ไม่ลงไม่รอมันแล้วนะ iWatch ที่ลือกันอยู่นั่นแหละ… ก็ในเมื่อมีผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะอย่าง Kairos ที่นำระบบนาฬิกาแบบแมคานิค (แบบเข็ม) มารวมกับ Smart Watch เข้าไว้ด้วยกัน จนกลายเป็นนาฬิกาอัจฉริยะลูกผสม หรือ Hybrid ซึ่งจะออกมาให้เราได้สัมผัสจริงในอีกไม่นานนี้
ความสามารถของเจ้า Kairos เรือนนี้ นอกจากจะเป็นนาฬิกาแบบเข็มสุดหรูแล้ว มันยังมาพร้อมหน้าปัดแสดงผล แบบโปร่งใส่ Transparent OLED (TOLED) ซึ่งเวลามีการแจ้งเตือนต่างๆ เข้ามาก็จะแสดงผลบนหน้าจอ ให้เห็นซ้อนบนหน้าปัดนาฬิกาขึ้นมาอย่างชัดเจน โดยสามารถแจ้งเตือนสายเข้า, อีเมล์, Line, Twitter, Facebook ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เปิด-ปิดเพลงบนมือถือ, แสดงข้อมูลฟิตเนส, เป็นนาฬิกาจับเวลาดิจิตอล และ มี GPS ไว้เทียบตำแหน่งเพื่อระบุเวลาได้ทั่วโลก
Kairos มาพร้อม 2 โมเดลให้เลือกระหว่าง MSW 115 ที่มาพร้อมระบบกลไกขับเคลื่อน Miyota Japanese Movement ส่วนรุ่น SSW 158 จะขับเคลื่อนด้วยกลไล SWISS Movement จาก SOPROD ที่มีชื่อเสียงที่น่าเชื่อถือ โดยทั้ง 2 รุ่น เป็นตัวเรือนแบบสเแตนเลสสตีล ใช้สายหนัง และหน้าปัดเป็นคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน
MSW 115 Model
SSW 158
จุดเด่นอีกอย่างของ Kairos ก็คือแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับการทำงานของระบบ Smart Watch ได้นาน 5-7 วัน (รองรับส่วนของนาฬิกาแมคานิคได้ 42 ชั่งโมง) โดยให้แบตเตอรี่มาในตัว 180 mAh ชาร์จผ่านคอนเน็คเตอร์แบบแม่เหล็กด้วยสาย USB ซึ่งเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานก็เพราะว่าไม่ต้องใช้หน้าจอในการแสดงผลนาฬิกาเหมือน Smart Watch รุ่นอื่นๆ ดังนั้นมันจะใช้พลังงานจากแบตฯ ก็ต่อเมื่อมีการแสดงผลบนหน้าจอจากการแจ้งเตือนต่างๆ เท่านั้น
สำหรับหน่วยประมวลผลก็มาพร้อม Arm Cortex M4 หรือ Intel (มี 2 รุ่นให้เลือก) ส่วนระบบปฏิบัติการก็จะมี Android Wear OS กับที่เป็นออปชั่นคือใช้ระบบปฏิบัติการ Kairos OS (ใช้ได้กับ IOS, Android และ Windows Phone) พร้อมด้วยเซนเซอร์ Touch sensor, 3 axis accelerometer และ Gyroscope
[youtube link=”http://youtu.be/ndycU_dUHNQ” width=”590″ height=”315″]
ในขณะนี้ นาฬิกา Kairos กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต ซึ่งจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ และเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วผ่านหน้าเว็บไซต์ Kairoswatches ทั้งนี้ยังมีบริการให้อัพเกรดรุ่นใหม่ได้อีกด้วย โดยเสียค่าบริการเพียง $99 เหรียญเป็นอย่างต่ำ
นาฬิกา Kairos สนนราคาเริ่มต้นที่ $499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16,000 บาท จนถึง $1,199 ประมาณ 38,900 บาท
Source : gizmag