สตาร์ทอัพหน้าใหม่ สนใจร่วมโครงการ dtac Accelerate อย่างล้นหลาม

 

Information session_Photo

 

หลังจากการเปิดตัว dtac Accelerate ในปีที่สองอย่างยิ่งใหญ่ไปแล้วเมื่อเร็วๆนี้ ดีแทคได้ตอกย้ำความพิเศษของปีนี้อย่างต่อเนื่อง ด้วยการจัดงาน dtac Accelerate 2.0 : Information Session ให้กับสตาร์ทอัพผู้ที่สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการได้สอบถามข้อมูลเชิงลึก โดยมีนายกระทิง เรืองโรจน์ พูนผล ผู้อำนวยการโครงการ ได้มาตอบคำถามและแนะนำการเริ่มต้นเข้าสู่เส้นทางการเป็นสตาร์ทอัพด้วยอนาคตที่สดใสกับดีแทค งานนี้ได้รับความสนใจในการส่งใบสมัครอย่างคึกคักกว่า 100 คน มีทั้งสตาร์ทอัพเยาวชนอายุน้อยสุดเพียง 13 ปีที่พกไอเดียสุดเจ๋ง เตรียมมาเข้าโครงการในกลุ่ม Incubation Track ที่พร้อมเข้าร่วมอบรมตลอดโครงการ และสตาร์ทอัพมืออาชีพในกลุ่ม Acceleration Track ที่มีผลงานและเริ่มมีโมเดลทางธุรกิจที่ชัดเจน แต่ต้องการให้ดีแทคพัฒนาและผลักดันให้ผลิตภัณฑ์เติบโตมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด ซึ่งดีแทคได้เตรียมทีมการตลาด ที่พร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า และทำตลาดในเชิงพาณิชย์ได้อย่างแท้จริง รวมทั้งสร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขันทางธุรกิจได้อย่างมั่นคง
 
ผู้ที่สนใจส่งผลงานเข้ามาได้ตั้งแต่วันนี้ – 16 เมษายน 2557 โดยสามารถนำเสนอแนวคิด แผนการดำเนินงาน วิธีการใช้งาน การสร้างรายได้ กลุ่มเป้าหมาย ประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับ หรือเข้ามาดูรายละเอียดและกรอกใบสมัครได้ที่ www.dtac.co.th/accelerate
 
• วันที่ 17 – 20 เมษายน 2557 จะมีการคัดเลือกผลงาน 15 ทีมแรก
• วันที่ 22 เมษายน นำเสนอผลงานในรอบแรก (Pitch day) เลือก 5 ทีมสุดท้าย
• วันที่ 28 เมษายน ปฐมนิเทศ (Orientation)
• ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม – กรกฎาคม เริ่มคอร์สอบรม intensive boot camp
• เดือนสิงหาคม นำเสนอผลงานรอบสุดท้าย และประกาศผลในวัน Demo day

 

Facebook จัดเวิร์คช้อปเสริมศักยภาพเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตผ่านออนไลน์มาร์เก็ตติ้ง

 

SME Success with Facebook (1)

 

Facebook จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปสำหรับธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี (Small and Medium Enterprises; SMEs) ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีในไทย ด้านการเพิ่มมูลค่าของธุรกิจจากการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ

 

กิจกรรมเวิร์กช็อปดังกล่าวมีผู้บริหารระดับภูมิภาคจาก Facebook และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีซึ่งประสบความสำเร็จด้วยการใช้ Facebook ได้แก่ พีชชี ผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก และ Sleeping Pills แบรนด์แฟชั่นชื่อดัง ร่วมแบ่งปันกลยุทธ์ความสำเร็จ

 

ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตของผู้ใช้ Facebook อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่ง โดยมีผู้ใช้งานมากถึง 24 ล้านคนต่อเดือน และสูงถึง 16 ล้านคนต่อวัน (ณ เดือนธันวาคม พ.ศ. 2556)

 

คุณแอร์โรว์ กัว หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SMBs กลุ่มประเทศ Greater China และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Facebook กล่าวถึงการโฆษณาบน Facebook ซึ่งช่วยส่งเสริมการเติบโตของธุรกิจเอสเอ็มอีในประเทศไทยว่า “ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดที่มีความสำคัญอันดับต้นสำหรับ Facebook ด้วยจำนวนผู้ใช้งานกว่า 24 ล้านคน หรือเกือบร้อยละ 40 ของจำนวนประชากรทั้งหมด โดยมีจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีมากถึงเกือบ 3 ล้านราย จึงเป็นโอกาสสำคัญสำหรับเราในการสนับสนุนภาคธุรกิจให้ได้รับประโยชน์จากการใช้แพลตฟอร์มของ Facebook อย่างเต็มที่ เนื่องจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถใช้การโฆษณาบน Facebook และฟีเจอร์อื่นๆ ของเราในการเติบโตธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่”

SME_Facebook
คุณแอร์โรว์ กัว หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SMBs กลุ่มประเทศ Greater China และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Facebook

 

“เทรนด์การสื่อสารในปัจจุบันกลับมาให้ความสำคัญต่อการตลาดแบบเฉพาะบุคคลมากขึ้น จากการที่เราสามารถระบุตัวตนของผู้ใช้งาน การสื่อสารที่สามารถเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวาง และการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน Facebook จึงมุ่งพัฒนาการสื่อสารทางการตลาดแบบเฉพาะบุคคลอีกครั้ง” คุณแอร์โรว์กล่าว

 

กิจกรรมเวิร์กช็อปนี้ยังได้รับเกียรติจากสองผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีไทยที่ประสบความสำเร็จมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์การใช้ Facebook เพื่อการส่งเสริมด้านการตลาดอีกด้วย

 

คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีบน Facebook


คุณนภัสกร วิบูลย์ศรีสัจจะ Account Manager ประเทศไทย ร่วมแบ่งปันเคล็ดลับในการทำธุรกิจบน Facebook

 

1. ขั้นแรก คือการสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์
ดำเนินกลยุทธ์การตลาดออนไลน์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ โดยสร้างตัวตนให้แก่ผลิตภัณฑ์ของคุณ ผ่านภาพหน้าปกและภาพประจำตัว เน้นเน้นข้อมูลที่มีประโยชน์และสำคัญใน ‘about’ และหมั่นอัพเดตข้อมูล อยู่เสมอ รวมถึงแจ้งเหตุการณ์สำคัญของธุรกิจของคุณ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผลิตภัณฑ์ กิจกรรมต่างๆ เมื่อคุณมีเพจ Facebook คุณสามารถดำเนินกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ต่างๆ ได้ทันที
2. ขั้นที่สอง คือเชื่อมต่อกับลูกค้าของคุณ
ใช้โฆษณาบน Facebook ในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าปัจจุบันและดึงดูดลูกค้าใหม่ โดยต้องแสดงผลิตภัณฑ์และบริการให้ชัดเจน หมั่นอัพเดตข้อมูลใหม่ๆ เสมอและสอดคล้องกับแบรนด์สินค้าด้วย เชื่อมโยงกับแฟนๆ ผ่านกิจกรรมการโหวต หรือเกมส์คำถามต่างๆ การโพสต์สม่ำเสมอในช่วงเวลาที่เหมาะสม และควรวางแผนกลยุทธ์การโพสต์ที่ผสมผสานรูปแบบต่างๆ กัน รวมถึงการใช้เครื่องมือกำหนดเป้าหมายที่แม่นยำเพื่อสร้างฐานลูกค้า
3. ขั้นที่สาม คือการประเมินผลและปรับปรุง
ใช้เครื่องมือต่างๆ ที่มีอยู่บน Facebook เพื่อเข้าใจ “แฟน” ของแฟนเพจคุณ
เกี่ยวกับอาหารเสริมสำหรับเด็ก พีชชี
คุณเจมี่ โรแลนด์-โจนส์ กรรมการผู้จัดการ Peachy ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมพร้อมรับประทานสำหรับทารกและเด็กเล็ก กล่าวว่า “นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในปี พ.ศ. 2555 เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของเราคือ การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในฐานะผลิตภัณฑ์อาหารสำหรับทารกและเด็กเล็กที่ดีที่สุดแบรนด์หนึ่ง ในใจของลูกค้าในประเทศไทย Facebook จึงเป็นช่องทางที่สำคัญอย่างยิ่งในการสื่อสารไปยังลูกค้าของเราโดยตรง นอกจากนี้ยังช่วยให้เรากำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการสื่อสาร โดยร้อยละ 90 ของผู้ที่ถูกใจบน Facebook ของเราเป็นผู้หญิงอายุ 18-44 ปี ซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเราเป็นอย่างมาก”

 

เกี่ยวกับ Sleeping Pills
คุณศิวัจน์ จารุกิจไพศาล กรรมการผู้จัดการและครีเอทีฟ ไดเรคเตอร์ ของ Sleeping Pills กล่าวว่า “ในระยะแรกที่เริ่มก่อตั้งธุรกิจขึ้นมา ความท้าทายสำคัญคือการหาช่องทางที่จะสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีที่สุดและทำให้เราแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่งอื่นๆ และเมื่อเราเริ่มกลยุทธ์ด้านการตลาดบน Facebook เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก็ได้เห็นผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง โดย Facebook ช่วยให้รายได้ที่ขายผลิตภัณฑ์ผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 20 ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน”

 

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมสามารถเยี่ยมชมไมโครไซต์ของ Facebook ที่รวบรวมกลวิธีในการใช้ Facebook ให้ประสบความสำเร็จสูงสุดในฐานะส่วนประกอบทางการตลาดที่สำคัญของแบรนด์ ได้ที่ https://www.facebook.com/business

 

วิธียกเลิกบริการ Voice Mail กด ##002# โทรออก ใช้ได้กับทุกค่ายจริงหรือไม่ ใช่หรือมั่ว

Cancel_Voicemail_05

 

ช่วงนี้มีข้อความที่ถูกส่งต่อๆ กันมาทาง Line และ Facebook เกีี่ยวกับบริการฝากข้อความหรือ Voice Mail ที่เหมือนจะกลายเป็นช่องทางหากินให้กับโอเปอเรเตอร์ในการคิดค่าบริการจากระบบตอบรับอัตโนมัติต่างๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อเจ้าของเบอร์ไม่ได้เปิดเครื่องหรืออยู่ในที่ไม่มีีสัญญาณ จนเคยกลายเป็นดราม่าใน Pantip มาแล้ว แต่วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้กระจ่างกันเลยครับ ว่ามันสามารถยกเลิกได้จริงแท้แค่ไหน และใช้ได้กับทุกค่ายหรือเปล่า

 

cancel_voicemail_01

 

ค่าบริการเกิดขึ้นได้อย่างไร?

ขอทำความเข้าใจกรณีนี้ก่อนนะครับว่า การถูกเก็บค่าบริการฝากข้อความต่างๆ นั้น ผู้ที่เสียเงินคือคนโทรเข้านะครับ ไม่ใช้เจ้าของเบอร์ ซึ่งค่าบริการดังกล่าว จะเกิดขึ้นจากการที่เจ้าของเบอร์นั้น เปิดใช้บริการฝากข้อความเอาไว้ (Voice Mail Service) หากไม่สามารถติดต่อได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ก็ตาม เช่น แบตหมด, ปิดเครื่อง, สัญญาณไม่มี หรือเปิดบริการโอนสาย (Forward) ไปยังเบอร์อื่น ซึ่งเมื่อคนโทรเข้ามา แล้วเจอกับบริการที่ถูกตั้งค่าเอาไว้ ก็จะถูกเสียเงินเนื่องจากมีการรับสายโดยระบบอัตโนมัติ หรือมีคนรับสายตามเบอร์ที่โอนไปนั่นเอง ซึ่งแต่ละโอเปอเรเตอร์ (AIS, dtac, Truemove H) ก็จะคิดค่าบริการแตกต่างกันไป

 

อย่างกรณีของ AIS จะมีการคิดค่าบริการจากผู้โทรเข้าดังนี้

AIS Call Center สำหรับทั้ง 2 บริการ จะมีการคิดค่าบริการตามนี้นะคะ

• บริการรับฝากข้อความ ( Voice mail *99 ) : คิดค่าบริการหลังสัญญาณให้ฝากข้อความเสียง ( ปี๊บ Beep )

• Call Back Service : คิดค่าบริการหลังจากสิ้นสุด Greeting Message : บริการฝากหมายเลขโทรกลับ Welcome to Call Back Service

*หมายเหตุอ้างอิงจากข้อมูลการตอบใน Facebook AIS Call Center

Cancel_Voicemail_01

 

กด ##002# แล้วโทรออก เพื่อยกเลิก Voice Mail ได้ทุกเครือข่ายหรือไม่?

ผมได้ลองทำตามข้อความที่ถูกส่งต่อมาทาง Line ซึ่งอ้างอิงว่า กสทช. ได้แนะนำให้กดรหัส ##002# แล้วโทรออก เพื่อยกเลิกระบบ Voice Mail ทั้งหมด

 

ลองกับ Truemove H ซึ่งปกติผมเองจะไม่ได้เปิดใช้บริการฝากข้อความอะไรอยู่แล้ว ก็สามารถกดรหัสดังกล่าวได้ โดยเครื่องจะแสดงผลออกมาว่าได้ยกเลิกระบบทั้งหมดแล้ว

Cancel_Voicemail_02

 

ลองกับ AIS ก็แสดงข้อความว่ายกเลิกระบบ โอนสาย และฝากข้อความต่างๆ ทั้งหมดเช่นเดียวกัน

Cancel_Voicemail_03

 

ส่วน dtac ยังไม่ได้ทดลองนะครับ เนื่องจากไม่มีซิมระหว่างการทดสอบ

 

ทดสอบโทรเข้า

 

Truemove H เมื่อทำการกดรหัสยกเลิกบริการโอนสายแล้ว คราวนี้ผมจะมาทดสอบดูว่าบริการดังกล่าวจะยกเลิกได้จริงอย่างที่ว่ารึเปล่า โดยเริ่มจากเบอร์ของ Truemove H ก่อน เมื่อปิดเครื่องเป็น Airplane Mode ก็จะถูกตัดสัญญาณไม่สามารถติดต่อได้ พอลองโทรเข้า ก็จะได้รับเสียงสัญญาณตอบรับว่า “ขอโทษคะไม่สามารถติดต่อเลขหมายปลายทางได้ในขณะนี้ Sorry it is not possible ….” 2 รอบแล้วตัดสายไป ซึ่งถือว่าไม่ได้เข้าสู่บริการใดๆ และไม่มีค่าบริการเกิดขึ้น

 

AIS เมื่อลองปิดเครื่องเป็น Airplane Mode เช่นเดียวกัน พอโทรเข้าไป ปรากฎว่ามีเสียงตอบรับจากระบบ Call back service ว่า “บริการฝากหมายเลขโทรกลับ Welcome to Call Back Service” ซึ่งเมื่อสิ้นสุดคำนี้เมื่อไร จะเป็นการให้เลือกภาษา เท่ากับว่า AIS จะคิดเงินจากคนที่โทรเข้าสู่บริการดังกล่าวทันที หากวางสายไม่ทันก่อนหน้านี้ ซึ่งผมได้โทรไปสอบถามกับ Call Center ว่ามีการคิดค่าบริการตามเงื่อนไขดังกล่าวจริงหรือไม่ ทาง Call Center AIS ก็บอกว่าเป็นไปตามเงื่อนไขนี้จริงๆ

 

ดังนั้นเท่ากับว่าการกดหมายเลขเพื่อยกเลิกบริการดังกล่าวไม่ได้ผล เพราะทาง AIS ยังมีบริการ Call back service ที่เปิดให้กับผู้ใช้บริการโดยอัตโนมัติเอาไว้ ทำให้ใครก็ตามที่โทรเข้ามาแล้วเจอกับบริการดังกล่าว และวางสายไม่ทันอาจจะโดนชาร์จค่าบริการไปเรียบร้อยแล้ว

 

แล้วอย่างนี้จะยกเลิกบริการ Call back service ได้อย่างไร หลายคนคงตั้งคำถามแบบผม… ผมได้โทรไปสอบถามกับ Call Center AIS แล้วเล่าความต้องการให้พนักงานฟัง พนักงานจึงได้ทำการตรวจสอบระบบให้ ซึ่งหลังจากที่ผมกดรหัส ##002# โทรออก ไปแล้ว ระบบไม่ได้ทำการยกเลิกบริการ Call back service ให้ ต้องให้พนักงานเป็นคนยกเลิกบริการนี้ให้เท่านั้น ซึ่งเมื่อทำการปลดระบบนี้ออกไปแล้ว เมื่อโทรเข้าอีกครั้งในขณะที่ปิดเครื่อง เสียงจากระบบตอบรับอัตโนมัติจะกลาย เป็น “ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ…” อย่างนี้ก็สบายใจได้แล้วนะครับว่าเพื่อนที่โทรเข้ามาในระหว่างที่ไม่มีสัญญาณหรือปิดเครื่องไว้ จะไม่เสียเงินอย่างแน่นอน

 

ดังนั้นคงสรุปได้ว่าการกดรหัส ##002# โทรออก ยังไม่ใช่การยกเลิกบริการฝากข้อความหรือ บริการโอนสายต่างๆ ที่ใช้ได้กับทุกเครือข่าย เพราะแต่ละโอเปอเรเตอร์ก็มีบริการที่แตกต่างกัน ทางที่ดีควรจะตรวจสอบกับโอเปอเรเตอร์ที่เราใช้บริการให้ดีเสียก่อน แล้วสามารถยกเลิกบริการต่างๆ ได้หากเราต้องการ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ใช้มือถือทุกท่าน ที่จะไม่กลายเป็นผู้รู้เท่าไม่ถึงการณ์ จากบริการต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้กับเรานะครับ

 

แฮปปี้สุดซ่าให้ลูกค้าเล่นคุกกี้รัน เกมวิ่งผจญภัยโลกแคนดี้ ฟรี! ไม่มีค่าเน็ตพร้อมของแถมในเกมส์มากมาย

 

happy_cookie_run

แฮปปี้จับมือกับ LINE นำเกมส์สุดฮอทที่สุดในตอนนี้ “LINE Cookie Run” เกมวิ่งผจญภัยโลกแคนดี้ มาให้ลูกค้าดีแทคและแฮปปี้ได้เล่นกันฟรีๆ ท้าโดดให้ไว สไลด์ให้แม่น แบบไม่มีค่าเน็ต และ ไม่ต้องสมัครแพ็กเกจใดๆ รับสิทธิพิเศษมากมายถึง3 ต่อ ต่อแรกเล่นให้สนุกสุดมันส์แบบ ฟรี! ไม่มีค่าเน็ต ต่อที่สองเมื่อเข้าเล่นเกมส์ครั้งแรก รับทันที 50,000 เหรียญ และต่อที่สามให้หัวใจทุกวัน วันละ 10 ดวง ให้คุกกี้ของคุณได้วิ่งแบบไม่ยั้งกันเลยทีเดียว ลูกค้าดีแทคและแฮปปี้สามารถดาวน์โหลดพร้อมรับสิทธิพิเศษทั้งสามต่อนี้ได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 5 พฤษภาคมนี้ และเตรียมร่วมสนุกกับกิจกรรมสุดพิเศษจากแฮปปี้ผ่านช่องทางออนไลน์ในเดือนเมษายนนี้พร้อมลุ้นของรางวัลมากมาย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.dtac.co.th/cookierun หรือ dtac LINE official account

 

เติมเงินเกม LINE Cookie Run ด้วยบัตรเงินสด AIS 3G วัน-ทู-คอล! ได้แล้ววันนี้

 

1040x1040_MOL_CookieRun

 

สมาร์ทโฟนของใครยังไม่มีเกมสุด Hot ณ เวลานี้อย่าง LINE Cookie Run ก็คงจะไม่อินเทรนด์ เพราะไม่ว่าใครต่างก็เล่นกันทั่วบ้านทั่วเมืองในขณะนี้ และเรามีข่าวดีสำหรับคนที่ต้องการความสะดวกสบายในการเติมเงินเล่นเกม LINE Cookie Run เพราะสามารถเติมเงินด้วยบัตรเงินสด AIS 3G วัน-ทู-คอล! ผ่าน Store.line.me ได้แล้ว เติมสะดวก หาซื้อง่าย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก เปิดให้เติมแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

 

ขั้นตอนการเติมเงินเกม LINE Cookie Run

• ขั้นตอนที่ 1: เลือกเกม LINE Cookie Run

Line_credit_01

 

• ขั้นตอนที่ 2: เลือกราคา CYSTALS ที่ต้องการ

Line_credit_02

 

• ขั้นตอนที่ 3: เลือก LINE Credit จากนั้นคลิก ตกลง

Line_credit_03

 

• ขั้นตอนที่ 4: หากเติมเงินสำเร็จจะแสดงข้อความการเติมเงินสำเร็จ แล้วแตะ ตกลง

Line_credit_04

 

สามารถดูวิธีเติมเงิน LINE ด้วยบัตรเงินสด AIS 3G วัน-ทู-คอล! ได้ที่ http://th.mol.com/page.php?id=20131206U7UtTnG

 

ช่องทางการจำหน่ายบัตรเงินสด AIS 3G วัน-ทู-คอล!

Line_credit_05

 

Line_credit_06

 

LG G2 เตรียมเปิดให้ชาวไทยอัพเกรดเป็น Android 4.4 KitKat ได้แล้ว

 
LG-G2-KitKat

 

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) พร้อมส่งระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ เวอร์ชั่นล่าสุด 4.4 KitKat สำหรับแอลจี จีทู ให้ผู้ใช้ได้สัมผัสอีกระดับของประสบการณ์การใช้งานได้แล้วตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคมเป็นต้นไป

 

“การอัพเดทระบบซอฟต์แวร์ให้มีความทันสมัยอย่างสม่ำเสมอคือหนึ่งในแนวทางการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าของแอลจี” คุณขวัญใจ นพนันทกุล ผู้จัดการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัทแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) กล่าว “นอกจากการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ แล้ว การอัพเกรดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ในแอลจี จีทู ยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้งาน เราเชื่อมั่นว่าลูกค้าของเราจะชื่นชอบและประทับใจกับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่แอลจีมอบให้อย่างแน่นอน”

 

นอกจากจะช่วยเพิ่มความเร็วในการใช้งานมากขึ้นถึง 17 เปอร์เซ็นต์ และช่วยให้การท่องเว็บต่างๆ รวดเร็วยิ่งขึ้นแล้ว ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.4 KitKat ยังมี Google Cloud Printer ฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้การพิมพ์เอกสารผ่านการเชื่อมต่อแบบไร้สายสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาแป้นพิมพ์ภาษาไทยให้เป็นแป้นพิมพ์ 4 แถว จึงช่วยให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์ข้อความต่างๆ ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น

 

ผู้ใช้งานแอลจีสมาร์ทโฟนรุ่น แอลจี จีทู สามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่นดังกล่าวได้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม เป็นต้นไป แอลจียังได้เตรียมแคมเปญพิเศษสำหรับผู้ที่อัพเกรดระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.4 KitKat ในแอลจี จีทู อีกด้วย โดยสามารถติดตามรายละเอียดของแคมเปญดังกล่าวได้ตั้งแต่เดือนเมษายนเป็นต้นไป
 
ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ www.lg.com/th และ www.facebook.com/thailandlifesgood

 

[Sneak Preview] Nokia X สมาร์ทโฟนสายพันธุ์ X รันแอพ Android ได้ 100%

 

ได้ฤกษ์วางจำหน่ายแล้วสำหรับ Nokia X สมาร์ทโฟนแพลตฟอร์มใหม่ล่าสุดที่เป็นข่าวฮือฮาไปทั่วโลกจากงาน MWC2014 เมื่อต้นปีที่ผ่านมา วันนี้โนเกียประเทศไทยได้นำ Nokia X มาให้ชาวไทยได้สัมผัสกันแล้ว โดยเริ่มนำเฉพาะรุ่นเล็กอย่าง Nokia X เข้ามาก่อน โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 14 มีนาคม 57 ที่โนเกียช็อปทั่วประเทศ ในราคาเพียง 3,990 บ.

 

จุดเด่นของ Nokia X อยู่ตรงที่ระบบปฏิบัติการล่าสุดที่เรียกว่า Nokia X แพลตฟอร์ม ที่สามารถรันแอพพลิเคชั่นจากระบบปฏิบัติการ Android ได้อย่าง 100% โดยสามารถดาวน์โหลดได้ 2 ทางด้วยกัน คือ

1. Nokia Store โดยทางโนเกียจะทยอยนำแอพพลิเคชั่นจาก Android มาลงในสโตร์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลด
2. APK Install สามารถติดตั้งแอพจากไฟล์ .apk ซึ่งเป็นไฟล์แอพของ Android นั่นเอง

 

และที่สำคัญการดาวน์โหลดแอพจากโนเกียสโตร์บน Nokia X นั้น ไม่ต้องใส่แอคเคาท์ให้ยุ่งยาก ใครที่เป็นมือใหม่หัดเล่นสมาร์ทโฟนก็ไม่ต้องสมัครแอคเคาท์ให้ปวดหัวอีกต่อไปแล้ว อยากลงแอพไหนก็แตะดาวน์โหลดลูกเดียว อย่างได้แคร์

 

ส่วนแอพตัวไหนที่ต้องเสียเงิน ก็สามารถตัดเงินจากซิมการ์ดของเครือข่ายโทรศัพท์ที่รองรับได้เลย คาดว่าเบื้องต้นน่าจะร่วมมือกับดีแทคก่อน เหมือนบน Lumia ที่สามารถทำได้มาแล้ว

 

เอาล่ะครับได้ทราบจุดเด่นของ Nokia X ไปบ้างแล้ว เราไปชมภาพตัวเป็นๆ กันเลยดีกว่า

 

Nokia-X-02

บอดี้เหมือนกันโนเกีย Asha ที่ใช้วัสดุโพลีคาร์บอเนต จะวางขายทั้งหมด 5 สี คือ สีเขียวสด แดงสด ฟ้า เหลือง ดำและขาว

 

Nokia-X-03

กล้องหลัง ความละเอียด 3 ล้านพิกเซล แบบ Fix Focus

 

Nokia-X-04

พอร์ต Micro USB ไว้เชื่อมต่อข้อมูล และชาร์จแบตให้ตัวเครื่อง

 

Nokia-X-05

ปุ่มโวลุ่ม และปุ่มล็อคหน้าจอ/เปิดปิดเครื่อง อยู่ด้านขวาของตัวเครื่อง

 

Nokia-X-06

ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. อยู่มุมซ้ายบน

 

Nokia-X-12

ถอดกรอบฝาหลังออก โดยดันตรงกล้องแล้วแงะด้านบนของตัวเครื่องออกมา

 

Nokia-X-13

Nokia X สามารถใช้ได้ 2 ซิม แถมรองรับ 3G (ได้ซิมเดียว) และเพิ่มเมมด้วย Micro SD ได้สูงสุด 32 GB ส่วนแบตเตอรี่ความจุ 1500 mAh

 

Nokia-X-11

หน้าแรกถูกออกแบบให้เป็นการผสมผสานข้อดีของ ไทล์จาก Lumia Windows Phone และ Fastlane จาก Asha เข้าไว้ด้วยกัน

 

Nokia-X-15

แค่ปัดหน้าจอไปทางซ้ายหรือขวาก็จะเข้าสู่หน้า Fastlane ซึ่งเป็นช็อตคัทที่ใช้งานล่าสุด

 

Nokia-X-10

แอพพลิเคชั่นหลักจาก Android ที่ติดตั้งได้ 100% บน Nokia X

 

Nokia-X-07

หน้าตา โนเกียสโตร์ที่เริ่มทยอยนำแอพพลิเคชั่นจากแอนดรอยด์มาลงให้ดาวน์โหลด

 

Nokia-X-09

ยังมีแอพบางส่วนอย่าง Instagram ที่ไม่มีให้โหลดในโนเกียสโตร์ แต่สามารถใช้สโตร์เพื่อนบ้านอย่าง 1Mobile Market ที่มีแอพหลักๆ จากแอนดรอยด์ให้ดาวน์โหลด โดยไม่ต้องมีแอคเคาท์ได้อีกเช่นเดียวกัน

 

Nokia-X-14

ใช้งาน Instagram ได้ครบทุกฟังก์ชั่นเหมือนแอนดรอยด์เลย แต่อาจจะโหลดช้าบ้างเรื่องจากสเปกเครื่องรุ่นนี้ไม่ได้แรงมาก

 

Nokia-X-17

แตะลากจากด้านบนของหน้าจอลงมาเพื่อเปิดดูแถบแจ้งเตือนได้เหมือนแอนดรอยด์เลยนะครัสส… แถมมีปุ่มไอคอน Settings ให้เข้าสู่การตั้งค่าได้ทันที

 

Nokia-X-16

ลองติดตั้งเกม Flappy Bird ได้โดยไม่ต้องกรอกแอคเคาท์ใดๆ เลย

 

และนี้คือ Sneak Preview พรีวิว Nokia X แบบลับๆ ล่อๆ ให้ชมกันเบื้องต้นก่อนนะครับ ไว้ได้เครื่องมารีวิวแบบเต็มๆ เมื่อไร จะจัดเต็มในคอลัมน์ Review ให้สาสม

 

โนเกียเปิดตัว Nokia X มอบสุดยอดประสบการณ์จากทุกแพลทฟอร์มในที่เดียว พร้อมขายแล้วในไทย พรุ่งนี้

Nokia-X-01
โนเกียเปิดตัว Nokia X สมาร์ทโฟนรุ่นแรกบนแพลทฟอร์ม Nokia X ในประเทศไทยรองรับแอพแอนดรอยด์นับแสน พร้อมบริการระดับโลกจากไมโครซอฟต์ และประสบการณ์โนเกียอันเป็นเอกลักษณ์ ในราคาย่อมเยา เพื่อให้ผู้บริโภคจำนวนมากเข้าถึงประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดจากทุกแพลทฟอร์มได้ง่ายขึ้นตอบรับไลฟสไตล์ที่รวดเร็ว ราบรื่น และสนุกสนาน

 

ผู้ใช้งาน Nokia X สามารถดาวน์โหลดหลากหลายแอพคุณภาพที่รวบรวมไว้บน Nokia Store ซึ่งมอบทั้งความสะดวกสบายในการซื้อแอพผ่านผู้ให้บริการเครือข่ายโดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต รวมถึงปลอดภัยจากมัลแวร์ นอกจากนี้ยังสามารถโหลดแอพแอนดรอยด์จากร้านแอพออนไลน์อื่นๆ และโหลดผ่านโปรแกรมจากคอมพิวเตอร์ (sideloading) ได้อีกด้วย

 

นายญาณธน สิมะวานิชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเกีย (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “Nokia X มอบอิสรภาพและความสนุกในการเข้าถึงแอพแอนดรอยด์หลายแสนแอพทั้งจาก Nokia Store และร้านแอพออนไลน์อื่นๆ พร้อมบริการระดับโลกจากไมโครซอฟต์ และโนเกีย ที่สำคัญนักพัฒนาสามารถพอร์ตแอพขึ้นบน Nokia Store ได้อย่างง่ายดาย สร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในการเข้าถึงแอพโปรดได้อย่างง่ายดาย และทัดเทียมกับร้านแอพออนไลน์อื่นๆ เรียกได้ว่า Nokia X นำประสบการณ์สมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดจากหลายแพลทฟอร์มมาไว้ในที่เดียวและในราคาที่ย่อมเยา”

 

สมาร์ทโฟน Nokia X มาในตัวเครื่องที่ดีทั้งคุณภาพวัสดุและการออกแบบที่มีสีสันสดใสในสไตล์ของโนเกีย พร้อมอินเตอร์เฟซแบบ tile ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมาร์ทโฟนตระกูล Lumia พร้อมหน้าจอ Fastlane ให้สลับใช้งานแอพต่างๆ ได้ราบรื่นยิ่งขึ้น Nokia X จึงเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับไลฟสไตล์ที่รวดเร็ว ราบรื่น และสนุกสนาน
Nokia_X+_Front_Black_Lockscreen_s
ทันทีที่เปิดใช้ ผู้ใช้งานสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์โนเกียได้ฟรี เช่น แผนที่โนเกีย ซึ่งรวมถึงการใช้งานแบบออฟไลน์ บริการนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว 1 และ Nokia MixRadio สำหรับการฟังและดาวน์โหลดเพลง 1 นอกจากนี้ ยังมีแอพและเกมยอดนิยมที่ติดตั้งไว้แล้วในเครื่องอีกมากมาย เช่น Plants vs. Zombies 2, Viber, Vine, Twitter, Facebook, LINE Free Voice and Messages, LINE Camera, LINE Bubble, Picsart, Real Football 2014, Spotify, Swiftkey, และ WeChat.

 

ผู้ใช้ Nokia X จะสามารถใช้บริการยอดนิยมจากไมโครซอฟต์ ได้แก่ OneDrive ระบบจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ฟรี 10GB อีเมล์ฟรี Outlook.com รวมถึงสามารถใช้งาน Unlimited World Subscription จาก Skype เป็นเวลา 1 เดือน โดยสามารถโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐาน (landline) ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และโทรไปยังโทรศัพท์มือถือในอีก 8 ประเทศทั่วโลกฟรีในระยะเวลาที่กำหนด

 

Nokia X สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตระกูล X ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลแบบ dual core Qualcomm Snapdragon พร้อมรองรับการใช้งานสองซิม หน้าจอสัมผัส capacitive 4 นิ้ว และกล้อง 3 ล้านพิกเซล มีสีเขียวสด แดงสด ฟ้า เหลือง ดำและขาวให้เลือก ในราคาเพียง 3,990 บาท ข้อมูลเพิ่มเติม ดูได้ที่ www.nokia.co.th/nokiax

 

นอสตร้า จับมือ จส.100 เปิดตัวนวัตกรรม “Live Traffic Report” ครั้งแรกของเมืองไทย

 

NOSTRA
นอสตร้า ผู้นำนวัตกรรมแผนที่ดิจิตัลในเมืองไทย ภายใต้บริษัท โกลบเทค จำกัด ในกลุ่มบริษัทซีดีจี นำโดยนายวิชัย แสงหิรัญวัฒนา ผู้จัดการทั่วไปของนอสตร้า จับมือคุณหญิงสุวิมล ผึ่งประเสริฐ กรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทแปซิฟิค คอร์ปอเรชั่น และสถานีวิทยุ จส.100 ตอบรับแนวโน้มการขยายตัวผู้ใช้สมาร์ทโฟนและการให้บริการ 3G ทั่วประเทศ เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ล่าสุดบนแผนที่ดิจิตัลบนสมาร์ทโฟน “NOSTRA Live Traffic Report” เพื่อมอบการรายงานข่าวสารจราจรและเหตุการณ์ต่างๆ บนท้องถนนผ่านแผนที่ดิจิตัลบนมือถือแบบรายงานสด แก่ประชาชนครั้งแรกของเมืองไทย พร้อมเตรียมเสนอสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ในแผนที่ดิจิตัลบนมือถือ รุกกลุ่มลูกค้า ร้านค้าและบริษัทธุรกิจ เล็งขยายฐานกลุ่มผู้ใช้จากปัจจุบันเกือบ 700,000 คน ให้เป็น 1,000,000 คน ภายในสิ้นปีนี้

Zalora ก้าวสู่ความเป็นผู้นำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ คืนสินค้าที่ 7-11 ใกล้บ้านคุณ!

Caption-Return-7-11
ซาโลร่า ออนไลน์เว็บไซต์ชื่อดังเจ้าแรกของผู้นำด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซ มองเห็นถึงความสะดวกสบายของทุกคนที่มาสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่ Zalora จึงร่วมมือกับทางเซเว่น – อีเลฟเว่น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ง่ายกว่า สะดวกกว่า ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยการก้าวสู่เป็นผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซ ในการคืนสินค้าที่ง่าย ธุรกิจออนไลน์เล็งเห็นถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่จะมาคืนสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับผู้บริโภคไม่ชอบสินค้า ขนาดใหญ่เกินหรือเล็ก สามารถคืนสินค้าได้อย่างทันที เพิ่มช่องทางความสะดวกสบายของผู้บริโภคได้ทันที “ช้อปซาโลร่าคืนสินค้าได้ที่ 7-11” ซึ่งถือว่าเป็นการร่วมมือและต่อยอดของธุรกิจ e-fashion ที่ ช่วยผลักดันให้บริษัทก้าวขึ้นสู่จุดหมายแห่งการเป็นออนไลน์แฟชั่นชั้นนำ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.zalora.co.th/faq-returns-and-refunds/