เราจะได้เห็นอะไรในงาน Apple Event 16 ตุลาคมนี้

apple-event-ipad-mac
พรุ่งแล้วสินะก็จะถึงวันเปิดตัว iPad รุ่นใหม่ ในงาน Apple Event ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 16 ตุลาคม 2557 ณ สำนักงานใหญ่ Apple ที่ Cupertino, Calif ในเวลา 10 โมงเช้าเป็นต้นไป ซึ่งตรงกับเวลาในบ้านเราประมาณเกือบเที่ยงคืน โดยในงานนี้จะมีอะไรใหม่ให้สาวกได้ตื่นเต้นกันอีกบ้างนั้น ก็มีการคาดการณ์กันเอาไว้บ้างแล้ว นอกจากนี้อาจจะมีการอัพเดทใหม่ของ Mac Mini และ iMac ที่ไม่ได้อัพเดทมา 2 ปีแล้ว อีกด้วย

 

จะมีอะไรใหม่ใน iPad

iPad-air-2-leak

NFC + Apple Pay แน่นอนว่าเมื่อ iPhone 6 + 6 Plus มาพร้อม NFC และ Apple Pay ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคมนี้ จึงน่าจะเป็นไปได้ที่ Apple จะนำ NFC ติดตั้งลงใน iPad รุ่นใหม่นี้ด้วย เพราะเชื่อว่าขาช้อปออนไลน์บน iPad ก็น่าจะมีอยู่ไม่น้อย

Touch ID และต่อเนื่องจากการรองรับ NFC + Apple Pay ก็ควรจะต้องใส่ปุ่ม Touch ID ลงใน iPad เข้ามาด้วย เพื่อจะได้รองรับการสแกนลายนิ้วมือเวลาจ่ายตังค์ผ่าน Apple Pay

เพิ่มรุ่นสีทอง น่าจะถึงเวลาของบอดี้สีทองสำหรับ iPad ได้แล้วหลังจากที่ iPhone 5s เริ่มทำสีทองออกมาเป็นครั้งแรกก็ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ

CPU A8 ตามสูตรของ CPU ที่จะต้องเพิ่มสปีด และประสิทธิภาพด้านกราฟิก ซึ่งก็น่าจะมาพร้อมซีพียู A8 รุ่นใหม่

ยกเลิกหน่วยความจำ 32 GB แล้วขยายเพดานหน่วยความจำไปถึง 128 GฺB เหมือน iPhone 6 ซึ่งก็จะมี 3 ขนาดให้เลือกเป็น 16 GB, 64 GB และ 128 GB

กล้องละเอียดขึ้น และรูรับแสงที่มากขึ้น แต่เชื่อว่าคงไม่เกิน 8 ล้านพิกเซล ไปอย่างแน่นอน

หน้าจอ Retina HD จากเดิมที่เป็น Retina Display ซึ่งจะเท่ากับหน้าจอของ iPhone 6 Plus และอาจจะเพิ่มคุณสมบัติ Anti – Reflective ที่ป้องกันแสงสะท้อนบนหน้าจอ

บางเบาได้อีก และสิ่งที่ Apple สร้างความแตกต่างเหนือใครในการดีไซน์ คือเรื่องของน้ำหนักที่เบา และบอดี้ที่บางลงเรื่อยๆ ซึ่ง iPad Air ที่ว่าบางเบาแล้ว ยังจะทำให้บางลงได้อีก

iPad Pro 12.9 นิ้ว จากข่าวลือว่าจะมี iPad Pro ออกมา ซึ่งถ้ามีจริงคงจะได้เห็นกัน แต่คาดว่าจะเปิดตัวจริงๆ ในปีหน้าอีกครั้ง

iPad mini อาจจะติดตาย ด้วย iPhone 6 Plus ที่มีขนาดใหญ่ในระดับ Phalet จึงไปคาบเกี่ยวกับตำแหน่งของ iPad mini ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะหนีไปใช้งาน iPhone 6 Plus เพราะด้วยขนาดที่ใหญ่พอเหมาะและโทรออกได้ จึงอาจทำให้ iPad mini จะต้องปรับขนาดให้ใหญ่ขึ้นเพื่อทิ้งห่างความเหลื่อมล้ำดังกล่าว

 

จะมีอะไรใหม่ใน กลุ่มเครื่อง Mac
Mac mini แทบจะไม่มีข่าวความเคลื่อนไหวใด เกี่ยวกับ Mac mini มานานกว่า 2 ปีแล้ว ถ้าจะมีก็คงแค่อัพเดทฮาร์ดแวร์ภายใน ทั้ง CPU และ หน่วยความจำ ตามปกติ
macmini_hero
iMac ก็เช่นเดียวกันที่หลังจากดีไซน์ล่าสุดที่เป็นเครื่อง All in one ดีไซน์บางเฉียบ ซึ่งก็ผ่านมาแล้ว 2 ปี มาปีนี้อาจจะมีอะไรให้ฟินนอกจากสเปกที่จะต้องอัพ มาคอยติดตามกัน

imac-hero
Macbook Air มีข่าวว่าจะมีการติดตั้ง Touch ID เพิ่มขึ้นมาด้วย

macbookair
OS X Yosemite หลังจากเปิดตัวไปแล้วเมื่อ 2 เดือนก่อน พร้อมกับปล่อยตัวเบต้าให้นักพัฒนาได้ลอง ในงานนี้คงถึงเวลาที่จะปล่อยตัวจริง ให้ผู้ใช้ Mac ได้ดาวน์โหลดกันเสียที

OSXyosemite

 

Source : Cnet

 

 

TrueMove H และ Dtac ประกาศเปิดจอง iPhone 6/6 plus 24 ต.ค. นี้

ด้านฝั่ง Truemove H ก็ขึ้นแบนเนอร์ iPhone 6 โดยระบุวันจอง หรือลงทะเบียนสั่งซื้อ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ในวันที่ 24 ตุลาคม 57 นี้ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ ที่จะมีการเปิดให้จองเครื่องก่อน 1 สัปดาห์ เหมือนประเทศอื่นๆ ก่อนหน้านี้

Banner_iPhone_leanMore_990x379_th

แต่ยังไม่มีรายละเอียดให้คลิกเข้าไปดูได้ ฉะนั้นคงต้องรอดูว่าค่ายนี้จะมีรายละเอียดโปรโมชั่นอะไรยังไงออกมาบ้าง

 

ซึ่งตามปกติแล้ว Truemove H ถือเป็นโอเปอเรเตอร์รายหลักที่ได้โควต้าการวางจำหน่าย iPhone รุ่นใหม่ มากกว่าค่ายอื่นๆ ในช่วงเปิดตัว และเป็นเจ้าแรกๆ ที่นำ iPhone เข้ามาขายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย หวังว่าการมาของ iPhone 6 ในครั้งนี้ Truemove H น่าจะโปรโมชั่นดีๆ โดดๆ ให้กับลูกค้า

 

ส่วน dtac ก็ขึ้นแบนเนอร์ในหน้าเว็บไซต์ เรียบแล้วเช่นเดียวกัน โดยระบุรายละเอียดชัดเจนว่า เปิดจอง 24 ตุลาคม 2557 เวลา 00.01 น. ส่วนโปรโมชั่น ยังไม่มีรายละเอียดเช่นเดียวกัน

iphone6-banner

 

Source : Truemove H , dtac

 

 

AIS เปิดรับลงทะเบียนความสนใจ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus แล้ว

 

Apple เพิ่งจะประกาศวางขาย iPhone 6/6+ ในไทย อย่างเป็นทางการไปเมื่อวาน มาปีนี้ AIS รีบปาดหน้าเค้กก่อนใคร ด้วยการเปิดลงทะเบียนความสนใจผ่านหน้าเว็บแล้วเป็นรายแรก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 14-21 ตุลาคม นี้

 

นอกจากนี้ยังมีของแถมและโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้าให้อีกด้วยตามเงื่อนไขนี้

• พิเศษ!! ลูกค้า 10,000 ท่านแรก รับฟรี! ฟิล์มติดหน้าจอ Autozkin มูลค่า 490 บาท
• รับฟรี!! ค่าบริการรายเดือน AIS Mobile Care 4 เดือนแรก สำหรับแพ็กเกจเปลี่ยนเครื่อง (SWAP) จากปกติเดือนละ 99 บาท

 

AIS-pre-iphon6-02

ใครเป็นลูกค้า AIS เข้าไปลงทะเบียนกันได้ที่นี่เลยครับ https://iphone6.ais.co.th/th/index.aspx

จำกัด 1 คน ต่อ 1 สิทธิ์เท่านั้น

 

 

สิ้นสุดการรอคอย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus วางขายในไทย 31 ตุลาคมนี้

iPhone6-hero
Apple ประกาศวางจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus เพิ่มเติมอีก 36 ประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั้นมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วย เย้… โดยจะวางจำหน่ายในวันที่ 31 ตุลาคม นี้ พร้อมกันทุกเครือขาย

 

ทั้งนี้ ในบรรดา 36 ประเทศที่ Apple ประกาศ เพิ่มเติมจะมีกำหนดทยอยวางจำหน่ายตามลำดับดังนี้

 

17 ตุลาคม : China, India, Monaco
23 ตุลาคม : Israel
24 ตุลาคม : Czech Republic, French West Indies, Greenland, Malta, Poland, Reunion Island, South Africa
30 ตุลาคม : Bahrain, Kuwait
31 ตุลาคม : Albania, Bosnia, Croatia, Estonia, Greece, Guam, Hungary, Iceland, Kosovo, Latvia, Lithuania, Macau, Macedonia, Mexico, Moldova, Montenegro, Serbia, South Korea, Romania, Slovakia, Slovenia, Ukraine และ Thailand
iphone6-th
เห็นรายชื่อประเทศไทยอยู่ท้ายสุด และอยู่ในวันสุดท้ายของรอบนี้ แล้วก็แอบคิดไม่ได้ว่า เป็นการเตือนอะไรบางอย่างหรือเปล่า จากกรณีที่ กสทช. เคยออกมาเปิดเผยเรื่องการตรวจรับใบอนุญาตนำเข้า จนเป็นข่าวดังไปทั่วโลก และลือไปทั่วว่าเราจะได้วางขายในกลุ่มประเทศแรก แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็กลับมาอยู่ในกลุ่มประเทศท้ายๆ เสียด้วยซ้ำ ตามลำดับเดิมที่เคยมีมา

 
ในการประกาศวางจำหน่ายเพิ่มเติมในครั้งนี้ ทำให้ iPhone 6/6+ วางขายไปแล้ว 69 ประเทศ และ Apple จะวางจำหน่ายให้ครบ 115 ประเทศภายในสินปีนี้

 
ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะมีการเปิดจองและเผยราคาอย่างเป็นทางการล่วงหน้าอย่างน้อย 1 อาทิตย์

 

Source : Apple

 

 

ยอดจอง iPhone 6 และ 6 Plus ในจีน ทะลุ 1 ล้านเครื่อง ภายใน 6 ชั่วโมง

iphone-6-plus-3c

หลังจากที่ Apple ประกาศวางจำหน่าย iPhone 6 และ iPhone 6 Plus อย่างเป็นทางการในประเทศจีน แค่เริ่มเปิดให้จองในวันแรก เมื่อวันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม ที่ผ่านมา ก็มียอดสั่งจองครบ 1 ล้านเครื่อง ภายในเวลาเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น

 

โดยรายงานนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากผู้ให้บริการเครือข่ายทั้ง 3 เจ้าใหญ่ในจีน ได้แก่ China Mobile, China Telecom และ China Unicom นอกจากนี้ไม่เพียงแต่มีการเปิดจองผ่านโอเปอเรเตอร์เท่านั้น ยังมีลูกค้าส่วนหนึ่งที่สั่งจองผ่านออนไลน์บนเว็บไซต์ Apple Store ซึ่งอาจจะมีตัวเลขยอดสั่งจองออนไลน์รวมอยู่ด้วยก็เป็นได้

 

และในวันศุกร์นี้ 17 ตุลาคม ก็จะเป็นวันที่เริ่มวางจำหน่ายจริงๆ ทั่วประเทศจีน

 

ที่ผ่านมา iPhone6 และ iPhone 6 Plus ได้วางจำหน่ายไปแล้วในประเทศกลุ่มแรก และกลุ่มที่ 2 ซึ่ง Apple เผยว่ามียอดขายรวมแล้วมากกว่า 10 ล้านเครื่อง ในช่วงสุดสัปดาห์หลังจากที่มีการเปิดตัว

 

ส่วนประเทศไทยก็มีข่าวลือ ข่าวแว้วมาว่าอาจจะวางขายภายใน 24-25 ตุลาคม นี้ แต่ก็ยังไม่เห็นมูลข่าวที่ชัดเจนออกมาแต่อย่างใด และเราจะเกาะติดข่าวนี้อย่างใกล้ชิด มาอัพเดทให้กับทุกท่านได้ติดตามกัน

 

Source : Geeky-Gadgets

 

 

OPPO N3 เตรียมเปิดตัว 29 ตุลาคมนี้ คาดมาพร้อมบอดี้โลหะ บางเบา และลิเทียมอัลลอย

 

oppo-n3-launch
หลังจากที่ประสบความสำเร็จกับ OPPO N1 และ OPPO N1 mini มาแล้ว ล่าสุด OPPO ได้โพสต์ภาพกำหนดวันเปิดตัว OPPO N3 ในวันที่ 29 ตุลาคม นี้ ผ่านแฟนเพจของตัวเอง โดยจะเปิดตัวที่ประเทศสิงคโปร์

 

โดยการเปิดตัวครั้งนึ้มาในคอนเซ็ปต์ “One More Step. N3. Designed for Life” ซึ่งจุดเด่นของ OPPO ซีรีส์นี้ คือเรื่องของกล้องหมุนได้ 206 องศา ที่ตอบโจทย์ไลฟสไตล์เซลฟีในปัจจุบันเป็นอย่างมาก ฉะนั้น OPPO N3 คงต้องเพิ่มความอลังการให้กับกล้องฟรุ้งฟริ้งเป็นแน่

oppo-n3-metal

 

นอกจากนี้ยังมีภาพหลุดออกมากับเข้าด้วย ว่าจะมาพร้อมบอดี้ที่เป็นสแตนเลสสตีล และ ลิเทียมอัลลอย มาพร้อม 3 สี ขาว, ฟ้า และ ชมพู ทั้งนี้จากภาพหลุดยังสังเกตได้ว่าบอดี้จะบางมาก คล้ายกับ iPhone 6

oppo-n3-leak-1

 

อย่างไรก็ตาม หลายคนคงสงสัยว่า แล้วรุ่น N2 ล่ะ หายไปไหน ทำไมข้ามไป N3 เลย ซึ่งจริงๆ แล้วอาจจะมีการนับรุ่น N1 mini เป็นรุ่น N2 ไปแล้วก็ได้ เลยเปิดตัวเป็นรุ่น N3 ไปเลย

oppo-n3-leak-2

 

คาดว่า OPPO N3 น่าจะมาพร้อมหน้าจอ 5.9 นิ้ว ความละเอียด 1080p ส่วนซีพียูเป็น Snapdragon 805 และแรม 3GB แล้วมารอลุ้นกันในวันที่ 29 ตุลาคมนี้นะครับ

 

Source : OPPO, Geeky-Gadgets

 

 

[Review] เปรียบเทียบกล้อง iPhone 6 Plus กับ Galaxy Note 4

 
iphone-6-vs-Note4
 
ถ้าพูดถึงเรื่องกล้องบนสมาร์ทโฟนแล้ว เรียกว่าเป็นปัจจัยแรกๆ ในการเลือกซื้อเลยก็ว่าได้ ซึ่งแน่นอนว่าสมาร์ทโฟนฝั่งแอนดรอยด์ต่างอัดสเปกสู้ และเอาชนะ iPhone มาตลอด และนี่ก็เป็นอีกครั้ง สำหรับมวยคู่เด็ดระหว่าง iPhone 6 Plus ศิษย์ Apple กับ Samsung Galaxy Note 4 ศิษย์ Android

 
เทียบสเปกกล้องหลัง
iPhone 6 Plus ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล + OIS รูรับแสง F/2.2
Galaxy Note 4 ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล + Smart OIS

 

การทดสอบครั้งนี้จะตั้งค่าในโหมดอัตโนมัติ โดยเปิดฟังก์ชั่น HDR Auto ไว้สำหรับ iPhone 6 ส่วน Galaxy Note  4 จะเปิด HDR On ไว้ตลอด โดยจะทดสอบถ่ายในสภาพแสงทั้งกลางแจ้ง และในอาคาร

 

ทดสอบถ่ายภาพ Close Up

สำหรับการถ่ายภาพ Close Up ในส่วนของความชัดตื่น หรือฉากหลังเบลอนั้น จะทำได้ดีพอๆกัน สามารถถ่ายวัตถุใกล้ๆ แล้วได้ฉากหลังเบลอตามความสามารถของเลนส์ ไม่ได้ใช้แอพแต่งเพิ่มเติมใดๆ ส่วนเรื่องของสีสัน ในสายตามของผมมองว่า Galaxy Note 4 ให้สีที่สดและใสเคลียร์กว่า โดยสังเกตจากภาพดอกลีลาวดี ที่กลีบดอกด้านนอกขาวสว่างกว่า ส่วนสีเหลืองของกลีบดอกด้านในก็ดูอร่ามกว่า iPhone 6 Plus

 

ถ่าย Indoor

เมื่อทดลองเปรียบเทียบภาพที่ถ่ายภายในอาคาร ซึ่งในบางจุดที่ผมทดสอบอย่าง 2 ภาพแรก รูปตุ๊กตา กับวัตถุสีแดงๆ จะมีแสงจากภายนอกมาช่วยด้วยส่วนหนึ่ง โดยภาพที่ออกมาจะสังเกตได้ว่าโทนสีแดงของ iPhone 6 Plus จะอมเหลืองหน่อยๆ ส่วน Galaxy Note 4 จะให้สีแดงสดกว่า ส่วนในเรื่องของ HDR ทั้งคู่สามารถเฉลี่ยแสงระหว่างเงามืดและที่สว่างได้พอดี รวมถึงการจัดการ White Balance ก็เที่ยงตรงไม่เพี้ยน ดูจากภาพแจกันสีทอง ซึ่งทั้ง 2 ก็ถ่ายทอดสีสันออกมาได้ตรงไม่แตกต่างกันมาก

 

ถ่ายกลางคืน ด้วยมือไม่ใช้ขาตั้งกล้อง

เมื่อเปรียบเทียบภาพถ่ายกลางคืนแล้ว เห็นได้ชัดว่า iPhone6 Plus จะให้ภาพที่มืดกว่า Galaxy Note 4 อยู่พอสมควร แต่ในเรื่องของ Noise เมื่อลอง Crop ภาพที่ 100% ปรากฎว่า iPhone 6 Plus สามารถจัดการ Noise ได้ดีกว่า Galaxy Note 4 ส่วนในเรื่องของโทนสี Galaxy Note 4 จะถ่ายทอดแสงของหลอดไฟออกไปในโทนเหลืองมากกว่า iPhone 6 Plus

 
ถ่ายพาโนราม่า

IMG_0096-800px

iPhone 6 Plus

 
20141009_140704-800px

Galaxy Note 4

 

การถ่ายภาพพาโนรามา iPhone 6 Plus สามารถจัดการแสงที่แตกต่างระหว่างที่สว่างกับในร่มได้ดีกว่า โดยส่วนที่สว่างก็ไม่โอเวอร์ และส่วนในร่มก็ไม่อันเดอร์ หรือมืดจนไม่เห็นรายละเอียด ซึ่งจุดนี้ Galaxy Note 4 อาจจะไม่สามารถคำนวนแสงได้ดีพอ นอกจากนี้ในส่วนของความกว้างของเลนส์ iPhone 6 Plus จะเก็บภาพได้กว้างหรือไวด์มากกว่า

 
เห็นผลลัพธ์ของกล้องในการใช้งานๆ แต่ละสถานที่กันไปแล้ว ซึ่งจะพบว่ามีจุดเด่น จุดด้อยแตกต่างกันบ้างเล้กน้อย ดังนั้นอยากให้ผู้อ่านลองตัดสินใจกันดูนะครับว่าชอบภาพจาก iPhone 6 Plus หรือ Galaxy Note 4 อันไหนมากกว่ากัน

 

 

อินเทลเปิดตัว อินเทล คอร์ เอ็ม โปรเซสเซอร์ สำหรับ Full PC แบบ 2 in 1 และ แท็บเล็ตดีไซน์บางเฉียบที่ไม่ใช้พัดลม

 

intel-core-m

 

อินเทล ผู้นำการผลิตชิปโปรเซสเซอร์สำหรับคอมพิวเตอร์อันดับโลก เปิดตัว อินเทล คอร์ เอ็ม โปรเซสเซอร์ ตัวใหม่ ภายใต้ชื่อโค้ดเนม บรอดเวลล์ วาย (Broadwell Y) ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ที่มีสถาปัตยกรรมการผลิตที่เล็กเพียง 14 นาโนเมตรชิ้นแรกของโลกที่มีวางจำหน่ายแล้ว โดยชิปรุ่นใหม่นี้ ถูกออกแบบมาเพื่ออุปกรณ์แบบ 2 in 1 และแท็บเล็ต หรือแล็บท้อปที่เน้นดีไซน์บางเฉียบ เนื่องจากตัวซีพียูที่มีขนาดเล็กกว่ารุ่นก่อนหน้าถึงร้อยละ 50 และใช้ไฟเพียง 4.5 วัตต์ จึงทำให้ลดความร้อนลงถึงร้อยละ 60 เลยทำให้สามารถออกแบบคอมพิวเตอร์ได้บางเบาและไม่ต้องใช้พัดลมในการระบายความร้อน ซึ่งสามารถออกแบบได้บางน้อยกว่า 9 มิลลิเมตรหรือบางกว่าแบตเตอรี่แบบ AAA เลยทีเดียว

 

ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานคอมพิวเตอร์ Intel Core M Processor ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในแบบ Full PC ด้วยความเร็วขึ้นถึงร้อยละ 50 และประมวลผลด้านกราฟฟิกได้ดีกว่าถึงร้อยละ 40 เมื่อเทียบกับ อินเทล คอร์ โปรเซสเซอร์ เจนเนอเรชั่นที่ 4 ก่อนหน้านี้

Broadwell_Package_Diagonal

 

ดังนั้นด้วยประสิทธิภาพของซีพียูรุ่นใหม่นี้จึงทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ 2 in 1 ออกมามากมายจากผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น Acer, ASUS, Dell, HP และ Lenovo ซึ่งได้เผยตัวต้นแบบในงาน IFA เมื่อต้นปีที่ผ่านมา และมีแผนที่จะนำเข้ามาวางจำหน่ายภายในสิ้นปีนี้กว่า 20 รุ่น เช่น Acer Aspire Switch 12 ที่ต่อยอดจากอุปกรณ์ 2 in 1 ด้วยหน้าจอ Full HD ขนาด 12.5 นิ้ว พร้อมด้วยคีย์บอร์ดแม่เหล็กที่มีขาตั้งให้ปรับระดับการใช้งานได้สะดวกสบายถึง 5 ระดับ

Acer Switch 12

 

ASUS Transformer T300 Chi อุปกรณ์แบบ 2 in 1 ที่บางเบาลงกว่าเดิม

ASUS Transormer T300 Chi

ในส่วนของราคาเฉลี่ยของอุปกรณ์แบบ 2 in 1 ณ ตอนนี้จะเริ่มตั้งแต่ 1 หมื่นต้นๆ ไปจนถึง 7 หมื่นบาท และมีแนวโน้มว่าจะถูกลงเรื่อยๆ เมื่อมีการใช้งานที่เพิ่มมากขึ้น

CoreM-inside

 

ทั้งนี้ด้านฝั่ง ซีพียู สำหรับสมาร์ทโฟน หลังจากที่ประสบความสำเร็จจาก ASUS Zenfone และ FonePad ที่ใช้ซีพียูของอินเทลกว่า 10 รุ่น ก็เตรียมพัฒนารุ่นใหม่ออกมาภายในปีหน้า ซึ่งก็จะได้เห็น ซีพียูตระกูลโซเฟีย (SoFIA) 3G Dual Core ที่เน้นกราฟฟิกที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพสูง ใช้แบตได้นานขึ้น และจะมีรุ่น 3G Quad Core ออกมาเพิ่มในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าอีกด้วย นอกจากนี้อินเทลยังเชื่อมั่นในประสิทธิภาพที่สูงกว่า แม้ว่าจะเทียบกับจำนวน Core ของคู่แข่งที่มีมากกว่าก็ตาม ซึ่งมีผลการทดสอบจากหลายสำนักที่เปรียบเทียบแล้ว อินเทลให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า พร้อมกันนี้จะต้องสร้างความเข้าใจอย่างถูกต้องให้กับผู้บริโภค โดยไม่มองเพียงตัวเลขของจำนวน Core ที่มากไว้ก่อน ในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว

Inter-zenfone

 

 

ดีแทค จัดแพ็คเกจ Love Buffet โทรไม่อั้น เล่นเน็ตเต็มสปีด แบบไม่ติด FUP เป็นรายแรกในไทย

 

Love-buffet-03

 

หลังจากที่ ซิคเว่ เบรคเก้ กลับมานั่งแท่น CEO ที่ดีแทคอีกครั้ง พร้อมกับประกาศคอนเซ็ปต์ “รักดีแทค” และเพื่อเป็นการสนองแนวทางการทำงานแบบ รักจริงๆ ทำจริงๆ ในวันนี้จึงได้เปิดตัวแพ็คเกจใหม่ Love Buffet สำหรับลูกค้าแบบรายเดือน โทรทุกเครือข่ายไม่จำกัด ฟรีสูงสุด 16 ชม. และใช้อินเทอร์เน็ตได้เต็มสปีดตลอดเวลาเป็นรายแรกและรายเดียวของประเทศไทย ภายใต้คอนเซ็ปต์ LOVEVOLUTION

 

แพ็คเกจ Love Buffet มาพร้อมค่าบริการเริ่มต้นที่ 899 บาท สามารถโทรฟรีได้ทุกเครือข่ายตามช่วงเวลาที่กำหนด ส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ต 3G/4G เต็มสปีด แบบไม่ติด FUP หรือการลดความเร็วลงเมื่อใช้ครบตามจำนวนนั้น ในแพ็คเกจนี้ก็จะมีการกำหนดปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตเอาไว้เช่นกัน โดยเริ่มต้นที่ 1 GB ซึ่งเมื่อใช้ครบตามจำนวนดังกล่าวแล้ว จะคิดค่าบริการส่วนเกินเพียง 15 บาท ต่อ 100 MB ซึ่งจะตัดค่าบริการรายเดือนเพิ่มอัตโนมัติในระบบ โดยทุกครั้งที่มีการใช้งานครบหรือเกินจากแพ็คเกจก็จะมี SMS แจ้งเตือนให้ลูกค้าได้ทราบเพื่อจำกัดการใช้งานด้วยตนเองได้ หรือจะสมัครแพ็กเกจเสริมอินเทอร์เน็ต 3 GB เพิ่มได้อีกในราคาเพียง 300 บาทเท่านั้น

 

ทั้งนี้สำหรับลูกค้าใหม่ จะได้รับส่วนลดค่าบริการรายเดือน 50% ใน 3 เดือนแรก อีกด้วย
Love-buffet-01
Love-buffet-02

 

นอกจากนี้หากเครื่องโทรศัพท์ของลูกค้าจับสัญญาณได้เพียงแค่ EDGE ทางดีแทคจะไม่คิดค่าบริการในส่วนนี้อีกด้วย ส่วนระบบ 3G และ 4G ก็กำลังเร่งติดตั้งสถานีฐานให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นโดยภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ผู้ใช้บริการในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจะสัมผัสได้ถึงความเร็วในการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นได้อย่างชัดเจน