[พิสูจน์แล้วได้เงินจริง] Clashot เปลี่ยนภาพถ่ายบนมือถือให้เป็นเงิน

 

clashot-01-1

 

ก็ไม่รู้สินะ แค่อยากบอกว่า ถ่ายรูปเล่นๆ ก็ได้ตังค์!!! แค่โหลดแอพ Clashot แล้วโพสต์รูปจากมือถือ เหมือนที่ชอบทำกันเวลาเล่น Instagram หรือ Facebook แถมยังคอนเม้นต์ กดไลค์ ภาพของเพื่อนๆ กันได้อีกด้วย ที่สำคัญมันดีกว่าตรงที่ได้ตังค์เวลาคนมาซื้อรูปของเราเนี่ยแหละ

 

Clashot คืออะไร?

clashot-02
สำหรับในวงการสื่อหรือช่างภาพ คงจะรู้จักเว็บ Photo Stock กันเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเว็บที่ขายภาพลิขสิทธิ์ เพื่อนำไปใช้งานด้านสิ่งพิมพ์หรือเว็บไซต์ต่างๆ โดยจะมีช่างภาพจากทั่วโลกหรือสตูดิโอต่างๆ ส่งรูปขึ้นมาขายบนโลกออนไลน์ผ่านเว็บ Photo Stock ต่างๆ เช่น shutterstock, istockphoto, 123rf, เป็นต้น ดังนั้น Clashot ก็เป็นเหมือนกับ Photo Stock แต่ทำงานในรูปแบบของแอพพลิเคชั่น ที่ให้ผู้ใช้สมาร์ทโฟน ทั้ง iOS และ Android สามารถโพสต์รูปขายได้โดยตรง โดยไม่มีกฏเกณฑ์อะไรยุ่งยากเหมือนการขายภาพบนเว็บ และที่สำคัญ Clashot เป็นแพลตฟอร์มที่พัฒนามาจากเว็บ depositphotos.com ซึ่งเป็นเว็บ Photo Stock ที่ใหญ่ระดับโลกเช่นเดียวกัน

 

Clashot ได้ตังค์ยังไง

คำถามนี้เกิดขึ้นกับทุกคนที่เริ่มเล่นแอพนี้ อย่างที่บอกไว้ว่า Clashot เป็นแอพ Photo Stock ซึ่งพัฒนาให้มีรูปแบบการใช้งานคล้ายกับ Instagram โดยให้ผู้ใช้สามารถโพสต์รูปจากสมาร์ทโฟนทั้งที่มีอยู่แล้วในเครื่องหรือจะถ่ายใหม่ก็ได้ โดยการโพสต์รูปขึ้นไปนั้นจะเป็นไฟล์ขนาดจริง ตามความละเอียดของกล้อง เมื่อมีคนซื้อรูปเราไป เราก็จะได้ส่วนแบ่งจากการขายภาพนั้นทันที ซึ่งราคารูปที่ขายจะอยู่ที่ $0.99 เหรียญสหรัฐ แต่ส่วนแบ่งที่เราจะได้อยู่ที่ $0.44 เหรียญ หรือประมาณ 14 บาท ต่อครั้ง และหากรูปไหนได้รับ Expert Like ก็จะได้รับเงินอีก $0.10 เหรียญ ซึ่ง Expert Like คือใคร อะไรยังไง ผมเองก็ยังไม่ทราบ เพราะไม่มีรายละเอียดชี้แจงในเรื่องนี้ โดยผมเดาว่าน่าจะเป็นทีมงานของแอพนี้เองที่เข้ามากดไลค์เพื่อสร้างกำลังใจให้เราโพสต์รูปต่อไป (หาคำตอบมาให้แล้วนะครับ อ่านต่อด้านล่าง) แต่เอาเป็นว่าถ้ามีคนซื้อรูปเราก็จะได้ส่วนแบ่งแน่นอน จะมากหรือน้อยก็ว่ากันไป

clashot-03

 

Expert Like คืออะไร

จากที่ได้ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมมา Expert Like คือผู้ที่โพสต์รูปสวยๆ แล้วมีคนมาไลค์เป็นจำนวนมาก จนระบบส่งข้อความเชิญให้เป็น Clashot Expert โดยได้รับมงกุฏเป็นสัญลักษณ์ด้วย ซึ่งผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้ จะสามารถกด Like ภาพคนอื่นได้ไม่เกิน 5 ภาพต่อวัน และผู้ที่ถูกกด Like ก็จะได้รับเงินเป็นโบนัสพิเศษ อย่างน้อย $0.10 เหรียญ ซึ่งเงินดังกล่าวมาจากระบบที่จะมอบให้ผู้เป็น Clashot Expert เท่านั้น โดยจะแบ่งงบตามระดับดังนี้

• งบ $20 เพื่อนที่ถูกกด Expert Like จะได้ $0.10

• งบ $50 เพื่อนที่ถูกกด Expert Like จะได้ $0.20

• งบ $70 เพื่อนที่ถูกกด Expert Like จะได้ $0.25

 

โดยงบดังกล่าวผู้ที่เป็น Clashot Expert จะไม่สามารถโอนไปใช้เป็นเงินสดได้ แต่จะเอาไว้สำหรับแจกให้เพื่อนๆ เวลากด Expert Like เท่านั้น และเมื่อเงินหมดก็จะมีการเติมเงินให้ตามจำนวนที่ได้รับครั้งแรกโดยอัตโนมัติ

 

ข้อดีอีกอย่างของการได้เป็น Clashot Expert คือ เราจะได้สิทธิ์ในการใช้รูปที่เรากดไลค์ด้วยนั่นเอง ซึ่งก็เหมือนกับได้รูปมาใช้งานฟรี อิ อิ…



ขายรูปได้แล้ว จะรับเงินทางไหน
เมื่อเราขายรูปได้แล้ว จะสามารถรับเงินโดยการโอนเข้าบัญชี Paypal ซึ่งเป็นบัญชีออนไลน์ยอดนิยมที่ปลอดภัย และใช้กันทั่วโลก ดังนั้นเราจะต้องมีบัญชี Paypal เอาไว้ก่อน สมัครง่ายครับ เว็บมีภาษาไทยรองรับแล้ว โดย Clashot กำหนดยอดขั้นต่ำไว้ที่ $3 เหรียญถึงจะสามารถโอนเงินได้ และดำเนินการภายใน 7 วัน ซึ่งพูดเลยว่าถ้าโอนแค่ครั้งละ 3 เหรียญคงไม่ได้อะไรหรอกครับ รอให้ขายได้เป็นร้อยๆ เหรียญจะคุ้มกว่า เพราะถึงโอนเข้าบัญชี Paypal ไปแล้ว ถ้าจะถอนออกมาใช้ก็มีลิมิตขั้นต่ำในการถอนเงินจาก Paypal อีกคือ หากถอนไม่ถึง 5000 บาท จะมีค่าธรรมเนียม 50 บาท แต่ถ้าเกิน 5000 บาทขึ้นไป จะไม่มีค่าธรรมเนียม ฉะนั้นถ้าจะให้คุ้มก็ต้องรอรายได้ให้เยอะๆ หน่อย แล้วโอนเงินไปเก็บไว้ใน Paypal จนกว่าจะเกิน 5000 บาท แล้วค่อยถอนออกมาใช้กันนะครับ

Clashot-04

 

รูปอะไรที่ควรโพสต์ ให้ขายได้

จากที่ได้ลองเล่นมา 3-4 วัน รูปแรกที่ผมโพสต์คือรูปต้นสัปปะรดสี ซึ่งถ่ายแล้วไม่ได้ตกแต่งอะไรเลย กะว่าลองโพสต์ไปเล่นๆ ไม่ได้คาดหวังกับมันมาก ปรากฎว่าเป็นรูปแรกที่ขายได้ซะงั้น รูปอื่นที่ตั้งใจเลือก ตั้งใจถ่าย กลับขายไม่ออก 555 ฉะนั้นนี่คือความสนุกอีกอย่างของแอพนี้เลยล่ะครับ ส่วนใครที่ชอบโพสต์รูปตัวเอง ประหนึ่งคิดว่าแอพนี้เหมือนกับ Instagram ขอบอกว่าคุณมาผิดทางแล้วล่ะครับ เพราะมันไม่ใช่ โซเชียลเน็ตเวิร์คไว้เล่าเรื่องกิจกรรมส่วนตัว ซึ่งเพื่อนผมโพสต์แบบนี้ไปเป็น 100 รูปแล้ว ยังขายไม่ได้สักรูปเลย ฮา… ดังนั้นภาพที่ควรจะโพสต์เพื่อให้ขายได้คือ ภาพวิว, ดอกไว้, ต้นไม้, รูปปั้น, สถานที่ หรือสิ่งของต่างๆ รอบตัวเรา โดยเน้นที่วัตถุและวิวทิวทัศน์เป็นหลัก ซึ่งคนซื้อจะได้นำไปใช้งานได้นั่นเอง

clashot-04

 

วิธีการโพสต์รูป
วิธีโพสต์รูปก็ไม่ยากครับ มี 2 วิธีด้วยกันคือ
• แตะที่เมนู Wizard แล้วแตะปุ่ม + มุมบนขวา เพื่อถ่ายรูปจากกล้องหรือจะแตะเลือกรูปใน Camera Roll ก็ได้ จากนั้นก็ระบุชื่อภาพ (ควรเป็นภาษาอังกฤษ) พร้อมใส่ #hashTag ที่เกี่ยวข้อง เสร็จแล้วก็แตะปุ่ม Send
• หรืออีกวิธีให้แตะที่เมนู Camera แล้วถ่ายรูปจากกล้องหรือเลือกรูปจาก Camera Roll แล้วทำตามขั้นตอนเดียวกัน เพื่ออัพโหลดรูป

clashot-05

 

clashot-06

 

เมื่อรูปอัพโหลดเสร็จแล้วก็จะไปอยู่ในแท็บ Online ทั้งหมด

clashot-07

 

 

อยากดูรูปของคนอื่น กดไลค์ คอมเม้นท์ หรือสั่งซื้อรูป

Clashot ดีไซน์แอพให้ใช้งานคล้ายกับ Instagram โดยเราสามารถกดไลค์ คอมเม้นท์ รูปที่ชอบได้อีกด้วย โดยแตะที่เมนู Feed โดยจะมีแท็บ Friends คือแสดงไทม์ไลน์ของเพื่อนที่เราติดตาม (Follow) และแท็บ Trends แสดงไทม์ไลน์ที่เป็นกระแสในขณะนั้น โดยจะแบ่งตาม Nearby คือใกล้เคียงกับที่เราอยู่, Popular ยอดนิยม และ Fresh โพสต์ล่าสุด โดยจะต้องปาดนิ้วลงมาก่อนถึงจะเจอ 3 เมนูย่อยในแท็บนี้ ซึ่งใครเล่นใหม่ อาจจะเริ่มติดตามผู้คนได้จากแท็บ Trends นี่แหละครับ โดยแตะบนรูปโปรไฟล์แล้วกดปุ่ม Follow ได้เลย

clashot-08

 

 

หรือจะใช้วิธีค้นหาจากชื่อแอคเคาท์ของเพื่อนเราก็ได้โดยแตะที่ปุ่มแว่นขยาย มุมบนขวาก็ได้

 

สำหรับการกดไลค์ภาพก็แตะ 2 ครั้งติดกันบนรูปที่ต้องการได้เลย หรือถ้าจะคอมเม้นท์ก็แตะปุ่มไอคอนคอมเม้นท์ใต้ภาพได้เลย

clashot-09

 

ส่วนการซื้อรูปก็แตะบนรูปที่ต้องการแล้วจะมีปุ่ม Download ขึ้นมาให้แตะ จากนั้นก็ใส่รหัสผ่าน Apple ID หรือถ้าใช้ Android ก็จะแจ้งรายละเอียดราคาและรูปแบบการชำระเงินขึ้นมาให้เลือก เมื่อกรอกรหัสผ่านเรียบร้อยแล้วระบบก็จะดาวน์โหลดรูปนั้นให้ทันที โดยราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $0.99 เหรียญ ต่อรูป ประมาณ 33 บาท

clashot-10

 

 

วิธีเช็คยอดเงิน

สำหรับรูปไหนที่ขายได้ ระบบจะมีข้อความแจ้งเตือนเข้ามา เราสามารถเปิดดูจาก Messages ที่เข้ามาได้ โดยแตะที่ปุ่มซองจดหมายในหน้า Feed ซึ่งจะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาด้วย

clashot-11

 

แต่หากต้องการดูยอดรายได้ทั้งหมด ให้แตะที่เมนู Profile ยอดรายได้ทั้งหมดจะแสดงที่ Earned Money ซึ่งหากครบ 3 เหรียญก็ให้แตะเพื่อโอนเงินเข้า Paypal ได้เลย นอกจากนี้สามารถดูสถิติทั้งหมดได้ที่ Detailed Statistics ซึ่งเรียกดูรายการซื้อขายทั้งหมดจาก Transactions ได้อีกด้วย

clashot-12

 

เทคนิคการอัพโหลดรูป ไม่ให้ค้าง

สำหรับการอัพโหลดรูปบน Clashot จำเป็นจะต้องใช้เน็ตที่อัพโหลดได้แรงๆ เพราะรูปที่อัพขึ้นไปจะไม่ได้ถูกลดความละเอียดลงเลย ซึ่งหากไฟล์รูปใหญ่ก็ยิ่งอัพโหลดช้าขึ้น ซึ่งทาง Clashot แนะนำว่าไฟล์ที่อัพโหลดไม่ควรเกิด 10 MB ซึ่งหากถ่ายด้วย iPhone ไฟล์ก็ไม่เกินนี้อยู่แล้ว แต่หากเป็นรูปที่นำเข้ามาจากกล้อง DSLR ก็ต้องลดความละเอียดลงก่อน แล้วค่อยนำเข้าสู่สมาร์ทโฟนของเรา ถ้าจะให้อัพง่ายๆ เวลาถ่ายรูปก็ตั้งความละเอียดไม่เกิน 2 ล้านพิกเซล จะเหมาะสมกว่านะครับ

 

แต่หากใครเจอปัญหาอัพโหลดไปแล้วไฟล์ค้าง ไม่เสร็จสักที ทางแก้ก็คือให้ยกเลิก แล้วอัพโหลดใหม่จะดีกว่า และควรอัพโหลดทีละรูปหากเน็ตไม่แรงพอนะครับ แต่บ้านใคร Wi-Fi แรงๆ ก็จัดเต็มกันได้เลย

 

อ่อ หากใครถามว่าจะอัพผ่านเว็บได้มั้ย บอกเลยว่าไม่ได้ครับ เพราะ Clashot บังคับให้ผู้ใช้อัพรูปจากมือถือได้เท่านั้น แต่รูปที่อัพจะถ่ายจากกล้องอื่นๆ มาก็ได้ ขอแค่ต้องอัพโหลดผ่านแอพบนมือถือเท่านั้น แต่การซื้อรูปสามารถซื้อผ่านเว็บ Clashot.com ได้

 

[อัพเดท 16 ก.ค. 57] วิธีการถอนเงิน

หลังจากที่เราขายรูปได้จนครบ 3$ แล้ว ทีนี้ก็จะสามารถถอนเงินไปเข้าบัญชี Paypal ได้แล้ว ทางทีมงานเลยลองพิสูจน์กันดูว่ามันจะโอนได้จริงรึเปล่า มาดูกัน

 

วิธีการถอนเงินออกให้แตะที่เมนู Profile แล้วแตะที่ Earned Money จากนั้นให้แตะที่ Paypal แล้วกรอกอีเมล์แอคเคาท์ของ Paypal ให้เหมือนกัน 2 ช่อง ส่วนช่องล่างสุดให้ใส่จำนวนเงินลงไป เสร็จแล้วให้แตะ Send request

clashot-13

 

 

ระบบจะดำเนินการถอนเงินออกแล้วโอนไปยังบัญชี Paypal ให้แตะปุ่ม Ok สังเกตว่ายอดเงินจะหายไปแล้ว

clashot-14

 

 

ที่อีเมล์จะมีการแจ้งว่าเราได้ถอนเงินออกจาก Clashot เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องรออย่างน้อย 7 วัน ยอดถึงจะเข้าไปที่บัญชี Paypal ครับ ซึ่งก็ต้องรอลุ้นกันต่อไปครับ

clashot-15

 

 

[อัพเดท 18 ก.ค. 57] ผ่านไปแค่ 2 วัน ทางทีมงานก็ได้รับอีเมล์แจ้งเตือน ว่ามีเงินเข้าบัญชี Paypal  แล้วจริงๆ โดยผู้ส่งเป็น Depositphotos Inc ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Clashot นั่นเอง

clashot-16

 

 

เงื่อนไขลิขสิทธิ Editorial Use Only

สำหรับรูปที่เราโพสต์บน Clashot ทั้งหมด จะได้ไลเซนส์เป็น Editorial Use ซึ่งทาง Clashot ได้ดูแลเรื่องลิขสิทธิ์รูปภาพของเราไว้ด้วย โดยผู้ซื้อรูปจะต้องเอาไปใช้งานเฉพาะเงื่อนไขที่กำหนดดังนี้

ตัวอย่างการอนุญาติสิทธิ์ให้ใช้งาน
• ใช้งานส่วนตัวได้
• งานที่ไม่ใช่ในรูปแบบเชิงพาณิชย์
• นำไปใช้กับสื่อสิ่งพิมพ์, หนังสือพิมพ์ และนิตยสารได้
• ใช้ประกอบในบทความบนบล็อคหรือเว็บไซต์ได้
• ใช้ประกอบในหนังสืออ้างอิงได้
• ใช้ในพรีเซ็นเทชั่นที่ไม่เป็นรูปแบบเชิงพาณิชย์
• ใช้ประกอบในรายการทีวี

 

ตัวอย่างที่ ต้องห้ามในการนำรูปไปใช้งาน
• ทุกวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบเชิงพาณิชย์
• นำไปใช้ทำโฆษณาหรือกิจกรรมทางการตลาด
• ใช้ในการทำเป็นเครื่องหมายสัญลักษณ์ทางการค้าหรือ Trademark

 

ข้อสังเกตอย่างหนึ่งในการเล่น Clashot คือภาพที่มักจะขายได้คือภาพที่ถ่ายแบบไม่ตั้งใจ เพราะเท่าที่ลองถามเพื่อนๆ ที่เล่นด้วยกัน คือภาพไหนที่ถูกปรับแต่งหรือจัดองค์ประกอบมาเป็นอย่างดี มักจะขายได้ช้า ดังนั้นผมคิดว่าการเล่นแอพนี้ให้สนุกคือการโพสต์รูปที่ถ่ายโดยไม่ตั้งใจมากนัก ขอให้ดูเป็นธรรมชาติ และเป็นความจริงที่สุดของเหตุการณ์นั้น เพราะถ้าเป็นภาพที่ประดิษฐ์หรือตกแต่งมาแล้ว มักจะหาได้ไม่อยากในเว็บ Photo Stock ซึ่งมีอยู่เกลื่อนเต็มไปหมด ดังนั้นคนซื้อน่าจะต้องการภาพที่เป็นความจริงและไร้การปรุงแต่งที่หาได้จากกล้องบนมือถือที่ทุกคนพกติดตัวนี่แหละครับ

 

เอาล่ะครับ ประเด็นทั้งหมดที่ผมคิดว่าผู้อ่านทุกท่านควรต้องรู้ก็น่าจะมีประมาณนี้นะครับ หากใครสงสัยในจุดไหนเพิ่มเติมก็สอบถามกันมาได้นะครับ อันไหนที่ผมทราบก็จะตอบให้นะครับ ใครขายได้แล้วก็เอามาอวดกันบ้างนะ หรือมีเทคนิคการถ่ายรูปอย่างไรให้ขายได้ ก็มาแชร์ให้เพื่อนๆ รู้กันบ้าง…  แล้วขอให้สนุกกับการโพสต์รูปขายบน Clashot กันนะครับ

 

ภาพโคลนนิ่ง iPhone 6 ก่อนเปิดตัวจริง

 

ตามธรรมเนียมของสเต็ปข่าวลือ ข่าวหลุด ที่ยิ่งใกล้การเปิดตัวของ iPhone 6 ก็จะต้องมีภาพหลุดของตัว Mock Up หรือโมเดลเท่าตัวจริงออกมาให้ได้เห็นกัน ไปชมกันเลยครับ

 

iphone6-cloned-01iphone6-cloned-02

iphone6-cloned-03iphone6-cloned-04

iphone6-cloned-05iphone6-cloned-06

 

iphone6-cloned-07iphone6-cloned-08

iphone6-cloned-09iphone6-cloned-10

 

ดูแล้วจุดที่แตกต่างก็จะเป็นขอบที่มนโค้งรับกับการจับได้มากขึ้น แต่ตรงลายเส้นตัดที่ด้านหลังเครื่องทั้งบนและล่างเนี่ยสิ ดูกากๆ ไปนะว่ามั้ย ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ คงมีสาวกร้องยี้ กันไม่น้อยเลยทีเดียว

 

Source : gsmarena

 

 

รวมแอพฉุกเฉิน ป้องกันการถูกข่มขืน

 

help-me-on-mobile

 

หลังจากที่มีข่าวคดีฆ่าข่มขืนเด็ผู้หญิงบนรถไฟ ซึ่งเป็นที่สะเทือนขวัญกันไปทั้งประเทศ จนเกิดกลายเป็น กระแสให้ปรับเปลี่ยนบทลงโทษผู้กระทำผิดให้หนักขึ้น ซึ่งเชื่อว่าเป็นการแก้ปัญหาได้อีกทางหนึ่ง แต่สุดท้ายมันก็ยังเป็นปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งต้นเหตุอาจจะมาจากหลายปัจจัย ดังนั้นสำหรับผู้หญิงที่ตกเป็นภัยได้ง่าย จึงต้องรู้จักป้องกันตนเองให้ดีเอาไว้ก่อน วันนี้เราจึงขอรวบรวมแอพที่ควรมีติดตัวไว้สำหรับกรณีฉุกเฉินต่างๆ รวมถึงกรณีเสี่ยงต่อการถูกข่มขืนอีกด้วย

 

Watch Over Me แชร์พิกัด เมื่อเกิดเหตุ

Help-me-for-rape-app-06
หากคุณตกอยู่ในภาวะเสี่ยงภัย ต้องติดตั้งแอพนี้เอาไว้เลย เพราะมันจะสามารถร้องขอความช่วยเหลือจากคนที่ดูแลเราได้ทันที โดยแอพ Watch Over Me จะสามารถส่ง SMS ข้อความขอความช่วยเหลือ รวมถึงแนบพิกัด GPS ในตำแหน่งที่เราอยู่ไปยังเบอร์ที่เราตั้งค่าเอาไว้ เช่นเบอร์ของคุณพ่อ หรือเบอร์แฟน และหากเกิดเหตุฉุกเฉินเพียงเปิดแอพขึ้นมาแล้วเขย่าตัวเครื่อง ระบบก็จะส่ง SMS แจ้งเตือนพร้อมพิกัดไปยังหมายเลขที่บันทึกไว้ให้ทันทีโดยอัตโนมัติ พร้อมกับภาพวิดีโอคลิปบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวส่งไปพร้อมกันด้วย (แต่ถ้าใช้ฟังก์ชั่นนี้ กล้องจะถูกเปิดแฟลชขึ้นด้วย ดังนั้นจึงอาจไม่เหมาะหากคนร้ายอยู่กับเรา และต้องปิดเสียง Alert เอาไว้ด้วยก็ดี)

Help-me-for-rape-app-08
ที่สำคัญมันสามารถตั้งค่าให้แชร์ข้อความที่ขอความช่วยเหลือไปยัง Facebook ได้อีกด้วย และในกรณีที่กลัวคนที่บ้านเป็นห่วงเราเวลาเดินทางไปไหนมาไหน เมื่อถึงที่หมายแล้วเราก็สามารถแจ้งได้ว่าตอนนี้เราถึงที่หมายอย่างปลอดภัยแล้ว พร้อมแนบรูปหรือโพสต์สถานะเข้าไปด้วยก็ได้

Help-me-for-rape-app-07

 

และหากคุณอยู่ในพื้นที่เสี่ยงในการเกิดอาชญากรรมบ่อยๆ ก็จะมีการแจ้งเตือนขึ้นมาด้วยโดยรองรับใน 7 เมืองใหญ่ ได้แก่ New York City, London, Leeds, Melbourne, Sydney, Kuala Lumpur และ กรุงเทพฯ ของเราด้วย นอกจากนี้เราเองก็ยังสามารถปักหมุดบนแผนที่ได้ว่าจุดไหนเคยเกิดอาชญากรรมใดขึ้นได้อีกด้วย

 

นอกจากนี้ฟีเจอร์หลักอีกอย่างก็คือมันสามารถแชร์หรือส่ง SMS ฉุกเฉินโดยอัตโนมัติ หากเราถึงที่หมายแล้วไม่ได้ทำการเช็คอินหรือส่งข้อความแจ้งว่าเราปลอดภัยภายในเวลาที่กำหนด ซึ่งฟีเจอร์นี้เป็นที่มาของชื่อแอพ Watch Over Me นั่นเอง

 

ข้อเสียอย่างหนึ่งสำหรับคนไทยคือ ข้อความที่ส่งไปจะเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งอาจจะทำให้คนที่ได้รับข้อความไม่เข้าใจ ดังนั้นขอแนะนำว่าให้ทดลองส่งข้อความแล้วทำความเข้าใจกับคนที่จะให้ความช่วยเหลือเราเอาไว้ก่อนก็น่าจะช่วยได้นะครับ

 

สำหรับเวอร์ชั่นฟรี จะสามารถเพิ่มเบอร์ช่วยเหลือได้แค่ 1 คน และแชร์ไปยัง Facebook หรือ Email ที่ตั้งไว้ได้ แต่ไม่สามารถส่ง SMS กับบันทึกวิดีโอโดยอัตโนมัติได้ อาจจะต้องเสียค่าบริการถึงจะใช้ฟีเจอร์ได้ครบ โดยคิดเป็นราย 3 เดือน 9.99 เหรียญสหรัฐ และ ราย 1 ปี 23.99 เหรียญสหรัฐ

 

ดาวน์โหลด iOS | Android

 

 

Help Me on Mobile ส่งพิกัดและโทรออกฉุกเฉินอัตโนมัติ

Help-me-for-rape-app-01
มีแอพอีกตัวหนึ่งที่อยากแนะนำ ซึ่งก็รองรับทั้ง iOS และ Android ที่สาวๆ ควรมีติดเครื่องเอาไว้เช่นกัน โดยแอพนี้จะมีความสามารถคล้ายกับแอพ Watch Over Me โดยมันจะสามารถส่ง SMS ฉุกเฉินไปยังหมายเลขที่กำหนดได้เช่นเดียวกัน แต่จะไม่มีฟังก์ชั่นแชร์ไปยัง Facebook หรืออีเมล์ ซึ่งแอพนี้จะเน้นการใช้งานที่ง่าย ไม่ซับซ้อน เหมาะกับการส่งข้อความแจ้งเตือนในทันทีทันใด

 

เมื่อเซ็ตเบอร์โทรศัพท์ของผู้ปกครองหรือผู้ที่จะช่วยเหลือเราได้ เอาไว้แล้ว ซึ่งสามารถตั้งได้หลายคน แต่จะมีเพียงคนเดียวที่ต้องตั้งให้เป็นคนหลักที่ในการโทรหาอัตโนมัติ เมื่อเกิดเหตุก็ให้แตะที่ปุ่ม I need Help ระบบก็จะส่ง SMS ข้อความไปยังบุคคลที่กำหนดไว้ รวมถึงพิกัดปัจจุบันไปด้วย พร้อมก็โทรออกไปยังเบอร์หลักให้อัตโนมัติ ตามเวลาที่ตั้งไว้ ซึ่งในฟังก์ชั่นนี้หากไม่ได้ปิดเสียง Alarm เอาไว้เวลาแตะปุ่มขอความช่วยเหลือจะมีเสียงขึ้นมา ดังนั้นหากอยู่ในสถานะการณ์ที่ไม่ให้ผู้ร้ายรู้ได้ ก็สามารถบิดเสียง Alarm เอาไว้ก่อน

Help-me-for-rape-app-02

 

นอกจากนี้หากต้องการแค่ส่ง SMS ข้อความและพิกัดไปขอความช่วยเหลือ โดยไม่ต้องโทรออก ก็ให้แตะที่ปุ่ม I am here

 

ข้อดีของแอพนี้คือ เราสามารถแก้ไขข้อความที่จะส่งออกไปได้ ดังนั้นจึงสามารถส่งข้อความขอช่วยเหลือเป็นความภาษาไทยได้นั่นเอง และยังคงแนบที่อยู่และพิกัด GPS ให้อัตโนมัติเข้าไปอีกด้วย

Help-me-for-rape-app-03

 

สำหรับการเพิ่มชื่อผู้ปกครองหรือคนที่เราจะขอความช่วยเหลือนั้น ในแอพนี้สามารถเพิ่มได้หลายคน จากที่ลองคือได้มากกว่า 4 คน และจะเลือกให้ส่ง SMS ไปแจ้งเตือนทั้งหมด หรือเฉพาะบางคนก็ได้

 

ส่วนของการโทรออกอัตโนมัติก็สามารถตั้งหน่วงเวลาได้ตั้งแต่ 5 วินาที จนถึง 60 วินาที และเมื่อผู้ปกครองของเราได้รับข้อความก็จะสามารถแตะตรงพิกัดเพื่อเปิดดูแผนที่บน Google Map ได้ทันที

Help-me-for-rape-app-04

 

นับว่าเป็นอีกหนึ่งแอพที่ค่อนข้างใช้งานง่ายและไม่ซับซ้อน เพื่อให้คุณผู้หญิงได้ปลอดภัยจากการตกเป็นเหยืออาชญากรรมต่างๆ ไม่มากก็น้อย
ดาวน์โหลด iOS | Android

 

AIS SME เอาใจผู้ประกอบธุรกิจ ออกแพ็กเกจใหม่ “SME ไม่อั้น” ทั้งโทร เล่นเน็ต และ Wi-Fi ได้ไม่จำกัด พร้อมรับฟรี สมาร์ทโฟน 3G คุณภาพ

 

ais-sme

 

AIS SME เอาใจผู้ประกอบธุรกิจทั่วประเทศให้ประหยัดสุดคุ้มกว่าใคร ด้วยแพ็กเกจใหม่ “SME ไม่อั้น” ที่ให้ใช้งานได้แบบไม่จำกัด ทั้ง
 
• โทรไม่อั้น 18 ชั่วโมง ในเครือข่ายเอไอเอส ตั้งแต่เที่ยงคืน – หกโมงเย็น และโทรเข้าเบอร์ออฟฟิศ 1 เบอร์ ได้ไม่อั้น ตลอด 24 ชั่วโมง
• เล่นเน็ตไม่อั้น ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 2GB
• ใช้ AIS Wi-Fi ไม่อั้น
 
โดย “SME ไม่อั้น” มีให้เลือกถึง 2 แพ็กเกจ ในราคาพิเศษ ทั้ง 399 บาท จากราคาปกติ 1,190 บาท และ 599 บาท จากราคาปกติ 1,690 บาท นาน 12 รอบบิล พิเศษ! ลูกค้าที่เปิดเบอร์ใหม่หรือย้ายค่ายมาเป็น AIS 3G 2100 และจดทะเบียนเป็นชื่อบริษัทเดียวกัน 3 เลขหมายขึ้นไป รับฟรีทันที สมาร์ทโฟน 3G คุณภาพ AIS LAVA 3.5” Black Series มูลค่า 1,690 บาท ผู้ประกอบธุรกิจ SME ทั่วประเทศที่สนใจสามารถสมัครแพ็กเกจ “SME ไม่อั้น” ได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ส.ค. 57 ที่เอไอเอสช็อป และร้านเทเลวิซทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AIS Corporate Call Center 1149

 

Sony เปิดตัว Xperia C3 Proselfie Smartphone สุดยอดกล้องฟรุ้งฟรุิ้ง 5 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลชด้านหน้า

 

xperia-C3-01

 

กระแสโทรศัพท์กล้องฟรุ้งฟริ้งมาแรงจริงๆ ล่าสุดโซนี่เปิดตัวสมาร์ทโฟน Xperia C3 ที่วางตัวให้เป็น PROselfie Smartphone หรือสมาร์ทโฟน Selfie ที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งเปิดตัวไปแล้วเมื่อวานนี้ ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

 

ซึ่งจุดเด่นที่สุดของ Xperia C3 คือกล้องหน้าที่มาพร้อมความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เลนส์ไวด์ 25 มม. เหมาะสำหรับการถ่ายภาพตัวเองให้ฟรุ้งฟริ้งหรือ Selfie โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมาพร้อมซอฟต์แฟลช LED Flash เพื่อการถ่ายภาพให้ได้หน้าเนียน หรือถ่ายในที่แสงน้อย

4_Xperia_C3_White_Design

 

 

และยังมีโหมด Portrait retouch v.2 ที่สามารถตกแต่งภาพใส่กรอบหรือข้อความน่ารักๆ เพิ่มประกายวิ่งๆ ในดวงตาได้ตามต้องการ รวมถึงยังมีบิวตี้สไตล์มาให้อีก 10 แบบ ที่สามารถเลือกและแสดงผลแบบเรียลไทม์ก่อนที่จะกดชัตเตอร์ถ่ายได้เลย และยังรองรับการรีทัชได้ถึง 2 ใบหน้าในรูปเดียว

xperia-c3-03
[youtube link=”http://youtu.be/YToio7g6hAw” width=”590″ height=”315″]

 

สเปก Sony Xperia C3
• ซีพียู Snapdragon 400 quad-core 1.2GHz Cortex-A7
• จีพียู Adreno 305
• แรม 1 GB
• หน้าจอ 5.5 นิ้ว แบบ IPS ความละเอียด HD 1280×720 พิกเซล
• หน่วยความจำในตัวเครื่อง 8 GB
• เพิ่มการ์ด Micro SD Card ได้สูงสุด 32 GB
• กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล พร้อม LED Flash
• กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล พร้อม LED flash
• รองรับ 3G/4G LTE
• มีรุ่น 1 SIM และ Dual SIM
• ขนาดบางเพียง 7.6 มม. (156 x 78.5 x 7.6 มม.)
• น้ำหนัก 150 กรัม
• ระบบปฏิบัติการ Android 4.4 (KitKat)

 

3_Xperia_C3_White_Tabletop

 

Sony Xperia C3 จะวางจำหน่าย 2 สี คือ ขาว, ดำ, เขียวมิ้นท์ โดยจะเริ่มวางขายในเดือนสิงหาคมนี้ทั่วโลก รวมถึงประเทศจีนซึ่งจะเป็นประเทศแรกที่วางจำหน่ายอีกด้วย ส่วนราคายังไม่ได้เปิดเผย

 

7_Xperia_C3

xperia-c3-02

 

 

Source : Sony

 

เผยวันวางจำหน่าย Sony Xperia Z3, Z3 Compact

 

เสริมข่าวลืออย่างต่อเนื่องจากภาพหลุดของ Sony Xperia Z3 และ Xperia Z3 Compact ให้ดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้น กับภาพหลุดจากระบบภายในของ Vodafone Germany ซึ่งมีรายละเอียดเกี่ยวกับรายการสินค้า ซึ่งหนึ่งในนั้นมีรายชื่อของ Xperia Z3 และ Z3 Compact อยู่ด้วย

 

vodafoneZ3

 

ซึ่งสิ่งสำคัญในรายละเอียดดังกล่าวก็คือการระบุวันสิ้นสุดการแข่งขันนี้ คือ 30 กันยายน 2014 และยังระบุว่าสามารถใช้ Xperia ทั้ง 2 รุ่น ในการสะสมแต้มในการแข่งขันครั้งนี้ได้อีกด้วย (ซึ่งก็ยังไม่ทราบถึงรายละเอียดว่าเป็นการแข่งขันอะไร)

 

แต่ที่แน่ๆ คือการยืนยันได้ว่าอาจจะต้องมีเครื่องมาวางจำหน่ายผ่าน Vodafone Germany ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้แน่ๆ

 

และคงต้องดูกันในงาน IFA 2014 ซึ่งกำลังจะจัดขึ้นในวันที่ 5-10 กันยายน นี้ ณ กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ว่าทางโซนี่จะเปิดตัว Xperia Z3 ทั้ง 2 รุ่นนี้หรือเปล่า และถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ถือว่าเป็นการวางขายหลังจากเปิดตัวเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งก่อนหน้านี้ที่เปิดตัว Xperia Z2 ไปในเดือนกุมภาพันธ์ แต่เริ่มจำหน่ายจริงในเดือนเมษายน ซึ่งกินเวลาถึง 2 เดือนกว่า เลยทีเดียว

Source : gsmarena

 

Apple ปล่อยอัพเดท iOS8 Beta 3 มีอะไรใหม่ให้ลองของบ้าง

 

screen-shot-2014-07-07-at-9-58-00-am

 

วันนี้บรรดานักพัฒนา iOS คงได้รับการอัพเดท iOS8 Beta 3 กันแล้ว โดยสามารถดาวน์โหลดแบบ OTA ได้เลย ซึ่งตอนนี้ก็เรียกว่ามาเกือบครึ่งทางแล้วสำหรับ Beta 3 ซึ่งมีฟีเจอร์อะไรใหม่บ้าง ไปดูกัน

 

• iCloud Drive มีให้ตั้งค่าเปิดใช้งานได้แล้ว เพื่อการใช้งานแอพที่รองรับให้ทำงานต่อเนื่องกันระหว่าง iPhone (iOS8) กับ Mac OS X (Yosimite) ซึ่งจะใช้ในเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงของฟังก์ชั่น Handoff
img_8579

 

• Handoff มีปุ่มเปิด-ปิดฟังก์ชั่นนี้ เพื่อเชื่อมต่อการใช้งานให้ต่อเนื่องระหว่าง iPhone, iPad, Mac (Yosemite) เข้าด้วยกัน

screen-shot-2014-07-07-at-10-31-03-am

 

• เพิ่มภาพวอลเปเปอร์มาให้อีกนิดหน่อย

screen-shot-2014-07-07-at-10-34-36-am

 

• ในหน้า Notification Center เปลี่ยนปุ่มล้างการแจ้งเตือนเป็น Clear จากเดิมเป็นปุ่มกากบาท

screen-shot-2014-07-07-at-10-46-08-am

 

• เปลี่ยนหน้าตาในแอพ Weather

• เปลี่ยน Shared Photo Streams เป็น Shared Albums

• มีออปชั่น QuickType ขึ้นใน Settings แล้ว

• มีออปชั่นที่สามารถเก็บภาพนิ่งหรือวิดีโอที่ รับและส่งจาก Messages โดยอัตโนมัติ

 

แฮปปี้ออกซิมใหม่ “ซิมใจป้ำ” มัดใจลูกค้ากับซิมแนวคิดใหม่แห่งปี “ยิ่งใช้ ยิ่งได้คืน” เพียงใช้ 50 บาท รับค่าโทรคืน 100 บาท ทันที!

 

dtac_Jai_Pum_campaign
แฮปปี้เปิดตัวซิมใหม่ล่าสุด “ซิมใจป้ำ” ซิมแรกในตลาดอุตสาหกรรมโทรคมนาคมที่ให้ค่าโทรคืน 200% กลับคืนหลังการใช้งาน โดยดึงแนวคิด “คืนเงิน” หรือ “Cash back” จากอุตสาหกรรมค้าปลีกและเครดิตการ์ด ที่มอบเงินคืนทุก ๆ การใช้จ่าย มาปรับเป็นโปรโมชั่นไม้เด็ดแห่งปีให้ลูกค้า ให้ค่าโทรคืนลูกค้า 100 บาท ทันที หลังการใช้งานครบ 50 บาท

 

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายการตลาด บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค เปิดเผยว่า ในครึ่งปีหลังนี้แฮปปี้หวังจะกระตุ้นตลาดพรีเพดให้คึกคักขึ้น โดยได้ส่งซิมใหม่ที่ชื่อ “ซิมใจป้ำ” ออกมาเพื่อตอบสนองลูกค้าที่ชื่นชอบความคุ้มค่ากับระบบ“คืนเงิน” หรือ “Cash back” ภายใต้แนวคิด แฮปปี้คืนความสุข ยิ่งใช้…ยิ่งได้คืน ซึ่งเป็นแนวคิดที่ยังไม่มีผู้ประกอบการระบบมือถือรายใดทำมาก่อน ด้วยวิธีการคืนค่าโทรเข้ากระเป๋าโบนัสให้กับลูกค้า 100 บาท ต่อการใช้งานทุก 50 บาท เชื่อว่าจะสามารถขยายฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยตอกย้ำกลยุทธ์การตลาดของดีแทค นอกจากเรื่องของ Internet for all แล้ว อีกเรื่องที่เป็นหัวใจสำคัญในขณะนี้ คือ To be loved by customers หรือ การทำให้เราเป็นที่รักของลูกค้า ผ่านผลิตภัณฑ์ที่มีความ innovative มีความเป็นแฮปปี้ รวมถึงตอบความต้องการของลูกค้า เราจึงเลือกผลิตซิมนี้ขึ้น โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าจำนวนมากจากทั่วประเทศ

 

ซิมใจป้ำ” จากแฮปปี้ วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายแฮปปี้ทั่วประเทศ เพียงใช้งานครบ 50 บาท รับเงินค่าโทรคืนทันที 100 บาท สำหรับโทรเบอร์ดีแทค (ใช้งานได้นาน 1 วัน) รับสิทธิ์สูงสุด 3 ครั้ง/สัปดาห์ นาน 6 เดือน พิเศษยิ่งขึ้นกับค่าโทรทุกเครือข่ายสุดคุ้มเพียงนาทีละ 25 สตางค์ (นาทีแรก 99 สตางค์) และเล่น Facebook ฟรี! นานถึง 120 วันเมื่อเปิดใช้ซิม สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th

 

 

ชมฟุตบอลโลกฟรีที่บราซิล กับ โซนี่ เอ็กซ์พีเรีย

 

P2
นายกฤษณ์ ประพัทธศักดิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการขายและการตลาดผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟน บริษัท โซนี่ ไทย จำกัด (กลาง) พาผู้โชคดีที่ร่วมกิจกรรมในแคมเปญ โซนี่ เอ็กซ์พีเรีย กูรู แบทเทิล กับคลื่น FM 99 แอคทีฟ เรดิโอ เดินทางท่องเที่ยวพร้อมชมฟุตบอลโลกฟรี ในแมตช์คู่เดือด ฮอลแลนด์ VS คอสตาริก้า สดถึงขอบสนามอารีน่า ฟอนเต้ เมืองซัลวาดอร์ ประเทศบราซิล กับทริป ฟีฟ่า เวิลด์ คัพ 2014 เมื่อเร็วๆนี้