10 กันยายนนี้ สยบทุกข่าวลือของ iPhone 5S, iPhone 5C

iPhone5 event เมื่อปีที่แล้ว CR : cultofmac
iPhone5 event เมื่อปีที่แล้ว CR : cultofmac

ข่าวล่ามาเร็วจากเว็บไซต์ AllThingsD ได้เผยว่าในวันที่ 10 กันยายนนี้ แอปเปิ้ลจะมีอีเว้นท์พิเศษขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก iPhone 5S และ iPhone 5C ที่มีข่าวลือและภาพหลุดออกมาเป็นระยะๆ โดยงานนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ของแอปเปิ้ล เพราะในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว ก็เป็นการเปิดตัว iPhone 5 (เมื่อวันที่ 12 กันยายน ปี 55) ดังนั้นถึงเวลาที่จะออก iPhone รุ่นใหม่ตามรอบปกติอย่างที่เคยเป็น ฉะนั้นในวันที่ 10 กันยานี้ เราจะได้เห็น iPhone รุ่นใหม่ว่าจะเป็นเหมือนในข่าวลือกันหรือเปล่า มาคอยลุ้นกัน

ล่าสุดก็มีภาพหลุดออกมา โดยเปรียบเทียบระหว่าง iPhone 5S กับ iPhone 5C ซึ่งเป็นตัว Mock up โดยจากภาพดูแล้ว iPhone 5S จะไม่ต่างจาก iPhone 5 เท่าไร โดยจะมีไฟแฟลช LED ที่เป็นวงรี จากเดิมที่เป็นวงกลมเท่านั้น ส่วนขอบตัวเครื่องก็เป็นอลูเมี่ยมคล้ายๆ กัน แต่สำหรับ iPhone 5C นั้น บอดี้จะเป็นพลาสติกตามภาพที่หลุดมาก่อนหน้านี้เช่นเดิม

iphone_5s_iphone_5c-6
ภาพบนคือ iPhone 5 (ติดลายหนัง) ภาพล่างคือ iPhone 5S

 

iphone_5s_iphone_5c-18
ซ้าย iPhone 5 ขวา iPhone 5C

 

iphone_5s_iphone_5c-14 iphone_5s_iphone_5c-13 iphone_5s_iphone_5c-11 iphone_5s_iphone_5c-10 iphone_5s_iphone_5c-9 iphone_5s_iphone_5c-8 iphone_5s_iphone_5c-5 iphone_5s_iphone_5c iphone_5s_iphone_5c-26 iphone_5s_iphone_5c-22 iphone_5s_iphone_5c-20 iphone_5s_iphone_5c-15

 

Source :?9to5mac.com?,?allthingsd, Tinhte.vn

เผย 2 คลิปหลุดล่าสุด ชิ้นส่วน iPad 5 กับ iPhone 5C

iPad5Rumor

หลุดถี่ขึ้นเรื่อยๆ นะครับช่วงนี้กับชิ้นส่วนของ iPad 5 และ iPhone 5C โดยคลิปล่าสุด ที่มาจาก macotakara ได้เผยให้เห็นชิ้นส่วนของ iPad 5 โดยมีกรอบหน้าจอด้านหน้า และฝาหลังของตัวเครื่องที่ยังคงเป็นเหมือนโลหะสีเงิน แต่โลโก้จะกลายเป็นโปร่งแสงเหมือนจะทำไว้ให้แสงทะลุผ่านได้เหมือน Macbook

[youtube link=”http://youtu.be/5Fhwkz6H9MU” width=”590″ height=”315″]

 

ส่วนคลิปของ iPhone 5C ก็เผยให้เห็นฝาหลังและเปรียบเทียบกับ iPhone 5 กันแบบจะๆ ซึ่งยังคงมีรายละเอียดเหมือนกับคลิปที่หลุดมาก่้อนหน้านี้

[youtube link=”http://youtu.be/QvrE5zZUoLk” width=”590″ height=”315″]

 

Source 😕macrumors

สเปกหลุดมาแล้ว iPhone 5s หน้าจอ IGZO, Fingerprint, NFC, กล้อง 12 MP

iphone5siphone5s2

หลุดมาอีกแล้วกับชิ้นส่วนของว่าที่ iPhone 5s โดยเว็บไซต์จีน?expreview.com?ได้เผยข่าวภาพหลุดชิ้นส่วนของ iPhone 5s ที่กำลังเป็นที่สนใจ โดยแหล่งข่าวอ้างว่ามีสเปกหลุดออกมาด้วย ซึ่งระบุไว้ดังนี้

  • รองรับ NFC
  • เซนเซอร์ Fingerprint
  • หน้าจอ Sharp 4 นิ้ว ความละเอียด 1136×640 (หรืออาจจะเป็นของ LG) แบบ IGZO ที่กินไฟน้อย และแสดงผลภาพที่ดีกว่า
  • กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล พร้อม Dual Flash (แฟลชคู่)

ซึ่งหากดูจากภาพแล้วก็อาจจะยังไม่สามารถระบุอะไรได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังคาดว่า CPU จะเพิ่มขึ้นเป็น?quad-core SGX 554MP4 จากเดิมที่เป็น?3-core PowerVR SGX543MP3 ใน iPhone 5 ?พร้อม RAM 2 GB และรองรับ LTE อย่างไรก็ตามแต่ ยังมีอีกหลายกระแสที่ลือออกมาอยู่เรื่อยๆ ขอให้ใช้วิจารณญานในการติดตามข่าวกันใ้ห้ดีนะครับ ส่วนผมจะเชื่อก็ต่อเมื่อคุณตัน จะมีแคมเปญออกประกาศชิงรางวัล iPhone 5S ก่อนใคร เหมือนที่เคยทำตอน iPhone 5 ดีกว่า ว่ามั้ยครับ อิอิอิ…

ที่มา 😕9to5mac.com

Apple TV ขายในไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ราคา 3800 บ.

apple-tv-gallery3-2012

หลังจากรอคอยกันมาแสนนาน หรือบางคนก็ไม่คอยใช้จนเปื่อยไปแล้ว… [quote_center]Apple TV รุ่นล่าสุด ก็ได้เปิดขายออนไลน์บน Apple Store ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในราคา 3800 บาท [/quote_center]แถมส่งฟรีภายใน 24 ชม. อีกด้วย คงถึงเวลาแล้วที่ระบบทีวีออนดีมานด์จาก Apple พร้อมให้บริการในเมืองไทยอย่างเต็มรูปแบบ เพราะก่อนหน้านี้ไม่นาน บน iTunes Store ก็เริ่มเปิดบริการให้เช่าหนังหรือซื้อหนังออนไลน์ โดยมีหนังไทยหลายเรื่องที่เริ่มทยอยเข้าสู่ iTunes Store จึงเป็นแรงผลักให้ Apple TV ได้ออกมาจำหน่ายอย่างเป็นทางการให้กับชาวไทยเสียที ฉะนั้นใครที่ต้องการชมคอนเท้นต์ที่หลากหลายจาก apple ไม่ว่าจะเป็น ภาพยนตร์, รายการทีวีโชว์, เพลง, ภาพถ่ายต่างๆ จากอุปกรณ์ของเรา รวมถึงการชมคอนเทนต์จาก iPhone, iPad, iPod Touch โดยเชื่อมต่อผ่าน AirPlay เข้ากับ Apple TV แบบไร้สาย เพื่อชมคอนเทนต์ดังกล่าวบนหน้าจอ HDTV ที่บ้านได้อย่างเต็มตา สะใจ ในความละเอียดสูงระดับ HD 1080 P ก็เตรียมช้อปออนไลน์บนเว็บ apple ได้ ณ บัด Now

apple-tv-gallery1-2012

apple-tv-gallery6-2012

ที่มา Apple.com

[iPad] Pinterest Digital idea Pinboard

pic01

ณ เวลานี้คงต้องยกพื้นที่ให้กับโซเชี่ยลแอพน้องใหม่อย่าง Pinterest (พินเทอร์เรส) ดิจิตอลบอร์ดที่เป็นศูนย์รวมภาพจากไอเดียเก๋ๆ ตามหมวดหมู่ที่ทุกคนสามารถแชร์ภาพขึ้นสู่ดิจิตอลบอร์ดแห่งนี้เหมือนการนำภาพไปปักหมุนไว้บนบอร์ดสาธารณะนั่นเอง
หลังจากที่ผมได้โหลดแอพนี้มาใช้ ขอบอกเลยว่าเข้ามาแล้วหาทางออกยากจริงๆ เรียกว่าใช้เวลาอยู่กับมันพอๆ กับ Facebook เลยทีเดียว เอาเป็นว่าหลงเสน่ห์เจ้าดิจิตอลบอร์ดแห่งนี้จนโงหัวไม่ขึ้นเสียแล้ว เอาล่ะครับมาดูกันเลยดีกว่าว่าเจ้า Pinterest ทำให้ผมต้องใช้เวลาอยู่กับมันแทนที Facebook ได้อย่างไร

ศูนย์รวมไอเดียสุดเก๋

pic07

ด้วย Pinterest เป็นเสมือนดิจิตอลบอร์ดที่ให้ทุกคนสามารถปักรูปแชร์เอาไว้ให้เพื่อนได้ชม ซึ่งถือเป็นสังคมออนไลน์อีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการแชร์รูปไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆ ตามหมวดหมู่ โดยเฉพาะในหมวด Design ที่เป็นหมวดที่ผมชอบมาก ภายในหมวดนี้จะมีภาพไอเดียต้นแบบหรือที่ใช้จริงไปแล้วมากมาย ทั้งแบบโฆษณาแนวๆ, แพคเกจดีไซน์, อินโฟกราฟิกต่างๆ ซึ่งเหมาะมากกับผู้ที่ต้องการแสวงหาแรงบรรดาลใจ หรือแนวทางในการออกแบบ นอกจากนี้ยังมีหมวดต่างๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Architecture, Art, DIY & Crafts, Illustrations & Posters, Men?s Fashion, Technology, Photography, Weddings เป็นต้น

How to get Pin

pic08?pic07

สำหรับวิธีการค้นหาไอเดียในหมวดหมู่ต่างๆ นั้นก็ไม่ยากเลย เพียงแค่แตะที่ปุ่มเมนูมุมบนซ้าย แล้วเลือกหมวดหมู่ที่ต้องการ เพียงเท่านี้ก็จะแสดงภาพทั้งหมดที่ถูกปักหมุดตามหมวดหมู่นี้เอาไว้ ซึ่งเรียกว่า Pin นั่นเอง นอกจากนี้เรายังสามารถแตะบน Pin เพื่อดูแบบเต็มหน้าจอได้อีกด้วย

แชร์ Pin ไปยัง Facebook

pic04

หากต้องการแชร์ Pin ที่ถูกใจไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook ก็สามารถทำได้ เพียงแค่แตะปุ่ม Share แล้วเลือก Share on Facebook ภาพดังกล่าวก็จะถูกแชร์ไปยัง Facebook พร้อมกับสเตตัสที่เราพิมพ์เข้าไป นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ไปยัง Twitter, ส่งผ่านทางอีเมล์ หรือจะบันทึกเก็บไว้ใน Camera Roll บน iPad ก็ได้

ชอบกด Like ใช้กดคอมเม้นท์

pic05

บนแต่ละ Pin ที่เราเปิดดูสามารถที่จะกด Like ได้เช่นเดียวกับการใช้งานบน Facebook หรือหากต้องการคอมเม้นท์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ไม่เพียงเท่านั้นมันยังสามารถ Repin เพื่อให้เพื่อนๆ ที่ติดตามเราได้เห็น Pin ดังกล่าวอีกครั้งได้ด้วย เรียกว่านำคุณสมบัติทั้งของ Facebook และ Twitter มารวมไว้ในหนึ่งเดียว

Follow ตามหมวด หรือตามบุคคลที่ Pin

pic06

ในขณะที่เรากำลังดู Pin ที่ชื่นชอบอยู่แล้วต้องการติดตาม Pin อื่นๆ (ถ้ามี) ในหมวดเดียวกันนี้ ก็สามารถเลื่อนลงมาด้านล่างของ Pin ดัวกล่าวแล้วแตะ Follow ตามหมวดหมู่อ้างอิงที่มีอยู่ได้เลย ซึ่งคราวหน้าหากมี Pin ถูกปักเข้ามาใหม่ เราก็จะได้เห็น Pin ดังกล่าวเข้ามาในหน้า Following ของเรา

pic07

นอกจากนี้ยังสามารถติดตามเฉพาะบุคคลที่โพสต์ Pin ดังกล่าวที่เราต้องการได้อีกด้วย โดยในแต่ละ Pin จะมีชื่อของบุคคลที่ได้ทำการแชร์ Pin เอาไว้ใต้ภาพดังกล่าว จากนั้นให้แตะบนชื่อของบุคคลดังกล่าวแล้วแตะ Follow All หรือ เลือก Follow เฉพาะบางหมวดหมู่ตามที่บุคคลนี้ได้จัดแบ่งเอาไว้ก็ได้

โพสต์ลิงค์ที่ถูกใจขึ้นสู่ Pinterest

pic10

สำหรับการโพสต์รูปต่างๆ สู่ Pinterest นั่น บน iPad จะสามารถโพสต์ได้เฉพาะลิงค์จากเว็บต่างๆ เท่านั้น โดยภายในแอพจะมีหน้าเบราเซอร์มาให้ในตัว เพียงแตะที่ปุ่มเมนูมุมขวาบน แล้วแตะ Browse the web จากนั้นก็พิมพ์ชื่อเว็บไซต์หรือลิงค์หน้าเว็บเพจที่เราต้องการโพสต์ลงไป เสร็จแล้วก็แตะปุ่ม Pin it แล้วเลือกรูปที่ต้องการโพสต์ แตะในช่องข้อความแล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการแนบไปด้วย แตะเลือกหมวดหมู่เหนือช่องข้อความ โดยสามารถสร้างหมวดหมู่หรือบอร์ดใหม่ได้อีกด้วย จากนั้นให้แตะปุ่ม Pin it
แต่หากต้องการจะโพสต์รูปใหม่ที่มีอยู่ในเครื่องจะต้องทำผ่านเบราเซอร์บนพีซีเท่านั้น ยังไม่สามารถนำรูปที่ถ่ายบน iPad มาโพสต์ได้

เอาล่ะครับงานนี้ก็คงพอที่จะแนะนำการใช้งาน Pinterest ในเบื้องต้นได้อย่างพอสมควรแล้ว เชื่อว่าเพียงแค่นี้ก็คงจะทำให้คุณหลงติดอยู่ในวังวนของเจ้าดิจิตอลบอร์ดแห่งนี้จนวางไม่ลงแล้วล่ะครับ

วิธีเช็ค iPhone 5 ว่าเป็น Model อะไร

iPhone5-34Flat-iOS7_PRINT800

สำหรับใครที่อยากลองอัพเดท iOS 7 beta ต่างๆ ที่ปล่อยออกมาสำหรับนักพัฒนา สิ่งหนึ่งที่ควรต้องรู้คือ Model ในอุปกรณ์ของเรา ยกตัวอย่างเช่น iPhone 5 ก็จะมีออกมาหลายโมเดล ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่รองรับระบบ GSM หรือรุ่นที่รองรับระบบ CDMA ซึ่งแต่ละประเทศก็จะแตกต่างกันไป ดังนั้นเราจะควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าเครื่องของเราเป็นรุ่นไหน Model อะไร เพื่อจะได้ดาวน์โหลดไฟล์ .ipsw ที่ใช้ในการติดตั้ง iOS 7 beta ได้ตรงรุ่นนั่นเอง

โดยวิธีการง่ายๆ ดังนี้

แตะไอคอน Settings > General > About > Legal > Regulatory เท่านี้ก็จะแสดงชื่อรุ่น Model ของ iPhone 5 ขึ้นมาทันที

Photo 9-7-2556, 15 00 49

จากรูปนี้ จะเป็น Model : A1429 ซึ่งเป็นเครื่องศูนย์ true move H

 

iOS 7 Beta 3 มาแล้ว พร้อมดาวน์โหลดที่นี่

iPAD-MINI-IOS-7

หลังจากที่ผมได้ลองติดตั้ง iOS 7 Beta 1 ลงไป ก็เจอกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะเรื่องการสูบแบตจนต้องยอมแพ้ ถอยกลับมาใช้ iOS 6 เหมือนเดิม จนกระทั่งไม่นานก็มี Beta 2 ออกตามมา แต่ก็ยังไม่กล้าอัพเดทเพราะเกรงว่าัยังมี Bug อีกเพียบ จนเมื่อคืน iOS 7 ได้ปล่อยอัพเดท Beta 3 ออกมาให้กับนักพัฒนาได้ลองกัน ซึ่งก็มีอินเตอร์เฟสบางอย่างที่เปลี่ยนไป เช่น บนแถบ Notification Center ได้เพิ่มแถบเวลาของการเล่้นเพลงเข้ามา และภาพนาฬิกาปรับจากใสมาเป็นแบบทึบแทน, เปลี่ยนรูปแบบกราฟิกแสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแอพ, ปฏิทินเพิ่มจุดสีเทาในวันที่สร้างนัดหมายเอาไว้ เป็นต้น สำหรับผู้ที่ใช้ iOS Beta 2 ก็สามารถอัพเดทผ่าน WiFi หรือ OTA ได้เลย ส่วนใครที่ต้องการติดตั้ง iOS 7 Beta 3 ก็สามารถ ดาวน์โหลดไปติดตั้ง ด้วยวิธีการกดปุ่ม Shift แล้วคลิกปุ่ม Check for Update ในโปรแกรม iTunes สำหรับ Windows ได้เลย หรือสำหรับ Max OS กดปุ่ม?Option+Shift เสร็จแล้ว คลิกที่ปุ่ม?Check for Update ?(ห้ามกด?Shift + Restore เด็ดขาด) จากนั้นก็เลือกไฟล์ .ipsw ตามรุ่นที่เราได้ดาวน์โหลดมา แล้วรอให้ติดตั้งจนเสร็จ

 

ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 7 Beta 3

[youtube link=”http://www.youtube.com/watch?v=695k8U6yhjI” width=”590″ height=”315″]

 

คำเืตือน : ควรแบ็กอัพทุกสิ่งอย่างให้เรียบร้อยก่อนติดตั้ง iOS 7 Beta 3 และที่สำคัญ iOS Beta ทุกเวอร์ชั่นจะมีวันหมดอายุ ต้องอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ที่ออกมาหรือรีสโตร์กลับไปเวอร์ชั่นเก่าถึงจะใช้งานต่อได้ และการอัพเดทนี้อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้ระบบปฏิบัติการเสียหายได้ ซึ่งถือเป็นความสมัครใจของผู้ใช้งานเอง ทางเว็บไซต์ไม่มีส่วนในการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

 

iOS 7 beta 3 Downloads

คลิกโหลดกันให้ตรงรุ่นนะครับ อยากรู้้่ว่าเครื่องเราเป็น Model อะไร คลิก วิธีเช็ค iPhone 5 ว่าเป็น Model อะไร

  • iPad (4th generation Model A1458) (LINK)
  • iPad (4th generation Model A1459) (LINK)
  • iPad (4th generation Model A1460) (LINK)
  • iPad mini (Model A1432) (LINK)
  • iPad mini (Model A1454) (LINK)
  • iPad mini (Model A1455) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi (3rd generation) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi + Cellular (model for ATT) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi + Cellular (model for Verizon) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi (Rev A) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi + 3G (GSM) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi + 3G (CDMA) (LINK)
  • iPhone 5 (Model A1428) (LINK)
  • iPhone 5 (Model A1429) (LINK)
  • iPhone 4S (LINK)
  • iPhone 4 (GSM Rev A(8GB) (LINK)
  • iPhone 4 (GSM) (LINK)
  • iPhone 4 (CDMA) (LINK)
  • iPod touch (5th generation) (LINK)

หรือดาวน์โหลดได้ที่?http://imzdl.com/ios.php

หมายเหตุ : เมื่อดาวน์โหลดไฟล์เรียบร้อยแล้วจะได้เป็น Image File นามสกุล .dmg ให้ใช้โปรแกรมแตกไฟล์อย่าง Power ISO แล้วก็อปเฉพาะไฟล์นามสกุล .ipsw ออกมาใช้งาน

Source?:?gdeluxe

ฟีเจอร์ไหนที่ iOS 7 ก๊อปปี้เค้ามาบ้าง แซวขำๆ

hero

คงมีหลายบล็อกที่รีิวิวฟีเจอร์ใหม่ของ iOS 7 ออกมากันเต็มไปหมดแล้ว ฉะนั้นเราจึงไม่อยากจะนำเสนอข้อมูลดังกล่าวซ้ำอีก เพราะยังไงๆ ก็คงเป็นข้อมูลที่เหมือนๆ กัน เนื่องจากได้มาจากแหล่งข่าวเดียวกัน ดังนั้นวันนี้เราจะมานั่งจับผิดกันดีกว่า ว่ามีฟีเจอร์ไหนบ้างที่ iOS 7 ก็อปปี้แอนด์เดเวล็อปเขามาบ้าง อิอิอิ

Control Center <เหมือน> Quick Bar บน Android

images_1370893951iOS-7-01?quickbar

Quick Bar บน Galaxy S4

เปิดประเด็นแรกกันที่แถบควบคุมลัดหรือ Control Center ที่เพียงลากนิ้วบนหน้าจอจากล่างขึ้นบน ก็จะเปิดแถบนี้ขึ้นมา โดยจะมีปุ่มช็อตคัทต่างๆ เช่น เิปิด-ปิด WiFi, Bluetooth, Flight Mode, ไฟฉาย, นาฬิกาปลุก, เครื่องคิดเลข เป็นต้น ซึ่งเหมือนกับแถบควบคุมในหน้า Notifications บน Android 4.2 อย่างใน Galaxy S4 ที่จะมีแถบ Quick Bar ให้แตะเลือกเปิด-ปิดใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ แถมยังเพิ่มปุ่มควบคุมที่รองรับได้ตามต้องการอีกด้วย และที่สำคัญมันมีรองรับมาตั้งแต่รุ่น Galaxy S3, Note 2 แล้วนะจ๊ะ

 

Multitasking พรีวิวได้ <เหมือน> Windows Phone 8?
images_1370894662iOS-7-03??261753-microsoft-windows-phone-7-mango-multitasking

Multitasking บน Windows Phone 8

ถัดมาเป็นส่วนของการพรีวิวหน้าแอพที่รันค้างไว้แบบมัลติทาส์กกิ้ง ซึ่งจะแสดงหน้าแอพที่เปิดไว้ล่าสุดเอาไว้ด้วย จากเดิมที่เป็นเพียงแค่ไอคอน ซึ่งฟีเจอร์นี้ก็คงได้แรงบันดาลใจมาจากกิ๊กเก่าอย่าง Windows Phone 8 นั่นเอง แต่แอปเปิ้ลก็ขอพัฒนาต่อยอดให้เหนือกว่าด้วยความสามารถในการรีเฟรชข้อมูลให้อัตโนมัติอย่างเช่น Facebook ที่จะอัพเดทข่าวใหม่ที่เข้ามาล่าสุดให้ทันทีเมื่อเรียกสลับแอพขึ้นมาใช้งาน แต่ได้ข่าวว่าจะทำให้กินแบตมากยิ่งขึ้น

 

Camera ใส่ฟิลเตอร์ก่อนถ่ายและหลังถ่ายได้ <เหมือน> Android

camera_filter_process_still_screen

อยากจะตะโกนดังๆ ให้ไปถึงเฮียจ๊อบส์ที่อยู่บนสรวงสวรรค์ได้ยินเสียเหลือเกินว่าฟังก์ชั่นกล้องบน iPhone เนี่ย ล้าสมัยกว่าเค้าเสียทุกที อย่ามาใช้ข้ออ้างเรื่องคอนเซ็ปที่ต้องการให้ง่ายในการใช้งานอีกเลย เพราะถึงไงผู้ใช้ต้องหาแอพมาตกแต่งภาพกันอยู่ดี แต่ถ้ามีมาให้แต่แรกทุกอย่างก็จะได้เสร็จสรรพ ไม่ต้องเสียเวลาตกแต่งในภายหลังให้ยุ่งยาก ซึ่งจุดนี้ บน Android Phone ทุกยี่ห้อ เค้าก็มีกันมาตั้งแต่ปีมะโว้แล้วจะครับ เจ้านายยยยยยย

 

AirDrop ส่งไฟล์ผ่าน WiFi เดียวกัน <เหมือน> Samsung Link

images_1370895934iOS-7-08

นี่ก็เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ไม่ได้สดใหม่อะไร และใครๆ เค้าก็ทำได้กันมานานแล้ว สำหรับการโอนถ่ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่าย Wi-Fi เดียวกัน ซึ่งบน Mac OS ด้วยกันก็ทำได้มานานแล้ว แต่เพิ่งจะปล่อยให้รองรับได้บน iOS ก็เท่านั้น ที่สำคัญ คู่ไม้เบื่อไม่เมาอย่าง Samsung ก็มีฟีเจอร์แบบนี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร โดยเมื่อก่อนใช้ชื่อว่า Samsung Kies พอมาเป็นบน S4 ก็เปลี่ยนมาใช้ชื่อแอพว่า Samsung Link แทน

 

Safari สไลด์เลือกแท็บได้ <เหมือน> Chrome Browser

images_1370896819iOS-7-09Chrome

?Tab ใน Chrome

หากใครเคยใช้ Chrome บน Android แล้วล่ะก็คงรู้ดีว่าเวลาที่เราจะสลับเปลี่ยนหน้าไปยังแท็บอื่นๆ ที่เปิดค้างไว้ก็เพียงแค่สไลด์ขึ้นๆ ลงๆ เลือกได้ตามสบาย แอปเปิ้ลเห็นแล้วคงอยากขออินเทรนด์กกับเค้าบ้างไรบ้างเลยจับมันใส่ลงใน Safari ของตัวเองเลยซะงั้น

 

App Store Auto Update อัพเดทแอพให้อัตโนมัติ <เหมือน> Play Store

images_1370898048iOS-7-014

อี๋! แอปเปิ้ลเพิ่งทำ ออโต้อัพเดทแอพได้เหรอเทอว์…นี่คงเป็นคำหยิกแกมหยอกจากสาวกแอนดรอยด์ด้วยความสะใจอย่างแน่นอน เพราะบน Play Store เค้าสามารถให้ผู้ใช้งานตั้งค่าอัพเดทแอพได้อัตโนมัติมานานแล้ว แต่สำหรับ App Store เพิ่งจะมาคิดได้ว่าเอ้…นี่สงสัยเราลืมอะไรไปรึเปล่านะ หุหุหุ

และนี่ก็เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ผมได้จับมาแซวเล่นๆ ขำๆ เท่านั้นนะครับ อย่างน้อยเชื่อว่าทุกอย่างที่แอปเปิ้ลได้พัฒนามา ก็เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ใช้งานนั่นเอง โดยแอปเปิ้ลจะเริ่มปล่อยให้อัพเดทกันจริงๆ ก็ประมาณเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ครับ ท้ายนี้ผมมีรูปจริงๆ ของ iOS7 เวอร์ชั่น Beta สำหรับนักพัฒนามาฝากให้ดูกันด้วยครับ

379582_10200894514838924_441954170_n
หน้า Home
7247_10200894516558967_1527709049_n
Folder สไตล์ใหม่
972267_10200894523559142_1211346161_n
แสดงแอพแบบมัลติทาส์ก
992971_10200894516118956_2117756610_n
หน้าแอพ Phone
969204_10200894522079105_1942570734_n
Control Center
602402_10200894515958952_96849112_n
เมนูใน Settings

 

iPad mini พร้อมวางจำหน่าย 16 พ.ย. นี้ ที่ iStudio

เตรียมตัวช็อปกันอีกแล้วกับ iPad mini ที่ล่าสุดทางเว็บไซต์ Siampod รายงานว่า จะมีการวางจำหน่ายที่ iStudio ในวันศุกร์ที่ 16 พ.ย. นี้ โดยราคาก็คงเท่ากับในเว็บ Apple Store ซึ่งจะเริ่มจำหน่ายเฉพาะรุ่น Wi-Fi ก่อน ส่วนรุ่นที่ใส่ซิมได้ (Cellular) ยังไม่มีกำหนดที่แน่นอนออกมา เนื่องจากอยู่ในกระบวนการอนุมัติจาก กสทช. ซึ่งคาดว่าน่าจะวางจำหน่ายตามหลังในอีกไม่นาน

สำหรับราคา iPad mini รุ่น Wi-Fi มีดังนี้

  • iPad mini รุ่น Wi-Fi 16GB ราคา 11,200 บาท
  • iPad mini รุ่น Wi-Fi 32GB ราคา 14,200 บาท
  • iPad mini รุ่น Wi-Fi 64GB ราคา 17,200 บาท

ที่มา – siampod

[PR] iPod touch และ iPod nano เริ่มขาย 13 ต.ค. นี้

การกลับมาครั้งใหม่ของ iPod touch และ iPod nano

ด้วยดีไซน์บางเฉียบ สีสันสดใส พร้อมกับฟังก์ชั่นใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

 

เดือนกันยายนที่ผ่านมา Apple เปิดตัว iPod touch และ iPod nano ตัวใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเครื่องเล่นเพลงที่ไดัรับความนิยมมากที่สุดในโลก ความน่าทึ่งของ iPod touch ตัวใหม่นี้ มาพร้อมกับความบางอย่างที่ไม่เคยมีก่อน และความคมชัดของหน้าจอ Retina ขนาด 4 นิ้ว กล้อง iSight ซึ่งมีความละเอียดถึง 5 ล้านพิกเซล ที่สามารถบันทึกวิดีโอในระดับ HD (1080p) หน่วยประมวลผล A5 จาก Apple ฟังก์ชัน Siri และระบบปฎิบัติการ iOS 6 สุดยอดเทคโนโลยีระดับโลก The new iPod touch ปรับโฉมใหม่ ด้วยตัวเครื่องผลิตจาก Anodized Aluminum ทำให้ดีไซน์ที่ได้ทั้งบางและเบามากขึ้น และนี่เป็นครั้งแรกที่ iPod touch มาพร้อมกับสีสันสดใสให้เลือกถึง 5 สี ในส่วนของ iPod nano ตัวใหม่นี้ คงความโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่บางที่สุดเท่าเคยมีมา โดดเด่นด้วยหน้าจอสัมผัสแบบ Multi-Touch 2.5 นิ้ว มีปุ่ม Home เพื่อสะดวกต่อการใช้งานมากขึ้น มี Bluetooth ในตัวสำหรับการฟังเพลงแบบไร้สาย และมาพร้อมกับ 7 สีสันสดใสใหม่ล่าสุด

นอกจากนี้ iPod touch และ iPod nano ยังมาพร้อมกับหูฟัง Apple EarPods ที่ออกแบบมาอย่างดี เพื่อให้สวมใส่ได้พอดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งเพิ่มความทนทานและเพิ่มคุณภาพของพลังเสียงได้อย่างน่าที่ง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของหูฟังระดับไฮเอนท์

เตรียมพบกับ The new iPod touch ในราคาเริ่มต้นเพียง 9,900 บาท สำหรับรุ่นความจุ32GB และ 13,500 บาท สำหรับรุ่น 64GB และ The new iPod nano ในราคาเพียง 5,500 บาท สำหรับความจุ 16GB ได้ที่ iStudio iBeat U-Store และ Apple Shop ใน Power Buy Power Mall Banana IT และ IT City ตั้งแต่วันที่ 13 ตุลาคม 2555 เป็นต้นไป

* หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ The new iPod touch และ iPod nano สามารถดูได้ที่www.apple.com/ipod