เดลล์ (ประเทศไทย) เปิดตัว Inspiron 23 All-In-One ที่บางที่สุดจากเดลล์ ขนาด 23 นิ้ว แต่บางเพียง 12 มม. ที่พร้อมเปิดประสบการณ์ของคุณ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ประหยัดเนื้อที่ในการวาง ช่วยให้การทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมส์ ของทุกคนในบ้านสนุกไม่สะดุด กับระบบประมวลผลอันทรงประสิทธิภาพรุ่นล่าสุด 4th Gen Intel® CoreTM Processor Family โดดเด่นด้วยดีไซน์ Ultra Slim หน้าจอ Full HD 1080 แบบ Multi Touchscreen 10 จุด บนระบบปฏิบัติการ Windows® 8 มาพร้อมกับฮาร์ดไดรฟ์ไฮบริด ทั้งนี้ตัวจอยังสามารถพับ เอียง หรือทำให้แบนราบกับพื้น กลืมกลืนได้ไม่ว่าจะอยู่ในสำนักงานหรือห้องนั่งเล่นที่บ้าน ทั้งทำงาน ดูหนัง ฟังเพลง พร้อมการรับประกันแบบ Dell Onsite Service ซ่อมตรงถึงที่ในอีก 1 วันทำการ สูงสุด 2 ปีเต็ม ในราคาเริ่มต้น 44,990 บาท
Category: PR News
LG G Pro Lite จอใหญ่ 5.5 นิ้ว แบตอึด ในราคาสบายกระเป๋า
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด LG G Pro Lite ที่มาพร้อมหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว โดดเด่นด้วยฟังค์ชั่นที่ตอบรับไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ได้อย่างลงตัว
LG G Pro Lite สมาร์ทโฟนหน้าจอ IPS ขนาด 5.5 นิ้ว มาพร้อมแบตเตอรี่ SiO+ มอบความจุพิเศษถึง 3,140 มิลลิแอมป์ พร้อมกล้อง BSI (Backside illuminated) ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ช่วยให้ผู้ใช้สามารถถ่ายภาพได้คมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย และพิเศษด้วยฟังก์ชั่น Pause & Resume Recording ที่สามารถสร้างสรรค์วิดีโอให้ต่อเนื่องได้ภายในคลิปเดียว เต็มอารมณ์กับพลังเสียงคมชัด ครบทุกมิติเสียง ด้วยลำโพงคู่
Dual Speaker ตัวเครื่องดีไซน์สวยบางเบา ช่วยให้จับได้อย่างถนัดมือยิ่งขึ้น และยังมีฟีเจอร์มากมายที่ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นเช่นเดียวกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ในแอลจี จี ซีรียส์ (G Series)
LG G Pro Lite มาพร้อมกับฟีเจอร์โดดเด่นที่ช่วยให้การใช้งานสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น KnockON ช่วยเปิด-ปิดหน้าจอเพียงเคาะเบาๆ ที่หน้าจอสองครั้ง QSlide ให้คุณได้สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นได้ถึง 3 แอพพลิเคชั่นได้พร้อมกัน QuickMemo ผู้ใช้สามารถจดบันทึกจากหน้าจอได้ทันที และยังมี QTranslator ที่ช่วยแปลคำศัพท์และประโยคจากภาพที่ถ่ายโดยกล้องในตัวเครื่อง นอกจากนี้ยังมีปากกาสไตลัส (Stylus Pen) ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถเขียนด้วยลายมือได้อย่างแม่นยำและรวดเร็วทันใจ และเก็บปากกาได้สะดวกในช่องที่อยู่ด้านบนเครื่อง
LG G Pro Lite ราคา 10,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) รองรับระบบ 3G ทุกเครือข่าย (850/900/2100 MHz) มีให้เลือกสองสี ได้แก่ สีดำและสีขาว พิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ LG G Pro Lite วันนี้ รับฟรี เจลลี่ เคสนำเข้าจากเกาหลี 3 สี ครบเซ็ตทั้งสีเหลือง สีดำ และสีเขียว มูลค่า 1,000 บาท พร้อมให้คุณได้สัมผัสและเป็นเจ้าของได้แล้ววันนี้ ณ ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายของแอลจีทั่วประเทศ ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ www.lg.com/th และ www.facebook.com/thailandlifesgood
คุณสมบัติทางเทคนิค
• ชิพประมวลผล MT65771.0GHz Dual-Core
• หน้าจอ 5.5 นิ้ว (960 x 540 pixels)
• เครือข่าย: 3G (HSDPA: 7.2Mbps / HSUPA: 5.76Mbps)
• RAM 1 GB ความจำภายในตัวเครื่อง 8GB เพิ่มความจำภายนอกได้สูงสุด 32GB
• ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่น 4.1 Jelly Bean
• กล้องหลังระบบ BSI 8.0 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่มาตรฐาน 3,140 mAh
• ขนาด 150.2 x 76.9 x 9.4 มิลลิเมตร (กว้าง x ยาว x หนา)
• น้ำหนัก 161 กรัม
• การเชื่อมต่อ: Bluetooth 3.0, USB2.0, A-GPS, Wi-Fi Direct
ทรูมูฟ เอช เปิดแคมเปญ “หลงรักประเทศไทยกับทรูมูฟ เอช” ผ่าน H TRAVEL ชวนเที่ยวส่งท้ายปี ลุ้นรางวัลที่พักโรงแรมสุดหรูทุกสัปดาห์
ทรูมูฟ เอช นำโดย นางรุ่งฟ้า เกียรติพจน์ (ที่ 5 จากซ้าย) ผู้ช่วยบริหารงานกรรมการผู้จัดการใหญ่และผู้อำนวยการด้านบริหารแบรนด์และบริหารสื่อโฆษณา กลุ่มทรู บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดแคมเปญ “หลงรักประเทศไทยกับทรูมูฟ เอช” ชวนคนไทยถ่ายรูป และแชร์ภาพการท่องเที่ยวสุดประทับใจผ่านแอพพลิเคชั่น H Travel บนเครือข่าย 3G จากทรูมูฟ เอช เร็วแรงเต็มสปีดทุกเส้นทางทั่วไทย ผู้ที่สนใจทุกเครือข่าย สามารถดาวน์โหลด H Travel พร้อมร่วมสนุกสะสมระยะทาง ลุ้นรับรางวัลที่พักโรงแรมสุดหรูทุกสัปดาห์ และรางวัลพิเศษอีกมากมายรวมมูลค่าทั้งสิ้น 700,000 บาท ตั้งแต่วันนี้ – 28 กุมภาพันธ์ 2557
ทั้งนี้ พนักงานของทรูมูฟ เอช ได้ร่วมจัดทำ QR Code ฟางยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย บนพื้นที่ 1 ไร่ ณ ฟาร์มโชคชัย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เพื่อเชิญชวนให้โหลดแอพพลิเคชั่น H TRAVEL ที่เป็นมากกว่าไกด์ส่วนตัว พาท่องเที่ยว 77 จังหวัด ทั้งสถานที่กิน เที่ยว ที่พัก ช้อป พร้อมสายด่วน เบอร์โทรฉุกเฉิน ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น H TRAVEL ได้จาก App Store หรือ Google Play ลงทะเบียนร่วมสนุกในแคมเปญ “หลงรักเมืองไทยกับทรูมูฟ เอช” ได้ที่ http://www.truemove-h.com/htravel
ZALORA Group ทุบสถิติการลงทุน 112 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดของตลาดอีแฟชั่นในตะวันออกเฉียงใต้
ซาโลร่า ออนไลน์เว็บไซต์ชื่อดังทุบสถิติการลงทุนแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ครั้งใหม่ ด้วยวงเงิน 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถือว่าเป็นสถิติใหม่สำหรับการลงทุนในธุรกิจ e-fashion ที่จะเน้นย้ำถึงการพัฒนาเพื่อการเติบโตอย่างไร้ขีดจำกัด
เมื่อวันที่4 ธันวาคม 2013,ประเทศสิงคโปร์ กลุ่มบริษัทซาโลร่า ผู้นำทางด้านการช้อปปิ้งออนไลน์แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับการลงทุนครั้งใหม่ด้วยวงเงิน 112 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 139 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งเงินทุนครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดที่เคยทำในธุรกิจแฟชั่นออนไลน์แห่ง SEA ซึ่งมาจากกลุ่มนักลงทุนเอกชนในนาม Access Industries บริหารและจัดการเงินทุนโดย บริษัท บริหารสินทรัพย์ SCOPIA Capital Management LLC และนักลงทุนสถาบันจากอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นการทำลายสถิติของกลุ่มบริษัทซาโลร่าเองจากครั้งที่เคยลงทุนไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เป็นจำนวน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับรวมไปถึงบริษัทในเครืออย่าง ICONIC ผู้นำทางด้านแฟชั่นช้อปปิ้งออนไลน์แห่งออสเตรเลียด้วย
การลงทุนครั้งใหม่นี้ จึงเกิดขึ้นจากความมั่นใจของนักลงทุน ที่เล็งเห็นถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดยั้ง นับตั้งแต่ปี 2012 ที่ซาโลร่าได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางด้านสินค้าแฟชั่นและความสวยความงามที่มีให้เลือกช้อปกว่า 130,000 ชิ้น หรือกว่า 500 อินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์
Jörg Mohaupt สมาชิกของคณะกรรมการซาโลร่า จาก Access Industries ได้กล่าวว่า “ประสบการณ์ในการบริหารจัดการกับทีมงานของซาโลร่าเองนั้น จะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นสู่จุดหมายแห่งการเป็นออนไลน์แฟชั่นชั้นนำ ซึ่งเราเองก็มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จนั้น”
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อไม่นานมานี้ ซาโลร่าได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ในนาม EZRA ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือบริษัทซาโลร่าเอง ที่จะมุ่งสร้างความหลากหลายของสินค้าให้มากขึ้น ทั้งในส่วนของแฟชั่นและความสวยความงามครบรูปแบบ ทั้งนี้ บริษัทยังมุ่งสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าทั้ง 8 ประเทศในเครือ ด้วยตัวเลือกอันมากมายของสินค้า ทั้งแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับแฟชั่นชั้นนำที่พร้อมจะส่งถึงมือลูกค้าภายในประเทศนั้นๆ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม
“การลงทุนจะยิ่งทำให้เรารั้งตำแหน่งความเป็นอันดับหนึ่งของผู้นำด้านการค้าแบบ e-commerce ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้” Michele Ferrario กรรมการผู้จัดการแห่งกลุ่มบริษัทซาโลร่ากล่าว “เรามุ่งเน้นที่จะนำเสนอประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าเท่าที่เราจะทำได้ ด้วยสินค้าทั้งจากแบรนด์ภายในประเทศเอง และจากนานาชาติ เราจะใช้การลงทุนครั้งใหม่นี้ ผลักดันให้เราก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้นำสินค้าแฟชั่นแบบ Hi Street แห่งภูมิภาค ด้วยสินค้าที่มีความหลากหลาย ตลอดไปจนถึงแบรนด์ของเราเองด้วย ซึ่งจุดมุ่งหมายอันสูงสุดของเรานั่นคือ การให้บริการระดับเวิร์ลคลาส ซึ่งลูกค้าของเราจากทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จะได้พบกับตัวเลือกอันหลากหลายที่คัดสรรมาอย่างดีโดยซาโลร่า”
Patrick Schmidt, CEO จากบริษัท ICONIC ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “กลุ่มบริษัทซาโลร่าและไอคอนิคได้เดินทางมาไกลมาก ซึ่งในออสเตรเลียเองนั้น เรามียอดสั่งสินค้าใกล้จะครบ 1,000,000 ชิ้น ทั้งแบรนด์จากภายในประเทศเองและจากนานาชาติ ซึ่งเราดำเนินการจัดส่งอย่างดีเยี่ยม เพียง 3 ชั่วโมงสินค้าจะถึงมือผู้รับทั่วซิดนีย์ และเราเชื่อว่า การลงทุนครั้งใหม่นี้ จะทำให้เราได้กลายเป็นศูนย์กลางแห่งการช้อปสินค้าแฟชั่นออนไลน์ อีกทั้งเรายังมุ่งเน้นในการสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าให้มากที่สุด”
เชื่อได้ว่าการลงทุนครั้งใหม่นี้จะช่วยทำให้กลุ่มบริษัทซาโลร่าสามารถดำเนินการยกระดับการเจริญเติบโตได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น เพื่อการเป็นอันดับหนึ่ง อันมีศักยภาพในการจัดส่งสินค้ากว่า 600 ล้านชิ้นทั่วภูมิภาค ทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลีย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.zalora.co.th/
ดีแทคจับมือ Founder Institute ผู้สร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพระดับโลก ร่วมปั้นฝันผู้ประกอบการมืออาชีพหน้าใหม่ ครั้งแรกในเมืองไทย สู่ธุรกิจยุคดิจิตอล
ดีแทค ร่วมกับ Founder Institute ผู้รังสรรค์เครือข่ายของสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ระดับโลกที่ประสบความสำเร็จในการก่อตั้งบริษัท มาแล้วใน 42 เมืองทั่วโลก
จัดคอร์สการเรียนรู้สู่การเป็นสตาร์ทอัพอย่างมืออาชีพ เพื่อเดินหน้าสานต่อเส้นทางของการก้าวสู่บริษัทผู้นำทางด้าน โมบายล์ อินเทอร์เน็ต ตอกย้ำวิสัยทัศน์ เอ็มพาวเวอร์ โซไซตี้ (Empower Society) ที่ดีแทคช่วยผลักดันให้เกิดสังคมของการสื่อสารด้วยระบบดิจิตอล ช่วยให้สังคมโดยรวมมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคต โดยดีแทคมุ่งมั่นที่จะสร้าง โครงข่ายพื้นฐานที่สำคัญ บริการและสินค้าใหม่ๆ ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการสื่อสารให้ดียิ่งขึ้น ไปพร้อมๆกับกลยุทธ์ Internet For All สร้างโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของคนไทยอย่างเท่าเทียมกัน ทุกพื้นที่ทั่วไทย
ข้อมูลจาก Nielsen ระบุว่า ศักยภาพของไทยตอนนี้มีสูงกว่าอินโดนิเซียทั้ง 2 ด้านอย่างชัดเจน โดยเฉพาะด้านธุรกิจบนโมบายล์ 80% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทยเป็นคนซื้อของบนโลกออนไลน์ด้วย และคาดว่าจะมีรายได้ที่เกิดขึ้นบนโลก e-commerce ในสิ้นปี 2555 นี้กว่า 73,000 ล้านบาท หรือเทียบได้เป็น 5% ของรายได้ทั้งหมดในประเทศ มีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทยกว่า 24 ล้านคน และ 19 ล้านคนเป็นผู้ใช้งานบนโมบายล์
สตาร์ทอัพที่เป็นคนไทยเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Builk ที่ชนะงาน Echelon 2012 ประเทศไทยคือตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยปริมาณประชากรประมาณ 70 ล้านคน อัตราการครอบครองแท็บเล็ตจากปี 2011 จนถึงปัจจุบันสูงขึ้น 300%
นอกจากนี้ ADMA ยังระบุอีกว่า 75% ของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในไทย อายุอยู่ระหว่าง 15-19 ปี นั่นหมายถึงมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มสูงขึ้นได้อีกมาก นักพัฒนาของไทยเริ่มเป็นที่รู้จัก และสร้างชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ ในเวทีระดับโลก
นายซิกวาร์ท โวส เอริคเซน รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ดีแทคมีความมุ่งมั่น ที่จะส่งเสริมธุรกิจมือถือเข้าสู่โมบายอินเทอร์เน็ตและแอพพลิเคชั่น ที่ช่วยสร้าง mobile internet ecosystem ให้เติบโตอย่างสมบูรณ์แบบในไทย โดยที่ผ่านมาได้คว้าเอาพันธมิตรผู้นำสำคัญๆทางด้าน อินเทอร์เนต โซเชียลเน็ตเวิร์ค บริษัทและสถาบันที่เกี่ยวกับสตาร์ทอัพระดับโลกจากซิลิคอนวัลเล่ย์ เข้ามาร่วมจัดกิจกรรมสำคัญๆ หลายโครงการ เช่น dtac Accelerate การจัดกิจกรรมเวิร์คช้อปกับสตาร์ทอัพระดับโลก เพื่อเป็นเวทีให้กับนักพัฒนาคนไทยรุ่นใหม่ ได้แจ้งเกิดในเส้นทาง การเป็นนักพัฒนา และผู้ประกอบการทางด้านเทคโนโลยี ที่สามารถแข่งขันได้ในระดับนานาชาติ และประสบความสำเร็จสร้างอาชีพใหม่ได้อย่างอย่างยั่งยืน
และวันนี้ก็นับเป็นก้าวที่สำคัญอีกครั้งหนึ่งของดีแทคที่ได้ประกาศความร่วมมือเป็น strategic partner กับ Founder Institute หรือ FI ผู้รังสรรค์เครือข่ายของสตาร์ทอัพหรือผู้ประกอบการหน้าใหม่ระดับโลก ที่มีผลการดำเนินงานที่การันตีความโดดเด่นซึ่งสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่เข้ามาสู่วงการแล้วมากกว่า 550 คน มีถึง 41% ที่ได้รับเงินทุนสนับสนุนในเวลาเพียง 6 เดือน ความร่วมมือกับ FI ในครั้งนี้ดีแทคตั้งเป้าหมายว่า จะเป็นโอกาสสำคัญในการส่งเสริมให้คนไทยได้เรียนรู้เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
เบญจามิน แรงค์ ผู้อำนวยการ Founder Institute กล่าวว่า “ Founder Institute หรือ FI เป็นผู้ก่อตั้งเครือข่ายของสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในโลก พร้อมด้วยทีมที่ปรึกษามืออาชีพ ที่ร่วมสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะขยายซิลิคอน วัลเล่ย์ ศูนย์กลางของนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด ไปสู่เมืองต่างๆทั่วโลก จากการก่อตั้ง มาเป็นเวลา 4 ปี FI ประสบความสำเร็จในการผลักดัน 1,000 บริษัทใน 42 เมืองทั่วโลก ให้เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ยั่งยืนและมั่นคง ปัจจุบันมีผู้ผ่านการอบรมจาก FI มากกว่า 550 คน จาก 22 เมืองทั่วโลก มีทีมที่ปรึกษามากกว่า 800 คน มีพันธมิตรมากกว่า 75 ราย
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ FI ได้มาจัดอบรมให้กับเหล่าสตาร์ทอัพที่กรุงเทพ เนื่องจากเล็งเห็นศักยภาพและความพร้อมของคนไทย ที่มีความตื่นตัวและตอบรับเรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีใหม่ๆอย่างกว้างขวาง จากการเปิดให้บริการ 3G การเติบโตของการใช้งานดาต้า และสมาร์ทโฟน ล้วนเป็นปัจจัยที่ผลักดัน ให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันตลอดเวลา ประกอบกับบรรยากาศการส่งเสริมและการสร้างโอกาสใหม่ๆของ ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ ที่ร่วมสร้าง อินเทอร์เน็ต อีโคซิสเต็ม ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจอยากเริ่มต้นทำธุรกิจสตาร์ทอัพอย่างมืออาชีพ สามารถลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://fi.co/courses/3723
แอลจีฉลองครบรอบ 25 ปี ส่งแคมเปญออนไลน์ ‘LG Life’s Good Together, Let’s Smile Together’
บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองครบรอบ 25 ปี ครั้งยิ่งใหญ่ จัดแคมเปญออนไลน์ ‘LG Life’s Good Together, Let’s Smile Together’ ชวนคุณมาสร้างสีสัน ส่งต่อรอยยิ้ม มอบความสุขสนุกส่งท้ายปี พร้อมชิงรางวัลเงินสดมูลค่าถึง 100,000 บาทและของรางวัลอื่นๆ อีกมากมายรวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท ผ่านทาง www.lgsmiletogether.com ตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2557
กิจกรรมออนไลน์ ‘LG Life’s Good Together, Let’s Smile Together’ ชวนผู้สนใจมาร่วมสนุกได้ง่ายๆ เพียงสร้างตัวละคร (Avatar) เพื่อเต้นประกอบมิวสิควิดีโอเพลง ‘อยากให้เธอยิ้ม’ ที่สร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษโดยศิลปินสุดฮอตวงมายด์ (Mild) พร้อมเชิญเพื่อนๆ จากทางเฟซบุ๊ก มาเข้าร่วมกิจกรรมให้มากที่สุด เพื่อสะสมคะแนนในการชิงรางวัลเงินสดและของรางวัลมากมายจากแอลจี อาทิ แอลจี G2 สุดยอดสมาร์ทโฟนแห่งปี แอลจีดิจิตอลทีวีขนาด 42 นิ้ว ฯลฯ โดยจะทำการประกาศรายชื่อผู้โชคดีในวันศุกร์ที่ 24 มกราคม 2557 ผ่านทาง www.lgsmiletogether.com และ www.facebook.com/thailandlifesgood
LINE ตอกย้ำความสำเร็จด้วยยอดผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 300 ล้านคน พร้อมแจกฟรีสติ๊กเกอร์ชุดใหม่
LINE ผู้นำด้านแพลตฟอร์มบนมือถือยอดนิยมระดับโลก ล่าสุดประกาศความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่กับยอดผู้ใช้งานเกิน 300 ล้านคนทั่วโลก
นับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2554 LINE มียอดผู้ใช้งานทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกินความคาดหมายมาโดยตลอด จากการให้บริการฟีเจอร์ที่น่าสนใจและหลากหลายของ LINE ตั้งแต่ฟีเจอร์การสนทนาเสียง การสนทนาด้วยภาพวีดีโอ ตลอดจนการส่งสติ๊กเกอร์ข้อความสุดฮิต
สำหรับประเทศไทย ประเทศที่ LINE ให้ความสำคัญมากประเทศหนึ่ง LINE ได้มุ่งมั่นพัฒนาฟีเจอร์และบริการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานบนมือถือที่เหนือความคาดหมายแก่ผู้ใช้งานคนไทย โดย LINE ได้ร่วมมือกับบริษัทชั้นนำของประเทศ ทั้งสถาบันการเงิน ร้านอาหาร บริษัทประกันภัย และสื่อบันเทิงต่างๆ เชื่อมโยงบริษัทกับลูกค้าให้ใกล้ชิดและเข้าใจกันมากขึ้น เมื่อเร็วๆ นี้ LINE ได้จับมือกับธนาคารกสิกรไทย เปิดตัว Official Account ของธนาคาร และ สติ๊กเกอร์ หมีบราวน์กับกระต่ายโคนี่ในชุด “Brown & Cony in KBank’s world” ที่ขนทัพอริยาบทของหมีบราวน์และกระต่ายโคนี่เกี่ยวกับการใช้เงินในชีวิตประจำวัน มาเอาใจผู้ใช้งาน LINE ได้สนุกและเพลินเพลินกับการสนทนาผ่านแอพพลิเคชั่น LINE มากยิ่งขึ้น โดยสติ๊กเกอร์ชุดนี้มียอดดาวน์โหลดสูงเกินความคาดหมายถึง 3 ล้านครั้ง หลังจากเปิดบริการให้ดาวน์โหลดเพียงแค่ 1 วันเท่านั้น
อีกทั้งไม่นานมานี้ LINE ยังได้เปิดตัวโฆษณาโทรทัศน์ชุดแรกในประเทศไทย ที่คัดเลือกจากเรื่องราวดีๆ ทั้งหมด 3 เรื่อง ของผู้ใช้งานที่ส่งเข้าประกวดในโครงการ “LINE Story Contest” โดยโฆษณาชุดแรกที่เปิดตัวไปนั้นสร้างจากเรื่องจริงของผู้ใช้งานคนไทยที่ชื่นชอบและมีประสบการณ์สุดแสนประทับใจในชีวิตผ่านแอพพลิเคชั่น LINE โฆษณาชุดแรกกับชุดที่ 2 ของ LINE ได้เปิดตัวออกอากาศไปได้ไม่นาน และสำหรับโฆษณาชุดที่ 3 นั้น มีกำหนดการเปิดตัวเป็นลำดับถัดไปเร็วๆ นี้
เพื่อแสดงความขอบคุณผู้ใช้งานคนไทยที่ให้การต้อนรับและสนับสนุน LINE อย่างดีมาโดยตลอด LINE ได้ออกสติ๊กเกอร์เวอร์ชั่นพิเศษเอาใจผู้ใช้งานคนไทยโดยเฉพาะ โดยผู้ใช้งานจะได้พบกับเหล่าคาแรกเตอร์ตัวเด่นๆ ของ LINE ที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี อย่างกระต่ายโคนี่ หมีบราวน์ และหนุ่มสำอางเจ้าเสน่ห์เจมส์ พร้อมผองเพื่อนที่ยกทัพกันมาสร้างสีสันและเรียกรอยยิ้มให้กับผู้ใช้งานคนไทย ผ่านอิริยาบทต่างๆ ที่สื่อถึงชีวิตอันสุขสันต์ในประเทศไทย
และล่าสุด LINE ได้เปิดตัวแคมเปญ LINE Next เพื่อเฟ้นหาสุดยอดคนไทยรุ่นใหม่ที่มีพรสวรรค์ร่วมงานกับ LINE ในประเทศไทย โดยแคมเปญนี้เปิดโอกาสให้นิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาได้พิสูจน์ฝีมือในการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น ซึ่งทีมผู้ชนะจะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำของ LINE ในประเทศไทย
นอกเหนือจากประเทศทางฝั่งเอเชียตะวันออกที่ LINE ได้เข้าไปเตรียมการดำเนินงานอย่างแข็งแกร่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประเทศที่มีชาวละตินอเมริกัน อย่างประเทศสเปนและเม็กซิโก ยังมีจำนวนผู้ใช้งาน LINE เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยเช่นกัน ปัจจุบัน LINE กำลังให้ความสำคัญกับการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานในประเทศอินเดีย ตุรกี และประเทศฝั่งยุโรปตะวันตกอย่างประเทศฝรั่งเศส เยอรมัน และอิตาลีมากขึ้น ด้วยการออกโปรโมชั่นและแคมเปญเฉพาะเพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้งานของแต่ละประเทศ พร้อมกันนี้ LINE ยังได้จับมือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือและบริษัทต่างๆ ของแต่ละประเทศเพื่อส่งเสริมธุรกิจร่วมกันอีกด้วย ตัวอย่างเช่น ในประเทศอินเดียที่ตลาดสมารท์โฟนมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย LINE ได้ออกสติ๊กเกอร์นักแสดงสาวสวยบอลลีวูดชาวอินเดียให้กับผู้ใช้งานของประเทศได้ดาวน์โหลด ส่งผลให้ LINE มียอดผู้ใช้งานทะลุ 10 ล้านคน ภายในระยะเวลาเพียง 3 เดือนเท่านั้นนับตั้งแต่เปิดตัวแอพพลิเคชั่นอย่างเป็นทางการที่ประเทศอินเดีย พร้อมตั้งเป้ามียอดผู้ใช้งานในประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านคนภายในปี 2556
จำนวนผู้ใช้งานทั่วโลกของ LINE นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว โดย LINE มียอดผู้ใช้งานทั่วโลกครบ 100 ล้านคนภายใน 19 เดือน นับตั้งแต่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ต่อมาอีก 6 เดือน LINE มียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านคน รวมเป็น 200 ล้านคน และเพิ่มขึ้นเป็น 300 ล้านคน ภายในระยะเวลาแค่ 4 เดือนเท่านั้น
มร. อากิระ โมริกาวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท LINE Corporation กล่าวว่า: เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ LINE มียอดผู้ใช้งานเกิน 300 ล้านคนตามเป้าหมายที่ต้งไว้ โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่ไม่กี่เดือนหลังจากประสบความสำเร็จกับยอดผู้ใช้งานครบ 100 ล้านคนเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
จากการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของตลาดสมารท์โฟน ส่งผลให้ LINE หันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มความน่าสนใจบนแพลตฟอร์มการให้บริการของตนเอง ตั้งแต่การสื่อสารผ่านสติ๊กเกอร์ข้อความ การสนทนาเสียง และการสนทนาผ่านวีดีโอ ตลอดจนให้บริการเกมส์ที่หลากหลาย มอบความสนุกและความเพลิดเพลินแก่ผู้ใช้งาน LINE ร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อเป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสารที่ให้บริการส่งข้อความแบบเดิมๆ
เราจะยังคงเดินหน้าคิดค้นนวัตกรรมการสื่อสารใหม่ๆ ทุกรูปแบบที่เป็นไปได้อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาฟีเจอร์และการให้บริการที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2557 นี้เราตั้งใจเพิ่มยอดผู้ใช้งานทั่วโลกเป็น 500 ล้านคน เพื่อพัฒนาแอพพลิเคชั่นและก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้านการให้บริการการสื่อสารอันดับต้นๆ ของโลก
LINE ในฐานะผู้ให้บริการการสื่อสารระดับโลก มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาแอพพลิเคชั่นของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อมอบบริการที่ดีที่สุดและเพิ่มระดับคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งาน LINE ทั่วโลก
ซัมซุงเปิดตัวโครงการระดับโลกภายใต้ชื่อ Launching People มุ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกพลังความคิดจากทั่วทุกมุมโลก
ซัมซุงเปิดตัวโครงการระดับโลก “Launching People” เพื่อผลักดันศักยภาพของผู้คนทั่วโลก พร้อมพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนผ่านแนวคิดด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยจะเป็นอีกหนึ่งโครงการที่เกิดขึ้นเพื่อค้นหาและให้การสนับสนุนให้ผู้คนที่มีความฝัน แรงบันดาลใจจากทั่วโลก
มร. ซู ชิม ผู้อำนวยการด้านการตลาดของซัมซุง กล่าวว่า “ซัมซุงเชื่อว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมจะมีความหมายเมื่อเทคโนโลยีนั้นๆ ได้รับการใช้งานโดยมนุษย์ และเมื่อมีคนใช้เทคโนโลยีนั้นๆ สิ่งมหัศจรรย์มากมายย่อมเกิดขึ้นตามมา โดยที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมากทั่วโลกได้แบ่งปันประสบการณ์ชีวิตที่ยอดเยี่ยมจากการงานผลิตภัณฑ์ของซัมซุง ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ทำให้ซัมซุงตระหนักว่า ซัมซุงมิได้เป็นเพียงผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังเป็นผู้มีส่วนร่วมในการสรรสร้างชีวิตของผู้คนมากมายทั่วโลกให้ดียิ่งขึ้น และเราคาดหวังว่าจะได้เห็นความสำเร็จเหล่านี้มากยิ่งขึ้น โดยในปี 2557 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ซัมซุงจะใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นเครื่องช่วยสนับสนุนโครงการใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นให้ปรากฏแก่ผู้คนทั่วโลก ดังนั้นเราจึงไม่เพียงแค่พยายามสร้างความฝันของผู้คนเหล่านั้นให้เป็นจริง แต่เรายังช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นในเวลาเดียวกันอีกด้วย”
นายอัลเฟรด เพรเยอร์ คนงานที่ทำงานอยู่ที่สถานีพลังงานน้ำในประเทศออสเตรีย ผู้ที่ใฝ่ฝันเสมอมาที่จะเป็นช่างภาพ เขาได้รับแรงบันดาลใจจากเรื่องราวที่อยู่บนใบหน้าของผู้คนที่เขาพบ เมื่อครั้งที่เขาได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวที่ประเทศอินเดีย เขาได้พกพาซัมซุง กาแลคซี่ เอส 3 ติดตัวไปทุกที่ เพื่อถ่ายภาพและเก็บภาพความประทับใจต่างๆ บนท้องถนน ภาพถ่ายเหล่านั้นทำให้เขาได้กลายเป็น 1 ใน 10 สุดยอดช่างภาพมือถือประจำปี 2554 ในขณะที่ เด็กหญิงจีเซลล์ นักเรียนที่อาศัยอยู่ในป่าอเมซอน เธอศึกษาที่โรงเรียนในท้องถิ่นซึ่งซัมซุงสร้างให้แก่ชุมชนของเธอ เธอชอบวิชาศิลปะเพราะวิชานี้เปิดโอกาสให้เธอได้เชื่อมต่อกับครูสอนศิลปะ ที่อยู่ห่างจากเธอออกไปหลายไมล์ ผ่านซัมซุง สมาร์ททีวี เธอต้องการเรียนรู้เพื่อในอนาคต เธอจะเป็นครู และจะกลับมาที่หมู่บ้านของเธอพร้อมกับสร้างความฝันของเด็กที่นั่นให้เป็นจริงเหมือนกับเธอ
ซัมซุงเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยพัฒนาศักยภาพ ความสนใจ หรือความฝันของผู้คนที่อาศัยอยู่ใน 13 ประเทศ ทั้งในยุโรป ละตินอเมริกา และตะวันออกกลางให้เป็นความจริง โดยซัมซุงจะให้ความช่วยเหลือผู้คนที่มีแนวคิดหรือศักยภาพที่มีโอกาสจะกลายเป็นจริงจากทั่วโลก โดยเปิดโอกาสให้ร่วมงานกับผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษาที่มีชื่อเสียง รวมถึงมอบผลิตภัณฑ์และเงินทุนสำหรับการเริ่มดำเนินกิจการ ทั้งนี้โครงการดังกล่าวได้เริ่มดำเนินการแล้วที่ประเทศฝรั่งเศสตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
สำหรับในประเทศไทยได้เริ่มดำเนินโครงการอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยได้โปรโมทผ่านช่องทางต่างๆ หลากหลายช่องทางออนไลน์ อาทิ Samsung Facebook Fanpage และ Samsung Official website ผู้สนใจเกี่ยวกับโครงการสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ของโครงการได้ที่ http://www.samsung.com/th /launchingpeople/landing.html
ทรู ร่วมสนับสนุนงานระดับโลก ITU Telecom World 2013 โชว์ศักยภาพ True Cloud Pavilion
นาวาอากาศเอกอนุดิษฐ์ นาครทรรพ (ที่ 4 จากขวา)รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร พร้อมด้วย พลอากาศเอกธเรศ ปุณศรี (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และดร.ฮามาดัล ทอเร่ (ที่ 4 จากซ้าย) เลขาธิการสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (International Telecommunication Union; ITU) ซึ่งเป็นองค์กรด้านการกำกับดูแลกิจการโทรคมนาคมของโลก เยี่ยมชม True Cloud Pavilion ของกลุ่มทรู โดยมี นายธิติฏฐ์ นันทพัฒน์-สิริ (ที่ 5 จากขวา) ผู้อำนวยการบริหารด้านรัฐกิจสัมพันธ์ และนายธาดา เศวตศิลา (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจสถาบันการศึกษา บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมคณะผู้บริหารให้การต้อนรับ ในงาน ITU Telecom World 2013 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 อิมแพค เมืองทองธานี
True Cloud Pavilion ในงาน ITU Telecom World 2013 จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ True Work Style on the Cloud ผ่านบริการ True Cloud Service ซึ่งป็นการให้บริการเซิร์ฟเวอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการและสามารถเลือกใช้บริการต่างๆ ได้ตามความเหมาะสมกับธุรกิจ โดยมีโซนต่างๆ ที่สอดคล้องกับชีวิตการทำงานและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างลงตัว
• Work Style Zone การจำลองออฟฟิศในอนาคตผสมผสานทั้งดีไซน์และรูปแบบการทำงานอย่างลงตัว ที่ได้จัดแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ เพื่อรองรับลูกค้าจากทุกหน่วยงาน พร้อมการสาธิตบริการ iService และให้ข้อมูลเกี่ยวกับ Internet Solution ที่จะมาช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น
• Urban Cloud Zone พื้นที่สวนสีเขียวที่เชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยี Cloud Interactive กับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
• Lifestyle Zone พื้นที่ผ่อนคลายที่จะได้สนุกและเรียนรู้ไปกับทรูวิชั่นส์ ทั้งยังไม่พลาดกับทุกการติดต่อกับบริการ International Service ทั้ง 006, NetTalk และ International Roaming
• True Coffee Cloud Zone มุมสำหรับพูดคุยธุรกิจที่เสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มจาก True Coffee
พบกับ True Cloud Pavilion และมอบประสบการณ์พิเศษ Cloud Data Service ให้ได้ทดลองใช้ฟรีเป็นเวลา 15 วัน สำหรับทุกท่านที่เข้ามาปรึกษาธุรกิจ ภายในงาน ITU Telecom World 2013 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-2 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันนี้ – 22 พฤศจิกายน 2556
โนเกียให้ฟังเพลงออนไลน์ฟรีไม่อั้นกับ Nokia MixRadio บน Nokia Lumia
โนเกียเปิดขุมทรัพย์ทางดนตรีให้ฟังเพลงออนไลน์ฟรีแบบไม่มีโฆษณาผ่านบริการ โนเกีย มิกซ์ เรดิโอ (Nokia MixRadio) บน Nokia Lumia ฟินเต็มอิ่มกับ 18 ล้านเพลงจากทั่วโลก และเพลงไทยจากค่าย บีอีซีและจีเอ็มเอ็มแกรมมี่ พร้อมเปิดตัวแสตมป์ อภิวัชร์ พรีเซ็นเตอร์ตัวจริงเสียงจริงของ Nokia MixRadio
Nokia MixRadio ให้คุณสร้างสถานีวิทยุส่วนตัวได้ง่ายๆ แค่กดปุ่มระบุเพลงโปรด หรือเพลงที่ไม่ชอบ และเลือก “ศิลปินโปรด” หรือจะฟังเพลงจากสถานีของเซเลบชื่อดังระดับโลก ฟังเพลินโดยไม่มีโฆษณา หรือลงทะเบียนให้ยุ่งยาก พร้อมให้บันทึกเพลงเพื่อฟังในโหมดออฟไลน์ได้อีกด้วย
แถมได้ แสตมป์ อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข มาเป็นพรีเซนเตอร์ ในภาพยนตร์โฆษณา Nokia MixRadio ซึ่งแสตมป์กล่าวว่า “แรงบันดาลใจของผมมาจากสิ่งรอบๆ ตัว ก็เหมือนกับ Nokia MixRadio ที่เป็นเหมือนขุมทรัพย์ทางดนตรีให้ผมตักตวงความคิดใหม่ๆ จากเพลงดีๆกว่า 18 ล้านเพลงทั่วโลก ไม่ว่าที่ไหน เมื่อไหร่”
ผู้ใช้สมาร์ทโฟน Nokia Lumia ดาวน์โหลด Nokia MixRadio ฟรีได้แล้วที่ http://www.windowsphone.com/th-th/store
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.nokia.co.th/mixradio
นางพรรณวลัย อินทราพิเชฐ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด