เกิดประเด็นวิจารณ์บนโลกออนไลน์ เมื่อ @thecuriousdan ออกมาโพสต์ภาพและข้อความเล่าพฤติกรรมของหนุ่มรายหนึ่ง ที่ถ่ายเซลฟี่ช่วงเกิดเหตุระเบิดราชประสงค์ ทำให้ชาวเน็ตที่เห็นภาพออกมาวิจารณ์ถึงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จนหนุ่มคนดังกล่าวต้องลบภาพออกไปในที่สุด //ลบแล้วใช่ว่ารูปจะหายไป //คราวหลังคิดให้ดีก่อนโพสต์นะจ๊ะ
Source https://twitter.com/thecuriousdan
หลังจากดุจดิว เจ้าของชาแนลอีสานพาเพลินตัดใจจากคำสั่ง “ถ่ายแม่ะ” มาลองพูด “แคปเจอร์” ถ่ายรูปด้วยเสียงบน Galaxy S6 จนประสบความสำเร็จ หลายคนกลายเป็นแฟนคลับของเธอและรอดูว่าจะมีปัญหาการใช้งานอีกมั้ยน้า? บอกเลยค่ะว่าไม่มีปัญหาแต่มีความลับที่หลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อนจนกระทั่ง “พ่อโทรมา” Oops!!
https://www.youtube.com/watch?v=xg9KbLC80y0
หนุ่มเกาหลีโดนด้วยเลย “ถ่ายแมะ”
YouTube : อีสานพาเพลิน, dhanis
หลายคนขึ้นรถไฟนั่งเล่นมือถืออาจไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่ามีคนแอบอ่านข้อความอยู่ หรือถ้ารู้สึกตัวแล้วจะทำอย่างไร? บางคนลุกเปลี่ยนที่นั่ง บางคนหันไปมองหน้าทีนึงให้เค้ารู้สึก แต่สำหรับหนุ่มในคลิปนี้บอกเลยว่าการมองหน้าไม่ทำให้เค้ารู้สึกผิดหรอกค่ะ 555 (คงผ่านชั่วโมงบินมาสูง) จนผู้หญิงข้างๆเข้าใจว่าหนุ่มคนนี้มองไปที่อื่น โห..การ “มองบน” แบบนี้มันได้ผลสุดๆไปเลยสินะ Oops+
hahahaha Posted by Funniest And Craziest Videos on 16 สิงหาคม 2015
ถึงกับงงไปเลยเมื่อดีเจสุดฮาอย่าง “พล่ากุ้ง” ขำไม่ออกอยู่ 2 วันเพราะทำไอแพดคู่ใจหายบนรถไฟในประเทศญี่ปุ่น โดยเขาเล่าว่า
“ลืมไอแพดไว้บนรถไฟที่ญี่ปุ่น กว่าจะมารู้ตัวอีกทีเกือบ2วัน พอนึกได้ก็ให้ทีมงานติดต่อไปที่สถานีรถไฟ ด้วยความหวังลมๆแล้งๆว่า ดีกว่าไม่ทำเอาไร”
แต่ใครจะเชื่อ อีก2วันถัดมา เจ้าหน้าที่ โทรกลับมา บอกว่าเจอ และพิสูจน์ความเป็นเจ้าของเรียบร้อย เพียงแค่บอกรหัสผ่านถูก
“และแล้วไอแพดของผม ก็ถูกส่งกลับมาหาเจ้าของโดยปลอดภัย ห่อมาอย่างดี สุดยอดมากๆครับ ประเทศนี้ ขอชื่นชมจากใจจริงเลยจ้า”
ปล. แอดเองเคยให้เพื่อนยืม iPhone 5 ไปญี่ปุ่น นางโพสต์ใน facebook ลืมโทรศัพท์ไว้ในห้องน้ำแต่ลงมาหาทันทีไม่ได้เพราะอยู่บนเขา!! หลายชั่วโมงผ่านไปมันยังอยู่ที่เดิมจ้า T^T อีกคนลืมกระเป๋าตังค์ไว้ในรถไฟก็ยังได้คืน OMG //อา-ริ-กา-โต โกะ-ซา-อิ-มาซซซ
Source : Plakung
หลังจากมีภาพจดหมายที่สิงห์ ประชาธิป หรือสิงค์ สควีซ แอนิมอล เขียนทิ้งไว้ให้แฟนสาวเฟย์ (เฟย์ ฟาง แก้ว) ล่าสุด @bankjypn เพื่อนสนิท ได้โพสต์รูปนาฬิกาแอปเปิ้ลวอทช์ (Apple Watch) วางอยู่บนกระดาษที่มีข้อความเขียนด้วยลายมือว่า “Paki กูให้มึง สิงห์” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อความสั่งเสียของหนุ่มสิงห์ถึงเพื่อนสนิทนั่นเอง
แต่ด้วยความที่สนิทกันมาก @bankjyn ได้เขียนข้อความผ่านไอจีไปบอกสิงห์ ดังนี้ //แอดขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ ดูจากรูปด้านบนพี่สิงห์ได้ทิ้งคู่มือการใช้งานไว้แล้ว Apple Watch ใช้ไม่ยากอย่างที่คิดค่ะ ต้องเล่นให้ได้นะเราจะคิดถึงพี่สิงห์เช่นกัน สู้ๆ 
ภาพจาก : @bankjypn
มาอีกแล้วค่ะ ว่างๆไม่มีอะไรทำ ชาแนล Gadget Hospital เลยจัดให้แฟน iPhone และ Samsung ได้ลุ้นกันอีกรอบ ขอสาธิตความอึด “ใครทนไฟกว่ากัน” ระหว่าง iPhone 6 กับ Samsung Galaxy S5 จัดมาค่ะ!! ถ้ากล้าเผาก็กล้าดู หุหุ! #บอกเลยงานนี้ประกันไม่รับเคลม #oops!
คลิปจาก Gadget Hospital
โรงเรียนไทยมาถึงจุดนี้แล้วค่ะ “จุดที่มี SMS ฟ้องเอ้ย! แจ้งผู้ปกครอง” โดยระบบนี้เรียกว่า “SMS School” ผู้ปกครองจะได้รับรายละเอียดของลูกๆ ทางอีเมล เอสเอ็มเอส หรือเว็บไซต์
ซึ่งศาสตราจารย์รังสรรค์ แสงสุข อธิการบดี ประจำมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่า ทุกวันนี้ เราเปิดบริการรับลงทะเบียนเรียนและรับข้อมูลข่าวสารผ่านเอสเอ็มเอส ทางโทรศัพท์มือถือ สำหรับนักศึกษาที่มีอยู่กว่า 6 แสนคนทั่วประเทศ นับเป็นแห่งแรกในประเทศไทยที่ทาง มหาวิทยาลัยเปิดให้บริการดังกล่าว ทำให้นักศึกษาไม่จำเป็นต้องเดินทางมาลงทะเบียนเรียนด้วยตนเองอีกต่อไป
ล่าสุดเฟซบุ๊ค Navaporn leamkaewprasert ได้เผยภาพโรงเรียนแห่งหนึ่งแถวนนทบุรี แจ้งการเข้าร่วมกิจกรรมหน้าเสาธงของลูกหลานท่าน แต่สงสัยเด็กๆจะให้เบอร์ผิดไป เลยมีข้อความตอบกลับมาแบบนี้ #เบอร์ผิดค่ะ #ไม่ใช่แม่ แต่ที่ฮากว่านั้นคือระบบยังคงส่งรายงานต่อไปโดยไม่แคร์ข้อความตอบกลับ #บอทชัดๆนะ Oops++
และนี่คือความสามารถของการใช้ SMS ในโรงเรียน หรือสถาบันการศึกษา เจ๋งไปเลยว่ามั้ยคะ
• แจ้งประกาศวันหยุดเรียนในโอกาสต่าง ๆ
• แจ้งผลการสอบประจำภาคการเรียนต่างๆ
• ประกาศข่าวสารต่างๆ ของทางโรงเรียนให้ผู้ปกครองทราบ
• ส่ง SMS ให้ผู้ปกครองทราบเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม
• แจ้งผู้ปกครองทราบนักเรียนไม่มาโรงเรียนปกติ
• แจ้งพฤติกรรมนักเรียนที่เป็นปัญหาให้ผู้ปกครองทราบ
• แจ้งกิจกรรมของนักเรียนห้ผู้ปกครองทราบหลังเลิกเรียน
• แจ้งประกาศวันเปิดเรียน,เปิดเทอม
• แจ้งช่วงวัน-เวลาการสอบประจำภาคเรียนต่างๆ
• แจ้งนัดหมายการประชุมครู ผู้ปกครอง ผ่านระบบ SMS
• แจ้งข่าวสารภายในหน่วงงานและระหว่างองค์กร
• แจ้งวันทะเบียนเรียน ผ่านระบบ SMS
• ประกาศรับสมัครนักเรียนประจำภาคการเรียนใหม่
ภาพจาก FB : Navaporn leamkaewprasert
“แฟนติดมือถือ” กำลังเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคนอยู่รึเปล่าคะ? ถ้าใช่แอดอยากให้ลองดูทริคเล็กๆจากพี่สุดหล่อคนนี้ คิดได้ไงอ่ะฟินเลย!! แต่ถึงแม้จะทำให้แฟนเลิกเล่นมือถือไม่ได้ทันที อย่างน้อยแฟนก็จะเริ่มรู้ตัวว่า “สนใจกันบ้างเถ๊อะะะะ” ไม่งั้นจะเสิร์ฟอีกสักจุ๊บสองจุ๊บอย่าว่ากันนะ อิอิ
ไปดูปฏิกิริยาฝ่ายหญิงกันดีกว่าค่ะว่าจะรู้สึกอย่างไร
เครื่องปริ้น 3 มิติมาถึงจุดนี้ได้ยังไง! จุดที่ใช้เวลา 3 ชม. สร้างบ้าน 2 ชั้น โดยบริษัทรับออกแบบและสร้างบ้าน “Yongliang” ในประเทศจีน พร้อมตกแต่งภายในเสร็จสรรพ มีทั้งระบบน้ำประปาและไฟฟ้าอีกด้วย 
สำหรับบ้านที่ประกอบในเมืองซีอานแห่งนี้แบ่งออกเป็น 6 ชิ้นส่วนซึ่งแต่ละส่วนมีน้ำหนักมากเกิน 100 กิโลกรัมประกอบไปด้วยห้องรับประทานอาหาร, ห้องนอน, ห้องครัว และห้องน้ำ ราคาอยู่ที่ตารางเมตรละ 2,500-3,500 หยวน (1 หยวน เท่ากับประมาณ 5 บาท) 
โดยชิ้นส่วนประกอบทั้งหมด ใช้เวลาในการผลิตประมาณ 10 วันเท่านั้น ขณะที่บ้านทั่วไปต้องใช้เวลาในการสร้างนานถึง 6 เดือน ขณะเดียวกันบ้านที่ทำจากเครื่องปริ้นท์ 3 มิติมีความแข็งแรงทนทานต่อภัยแผ่นดินไหวและยังมีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดีอีกด้วย ถือเป็นอีกเรื่องราวดีๆที่พี่จีนไม่เคยทำให้เราผิดหวังนะคะ Oops! 
Source : shanghaiist
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวบีบีซีออนไลน์เคยรายงานผลการวิจัย พบว่าการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างหนักระหว่างวัน มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งที่ต่อมน้ำลายเพิ่มสูงขึ้น และในปัจจุบันพบว่าเป็นเช่นนั้นจริง ยกตัวอย่างวัยรุ่น 25 ปีคนหนึ่งเล่าว่า
“เธอใช้โทรศัพท์มือถือคุยกับแฟนทุกคืนวันละ 2 ชั่วโมง (เพราะค่าโทรเวลานั้นถูก) คุยกันจนมือถือร้อนถึงวางหู กลางวันทำงานเป็นพนักงานขายก็ต้องใช้มือถือตลอดเวลาอีก ในระยะเวลา 5 ปี เธอเปลี่ยนโทรศัพท์มาแล้วถึง 7 เครื่อง” //ไม่ได้อยากออกรุ่นใหม่นะ แต่ใช้จนมันพังจริงๆ Oops!
ไม่นานเธอพบก้อนแข็งๆ ใกล้ๆบริเวณใบหูแต่ไม่ได้สนใจอะไร หลังจากนั้นสองเดือนมันก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลพบว่าเป็นเนื้องอกต่อมน้ำลาย หลายคนอาจสงสัยว่านอกจากคุยโทรศัพท์นานๆยังมีกรณีอื่นที่อาจทำให้เป็นโรคมะเร็งได้หรือไม่ บอกเลยว่ามีค่ะ เช่น
1.การวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างหมอนอาจจะทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง
คลื่นจากโทรศัพท์มือถือส่งผลเสียต่อสมองมากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการปวดหัว มึนหัว นอนไม่พอ หลับไม่สนิทหรือผมร่วง
2.ใช้สายคล้องโทรศัพท์ไว้แบบคล้องคอมีผลทำให้การทำงานของหัวใจและต่อมไร้ท่อผิดปกติ
คลื่นแม่เหล็กมีผลต่อการเมตาบอลิซึมของเซลล์ ทำให้การเผาผลาญของเซลล์ การควบคุมปริมาณโพแทสเซียม แคลเซียม โซเดียมและไอออผิดปกติ และยังมีผลต่ออาการผิดปกติของประจำเดือนของสาวๆอีกด้วย
3.การพกโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกง มีผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ และเป็นไปได้ว่าทำให้เกิดการดัดแปลงระดับชั้นพันธุกรรม ( DNA)
หากคุณพกโทรศัพท์มือถือไว้บริเวณเอวหรือหน้าท้องบ่อยๆ ควรระวังเพราะว่าคลื่นของโทรศัพท์มือถืออาจจะแผ่รังสีไปโดนเซลล์สืบพันธุ์ทั้งของผู้ชายและผู้หญิง และเป็นไปได้หากเซลล์สืบพันธุ์ได้รับคลื่นในขณะที่กำลังเจริญเติบโตนั้นอาจะทำให้เกิดการดัดแปลงระดับชั้นพันธุกรรม ( DNA)
4.การใช้สายตาเล่นเนตหรืออ่านหนังสือบนมือถือมากๆ อาจทำให้เกิดมะเร็งในดวงตาได้
จากผลการวิจัยในประเทศเยอรมนีพบว่า คนที่เล่นโทรศัพท์มือถือบ่อยๆมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งในดวงตามากกว่าคนปกติถึง 3 เท่า
วิธีที่ 1. การติดแผ่นกันสัญญาณแม่เหล็กบนมือถือ
รังสีอันตรายจากมือถือนั้นมาจากสัญญาณโทรศัพท์ที่ส่งมาจากเสาอากาศ แล้วอย่างนี้การติดที่กันคลื่นแม่เหล็กบนยนมือถือจะช่วยได้ขนาดไหนเชียว
วิธีที่ 2. เลือกใช้เคสโทรศัพท์ที่ทำมาจากพลาสติก
ไม่ว่าเคสโทรศัพท์ที่ใช้จะเป็นพลาสติกหรือไม่รังสีที่ส่งออกมาจากมือถือนั้นก็ยังเท่าเดิม
วิธีที่ 3. ในขณะที่รับสายโทรศัพท์ไม่ควรนำโทรศัพท์เข้ามาใกล้หูทันที
โทรศัพท์ในขณะที่เพิ่งรับสายนั้นเป็นช่วงที่สัญญาณแรงที่สุด หลังจากกดรับสายแล้วนั้นความแรงของสัญญาณโทรศัพท์จะลดลงและคงที่ เพราะฉะนั้นเวลากดรับสายโทรศัพท์ไม่ควรนำโทรศัพท์เข้ามาใกล้ศีรษะทันที
วิธีที่ 4. อย่าคุยนาน
ลดเวลาการคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ และพยายามอย่าพูดสายนานเกิน 1-2 ชม.ต่อวัน
วิธีที่ 5. อย่าโทรบ่อย
ความแรงของสัญญาณโทรศัพท์ในการโทรออกและการรับสายนั้นต่างกัน สัญญาณโทรศัพท์ขณะที่โทรออกนั้นแรงกว่าขณะรับสาย
วิธีที่ 6. สลับข้างการคุยซ้ายขวา
วิธีที่ 7. หลีกเลี่ยงการพูดสายในที่ๆมีสัญญาณโทรศัพท์ต่ำ
เมื่อคุยโทรศัพท์มือถือในที่ที่มีสัญญาณต่ำนั้น แปลว่าอยู่ไกลจากตู้สัญญาณซึ่งทำให้ต้องใช้สัญญาณแรงขึ้นในการต่อสาย
วิธีที่ 8. ต่อหูฟังเวลาพูดสาย
ควรใช้หูฟังเวลาต้องคุยโทรศัพท์นานๆ และควรวางโทรศัพท์ให้ห่างจากศีรษะมากกว่า 30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้สัญญาณมือถือเข้าใกล้ศีรษะโดยตรง
วิธีที่ 9. หลีกเลี่ยงการพูดสายเวลาแบตใกล้หมด
วิธีที่ 10. ไม่พูดสายขณะกำลังชาร์มือถือ
วิธีที่ 11. เวลานอนไม่ควรวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างหมอน