 
Source : Pantip
 

Facebook ซื้อ Oculus VR มูลค่า 2 พันล้านเหรียญ หวังต่อยอดโซเชียลสู่โลกเสมือนจริง Virtual Reality

 

Nov. 14, 2011 - Irvine, California, U.S. - Oculus VR founder Palmer Luckey, 20, right, is the inventor of a virtual reality gaming headset that aims to be the next generation video game console. Oculus, based in Irvine, raised  $2.4 milliion on Kickstarte

 

เป็นอีกหนึ่งข่าวใหญ่บนหน้าเว็บข่าวออนไลน์ทั่วโลก สำหรับการที่ Facebook เข้าซื้อ Oculus VR ด้วยมูลค่า 2 พันล้านเหรียญ ที่เป็นบริษัทผลิตเครื่องสร้างภาพเสมือนจริงแบบ Virtual Reality ที่ให้เราเห็นภาพแล้วเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นจริงๆ

 

สำหรับการเข้าซื้อ Oculus VR ในครั้งนี้ Mark Zuckerberg ได้โพสต์บน Facebook ของเขาเพื่ออธิบายถึงเหตุผลว่า เราอยากที่จะสร้างความบันเทิงและประสบการณ์ส่วนตัวให้ล้ำยิ่งขึ้น ซึ่งการที่มีเทคโนโลยีเสมือนจริงเกิดขึ้นมาอย่าง Oculus Rift headset ที่เมื่อเราได้สวมใส่เข้าไปก็จะสามารถทำให้ได้สัมผัสกับบรรยากาศเสมือนจริงที่ถูกสร้างด้วยคอมพิวเตอร์ และที่สำคัญมันสามารถสร้างเกมให้ตัวละครเข้ามาอยู่ในสถานที่เสมือนจริงได้อีกด้วย ซึ่งนี่ก็เป็นเป้าหมายแรกๆ ที่น่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และ Facebook จะสนับสนุนให้นักพัฒนาที่มีความสนใจมากอยู่แล้วได้มาร่วมต่อยอดให้เกิดกลุ่มสังคมเกมแบบ Virtual Reality

 

หลังจากนั้นถัดไป สิ่งที่จะต้องเริ่มคือการใช้แพลตฟอร์ม Oculus ในการสร้างประสบการณ์ในการใช้งานที่แปลกใหม่ยิ่งขึ้น เช่น ใช้ในการเรียนการสอน, ใช้ปรึกษาหมอที่สามารถเห็นกันแบบต่อหน้าต่อตาเหมือนเจอกันจริงๆ โดยที่ยังอยู่ภายในบ้านหรือที่ไหนก็ตาม

or

 

Mark Zuckerberg ยังบอกอีกว่า ระบบ Virtual Reality จะเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มของคอมพิวเตอร์ในอนาคต ซึ่งอาจรวมถึงคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และอุปกรณ์พกพาต่างๆ นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสทองของเครือข่ายการสื่อสารแบบเสมิือนจริง ที่สามารถจะซื้อสินค้าได้แบบเสมือนจริง หรือรูปแบบโฆษณาก็จะแปลกใหม่มากยิ่งขึ้น

 

เรียกว่าเป็นยุคทองของพี่มาร์คเค้าเลยนะครัสสสส หลังจากที่เฮียแกซื้อ WhatsApp ไปไม่นานยังไม่ทันเห็นว่าจะนำมาผนวกกันยังไง ก็จ่ายให้กับ Oculus VR อีกแล้ว สงสัยงานนี้เราอาจจะได้เห็นการรวมระหว่าง โซเชียลเน็ตเวิร์คอันยิ่งใหญ่ กลายร่างทราสฟอเมอร์เป็นระบบแชตโซเชียลที่สามารถเห็นตัวกันแบบเสมือนจริงเลยก็เป็นได้นะครับ…

 

ชมคลิป Oculus Rift

 

Source : engadget, facebook Mark Zuckerberg

 

Facebook เผยยอดผู้ใช้แอพทะลุ 1 พันล้านคน ส่วน Instagram ก็ไม่น้อยหน้าจัดเต็มไปอีก 200 ล้านคน

 

mark-facebook
ล่าสุดจากงานแถลงข่าวที่ Facebook เข้าซื้อ Oculus Rift (อุปกรณ์สร้างภาพเสมือน Virtual reality) ที่มาร์คของเราได้เผยถึงข้อมูลว่าในขณะนี้มีผู้ใช้งานแอพ Facebook บนสมาร์ทโฟนต่างๆ ถึง 1 พันล้านคน ต่อเดือน เพิ่มขึ้นจากเดิม 945 ล้านคนเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

 

Nov. 14, 2011 - Irvine, California, U.S. - Oculus VR founder Palmer Luckey, 20, right, is the inventor of a virtual reality gaming headset that aims to be the next generation video game console. Oculus, based in Irvine, raised  $2.4 milliion on Kickstarte
Oculus Rift อุปกรณ์สร้างภาพเสมือนจริง

 

นอกจากนั้นพี่มาร์ค ยังบอกอีกว่า ในขณะนี้ Instagram มียอดผู้ใช้กว่า 200 ล้านคน ซึ่งเพิ่มขึ้นหลังจากที่ Facebook ได้เข้าซื้อกิจการไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จากเดิมเพียง 100 ล้านคน  แสดงให้เห็นได้ว่า Facebook ประสบความสำเร็จในการสร้างสังคมออนไลน์ให้เกิดขึ้นทั่วโลกได้อย่างครบวงจร และการเข้าซื้อ Oculus Rift ก็เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ในการต่อยอดแล้วสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการ Social Network ที่ยิ่งใหญ่ของโลก

 

Source : theverge

 

Facebook จัดเวิร์คช้อปเสริมศักยภาพเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตผ่านออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง

 

SME Success with Facebook (1)

 

Facebook จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี (Small and Medium Enterprises; SMEs) ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในไทย ด้านการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจจากการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ

 

กิจกรรมเวิร์กช็อปดังกล่าวมีผู้บริหารระดับภูมิภาคจาก Facebook และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีซึ่งประสบความสำเร็จด้วยการใช้ Facebook ได้แก่ พีชชี ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก และ Sleeping Pills แบรนด์แฟชั่นชื่อดัง ร่วมแบ่งปันกลยุทธ์ความสำเร็จ

 

ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของผู้ใช้ Facebook อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง โดยมีผู้ใช้งานมากถึง 24 ล้านคนต่อเดือน และสูงถึง 16 ล้านคนต่อวัน (ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2556)

 

คุณแอร์โรว์ กัว หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SMBs กลุ่มประเทศ Greater China และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Facebook กล่าวถึงการโฆษณาบน Facebook ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศไทยว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญอันดับต้นสำหรับ Facebook ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 24 ล้านคน หรือเกือบร้อยละ 40 ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดยมีจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีมากถึงเกือบ 3 ล้านราย จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับเราในการสนับสนุนภาคธุรกิจให้ได้รับประโยชน์จากการใช้แพลตฟอร์มของ Facebook อย่างเต็มที่ เนื่องจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถใช้การโฆษณาบน Facebook และฟีเจอร์อื่นๆ ของเราในการเติบโตธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่”

SME_Facebook
คุณแอร์โรว์ กัว หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SMBs กลุ่มประเทศ Greater China และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Facebook

 

“เทรนด์การสื่อสารในปัจจุบันกลับมาให้ความสำคัญต่อการตลาดแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น จากการที่เราสามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งาน การสื่อสารที่สามารถเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวาง และการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน Facebook จึงมุ่งพัฒนาการสื่อสารทางการตลาดแบบเฉพาะบุคคลอีกครั้ง” คุณแอร์โรว์กล่าว

 

กิจกรรมเวิร์กช็อปนี้ยังได้รับเกียรติจากสองผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีไทยที่ประสบความสำเร็จมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การใช้ Facebook เพื่อการส่งเสริมด้านการตลาดอีกด้วย

 

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีบน Facebook


คุณนภัสกร วิบูลย์ศรีสัจจะ Account Manager ประเทศไทย ร่วมแบ่งปันเคล็ดลับในการทำธุรกิจบน Facebook

 

1. ขั้นแรก คือการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์
ดำเนินกลยุทธ์การตลาดออนไลน์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยสร้างตัวตนให้แก่ผลิตภัณฑ์ของคุณ ผ่านภาพหน้าปกและภาพประจำตัว เน้นเน้นข้อมูลที่มีประโยชน์และสำคัญใน ‘about’ และหมั่นอัพเดตข้อมูล อยู่เสมอ รวมถึงแจ้งเหตุการณ์สำคัญของธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ กิจกรรมต่างๆ เมื่อคุณมีเพจ Facebook คุณสามารถดำเนินกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ได้ทันที
2. ขั้นที่สอง คือเชื่อมต่อกับลูกค้าของคุณ
ใช้โฆษณาบน Facebook ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าปัจจุบันและดึงดูดลูกค้าใหม่ โดยต้องแสดงผลิตภัณฑ์และบริการให้ชัดเจน หมั่นอัพเดตข้อมูลใหม่ๆ เสมอและสอดคล้องกับแบรนด์สินค้าด้วย เชื่อมโยงกับแฟนๆ ผ่านกิจกรรมการโหวต หรือเกมส์คำถามต่างๆ การโพสต์สม่ำเสมอในช่วงเวลาที่เหมาะสม และควรวางแผนกลยุทธ์การโพสต์ที่ผสมผสานรูปแบบต่างๆ กัน รวมถึงการใช้เครื่องมือกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำเพื่อสร้างฐานลูกค้า
3. ขั้นที่สาม คือการประเมินผลและปรับปรุง
ใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่บน Facebook เพื่อเข้าใจ “แฟน” ของแฟนเพจคุณ
เกี่ยวกับอาหารเสริมสำหรับเด็ก พีชชี
คุณเจมี่ โรแลนด์-โจนส์ กรรมการผู้จัดการ Peachy ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมพร้อมรับประทานสำหรับทารกและเด็กเล็ก กล่าวว่า “นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2555 เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเราคือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในฐานะผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่ง ในใจของลูกค้าในประเทศไทย Facebook จึงเป็นช่องทางที่สำคัญอย่างยิ่งในการสื่อสารไปยังลูกค้าของเราโดยตรง นอกจากนี้ยังช่วยให้เรากำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการสื่อสาร โดยร้อยละ 90 ของผู้ที่ถูกใจบน Facebook ของเราเป็นผู้หญิงอายุ 18-44 ปี ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นอย่างมาก”

 

เกี่ยวกับ Sleeping Pills
คุณศิวัจน์ จารุกิจไพศาล กรรมการผู้จัดการและครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ ของ Sleeping Pills กล่าวว่า “ในระยะแรกที่เริ่มก่อตั้งธุรกิจขึ้นมา ความท้าทายสำคัญคือการหาช่องทางที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีที่สุดและทำให้เราแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ และเมื่อเราเริ่มกลยุทธ์ด้านการตลาดบน Facebook เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง โดย Facebook ช่วยให้รายได้ที่ขายผลิตภัณฑ์ผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน”

 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถเยี่ยมชมไมโครไซต์ของ Facebook ที่รวบรวมกลวิธีในการใช้ Facebook ให้ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะส่วนประกอบทางการตลาดที่สำคัญของแบรนด์ ได้ที่ https://www.facebook.com/business

 

[Tips] วิธีย้าย Contacts จาก iPhone ไป Android ด้วย Facebook หรือ Twitter

ไม่ต้องหนักใจถ้าเกิดเปลี่ยนใจจาก iPhone ไปใช้ Android  ไม่ต้องกลัว  Contacts จะหาย เพราะเราอยู่ในยุค Cloud นี่นา ไม่ต้องใช้สายเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ให้วุ่นวาย วิธีง่ายๆคือ สำหรับคนที่ใช้ iPhone น่าจะแทบทุกคนต้องมี  Facebook Account หรือไม่ก็ Twitter Account 
 
 

เข้าไปที่ Settings>Facebook  แตะตรง Update All Contacts

contact1

 
 

 แค่นี้ก็เสร็จแล้วสำหรับคนที่จะเก็บ Contacts ไว้ใน Facebook ส่วนคนที่อยากเก็บ Contacts ไว้ใน Twitter ก็ใช้วิธีเดียวกัน

 
 

Settings>Twitter แตะที่ Update Contacts

contact2

 
 

เวลาจะย้ายมา Andriod ก็ไปที่ Settings>Account จะเจอหัวข้อ Add an Account เลือกอันใดอันหนึ่งระหว่าง Facebook กับ Twitter หลังจาก Login เข้าไปแล้ว Contacts จาก iPhone   ก็จะย้ายมา Android ทันที

contact3

ไปซะแล้ว Facebook Email..RIP

หลังจากที่ Facebook พยายามให้ผู้ใช้งาน Facebook ได้ใช้ Email ของ Facebook ด้วย ซึ่งก็คือ @fb.com ตั้งแต่ปี 2010 แต่ไม่ประสบความสำเร็จ

facebook_email

 

 

จริงๆ พี่มาร์กก็แค่อยากให้เราใช้แอคเคาท์ที่เป็น Email ของ Facebook อะนะ แต่สมัยนี้ใครเค้าใช้ Email กันคะพี่มาร์ก ก็พี่มาร์กเล่นทำ Messenger มาด้วยใครมีอะไรเค้าก็ inbox ส่งหากันง่ายกว่านะ แต่พี่มาร์กคิดได้แล้วก็ให้อภัยค่ะ จบนะ

 

 

บ๊ายบาย Facebook Email

 

Source: Gigaom

[MWC 2014] WhatsApp เพิ่มการสนทนาด้วยเสียง เริ่มใช้จริงเมษายนนี้

whatsapp-logo-1
 
หลังจากที่ WhatsApp ผู้ให้บริการส่งข้อความรายใหญ่ของโลก ได้ตกลงปลงใจไปเป็นเจ้าสาวของ Facebook ด้วยราคา 19,000 ล้านดอลล่าร์ ได้เพียงไม่กี่วัน ก็ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์การสนทนาด้วยเสียง Voice calls โทรฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย บริการใหม่ที่กำลังจะเปิดให้ใช้งานในเร็วๆ นี้
 
ที่งาน MWC 2014 เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน Jan Koum CEO ของ WhatsApp ได้กล่าวถึงบริการใหม่ สนทนาด้วยเสียง Voice calls นั้นเป็นบริการที่ต้องการเชื่อมต่อผู้ใช้งานจากทั่วโลกสามารถติดต่อถึงกันได้ ทั้งการส่งข้อความและสนทนาด้วยเสียง โดยจำนวนผู้ใช้ 465 ล้านรายต่อเดือน และจำนวนผู้ใช้ 330 รายต่อวัน และยอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้น 15 ล้านคนหลังจากที่ไปอยู่บ้านเดียวกับ Facebook
 
Jan Koum ยังกล่าวอีกว่า ผู้ใช้อุปกรณ์แพลตฟอร์ม Android และ iOS จะได้รับสิทธิใช้บริการสนทนาด้วยเสียงในเดือนเมษายนนี้ ต่อจากนั้นผู้ใช้อุปกรณ์ Nokia และ BlackBerry ก็จะสามารถใช้งานได้ในช่วงเวลาถัดไป โดยบริการใหม่นี้จะสามารถสนทนากันได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายด้วย เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนที่คุณรัก ได้ทุกที่ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก
 
อีกไม่นานเกินรอ สาวก Android และ Apple ก็จะได้ใช้บริการโทรฟรีกันแล้ว
 
source ; slashgear
 

[Tips] ใคร Unfriend ใครใน Facebook เดี๋ยวรู้

เคยมีคนบอกว่า การเมืองและศาสนา อย่าเอามาพูดกัน เท่าที่เห็นเป็นกระแส ใน Facebook เลือดการเมืองพุ่งปรี๊ดดดกันในระดับ 56 MB ใครพูดผิดหูหน่อยถึงกับ  Unfriend  กันเลยทีเดียว ทีนี้ก็เลยมีปลั๊กอินมาฝาก สำหรับคนที่เล่น facebook ผ่านบราวเซอร์ IE, Chrome, Firefox สามารถติดตั้งปลั๊กอินตัวนี้ได้เลย Unfriend Alerts ถูกใคร Unfriend จะได้รู้ไง
 
 
ก่อนอื่นเข้าไปที่บราวเซอร์ ในที่นี้ใช้ Chrome เข้าไปใน Store>Extensions>Search คำว่า Unfriend Alerts  คลิกไปที่คำว่า Free เลย

2014-02-20_18-01-01
 
 
จะมีข้อความถามว่า Add Unfriend Alerts ? เลือก Add

unfriend2

 

 

เสร็จเรียบร้อยจะมีข้อความขึ้นมาบอกว่าเราได้ Add Unfriend Alerts เรียบร้อยแล้ว

unfriend3

 

 

ลองเข้าไปที่หน้า Facebook  ดู เราจะเห็นสัญลักษณ์ Unfriend Alerts ขึ้น เวลามีใคร Unfriend ก็จะขึ้นตรงนี้แหละ

unfriend4

 

 

ง่ายดีมั้ย ? ลองทำดูกันโลด

ตื่นเต้น!! facebook ซื้อ WhatsApp ไปแล้ว

facebook-whatsapp-logo01
 
Facebook ได้ตกลงซื้อ WhatsApp โปรแกรมรับ-ส่งข้อความยอดนิยม ไปในมูลค่า 19,000 ล้านดอลลาร์ (คิดเป็นเงินไทยก็ประมาณ 660,000 ล้านบาท) โดยจะแบ่งจ่ายเป็นเงินสด 4,000 ล้านดอลลาร์ และจ่ายเป็นหุ้นอีก 12,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Facebook ยังได้จ่ายหุ้น restricted stock แยกต่างหากเพิ่มอีก 3,000 ล้านดอลลาร์ ให้กับพนักงานของ WhatsApp แต่ห้ามทำการขายก่อนครบ 4 ปี และ Jan Koum CEO ผู้ก่อตั้ง WhatsApp จะได้เข้าไปร่วมเป็นบอร์ดบริหารของ Facebook ด้วย
 
WhatsApp แอพรับ-ส่งข้อความยอดนิยมที่สามารถใช้งานได้ทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนผู้ใช้งาน WhatsApp มากถึง 450 ล้านคนต่อเดือน และมียอดผู้ลงทะเบียนใช้งานใหม่ 1 ล้านคนต่อวัน โดยอาจจะนำเข้ามาเสริมด้านสนทนาและส่งข้อความของ Facebook นั่นเอง
 
การตกลงซื้อ WhatsApp ในครั้งนี้ก็ต้องดูต่อไปว่า WhatsApp จะมาเสริมบริการ Facebook อย่างไรต่อไป?
 
source : theverge