Apple ปล่อยคลิป รวมฟีเจอร์ใหม่บน OS X Yosemite ให้ดูชัดๆ กันอีกครั้ง

 

หลังจากเปิดตัวไปในงาน WWDC14 ที่เผยให้นักพัฒนาและคนทั่วโลกได้ชมถึงฟีเจอร์ใหม่ของระบบปฏิบัติการล่าสุดสำหรับเครื่อง Mac กับ OS X Yosemite ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนดีไซน์และอินเตอร์เฟสไปในแนว Flat ที่ดูเรียบง่าย แต่มีสไตล์ และเน้นลูกเล่นของหน้าต่างแบบโปร่งแสง บวกกับความสามารถใหม่อีกมากมาย ซึ่งทั้งหมดได้ถูกสรุปรวมไว้ในคลิปที่โชว์ไปแล้วภายในงาน ซึ่งหากใครอยากดูชัดๆ อีกครั้ง Apple ก็ได้ปล่อยคลิปดังกล่าวออกมาให้ดูกันทาง Youtube เรียบร้อยแล้ว ไปชมกันได้เลย

 

[youtube link=”http://youtu.be/NQ7kqwbqeiI” width=”590″ height=”315″]

 

สำหรับใครที่อยากรู้รายละเอียดทั้งหมดของ OS X Yosemite สามารถดูได้ที่บทความ สรุปรวบตึง MAC OS X YOSEMITE อัพเดทครั้งใหญ่ มีอะไรใหม่มาให้เล่นอีกเพียบ

 
Souce : Apple Channel

 

โฆษณา Asus Zenfone โชว์ฟังก์ชั่น Smart Remove ลบชะนีออกจากภาพ เจาะกลุ่มเก้งกวางโดยเฉพาะ

asus-zenfone-5

ขอหยิบข่าว Android มาให้อ่านกันบ้างดีกว่า หลังจาก 2-3 วันที่ผ่านมามีแต่ข่าว Apple เต็มไปหมด

 

ไม่นานมานี้ Asus Zenfone ได้เปิดตัวในเมืองไทยไปเมื่อเดือนที่แล้ว (พฤษภาคม 57) และเริ่มทยอยวางจำหน่ายในรุ่นต่างๆ ทั้ง 3 รุ่น ซึ่งได้รับความสนใจมากพอสมควร ด้วยราคาที่ถูก และดีไซน์หรูหราดูดี ฟีเจอร์ครบ และเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ที่ใช้ซีพียู Intel Atom อีกด้วย จึงเป็นการเรียกกระแสได้ดีพอสมควร

 

แต่อะไรก็ไม่แรงเท่ากับโฆษณาตัวนี้ ที่นำเสนอฟีเจอร์ Smart Remove ซึ่งสามารถลบ น้องชะนีออกจากภาพให้หายไปในพริบตา หลังจากที่หนุ่มตี๋แอบชอบเพื่อนซี้หนุ่มที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด ว่าแล้วก็ไปชมคลิปกันเองเลยดีกว่า

 

[youtube link=”http://youtu.be/NlWVCDrKMtU” width=”590″ height=”315″]

 

เป็นไงครับ ฟังก์ชันนี้คงได้ใจชาวเก้งกวางไปแบบเต็มร้อย เชื่อว่า Asus คงทำยอดขายจากลูกค้ากลุ่มนี้ ที่มีกำลังซื้อสูงได้ไม่น้อยเลยทีเดียวล่ะครับ

 

Apple ปล่อยโฆษณาตัวใหม่ “Strength” โชว์ Fitness แอพ ที่ใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริม

 

Apple อัพโหลดโฆษณาชุดใหม่ขึ้นบน Youtube โดยใช้ชื่อว่า Strength ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสุขภาพและอุปกรณ์เสริมฟิตเนสต่างๆ ที่ใช้งานร่วมกับ iPhone 5s โฆษณาตัวนี้มีความยาวเพียง 1 นาที โดยออกฉายที่แรกผ่านช่องทีวี NBC ในช่วงการแข่งกันฮอกกี้แมชชิงชนะเลิศในรายการ Stanley Cup Finals โดยดึงความสนใจของผู้ชมให้มากยิ่งขึ้นด้วยการใช้เพลงประกอบที่ชื่อว่า “Chicken Fat” โดย Robert Preston ซึ่งเป็นเพลงที่ออกมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1961 ที่โรงเรียนในสมัยก่อน ใช้เปิดเพื่อฝึกกายบริหารให้เด็กๆ ในทุกๆ วัน ดังนั้นมันจึงเป็นการย้อนรอยความทรงจำให้แก่ผู้ชมได้เป็นอย่างดี

 

[youtube link=”http://youtu.be/xTjejvnBJfU” width=”590″ height=”315″]

 

โฆษณาชิ้นนี้ถือว่าเป็นการแสดงให้เห็นถึงการใช้ iPhone 5s เป็นผู้ช่วยในการออกกำลังกาย เทรนนิ่ง, เวิร์คเอาท์ หรือกิจกรรมฟิตเนส ทั้งหลายได้อย่างสุดยอด โดยมีการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมยอดนิยมอย่าง Misfit Shine (เราเคยรีวิวไปแล้ว), Zepp Golf sensor, Wahoo bike sensor และ Nike+ แต่ไร้ซึ่ง iWatch ที่มีข่าวลือหนาหู หนาตา มานานแล้ว ซึ่ง Apple ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเปิดตัวสักที

 

อย่างไรก็ตามการที่โฆษณาชุดนี้ออกมานั้น คิดว่าเป็นการเตรียมปูทางให้กับแอพ HealthKit ซะมากกว่า เพราะดูจากอุปกรณ์เสริมที่มีให้เลือกหลากหลายประเภทแล้ว Apple อาจจะไม่ต้องแคร์ว่าจะต้องมีอุปกรณ์ Wearable เป็นของตัวเองในเร็ววันเท่าไร แต่ให้ HealthKit เป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์เหล่านั้นไว้ในที่เดียวก็เก๋แล้ว ที่สำคัญผมมองว่าจะได้เอื้อประโยชน์ให้กับพาร์ทเนอร์ที่ผลิตอุปกรณ์เสริมออกมาให้หลากหลายยิ่งขึ้น โดยที่ Apple ก็ไม่ต้องลงทุนในส่วนนี้ให้มากนัก แต่หันไปโฟกัสที่ iPhone และ แอพพลิเคชั่นให้รองรับการทำงานได้ดีกว่า

 

Source : idownloadblog

 

แคปเจอร์วิดีโอการใช้แอพบน iPhone, iPad ผ่านเครื่อง Mac ที่รัน OS X Yosemite ได้แล้ว

 

ios8-video-capture

 

ขอเสียงกรี๊ดดังๆ ให้กับนักพัฒนา iOS ที่ต่อไปนี้พวกเขาจะสามารถทำคลิปวิดีโอสาธิตการใช้งานแอพ ได้อย่างง่ายดาย โดยการแคปเจอร์เป็นวิดีโอผ่านหน้าจอบนเครื่อง Mac ที่รัน OS X Yosemite ได้แล้ว

 

เพราะก่อนหน้านี้ เป็นอะไรที่ยากลำบากมาก ที่จะแคปเจอร์หน้าจอเป็นวิดีโอออกมาได้ ต้องใช้วิธีการเจลเบรกอย่างเดียว เพื่อลงแอพเสริมในการบันทึกวิดีโอการใช้งาน

 

ง่ายๆ แค่เชื่อมต่อ iPhone หรือ iPad ที่รัน iOS 8 แล้วเสียบสาย USB เข้ากับเครื่อง Mac ที่รัน OS X Yosemite ตัวล่าสุด จากนั้นก็จะมีฟังก์ชัน กล้อง แสดงขึ้นมา เพื่อให้นักพัฒนาสามารถแคปเจอร์วิดีโอการใช้งานแอพของตัวเองได้ และนำไปพรีเซนต์บน AppStore ที่รองรับวีดีโอตัวอย่างได้ด้วยนั่นเอง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป

 

เบื้องต้นจากที่มีการทดลองใช้งาน ยังบันทึกวิดีโอได้ไม่ลื่นไหล มีกระตุกๆ อยู่ คาดว่าหากมีการปล่อยระบบปฏิบัติการตัวเต็มออกมาเมื่อไร คงจะใช้งานได้ดีขึ้น

 

Source : 9to5mac

 

คืนนี้แล้วสินะกับงาน WWDC2014 ที่สาวก Apple รอคอย ชมสดผ่านเว็บ เที่ยงคืนเป็นต้นไป [แจกฟรีคู่มือ Mac OS X ที่นี่]

 

เตรียมพร้อมกันแล้วยังครับ กับงานใหญ่ประจำปี WWDC 2014 ซึ่งเป็นงานของเหล่านักพัฒนาสาวกแอปเปิ้ล มารวมตัวเพื่อที่จะรอชมการเปิดตัวระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดที่คาดกันว่าจะเป็น iOS 8 กับ Mac OS 10.10 งานนี้ผมเตรียมป็อปคอนกันชาเย็นๆ ไว้เป็นเพื่อนแล้วล่ะครับ ไปลุ้นด้วยกันนะ เที่ยงคืนเป็นต้นไปครับ

 

ชมการถ่ายทอดสดผ่านเว็บ Apple ได้โดยตรงที่เดียวเท่านั้นนะครับ คลิกเลย http://www.apple.com/apple-events/june-2014/

WWDC14

นอกจากการดูผ่านพีซีแล้ว ยังสามารถดูผ่าน Safari ทั้งบน iPhone, iPad, iPod Touch ได้ด้วยนะครับ

 

สำหรับงานนี้ใครคาดหวังว่าจะได้เจอกับ iPhone 6 หรือ iPad, iWatch อะไรก็ตาม อาจจะยังไม่ได้เจอในงานนี้ เพราะเนื่องจากงาน WWDC เป็นงานสำหรับนักพัฒนาเท่านั้น ซึ่งจะเน้นไปที่ซอฟต์แวร์ ไม่ได้เน้นที่ฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ แต่หากเกิดมีอะไรใหม่โผล่มาในงานครั้งนี้ ก็ถือว่าเป็นเซอร์ไพสร์แรงๆ เลยล่ะครับ

 

OopsMobile ชวนร่วมกิจกรรม

สำหรับใครที่ติดตามงานในคืนนี้ เรามีเกมสนุกๆ มาให้ร่วมชิงหนังสือคู่มือ Mac OS X Mavericks ฉบับสมบูรณ์ ที่มีหนึ่งในทีมงาน OopsMobile เป็นผู้เขียนหนังสือเล่นนี้ด้วยนะครับ
Photo-2-6-57-19-03-56

 

 

กติกา

1. กด Like Fanpage OopsMobile

2. ตอบคำถามง่ายๆ ใน Comment ใต้รูปนี้ ว่างาน WWDC14 ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่เท่าไร

3. แชร์ภาพกิจกรรมนี้ ไปยังหน้าวอลล์ Facebook ของตัวเอง โดยตั้งให้เป็น สถานะ (Publish)

4. หมดเขตร่วมสนุกเที่ยงคืนนี้ (2 มิ.ย. 57)
5. จับรางวัลโดยการสุ่มจับฉลาก ผู้โชคดี 5 ท่าน รับคู่มือ Mac OS X Mavericks ฉบับสมบูรณ์ ไปเลยคนละ 1 เล่ม มูลค่า 399 บ. จาก Provision

 

ประกาศชื่อผู้โชคดีภายในวันที่ 3 มิ.ย. 57

 

มาเล่นกันเยอะๆ นะครับ ….

 

 

 

Facebook ชวนร่วมกิจกรรมรักสิ่งแวดล้อม ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 2014

 

Environmentday

 

โซเชียล มีเดียมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างการรับรู้เกี่ยวกับประเด็นต่างๆ บนโลกออนไลน์ และเป็นพลังที่สามารถเปลี่ยนโลกของเราให้ดีขึ้นได้ หนึ่งในโอกาสสำคัญที่เราสามารถร่วมแรงร่วมใจกันสร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลกของเรา คือวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งตรงกับวันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปี

 

สำหรับปีนี้ วันสิ่งแวดล้อมโลกจะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Raise your voice – not the sea level” ซึ่งรณรงค์ให้คนหันมาร่วมแรงร่วมใจกันรักษาสิ่งแวดล้อม เพื่อลดระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น แน่นอนว่าสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำในชีวิตประจำวัน เช่น การปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้งาน หรือการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนแทนการขับรถยนต์ส่วนตัว สามารถช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ นอกจากกิจกรรมในโลกออฟไลน์แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่นๆ บนโลกออนไลน์ที่เราสามารถเข้าร่วมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างโลกที่ดีกว่าและเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวันสิ่งแวดล้อมโลกที่กำลังจะมาถึงให้มากยิ่งขึ้น Facebook ขอแนะนำวิธีง่ายๆ ในการหาข้อมูล และเชื่อมต่อกับกลุ่มนักอนุรักษ์และผู้คนที่สนใจเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกับคุณ

 

แฮชแท็ก
ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ด้วยแฮชแท็ก #‎WorldEnvironmentDay และ #WED2014 ซึ่งเป็นแฮชแท็กอย่างเป็นทางการของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ หรือหากต้องการแชร์ข้อมูลก็ให้ร่วมกันใส่แฮชแท็กนี้ เพื่อช่วยให้เรารู้ว่าผู้คนมีความเห็นอย่างไรหรือทำกิจกรรมอะไรบ้างเพื่อช่วยกันรักษาสิ่งแวดล้อม

 

สร้างรายการความสนใจ (Interest Lists)
หากคุณเป็นคนหนึ่งซึ่งกำลังหาผู้สนใจในด้านสิ่งแวดล้อมเช่นเดียวกัน คุณสามารถใช้ฟีเจอร์ “รายการความสนใจ” เพื่อให้ Facebook แสดงเนื้อหาจากเพจที่เราติดตาม บน News Feed แบบไม่พลาด เพียงไปที่หน้าความสนใจหรือ Interest Page (บริเวณคอลัมน์ซ้ายมือของกระดานข่าว) จากนั้นกดสร้างรายการเพื่อค้นหาชื่อต่างๆ (เช่น วันสิ่งแวดล้อมโลก หรือ สิ่งแวดล้อม เป็นต้น) เมื่อเสร็จสิ้นการเพิ่มรายการที่สนใจ Facebook จะเพิ่มรายการดังกล่าวเข้าไปในหัวข้อ “ความสนใจ” บริเวณคอลัมน์ซ้ายมือของกระดานข่าวทันที

 

แถบค้นหา (Search Bar)

environment_02
ค้นหา เพจ, กิจกรรม (Event) หรือ กลุ่ม (Group) ที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ได้ที่ช่องค้นหา ซึ่งช่วยให้คุณเลือกเข้าร่วมกลุ่มหรือกิจกรรมที่สนใจได้ง่ายยิ่งขึ้น

สำหรับเพจเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมของไทย ที่อยากแนะนำมีดังนี้

https://www.facebook.com/greennewstv เพจสำนักข่าวสิ่งแวดล้อม Greennewstv ก่อตั้งขึ้นโดยชมรมนักข่าวสิ่งแวดล้อมเพื่อเสนอความเคลื่อนไหนในแวดวงสิ่งแวดล้อมทั้งภายในประเทศไทยและสิ่งแวดล้อมโลก

• https://www.facebook.com/7Greens เพจ 7 Greens…ท่องเที่ยวสดใส ใส่ใจสิ่งแวดล้อม จัดตั้งโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อรณรงค์การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน โดยการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

• https://www.facebook.com/iloveenvi เพจเรื่องสิ่งแวดล้อมเรื่องของเรา นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับภัยคุกคามต่อสิ่งแวดล้อม เช่น มลภาวะต่างๆ ข่าวเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม และข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมทั่วไป

 

 

นอกจากนี้ คุณสามารถติดตามเรื่องราวของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในแบบของ Facebook ได้จากเพจ Green on Facebook ที่ลิงค์ https://www.facebook.com/green?fref=ts

environment_03

 

 

เพจเพื่อธุรกิจ
หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม คุณสามารถใช้ Facebook เป็นแพลตฟอร์มในการสื่อสารไปยังผู้ติดตามเพจเกี่ยวกับประโยชน์ของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและวิธีที่คุณสอดแทรกหลักความยั่งยืนในการประกอบธุรกิจ นอกจากนี้หากคุณวางแผนที่จะจัดกิจกรรมเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก คุณสามารถสร้างกิจกรรม หรือ Event เพื่อเชิญชวนแฟนเพจเข้าร่วมกิจกรรม โดยไปที่ไทม์ไลน์ของเพจ จากนั้นคลิก “กิจกรรม, เหตุการณ์สำคัญ +” (Event, Milestone +)บริเวณช่องสำหรับโพสต์ข้อความ และเลือก “กิจกรรม” (Event) โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/help/116346471784004/

 

ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารเกี่ยวกับกิจกรรมเนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ได้ที่เพจอย่างเป็นทางการของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ www.facebook.com/unep.org 

 

Samsung Simband อุปกรณ์ Wearable วัดสุขภาพ พร้อมแจ้งเตือนได้หากเราใกล้ป่วย

 

samsung-simband-06

 

ในวันนี้แม้ว่า Samsung Gear Fit หรือ Gear 2 จะเป็นอุปกรณ์ Wearable Device ที่เกิดขึ้นจริงแล้วก็ตาม แต่นี่ยังเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเบาๆ ของซัมซุง ที่จะนำพานวัตกรรมนี้ไปสู่จุดที่ก้าวล้ำนำอนาคต โดยเฉพาะในวงการแพทย์ ซึ่งอาจกลายเป็นอีกอุปกรณ์ที่ช่วยให้มนุษย์มีสุขภาพดียิ่งขึ้น

 

ล่าสุดซัมซุงได้จัดงานด้านสุขภาพภายใต้ชื่อ Voice of the Body โดยได้นำเสนอนวัตกรรมใหม่ของ Wearable Device ซึ่งเน้นในเชิงการแพทย์โดยเฉพาะ นั่นก็คือ Simband ที่ถือเป็นอุปกรณ์ Health Band อีกอย่างหนึ่ง แต่ไม่ใช่ Smart Watch หรือนาฬิกาอัจฉริยะที่ออกมาอย่างที่คนทั่วไปใช้กัน โดย Simband จะโฟกัสไปที่เรื่องของการตรวจจับสุขภาพโดยเฉพาะ อีกทั้งเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวนมากที่จะร่วมมือกับนักวิจัยทางการแพทย์ หมอ และผู้ใช้ โดยมันถูกออกแบบให้สามารถเปิดออกและแยกส่วนได้ ซึ่งจะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ที่ใช้ทางการแพทย์อย่างครบครัน

samsung-simband-01

 

Simband ถูกออกแบบให้สามารถใช้งานได้หลากหลายตามความต้องการทางการแพทย์ โดยใช้เทคโนโลยีของเซ็นเซอร์ต่างๆ ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบ SAMI, Samsung’s cloud-based solution หรือระบบที่รวบรวมฐานข้อมูลทางการแพทย์ทั้งหลายเพื่อใช้วิเคราะห์ร่วมกับเซ็นเซอร์ที่วัดผลออกมาได้

samsung-simband-04

 

แม้ว่า Gear Fit และ Gear 2 จะสามารถวัดอัตราการเต้นหัวใจได้ก็ตาม แต่สำหรับ Simband จะมีเซ็นเซอร์หลากหลายมากกว่า โดยมันจะใช้กระบวนการทั้งทาง แสง, ไฟฟ้า และ กายภาพในการวัดค่าอัตราการเต้นของหัวใจ, การไหลเวียนของเลือด, อุณหภูมิ, น้ำ และ ระดับออกซิเจน และสามารถจำลองระดับความดันโลหิตได้ แล้วส่งไปแสดงผลยังเครื่องตรวจวัดคลื่นหัวใจได้แบบเรียลไทม์ ถึงแม้ว่าออปติคัลเซ็นเซอร์จะทำงานได้ดีขึ้นมากแล้วก็ตาม แต่ยังไงซัมซุงก็ต้องพยายามที่จะนำเทคโนโลยีการตรวจวัด ซึ่งมีความต้องการความแม่นย่ำที่สุดมาใช้

 

ในส่วนของรูปลักษณ์ดีไซน์ของ Simband จะคล้ายๆ กับ Gear 2 อยู่เหมือนกัน แต่ต่างตรงที่แบตเตอรี่สามารถถอดเปลี่ยนได้เพื่อสลับการใช้งานให้ได้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง ใน 7 วัน ใช้ซีพียู ARM ที่เป็นตัวจัดการเซ็นเซอร์ทั้งหมด รองรับ Wi-Fi และ Bluetooth ดังนั้นมันสามารถแชร์ข้อมูลไปยังอุปกรณ์อื่นๆ หรือไปเก็บไว้ยังระบบคลาวด์ของซัมซุง ก็ได้

 

samsung-simband-02

 

ขณะนี้ Samsung Simband ได้เปิดชุด API ให้กับนักวิจัยทางการแพทย์ได้ลองใช้และทดสอบในโรงพยาบาลและสถาบันการแพทย์ อย่างมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย, ซานฟรานซิสโก และ ชิกาโก้ ซึ่งกำลังทำงานร่วมกันอยู่

 

ประโยชน์ที่น่าจะได้จากนวัตกรรมนี้คือ ต่อไปเราจะสามารถคาดคะเนได้ว่าร่างกายของเรากำลังจะป่วย ดังนั้นจึงสามารถรักษาและป้องกันได้แต่เนิ่นๆ ซึ่งทำให้เราไม่ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลหรือเข้าแอดมิตในโรงพยาบาลให้สิ้นเปลือง ยิ่งไปกว่านั้นเราจะไม่ต้องสิ้นเปลืองกับค่าประกันสุขภาพที่ปีหนึ่งๆ นั้นไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว

samsung-simband-03

 

เรียกว่าอีกไม่นานเราจะเข้าสู่ยุคของ Wearable Device กันอย่างแท้จริงแล้วสินะ นี่แหละถึงจะเรียกว่าเป็นการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างแท้จริง ขอยกนิ้วให้ซัมซุง และให้กำลังใจในการพัฒนา Simband ให้ออกมาใช้งานจริงได้ในเร็ววัน

 

Source : cnet

 

เปิดตัวแล้ว LG G3 เป๊ะทุกสิ่งอย่าง เข้าใจตรงกันนะ

lg-g3-13

เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ LG G3 สมาร์ทโฟนเรือธงตัวล่าสุดจาก LG ซึ่งขอบอกว่าแทบไม่มีอะไรผิดโผ่ ไปจากข่าวลือและภาพหลุดที่ออกมาก่อนหน้านี้แบบไม่แคร์สื่อ ทั้งรูปลักษณ์ดีไซน์ และสเปกที่คาดกันเอาไว้

 

LG G3 หน้าจอ 5.5 Quad HD IPS ความละเอียด 2560 x 1440 พิกเซล โดยมีความหนาแน่นของพิกเซลถึง 538 พิกเซลต่อนิ้ว ส่วนซีพียูก็หนีไม่พ้น quad core Qualcomm Snapdragon 801 ความเร็ว 2.5 GHz แรมมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 2 GB กับ 3 GB รวมถึงหน่วยความจำก็มีให้เลือก 16 GB กับ 32 GB

lg-g3-52

 

กล้องหน้ามาพร้อมความละเอียด 2.1 ล้านพิกเซล แม้จะไม่มากแต่ก็มาพร้อมรูรับแสงที่กว้าง F2.0 ถ่ายเซฟฟีได้สว่างขึ้น ส่วนกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล ซึ่งผมว่าไม่ได้ Wow เท่าที่ควรในเรื่องของความละเอียด แต่ LG ก็ได้ใส่ระบบกันภาพสั่นไหวแบบ OIS ที่ตัวชิ้นเลนส์ พร้อมด้วยระบบ Laser Auto Focus เพื่อช่วยโฟกัสภาพในที่มืดได้ดียิ่งขึ้น แต่ที่สำคัญคือตัวเลนส์สามารถโฟกัสได้เร็วถึง 0.276 วินาที

Laserautofocus

 

 

ชมคลิปรีวิว LG G3 (จาก Android Authority)
[youtube link=”http://youtu.be/xVXZzm_bjHE” width=”590″ height=”315″]

 

สำหรับฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาคือการใช้งานร่วมกับ QuickCircle Case โดยรองรับการชาร์จไร้สาย Wireless Charger ส่วนเรื่องของอินเตอร์เฟสการใช้งานก็ยังมีฟังก์ชั่น KnockCode, LG Content Lock ที่สามารถป้องกันการเข้าถึงไฟล์จากผู้อื่น, LG Kill Switch ที่สามารถปิดการเชื่อมต่อแบบรีโมทเข้ามาถึงตัวเครื่อง

lg-g3-25

 

นอกจากนั้นในงานเปิดตัวยังมีภาพเผยถึงอุปกรณ์เสริมที่ใช้งานร่วมกับ LG G3 หลายตัวด้วยกัน ทั้ง ที่ชาร์จไร้สาย, หูฟังบลูทูธ , LG G Pad รวมถึง G Watch ด้วย แต่ยังไม่มีรายละเอียดอะไรออกมามากนัก

 

lg_g3_gwatch

 

ชมคลิปรีวิว LG QuickCircle Case น่าใช้เลยทีเดียว (จาก Android Authority)

[youtube link=”http://youtu.be/omLGUJUT_lQ” width=”590″ height=”315″]

 

สเปกคร่าวๆ ของ LG G3
ขนาด : 146.3 x 74.6 x 8.9 มม.
หน้าจอ : 5.5″ True HD-IPS+ ความละเอียด 1,440 x 2,560 พิกเซล, ความหน่าแน่นของพิกเซล 538ppi; กระจกกันรอยแบบ Gorilla Glass 3
ชิปเซ็ต : Snapdragon 801, quad-core Krait 400 สปีด 2.5GHz, Adreno 330, 2/3GB RAM (เลือกได้ 2 ขนาด)
ระบบปฏิบัติการ : Android 4.4.2; Optimus UI
กล้อง : 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบลดภาพสั่นไหว OIS , laser autofocus กล้องหน้า 2.1 ล้านพิกเซล
ถ่ายวิดีโอ : ความละเอียด 2160p
แบตเตอรี่ : 3,000mAh
หน่วยความจำ : 16GB/32GB (มีให้เลือก 2 ขนาด) ; เพิ่ม microSD ได้
การเชื่อมต่อ : รองรับ 4G Cat. 4 LTE (150Mbps down, 50Mbps up), Wi-Fi a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0
มี 5 สี : ขาว Silk White, ทอง Shine Gold, ม่วง Moon Violet, แดง Burgundy Red และ ดำ Metallic Black

 

LG G3 จะเริ่มวางขายพรุ่งนี้ในเกาหลีใต้ก่อนเป็นที่แรก ส่วนอีก 170 ประเทศทั่วโลกจะเริ่มทยอยวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ ส่วนราคายังไม่เปิดเผยซะงั้น…

 

Source : Geeky Gadgets, gsmarena

 

เปิดตัว Asus FonePad 7 รุ่นราคาประหยัด แค่ 4 พัน กว่าๆ ก็เอาอยู่

 

fonepad-7

 

Asus เปิดตัวแท็บเล็ตขนาด 7 นิ้ว รุ่นใหม่ โดยจับ Asus FonePad 7 มาปัดฝุ่นใหม่อีกครั้ง ให้มีราคาถูกลงและยังคงใช้ชื่อเดิม แต่รหัสรุ่นเปลี่ยนเป็น FE170CG สำหรับสิ่งที่เป็นจุดเด่นเพิ่มขึ้นมาคือ ดีไซน์ที่บางกว่าเดิม และราคาที่น่าสนใจประมาณ $137 เหรียญ หรือ 4 พันกว่าบาท โดยเปิดตัวที่แรกในประเทศฟิลิปปินส์

 

แน่นอนว่าการที่ทำให้เครื่องถูกลงนั้น ก็จะต้องแลกกับสเปกที่ถูกลดลงไปด้วย โดยหน้าจอจากเดิมที่เป็นระดับ WXGA กลายเป็น WSVGA, ส่วนหน่วยความจำในตัวเครื่องจากเดิม 8 GB ก็เหลือแค่ 4 GB และกล้องจากเดิมก็ไม่ได้มากอยู่แล้ว 5 พิกเซล เหลือเพียง 2 ล้านพิกเซล

 

สำหรับซีพียูมาพร้อม Intel Atom Z2560 1.6GHz, หน้าจอ 7 นิ้ว, แรม 1 GB, แบตเตอรี่ 3,950 mAh รันบนระบบปฏิบัติการ Android 4.2 Jelly Bean

 

Source : geeky-gadgets

 

Facebook เตรียมให้ร้านอาหารสร้างเมนูได้บนหน้า Fanpage

 

Facebook_menus

 

ในเมื่อ Facebook เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของมวลมนุษยชาติไปแล้ว แน่นอนว่าย่อมกลายเป็นช่องทางการธุรกิจให้กับบรรดาร้านค้า กิจการต่างๆ มากมาย จนเกิดเป็น Fanpage ที่เจ้าของธุรกิจสามารถสร้างไว้เป็นช่องทางหนึ่งในการสื่อสารกับลูกค้า

 

ล่าสุด Facebook กำลังจะเปิดฟีเจอร์ใหม่บน Fanpage สำหรับเจ้าของร้านอาหารโดยเฉพาะ ให้สามารถเพิ่มเมนูหรือรายการอาหารแนะนำลงใน Fanpage ได้ ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานได้ในวันพฤหัสหน้านี้ (29 พ.ค. 57)

 

ฟีเจอร์นี้จะทำให้เจ้าของร้านสามารถโพสต์เมนูพร้อมกับรูปอาหารลงไปในหน้า Fanpage ได้ เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าชมก่อนล่วงหน้า โดยฟีเจอร์นี้ถือว่าเป็นการปูทางของ Facebook ที่จะเปิดบริการให้สั่งอาหารโดยตรงได้ในอนาคต

 

สำหรับการเพิ่มเมนูลงในหน้า Fanpage นั่น จะต้องทำผ่านแพลทฟอร์ม SinglePlatform ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวมรายการร้านค้าและบริการที่น่าเชื่อถือ แต่ยังให้บริการเฉพาะในอเมริกาและแคนาดาเท่านั้น สำหรับประเทศอื่นๆ นอกเหนือจากนี้จะทำได้แค่การอัพโหลดไฟล์ PDF ขึ้นไปยังหน้า Page Info เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าบริการนี้จะยังไม่สามารถให้ผู้ใช้สั่งอาหารได้โดยตรง แต่ในอนาคตก็ไม่ยากที่จะทำได้ เพราะเมื่อปีที่แล้ว Facebook ยังเคยเปิดบริการจองโต๊ะอาหาร ร่วมกับเว็บ OpenTable ในการจองโต๊ะอาหารโดยที่ไม่ต้องออกจากหน้า News Feeds ของ Facebook เลยด้วยซ้ำ
 
facebook-opentable-2-611x640

 
เห็นอย่างนี้แล้ว เจ้าของ Fanpage ร้านอาหารก็เตรียมปรับตัวใช้ Social Network ให้เป็นประโยชน์กับร้านของคุณไว้ให้ดีนะครับ ส่วนจะฟรีหรือเสียตังค์เพิ่มมั้ยนั้น คงต้องรอดูของจริงกันในสัปดาห์หน้า

 

Source : mashable, Facebook