Kairos นาฬิกาอัจฉริยะ Mechanical Smart Watch Hybrid รองรับทั้ง iOS, Android และ Windows Phone

 

watch_large_noReflection_msw_black_05

 

ไม่ลงไม่รอมันแล้วนะ iWatch ที่ลือกันอยู่นั่นแหละ… ก็ในเมื่อมีผู้ผลิตนาฬิกาอัจฉริยะอย่าง Kairos ที่นำระบบนาฬิกาแบบแมคานิค (แบบเข็ม) มารวมกับ Smart Watch เข้าไว้ด้วยกัน จนกลายเป็นนาฬิกาอัจฉริยะลูกผสม หรือ Hybrid ซึ่งจะออกมาให้เราได้สัมผัสจริงในอีกไม่นานนี้

 

ความสามารถของเจ้า Kairos เรือนนี้ นอกจากจะเป็นนาฬิกาแบบเข็มสุดหรูแล้ว มันยังมาพร้อมหน้าปัดแสดงผล แบบโปร่งใส่ Transparent OLED (TOLED) ซึ่งเวลามีการแจ้งเตือนต่างๆ เข้ามาก็จะแสดงผลบนหน้าจอ ให้เห็นซ้อนบนหน้าปัดนาฬิกาขึ้นมาอย่างชัดเจน โดยสามารถแจ้งเตือนสายเข้า, อีเมล์, Line, Twitter, Facebook ฯลฯ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นรีโมทควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เปิด-ปิดเพลงบนมือถือ, แสดงข้อมูลฟิตเนส, เป็นนาฬิกาจับเวลาดิจิตอล และ มี GPS ไว้เทียบตำแหน่งเพื่อระบุเวลาได้ทั่วโลก

watch_large_noReflection_ssw_black_03 watch_large_noReflection_ssw_chrome_05

 

watch_large_noReflection_ssw_gold_01 watch_large_noReflection_msw_chrome_05

 

Kairos มาพร้อม 2 โมเดลให้เลือกระหว่าง MSW 115 ที่มาพร้อมระบบกลไกขับเคลื่อน Miyota Japanese Movement ส่วนรุ่น SSW 158 จะขับเคลื่อนด้วยกลไล SWISS Movement จาก SOPROD ที่มีชื่อเสียงที่น่าเชื่อถือ โดยทั้ง 2 รุ่น เป็นตัวเรือนแบบสเแตนเลสสตีล ใช้สายหนัง และหน้าปัดเป็นคริสตัลแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน

watch_large_noReflection_msw_all
MSW 115 Model

 

SSW 158
SSW 158

 

จุดเด่นอีกอย่างของ Kairos ก็คือแบตเตอรี่ที่สามารถรองรับการทำงานของระบบ Smart Watch ได้นาน 5-7 วัน (รองรับส่วนของนาฬิกาแมคานิคได้ 42 ชั่งโมง) โดยให้แบตเตอรี่มาในตัว 180 mAh ชาร์จผ่านคอนเน็คเตอร์แบบแม่เหล็กด้วยสาย USB ซึ่งเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานก็เพราะว่าไม่ต้องใช้หน้าจอในการแสดงผลนาฬิกาเหมือน Smart Watch รุ่นอื่นๆ ดังนั้นมันจะใช้พลังงานจากแบตฯ ก็ต่อเมื่อมีการแสดงผลบนหน้าจอจากการแจ้งเตือนต่างๆ เท่านั้น

watch_large_noReflection_msw_chrome_02

 

สำหรับหน่วยประมวลผลก็มาพร้อม Arm Cortex M4 หรือ Intel (มี 2 รุ่นให้เลือก) ส่วนระบบปฏิบัติการก็จะมี Android Wear OS กับที่เป็นออปชั่นคือใช้ระบบปฏิบัติการ Kairos OS (ใช้ได้กับ IOS, Android และ Windows Phone) พร้อมด้วยเซนเซอร์ Touch sensor, 3 axis accelerometer และ Gyroscope

 

[youtube link=”http://youtu.be/ndycU_dUHNQ” width=”590″ height=”315″]

 

ในขณะนี้ นาฬิกา Kairos กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต ซึ่งจะวางจำหน่ายในเร็วๆ นี้ และเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าแล้วผ่านหน้าเว็บไซต์ Kairoswatches ทั้งนี้ยังมีบริการให้อัพเกรดรุ่นใหม่ได้อีกด้วย โดยเสียค่าบริการเพียง $99 เหรียญเป็นอย่างต่ำ

 

นาฬิกา Kairos สนนราคาเริ่มต้นที่ $499 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 16,000 บาท จนถึง $1,199 ประมาณ 38,900 บาท

 

Source : gizmag

 

เพิ่มความจุให้ Macbook แบบง่ายๆ ฟรุ้งฟริ้ง สุดติ่งกระดิ่งแมว ด้วย Transcend JetDrive Lite

 

เป็นที่ทราบกันดีว่าการที่จะเพิ่มเนื้อที่เก็บข้อมูลในภายหลังบน Macbook Air นั้นเป็นเรื่องยาก ส่วน Macbook Pro ก็ทำได้แต่อาจจะมีราคาสูงจนรับไม่ไหว งานนี้เรามีวิธีการเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลบนเครื่อง Macbook ที่ง่าย โดยไม่ต้องต่อพ่วงฮาร์ดดิสก์ภายนอกที่ดูรุงรังและใช้งานไม่สะดวก

 

jetdrive-lite-review-4

เครดิต ภาพ : gizmag

 

นี่เลยครับ แฟลชไดรฟ์ JetDrive Lite ยี่ห้อ Transcend ซึ่งเป็น SD Card ที่ออกแบบให้มีขนาดพอดีกับช่องเสียบ SD Card บนเครื่อง Mac แต่ละรุ่น ถามว่าพอดียังไงน่ะเหรอ? ก็ตรงความลึกของตัวการ์ดที่เวลาเสียบลงไปแล้ว จะไม่มีส่วนใดยื่นออกมาให้ดูเกะกะ เพราะมันจะเรียบเนียนไปกับตัวเครื่อง Mac ของเรา จนดูเหมือนเป็นฝาปิดช่องเสียบ SD Card กันฝุ่นไปในตัว สะดวกใช้งานเป็นอย่างมาก คือเสียบไว้ตลอดโดยไม่ต้องถอดออกเลยก็ได้ เพราะไม่ต้องกลัวว่ามันจะหักหรือหลุดออกเวลาพกพาไปไหน

banner04

 

JetDrive Lite มี 2 ความจุให้เลือก คือ 64 GB กับ 128 GB โดยมาพร้อมกับสปีดในการเขียนข้อมูลที่ 60 MB/วินาที และอ่านข้อมูลที่ 95 MB/วินาที เหมาะสำหรับการแบ็คอัพข้อมูลในฟังก์ชั่น Time Machine ได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น หากส่งสัยว่า 128 GB จะพอกับการใช้งานมั้ย ขอบอกว่ามันสามารถเก็บไฟล์เพลงมากถึง 32,000 เพลง หรือ 1920 นาที แต่ถ้าเป็นรูปภาพก็เก็บได้ประมาณ 62,000 รูปได้เลยทีเดียว

banner03

ทั้งนี้ยังออกแบบให้กันน้ำได้อีกด้วย แต่เฉพาะตัวการ์ดนะครับ ไม่ใช่เอาเครื่อง Mac ไปโดนน้ำด้วยล่ะ 5555

banner06

 

JetDrive Lite ออกแบบให้รองรับกับ Macbook แถบทุกรุ่น ซึ่งเวลาจะเลือกซื้อจะต้องระบุรุ่นให้ตรงกันนะครับ เพราะความลึกของช่องเสียบ SD Card ของเครื่อง Mac แต่ละรุ่นไม่เท่ากัน

banner07
[youtube link=”http://youtu.be/j35ydHqCK-4″ width=”590″ height=”315″]

 

สำหรับราคา 64 GB อยู่ที่ $39.99 (ประมาณ 1,299 บ.) และ 128 GB อยู่ที่ $79.99 (ประมาณ 2,600 บ.) อ้างอิงราคาจาก Amazon

 
Source : Transcend-info

 

LG เปิดตัว Lifeband Touch บันทึกทุกกิจกรรมสำหรับคนรักสุขภาพ รองรับทั้ง iOS และ Android

 

LG-LifeBand-Fitness-Tracker

 

ได้เวลา LG เปิดตัวอุปกรณ์ Wearable มาแข่งกับเค้าแล้วนะ กับ LG Lifeband Touch อุปกรณ์สวมใส่ที่ข้อมือเพื่อเก็บบันทึกกิจกรรมต่างๆ ของเราไว้เป็นสถิติการเผาผลาญแคลอรี่ในแต่ละวัน

 

LG Lifeband Touch จะเป็นผู้ตามติดกิจกรรม Fitness ของเรา โดยมันสามารถแสดงระดับความเร็วในการวิ่ง, ระยะทางที่วิ่ง และจำนวนก้าวเดินทั้งหมด โดยภายในจะมาพร้อมเซนเซอร์วัดระดับความสูง และไจโรสโคป โดยสามารถซิงค์ข้อมูลต่างๆ ไปยังสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ร่วมกับแอพพลิเคชั่น Fitness ต่างๆ ได้ ที่สำคัญมันสามารถรองรับได้ทั้ง iOS และ Android โดยไม่ผูกกับยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่ง เหมือนซัมซุง

[youtube link=”http://youtu.be/UVb7WEsAR7c” width=”590″ height=”315″]

 

ในส่วนของการใช้ควบคุม สามารถแจ้งเตือนสายเข้าหรือมี SMS เข้ามา และควบคุมการเล่นเพลงบนสมาร์ทโฟนได้โดยตรง

 

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกตัวที่ออกมาพร้อมกันคือ Heart Rate Monitor Earphones ที่เป็นหูฟังซึ่งมาพร้อมระบบวัดอัตราการเต้นหัวใจในตัว โดยสามารถซิงค์ข้อมูลผ่านบลูทูธไปยังสมาร์ทโฟนหรือ Lifeband Touch โดยอัตโนมัติได้อีกด้วย ฟังเพลงไปด้วยก็สามารถรู้ระดับ Heart Rate ของเราไปด้วยระหว่างเวลาที่ออกกำลังกาย

fr74-medium01

 

HRM---display

และ LG ยังได้เตรียมแอพ LG Fitness ไว้รองรับการใช้งานโดยเฉพาะอีกด้วย โหลดฟรีทั้ง Android และ iOS อีกทั้งยังสามารถใช้งานร่วมกับแอพฟิตเนสยอดนิยมอื่นๆ อย่าง MyFitnessPal®, RunKeeper® และอีกมากมาย

FB84---COMPATIBILITY

LG Lifeband Touch มาพร้อมหน้าจอ OLED ระบบสัมผัส และมี GPS ในตัว สนนราคา $149.99 เหรียญ วางจำหน่ายแล้วในสหรัฐ ส่วนประเทศอื่นๆ ยังไม่มีรายละเอียด

 

Heart Rate Monitor Earphone สนนราคา $179.99 เหรียญ

 

Source : LG

 

Ride Scoozy จักรยานไฟฟ้าสุดฮิพ มาพร้อมระบบ Cruise Control

ride_scoozy_02
มาเอาใจคนรักจักรยานกันบ้าง แต่เอไม่รู้ว่าจะถูกใจรึเปล่านะ เพราะนี่คือจักรยานไฟฟ้า Ride Scoozy ที่อาจจะทำให้นักปั่น ไม่ต้องปั่นอีกต่อไป จะว่าไปแล้วจักรยานไฟฟ้าก็ไม่ใช่ของแปลกใหม่อะไร แต่ที่เราหยิบยกขึ้นมาพูดถึงก็เพราะว่าโปรเจคนี้เป็นโปรเจค Start Up ของ Jason Habeger ที่ได้ออกแบบและเปิดให้ผู้สนใจสามารถพรีออเดอร์ไว้ก่อนได้ ซึ่งโมเดิลแบบนี้กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับนักสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ได้มีโอกาสสานฝันของตัวเองให้ประสบความสำเร็จ
ride_scoozy_05

 

สำหรับเจ้า Ride Scoozy นี้ จะเป็นจักรยานไฟฟ้า ที่มาพร้อมระบบ Cruise Control หรือระบบตั้งสปีดความเร็วคงที่โดยที่เราไม่ต้องปิดคันเร่ง โดยสามารถทำความเร็วได้ 18-20 ไมล์ต่อชั่วโมง และสามารถขับขี่ได้ไกลถึง 20-25 ไมล์ โดยไม่ต้องปั่น ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง

 

Ride Scoozy มี 2 รุ่นให้เลือก คือรุ่น Original ที่มาพร้อมกำลังวัตต์ 350 วัตต์ และรุ่น Heavy Duty 500 วัตต์ ใครอยากได้ความเร็วมากหรือน้อยก็เลือกได้ตามกำลังวัตต์เอาเลย
ride_scoozy_01

 

สำหรับรุ่น Original สนนราคาที่ $1299 มีให้เลือก 2 ขนาด M,L
ride_scoozy_03

 

ส่วนรุ่น Heavy Duty สนนราคาที่ $1399 มีให้เลือก 2 ขนาด M,L
ride_scoozy_04

 

สำหรับแบตเตอรี่ที่มาพร้อมกับตัวจักรยานนั้น สามารถถอดออกได้ เพื่อป้องกันการถูกขโมย และสามารถนำไปเสียบชาร์จไฟในบ้านได้ง่ายดาย โดยเป็นแบตเตอรี่ ลิเธียมไอออนของซัมซุง ประเภทเดียวกับที่ใช้บนโน้ตบุ๊ค

ride_scoozy_06

 

 

หากใครที่กำลังมองหาพาหนะทางเลือกสำหรับยุคจราจรติดขัดแบบนี้ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ที่ช่วยคุณประหยัดเงินค่าน้ำมัน และประหยัดเวลาได้ โดยเริ่มสั่งจองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ และจะเริ่มจัดส่งให้ถึงมืออย่างเร็วสุดในเดือน สิงหาคมนี้ เฉพาะผู้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น น่าเสียดายที่ยังไม่มีบริการส่งต่างประเทศ

 

Source : Kickstarter

 

ใส่ Google Glass ออกรอบในสนามกอล์ฟ นี่แหละสวรรค์ของนักกอล์ฟตัวจริง

 

google_glass_golf_04

 

ถึงแม้ว่า Google Glass จะยังไม่ได้วางจำหน่ายทั่วไปอย่างเป็นทางการ แต่ทาง Google ก็แอบมีการไปออกบูตขาย Google Glass ในกิจกรรมพิเศษแบบ Exclusive เพื่อเข้าถึงลูกค้าให้ตรงกลุ่ม โดยล่าสุดมีงาน The Player’s Championship in Florida ซึ่งเป็นกอล์ฟทัวนาเม้นท์หนึ่งที่ให้ผู้เข้าร่วมได้ซื้อ Google Glass ได้ในราคา 1,500 US$ โดยเมื่อสวมใส่ Google Glass ในระหว่างตีกอล์ฟ ก็จะมีข้อมูลรายละเอียดของจุดต่างๆ ในสนามให้ผู้เล่นได้ทราบซึ่งเรียกว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์สำหรับนักกอล์ฟเป็นอย่างมาก ที่สามารถทราบข้อมูลรายละเอียดในจุดต่างๆ ของสนามได้ทันที

glassdisplay

 

ดูภาพจากมุมมอง Google Glass

google_glass_golf_02 google_glass_golf_03

google_glass_golf_05 google_glass_golf_01

google_glass_golf_06

ว่าไปแล้วดูเหมือนช่วงนี้เป็นการลองตลาดของ Google Glass และดู Feedback จากลูกค้าจริงว่าเป็นไงเสียมากกว่า ว่าแล้วก็อยากได้สักอันมาลองเล่นอย่างน้องซี เจ้าหญิงไอที บ้างไรบ้าง

 

Source : Engadget

 

GoPlug Charging Bag เป้ติดปลั๊ก พร้อมชาร์จไฟให้ทุกอุปกรณ์

Goplug-bag-02
เชื่อว่าใครที่พกสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตจะต้องเจอกับปัญหาแบตหมดในระหว่างวันอย่างแน่นอน ซึ่งวิธีแก้ไขง่ายๆ ก็คือพก Power Bank ติดตัวไปด้วย แต่ลำพังแค่ใช้ชาร์จสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตก็ไม่เท่าไร หากมีโน้ตบุ๊คมาด้วย แล้วต้องใช้งานระหว่างทางตลอดเวลา Power Bank คงจะช่วยอะไรไม่ได้ แต่ต่อไปนี้เราไม่ต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว เพราะ Mr.Josh Cross เจ้าของโปรเจ็ค GoPlug Bag ได้คิดค้นกระเป๋าเป้ที่มาพร้อมแบตเตอรี่สำรองในตัว สามารถชาร์จไฟให้กับสมาร์ทโฟนได้ถึง 6 ครั้ง หรือถ้าเป็นโน้ตบุ๊คหรือ แล็บท็อปก็สามารถต่ออายุการใช้งานได้อีก 2 รอบ ด้วยกัน

 

โดยเป้ใบนี้จะมีช่องเสียบปลั๊กมาให้ 1 ช่อง พร้อมกับพอร์ต USB สำหรับชาร์จสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้พร้อมกัน 2 พอร์ต นอกจากนี้ช่องเสียบปลั๊กที่ให้มานั้นสามารถรองรับการชาร์จโน้ตบุ๊ค หรือจะเอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่ของกล้องถ่ายรูปก็ได้ ที่สำคัญสามารถหมุนได้รอบ 360 องศา เพื่อความสะดวกเวลาชาร์จได้จากทั้งด้านในและด้านนอกกระเป๋า นอกจากนี้ยังมีปุ่มเพาเวอร์เปิดปิดมาให้ด้วย

 

Goplug-bag-01

 

สำหรับใครที่กังวลว่า เกิดแบกเป้ไปด้วยแล้วไฟจะช็อตรึเปล่า ไม่ต้องห่วงเพราะได้ออกแบบให้ปุ่มและซิบทั้งหมดกันน้ำ กันความชื้นได้ แต่คงไม่ถึงกับนำไปจุ่มในน้ำได้นะครับ

 

นอกจากกระเป๋าเป้แล้ว ยังมีกระเป๋าเดินทางแบบล้อเลื่อน กระเป๋ากล้อง กระเป๋าคอมแบบสะพานข้าง ชุด Mobile Kit สำหรับมือถือและแท็บเล็ต ให้เลือกหลายรูปแบบตามการใช้งานอีกด้วย

 

สำหรับกระเป๋าเป้ GoPlug มาพร้อมน้ำหนักประมาณ 1.94 กิโลกรัม รวมแบตเตอรี่แพ็คในตัวแล้ว ขนาดอยู่ที่ 18 x 15 x 7 นิ้ว รองรับการใส่แล็บเท็บขนาด 16 x 11.75 x 1.8 นิ้ว ตอนนี้ยังไม่มีวางจำหน่ายทั่วไป แต่สามารถสั่งจองล่วงหน้าได้ โดยจะได้รับของตามเวลาที่กำหนดในแต่ละรุ่น ตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป

Goplug-bag-03

 

ถือเป็นหนึ่งไอเดียที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนที่ต้องเดินทางนานๆ โดยไม่พลาดการติดต่อสื่อสารหรือทำให้งานต้องสะดุด ยิ่งยุคนี้เชื่อเหอะว่าในหนึ่งคน จะต้องพกอุปกรณ์มากกว่าสมาร์ทโฟนแค่ 1 ตัวเป็นแน่ ดังนั้นเป้ติดปลั๊กคงเป็นอะไรที่จำเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างแน่นอน

 

Source : GoPlug

 

Sony เปิดตัวกล้องมิเรอร์เลส a6000 ลงแอพแต่งรูปได้ ออโต้โฟกัสเร็วที่สุดในโลก

 

sony-a6000-02

 

วันนี้ OopsMobile ได้รับเกียรติเข้าร่วมงานเปิดตัวกล้อง Mirrorless รุ่นใหม่ล่าสุด α6000 (อัลฟ่า 6000) กล้องดิจิตอลแบบเปลี่ยนเลนส์ได้ที่เน้นพกพาง่าย แต่ได้ฟิลการใช้งานแบบมือถืออาชีพ โดยรุ่นนี้ได้พัฒนาให้โดดเด่นในเรื่องของการโฟกัสแบบ Hybrid AF ที่จับโฟกัสได้เร็วที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ เพียง 0.06 วินาที นอกจากนี้ยังสามารถโฟกัสได้ครอบคลุมพื้นที่ถึง 179 จุด

 

sony-a6000-01

 

 

และที่สำคัญกล้องตัวนีี้สามารถโหลดแอพพลิเคชั่นทั้งฟรีและเสียเงิน เพื่อใช้ในการแต่งรูปหรืออรรถประโยชน์ต่างๆ เพิ่มเติมได้ เช่น Photo Retouch แอพแต่งภาพ ปรับความสว่าง ความอิ่มสี หรือ คอนทราสต์, Time-lapse แอพสร้างภาพยนตร์แบบ Time-lapse ที่มักใช้เก็บภาพความเคลื่อนไหวของท้องฟ้าเหมือนในสารคดี เป็นต้น

 

และแน่นอนสำหรับการแชร์ภาพไปยัง สมาร์ทโฟนผ่าน NFC เพื่อโพสต์ไปยัง Social Network ต่างๆ หรือหากสมาร์ทโฟนไม่มี NFC ก็สามารถแชร์รูปผ่าน Wi-Fi กับกล้องได้โดยตรง (iPhone ต้องใช้วิธีนี้แทนเพราะไม่มี NFC) เพียงติดตั้งแอพ PlayMemories Mobile เอาไว้

 

CX77500_NFC_7123-1200

 

 

จุดเด่นของ Sony α6000

• เซ็นเซอร์รับภาพแบบ Exmor APS HD CMOS ขนาด 24.3 ล้านพิกเซล
• ระบบโฟกัสเร็วที่สุดในโลกแบบ Hybrid AF เพียง 0.06 วินาที
• ระบบโอโตโฟกัสแบบ Phase detection ที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างถึง 179 จุด
• ชิปประมวลผลใหม่ BIONZ X Processor
• หน้าจอ LCD ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 921,600 dots ปรับมุมขึ้นได้ 90 องศา และปรับมุมก้มลงได้ 45 องศา
• ขนาดเล็กกะทัดรัด น้ำหนักเบา มีีแฟลชในตัว และติดแฟลชภายนอกพอร์ต Hot shoe ได้
• มีช่องมองภาพแบบอิเล็กทรอนิกส์ OLED Tru-Finder ความละเอียดสูง
• รองรับการเชื่อมต่อ NFC และ Wi-Fi สำหรับแชร์ภาพให้สมาร์ทโฟน
• ใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมทควบคุมกล้องได้
• โหลดแอพพลิเคชั่นเพิ่มเติมได้ ปัจจุบันมีกว่า 24 แอพ

 

เริ่มวางจำหน่ายแล้ว มีให้เลือก 2 สี ดำ, เงินไททาเนียม

Body + Lens 16-50 mm มีสีดำและสีเงิน ราคา 27,990 บ.
Body + Lens 16-50 mm + 55-210 mm มีเฉพาะสีดำ ราคา 35,990 บ.

 

รอติดตามรีวิวเต็มๆ ได้ที่นี่ เร็วๆ นี้

CX77500_wSELP1650_front_top_silver-1200

CX77500_wSELP1650_front_top_black-1200

CX77500_LCS-EBC_7637-1200

CX75500_silver_lens_situation-1200

CX77500_Tiltable_LCD_7590-1200

 

กล้อง Lytro เปิดตัวรุ่นใหม่ Illum ถ่ายก่อนโฟกัสทีหลัง มันเทพมากพูดเลย!

3-Quarter-NEW

 

เห็นทีกระแสของการถ่ายก่อนแล้วโฟกัสทีหลังจะมาแรงขึ้นเรื่อยๆ หากใครจำได้ใน Nokia Lumia จะมีฟังก์ชั่น Refocus ที่สามารถถ่ายภาพก่อน แล้วเลือกจุดโฟกัสทีหลังได้ ตอนนี้มันถูกนำมาใส่บนกล้องดิจิตอลที่ใช้งานเพื่อถ่ายรูปแบบจริงจังแล้วน่ะสิ

 

โดยกล้อง Lytro เพิ่งเปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ในชื่อ Illum ที่มีความสามารถในการถ่ายภาพแล้วเลือกจุดโฟกัสที่ต้องการในภายหลัง โดยเราเพียงแค่จิ้มบนจุดที่ต้องการให้ภาพชัด ก็จะได้ภาพชัดลึกชัดตื่นตามที่ต้องการ นอกจากนี้ยังสามารถปรับมุม Perspective ได้อีกด้วย

 

ลองชมภาพตัวอย่างกันดูนะครับ แค่เอาเมาท์ลากผ่านจุดที่ต้องการโฟกัส

 

หลักการทำงานของมันคือ จะเก็บภาพและแสงทั้งหมดเอาไว้หลายจุด หลายภาพ เพื่อไว้แสดงผลตามจุดโฟกัสที่เราต้องการได้นั่นเอง

Open-Shut-Side_72dpi

RightOrtho

LeftOrthoNEW

กล้อง Lytro Illum วางจำหน่ายในราคา $1,599 หรือประมาณ 51,800 บ. ในเดือนกรกฎาคมนี้เริ่มที่สหรัฐอเมริกาก่อน และหากสั่งจองล่วงหน้าก่อน จะได้รับส่วนลดอีก $100 อีกด้วย ส่วนประเทศอื่นก็ต้องรอกันไปก่อน

 

Source : petapixel

 

VIRB Elite แอคชั่น คาเมร่า จัดเต็มสำหรับสาวกนักปั่น และกีฬาเอาท์ดอร์

 

VirbElite_HR_1389

การ์มิน แนะนำ แอคชั่น คาเมร่าความละเอียดสูง ที่ใช้เทคโนโลยีการบันทึกภาพแบบ HD 1080p ด้วยเซ็นเซอร์รับภาพแบบ CMOS ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติพิเศษมากมาย

• ปรับลดการสั่นสะเทือนของภาพ การลดความบิดเบี้ยวของภาพ จึงมั่นใจได้ว่าจะได้ภาพที่คมชัดสวยงามโดยไม่ต้องปรับแต่ง
• หน้าจอแสดงผลในตัวแบบ Chroma ขนาด 1.4 นิ้ว ที่มีความละเอียดสูง สามารถดูภาพที่บันทึกไว้ทั้งภาพถ่ายและวีดีโอได้สะดวก
• ให้มุมมองภาพที่หลากหลายจากการยึดติดกับอุปกรณ์เสริมในตำแหน่งต่างๆ
• บันทึกภาพได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ด้วยแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน 2000 mAh
• แข็งแรงทนทานและกันน้ำ สามารถต้านแรงดันน้ำได้ถึง 30 นาที ที่ระดับความลึก 1 เมตร (IPX7)
• มาพร้อม GPS ความไวสูงสำหรับบันทึกข้อมูลพิกัด
• มีเซนเซอร์วัดระดับ Accelerometer และเซนเซอร์วัดระดับความสูง barometric altimeter
• มี Wi-Fi สำหรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์เพื่อใช้ดูภาพหรือใช้มือถือเป็นรีโมทสั่งงาน
• สามารถสร้างคลิปวีดีโอด้วยการตัดต่อแบบง่ายๆ ด้วยตนเองผ่านแอพพลิเคชั่น VIRB Edit
• แชร์ภาพเหตุการณ์ประทับใจผ่านทางโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

 

072613_ROD_27980

 

สนนราคา VIRB Elite อยู่ที่ 14,900 บาท วางจำหน่ายแล้ว ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีและแกดเจ็ตทั่วประเทศ ห้างสรรพสินค้าและร้านจำหน่ายจักรยานชั้นนำ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Garmin Call Center 0-2266-9948

 

[youtube link=”http://youtu.be/F6CGI3XkAiQ” width=”590″ height=”315″]

 

081913_ROD_12066__1
ยึดติดกับจักรยานเพื่อเก็บภาพกิจกรรมต่างๆ ได้

 

VirbElite_HR_1625.1
มีหน้าจอแสดงผลในตัว 1.4 นิ้ว

 

VirbElite_HR_2333
ชุดขาตั้งยึดติดกับหมวกกันน็อค

 

Jabra เปิดตัวหูฟังไร้สาย Rox Wireless สุดยอดนวัตกรรมเปิดปิดบลูทูธด้วยแถบแม่เหล็ก

 

Jabra_Rox_Wireless_01

 

หากนึกถึงหูฟังบลูทูธ แน่นอนว่า Jabra ต้องเป็นแบรนด์ที่หลายคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ด้วยสินค้าที่มีนวัตกรรมและคุณภาพจากประเทศเดนมาร์ค ซึ่งเป็นประเทศที่รัฐบาลส่งเสริมให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมด้านระบบเสียงไร้สายโดยเฉพาะ

 

Jabra Rox Wireless ถือเป็นหนึ่งนวัตกรรมล่าสุดของหูฟังบลทูธ แบบ In Ear Stereo ที่เพิ่มความสะดวกในการเปิดปิดเครื่องด้วยแถบแม่เหล็ก เพียงแค่นำแถบด้านหลังหูฟังมาติดกัน ก็สามารถปิดเครื่องได้ทันที และหากดึงออกจากกันก็จะเปิดเครื่องอัตโนมัติ ทำให้ง่ายและสะดวกในการใช้งาน และไม่สูญเสียพลังงานไปโดยเปล่าประโยชน์จากการปิดเครื่องที่ยุ่งยากเหมือนก่อน
Jabra_Rox_Wireless_02

 

นอกจากนี้ยังมาพร้อม NFC เพื่อการเชื่อมต่อหรือ Pairing กับสมาร์ทโฟนต่างๆ โดยเฉพาะ Android ได้ด้วยการแตะที่ปุ่มรีโมท ไม่ต้องป้อนรหัสให้เสียเวลา ด้านระบบเสียงก็จัดเต็มมาด้วย High Definition Dolby กระหึมครบทุกรายละเอียด ผ่านระบบไร้สาย Bluetooth 4.0 ที่ให้คุณภาพเสียงถึง 99.99%

 

ด้านดีไซน์ผลิตด้วยโลหะและซิลิคอน มีน้ำหนักเบาเพียง 19 กรัม และยังใส่ใจในรายละเอียดสำหรับผู้ใช้ที่มีความแตกต่างด้วยการเตรียมยาง EarGel มาให้อีก 3 ขนาด พร้อมด้วย EarWing ที่ช่วยให้การสวมใส่กระชับยิ่งขึ้น และมาพร้อมคุณสมบัติกันละอองน้ำและฝุ่นที่ผ่านมาตรฐาน IP52

 

Jabra_Rox_Wireless_03

 

จุดเด่นของ Jabra Rox Wireless

• หูฟังบลูทูธสเตอริโอแบบ In ear

• ลำโพงขนาด 6 มม.

• รองรับความไวของเสียง 92 เดซิเบล ที่ 1 mW/1 kHz

• ตอบสนองความถี่เสียงตั้งแต่ 20 Hz – 20 kHz

• ระบบเสียง High Definition Dolby

• กันละอองน้ำและฝุ่นด้วยมาตรฐาน IP52

• มีไมโครโฟนในตัว พร้อมรีโมทควบคุมการเล่นเพลง และรับสาย

• รองรับการเชื่อมต่อได้ 8 อุปกรณ์ และสามารถใช้งานพร้อมกันได้ 2 อุปกรณ์แบบ Multiuse

• สนทนาต่อเนื่องได้ 5.5 ชั่วโมง

• สแตนบายได้ 8 วัน

• รองรับ NFC

• Bluetooth 4.0

• ขนาด 16.5x20x16  มม. น้ำหนัก 19 กรัม

• มี 2 สี ดำ และ ขาว (สีขาวจะนำเข้ามาจำหน่ายอีก 3 เดือน นับจากนี้)

• สนนราคา 3,790 บาท

 

วางจำหน่ายที่ Jaymart, iStudio, .Life, PowerMall, PowerBuy, TG Fone และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ