ดีแทคและเทเลนอร์กรุ๊ปเปิดตัว dtac Accelerate ลงทุนตั้งบริษัทสร้างสตาร์ทอัพ เพื่อสร้างโอกาสในการหานวัตกรรมทางธุรกิจใหม่

dtac-startup

 

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค เปิดตัวโครงการ ดีแทค แอ็คเซอลอเรท (dtac Accelerate) ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท จัดตั้งบริษัทลงทุนให้กลุ่มสตาร์ทอัพ ภายใต้กลุ่มธุรกิจ Corporate Strategy and Business Innovation โดยในงานได้ประกาศแต่งตั้ง นายแอนดรูว์ ควอลเสท ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Corporate Strategy and Business Innovation เป็นผู้บริหารโครงการนี้ และทำภารกิจหลักในการช่วยขับเคลื่อนธุรกิจทางด้าน digital Services ในการสร้างความแตกต่างให้กับดีแทคในตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการใช้ข้อมูลจาก Mobile Internet รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง

 

ผู้ที่สนใจสอบถามรายละเอียดโครงการ dtac Accelerate สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ http://bit.ly/NUv8iR เพื่อเข้าฟัง dtac Accelerate 2.0 : Information Session โดยทุกคำถามจะมีคำตอบในวันอังคารที่ 18 มีนาคม 2557 อาคารดีแทค เฮ้าส์ จามจุรีสแควร์ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป โครงการเปิดรับสมัครผลงานตั้งแต่วันนี้ – 16 เมษายน 2557 สำหรับผู้ที่สนใจร่วมโครงการสามารถส่งผลงานนำเสนอแนวคิด แผนการดำเนินงาน วิธีการใช้งาน การสร้างรายได้ กลุ่มเป้าหมาย ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ หรือเข้ามาดูรายละเอียดและกรอกใบสมัครได้ที่ www.dtac.co.th/accelerate โดยจะมีการคัดเลือกผลงาน 15 ทีมแรก ในวันที่ 17 – 20 เมษายน 2557 หลังจากนั้นจัดนำเสนอผลงานในรอบแรก (Pitch day) 5 ทีมสุดท้ายในวันที่ 22 เมษายน เริ่มปัจฉิมนิเทศ (Orientation) วันที่ 28 เมษายน เริ่มคอร์สอบรม intensive boot camp ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม และนำเสนอผลงานรอบสุดท้ายประกาศผลในวัน Demo day ในเดือนสิงหาคมนี้

 

[AEC Review] ซื้อซิมเน็ต เที่ยวเวียดนาม เล่น 3G ได้ไม่จำกัด แค่ 290 บ.

 

เนื่องจากช่วงนี้ได้มีโอกาสเดินทางไปสำรวจประเทศเพื่อนบ้านของเราในกลุ่มอาเซียนอยู่บ่อยๆ ซึ่งปีหน้าเราก็จะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC กันแล้ว นั่นยิ่งทำให้เราสามารถเดินทางท่องเที่ยวไปมาหาสู่กันได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้นสำหรับผมที่จำเป็นต้องติดต่อสื่อสารอยู่ตลอดเวลา จึงไม่พลาดที่จะลองใช้บริการเครือข่าย 3G ของแต่ละประเทศ ซึ่งที่เวียดนามก็มีผู้ให้บริการมากถึง 5 เจ้าด้วยกันคือ mobifone, vinaphone, viettel, Beeline และ VNMobile

 

ทริปนี้ผมบินมาลงที่โฮจิมิน ซึ่งอยู่ในส่วนของเวียดนามใต้ พอถึงสนามบินนานาชาติ Tan Son Nhat (เติน เซิน เณิ้ต) แล้ว ตรงทางออกจากมีเคาน์เตอร์ขายซิม อยู่ 2 เครือข่ายคือ vinaphone กับ mobifone แต่ตอนที่ผมไปถึงประมาณ 3 ทุ่มกว่าแล้ว (เวียดนามเวลาเดียวกับไทย) เลยเหลือแค่ช็อปของ mobifone เปิดอยู่เจ้าเดียว ไฟล์ทบังคับแล้วสินะ

sim-net-vietnam-01
ช็อป mobifone ที่เราลองใช้บริการ

 

sim-net-vietnam-02
ช็อปของ vinaphone เป็นแบบนี้นะครับ

 

เมื่อขอดูแพ็กเกจ ปรากฎว่าเป็นแพ็กเกจของเครือข่าย viettel ซะงั้น อันนี้ไม่แน่ใจว่า 2 เครือข่ายนี้เค้าเป็นบริษัทในเครือกันรึเปล่านะครับ เป็นอันว่าเราเลือกใช้เครือข่ายของ viettel โดยแพ็กเกจที่เลือกคืออันที่ถูกสุด 190,000 เวียดนามดอง หรือประมาณ 290 บ. เล่นเน็ตไม่จำกัด 600 MB โดยพนักงานบอกว่าซิมนี้มีอายุ 1 เดือน ซึ่งเหลือเฟือมากสำหรับผมที่พักแค่ 3 คืน หากจะใช้โทร ก็สามารถโทรออกต่างประเทศได้ 8 นาที และโทรภายในเวียดนามได้ 63 นาที ซึ่งผมไม่ได้ใช้เลย แอบเสียดายอยู่เหมือนกันว่าทำไมไม่มีเฉพาะแพ็กเกจค่าเน็ตอย่างเดียว ไม่งั้นคงจะได้ราคาถูกกว่านี้

sim-net-vietnam-06

 

เมื่อตกลงเรียบร้อยแล้วก็เอามือถือให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนซิมให้ ซึ่งมือถือของผมใช้ Micro SIM พนักงานก็บริการตัดซิมให้ฟรีนะครับ ไม่มีชาร์จค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่น่ากลัวนิดนึงคือใช้กรรไกรตัด ฟลัว ฟลัว ฟลัว… เลยจร้า แต่ก็เป๊ะอยู่ สงสัยคงจะตัดจนเชี่ยวชาญ

sim-net-vietnam-03
หน้าตาซิมของ Viettel จะมีเบอร์โทรติดอยู่กับการ์ดมาให้ด้วย

 

เอาล่ะครับเมื่อใส่ซิมเรียบร้อยแล้วก็มาลองเทสสปีดกันดู โดยใช้แอพ Speedtest ผลออกมาคือ ดาวน์โหลดได้ถึง 5.74 Mbps และอัพโหลดได้ 1.74 Mbps ซึ่งถือว่าเครือข่าย 3G ของเค้าก็แรงใช้ได้เลยทีเดียวครับ

sim-net-vietnam-07

 

สำหรับการใช้งานตลอด 3 วัน ที่ผ่านมานั้น จะมีบ้างในบางจุดที่ความเร็วเหลือแค่ EDGE ซึ่งตอนแรกผมคิดว่าเราใช้เน็ตเกินลิมิต 600 MB ไปรึเปล่า มันเลยตัดสปีดลง แต่พอใช้ไปเรื่อยๆ ก็มีสัญลักษณ์ 3G ขึ้นมาตามปกติ เลยคิดว่าน่าจะเป็นในเรื่องของสัญญาณในพื้นที่นั้นมากกว่า แต่โดยรวมก็ถือว่าดาวน์โหลดได้เร็วทันใจ เวลาไปเที่ยวในเมืองเปิด Google Map หรือหาข้อมูลใน Trip Advisor ก็สะดวกไม่มีสะดุดให้หงุดหงิดใจเลยครับ ใครที่จะไปเที่ยวเวียดนามใต้ หรือ โฮจิมินห์ ก็ลองไปซื้อซิมใช้ระหว่างท่องเที่ยวได้นะครับสะดวกดี แถมราคาไม่แพงด้วย ดีกว่าต้องเปิดโรมมิ่งไปจากเมืองไทย อ่อ แม้เวียดนามจะปกครองแบบคอมมิวนิสต์ แต่ก็ไม่ได้บล็อค Facebook, Twitter, Instagram หรือ Youtube เหมือนประเทศจีนนะครับ เล่นโซเชียลได้ตามปกติเลยนะครับ

 
ท้ายนี้ขอนำภาพสวยๆ จากเมืองโฮจิมินห์ มาให้ชมกันเล่นๆ ด้วยนะครับ

vietnam-04
โบสถ์ Notre Dame Cathedral

 

vietnam-05
ด้านข้าง โบสถ์ Notre Dame Cathedral

 

vietnam-03
ตึก Bitexco Financial Tower

 

vietnam-02
ตึก Bitexco ติดอันดับ 6 ของตึกที่เป็น icon building ของโลก

 

vietnam-01
สวนสาธารณะใจกลางเมือง

 

vietnam-06
ร้านขายของชำ ในสไตล์ท้องถิ่น

 

รวมภาพหลุดสุดฮา จากมุมมอง Google Street View

 

ระหว่างทีผมกำลังเขียนบทความเรื่อง Selfie บังเอิญไปเจอกับทวีตเตอร์แอคเคาท์หนึ่งที่ใช้นามว่า @GooglesView ซึ่งเป็นแหล่งรวมภาพฮา สุดติ่ง ในมุมมองของ Google Street View เชื่อว่าแต่ละภาพน่าจะเป็นการตัดต่อเพื่อความฮาเท่านั้นนะครับ เพราะบางภาพอย่างผู้ร้าย 2 คนที่กำลังลักพาตัวใครบางคนอยู่ ซึ่งหากเป็นภาพในระหว่างที่รถ Street View วิ่งบันทึกอยู่ คงไม่น่าจะปล่อยผ่านไปได้นะครับ ฮา…

 

ทั้งนี้ในรายละเอียดของแอคเคาท์นี้ ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Google หรือ Google Maps แต่อย่างใด ดังนั้น ภาพทั้งหลายจึงถูกสร้างมาเพื่อความฮาล้วนๆ นะครับ เชิญดูตัวอย่างบางส่วนกันได้เลย

 

googleview02

 

googleview04

 

googleview03

 

googleview01

 

googleview06

 

googleview05

 

Source : @GooglesView

ถ่ายภาพ Selfie เทรนด์ฮิตติดแท็กเหล่าเซเล็ป

 

หลายคนคงสงสัยอยู่ไม่น้อยว่ากระแสการถ่ายภาพแบบ Selfie มันคืออะไรยังไง โดยเฉพาะในงานออสการ์ที่ผ่านมา สื่อออนไลน์ต่างก็พาดหัวข่าวการถ่ายภาพ Selfie ของพิธีกรงานออสการ์ โดยใช้สมาร์ทโฟนยี่ห้อดังอย่างซัมซุงที่เป็นสปอนเซอร์ในงาน ขึ้นมาถ่ายภาพร่วมกับเหล่าเซเล็บนักแสดงชื่อดัง จนภาพดังกล่าวกลายเป็นภาพที่ถูกรีทวีตมากที่สุดในวันเดียวถึง 1 ล้านกว่าครั้ง แซงหน้าสถิติเก่าของบารัคโอบาม่า ไปเรียบร้อย

Ellen-most RT

จริงๆ แล้วการถ่ายภาพ Selfie (อ่านว่า เซลฟี่) ก็คือการถ่ายภาพตัวเอง แล้วโพสต์ไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter หรือ Instagram โดยอาจจะถ่ายด้วยสมาร์ทโฟน หรือกล้องดิจิตอลด้วยก็ได้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือจะต้องถือกล้องแล้วกดชัตเตอร์ถ่ายด้วยตัวเอง

 

นอกจากนี้ CNN ยังรายงานข่าวว่า Oxford ได้ประกาศให้ Selfie เป็น Word of the year 2013 หรือคำมาแรงแห่งปี 2013 อีกด้วย และได้มีการบัญญัติศัพท์คำว่า Selfie ลงใน Oxford Dictionary โดยมีความหมายว่า “A photograph that one has taken of oneself, typically one taken with a smartphone or webcam and uploaded to a social media website

 

วัฒนธรรมการถ่ายภาพ Selfie

วัฒนธรรมการถ่ายภาพตัวเอง ถือว่ามีมานานแล้ว ดูได้จากภาพด้านล่างที่อาจจะถือว่าเป็นภาพถ่าย Selfie ภาพแรกของโลกเลยก็ว่าได้ ถูกถ่ายตั้งแต่ปี 1920 ด้วยกล้องขนาดใหญ่มาก ต้องถือ 2 คนถึงจะถ่ายได้กันเลยนะครับ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการถ่ายภาพ Selfie นี้ไม่ใช้เรื่องแปลกอะไร แถมมีมานานมาแล้วอีกด้วย
first_selfie
แต่สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดวัฒนธรรมใหม่จนกลายเป็นคำว่า Selfy นั้น ก็เพราะโซเชียลเน็ตเวิร์คที่ทุกคนสามารถแสดงตัวตนออกมาในแบบที่อยากให้คนอื่นเห็นและเข้าใจ แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้เป็นตัวตนที่แท้จริงก็ตาม จึงทำให้เกิดแอพพลิเคชั่นสำหรับการแต่งรูป ใส่ฟิลเตอร์ต่างๆ อย่าง Camera360, More Beaute , Line Camera ออกมามากมาย หรือถึงขั้นอยู่ในฟังก์ชั่นกล้องถ่ายรูปบนสมาร์ทโฟนเลยก็มี

 

ไปไกลถึงกับมี Selfie Olympic
สำหรับการโพสรูปใน Instagram คำว่า #Selfie ถือว่าเป็น Tag ยอดฮิตติดอันอับต้นของโลกเลยนะ ไม่ว่าจะเป็นเหล่าเซเล็ปฮอลลีวูด หรือดาราดังระดับโลกต่างก็ติด Tag นี้เวลาโพสต์รูปตัวเองขึ้น Instagram หรือ Twitter และเมื่อไม่นานมานี้กับมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวหรือ Sochi Olympic 2014 ก็ได้มีการสร้างกระแสให้คนถ่ายภาพในสไตล์ Selfie ที่แปลกแหวนแนวกว่าชาวบ้าน พร้อมติดแท็ก #SelfieOlympics หรือ #SelfieGame ซึ่งก็มีคนส่งภาพแนวเกรียนๆ อย่างถ่ายตัวเองในห้องน้ำ แล้วข้างหลังมีคนกำลังจะ…อยู่ หรือจะเป็นการถ่ายตัวเองจากการปีนไปอยู่บนยอดหอคอย ซึ่งก็ดูหน้าหวาดเสียวมากทีเดียว ตามไปดูความเกรียนเพิ่มเติมกันได้ในทวีตเตอร์ @SelfiesOlympicz กันได้นะครับ

 

selfie-05

Selfie-01

 

selfie-02

 

selfie-04

 

selfie-06

 

 

อย่างไรก็ตามแม้ว่าคุณจะถ่ายรูปในสไตล์ไหน จะ Selfie ยังไง ก็สุดแล้วแต่ ขอเพียงว่าให้เรามีความสุข สนุกกับสิ่งที่ทำ โดยที่ไม่สร้างความเดือนร้อนให้คนอื่น และไม่เสี่ยงกับตัวเองจนเกินไปนะครับ ว่าแล้วก็อย่าลืมติด Tag #Selfie ก่อนโพสต์เพื่อแชร์ให้ผู้คนทั่วโลกได้รับรู้กันด้วยนะครับ

 

Unbox : แกะกล่อง Galaxy Note 3

เจ๊รู้นะคะว่า Galaxy Note 3 เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นหนึ่งที่หลายคนแอบรอคอยว่าเมื่อไหร่จะวางขาย ฉันจะรีบไปสอย … วันนี้ขายแล้วค่ะ ไปสอยกันมาได้เลย แต่…ถ้ายังตัดสินใจไม่ได้ กรุณาอ่านแกะกล่องของเจ๊ก่อนก็ยังไม่สายนะคะ เพราะเจ๊อุตส่าห์ฺแหกขี้ตาตื่นไปซื้อมาแต่เช้าเพื่อแฟนๆอันเป็นที่รักยิ่งของเจ๊ค่ะ เชิญทัศนาตามอัธยาศัย

 

note3_01
กล่อง ECO สไตล์เดียวกับ Galaxy S4 เลยจ้ะ
note3_02
นอนอยู่อย่างเรียบร้อย (อันนี้เจ๊เอาไปติดฟิล์มมาแล้วนะ)

 

note3_03
อุปกรณ์ทั้งหมดในกล่อง 1. ตัวเครื่อง 2. แบตเตอรี่ 3. คู่มือ และใบรับประกัน 4. หูฟัง พร้อมจุกยางหลายขนาด 5. สาย USB 6. อะแดปเตอร์ชาร์จไฟบ้าน 7. อุปกรณ์เปลี่ยนหัวปากกา S Pen

 

note3_04
จอสีสด และ เต็มตา ตามสไตล์ฺ Super AMOLED แต่ถ้าใครแสบตาอาจจะไม่ชอบก็ได้

 

note3_05
วัสดุด้านหลังตัวเครื่องเป็นพลาสติก ย้ำ!!! พลาสติกขึ้นลายหนัง (ไม่ใช่หนังเทียมใดๆ) เจ๊แอบเพลียตรงนี้ ถ้าเป็นหนังเทียมก็ยังดีกว่าพลาสติกแบบนี้นะ ดูหลอกลวงมากๆ และไม่สมราคาค่าตัวเอาเสียเลย

 

note3_06
ดูใกล้ๆ เหมือนหนังใช่ไหม…แต่ไม่ใช่นะจ๊ะ พลาสติกทั้งดุ้น

 

note3_07
ปากกา S Pen ใหม่

 

note3_08
แอพที่ติดเครื่องมา มีการจัดเป็นโฟลเดอร์ไว้ให้ด้วย

 

note3_09
ฟีเจอร์ Air Commard เมื่อดึงปากกา S Pen ออก ก็จะทำงานทันที

 

note3_10
จอใหญ่สะใจดีตอนถ่ายภาพ

 

note3_11
ยังถือได้ในมือ ไม่ใหญ่จนเกินไป

 

note3_12
ฝาหลังที่ดูผ่านๆก็สวยดี

สรุป

ตามภาพนะคะทุกท่าน กับราคาค่าตัว 23,500 บาท จอใหญ่ขึ้น ดีไซน์คล้ายๆเดิม ฝาหลังเป็นพลาสติกกัดลายหนัง (ไม่ใช่หนังเทียม) และ CPU Exynos 1.9 GHz Octa-core กับ RAM 3 GB ในเวอร์ชั่น 3G/WiFi ?ส่วนถ้าใครต้องการเวอร์ชั่นที่รองรับ 4G LTE ที่ใช้ CPU Snapdragon 800 คงต้องไปซื้อเครื่องหิ้วเครื่องนอกนะคะ

Facebook เปลี่ยนดีไซน์บนหน้าเว็บใหม่ให้เหมือนในมือถือ

หลังจากที่มีการปรับเปลี่ยนดีไซน์ไปแล้วครั้งนึง แต่หน้า News Feed ของ Facebook ก็ดูยังไม่เป็นที่ถูกใจเท่าไหร่ วันนี้ Facebook ได้ออกมาประกาศว่า จะมีการเปลี่ยนโฉม Facebook บนเว็บบราวเซอร์ใหม่ โดยยึดดีไซน์ของ Facebook แอพบนมือถือ ทาง Facebook กล่าวว่า อยากให้ผู้ใช้ที่ใช้ Facebook บนเว็บแล้วเปลี่ยนไปใช้บนมือถือรู้สึกว่ามันเหมือนกันจะได้ไม่สับสน
 
 

สิ่งที่จะเปลี่ยนไปก็คือ รูปที่ใหญ่ขึ้น และเปลี่ยนฟอนต์ใหม่ด้วย
 
 
อันนี้คือหน้า News Feed ปัจจุบัน

fb_old_feed_2

 
 

ส่วนอันนี้อันใหม่ จะเห็นว่าพวก Pages Feed  พวก Group Feed และ Photos หายไป

facebook_new_news_feed_cropped

 
 

เปลี่ยนสีสไลด์บาร์เป็นสีดำ และมีการแบ่งประเภทของการโพสต์ชัดเจน อย่างเช่นการแชร์ก็จะมารวมอยู่ด้วยกัน

facebook_failed_news_feed_test_cropped

 
 

ที่ดูเน้นๆก็จะเป็นการขยายรูปภาพให้ใหญ่ขึ้นมากกว่า ส่วนในเรื่องการค้นหา หรือ Search ก็จะทำให้การค้นหาสะดวกขึ้น เช่นอะไรที่คนค้นหาบ่อยๆก็จะขึ้นมาในขณะพิมพ์

facebook_news_feed_most_recent

 
 

ทาง  Facebook จะเริ่มปล่อยการอัพเดทดีไซน์ใหม่อีกประมาณ 2-3 สัปดาห์ข้างหน้านี้ ก็น่าจะปลายเดือนพอดี ยังไงรอดูของจริงอีกที

 

Source: TheVerge

TrueBook พรีเมี่ยม แอพพลิเคชั่น เอาใจนักอ่านยุคดิจิตอล จัดโปรโมชั่นแพ็กเกจดาวน์โหลดนิตยสาร 3 เล่ม จ่ายเพียง 99 บาท

TBP

 

บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด เอาใจนักอ่าน ยุคดิจิตอล จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ ซื้อแพ็กเกจดาวน์โหลดนิตยสารอินเตอร์แอคทีฟ 3 เล่ม ในราคาเพียง 99 บาท (จากเดิม 2 เล่ม) ผ่าน ทรูบุ๊ค พรีเมี่ยม แอพพลิเคชั่น สนุกครบทั้งภาพ เสียง และ แอนิเมชั่น ตั้งแต่วันนี้ – 25 มีนาคม 2557 หาซื้อได้ที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ

 

บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด เปิดประสบการณ์การอ่านในรูปแบบใหม่ด้วย คอนเท้นท์ มัลติมีเดีย เต็มรูปแบบ สนุกครบทั้งภาพ เสียง และ แอนิเมชั่น ที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน ผ่าน ทรูบุ๊ค พรีเมี่ยม แอพพลิเคชั่น คลังหนังสือที่รวบรวมหนังสือและนิตยสารอินเตอร์แอคทีฟไว้มากที่สุดเป็นแห่งแรกในประเทศไทย มีทั้งนิตยสาร GM, GM Watch, GM Car, VOLUME, Daybeds, Home&Décor, Andaman365°, L’Officiel และ XO Autosport ซื้อแพ็กเกจดาวน์โหลดนิตยสารอินเตอร์แอคทีฟได้ที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ สามารถดาวน์โหลด ทรูบุ๊ค พรีเมี่ยม แอพพลิเคชั่น ได้ที่ App Store และใช้ได้กับเครื่อง iPad และ iPad Mini ทุกรุ่น

 

App Store : TrueBook

Play Store : TrueBook

 

TrueBook พรีเมี่ยม แอพพลิเคชั่น เอาใจนักอ่านยุคดิจิตอล จัดโปรโมชั่นแพ็กเกจดาวน์โหลดนิตยสาร 3 เล่ม จ่ายเพียง 99 บาท

TBP

 

บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด เอาใจนักอ่าน ยุคดิจิตอล จัดโปรโมชั่นสุดพิเศษ ซื้อแพ็กเกจดาวน์โหลดนิตยสารอินเตอร์แอคทีฟ 3 เล่ม ในราคาเพียง 99 บาท (จากเดิม 2 เล่ม) ผ่าน ทรูบุ๊ค พรีเมี่ยม แอพพลิเคชั่น สนุกครบทั้งภาพ เสียง และ แอนิเมชั่น ตั้งแต่วันนี้ – 25 มีนาคม 2557 หาซื้อได้ที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ

 

บริษัท ทรู ดิจิตอล คอนเท้นท์ แอนด์ มีเดีย จำกัด เปิดประสบการณ์การอ่านในรูปแบบใหม่ด้วย คอนเท้นท์ มัลติมีเดีย เต็มรูปแบบ สนุกครบทั้งภาพ เสียง และ แอนิเมชั่น ที่ไม่เคยสัมผัสที่ไหนมาก่อน ผ่าน ทรูบุ๊ค พรีเมี่ยม แอพพลิเคชั่น คลังหนังสือที่รวบรวมหนังสือและนิตยสารอินเตอร์แอคทีฟไว้มากที่สุดเป็นแห่งแรกในประเทศไทย มีทั้งนิตยสาร GM, GM Watch, GM Car, VOLUME, Daybeds, Home&Décor, Andaman365°, L’Officiel และ XO Autosport ซื้อแพ็กเกจดาวน์โหลดนิตยสารอินเตอร์แอคทีฟได้ที่ 7-11 ทุกสาขาทั่วประเทศ สามารถดาวน์โหลด ทรูบุ๊ค พรีเมี่ยม แอพพลิเคชั่น ได้ที่ App Store และใช้ได้กับเครื่อง iPad และ iPad Mini ทุกรุ่น

 

App Store : TrueBook

Play Store : TrueBook

 

ทรูเตรียมขยาย 4G ทั่วกรุงเทพ และเพิ่มอีก 25 หัวเมืองใหญ่

 

truecrop

 

จากงานแถลงทิศทางการดำเนินธุรกิจกลุ่มทรูในวันนี้ (6 มี.ค. 57) กลุ่มทรูเตรียมพร้อมเป็นผู้ให้บริการคอนเวอร์เจนซ์เต็มรูปแบบโดยปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร และกำหนดทิศทางมุ่งเน้นลูกค้าเป็นสำคัญ เสริมความแข่งแกร่งให้ธุรกิจด้วยการบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมตั้งเป้าเพิ่มผลกำไรให้ได้ภายปี 2558

 

ทั้งนี้ในส่วนของการขยายโครงข่าย 4G ทรูได้ตั้งเป้าว่าจะเพิ่มพื้นที่ให้บริการทั่วกรุงเทพ ภายในไตรมาสแรกของปีนี้ และอีก 25 หัวเมืองใหญ่ นอกจากนี้ยังเตรียมพร้อมสำหรับการประมูลจัดสรรคลื่นความถี่ 4G ที่ กสทช. กำลังจะจัดขึ้น ซึ่งการได้คลื่นความถี่มามากเท่าไร ก็ถือเป็นการได้เปรียบทางธุรกิจของผู้ให้บริการเครือข่ายมากเท่านั้น

 

ปัจจุบันทรูมีลูกค้าที่อยู่ภายใต้คลื่นความถี่ 3G 2100 MHz กว่า 5 ล้านราย ส่วนฐานลูกค้าเดิมที่อยู่บนคลื่นความถี่ 850 MHz นั้นยังมีอีกกว่า 10 ล้านราย

 

นอกจากนี้ทรูยังได้เริ่มลงทุนระบบเครือข่ายมือถือในประเทศพม่าอีกด้วย ส่วนธุรกิจอื่นเช่น True Vision และ Internet Broadband ถ้าทางรัฐบาลสนใจ ทรูก็ยินดีที่จะลงทุนทำธุรกิจ ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในพันธกิจของกลุ่มทรูที่จะก้าวเป็นบริษัท Top 10 ในภูมิภาคเอเชียให้ได้ภายใน 5 ปี

 

ด้านธรุกิจ Broadband Internet จะมีการวางโครงข่ายเพิ่มขึ้นให้ครอบคลุมอีก 1 ล้านครัวเรือน รวมทั้งหมดเป็น 5 ล้านครัวเรือน

 

สำหรับดิจิตอลทีวีที่ได้ไป กลุ่มทรูก็มีความพร้อมอยู่แล้วทั้งในแง่อุปกรณ์และคอนเทนต์ โดยจะนำช่อง True 10 เป็นช่องวาไรตี้ และช่อง TNN ลงในช่องข่าว โดยปีแรกตั้งเป้าว่าจะต้องไม่ขาดทุนในส่วนของการจัดการหรือโอเปอเรชั่นด้วยตัวเอง

 

ดังนั้นในปีนี้กลุ่มทรูตั้งเป้างบลงทุนรวมทั้งหมดกว่า 26,500 ล้านบาท โดยคาดว่าธุรกิจกลุ่ม Mobile จะโตขึ้น 13-17 %, กลุ่ม Broadband จะโตขึ้น 21-23% และ กลุ่ม CaTV จะโต 7-9% สรุปรวม 3 กลุ่ม คาดว่าจะโต 8-9%

 

[Sneak Preview] Olympus OM-D E-M10 กล้อง Mirrorless บางเบาระดับ Super Premium Small

 

Olympus-EM10-01

 

วันนี้ (5 มี.ค. 57) โอลิมปัสได้เปิดตัวกล้องรุ่นใหม่ล่าสุด OM-D E-M10 ซึ่งถือเป็นกล้อง Mirrorless ในตระกูล OM-D ที่ได้พัฒนาต่อยอดจากคอนเซ็ปของดีไซน์คลาสิก เหมือนกล้องฟิล์มในสมัยก่อน ให้มีขนาดที่กะทัดรัดและน้ำหนักเบา แต่อัดแน่นมาด้วยประสิทธิภาพ เพื่อให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการคุณภาพของภาพที่สูงในระดับ DSLR แต่ใช้งานง่ายสะดวกต่อการพกพานั่นเอง มาพร้อมความละเอียด 16 ล้านพิกเซล ระบบโฟกัส 81 จุดแบบ Fast AF และติดตัั้งระบบลดภาพสั่นไหวแบบ 3 แกนในตัวกล้อง ได้ภาพชัดสุดๆ ไม่ว่าจะใช้งานร่วมกับเลนส์แบบไหนก็ตาม ทั้งนี้ยังมี Wi-Fi ในตัวให้สามารถแชร์ภาพไปยังสมาร์ทโฟนเพื่อโพสต์ขึ้นโซเชียลเน็ตเวิร์คต่างๆ ได้ทันที ว่าแล้วก็ไปชมโฉมหน้าตัวเป็นๆ กันเลยดีกว่าครับ

 

Olympus-EM10-02
ใส่กริปแล้วหล่อเลย แถมออกแบบให้ถอดเพื่อเปลี่ยนแบตโดยไม่ต้องไขน็อตอีกด้วย

 

Olympus-EM10-03
หน้าจอทัชสกรีน

 

Olympus-EM10-04
อุปกรณ์เสริม ฝาเปิดปิดเลนส์อัตโนมัติ ราคา 1,490 บ.

 

Olympus-EM10-05
เลนส์คิทรุ่นใหม่ บางที่สุดในโลกเพียง 64 มม. สำหรับทางยาวโฟกัส 14-42 มม. F3.5-5.6

 

Olympus-EM10-06
ปุ่มควบคุมมาครบ จัดเต็ม ใช้งานง่าย ควบคุมในแบบแมนวลได้

 

Olympus-EM10-07
แป้นควบคุมแบบ Dial มาให้ 2 ปุ่ม ใช้ปรับสปีดชัตเตอร์ และรูรับแสงในโหมดแมนวลได้เหมือนกล้อง DSLR

 

Olympus-EM10-08
มาพร้อม Flash ในตัว และสามารถใส่แฟลชภายนอกที่พอร์ต Hot shoe ได้

 

Olympus-EM10-09
หน้าจอปรับมุมก้มเงยได้

 

Olympus-EM10-10

 

Olympus-EM10-11
มีเฟรมให้เลือกเพื่อถ่ายภาพลงไปได้ทันที ง่ายไม่ต้องแต่งภาพทีหลังให้ยุ่งยาก

 

สเปก Olympus OM-D E-M10

• เซนเซอร์แบบ Live MOS ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
• หน่วยประมวลผลภาพ TruePic VII (เหมือนรุ่นเรือธง OM-D E-M1)
• เลนส์เมาท์ Micro Four Thirds
• ความไวชัตเตอร์สูงสุด 1/4000 วินาที
• ค่าความไวแสงสูงสุดได้ถึง ISO 25600
• ช่องมองภาพแบบ EVF (อิเล็กทรอนิกส์) มุมมอง 100% อัตราขยาย 1.15X พร้อมระบบปิดหน้าจอ LCD อัตโนมัติเมื่อมองผ่านช่องมองภาพ
• หน้าจอ LCD ทัชสกรีน ขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1,037,000 dot
• ระบบป้องกันภาพสั่นไหว VCM แบบ 3 แกน
• ระบบออโต้โฟกัส 81 จุด Fast AF
• ถ่ายภาพต่อเนื่องสูงสุด 8 เฟรมต่อวินาที
• Built In Wi-Fi แชร์ภาพเข้าสู่คอมพิวเตอร์หรือสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณ Wi-Fi ได้ในตัว
• มีแฟลชในตัว
 
ราคา เฉพาะ บอดี้ 24,990 บ.
บอดี้ + เลนส์คิท 14-42 มม. M.ZUIKO DIGITAL ED F3.5-5.6 EZ ราคา 29,990 บ.
บอดี้ + เลนส์คิท 14-42 มม. M.ZUIKO DIGITAL ED F3.5-5.6 EZ และ เลนส์ซูม 40-150 มม. M.ZUIKO DIGITAL ED F4.0-5.6 ราคา 34,990 บ.

 
วางจำหน่ายประมาณ กลางเดือนมีนาคม นี้