7 ไอเดียช่วยจำสำหรับคนทำงาน

 

เข้าสู่ช่วงกลางสัปดาห์ของวันทำงานกันแล้ว  เชื่อว่าคนทำงานที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบหลายอย่างคงต้องเคยทำงานพลาด ทำงานไม่ครบ หรือทำงานตกหล่น เนื่องจากเกิดอาการหลงๆ ลืมๆ กันแน่นอน ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนั้นต่อไป อาจส่งผลร้ายต่อการทำงานในอนาคตได้ jobsDB.com ขอแนะนำ ‘7 ไอเดียช่วยจำ สำหรับคนทำงาน’ ซึ่งเราเชื่อว่าจะสามารถช่วยให้ทุกท่านสามารถบริหารจัดการงานทั้งหลายทั้งปวงได้อย่างมีประสิทธิภาพแบบมืออาชีพ

 

Memo-management

 

  1. จดช่วยจำ คุณไม่จำเป็นต้องนำข้อมูลทั้งหมดบนโต๊ะทำงาน เข้ามาใส่ในสมอง เพียงแค่คุณเรียบเรียงความคิดของคุณใหม่ แล้วจดมันลงไปสมุดพกที่คุณสามารถเปิดอ่านได้ทันทีที่คุณต้องการ วิธีการนี้จะช่วยตอกย้ำความจำให้กับคุณได้เป็นอย่างดี
  2. สุขภาพดี ความจำดี คงเป็นเรื่องดีไม่น้อยหากคุณมีเวลาออกกำลังกายก่อนหรือหลังทำงานอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการมีสุขภาพแข็งแรง ทานอาหารที่เป็นประโยชน์ พักผ่อนเพียงพอ จะช่วยให้สมองของคุณได้ผ่อนคลาย จะช่วยให้คุณมีสมาธิดี และเพิ่มความจำให้กับคุณ
  3. อัดเสียงไว้เลย หากคุณต้องประชุมสำคัญ ซึ่งอาจมีระยะเวลายาวนาน ลองเลือกใช้วิธีการอัดเสียงลงบนเครื่องบันทึกเสียง หรือโทรศัพท์ที่คุณใช้อยู่ เพื่อป้องกันการผิดพลาดของข้อมูล หากคุณฟังผิด หรือฟังไม่ทัน ก็สามารถกลับมาฟังเสียงที่อัดไว้ได้ซึ่งจะเป็นการตอกย้ำความทรงจำให้กับคุณได้
  4. คิดบวกกับตัวเอง ว่ากันว่าหากคุณมองตัวเองในแง่ลบ คุณจะไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ ลองหัดคิดบวกให้กับตัวเอง ให้กำลังใจตัวเอง แล้วคุณจะสามารถทำมันได้ดี ยกตัวอย่างเช่น หากคุณคิดว่า คุณเป็นคนขี้ลืม ความจำสั้น คุณก็จะเป็นคนขี้ลืมอยู่อย่างนั้น ลองเปลี่ยนวิธีคิด ว่าคุณจำมันได้ มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองได้ฟัง ได้รับข้อมูลมาแล้ว คุณจะเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่าง
  5. ตั้งเวลาเตือนความจำ บางครั้งคุณอาจต้องใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่ใกล้ตัวช่วยคุณทำงาน ปัจจุบันคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟนสามารถเชื่อมต่อระบบอีเมล์กับปฏิทินออนไลน์ได้ หากคุณมีนัดสำคัญ หรือมีกำหนดงานที่ต้องทำ ลองตั้งเวลาให้มันเตือนคุณล่วงหน้าก่อนกำหนดซัก 1 วัน เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาเตรียมจัดการกับมัน อีกทั้งยังสามารถช่วยเตือนความจำเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ของคุณได้อีกด้วย
  6. แปะๆ โพสต์อิท คุณอาจหากระดาษโน๊ตแผ่นเล็กๆ หลากสีสันมาช่วยดึงดูดสายตา แปะไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เตือนว่าเมื่อเปิดคอมขึ้นมาคุณต้องทำอะไรบ้าง หรือแปะไว้ที่โทรศัพท์ เตือนว่าคุณต้องโทรหาใครบ้าง เป็นต้น
  7. เตือนความจำด้วยรูปภาพ รูปภาพอาจช่วยคุณเตือนความจำได้ดีกว่าข้อความ ติดรูปภาพสวย ๆ ไว้ที่โต๊ะทำงาน นอกจากย้ำเตือนถึงสิ่งที่คุณต้องทำแล้ว ยังช่วยผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานได้อีกด้วย

 
 

Sync by 50 Cent Wireless Sport In-ear หูฟังระดับเวิล์ดคลาส เพิ่มขีดจำกัดของการเคลื่อนไหวพร้อมเสียงอันทรงพลัง

 

สมกับที่เหล่าบรรดาผู้รักเสียงดนตรี และผู้ที่มีไลฟ์สไตล์แอคทีฟเฝ้ารอ เมื่อ SMS Audio หูฟังแบรนด์คุณภาพจากอเมริกาของแร๊พเปอร์ชื่อดังระดับโลก เคอร์ทิส เจมส์ แจ็คสัน (Curtis James Jackson) หรือรู้จักกันดีในนาม 50 Cent เปิดตัวหูฟังแบรนด์ SMS Audio คอลเลคชั่นใหม่ Sync by 50 Cent Wireless Sport In-ear ในประเทศไทย นอกจากชื่อชั้นของ 50 Cent  จะเป็นการการันตีคุณภาพเสียงระดับสตูดิโอแล้ว SMS Audio Sync: Wireless Sport In-ear ยังได้รับการออกแบบมาเพื่อไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ด้วยนวัตกรรมไร้สาย จึงหมดกังวลเรื่องสายหูฟัง นอกจากนี้ยังเพิ่มความสามารถในการใช้งานได้ดีแม้ขณะร่างกายเคลื่อนไหว และเพิ่มอิสรภาพในการทำกิจกรรมต่างๆมากยิ่งขึ้น หูฟัง SMS Audio Sync: Wireless Sport In-ear มีสไตล์ที่ทันสมัยพร้อมเชื่อมต่อสัญญาณด้วยระบบ Bluetooth

SMS_BT_hero_BLUE

หูฟัง SMS Audio : Wireless Sport In-ear ยังสามารถกันน้ำในระดับ IPX4 ป้องกันน้ำ และเหงื่อในระหว่างการออกกำลังกาย และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ นอกจากคุณสมบัติพิเศษเหล่านี้แล้ว หูฟังรุ่นล่าสุดนี้ยังอัดแน่นด้วยคุณภาพเสียงเช่นเคย ด้วยลำโพงขนาด 6 มิลลิเมตร ซึ่งมาพร้อมกับปุ่ม MFI Control ช่วยให้การเพิ่มลดเสียง และรับโทรศัพท์ได้ง่ายขึ้นอีกด้วยผู้รักเสียงดนตรียังสามารถฟังเพลงโปรดได้อย่างต่อเนื่องนานถึง 8 ชั่วโมง SMS Audio : Wireless Sport In-ear มีสีให้เลือกถึง 3 สีทั้ง Yellow, Blue และ Pink จำหน่ายในราคา 4,490 บาท

SMS_BT_hero_PINK SMS_BT_hero_ylw SMS_InEar__Sport_Wireless_blue SMS_InEar__Sport_Wireless_yellow

“AIS Privilege” Line Official แจกความสุข มอบขนม อานตี้ แอนส์ 1 แสนชิ้น!!! ลงทะเบียนรับสิทธิ์พร้อมกัน วันนี้ 9 ก.ย. 57

 

AIS-pro

 

AIS PrivilegeLine Official หนึ่งเดียวเท่านั้น ที่รวบรวมสุดยอดสิทธิพิเศษสุดว้าว ส่งตรงถึงมือคุณทุกวัน จัดบิ๊กเซอร์ไพรส์ แจกความสุขต่อเนื่อง ดีเดย์ วันที่ 9 กันยายน 2557 เปิดให้ลงทะเบียน รับขนมแสนอร่อย เพรทเซล จากอานตี้ แอนส์ ฟรี!! จำนวน 100,000 ชิ้น โดยสามารถนำโทรศัพท์มือถือที่ลงทะเบียนไว้แล้ว มากดรับขนมได้ฟรี ในวันที่ 13 กันยายน 2557 ที่ร้านอานตี้ แอนส์ สาขาที่ร่วมรายการทั่วประเทศ (1 หมายเลข /1 ชิ้น) 100,000 คนแรกเท่านั้น สิทธิพิเศษนี้เฉพาะลูกค้าเอไอเอส… คอสิทธิพิเศษทั้งหลายเชิญ Add Line “AIS Privilege” เพื่อรับความพิเศษมากมายได้เลย

 

 

เอไอเอส สร้าง แอปช่วยลบ SMS Virus ตัดกังวลคนใช้มือถือด้วย แอป “AIS Malware Remover”

AIS Line Official
นายปรัธนา ลีลพนัง รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานการตลาด เอไอเอส กล่าวว่า “จากการที่ช่วงนี้ได้เกิดกรณี SMS Virus ที่เป็นลักษณะของข้อความที่มีลิ้งค์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งเมื่อลูกค้ากดลิ้งค์ดังกล่าวแล้ว จะเท่ากับเป็นการติดตั้งแอพ ที่ส่งผลให้มือถือทำการส่ง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์อื่นๆ ที่ถูกบันทึกอยู่ในเครื่องทันที อันทำให้เกิดค่าใช้จ่ายตามมา ดังที่เป็นข่าวในขณะนี้นั้น”

 

“นอกเหนือจากการแนะนำให้ลูกค้าไม่กดเข้าไปที่ลิ้งค์ดังกล่าว และช่วยดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากกรณี SMS Virus ที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อเป็นการแก้ปัญหานี้อย่างทันท่วงทีให้แก่ลูกค้าแอนดรอยด์ ทีมเทคนิคของเอไอเอส จึงได้พัฒนา แอปพลิเคชั่น AIS Malware Remover สำหรับผู้ใช้มือถือแอนดรอยด์ขึ้น เพื่อช่วยลบ แอปที่ติด SMS Virus ดังกล่าวได้ทันที แบบ 100%”

 

Screenshot_2 Screenshot_1

ง่ายๆ เพียงเข้าไปดาวน์โหลด แอป AIS Malware Remover ผ่านลิ้งค์ตรงจากเอไอเอส คือ http://www.ais.co.th/sms-remover/ หรือกดลิ้งค์จากแบนเนอร์ AIS Malware Remover บน AIS Line Official ได้ฟรี และทำการติดตั้ง หากเครื่องมือถือของท่านติด SMS Virus หน้าจอจะแสดงผล และ แอป AIS Malware Remover จะลบแอป SMS Virus ออกทันที

 

“เราเชื่อมั่นว่า แอปนี้จะสามารถช่วยแก้ไขและป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้อย่างทันท่วงที และสร้างความมั่นใจให้ทุกการใช้งานของลูกค้าอย่างแน่นอน” นายปรัธนากล่าว

 

ลูกค้าเอไอเอส และค่ายอื่นๆ ที่ใช้มือถือแอนดรอยด์สามารถดาวน์โหลดแอป AIS Malware Remover ได้แล้ววันนี้

 

icon app AIS Malware Remover

 

 

 

นิคอน เดย์ 2014 กิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ประจำปี เพื่อสาวกนิคอนและผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพ 21-24 ส.ค. นี้

 

nikonday2014
 
มร. ทัตสึยะ ยามากุจิ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดงาน นิคอน เดย์ 2014 กิจกรรมสุดยิ่งใหญ่ประจำปีเพื่อเอาใจสาวกนิคอนและผู้ชื่นชอบการถ่ายภาพ ภายในงานนิคอนเดย์ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 21 – 24 สิงหาคม 2557 ณ ลานแฟชั่น ฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ผู้เข้าชมงานจะได้สัมผัสประสบกาณ์การถ่ายภาพหลากหลายสไตล์ผ่านการทดลองใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพจากนิคอน และเลนส์คุณภาพตระกูล NIKKOR อย่างจุใจ นอกจากนี้ ภายในงานยังได้เปิดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ รวมถึงเทคนิคการถ่ายภาพในแขนงต่างๆ กับกูรูชื่อดังของเมืองไทยระดับแนวหน้า
 
พิเศษสุด! นิคอนยังได้จัดกิจกรรมเพื่อคืนกำไรให้กับผู้ใช้กล้องนิคอน รุ่นใดก็ได้ เพียงนำกล้องมาลงทะเบียนภายในงาน ก็มีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลรวมมูลค่ากว่าห้าแสนบาท
 
กิจกรรม นิคอน เดย์ ในปีนี้ยังจะจัดขึ้นในจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย ได้แก่ หาดใหญ่ เชียงใหม่ และขอนแก่น สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nikon.co.th หรือ https://www.facebook.com/nikonthailand

 
 

เอไอเอส เปิดตัว Line Official ล่าสุด “AIS Privilege” เสิร์ฟความพิเศษ พร้อมเซอร์ไพรส์ ถึงมือคุณ ทุกวัน!

 

AIS-Privilege

 

เอไอเอส เตรียมส่ง Line Official ใหม่ล่าสุด “AIS Privilege” ในวันอังคารดีๆ 19 สิงหาคม 57 นี้ โดยคัดสรร สุดยอดสิทธิพิเศษทุกด้านของการใช้ชีวิต ส่งตรงถึงมือคุณทุกวัน พร้อมจัดความพิเศษเพิ่มเติมมอบเซอร์ไพร้ส์ ให้ตื่นเต้น สนุกไปกับกิจกรรมสุดว้าวทุกเดือน เริ่มตั้งแต่
 
• ความพิเศษต้อนรับการเปิดตัว “AIS PrivilegeLine Official Account กับกิจกรรมเปิดตัวสุดพิเศษ “รับแมค ช็อกโกแลต ซันเด” สำหรับลูกค้าที่ Add friend และลงทะเบียน จะได้รับไอศกรีมซันเด ที่ร้านแมคโดนัลด์ ทุกสาขาทั่วประเทศ ฟรี ถึง 20,000 รางวัล ในวันที่ 29 สิงหาคม นี้ (จำนวนจำกัด)
• ความพิเศษ กับ “AIS Privilege On-Air” ทุกอาทิตย์ ที่จะให้คุณได้ เลือกรับรางวัลสุดว้าวตามใจตัวคุณเองเพียงปลายนิ้ว
• ความพิเศษ กับ “AIS Privilege Big Surprise” ทุกเดือน ที่เตรียมจัดเต็มของรางวัลมากกว่า 10,000 รางวัล ไว้ให้เซอร์ไพรส์กันอย่างต่อเนื่อง
และนอกจากที่ลูกค้าจะได้รับความพิเศษจากกิจกรรมทั้งหมดข้างต้นแล้ว ในโอกาสดีๆแบบนี้ เอไอเอส ยังเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รายแรกที่เปิดตัว “อุ่นใจ ดุ๊กดิ๊กAnimate Sticker เป็นครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อสร้างสีสันและมอบวิธีการส่งความสุข ความสนุก ผ่านทางโลก Social ให้แก่คุณ

 
พบกับ AIS Privilege Line Official Account ได้ตั้งแต่ 19 สิงหาคม นี้ เป็นต้นไป…

 

 

ทรูมูฟ เอช จับมือ 7-Eleven ร่วมรายการแสตมป์ AEC แลกซิมยกก๊วน 3G, ทรูมูฟ เอช การ์ด หรือมือถือ 3G ทรู ซูเปอร์ อัลตร้า 1

 

stamp7-11

ทรูมูฟเอช ร่วมรายการแสตมป์ AEC ชวนขาประจำ 7-Eleven สะสมแสตมป์ AEC แลกรับสินค้าและบริการต่างๆ จากทรูมูฟ เอช สุดคุ้ม 3 แบบ

 

แบบที่ 1 แสตมป์มูลค่า 1 บาท แลกซิมยกก๊วน 3G แบบเติมเงิน พิเศษ!! เมื่อแลกซิมพร้อมเติมเงินทันที 50 บาทขึ้นไปที่ 7-Eleven รับโบนัสโทรฟรี 20 บาท พร้อมอินเทอร์เน็ต 3G ฟรี 1 GB ใช้ได้นาน 7 วัน เพื่อชมการ์ตูน กีฬา รายการบันเทิงระดับโลก จากทรูวิชั่นส์บนมือถือผ่านแอพพลิเคชั่นทรูวิชั่นส์ เอนิแวร์ พร้อมโทรคุ้มกับโปรโมชั่นโทรฟรียกก๊วน 24 ชั่วโมง
 
แบบที่ 2 สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช เพียงสะสมแสตมป์ครบ 44 บาท + เงินสด 1 บาท แลกรับทรูมูฟ เอช การ์ด ซึ่งมอบสิทธิ์โทรฟรีในเครือข่ายไม่อั้น พร้อมใช้งานอินเทอร์เน็ตฟรี 100 MB นาน 3 วัน มูลค่า 80 บาท
 
แบบที่ 3 สุดคุ้มยิ่งขึ้น..สะสมแสตมป์ครบ 200 บาท + เงินสด 699 บาท แลกรับโทรศัพท์มือถือ 3G ทรู ซูเปอร์ อัลตร้า 1 มูลค่า 1,299 บาท

 

ผู้ที่สนใจรีบสะสมแสตมป์เพื่อแลกรับสิทธิ์ดังกล่าว ได้แล้ววันนี้ – 15 ธันวาคม 2557 ที่ร้าน 7-Eleven ทุกสาขาทั่วประเทศ

 

 

CTH, PSI, InfoSat, AB TV ขอความเป็นธรรม คสช. พร้อมแจงข้อเท็จจริงกรณีถูกคัดค้านแจกคูปองทีวีดีจิตอล

CTH-digital-tv1

ซีทีเอช – พีเอสไอ – อินโฟแซท – เอบีทีวี 4 ธุรกิจแพลตฟอร์มของประเทศไทยวอนขอความเป็นธรรม พร้อมแจง 4 ข้อเท็จจริงที่ซีทีเอชต้องแบกรับต่อ คสช. และ กสทช. เพื่อให้ทบทวนกรณีการแจกคูปองกล่องทีวีดิจิทัลอย่างเป็นธรรม เกิดประโยชน์กับประชาชนอย่างแท้จริง และทบทวนการแจกกล่องรับสัญญาณระบบความคมชัดมาตรฐาน (SD) เป็นระบบความคมชัดสูง (HD) เพื่อรองรับการรับชมทีวีดิจิทัล

 
สืบเนื่องจากการที่ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เข้าไปตรวจสอบ 4 โครงการใหญ่ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และได้มีคำสั่งให้ชะลอโครงการทั้งสี่ดังกล่าว โดยหนึ่งในนั้นคือโครงการจัดสรรคูปองให้กับประชาชนเพื่อรับชมทีวีดิจิทัลมูลค่า 1,000 บาท/ ครัวเรือน คิดเป็นเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท และก่อนที่ คสช. จะมีคำสั่งตรวจสอบดังกล่าว ได้มี 14 ผู้ประกอบการฟรีทีวีได้ยื่นข้อคัดค้านการแจกคูปองผ่านทางเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ต่อ กสทช. เมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา โดยอ้างว่า เงินกองทุนที่นำมาตั้งเพื่อจัดสรรคูปองดังกล่าวเป็นเงินที่ได้มาจากการประมูลใบอนุญาตฟรีทีวี 24 ช่อง

 
ทั้งนี้ นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายวรสิทธิ์ ลีลาบูรณพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเอสไอ โฮลดิ้ง จำกัด, นาย นิรันดร์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโฟแซท จำกัด และ นายณัฐ รองสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย บรอดคาสติ้ง เทเลวิชั่น จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (เปย์ทีวี) ทั้งระบบเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม รวมทั้งถือใบอนุญาตโครงข่ายจาก กสทช. ได้ร่วมกันชี้แจงถึง ข้อเท็จจริง ซึ่งโต้แย้งกับข้อคัดค้านของกลุ่ม 14 ฟรีทีวีดังกล่าวถึง คสช. ผ่าน พล.ท. อนันตพร กาญจนรัตน์ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และ กสทช.

dtac & CTH 1
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บ. ซีทีเอช จำกัด (มหาชน) (ซ้ายสุด) : Credit ภาพ จาก PR dtac

 

นายเชิดศักดิ์ กล่าวถึงข้อเท็จจิรงเพื่อโต้แย้งข้อคัดค้านกลุ่ม 14 ฟรีทีวีว่า “การดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมนั้นล้วนถือกำเนิดก่อนการก่อตั้ง กสทช.ซึ่งผู้ประกอบการทั้งหมดล้วนต้องฝ่าฟันบนเส้นทางธุรกิจด้วยตนเอง โดยปราศจากการสนับสนุนใดๆ จากภาครัฐ แต่เมื่อเกิดโครงการแห่งชาติที่ต้องการเปลี่ยนผ่านจากระบบการออกอากาศจากระบบอนาล็อกมาเป็นระบบดิจิทัลเช่นเดียวกับนานาชาติในภูมิภาค ทำให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมต้องปรับตัวอย่างหนัก พร้อมทั้งต้องลงทุนพัฒนาโครงการด้วยเม็ดเงินลงทุนมูลค่ามหาศาล เพื่อสนองนโยบายแห่งรัฐ ดังนั้น การจำกัดตัดสิทธิ์จึงถือเป็นกรณีที่ไม่เท่าเทียมและไม่เป็นธรรม

 

ในการพัฒนาตนเองเพื่อรองรับระบบการออกอากาศบนระบบดิจิทัลให้ลุล่วงตามเจตนารมณ์ของ กสทช.นั้นมีองค์ประกอบสำคัญทางด้านยุทธศาสตร์ คือ ทำอย่างไรจึงจะสามารถดำเนินการได้อย่างมีศักยภาพและรวดเร็ว โดยเกิดปัญหาน้อยที่สุด ขณะเดียวกัน ก็ต้องการให้ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว แต่กลับไม่เคยให้ความช่วยเหลือใดๆ เลย อีกทั้งไม่ให้เครื่องมือสำคัญเพื่อให้การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ลุล่วงไปด้วยดี สาเหตุดังกล่าวจึงกลายเป็นการทำร้ายผู้ประกอบการทั้งสองกลุ่มโดยตรง เนื่องจากต้นทุนที่สำคัญของเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม คือ ระบบโครงข่ายและกล่องรับสัญญาณ (กล่อง Set-Top-Box) หากต้องการเร่งวางกล่องรับสัญญาณแบบดิจิทัล ผู้ประกอบการจำเป็นต้องพัฒนาโครงข่ายก่อนจึงจะสามารถวางกล่องดิจิทัลได้ แม้ในวันนี้ผู้ประกอบการหลายรายได้พัฒนาตนเองเพื่อรองรับระบบดิจิทัลแล้ว แต่ต้องลงทุนเรื่องกล่อง Set-Top-Box ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญอีก ในขณะที่ฟรีทีวีที่เข้ามาดำเนินธุรกิจภายหลังกลับได้สิทธิพิเศษตามที่ตนเองต้องการย่อมไม่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของ กสทช.

 

ขณะที่ นายวรสิทธิ์ กล่าวถึงข้อเท็จจิรงที่หลายคนอาจมองข้ามว่า “ที่ผ่านมาธุรกิจดาวเทียมได้สร้างฐานมาด้วยตนเอง เห็นจากการเข้าถึงในทุกพื้นที่อย่างครอบคลุมอย่าง มีประสิทธิภาพ ตลอดจนพื้นที่ที่ยากแก่เข้าถึง อาทิ พื้นที่ในที่ห่างไกล และภูมิประเทศอย่างภูเขา เกาะต่างๆ ขณะที่การให้บริการในยุคดิจิทัลระยะเริ่มแรกนั้น การแพร่ภาพเสียงและภาพได้ใช้จานรับสัญญาณดาวเทียมในการส่งต่อสัญญาณให้ได้รับชมในแพลตฟอร์มดาวเทียมอย่างมีศักยภาพเช่นเดียวกัน แต่กลับเผชิญ อุปสรรคที่ผู้ประกอบการเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมปฏิเสธไม่ได้จาก หลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป หรือ กฎ Must Carry ของภาครัฐเอง ซึ่งมีเจตนารมณ์เพื่อสร้างหลักประกันว่า ผู้ชมจะต้องเข้าถึงและได้รับชมฟรีทีวีได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นการรับชมผ่านช่องทาง (Platform) ของผู้ให้บริการโครงข่าย (ทั้งภาคพื้นดินและดาวเทียม) ผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก (เคเบิลทีวีหรือทีวีดาวเทียม) โดยกฎ Must Carry ดังกล่าวมีนัยยะที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่า นับจากนี้ ผู้ประกอบการทั้งสองกลุ่มจะต้องถูกบังคับให้แพร่ภาพฟรีทีวี (24 ช่อง) และทีวีสาธารณะ (12 ช่อง) รวมทั้งหมด 36 ช่องบนระบบดิจิทัล ขณะที่ทีวีที่แพร่ภาพบนระบบอนาล็อกนั้นมีช่องรายการไม่เกิน 5 – 60 ช่อง ซึ่งการแพร่ภาพบนระบบดิจิทัล 36 ช่องนี้ทำให้ผู้ประกอบการต้องแบกรับภาระต้นทุนเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจากการเสียค่าเช่าช่องทรานสปอนเดอร์เพิ่มขึ้นอีกด้วย ดังนั้น เมื่อมาถึงวันนี้ภาครัฐมีโครงการจัดสรรคูปองทีวีดิจิทัล แต่กลุ่มธุรกิจเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมกลับไม่สามารถเข้าร่วมโครงการได้ ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบการธุรกิจเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมจึงต้องการให้ทั้ง คตร.และ กสทช. พิจารณาทบทวนใหม่อีกครั้ง เพื่อความเท่าเทียมและเป็นธรรม”

 

นอกจากนี้ นายนิรันดร์ ได้กล่าวเสริมถึงประเด็น Must Carry เพิ่มเติมว่า “นับแต่การใช้กฎ Must Carry กับทีวีดิจิทัล 36 ช่องผ่านทีวีดาวเทียมนับแต่เดือนเมษายน 2557 ตามเจตนารมณ์ของ กสทช.ทุกประการ และปัญหาจากการดำเนินการนี้ก็ส่งผลต่อการให้บริการของบริษัท อาทิ ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ที่จะต้องตอบคำถามลูกค้าในกรณีที่ไม่สามารถรับชมทีวีดิจิทัลได้ เนื่องจากทีวีดิจิตอลนั้นข้ารหัสที่เรียกว่า “บิสคีย์” (Biss Key) ทั้งหมด ทำให้กล่อง Set-Top-Box เดิมก่อนปี 2554 ไม่สามารถรองรับได้และต้องมีการอัพเกรดและปรับปรุงซอฟต์แวร์ ขณะเดียวกัน ก็มีข้อสังเกตอีก 2 ประการ คือ 1) กสทช.ได้ทำประชาพิจารณ์ก่อนหน้านี้ แต่มิได้ดำเนินการตามผลของประชาพิจารณ์ เนื่องจากมีเป้าหมายของหน่วยงานอยู่แล้ว 2) การเสียค่าธรรมเนียมของกล่อง Set-Top-Box ของกลุ่มธุรกิจเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม นั้นก็มีการส่งให้ กสทช. ตรวจสอบเช่นเดียวกันกับของทีวีดิจิทัล แต่ Set-Top-Box ของกลุ่มธุรกิจเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ซึ่งเป็นรุ่น S1, S2 กลับต้องเสียค่าธรรมเนียม 10 บาท/กล่อง ในขณะที่กล่อง Set-Top-Box ของทีวีดิจิทัลรุ่น T2 กลับเสียค่าธรรมเนียมเพียง 5 บาท/กล่องกลับได้รับการติดสติ๊กเกอร์ “น้องดูดี” รับรองว่าดูทีวีดิจิทัลได้ อีกทั้งได้รับการสนับสนุนทางด้านการตลาดอื่นๆ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ซึ่งเสียค่าธรรมเนียมต่อกล่องแพงกว่ากลับไม่ได้สติ๊กเกอร์และการสนับสนุนใดๆ เลย

 
ที่สำคัญ จากการประชุมของ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) หลายครั้งและได้มีมติให้มีการจัดสรรคูปองให้กับทุกกลุ่มธุรกิจอย่างเท่าเทียมและเป็นธรรม ซึ่งคณะกรรมการกองทุนฯ ก็เห็นชอบกับมติดังกล่าว อีกทั้งได้มีการเผยแพร่ข่าวสารประชาสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันนี้ จนเป็นที่รับทราบกันเป็นที่สาธารณะในทุกภาคส่วนตรงกัน หากจะมีการเปลี่ยนแปลงขอบเขตการจัดสรร ตลอดจนเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของการจัดสรรเพื่อตอบสนองประโยชน์ของกลุ่มธุรกิจเพียงกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งจึงย่อมไม่ใช่เรื่องชอบธรรมด้วยประการทั้งปวง ที่สำคัญ เงินกองทุนที่นำมาจัดตั้งเพื่อเป็นงบประมาณสำหรับการจัดสรรคูปองฯ ดังกล่าวมิใช่เงินของกลุ่มธุรกิจฟรีทีวีเท่านั้น หากแต่เป็นรายได้ของประเทศที่สมควรกระจายสู่กลุ่มธุรกิจทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียม เป็นธรรมและไม่เลือกปฏิบัติ”

 
สำหรับประเด็นของ “บิสคีย์” นายณัฐ ได้กล่าวเสริมว่า “ทีวีดิจิทัลไม่จำเป็นต้องใส่ “บิสคีย์” ซึ่งทำให้เป็นการเข้ารหัสซ้ำซ้อน เพราะลำพังแค่การเข้ารหัสด้วยการทำ “โอทีเอ” (OTA : Over-The-Air) ซึ่งเป็นการถ่ายข้อมูลจากดาวเทียมลงสู่เครื่องรับสัญญาณดาวเทียมโดยตรงก็เพียงพอแล้ว และการเข้ารหัสบัสคีย์จนทำให้ประชาชนที่มีกล่องรุ่นเดิมไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้จึงถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง”

 
ส่วนตัวเลขของคูปองการจัดสรรกล่อง Set-Top-Box นั้น นายณัฐ ให้ทัศนะที่น่าสนใจเพิ่มเติมด้วยว่า “ไม่ว่าตัวเลขของคูปองจะเป็น 690 หรือ 1,000 บาทก็ตาม ตนเองอยากให้มองอย่างไม่หลงประเด็นว่า เม็ดเงินดังกล่าวคือ “ส่วนลด” ที่ กสทช. มอบให้กับประชาชนเพื่อใช้ซื้อกล่อง Set-Top-Box เพื่อเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่มีทางให้เลือกเสพมากขึ้นนอกเหนือจากฟรีทีวีที่มีเพียงไม่กี่ช่องมาเป็นจำนวนหลายสิบช่องจากการเปิดตัวของทีวีดิจิทัล ดังนั้น จึงต้องการให้ กสทช. ทบทวนถึงการให้เพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถที่จะเลือกซื้อกล่อง Set-Top-Box ที่รองรับระบบ HD ได้ด้วย เนื่องจากปฏิเสธไม่ได้ว่า ในอนาคตระบบการออกอากาศของโทรทัศน์ไทยก็จะเป็นดิจิทัลทั้งหมด และด้วยเม็ดเงินดังกล่าวนั้นก็ไม่สามารถซื้อกล่อง Set-Top-Box ได้ทั้งหมด หากแต่เป็นส่วนลดที่จะทำให้ประชาชนใช้วิจารณญาณของตนเองตัดสินใจได้ตามกำลังซื้อว่า จะสามารถซื้อกล่อง Set-Top-Box ประเภทใดระหว่าง SD หรือ HD ด้วยตนเอง และหากในอนาคตจะซื้อเครื่องรับโทรทัศน์ดิจิตอลและอยู่ในเขตภูมิภาคก็จะสามารถใช้กล่อง Set-Top-Box ที่รองรับระบบ HD ได้

 
“อย่างไรก็ตาม เราเคารพความคิดเห็นของ 14 กลุ่มฟรีทีวี เพียงแต่อยากเสนอให้ทั้ง คตร. และ กสทช. ได้มีการทบทวนโดยมุ่งคำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้งและปรับความเข้าใจที่ถูกต้องที่มีต่อ “ที่มา” ที่แท้จริงเงินกองทุนเพื่อการจัดสรรคูปองดังกล่าวว่า เงินกองทุนฯ นี้ไม่ได้เป็นของกลุ่มฟรีทีวีแต่เพียงกลุ่มเดียว เนื่องจากการประมูลขายทีวีดิจิตอลนั้นเป็นการประมูลคลื่นความถี่ ซึ่งเป็นทรัพยากรของชาติ ดังนั้น รายได้ที่ได้จากการประมูลจึงถือเป็นรายได้ของประเทศ หรือ “เงินแผ่นดิน” การใช้เงินแผ่นดินเพื่อการใดก็ตามจึงควรที่จะคำนึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก”

 
ขณะที่ นายเชิดศักดิ์ ยังให้ทัศนะก่อนปิดท้ายอีกด้วยว่า “มีข้อเท็จจริงอีกประการที่ผมคิดว่า ฟรีทีวีอาจมองข้ามประเด็นนี้ไป นั่นคือยุทธศาสตร์การเพิ่มสายตาผู้ชม หรือที่เรียกว่า Eyeball จะเกิดขึ้นได้อย่างมากมายมหาศาลทันที หากสามารถวางกล่อง Set-Top-Box ได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุมและทั่วถึง ซึ่งเมื่อเกิด Eyeball เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลภายในระยะเวลาอันสั้นแล้ว ผลลัพธ์ที่ตามมาย่อมหมายถึงเม็ดเงินของรายได้ที่จะมาจากโฆษณาทีวีประมาณ 70,000 – 80, 000 ล้านบาทต่อปี เนื่องจากฟรีทีวีสามารถโฆษณาได้ 12 นาที / ชั่วโมง ในขณะที่เคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียมสามารถโฆษณาได้เพียง 6 นาที / ชั่วโมงเท่านั้น

 

 

 

 

Mentions แอพใหม่สำหรับบุคคลสาธารณะ ให้สนทนาผ่าน Facebook ได้ง่ายขึ้น

 

IntroducingMentions_1

 

Mentions แอพพลิเคชั่นใหม่ที่ช่วยให้บุคคลสาธารณะสามารถค้นหาและร่วมบทสนทนาบน Facebook ได้อย่างง่ายดาย เปิดให้บริการในประเทศไทย รวมถึงอีกกว่า 40 ประเทศทั่วโลกแล้ว

 
Mentions คือแอพพลิเคชั่นใหม่ล่าสุดจาก Creative Lab ของ Facebook ที่ช่วยให้บุคคลสาธารณะเห็นหัวข้อที่แฟนๆ กำลังพูดคุยถึงผ่านกระดานข่าวแบบใหม่ โพสต์เรื่องราวอัพเดทต่างๆ จัดรายการตอบคำถามผ่านโทรศัพท์มือถือ ค้นหาสิ่งที่กำลังอยู่ในความนิยม รับการแจ้งเตือนโพสต์และอื่นๆ อีกมากมาย

IntroducingMentions_5

 

ผู้คนจำนวนเกือบ 800 ล้านคนเชื่อมต่อกับบุคคลสาธารณะบน Facebook และการปฏิสัมพันธ์กับนักกีฬา นักดนตรี นักแสดง รวมถึงบุคคลสำคัญในด้านอื่นๆ เป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ออนไลน์ของพวกเขา ตั้งแต่ การให้กำลังใจผู้เล่นฟุตบอลโลกไปจนถึงการเช็คการอัพเดทจากดาราคนโปรด แต่ละสัปดาห์มีการปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลสาธารณะกับแฟนๆ ของพวกเขากว่าพันล้านครั้งบน Facebook

 

แอพ Mentions บน Facebook แอพตัวใหม่จาก Creative Labs ของ Facebook ที่ช่วยให้บุคคลสาธารณะพูดคุยกับแฟนๆ และบุคคลสาธารณะอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายในคราวเดียว ในฐานะบุคคลสาธารณะ แอพ Mentions บน Facebook ช่วยให้คุณสามารถ
• ดูว่าแฟนๆ กล่าวถึงคุณอย่างไรบ้างและเข้าร่วมในวงสนทนา
• แบ่งปันเรื่องราวของคุณโดยการโพสต์อัพเดท แชร์รูปภาพหรือวิดีโอ หรือจัดรายการถามตอบสด
• เข้าร่วมการสนทนาที่ได้รับความนิยมบน Facebook และดูโพสต์ล่าสุดของบุคคลที่คุณติดตาม
• รับการแจ้งเตือนโพสต์ได้ง่ายๆ รวมทั้งการกล่าวถึงจากบุคคลสำคัญอื่นๆ หรือสื่อมวลชน

 

IntroducingMentions_3

 

ขณะนี้ Mentions พร้อมใช้งานบน iPhone สำหรับผู้ที่มีเพจที่ได้รับการรับรองในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น เราวางแผนจะเพิ่มขอบเขตการใช้งานแอพนี้ไปยังประเทศอื่นๆ และข้อมูลส่วนตัวที่ได้รับการรับรองอื่นๆ ในอนาคตอันใกล้ หากคุณเป็นผู้ดูแลเพจที่ได้รับการรับรองคุณสามารถ ขอการเข้าถึงแอพ Mentions โดยตรง หากคุณเป็นบุคคลสาธารณะ คุณสามารถ ดาวน์โหลดแอพบน iPhone เพื่อขอการเข้าถึง

 

IntroducingMentions_4