โทรศัพท์มือถือยุคใหม่ หัวใจอยู่ที่ “ชิปประมวลผล”

 

สมาร์ทโฟน (Smartphone) คำนี้จริงๆก็มีใช้งานมานานแล้ว เป็นชื่อที่ใช้เรียกโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือมือถือที่มีคุณสมบัติหรือมีความสามารถเพิ่มเติม นอกเหนือไปจากการสนทนาและส่งข้อความหากันผ่านเครือข่ายฯ นั่นคือ ใช้งานเป็นคอมพิวเตอร์ได้ด้วยในตัว เช่น มีซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการ (OS), ติดตั้งและใช้งานแอปพลิเคชั่นได้, เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ฯลฯ

 

3osแรกเริ่มหลายคนคงเคยรู้จักและเคยใช้งานโทรศัพท์มือถือบางรุ่นในอดีตที่ใช้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการบนมือถืออย่าง Symbian, Windows Mobile, BlackBerry ฯลฯ มาก่อน ซึ่งมือถือเหล่านี้ถือเป็นอุปกรณ์สมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ แต่ผู้คนอาจยังไม่ค่อยรู้จักหรือคุ้นเคยกับคำว่าสมาร์ทโฟนในอดีตซักเท่าไหร่ เพราะตัวเครื่องมีราคาแพงแถมการสื่อสารข้อมูลบนเครือข่ายก็ดูชักช้าอืดอาด แต่เมื่อเทคโนโลยีการสื่อสารบนโทรศัพท์มือถือก้าวรุดหน้า จากอดีตที่เคยเป็นแค่โทรศัพท์ที่ใช้พูดคุยหรือสนทนากันด้วยเสียงและส่งข้อความ SMS หากันในยุค 2G แต่ด้วยอัตราความต้องการการบริโภคข้อมูลข่าวสารที่ดูจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการสื่อสารให้ก้าวรุดหน้าไปอีกขั้น ด้วยการจัดสรรให้มีช่องสัญญาณหรือคลื่นความถี่ที่รองรับอัตราความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิม และรองรับกับปริมาณข้อมูลจำนวนมหาศาล จึงเป็นที่มาของการสื่อสารข้อมูลในยุค 3G และ 4G ในปัจจุบัน

 

3os2โทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ทโฟน (Smartphone) ก็เช่นกัน นอกจากจะเปลี่ยนมาใช้ซอฟต์แวร์ระบบปฏิบัติการอย่าง Windows Phone, Android และ iOS แล้ว ปัจจุบันยังถูกพัฒนาให้มีความสามารถหลากหลายจนแทบจะไม่ต่างอะไรกับคอมพิวเตอร์พกพาทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ดูหนังฟังเพลงออนไลน์, ถ่ายรูปและวิดีโอด้วยกล้องความละเอียดสูง พร้อมฟังก์ชั่นในการตกแต่งภาพหรือตัดต่อคลิปวิดีโอ, สนทนาแบบเห็นหน้ากันเป็นภาพเคลื่อนไหวในแบบ Real-Time, ตรวจสอบภาพเคลื่อนไหวจากกล้อง IP Camera ผ่านมือถือ, อัพโหลดคลิปวิดีโอของตัวเองขึ้นเผยแพร่บน Youtube ฯลฯ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอุปกรณ์ Smartphone ถึงได้รับความนิยมสูงสุด จนเรียกได้ว่าแทบจะกลายเป็นปัจจัยที่ 5 ที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันไปแล้ว เพราะทุกวันนี้ถือเป็นอุปกรณ์ที่แทบทุกคนจะต้องมีพกติดตัวไปไหนมาไหนอยู่ทุกที่ด้วยเสมอ จิงป่ะ!

 

เกริ่นมาพอละ ทีนี้ขอเข้าเรื่องเลยละกัน ก็อย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าโทรศัพท์มือถือในปัจจุบัน ก็ไม่ต่างอะไรกับคอมพิวเตอร์พกพาขนาดจิ๋วที่เป็นโทรศัพท์ให้พูดคุยกับคนอื่นได้ด้วย เพราะฉะนั้นในตัวของมันจะต้องมีส่วนประกอบสำคัญ ซึ่งเป็นหัวใจหลักที่จะคอยทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลทุกอย่างที่ถูกส่งมา และนั่นก็คือ ซีพียู (CPU) หรือในที่นี้ก็คือ ชิปประมวลผล นั่นเอง ซึ่งมันจะมีความสำคัญแค่ไหน ทำหน้าที่อะไรบ้าง และมีหน้าตาเป็นอย่างไร ไปดูกันครับ

 

ชิปประมวลผล (CPU) บนมือถือ

 

iphone_5s_chipset_hero_2ก่อนอื่นอยากให้มองภาพง่ายๆว่า มือถือหรือสมาร์ทโฟนของเราจริงๆแล้ว มันก็เปรียบเสมือนกับเป็นคอมพิวเตอร์เครื่องนึงแบบเดียวกับพีซีหรือโน้ตบุ๊คที่คุณคุ้นเคยนั่นแหละ เพียงแต่เค้าคิดค้นและออกแบบให้ชิ้นส่วนทุกๆอย่างของมันเล็กมากๆ เล็กเสียจนเรียกได้ว่าเป็นการจับเอาคอมพิวเตอร์ทั้งชุดยัดใส่ลงไปในมือถือหรือสมาร์ทโฟนที่มีขนาดเพียงแค่ฝ่ามือของคุณนั่นแหละ ฟังดูแล้วน่าทึ่งใช่มั๊ยล่ะ!! ทีนี้ลองนึกภาพว่าหากเราแกะฝาครอบและชิ้นส่วนต่างๆที่เป็นพลาสติกออกก็จะเหลือแต่ส่วนประกอบที่สำคัญต่างๆ อาทิ จอแสดงผล แบตเตอรี่ กล้อง ปุ่มกด ฯลฯ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ (ไม่ได้ถูกติดตั้งตายตัวลงบนแผงวงจร) และแผงวงจรรวมที่ติดตั้งชิป ส่วนเชื่อมต่อ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆที่สำคัญเอาไว้มากมาย ซึ่งแผงวงจรรวมดังกล่าวนี้มีความสำคัญมาก เพราะมีชิปประมวลผล (CPU) ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของมือถือหรืออุปกรณ์สมาร์ทโฟนอยู่ด้วย

 

open phone

 

iphone-6-teardown-1024x768

 

socทีนี้เรามาพูดกันเน้นๆถึงชิปประมวลผล (CPU) อ๊ะ…ไม่ใช่สิ !!! จริงๆต้องเรียกว่า “ชิปเอนกประสงค์“ เพราะในความเป็นจริงแล้วชิปดังกล่าวเป็นชิปแบบ System on a Chip (SoC) หรือพูดให้เข้าใจง่ายๆก็คือ เป็นการรวมเอาองค์ประกอบที่สำคัญต่างๆ ซึ่งจะคอยทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เช่น หน่วยประมวลผลข้อมูล (CPU), หน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU), หน่วยความจำ (ROM/RAM/EEPROM/FLASH), ส่วนควบคุมหน่วยความจำ (Memory Controller), ส่วนควบคุมการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอกและอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ, ส่วนควบคุมแรงดันไฟฟ้า (Voltage Regulators) และวงจรการจัดการพลังงาน (Power Management Circuits) มาผนวกรวมกันเอาไว้อยู่ภายในชิปเพียงตัวเดียว โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้เกิดการประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และประหยัดพื้นที่นั่นเอง

 

เมื่อเข้าใจถึงความสำคัญของชิปประมวลผลบนมือถือหรืออุปกรณ์สมาร์ทโฟนกันดีแล้ว ก่อนจะไปทำความรู้จักกับชิปประมวลผลบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟนรุ่นต่างๆในปัจจุบัน ว่าไอ้รุ่นนั้นรุ่นนี้ที่เค้ากำลังฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น มันใช้ชิปประมวลผลอะไรกันบ้าง ผมจะขอคั่นด้วยการใช้โอกาสนี้อธิบายถึงที่มาที่ไปของคำว่า สถาปัตยกรรมซีพียูในแบบ ARM และ X86 ไว้เป็นข้อมูลพื้นฐานสักเล็กน้อย ซึ่งผมเชื่อว่าหลายท่านคงเคยเห็นผ่านหูผ่านตามาบ้างแล้วแต่อาจยังไม่เข้าใจว่ามันคืออะไรหรือแตกต่างกันยังไง ตรงนี้ผมจะมาแจกแจงรายละเอียดให้ฟัง แต่…อ๊ะๆ ผมขอพักเข้าโฆษณา อ๊ะ! ไม่ช่ายยยย! ขอยกไปเป็นบทความถัดไปแล้วกันนะครับ เพราะรายละเอียดดูจะเข้มข้นสักนิดนึง แล้วอย่าลืมติดตามอ่านกันหล่ะ กิ๊วๆ

 

“เทคโนโลยีสมาร์ทโฟน” ตอนต่อไป

1-2-3-4 มือถือ Gen ไหนคุณทันใช้บ้าง [ดักแก่!]

ARM กับ X86, RISC กับ CISC มหาอำนาจต่างขั้วบนโลกของซีพียู

ชิปประมวลผล ARM และ Intel (x86) บนสมาร์ทโฟน

(ต่อ) ชิปประมวลผล ARM และ Intel (x86) บนสมาร์ทโฟน

 

 

ไมโครซอฟท์พร้อมวางจำหน่าย Nokia X2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ให้คุณได้สนุกกับหลายแสนแอพ Android

Nokia x2 orange

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย วางจำหน่าย Nokia X2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ การใช้งานที่ง่ายขึ้น เพิ่มสุดยอดบริการจากไมโครซอฟท์ รวมถึงบริการเก็บทุกรูปโปรดและข้อมูลต่างๆ บน OneDrive ฟรี ทั้งยังสนุกกับแอพแอนดรอยด์อีกหลายแสนได้ในราคาเพียง 4,690 บาท

 

Nokia X2 มากับดีไซน์สุดล้ำ หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว เห็นทุกอย่างแจ่มชัดแม้อยู่กลางแจ้งด้วยเทคโนโลยี ClearBlack กล้องหลัก 5MP พร้อมโฟกัสอัตโนมัติ แฟลช และโปรแกรมการถ่ายภาพ Selfie คุณจึงสนุกกับการถ่ายรูปตัวเองได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า

 

Nokia X2 ให้คุณเข้าถึงแอพแอนดรอยด์หลายแสน พร้อมกับบริการยอดนิยมจากไมโครซอฟท์ สามารถสลับสับเปลี่ยนระหว่างแอพได้อย่างง่ายดายด้วย Fastlane ทั้งยังมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบสนองได้ดีขึ้น ราบรื่นขึ้น ด้วยหน่วยประมวลผล dual core Qualcomm Snapdragon 200 CPU 1.2Ghz และ RAM ขนาด 1GB

 

Nokia X2 มากับซอฟต์แวร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกระหว่าง 3 หน้าจอ ได้แก่ หน้าจอหลัก (Home) ที่มากับ App Tiles ที่ปรับเปลี่ยนขนาดได้ หน้าจอ Fastlane เข้าถึงแอพที่ใช้ล่าสุด และกิจกรรมในปฏิทินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และหน้าจอ App List ที่เรียงแอพต่างๆ ตามตัวอักษร ให้ผู้ใช้สะดวกในการเลือกแอพโปรดเพื่อวางไว้บนหน้าจอ Home

Nokia X2 green

นอกจากนี้ ยังมีแถบแจ้งเตือนที่สามารถดึงลงมาเพื่อดูรายการการติดต่อต่างๆ หรือสิ่งที่ควรทำ เช่น การอัพเดตซอฟต์แวร์ที่พร้อมให้ดาวน์โหลด ปุ่ม Home ใหม่ และ Visual Multitasking ที่เติมเต็มประสบการณ์การใช้งาน

 

สมาร์ทโฟนตระกูล Nokia X มาพร้อมบริการดีๆ จากไมโครซอฟท์อย่าง Skype OneDrive และ Outlook.com โดยจะติดตั้งมาพร้อมในเครื่อง ส่วนบริการอื่นๆ สามารถดาวน์โหลดได้ง่ายๆ จาก Nokia Store เช่น แอพ Bing Search OneNote และ Yammer โดยคุณสามาถจดข้อความต่างๆ บน OneNote แล้วเก็บไว้บน OneDrive ซึ่งเป็นระบบเก็บข้อมูลบนคลาวด์ฟรีจากไมโครซอฟท์ ขณะที่ Yammer เป็นบริการสังคมออนไลน์สำหรับองค์กร ให้คุณเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานได้ง่ายเหมือนการโพสต์ไปยังสังคมออนไลน์ ทั้งยังมี Option ให้ Backup รูปภาพไปยัง OneDrive เพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีมากถึง 15GB ได้เต็มที่ โดยสามารถเก็บวิดีโอและไฟล์เอกสารต่างๆ ได้อีกด้วย

 

Nokia X2 ยังมาพร้อมกับแอพใหม่และยอดนิยมอย่าง Instagram, WeChat, Skype, Facebook, LINE Rangers, และ Temple Run 2 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วบน Nokia Store ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ง่ายต่อการค้นหาแอพ

 

ดีไซน์สุดล้ำ โดดเด่น แตกต่าง
Nokia X2 มากับดีไซนน์ตัวเครื่องแบบชิ้นเดียว ฝาหลังเปลี่ยนได้ มีสีสันสุดจี๊ดพร้อมกรอบชั้นนอกแบบใส ช่วยเพิ่มความคงทนและความสวยงามที่โดดเด่นขึ้นกว่าเดิม โดยมีสีส้ม เขียว และดำ
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก www.nokia.co.th/nokiax2

Nokia-X2-Dual-SIM-hero-3

 

 

Specifications Nokia X2

• หน้าจอ ClearBlack 4.3 นิ้ว WVGA

• หน่วยประมวลผล Snapdragon 200 dual core 1.2GHz CPU
• RAM 1 GB
• กล้องหลัง 5MP โฟกัสอัตโนมัติ และแฟลช
• กล้องหน้า VGA
• แบตเตอรี่ 1800 mAh
• โทรได้นาน 2G: สูงสุด 10 ชั่วโมง, 3G: สูงสุด 13 ชั่วโมง
• รอสายได้นาน สูงสุด 23 วัน
• ระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform

ไมโครซอฟท์พร้อมวางจำหน่าย Nokia X2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่ให้คุณได้สนุกกับหลายแสนแอพ Android

Nokia x2 orange

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย วางจำหน่าย Nokia X2 สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่มาพร้อมดีไซน์ใหม่ การใช้งานที่ง่ายขึ้น เพิ่มสุดยอดบริการจากไมโครซอฟท์ รวมถึงบริการเก็บทุกรูปโปรดและข้อมูลต่างๆ บน OneDrive ฟรี ทั้งยังสนุกกับแอพแอนดรอยด์อีกหลายแสนได้ในราคาเพียง 4,690 บาท

 

Nokia X2 มากับดีไซน์สุดล้ำ หน้าจอขนาด 4.3 นิ้ว เห็นทุกอย่างแจ่มชัดแม้อยู่กลางแจ้งด้วยเทคโนโลยี ClearBlack กล้องหลัก 5MP พร้อมโฟกัสอัตโนมัติ แฟลช และโปรแกรมการถ่ายภาพ Selfie คุณจึงสนุกกับการถ่ายรูปตัวเองได้ทั้งกล้องหลังและกล้องหน้า

 

Nokia X2 ให้คุณเข้าถึงแอพแอนดรอยด์หลายแสน พร้อมกับบริการยอดนิยมจากไมโครซอฟท์ สามารถสลับสับเปลี่ยนระหว่างแอพได้อย่างง่ายดายด้วย Fastlane ทั้งยังมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบสนองได้ดีขึ้น ราบรื่นขึ้น ด้วยหน่วยประมวลผล dual core Qualcomm Snapdragon 200 CPU 1.2Ghz และ RAM ขนาด 1GB

 

Nokia X2 มากับซอฟต์แวร์ใหม่ให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกระหว่าง 3 หน้าจอ ได้แก่ หน้าจอหลัก (Home) ที่มากับ App Tiles ที่ปรับเปลี่ยนขนาดได้ หน้าจอ Fastlane เข้าถึงแอพที่ใช้ล่าสุด และกิจกรรมในปฏิทินที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และหน้าจอ App List ที่เรียงแอพต่างๆ ตามตัวอักษร ให้ผู้ใช้สะดวกในการเลือกแอพโปรดเพื่อวางไว้บนหน้าจอ Home

Nokia X2 green

นอกจากนี้ ยังมีแถบแจ้งเตือนที่สามารถดึงลงมาเพื่อดูรายการการติดต่อต่างๆ หรือสิ่งที่ควรทำ เช่น การอัพเดตซอฟต์แวร์ที่พร้อมให้ดาวน์โหลด ปุ่ม Home ใหม่ และ Visual Multitasking ที่เติมเต็มประสบการณ์การใช้งาน

 

สมาร์ทโฟนตระกูล Nokia X มาพร้อมบริการดีๆ จากไมโครซอฟท์อย่าง Skype OneDrive และ Outlook.com โดยจะติดตั้งมาพร้อมในเครื่อง ส่วนบริการอื่นๆ สามารถดาวน์โหลดได้ง่ายๆ จาก Nokia Store เช่น แอพ Bing Search OneNote และ Yammer โดยคุณสามาถจดข้อความต่างๆ บน OneNote แล้วเก็บไว้บน OneDrive ซึ่งเป็นระบบเก็บข้อมูลบนคลาวด์ฟรีจากไมโครซอฟท์ ขณะที่ Yammer เป็นบริการสังคมออนไลน์สำหรับองค์กร ให้คุณเชื่อมต่อกับเพื่อนร่วมงานได้ง่ายเหมือนการโพสต์ไปยังสังคมออนไลน์ ทั้งยังมี Option ให้ Backup รูปภาพไปยัง OneDrive เพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีมากถึง 15GB ได้เต็มที่ โดยสามารถเก็บวิดีโอและไฟล์เอกสารต่างๆ ได้อีกด้วย

 

Nokia X2 ยังมาพร้อมกับแอพใหม่และยอดนิยมอย่าง Instagram, WeChat, Skype, Facebook, LINE Rangers, และ Temple Run 2 พร้อมให้ดาวน์โหลดแล้วบน Nokia Store ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ง่ายต่อการค้นหาแอพ

 

ดีไซน์สุดล้ำ โดดเด่น แตกต่าง
Nokia X2 มากับดีไซนน์ตัวเครื่องแบบชิ้นเดียว ฝาหลังเปลี่ยนได้ มีสีสันสุดจี๊ดพร้อมกรอบชั้นนอกแบบใส ช่วยเพิ่มความคงทนและความสวยงามที่โดดเด่นขึ้นกว่าเดิม โดยมีสีส้ม เขียว และดำ
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก www.nokia.co.th/nokiax2

Nokia-X2-Dual-SIM-hero-3

 

 

Specifications Nokia X2

• หน้าจอ ClearBlack 4.3 นิ้ว WVGA

• หน่วยประมวลผล Snapdragon 200 dual core 1.2GHz CPU
• RAM 1 GB
• กล้องหลัง 5MP โฟกัสอัตโนมัติ และแฟลช
• กล้องหน้า VGA
• แบตเตอรี่ 1800 mAh
• โทรได้นาน 2G: สูงสุด 10 ชั่วโมง, 3G: สูงสุด 13 ชั่วโมง
• รอสายได้นาน สูงสุด 23 วัน
• ระบบปฏิบัติการ Nokia X Platform

[Sneak Preview] Nokia Lumia 930 ครั้งแรกของการเปิดตัวในนาม Microsoft Device

 

Nokia-Lumia-930-Apps
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 57 ที่ผ่านมา สำหรับ Nokia Lumia 930 ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในนามของ Microsoft Device ประเทศไทย โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเรือธงตัวสำคัญของตระกูล Lumia ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows Phone 8.1 พร้อมบอดี้โลหะ แข็งแรง ทนทาน ดูมีระดับ มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกันคือ ส้มสด, เขียวสด, ดำ และ ขาว โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป เอาล่ะครับ ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวจริงกัน เราได้เก็บภาพจากงานแถลงข่าวมาพรีวิวให้ชมกันก่อน

 

Lumia 930 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว Full HD

Nokia-Lumia-930-01

 

แม้หน้าจอจะใหญ่ขึ้น แต่ตัวบอดี้ยังคงกะทัดรัด ถือใช้งานด้วยมือเดียวได้สะดวก

Nokia-Lumia-930-02

 

บอดี้ใช้วัสดุเป็นโลหะ ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ ดีไซน์ตรงบริเวณขอบให้โค้งรับสัมผัสกับการถือใช้งาน

Nokia-Lumia-930-03

 

ขอบด้านข้างตัวเครื่องค่อนข้างหนาไปหน่อย และยิ่งดีไซน์เหลี่ยมๆ ทำให้ดูหนาไปอีก

Nokia-Lumia-930-04

 

ขอบด้านบนมาพร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และสล็อตถาดใส่นาโนซิม

Nokia-Lumia-930-05

 

กล้องหลัง PureView ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED คู่ ส่องแสงถ่ายได้ถึง 3 เมตร และยังมีไมโครโฟน 4 ทิศทางมาให้ในตัว เพื่อการบันทึกวิดีโอด้วยระบบเสียง Dolby Surround Sound

Nokia-Lumia-930-07

 

Lumia 930 มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows Phone 8.1 ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Qualcomm Snapdragon 800 Quad-core 2.2 GHz, หน่วยความจำภายใน 32 GB (เพิ่ม SD Card ไม่ได้), แรม 2 GB

Nokia-Lumia-930-08

 

เทียบขนาดกับ Lumia 1020 ตัวเครื่องยาวกว่าเล็กน้อย แต่ Lumia 930 มีพื้นที่หน้าจอมากกว่า

Nokia-Lumia-930-09

 

เทียบความกว้างแล้ว ขนาดพอๆ กัน

Nokia-Lumia-930-10

 

เทียบกล้องหลัง ยังไง Lumia 1020 ก็ยังสเปกสูงกว่าเป็นเท่าตัว

Nokia-Lumia-930-11

 

Nokia Lumia 930 สนนราคา 19,890 บาท พร้อมโปรโมชั่น 1,000 คนแรก รับ Treasure Tag WS-2 มูลค่า 990 บาท ฟรี ส่วนโปรโมชั่นสำหรับ dtac TriNet ได้ลดค่าบริการรายเดือน 50 % นาน 1 ปี

product2-jpg

 

Windows Phone 8.1 ติดโรคเลื่อนกับเค้าด้วย คาดว่าสาวกโนเกีย Lumia จะได้อัพเดทต้นเดือน ก.ค.นี้

 

updateWP81-1

 

จากหลักฐานที่บอกไว้ในข่าวก่อนหน้านี้ ว่าถึงเวลาที่ Windows Phone 8 จะต้องอัพเดทใหม่ตามกำหนดในรอบปี ซึ่งตรงกับวันที่ 26 มิถุนายน ที่ผ่านมา (ดูข่าวเก่า) แต่นี่ก็ผ่านมาแล้ว ยังไม่มีการแจ้งเตือนอัพเดทและเผยถึงรายชื่อรุ่นที่จะรองรับออกมาเมื่อไหร่ อย่างไร

 

จนกระทั่งมีผู้ใช้ชาวอินเดีย ทวีตไปถามทางไมโครซอฟต์อินเดียได้ความว่า ทางไมโครซอฟต์จะปล่อยให้ผู้ใช้ได้อัพเดทเป็น Windows Phone 8.1 ประมาณไม่เกิน 2 สัปดาห์แรกของเดือนกรกฎาคมนี้

updateWP81

 

ว่าแล้วก็ต้องจับตารอกันต่อไป แต่นั้นเป็นข่าวของประเทศอินเดียเท่านั้นนะ ส่วนพี่ไทยอย่างเราก็คาดว่าไม่เกินไตรมาสนี้ คงจะได้รับการอัพเดทเช่นกัน

 

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาใน Windows Phone 8.1 ก็จะมีแถบ Action Center, ระบบสั่งงานด้วยเสียง Cortana, เพิ่ม Wallpaper ลงในไอคอนไทล์ได้ เป็นต้น สามารถดูตัวอย่างของจริงจากรีวิว Lumia 630

 

สำหรับรุ่นที่คาดว่าน่าจะได้รับการอัพเดทเป็นอันดับแรก ก็คือ Lumia 925, Lumia 1020 และ Lumia 520

 

Source : Geeky-Gadgets

 

[Sneak Preview] Nokia X สมาร์ทโฟนสายพันธุ์ X รันแอพ Android ได้ 100%

 

ได้ฤกษ์วางจำหน่ายแล้วสำหรับ Nokia X สมาร์ทโฟนแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่เป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกจากงาน MWC2014 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา วันนี้โนเกียประเทศไทยได้นำ Nokia X มาให้ชาวไทยได้สัมผัสกันแล้ว โดยเริ่มนำเฉพาะรุ่นเล็กอย่าง Nokia X เข้ามาก่อน โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 14 มีนาคม 57 ที่โนเกียช็อปทั่วประเทศ ในราคาเพียง 3,990 บ.

 

จุดเด่นของ Nokia X อยู่ตรงที่ระบบปฏิบัติการล่าสุดที่เรียกว่า Nokia X แพลตฟอร์ม ที่สามารถรันแอพพลิเคชั่นจากระบบปฏิบัติการ Android ได้อย่าง 100% โดยสามารถดาวน์โหลดได้ 2 ทางด้วยกัน คือ

1. Nokia Store โดยทางโนเกียจะทยอยนำแอพพลิเคชั่นจาก Android มาลงในสโตร์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด
2. APK Install สามารถติดตั้งแอพจากไฟล์ .apk ซึ่งเป็นไฟล์แอพของ Android นั่นเอง

 

และที่สำคัญการดาวน์โหลดแอพจากโนเกียสโตร์บน Nokia X นั้น ไม่ต้องใส่แอคเคาท์ให้ยุ่งยาก ใครที่เป็นมือใหม่หัดเล่นสมาร์ทโฟนก็ไม่ต้องสมัครแอคเคาท์ให้ปวดหัวอีกต่อไปแล้ว อยากลงแอพไหนก็แตะดาวน์โหลดลูกเดียว อย่างได้แคร์

 

ส่วนแอพตัวไหนที่ต้องเสียเงิน ก็สามารถตัดเงินจากซิมการ์ดของเครือข่ายโทรศัพท์ที่รองรับได้เลย คาดว่าเบื้องต้นน่าจะร่วมมือกับดีแทคก่อน เหมือนบน Lumia ที่สามารถทำได้มาแล้ว

 

เอาล่ะครับได้ทราบจุดเด่นของ Nokia X ไปบ้างแล้ว เราไปชมภาพตัวเป็นๆ กันเลยดีกว่า

 

Nokia-X-02

บอดี้เหมือนกันโนเกีย Asha ที่ใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนต จะวางขายทั้งหมด 5 สี คือ สีเขียวสด แดงสด ฟ้า เหลือง ดำและขาว

 

Nokia-X-03

กล้องหลัง ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล แบบ Fix Focus

 

Nokia-X-04

พอร์ต Micro USB ไว้เชื่อมต่อข้อมูล และชาร์จแบตให้ตัวเครื่อง

 

Nokia-X-05

ปุ่มโวลุ่ม และปุ่มล็อคหน้าจอ/เปิดปิดเครื่อง อยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง

 

Nokia-X-06

ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อยู่มุมซ้ายบน

 

Nokia-X-12

ถอดกรอบฝาหลังออก โดยดันตรงกล้องแล้วแงะด้านบนของตัวเครื่องออกมา

 

Nokia-X-13

Nokia X สามารถใช้ได้ 2 ซิม แถมรองรับ 3G (ได้ซิมเดียว) และเพิ่มเมมด้วย Micro SD ได้สูงสุด 32 GB ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 1500 mAh

 

Nokia-X-11

หน้าแรกถูกออกแบบให้เป็นการผสมผสานข้อดีของ ไทล์จาก Lumia Windows Phone และ Fastlane จาก Asha เข้าไว้ด้วยกัน

 

Nokia-X-15

แค่ปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาก็จะเข้าสู่หน้า Fastlane ซึ่งเป็นช็อตคัทที่ใช้งานล่าสุด

 

Nokia-X-10

แอพพลิเคชั่นหลักจาก Android ที่ติดตั้งได้ 100% บน Nokia X

 

Nokia-X-07

หน้าตา โนเกียสโตร์ที่เริ่มทยอยนำแอพพลิเคชั่นจากแอนดรอยด์มาลงให้ดาวน์โหลด

 

Nokia-X-09

ยังมีแอพบางส่วนอย่าง Instagram ที่ไม่มีให้โหลดในโนเกียสโตร์ แต่สามารถใช้สโตร์เพื่อนบ้านอย่าง 1Mobile Market ที่มีแอพหลักๆ จากแอนดรอยด์ให้ดาวน์โหลด โดยไม่ต้องมีแอคเคาท์ได้อีกเช่นเดียวกัน

 

Nokia-X-14

ใช้งาน Instagram ได้ครบทุกฟังก์ชั่นเหมือนแอนดรอยด์เลย แต่อาจจะโหลดช้าบ้างเรื่องจากสเปกเครื่องรุ่นนี้ไม่ได้แรงมาก

 

Nokia-X-17

แตะลากจากด้านบนของหน้าจอลงมาเพื่อเปิดดูแถบแจ้งเตือนได้เหมือนแอนดรอยด์เลยนะครัสส… แถมมีปุ่มไอคอน Settings ให้เข้าสู่การตั้งค่าได้ทันที

 

Nokia-X-16

ลองติดตั้งเกม Flappy Bird ได้โดยไม่ต้องกรอกแอคเคาท์ใดๆ เลย

 

และนี้คือ Sneak Preview พรีวิว Nokia X แบบลับๆ ล่อๆ ให้ชมกันเบื้องต้นก่อนนะครับ ไว้ได้เครื่องมารีวิวแบบเต็มๆ เมื่อไร จะจัดเต็มในคอลัมน์ Review ให้สาสม

 

ผลิตภัณฑ์ Apple ได้ใจบริษัทกฎหมายในทวีปอเมริกา คะแนนความน่าเชื่อถือพุ่งขึ้นสุดติ่ง

Wassuppp+ ความน่าเชื่อถือของผลิตภัณฑ์ทั้งสมาร์ทโฟน พีซี แท็บเล็ต กลายเป็นอำนาจสำคัญในการเลือกสินค้าของบริษัทด้านกฎหมายที่ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือที่ดูเหมือนจะให้ความเชื่อมั่นกับสินค้าแบรนด์ Apple มากขึ้นกว่าปีก่อนๆ แต่คำถามคือ! Apple ทำให้พวกเขาเชื่อมั่นได้อย่างไร? จากผลการรายงานของ Clio บริษัทซอฟแวร์จัดการด้านกฎหมาย เผยว่าในปี 2013 ผลิตภัณฑ์จาก Apple ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 10 % ทั้งในออฟฟิศที่ใช้ Mac OS (จาก 56% เป็น 66%) และการใช้งาน iPad (จาก 57% เป็น 67 %) ส่วนการใช้งาน iPhone ดูจะพุ่งสูงขึ้นเป็นพิเศษจาก 12% เป็น 74% (ในขณะที่ Android และ Blackberry ความต้องการจากบริษัทกฎหมายลดลงมากกว่า เมื่อเทียบกับการใช้งานทั่วไปของคนส่วนใหญ่)

 

mobile devices

 

ยังไม่หมดแค่นั้น หลังจากทำแบบสอบถาม ร้อยละ 52 กล่าวถึงเหตุผลที่เลือกผลิตภัณฑ์ Apple ว่าเพราะเทคโนโลยีมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น และที่สำคัญมีความปลอดภัย ในขณะที่ร้อยละ 28 ได้ประโยชน์จากการใช้งานเต็มที่ อีกร้อยละ 10 มีความคุ้นเคยกับ Apple อยู่แล้ว และร้อยละ 3  ให้คะแนนเรื่องการออกแบบ ความสวยงาม

 

จากรายงานยังบอกอีกว่าตั้งแต่ Apple เปิดตัว iPad สามารถเจาะกลุ่มผู้ใช้งานในกลุ่มอาชีพด้านกฎหมายเพิ่มขึ้นจาก 10% เป็น 67% และผู้นำบริษัทด้านกฎหมายยังบอกเป็นเสียงเดียวกันเรื่องเทคโนโลยีใหม่ที่ค่อนข้างเปลี่ยนโฉม โดยเฉพาะ iPhone และ iPad ถือว่าประสบความสำเร็จ และแพร่หลายในบริษัทด้านกฎหมายจนหาตัวจับยากในปัจจุบัน

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าในวงการกฎหมายเค้าเล่น iPhone, iPad, Mac OS เยอะขึ้นขนาดนี้ เหมือนเป็นเครื่องชี้วัดว่าดีไซน์ไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยและการใช้งานที่แพร่หลาย .. ก็นี่เราสำรวจกันในทวีปอเมริกาเหนือสินะ นักกฎหมายฝั่งเอเชียจะว่าอย่างไรถ้าต้องไปอเมริกาอย่าลืมพกไว้สักเครื่องด้วยนะคะ.. Oops+

 

Source: cultofmac

 

[CES2014] ASUS Zenfone 4-5-6 ยกทัพแอนดรอยด์ 2 ซิม ขุมพลัง Intel Atom

 

ด้านค่าย ASUS ก็มิได้น้อยหน้าใคร จัดเต็มด้วยการส่ง Android Smartphone ออกมา 3 รุ่นด้วยกัน กับซีรีส์ใหม่ Zenfone 4, Zenfone 5 และ Zenfone 6 โดยทั้ง 3 รุ่นนี้จะมีขนาดหน้าจอตามชื่อรุ่นนั่นเอง โดย Zenfone 6 จะเป็นฟอร์มแฟคเตอร์แบบ Phablet นั่นเอง

 

โดย Zenfone ทั้ง 3 รุ่นนี้ ยังมาพร้อม Android 4.3 Jelly Bean ที่กำลังรออัพเกรดเป็น Android 4.4 KitKat และ Asus Zen UI ในเร็วๆ นี้ แต่พบข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ ทั้ง 3 รุ่น ใช้ ซีพียู Intel Atom เป็นตัวประมวลผลทั้งหมด ซึ่งก็คงไม่น่าแปลกใจอะไรมากนัก ก็ในเมื่อ ASUS เป็นผู้นำในการผลิตคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค มาก่อน จึงอาจจะได้รับข้อเสนอดีๆ จากอินเทลในการส่งชิปให้ผลิต Zenfone ในครั้งนี้ และทุกรุ่นสามารถใส่ซิมได้ 2 ซิม

 

Asus Zenfone 4

zenfone4
ขนาด : 124.4 x 61.4 x 11.2 มม. น้ำหนัก 115 กรัม
หน้าจอ : ขนาด 4.0″ LED-backlit IPS ความละเอียด WVGA, 233ppi
ชิปเซ็ต : Intel Atom Z2520; dual-core Intel Atom ความเร็ว 1.2 GHz, PowerVR SGX 544MP2 GPU, RAM 1 GB
ระบบปฏิบัติการ OS : Android 4.3 Jelly Bean (เตรียมอัพเกรดเป็น Android 4.4 KitKat เร็วๆ นี้), Asus Zen UI
กล้อง : กล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล, ไม่มีแฟลช, autofocus, พร้อมกล้องหน้า
หน่วยความจำ : 4GB, เพิ่ม microSD card ได้
การเชื่อมต่อ : ใส่ได้ 2 ซิม, HSPA+, GPS, WLAN b/g/n, microUSB 2.0, Bluetooth 4.0 LE
แบตเตอรี่ : 1,170mAh, Li-Po, ถอดเปลี่ยนได้
เซนเซอร์ : accelerometer, multi-touch input, proximity sensor
สี : ดำ, ขาว, แดง, ฟ้า, เหลือง
ราคา : $99 ประมาณ 3,200 บาท
 

Asus Zenfone 5

zenfone5
ขนาด : 148.2 x 72.8 x 10.3 มม. 140 กรัม
หน้าจอ : ขนาด 5.0″ LED-backlit IPS ความละเอียด 720p, 294ppi
ชิปเซ็ต : Intel Atom Z2580; dual-core Intel Atom ความเร็ว 2 GHz, PowerVR SGX 544MP2 GPU, RAM 1 GB
ระบบปฏิบัติการ OS : Android 4.3 Jelly Bean (เตรียมอัพเกรดเป็น Android 4.4 KitKat เร็วๆ นี้), Asus Zen UI
กล้อง : กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล Sony BSI, autofocus, LED flash, กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
หน่วยความจำ : 4GB, เพิ่ม microSD card ได้
การเชื่อมต่อ : ใส่ได้ 2 ซิม, HSPA+, GPS, WLAN b/g/n, microUSB 2.0, Bluetooth 4.0 LE
แบตเตอรี่ : 2,050mAh, Li-Po, ถอดแบตไม่ได้
เซนเซอร์ : accelerometer, multi-touch input, proximity sensor
สี : ดำ, ขาว, แดง, ฟ้า, ทอง
ราคา : $149 ประมาณ 4,900 บาท

 

Asus Zenfone 6

zenfone6
ขนาด : 166.9 x 84.3x 9.9 มม. น้ำหนัก 200 กรัม
หน้าจอ : ขนาด 6.0″ LED-backlit IPS ความละเอียด 720p, 244ppi
ชิปเซ็ต : Intel Atom Z2580; dual-core Intel Atom ความเร็ว 2GHz, PowerVR SGX 544MP2 GPU, RAM 1 GB
ระบบปฏิบัติการ OS : Android 4.3 Jelly Bean (เตรียมอัพเกรดเป็น Android 4.4 KitKat เร็วๆ นี้), Asus Zen UI
กล้อง : กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล Panasonic SmartFSI sensor, autofocus, LED flash, กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
หน่วยความจำ : 8/16 GB, เพิ่ม microSD card ได้
การเชื่อมต่อ : ใส่ได้ 2 ซิม, HSPA+, GPS, WLAN b/g/n, microUSB 2.0, Bluetooth 4.0 LE
แบตเตอรี่ : 3,230mAh, Li-Po, ถอดแบตไม่ได้
เซนเซอร์ : built-in accelerometer, multi-touch input, proximity sensor
สี : ดำ, ขาว, แดง, ทอง
ราคา : $199 ประมาณ 6,500 บาท

 

เห็นราคาแล้วก็น้ำลายไหลกันเลยนะครับ แต่ราคาจริงที่จะขายในเมืองไทยอาจจะบวกเพิ่มมากกว่านี้อีกนิด แต่ดูๆ แล้วก็ไม่ยากเกินเอื้อมนะครับ

 

Source : gsmarena

Galaxy S5 เตรียมเปิดตัว ในงาน MWC2014 เดือน ก.พ. นี้

s5

 

เริ่มต้นศักราชใหม่ ก็มีข่าวลือความคืบหน้าของซัมซุง Galaxy S5 ว่าที่สมาร์ทโฟนเรือธงประจำปี 57 ที่คาดกันว่าจะวางจำหน่ายได้ราวกลางปีนี้ โดยล่าสุดมีข่าวรายงานการใ้ห้สัมภาษณ์จากผู้บริหารระดับสูงของซัมซุงเกาหลี นาย Dong-hoon Chang VP and Head of Design Strategy ในงานฉลองปีใหม่เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมากว่า มีโอกาสที่จะได้เปิดตัว Galaxy S5 ในงาน MWC2014 หรืองาน Mobile World Congress 2014 ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการสื่อสาร รวมถึงโทรศัพท์มือถือระดับโลก ซึ่งทุกๆ ปีภายในงานก็จะมีมือถือรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวทั้งต้นแบบและที่พร้อมวางจำหน่ายจากแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2557 ที่จะถึงนี้

 

และมีการคาดเดากันว่า วัสดุที่ใช้อาจจะเปลี่ยนไปเป็นโลหะ แทนพลาสติก หรือไม่ก็เ้ป็นหน้าจอโค้งงอได้

 

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือกันอีกว่าซัมซุงอาจจะผลิตสมาร์ทโฟนเพิ่มอีกหนึ่งซีรีส์ ที่เน้นความหรูหรา ระดับพรีเมี่ยม โดยอาจจะใช้ชื่อรุ่นว่า Galaxy F เพื่อมาเติมเต็มช่องว่าตลาดนี้โดยเฉพาะ เลยก็ได้

 
Galaxy F Line

 

Source : gsmarena

โนเกียเปิดตัว Nokia Asha 503 และ Nokia Asha 500 ลุคชิค แชะไว แชร์ได้สะใจกว่าเดิม

nokia_asha_503_group resize600
โนเกียเปิดตัว Nokia Asha 503 สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาพร้อมกล้อง 5 ล้านพิกเซล รองรับ 3G และ Nokia Asha 500 ที่มาพร้อมกล้อง 2 ล้านพิกเซล สองสมาร์ทโฟนใหม่ในตระกูล Asha ผนวกดีไซน์สุดชิค กรอบเครื่องสวยใสดั่งคริสตัล กับประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ต่อยอดความสำเร็จของแพลทฟอร์ม Asha

 

ครั้งแรกในโลกกับสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกรอบเครื่องสวยใสดั่งคริสตัล มองเห็นตัวเครื่องสีสันจัดจ้านภายใน มอบทั้งดีไซน์สุดชิค ไม่เหมือนใคร และความคงทน Nokia Asha 500 และ Asha 503 มากับแพลทฟอร์ม Asha ที่ได้รับการพัฒนาให้ตอบสนองการใช้งานได้ดียิ่งขึ้น อินเตอร์เฟซใหม่ช่วยให้ถ่ายภาพและแบ่งปันภาพถ่ายบนสังคมออนไลน์ได้เร็วและง่ายกว่าเดิม แค่สไลด์เดียว (swipe) ก็เข้าถึงฟังก์ชั่นกล้องได้ง่ายๆ ทั้ง viewfinder และ gallery และใช้เพียงสัมผัสเดียวเพื่อโพสต์บนสังคมออนไลน์ สะดวกด้วย Fastlane หน้าจอรองเพื่อเข้าถึงแอพที่ใช้งานบ่อยและสังคมออนไลน์สุดฮิตเพียงสไลด์แค่ครั้งเดียว คุณสามารถมองเห็นอัพเดตต่างๆ บนสังคมออนไลน์ ทั้งคอมเม้นท์จากเพื่อนบนรูปที่คุณแชร์ หรือตอบข้อความต่างๆ ได้ทันที โดยสามารถตั้งค่าเพื่อกำหนดเนื้อหาที่จะปรากฎบน Fastlane ได้อีกด้วย

 

Nokia Asha 503 รองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ 3.5G หน้าจอกระจก Corning Gorilla Glass 2 ขนาด 3 นิ้ว กล้อง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED มีทั้งแบบซิมเดียวและสองซิมให้เลือกใช้งาน ส่วน Nokia Asha 500 มากับหน้าจอ 2.8 นิ้ว กล้อง 2 ล้านพิกเซล จดจำการตั้งค่าได้ถึง 5 ซิมการ์ด รองรับการใช้งานสองซิมเพื่อให้บริหารจัดการทั้งแพคเกจค่าโทรและค่าใช้งานอินเตอร์เน็ตที่คุ้มค่าที่สุด ทั้งสองรุ่นสามารถขยายหน่วยความจำได้ถึง 32GB ด้วย MicroSD การ์ด

nokia_asha_503_yellow resize600
Nokia Asha 503

 

นางสาวนนทวัน สินธวานนท์ หัวหน้าฝ่ายการตลาด บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “สมาร์ทโฟน Asha เป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย จากความสำเร็จของ Nokia Asha 501 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนแรกบนแพลทฟอร์ม Asha ใหม่ โนเกียจึงพัฒนาต่อยอดเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ให้คุณสไลด์ ถ่าย แชร์ ได้อย่างรวดเร็ว พร้อมนวัตกรรมด้านดีไซน์ที่ไม่ซ้ำใคร”

 

นอกจากนี้ โนเกียเตรียมเปิดให้บริการ WhatsApp บนแพลทฟอร์ม Asha ใหม่ โดยเริ่มจาก Asha 501 เป็นรุ่นแรก
ก่อนขยายสู่ Asha รุ่นใหม่ๆ ต่อไป และอัดแน่นด้วยแอพด้านภาพถ่าย เช่น Picfeed Pictag Photofunia และออนไลน์ยอดนิยมอย่าง Line, Foursquare, LinkedIn พร้อมกันนี้ ยังได้เปิดตัวแอพใหม่ My Portrait ให้คุณได้ใช้แอพเปลี่ยนรูปถ่ายของคุณเองหรือคนที่คุณรักเป็นการ์ตูนดิจิตอลที่ไม่ซ้ำใครในโลก ในสไตล์ที่คุณชอบ บรรจงวาดโดยนักวาดการ์ตูนมืออาชีพ ฟรีเฉพาะ 1,200 ท่านแรก

 

Nokia Asha 503 วางจำหน่ายแล้วในราคา 2,990 บาทสำหรับเครื่องซิมเดียว และ 3,090 บาทสำหรับเครื่องสองซิม และ Nokia Asha 500 วางจำหน่ายในราคา 2,250 บาท โดยมีสีแดงสด เขียวสด เหลือง ฟ้า ขาวและดำ ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก www.nokia.co.th/asha

 

nokia_asha_500_ds_green_02 resize600
Nokia Asha 500
nokia_asha_500_ds_black_sim_manager resize600
Nokia Asha 500