News Update – Page 13

เปิดตัว Samsung Gear Live อีกหนึ่ง Android Wear จากงาน Google I/O

เผยโฉมตัวเป็นๆ เรียบร้อยแล้วกับ Samsung Gear Live อุปกรณ์สวมใส่หรือ Wearable Device ซึ่งเป็น Smartwatch ตัวล่าสุดที่รันบนระบบปฏิบัติการ Android Wear ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุดสำหรับติดตั้งลงในอุปกรณ์สวมใส่โดยเฉพาะ โดยเพิ่งเปิดตัวไปในงาน Google I/O นั่นเอง

โดย Samsung Gear Live ยังคงมาในดีไซน์เดียวกับ Galaxy Gear, Gear 2, Gear Neo แต่ต่างกันตรงที่ก่อนหน้านี้ Galaxy Gear ทั้งหลายจะรันบนระบบปฏิบัติการ Tizen และ Android เป็นหลัก ทั้งนี้ Gear Live ยังติดตั้งเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจมาให้ ส่วนซีพียูความเร็ว 1.2 GHz, Ram 512 MB, หน่วยความจำภายใน 4 GB, หน้าจอทัชสกรีน 1.63 นิ้ว Super AMOLED 320×320 พิกเซล แบตเตอรี่ 300 mAh (น้อยกว่า LG G Watch) รองรับ Bluetooth 4.0 ขนาด 37.9 x 56.4 x 8.9 มม. น้ำหนัก 59 กรัม

สำหรับฟีเจอร์การใช้งานยังคงทำได้เฉพาะฟีเจอร์หลักๆ ของระบบ Android Wear เช่น การนับก้าว, แสดงการพยากรณ์อากาศ และข้อมูลสำคัญจาก Google Now เป็นต้น ยังไม่เห็นว่าซัมซุงได้ใส่แอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมอะไรของตัวเองลงไปเหมือนอย่างรุ่นก่อนหน้านี้ แต่ Gear Live สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนที่รันบน Android 4.3 Jelly Bean ขึ้นไปได้ทุกรุ่น และน่าจะทุกยี่ห้อด้วยครับ

Samsung Gear Live มี 2 สี ให้เลือกคือ ดำ กับ ไวน์แดง โดยจะวางจำหน่ายพร้อมกับ LG G Watch ใน Google Play Store ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้ สนนราคา $199 เหรียญ หรือประมาณ 6,500 บาท

Source : Engadget, gsmarena, Techcrunch

เอปสันปูพรหมจัดเต็ม พรินเตอร์ติดแทงค์แท้ 12 รุ่น เสริมแคมเปญพรินเตอร์เก่าแลกใหม่ในราคาพิเศษ

เอปสันเปิดตัวพรินเตอร์ประเภท หมึกพิมพ์ความจุสูง (High Yield Printer) แบบปูพรหมจัดเต็มถึง 12 รุ่น หวังครองความเป็นผู้นำพรินเตอร์ติดแทงค์แท้ ที่ให้ความคุ้มค่า ใช้งานได้ยาวนาน ประหยัดต้นทุน โดยมีต้นทุนต่อหน้าอยู่ที่ 6 สตางค์ สำหรับพิมพ์ A4 ขาวดำ และ 11 สตางค์ สำหรับพิมพ์สี ซึ่งหมึกแท้ของเอปสันมีราคาเพียงขวดละ 250 บาท เท่านั้น

ทั้งนี้เอปสันได้เปิดตัวพรินเตอร์แท็งค์แท้เสริมไลน์ขึ้นอีก 4 รุ่น ทำให้มีแอลซีรี่ส์ในตลาดเมืองไทยถึง 12 รุ่นแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซิงเกิ้ลฟังก์ชั่น ทั้งขาวดำและสี เครื่องออลอินวันที่มีทั้งรุ่นที่สามารถเชื่อมต่อกับ Lan และ WiFi หรือทำงานกับสมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ได้ เครื่องสำหรับพิมพ์ภาพโดยเฉพาะ รวมไปถึงเครื่องที่สามารถรองรับการพิมพ์ งานขนาด A3+

สำหรับสินค้าใหม่ที่เปิดตัวครั้งนี้ ประกอบด้วย รุ่น L120 พรินเตอร์ซิงเกิ้ลฟังก์ชั่นขนาดกะทัดรัด เหมาะกับการ พิมพ์งานเอกสารโดยเฉพาะ สามารถรองรับปริมาณงานพิมพ์ต่อหมึกหนึ่งชุดได้มากถึง 4,000 แผ่น สำหรับการ พิมพ์ขาวดำ และ 6,500 แผ่น สำหรับการพิมพ์สี วางตลาดในราคา 3,990 บาท

รุ่น L555 เครื่องออลอินวันที่สามารถสั่งงานผ่านระบบ WiFi และสามารถสแกนและแฟกซ์ ผ่าน ADF สามารถ รองรับปริมาณงานพิมพ์ต่อหมึกหนึ่งชุดได้มากถึง 4,000 แผ่น สำหรับการพิมพ์ขาวดำ และ 6,500 แผ่น เปิดตัว ในราคา 9,490 บาท

รุ่น L1300 พรินเตอร์คุณภาพสูงสำหรับงานพิมพ์สี่สีขนาด A3+ เช่น งานแผนภูมิและตารางคำนวณ ตัวเครื่องมี ช่องหมึกดำสองช่อง ทำให้พิมพ์งานขาวดำได้มากถึง 7,100 แผ่น และพิมพ์สีได้ 5,700 แผ่น ด้วยหมึกหนึ่งชุด L1300 ยังสามารถ ใช้ได้กับกระดาษหลากหลายประเภท เปิดตัวที่ราคา 13,900 บาท

รุ่น L1800 พรินเตอร์โฟโต้ ระบบหมึกแท็งค์ 6 สี รองรับการพิมพ์แบบไร้ขอบ และการพิมพ์งานขนาด A3+ นอกจากนี้ยังสามารถพิมพ์งาน 4R ได้สูงสุดถึง 1,500 ภาพ ด้วยหมึกหนึ่งชุด ในต้นทุนต่อแผ่นเพียง 1.8 บาท เปิดตัวในราคา 18,900 บาท

นอกจากนี้เอปสันยังได้จัดแคมเปญ Epson L-Series Everywhere Saving ที่จะส่ง Epson Captain L & The Saving Gang โร้ดโชว์ไปพบลูกค้าทั่วประเทศ เพื่อให้คำแนะนำในการเลือกแอลซีรี่ส์ให้ตรงกับ งานและประเภทธุรกิจของลูกค้า ทั้งยังร่วมเล่นเกมส์และนำโปรโมชั่นพิเศษไปมอบให้ลูกค้าถึงมือ เช่น นำเครื่องเก่าแบรนด์ใดก็ได้มาแลกซื้อแอลซีรี่ส์เครื่องใหม่ในราคาพิเศษ (ส่วนลดสูงสุด 500 บ.) ณ รถกิจกรรมที่ไปโร้ดโชว์เท่านั้น โดยเฟสหนึ่งจะโร้ดโชว์ไปที่ภาคเหนือ และตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่าง 27 มิถุนายน ถึง 30 สิงหาคม เพื่อให้ลูกค้าได้ทดลองใช้เครื่องแอลซีรี่ส์รุ่นต่างๆ ในการพิมพ์งานที่ต้องการ รวมถึงกิจกรรมผ่านระบบโซเชียลมีเดียของเอปสัน โดยการถ่ายถอดคลิปวีดีโอบรรยากาศ ภายในงานและกิจกรรมพิมพ์ภาพผ่าน Instagram โดยใส่ #EpsonPrinstagram

LG G3 เผยราคาแล้ว 20,990 บ. ฟรีเคส Quick Circle และ Wireless Charger เปิดจองแล้ววันนี้

อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้านี้แล้วที่ LG G3 จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเมืองไทย แต่ยังไม่ทันเริ่มงานแถลงข่าว ที่จะมีในช่วงบ่ายของวันนี้ ก็มีโปรโมชั่น พร้อมราคาออกมาเรียบร้อยแล้ว โดย dtac Line Official ได้ส่งภาพโปรโมชั่นของ LG G3 มาให้ลูกค้าได้ทราบตั้งแต่เที่ยงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (15 มิ.ย. 57) โดยประกาศเปิดจองในช่วง Pre-Sale ในราคาเพียง 20,990 บ. สำหรับเครื่อง LG G3 สีทอง พร้อมของแถม 2 รายการคือเคส Quick Circle และที่ชาร์จไร้สาย Wireless Charger มูลค่ารวมกว่า 3,000 บ. ทั้งนี้พร้อมส่วนลดค่าแพ็กเกจ 50 และ ผ่อน 0% สูงสุด 10 เดือน ผ่านบัตรเครดิต KBank, KTC, BBL, Krungsri cards First Choice

โดยบนหน้าเว็บไซต์ dtac ระบุจะเริ่มส่งสินค้าได้ในวันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป

สำหรับค่ายอื่นๆ อย่าง Truemove H ก็มีการขึ้นรายละเอียดในหน้าเว็บแล้ว แต่ยังไม่ระบุราคาและโปรโมชั่น ส่วนฝั่ง AIS ยังไม่มีข้อมูลใดเกี่ยวกับ LG G3 ในขณะนี้ (10:30 น.)

ชมฟีเจอร์เด็ดของ LG G3
[youtube link=”http://youtu.be/_btdWhwH0wE” width=”590″ height=”315″]

LG G3 เผยราคาแล้ว 20,990 บ. ฟรีเคส Quick Circle และ Wireless Charger เปิดจองแล้ววันนี้

โดยบนหน้าเว็บไซต์ dtac ระบุจะเริ่มส่งสินค้าได้ในวันที่ 1 ก.ค. เป็นต้นไป

ชมฟีเจอร์เด็ดของ LG G3
[youtube link=”http://youtu.be/_btdWhwH0wE” width=”590″ height=”315″]

เปิดตัวแล้ว Samsung Galaxy Tab S 10.5 และ Galaxy Tab S 8.4 แท็บเล็ตตระกูลสลิม

เปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับแท็บเล็ตซีรีส์ใหม่จากซัมซุงในตระกูล Galaxy Tab S เมื่อเช้ามืดที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย โดยงานนี้จัดขึ้นภายใต้ชื่องาน SAMSUNG GALAXY PREMIERE 2014 ณ เมดิสัน สแควร์ การ์เด้น มหานครนิวยอร์ค

สำหรับ Samsung Galaxy Tab S ตระกูลใหม่นี้ มาพร้อมหน้าจอขนาดใหม่อีกแล้ว โดยมี 2 ขนาดให้เลือกคือ 10.5 นิ้ว และ 8.4 นิ้ว ซึ่งเน้นความบางเบาระดับ Ultra Slim ซึ่งน่าจะเป็นที่มาของชื่อ Tab S นั่นเอง นอกจากนี้ยังมาพร้อมหน้าจอแบบ Super AMOLED ความละเอียดระดับ WQHD (2560 x 1600 พิกเซล) ซึ่งถือว่ามีความละเอียดสูงมากบนหน้าจอแท็บเล็ต และมีความละเอียดของพิกเซลต่อตารางนิ้ว สำหรับรุ่น Galaxy Tab S 10.5 อยู่ที่ 288 ppi ส่วนรุ่น Galaxy Tab S 8.4 อยู่ที่ 359 ppi

สำหรับการใช้หน้าจอ Super AMOLED ที่ซัมซุงเลือกเป็นจุดเด่นมานานนั้น นอกจากจะเน้นความคอนทรานต์และให้ความอิ่มสีที่สูงแล้ว มันยังมาพร้อมความบางที่เหนือกว่า ซึ่งทำให้ Galaxy Tab s ทั้ง 2 รุ่นมีความบางเพียง 6.6 มม. (แต่แท็บเล็ต Sony Xperia Z2 ยังบางกว่า 0.2 มม. นะครับ) ส่วนน้ำหนักของรุ่น Galaxy Tab s 10.5 รุ่น WiFi หนัก 465 กรัม รุ่น LTE หนัก 467 กรัม และ Galaxy Tab s 8.4 รุ่น WiFi หนัก 294 กรัม รุ่น LTE หนัก 298 กรัม

ในส่วนของซีพียู ซัมซุงได้มีให้เลือก 2 รุ่นด้วยกันคือ
รุ่น Wi-Fi จะมาพร้อม ซีพียูของซัมซุง Exynos 5 Octa 8 คอร์ โดยภายในจะแบ่งเป็นซีพียู 4 คอร์ 2 ตัว โดยมีความเร็ว 1.3GHz Cortex-A7 และ 1.9GHz Cortex-A15
รุ่น LTE จะมาพร้อม ซีพียูของ Qualcomm Snapdragon 800 ความเร็ว 2.3GHz quad-core Krait 400
โดยทั้ง 2 รุ่นจะให้ Ram มา 3 GB

ส่วนกล้องหลังทั้ง 2 รุ่นมาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED สามารถบันทึกวีดีโอได้ในระดับ Full HD 1080p และกล้องหน้าให้มา 2.1 ล้านพิกเซล สำหรับหน่วยความจำในตัวมีให้เลือก 2 ขนาดคือ 16 GB กับ 32 GB แต่สามารถเพิ่ม Micro SD ได้สูงสุด 128 GB, แบตเตอรี่ในรุ่นหน้าจอ 10.5 นิ้ว มีความจุ 7,900mAh (ดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 11 ชม.) และรุ่นหน้าจอ 8.4 นิ้ว มีความจุ 4,900mAh (ดูวิดีโอได้ต่อเนื่อง 9 ชม.)

คุณสมบัติเด่นของ Galaxy Tab S
-มีเซ็นเซอร์ IR (อินฟราเรด) ในตัว ไว้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ
-มีเซ็นเซอร์ สแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home เหมือน Galaxy S5
-บอดี้ด้านหลังเป็นพลาสติกผิวสัมผัสคล้ายหนัง และขอบดีไซน์เป็นเมทัลลิคคล้าย S5
-มาพร้อมอินเทอร์เฟสล่าสุด Samsung’s Magazine UX
-รันบน Android 4.4 Kitkat
-มี 2 สีให้เลือก ขาว, ไทเทเนี่ยมบลอน
-รองรับ Multi Windows
-SideSync 3.0 เชื่อมต่อการใช้งานร่วมกันระหว่าง Tab S กับ Galaxy Smartphone เช่น แสดงผลหน้าจอมือถือบนแท็บเล็ตได้, ก็อปปี้ข้อมูล หรือใช้ Tab S รับสายจากมือถือแทนกันได้
-มีแอพและเกมให้โหลดฟรีๆ มากมาย ใน Galaxy Gifts รวมถึงแอพ Papergarden ที่เพิ่มขึ้นมาใหม่ไว้สำหรับดูแมกกาซีนแบบอินเตอร์แอคทีพโต้ตอบได้ ด้วยภาพที่คมชัดรองรับกับหน้าจอ SuperAMOLED โดยเฉพาะ (บางแอพรองรับในอเมริกาเท่านั้น)

สนนราคา เริ่มที่
$399 เหรียญสหรัฐ รุ่น Galaxy Tab S 8.4 WiFi 16 GB
$499 เหรียญสหรัฐ รุ่น Galaxy Tab S 10.5 WiFi 16 GB

สำหรับการวางจำหน่ายในเมืองไทย ตอนนี้บนหน้าเว็บ TruemoveH ได้ขึ้นข้อมูลให้เตรียมพบกับ Galaxy Tab S เร็วๆนี้ แล้ว

Source : Samsung US

iTunes App Store จัดเช็ตรวมแอพ Football Fever รับกระแส FIFA World Cup 2014

เริ่มแล้ววันนี้กับมหกรรมฟุตบอลโลก หรือ FIFA World Cup 2014 ที่ประเทศบราซิล โดยงานนี้ Apple ก็ได้จัดเซ็ตรวมแอพเพื่อคอบอลด้วยเฉพาะบน iTunes App Store ในส่วนของ Football Fever

โดยได้รวบรวมสารพัดแอพ ทั้งแอพรายงานข่าว, แอพรายงานผลคะแนน, แอพชมการแข่งขัน, รวมถึงเกมที่เกี่ยวข้องกับฟุตบอลโลก เอาไว้ให้สาวกได้โหลดกันง่ายๆ แต่บางแอพอาจจะไม่สามารถใช้งานในเมืองไทยได้นะครับ ยังไงลองดูบทความที่เราได้แนะนำไว้ ว่าแอพตัวไหนเจ๋งและใช้งานได้ดี [รวมแอพ ฟุตบอลโลก 2014 FIFA WORLD CUP ที่ต้องมีติดเครื่องไว้ (ไม่กากแน่นอน)]

นอกจากนี้ยังได้รวบรวมแอพที่เกี่ยวข้องกับประเทศบราซิล ไว้ในส่วนของ Dicover Brazil ที่เป็นแอพเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว, รถ Taxi, ร้านอาหารในบราซิลโดยเฉพาะ และยังมีส่วนของหนังสือ เพลง และหนังที่เกี่ยวข้องมาให้เลือกเพิ่มเติมได้อีกด้วย

Source : Apple App Store

[รีวิวย่อ] AIS 3G2100 เปิดให้ดูฟุตบอลโลกสดๆ ฟรี ครบทั้ง 64 แมทช์บนมือถือ ผ่านแอพ AIS ON AIR

ลูกค้า AIS 3G2100 ได้เฮ เมื่อ AIS ประกาศให้ลูกค้าสามารถดูการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกผ่านมือถือได้ครบทั้ง 64 แมทช์ ฟรี!!! โดยในฐานะที่ เอไอเอส 3G 2100 ได้รับลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกบนมือถือรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ร่วมกับ บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) ผู้ถือสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 อย่างเป็นทางการ จึงให้ลูกค้าสามารถรับชมผ่านแอพพลิเคชั่นใหม่ “AIS ON AIR” โดยไม่ต้องจ่ายเพิ่ม เพียงมีแพ็กเกจดาต้า 199 บาทขึ้นไป ก็สามารถรับชมได้ด้วยความคมชัดระดับ HD

ผู้ที่มีสิทธิรับชม
• เพียงมีแพ็กเกจดาต้า 199 บาทขึ้นไป จากนั้น ดาวน์โหลดแอพฯ “AIS ON AIR” มาไว้บนมือถือ รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS (ยังหาไม่เจอบน itunes Store) และ Andriod
• หรือกด *914# โทรออก เพื่อเข้าสู่หน้าลิงค์ดาวน์โหลดแอพ
เริ่มดาวน์โหลดได้แล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

คุณสมบัติเด่นของแอพ AIS ON AIR

• ชมการแข่งขันย้อนหลัง

• อัพเดทรายงานผลสดทันทีที่มีการทำประตู

• คลิปเด็ดไฮไลท์การแข่งขัน

• คลิปการทำประตูย้อนหลัง

• อัพเดทโปรแกรมการแข่งขัน

• สรุปผลการแข่งขัน

• อัพเดทข่าวสารความเคลื่อนไหวตลอดการแข่งขัน

รีวิวย่อ

จากการได้ทดลองชมการถ่ายทอดสด ต้องบอกว่าแอพนี้จะใช้ดูได้เมื่อเชื่อมต่อผ่าน 3G เท่านั้น หากเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi จะไม่สามารถดูได้ ส่วนความคมชัดอาจจะยังไม่ค่อยชัดแบบ HD เท่าไร แม้ว่าจะเลือกความละเอียดสูงสุดแล้วก็ตาม ยังคงมีภาพเยลลี่แตกๆ ปรากกฎตามโลโก้ หรือเวลาที่นักบอลเคลื่อนไหวเร็วๆ และมีกระตุ้กค้างบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนระบบเสียงคมชัดดีทั้งเสียงไทยและเสียงอังกฤษ

ปล. ทดสอบจากซิม AIS 3G2100 รายเดือน แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตไม่จำกัด

และนี่คงเป็นอีกหนึ่งช่องทางการรับชมที่สะดวกยิ่งขึ้น เพราะไม่ว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถชมบอลโลกได้แล้วล่ะครับ แค่ขอให้มีสัญญาณ 3G เข้าถึงก็เป็นพอ แอบคิดไปสำหรับใครที่ใช้มือถือที่รองรับการต่อหน้าจอออกไปยัง TV ได้แล้วล่ะก็ งานนี้ก็ไม่ต้องติดกล่องจานดาวเทียมให้ยุ่งยากแล้ว แต่ไม่รู้ว่าแอพพลิเคชั่นนี้จะรองรับหรือป้องกันการเชื่อมต่อแบบนี้ไว้รึเปล่า เดี๋ยวผมจะกลับไปทดลองดูนะครับ ได้ผลยังไงจะแจ้งมาให้ทราบกัน

หลังจากยุ่งๆ เพิ่งได้กลับไปลองต่อออก TV ผ่านสาย HML ไปเข้าพอร์ต HDMI ของทีวี ผลปรากฎว่า AIS ล็อกไม่ยอมให้แสดงภาพไปยัง TV ได้นะครับ จะมีแต่เสียงที่ออกไปได้ จบข่าว…

Source : Email PR AIS

iTunes App Store จัดเช็ตรวมแอพ Football Fever รับกระแส FIFA World Cup 2014

Source : Apple App Store

เตรียมพบกับการเปิดตัวของ LG G3 ในเมืองไทย กลางเดือนนี้

มาเร็วเกินคาดกับการเปิดตัว LG G3 สมาร์ทโฟนเรือธงจาก LG ที่หลายคนต่างรอคอย โดยงานนี้พี่น้องชาวไทย เตรียมพบกับ LG G3 ได้ในเร็วๆ นี้ ซึ่งจะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย วันจันทร์ที่ 16 มิถุนายน นี้

ทีมงาน OopsMobile ได้รับหมายเชิญงานเปิดตัว LG G3 ที่จะจัดขึ้นในวันดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ส่วนสถานที่และเวลาขออุบไว้ก่อน ไว้ต้นสัปดาห์หน้าเราจะมารายงานสดให้ชมกัน ติดตามกันได้ทาง Twitter @Oops_Mobile

ทรูวิชั่น ดูบอลโลกได้แล้ว ฟรีทุกแพ็กเกจ ครบ 64 แมทช์

เย้…และแล้วใครที่ติดทรูวิชั่น ก็ไม่ต้องซื้อกล่อง RS Sunbox มาติดเพิ่มให้เต็มบ้านเข้าไปอีก เพราะทรูวิชั่น ได้ประกาศแล้วว่า จะถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 ฟีฟ่า เวิลด์คัพ บราซิล หรือฟุตบอลโลก 2014 ให้กับสมาชิกทรูวิชั่นทุกแพ็กเกจ ได้รับชมฟรี ซึ่งมีจำนวน 2.4 ล้านราย โดยเริ่ม 12 มิ.ย.-13 ก.ค.นี้
โดยจะเริ่มถ่ายทอดสดตั้งแต่พิธีเปิดจนถึงรอบชิงชนะเลิศรวมทั้งสิ้น 64 แมทช์ สำหรับสมาชิกแพ็กเกจ แพลทินัมเอชดี โกลด์เอชดี ซูเปอร์แฟมิลี่ พร้อมทั้งลูกค้าทรูคอนเวอร์เจนซ์ สุขx2 และสุขx3 ที่มีแพ็กเกจทรูวิชั่นส์ รับชมในระบบเอชดี ทางช่อง 668 ในระบบเอชดี (สำหรับกล่องรับสัญญาณรุ่นเอชดี)

ส่วนระบบความคมชัดปกติ รับชมทางช่อง 99 (สำหรับกล่องรับสัญญาณรุ่นปกติ) หากสมาชิกไม่มี 2 ช่องดังกล่าว สามารถอัพเกรดเป็นสมาชิกทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป เพื่อการรับชมที่มีคุณภาพ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม ด้วยการส่ง SMS พิมพ์ OK (วรรค) หมายเลขสมาชิก หรือหมายเลขสมาร์ทการ์ด ส่งมาที่ 4827370 หรือ โทร 0-2725-2727 กด 3

งานนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะมีจอดำให้เป็นดราม่ากันอีกต่อไป จบนะ…

Source : กรุงเทพธุรกิจ