ดีแทคเปิดบูธที่สนามบินสุวรรณภูมิแนะนำการใช้งานมือถือต่างประเทศก่อนท่องเที่ยวสงกรานต์

 

dtac_0807
 
ดีแทคเปิดบูธแนะนำบริการพร้อมแจกฟรีคู่มือเตรียมพร้อมใช้งานข้ามแดนอัตโนมัติที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริเวณอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ที่ประตู 8 ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับลูกค้าดีแทคที่ต้องการนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปใช้งานต่างประเทศอย่างสบายใจ โดยเฉพาะเทศกาลเดินทางท่องเที่ยวในช่วงวันหยุดสงกรานต์ เพื่อให้ได้รับคำแนะนำการใช้งานที่ถูกต้องป้องกันปัญหาค่าใช้จ่ายสูง การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นขณะอยู่ต่างประเทศ รวมถึงรหัสประเทศและหมายเลขติดต่อสถานทูตในต่างประเทศที่สำคัญ พร้อมแนะนำการตั้งค่าจากมือถือของลูกค้าดีแทค และดีแทค ไตรเน็ตอย่างถูกต้องเพื่อให้ใช้งานในต่างประเทศได้โดยไม่มีปัญหา และเปลี่ยนซิมการ์ดเพื่อให้รองรับการใช้งานในต่างประเทศสำหรับลูกค้าดีแทค ไตรเน็ต

 

สำหรับลูกค้าที่สนใจนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปใช้งานต่างประเทศ ดีแทคมีแพ็กเกจดาต้าโรมมิ่งแบบรายวัน ใช้งานได้ 25 MB ต่อวัน อัตรา 350 บาท หรือลูกค้าสามารถเลือกสมัครแพ็กเกจแบบ 7 วันใช้งานได้ 500MB ต่อ 7 วัน อัตรา 2,599 บาท ก่อนการเดินทางแต่ละครั้ง โดยทั้งสองแพ็กเกจครอบคลุมประเทศยอดฮิตทั่วโลก ใช้งานได้กับทุกเครือข่ายเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าดีแทครายเดือนที่ใช้งานโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นประจำ ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องกังวลกับการที่ต้องเลือกโอเปอร์เรเตอร์ในต่างประเทศ หรือต้องจำกัดการเลือกใช้เฉพาะเครือข่ายโรมมิ่งที่กำหนดไว้อีกต่อไป เป็นการเพิ่มความสบายใจให้กับลูกค้าที่นำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตเบอร์เดิมไปใช้งานประเทศต่างๆ ทั้งนี้ ลูกค้าต้องสมัครก่อนเดินทางโดยระบุวันใช้งานและประเทศตามที่กำหนด ถ้าไม่ได้สมัครแพ็กเกจหรือสมัครแพ็กเกจโดยแจ้งประเทศหรือวันที่ใช้งานไม่ตรงกับวันที่ใช้งานจริง จะถูกคิดอัตราปกติและจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงตามมาได้ ลูกค้าดีแทคที่สนใจสามารถติดต่อสมัครได้ที่ 1678 dtac call center หรือ สำนักงานบริการดีแทคทุกสาขา รวมทั้งสามารถศึกษาอัตราค่าบริการ ข้อมูลโปรโมชั่น และแพ็กเกจต่างๆ ได้ที่ www.dtac.co.th/tha/ir

 
ทั้งนี้ การนำสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตไปใช้งานต่างประเทศโดยเฉพาะการใช้งานดาต้า ควรเตรียมพร้อมด้วยการศึกษาการทำงานแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก่อนล่วงหน้า รวมถึงรูปแบบการเชื่อมต่อออนไลน์เพื่อการใช้งานดาต้าผ่านแอพพลิเคชั่น เพื่อช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนและป้องกันค่าใช้จ่ายที่สูงเกินจากการที่ใช้งาน ทั้งนี้วงเงินค่าบริการและแพ็กเกจการใช้งานดาต้าในประเทศ จะไม่ครอบคลุมค่าใช้บริการกรณีนำเครื่องไปใช้งานในต่างประเทศ ขณะใช้งานในต่างประเทศลูกค้าสามารถตรวจสอบปริมาณการใช้งานได้จาก SMS แจ้งเตือนการใช้งานดาต้าในต่างประเทศ ซึ่งทางดีแทคจะแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นระยะถึงปริมาณการใช้งาน (เมกะไบต์) หรืออัตราค่าใช้บริการ (บาท) โดยประมาณ ของดาต้าที่เกิดขึ้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ค่าใช้จ่ายสูงลูกค้าจึงควรหมั่นตรวจสอบว่าได้รับ SMS แจ้งเตือนแล้วหรือไม่ ส่วนการใช้แท็บเล็ตในต่างประเทศจะไม่สามารถรับ SMS แจ้งเตือนปริมาณการใช้งานได้จึงควรระมัดระวังการใช้งาน กรณีฉุกเฉินขณะเดินทางในต่างประเทศ สามารถติดต่อฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ dtac call center +662 202 8100 (ฟรีค่าบริการ) ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ http://www.dtac.co.th/help/form.html

 
สำหรับการดูแลลูกค้าดีแทคและดีแทค ไตรเน็ต ทั้งระบบรายเดือนและเติมเงินที่ใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ ทางดีแทคไม่ได้มุ่งแต่จะให้ความสำคัญกับการขยายการใช้งานให้ครอบคลุมประเทศต่างๆ ทั่วโลก และคิดแพ็กเกจในอัตราพิเศษให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ดีแทคยังมุ่งเน้นในการอำนวยความสะดวก เตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง และให้ความรู้ในการใช้งานอย่างถูกต้อง เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับการใช้งานโรมมิ่งในต่างประเทศด้วย ทั้งนี้ ลูกค้าที่สนใจคู่มือเตรียมพร้อมการใช้งานข้ามแดนอัตโนมัติสามารถดาวน์โหลดเพื่อศึกษาข้อมูลล่วงหน้าได้ที่ http://www.dtac.co.th/ducument-upload/roaming/download-ir.pdf

 

วิธีซื้อ SIM ไว้เล่นเน็ตที่ญี่ปุ่น

Japan_SIM_06

 

ช่วงนี้แอบเห็นใครๆ ก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน บ่องตง อิจฉาอย่างแรง แม้ว่าจะไม่ต้องทำวีซ่าเข้าญี่ปุ่นแล้วก็ตาม แต่นักเขียนธรรมดาๆ อย่างเราก็ยังไม่มีปัญญาจะได้ไปกับเค้าเสียที สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือนั่งอ่านคู่มือท่องเที่ยวญี่ปุ่น บิวท์อารมณ์ สร้างมโนฯ ให้ตัวเองไว้ก่อน พร้อมกับคลิกไลค์บนหน้าวอลล์ของชาวบ้านที่กำลังเพลิดเพลินอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ หรือกำลังซดราเมงร้อนๆ ให้เรายิ่งอิจฉาเข้าไปอีก แต่ไม่เป็นไรสักวันเราจะไปเหยียบดินแดนญี่ปุ่นให้ได้ ไฟล์ท โตะ!

 

สำหรับใครที่พร้อมและกำลังจะเดินทางไป OopsMobile มีสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดมานำเสนอ นั่นคือการซื้อซิมอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น เพื่อให้เราสามารถโพสต์ภาพ สร้างความอิจฉาให้เพื่อนๆ ผ่าน Facebook หรือ IG (Instagram) ได้ตลอดเวลา หรือจะเปิดโรมมิ่งไปจากเมืองไทยก็ได้ โดยข้อมูลทั้งหมดนี้ทางทีมงาน Dplus ได้ทดลองใช้จริงที่ญี่ปุ่นมาแล้ว เราจึงขอนำมาบอกต่อให้เพื่อนๆ OopsMobile กันบ้าง ซึ่งมีขั้นตอนอย่างไรนั้น ตามไปดูกันได้เลยครับ

 

ซื้อ SIM ไว้เล่นเน็ตที่ญี่ปุ่น

Japan_SIM_01

วิธีนี้ความจริงอาจมีซิมแบบนี้ให้เลือกหลายเจ้า แต่ที่คนไทยนิยมใช้กันคือ ของบริษัท B-Mobile ซึ่งเป็นซิมแบบ Prepaid จ่ายแล้วใช้ได้ตามเงื่อนไขที่กำาหนด (โดยสัญญาณจะวิ่งบนเครือข่ายของ Docomo อีกทีหนึ่ง) โดยปัจจุบันจะมีให้เลือกใช้สองแบบคือ

• แบบรับส่งข้อมูลได้ 1GB (1GB prepaid) ไม่ขึ้นกับว่าใช้กี่วัน และไม่จำกัดความเร็ว แบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ใช้มากๆ อัพรูป แชร์ เมนท์บ่อยๆ และอยากได้ความเร็วแบบเต็มๆ
• แบบใช้ได้ 14 วัน (14 days prepaid) โดยไม่จำกัดปริมาณข้อมูล แต่จำกัดความเร็วแค่ 300 k (หรือประมาณสองเท่าของระบบ Edge ที่ใช้กันก่อนจะมี 3G ในบ้านเรา) เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานไม่หนักและอยากประหยัดให้ใช้ได้หลายๆ วัน โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่รับซิมไปเลย

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
หน้าตาของชุด Micro SIM แบบเหมา 1 GB
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
แกะซิมใส่เครื่องแล้วใช้ได้เลย

 

ส่วนสมาร์ทโฟนที่รองรับกับซิมของเครือข่ายนี้ก็จะมี iPhone 5, iPhone 4S, iPad mini, iPad 2, iPad 3, The New iPad หรือเอาง่ายๆ ว่าสมาร์ทโฟนที่รองรับคลื่นความถี่?W-CDMA/HSDPA/HSUPA 2100 MHz หรือ 800 MHz ก็สามารถใช้งานเครือข่ายนี้ได้ แต่เมื่อดูรายชื่ออุปกรณ์ที่รองรับกลับไม่เห็นมี Samsung Galaxy S4 เลยอ่ะ อาจจะเป็นเพราะ Galaxy S4 มีขายแยกตามเครือข่ายก็เป็นได้เลยยังไม่ได้อัพเดทเพิ่มรายชื่อลงในรายการ ลองดูรายชื่ออุปกรณ์ที่รองรับได้ที่ลิงค์นี้ครับ
http://www.bmobile.ne.jp/english/devices.html

 

ซิมทั้งสองแบบนี้ราคาเท่ากันคือ 3,980 เยน หรือประมาณ 1,300 บาท โดยจะมีเฉพาะบริการเน็ต ไม่สามารถใช้โทรออกหรือส่ง SMS หรือ MMS ได้ ดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่เว็บ www.bmobile.ne.jp/english โดยจะต้องสั่งซื้อทางออนไลน์และชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น และรับซิมได้ที่สนามบิน หรือให้ส่งซิมไปรอที่โรงแรมที่พักในญี่ปุ่นเท่านั้นด้วย และเมื่อใช้จนครบตามเงื่อนไขแล้ว เช่น ครบ 1GB หรือครบ 14 วันก็จะใช้ต่อไม่ได้ นอกจากจะเติมเงินอีก 3,980 เยนก่อน ซึ่งจะเติมผ่านเว็บได้ที่ www.bmobile.ne.jp/english/visitor_charge.html

 

เปิดบริการใช้เน็ตไปจากเมืองไทย

หรือที่เรียกว่าบริการ Data Roaming ซึ่งมีให้เลือกทั้งสามค่ายคือ AIS, dtac และ Truemove H ในราคาพอๆ กัน วิธีนี้คุณใช้เครื่องและเบอร์เดิมได้เลย โดยก่อนจะใช้ถ้าไม่เคยเปิดบริการแบบนี้ไว้ก่อนเลย ก็ต้องไปแจ้งขอเปิดกับโอเปอเรเตอร์หนึ่งในสามค่ายนี้ก่อน จากนั้นเมื่อจะเดินทางจะต้องทำดังนี้

 

• AIS โทรแจ้งศูนย์ว่าจะเดินทางไปกี่วัน มีแพ็คเกจอะไรให้เลือกบ้าง แนะนำให้เลือกแบบ Unlimited คือไม่จำกัดปริมาณข้อมูล (จะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าจะเสียค่าบริการแพงเพราะใช้เกิน) โดยเลือกแพ็คเกจให้มีจำนวนวันที่ใกล้เคียงวันที่จะใช้ เช่นออกเดินทางไปตอนกลางคืน ไม่นับ นับเฉพาะวันที่อยู่ญี่ปุ่น ส่วนวันกลับถ้าออกแต่เช้าและคิดว่าจะไม่ใช้เน็ตก็ไม่ต้องนับ (แต่ตั้งแต่เที่ยงคืนก่อนหน้านั้นต้องอย่าลืมปิดการรับส่งข้อมูลหรือ Mobile data บนสมาร์ทโฟนของเราด้วยก็แล้วกัน) ค่าบริการจะตกเฉลี่ยวันละประมาณ 350-400 กว่าบาท (ไม่รวมค่าโทร) และต้องเลือกโอเปอเรเตอร์เป็น Softbank ด้วย (ห้ามปล่อยเป็น Automatic เด็ดขาด)

 

• Truemove Hถ้าเคยแจ้งขอเปิดใช้บริการ Data Roaming ไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ตาม จะสามารถนำโทรศัพท์และซิมเดิมไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้เลยโดยไม่ต้องแจ้งอีก พอเปิดเครื่องและใช้เน็ตก็จะเริ่มนับโดยอัตโนมัติและคิดค่าบริการเป็นวันๆ ไป ตกวันละ 300 กว่าบาท เพียงแต่ต้องเลือกโอเปอเรเตอร์ที่ญี่ปุ่นเป็น Docomo ให้ถูกเท่านั้น (ห้ามปล่อยเป็น Automatic เด็ดขาด) ทั้งนี้ Docomo เป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่งที่ญี่ปุ่น เท่าที่เคยใช้รู้สึกว่าความเร็วและความครอบคลุมจะดีกว่าอันดับสองคือ Softbank อยู่บ้าง

 

• dtac สำหรับการเปิด Data Roaming ของดีแทคมีขั้นตอนเหมือนค่ายอื่นๆ คือโทรไปสมัคร เลือกประเทศ และเลือกแพ็กเกจที่ต้องการ และระบุจำนวนวันที่จะใช้ สำหรับโอเปอเรเตอร์ที่ญี่ปุ่น หากใช้ dtac สามารถเลือกโอเปอร์เรเตอร์เป็น NTT และ Docomo (ห้ามปล่อยเป็น Automatic เด็ดขาด) ค่าบริการจะตกเฉลี่ยประมาณ 350 บาทต่อวัน (แพ็กเกจอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบราคาในเว็บของ DTAC เท่านั้น)

 

เช่าตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi

Japan_SIM_05

วิธีนี้จะใช้ตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi แบบพกพาได้ขนาดเล็กๆ (บางทีก็เรียก Pocket Wi-Fi หรือ Mobile Wi-Fi หรือ Mi-Fi ก็มี) ซึ่งรับส่งข้อมูลผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ แต่กระจายสัญญาณออกมาเป็น Wi-Fi ให้คุณใช้พร้อมกันได้หลายเครื่อง สามารถหาเช่าได้ โดยสั่งจองผ่านเว็บและรับของที่สนามบิน นอกจากนี้ยังมีระยะที่ใช้งานได้จำกัด คือทุกคนที่จะใช้ต้องอยู่ใกล้ๆ กันตลอดเวลา ถ้าใครเดินแตกแถวหรือแยกกัน เช่น ไปห้องน้ำ ก็จะใช้ไม่ได้

 

อุปกรณ์แบบนี้มักจะเปิดใช้งานได้ทันที และเมื่อใช้เสร็จแล้วก็มีซองให้ส่งไปรษณีย์คืนบริษัทให้เรียบร้อย แค่ใส่ซองแล้วนำไปหยอดตู้จดหมายเท่านั้น ลองดูที่ www.econnectjapan.com, www.rentafonejapan.com/Mobile-Internet.html, www.telecomsquare.co.jp/inbound/en, www.globaladvancedcomm.com

 

อย่างไรก็ตามควรอ่านเงื่อนไขการเช่าให้ละเอียด ในกรณีเครื่องหาย หรือชำรุด เราจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าจะซื้อประกันรวมไว้ด้วยก็ตาม

 

เอาล่ะครับก็ลองเลือกกันตามสะดวก ว่าเราจะใช้วิธีไหนให้สามารถเชื่อมต่อสู่โลกโซเชียลต่างๆ ได้แบบตลอดเวลาที่กำลังลั่นล้าท่องเที่ยวไปทั่วญี่ปุ่น หรือหากใครได้ลองใช้บริการที่นอกเหนือจากนี้ก็แชร์ประสบการณ์มาให้เราได้ทราบกันบ้างนะครับ ขอให้เที่ยวกันสนุกๆ นะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือฮอกไกโด คนเดียวก็เที่ยวได้