[Sneak Preview] OPPO N1 Mini สุดยอดสมาร์ทโฟน กล้อง Selfie หมุนได้ 195 องศา

 

OPPO N1 Mini ถือเป็นมือถือกล้องฟรุ้งฟริ้งที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพแบบ Selfie โดยเฉพาะ ด้วยกล้องที่สามารถหมุนได้ 195 องศา จะถ่ายด้านหน้าหรือด้านหลังก็เพียงแค่หมุนกล้องเท่านั้น ซึ่งถือเป็นการตอบโจทย์การใช้งานสำหรับสาวก Selfie ที่ต้องการกล้องหน้าความละเอียดสูง ซึ่ง OopsMobile ก้ได้รับเกียรติเชิญเข้าร่วมงาน OPPO N1 Mini Blogger Day เลยถึอโอกาสนี้เก็บภาพมาฝากครับ

 

OPPO N1 mini มาพร้อมหน้าจอ 5 นิ้ว ทำให้มีขนาดที่เหมาะมือ กะทัดรัดยิ่งขึ้น ความละเอียดหน้าจอระดับ HD 1280 x 720 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 293 พิกเซลต่อนิ้ว

preview-oppo-n1mini-01

 

กล้องหมุนได้ 195 องศา ความละเอียด 13 พิกเซล เซนเซอร์ CMOS จากโซนี่ พร้อมเลนส์ที่มาพร้อมรูรับแสงกว้างถึง F2.0ให้ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้โดยไม่ต้องใช้แฟลช แต่เพื่อให้รองรับได้ทุกสภาพแสงจึงได้เตรียมแฟลช LED มาให้ 1 ดวง จากเดิมในรุ่นที่แล้วจะมี 2 ดวง

preview-oppo-n1mini-02

 

นอกจากกล้องที่หมุนได้แล้ว ยังมีโหมดถ่ายภาพ Selfie ที่ช่วยปรับให้ใบหน้าเนียนใส และยังมีโหมด Ultra HD ที่ถ่ายภาพต่อเนื่อง 6 ภาพแล้วนำภาพที่ดีที่สุดมารวมกัน จนได้ความละเอียดสูงถึง 24 ล้านพิกเซล ซึ่งทำให้เก็บรายละเอียดของภาพได้คมชัดยิ่งขึ้น นำไปอัดเป็นรูปโปสเตอร์ขนาดใหญ่ได้สบายๆ

preview-oppo-n1mini-07

 

ด้านข้างก็ดูไม่หนา ด้วยความบาง 9.2  มม. ดูตัวเลขแล้วเหมือนจะหนา แต่ดีไซน์ที่โค้งรับไปกับบอดี้ด้านหลังจึงทำให้ดูบาง

preview-oppo-n1mini-04

 

ขอบด้านล่างของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม., ช่องเสียบสาย USB และลำโพง

preview-oppo-n1mini-03

 

ช่องใส่ซิมต้องใช้เข็มจิ้มถาดซิมเหมือน iPhone ถัดลงมาจะเป็นปุ่มโวลุ่มปรับระดับเสียง

preview-oppo-n1mini-05

 

ปุ่ม Power/Sleep อยู่ด้านซ้ายของตัวเครื่อง ตัวบอดดี้สีขาวจะเป็นผิวพลาสติกเนื้อด้าน ตัดขอบด้านข้างด้วยเส้นเมทาลิกคู่

preview-oppo-n1mini-06

 

เพื่อเพิ่มความสะดวกในการถ่าย Selfie ได้มากยิ่งขึ้น OPPO ได้เตรียม Oclick รีโมทชัตเตอร์บลูทูธ มาให้อีกด้วย โดยสามารถสั่งกดชัตเตอร์เพื่อถ่ายรูปได้เลย ขายแยกเป็นอุปกรณ์เสริมในราคา 990 บาท

preview-oppo-n1mini-08

 

อุปกรณ์ในกล่องที่มีมาให้ คือ สาย USB, หัวชาร์จอะแดปเตอร์ และ หูฟัง

preview-oppo-n1mini-09

 

หัวอะแดปเตอร์ดีไซน์คุ้นๆ เนอะ ว่ามั้ย

preview-oppo-n1mini-10

 

สุดท้าย ย้อนให้ดูกล่องแพกเกจของ OPPO N1 Mini กับกล่อง OClick ที่ดูเรียบหรู

preview-oppo-n1mini-11

 

OPPO N1 mini มี 2 สีให้เลือก โดยตอนนี้วางจำหน่ายตัว สีขาวไปแล้ว ส่วนสีฟ้าอ่อน จะวางจำหน่ายประมาณกลางเดือน สิงหาคม นี้ สนนราคา 12,990 บ.

n1-mini_16

 

สเปก OPPO N1 Mini
• หน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280×720 พิกเซล  (293 PPI) ใช้หน้าจอแบบ IPS
• ซีพียู Qualcomm MSM8928 Quad-core 1.6GHz
• แรม 2 GB
• หน่วยความจำในตัว 16 GB (เพิ่มการ์ดหน่วยความจำไม่ได้)
• กล้อง 13 ล้านพิกเซล หมุนได้ 195 องศา พร้อมโหมด Ultra HD 24 ล้านพิกเซล
• แฟลช LED 1 ดวง
• โหมดถ่ายภาพ Normal, HDR, Ultra-HD, Beautify, Panorama, Slow Shutter, Audio Photo, GIF mode
• ขนาดซิม Micro SIM
• เครือข่าย รองรับ 3G 850/900/1700/1900/2100MHZ

• ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 พร้อม ColorOS  1.4
• การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 b/g/n, Bluetooth 4.0, NFC, USB OTG, GPS
• แบตเตอรี่ 2140 mAh ถอดเปลี่ยนไม่ได้
• ขนาด 148.4 x 72.2 x 9.2 มม.
• น้ำหนัก 150 กรัม

 

ณ จุดนี้ ก็ชมรายละเอียดคร่าวๆ ไปก่อนนะครับ ไว้ได้เครื่องมารีวิวเมื่อไร จะรีวิวแบบจัดเต็มมาให้ชมกันนะครับ พร้อมทิ้งท้ายกับภาพบรรยากาศภายในงาน Blogger Day

 

 

[Sneak Preview] Nokia Lumia 930 ครั้งแรกของการเปิดตัวในนาม Microsoft Device

 

Nokia-Lumia-930-Apps
เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 57 ที่ผ่านมา สำหรับ Nokia Lumia 930 ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในนามของ Microsoft Device ประเทศไทย โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเรือธงตัวสำคัญของตระกูล Lumia ที่มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows Phone 8.1 พร้อมบอดี้โลหะ แข็งแรง ทนทาน ดูมีระดับ มีให้เลือกถึง 4 สีด้วยกันคือ ส้มสด, เขียวสด, ดำ และ ขาว โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 9 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป เอาล่ะครับ ก่อนที่จะได้สัมผัสตัวจริงกัน เราได้เก็บภาพจากงานแถลงข่าวมาพรีวิวให้ชมกันก่อน

 

Lumia 930 มาพร้อมหน้าจอขนาด 5 นิ้ว Full HD

Nokia-Lumia-930-01

 

แม้หน้าจอจะใหญ่ขึ้น แต่ตัวบอดี้ยังคงกะทัดรัด ถือใช้งานด้วยมือเดียวได้สะดวก

Nokia-Lumia-930-02

 

บอดี้ใช้วัสดุเป็นโลหะ ไม่สามารถเปิดฝาหลังได้ ดีไซน์ตรงบริเวณขอบให้โค้งรับสัมผัสกับการถือใช้งาน

Nokia-Lumia-930-03

 

ขอบด้านข้างตัวเครื่องค่อนข้างหนาไปหน่อย และยิ่งดีไซน์เหลี่ยมๆ ทำให้ดูหนาไปอีก

Nokia-Lumia-930-04

 

ขอบด้านบนมาพร้อมช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. และสล็อตถาดใส่นาโนซิม

Nokia-Lumia-930-05

 

กล้องหลัง PureView ความละเอียด 20 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED คู่ ส่องแสงถ่ายได้ถึง 3 เมตร และยังมีไมโครโฟน 4 ทิศทางมาให้ในตัว เพื่อการบันทึกวิดีโอด้วยระบบเสียง Dolby Surround Sound

Nokia-Lumia-930-07

 

Lumia 930 มาพร้อมระบบปฏิบัติการล่าสุด Windows Phone 8.1 ขับเคลื่อนด้วยซีพียู Qualcomm Snapdragon 800 Quad-core 2.2 GHz, หน่วยความจำภายใน 32 GB (เพิ่ม SD Card ไม่ได้), แรม 2 GB

Nokia-Lumia-930-08

 

เทียบขนาดกับ Lumia 1020 ตัวเครื่องยาวกว่าเล็กน้อย แต่ Lumia 930 มีพื้นที่หน้าจอมากกว่า

Nokia-Lumia-930-09

 

เทียบความกว้างแล้ว ขนาดพอๆ กัน

Nokia-Lumia-930-10

 

เทียบกล้องหลัง ยังไง Lumia 1020 ก็ยังสเปกสูงกว่าเป็นเท่าตัว

Nokia-Lumia-930-11

 

Nokia Lumia 930 สนนราคา 19,890 บาท พร้อมโปรโมชั่น 1,000 คนแรก รับ Treasure Tag WS-2 มูลค่า 990 บาท ฟรี ส่วนโปรโมชั่นสำหรับ dtac TriNet ได้ลดค่าบริการรายเดือน 50 % นาน 1 ปี

product2-jpg

 

[Sneak Preview] Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ 10.5

 

ศุกร์นี้แล้วสินะ (4 ก.ค. 57) ที่ Samsung Galaxy Tab S 8.4 และ Tab S 10.5 จะเริ่มวางจำหน่าย แต่หากใครกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อดีหรือไม่ซื้อดี เรามาดูของจริงกันก่อนดีกว่า ซึ่ง OopsMobile ได้เก็บภาพจากงาน Samsung Blogger Day มาให้ชมกัน

 

เริ่มกันที่รุ่น Galaxy Tab 10.5 กันก่อน จุดเด่นที่สุดของ Galaxy Tab S คือเรื่องของหน้าจอ ที่เป็น Super AMOLED ความละเอียด WQXGA เท่ากับ 4 ล้านพิกเซล (มากกว่า iPad Air 1 ล้านพิกเซล) หรือ 2560 x 1600 อัตราส่วน 16:10 และมีความหนาแน่นของพิกเซลถึง 360 พิกเซลต่อนิ้ว

preview-tab-s-01

 

 

ตรงขอบจอ ยังคงมีปุ่ม Home, Mutitasking และ Back มาให้

preview-tab-s-02

 

พลิกดูด้านหลังตัวบอดี้ออกแบบให้มีลายจุดเรียงเป็นแถว ดูเรียบง่าย สีบอรนด์ทองเข้มๆ ดูคลาสิกดี (มีสีขาวให้เลือกด้วยนะ) ส่วนกล้องมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล แฟลช LED 1 ดวง ส่วนกล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้แบบ Full HD เลยทีเดียว

preview-tab-s-03

 

ทั้ง 2 รุ่นจะมาพร้อม ระบบสแกนลายนิ้วมือตรงปุ่ม Home เหมือนกับ Galaxy S5

preview-tab-s-04

 

ลองถ่ายใกล้ๆ หน้าจอดู เรียกว่าความละเอียดสูง ให้ภาพสีสันสดใส ตามคุณสมบัติของหน้าจอแบบ AMOLED

preview-tab-s-05

 

ตัวเครื่องบางเพียง 6.6 มม. (เท่ากันทั้ง 2 รุ่น) และน้ำหนักรุ่น 10.5″ เพียง 467 กรัม ส่วนรุ่น 8.4″ หนักเพียง 298 กรัม

preview-tab-s-06

 

ตัวเคสแบบ Book Cover ยึดติดด้วยแม่แหล็กที่ด้านหลังตัวเครื่อง พร้อมรองรับการเปิด ปิด หน้าจอ อัตโนมัติ

preview-tab-s-07

 

วางเป็นสแตนด์ขาตั้งปรับระดับได้

preview-tab-s-08

 

เปรียบเทียบขนาดหน้าจอของทั้ง 2 รุ่น

preview-tab-s-09

 

Galaxy Tab S 8.4 เมื่ออยู่ในมือก็กะทัดรัดดีนะ

preview-tab-s-10

 

ขอบบางเท่ากับรุ่น 10.5″

preview-tab-s-11

 

ดูสเปกอย่างเป็นทางการของ Galaxy Tab S 8.4″ / 10.5″

preview-tab-s-12

 

Galaxy Tab S 8.4 ราคา 16,900 บ.
Galaxy Tab S 10.5 ราคา 19,900 บ.

 

[Sneak Preview] Nokia X สมาร์ทโฟนสายพันธุ์ X รันแอพ Android ได้ 100%

 

ได้ฤกษ์วางจำหน่ายแล้วสำหรับ Nokia X สมาร์ทโฟนแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่เป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกจากงาน MWC2014 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา วันนี้โนเกียประเทศไทยได้นำ Nokia X มาให้ชาวไทยได้สัมผัสกันแล้ว โดยเริ่มนำเฉพาะรุ่นเล็กอย่าง Nokia X เข้ามาก่อน โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 14 มีนาคม 57 ที่โนเกียช็อปทั่วประเทศ ในราคาเพียง 3,990 บ.

 

จุดเด่นของ Nokia X อยู่ตรงที่ระบบปฏิบัติการล่าสุดที่เรียกว่า Nokia X แพลตฟอร์ม ที่สามารถรันแอพพลิเคชั่นจากระบบปฏิบัติการ Android ได้อย่าง 100% โดยสามารถดาวน์โหลดได้ 2 ทางด้วยกัน คือ

1. Nokia Store โดยทางโนเกียจะทยอยนำแอพพลิเคชั่นจาก Android มาลงในสโตร์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด
2. APK Install สามารถติดตั้งแอพจากไฟล์ .apk ซึ่งเป็นไฟล์แอพของ Android นั่นเอง

 

และที่สำคัญการดาวน์โหลดแอพจากโนเกียสโตร์บน Nokia X นั้น ไม่ต้องใส่แอคเคาท์ให้ยุ่งยาก ใครที่เป็นมือใหม่หัดเล่นสมาร์ทโฟนก็ไม่ต้องสมัครแอคเคาท์ให้ปวดหัวอีกต่อไปแล้ว อยากลงแอพไหนก็แตะดาวน์โหลดลูกเดียว อย่างได้แคร์

 

ส่วนแอพตัวไหนที่ต้องเสียเงิน ก็สามารถตัดเงินจากซิมการ์ดของเครือข่ายโทรศัพท์ที่รองรับได้เลย คาดว่าเบื้องต้นน่าจะร่วมมือกับดีแทคก่อน เหมือนบน Lumia ที่สามารถทำได้มาแล้ว

 

เอาล่ะครับได้ทราบจุดเด่นของ Nokia X ไปบ้างแล้ว เราไปชมภาพตัวเป็นๆ กันเลยดีกว่า

 

Nokia-X-02

บอดี้เหมือนกันโนเกีย Asha ที่ใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนต จะวางขายทั้งหมด 5 สี คือ สีเขียวสด แดงสด ฟ้า เหลือง ดำและขาว

 

Nokia-X-03

กล้องหลัง ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล แบบ Fix Focus

 

Nokia-X-04

พอร์ต Micro USB ไว้เชื่อมต่อข้อมูล และชาร์จแบตให้ตัวเครื่อง

 

Nokia-X-05

ปุ่มโวลุ่ม และปุ่มล็อคหน้าจอ/เปิดปิดเครื่อง อยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง

 

Nokia-X-06

ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อยู่มุมซ้ายบน

 

Nokia-X-12

ถอดกรอบฝาหลังออก โดยดันตรงกล้องแล้วแงะด้านบนของตัวเครื่องออกมา

 

Nokia-X-13

Nokia X สามารถใช้ได้ 2 ซิม แถมรองรับ 3G (ได้ซิมเดียว) และเพิ่มเมมด้วย Micro SD ได้สูงสุด 32 GB ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 1500 mAh

 

Nokia-X-11

หน้าแรกถูกออกแบบให้เป็นการผสมผสานข้อดีของ ไทล์จาก Lumia Windows Phone และ Fastlane จาก Asha เข้าไว้ด้วยกัน

 

Nokia-X-15

แค่ปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาก็จะเข้าสู่หน้า Fastlane ซึ่งเป็นช็อตคัทที่ใช้งานล่าสุด

 

Nokia-X-10

แอพพลิเคชั่นหลักจาก Android ที่ติดตั้งได้ 100% บน Nokia X

 

Nokia-X-07

หน้าตา โนเกียสโตร์ที่เริ่มทยอยนำแอพพลิเคชั่นจากแอนดรอยด์มาลงให้ดาวน์โหลด

 

Nokia-X-09

ยังมีแอพบางส่วนอย่าง Instagram ที่ไม่มีให้โหลดในโนเกียสโตร์ แต่สามารถใช้สโตร์เพื่อนบ้านอย่าง 1Mobile Market ที่มีแอพหลักๆ จากแอนดรอยด์ให้ดาวน์โหลด โดยไม่ต้องมีแอคเคาท์ได้อีกเช่นเดียวกัน

 

Nokia-X-14

ใช้งาน Instagram ได้ครบทุกฟังก์ชั่นเหมือนแอนดรอยด์เลย แต่อาจจะโหลดช้าบ้างเรื่องจากสเปกเครื่องรุ่นนี้ไม่ได้แรงมาก

 

Nokia-X-17

แตะลากจากด้านบนของหน้าจอลงมาเพื่อเปิดดูแถบแจ้งเตือนได้เหมือนแอนดรอยด์เลยนะครัสส… แถมมีปุ่มไอคอน Settings ให้เข้าสู่การตั้งค่าได้ทันที

 

Nokia-X-16

ลองติดตั้งเกม Flappy Bird ได้โดยไม่ต้องกรอกแอคเคาท์ใดๆ เลย

 

และนี้คือ Sneak Preview พรีวิว Nokia X แบบลับๆ ล่อๆ ให้ชมกันเบื้องต้นก่อนนะครับ ไว้ได้เครื่องมารีวิวแบบเต็มๆ เมื่อไร จะจัดเต็มในคอลัมน์ Review ให้สาสม