ดีแทค ไตรเน็ต พร้อมให้บริการ 23 ก.ค. นี้ น้อมรับทุกคำแนะนำจากลูกค้า

ดีแทคเผยผลทดสอบสัญญาณมือถือในโครงการ 77/77 ดีแทค อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริปผ่านมาตรฐานทุกภาค dtac_XU5C2839 ดีแทค ไตรเน็ต บริษัทในเครือดีแทค พร้อมแล้วสำหรับการให้บริการลูกค้าบนโครงข่ายใหม่ TriNet 3 โครงข่ายอัจฉริยะ โดยลูกค้าจะเริ่มทยอยใช้งานได้ตั้งแต่ 23 กรกฏาคมนี้เป็นวันแรก หลังจากผ่านการทดสอบจากพนักงานดีแทคในช่วงที่ผ่านมา พร้อมรับคำแนะนำและความคิดเห็นจากลูกค้า ทั้งนี้ ดีแทคเตรียมนำข้อมูลที่ได้รับมาปรับปรุงและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าโดยจะได้เริ่มสัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งการโทรและการใช้งานดาต้าบนโครงข่าย TriNet นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทคกล่าวว่า “หลังจากที่ดีแทค ไตรเน็ต บริษัทในเครือดีแทค เปิดตัวโครงข่ายใหม่ TriNet 3 โครงข่ายอัจฉริยะ ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยลูกค้าได้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet แล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้งานบนโครงข่ายใหม่ TriNet ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ ลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ก็สามารถทยอยใช้งานบนโครงข่ายใหม่ TriNet ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไปเช่นกัน ซึ่ง ดีแทค ไตรเน็ตได้ทำการทดสอบระบบจากพนักงานดีแทคกว่า 5,000 ราย พร้อม ๆ กับการเร่งตั้งสถานีฐาน ปัจจุบัน ดีแทค และดีแทค ไตรเน็ตมีสถานีฐาน 3G รวมกันแล้วประมาณ 8,000 สถานีฐาน และจะยังคงพัฒนาเพิ่มสถานีฐานต่อไป ซึ่งจะทำให้ในเดือนตุลาคมจะมีสถานีฐาน 3G ทั้งหมดประมาณกว่า 10,000 สถานีฐานทั่วประเทศ” สำหรับลูกค้าดีแทคที่ได้ลงทะเบียนใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet ไว้ล่วงหน้านั้น ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม เป็นต้นไป ลูกค้าจะทยอยได้รับ SMS แจ้งให้ทราบถึงกำหนดการโอนย้าย รวมถึงขั้นตอนแนะนำต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินตามได้โดยง่าย และเมื่อเสร็จสิ้น ระบบจะส่งการตั้งค่าเครื่องสำหรับการใช้งาน Internet และ MMS ไปให้ เพื่อใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ ถ้าลูกค้ามีความคิดเห็นจากการใช้งาน หรือมีคำแนะนำสามารถโทรแจ้งได้ที่ 1678 นอกจากนี้ ดีแทคได้เผยผลทดสอบสัญญาณมือถือในโครงการ 77/77 ดีแทค อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริปผ่านมาตรฐานทุกภาค โดยนายประเทศ ตันกุรานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวเพิ่มเติมว่า “เป็นที่น่ายินดีว่าผลทดสอบสัญญาณจากจากโครงการ 77/77 ดีแทค อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริป (77/77 dtac internet for all road trip) มีผลออกมาได้ตามมาตรฐานทุกภาค สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าโดยจะได้เริ่มสัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งโทรและการใช้งานดาต้า ทั้งนี้ การทดสอบได้ใช้ซิมการ์ดระบบเติมเงินของดีแทค และค่ายอื่นอีก 2 ซิมเพื่อเปรียบเทียบ โดยทั้งหมดคือซิมทั่วไปที่มีจำหน่ายในตลาด และนำซิมใส่ในมือถือเพื่อทำการทดสอบโทรเข้า-รับสาย ตามเส้นทางทุกภาค และผลทดสอบออกมาทุกค่ายผ่านมาตรฐานการใช้งาน” สำหรับผลการทดสอบของภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และสุดท้ายคือภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จากการทดสอบได้ผลว่ามีการโทรสำเร็จ (Call Setup Success) คิดเป็นกว่า 99% จากทุกค่าย และอัตราสายหลุด (Dropped Call) คิดเป็นประมาณ 1% จากทุกค่ายเช่นกันถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้วยกัน

[Video] Asha 501 So…Chic 2 Sim ไม่สองใจ

 

nokia-asha-501-color-range resize

ตั้งแต่ Nokia Series N หายไปจากตลาดมือถือ เจ๊ก็มิเคยได้กลับไปจับ Nokia อีกเลย (ยกเว้น Lumia 920 ที่โผล่มาแว้บนึง) จนกระทั่งเจ้า Asha 501 ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปหมาดๆถูกส่งมาถึงมือเจ๊นี่แหละ เอาเป็นว่ามาดูกันหน่อยดีกว่าว่าเจ้านี่มีอะไรเจ๋งๆให้เจ๊เล่นบ้างอะ

ระเบิดกล่อง

Asha 501 ถูกแพ็คนอนแอ้งแม้งมาในกล่องอย่างเรียบร้อยสง่างาม สีที่เจ๊ได้มาคือสีแดงแปร๊ดดดดสะท้อนแสงถูกใจเจ๊จุงเบย แต่ไม่ได้ถึงกับแดงเถือกนะ เป็นสีแดงในระดับความแซ่บที่ยกขึ้นมาโทร รับรองว่าเห็นไปยันปากซอยเลยทีเดียวเชียวล่ะ สรุปว่าอุปกรณ์ในกล่องที่ให้มามีดังนี้จ้ะหนุ่มๆสาวๆ

Review_Asha_501_01

1. ตัวเครื่อง + การ์ดหน่วยความจำแบบ microSD 4 GB (รองรับสูงสุด 32 GB)
2. แบตเตอรี่
3. คู่มือการใช้งาน และใบรับประกัน
4. สายชาร์จแบบวอลล์ชาร์จ
5. หูฟังสีเดียวกับด้านหลังตัวเครื่อง หากซื้อเครื่องสีอื่นก็จะได้หูฟังสีนี้เช่นกันไม่มีสีอื่นให้เลือก
* จริงๆมีทั้งหมด 6 สีด้วยกันคือ แดง เหลือง ฟ้า เขียว ขาว และดำ

ลองเล่น

• ตัวเครื่องและดีไซน์

Review_Asha_501_02
เรียกว่าดีไซน์มาน่ารัก สไตล์โมโนบล็อค เหมาะกับใช้มือเดียวได้อย่างถนัด ด้านหน้าของตัวเครื่องจะเป็นจอแสดงผล LCD ขนาด 3 นิ้วแถมเป็นกระจกแบบที่ทนรอยขีดข่วน Gorilla Glass ด้วยนะเออ มีปุ่มย้อนกลับมาให้ด้านล่างของหน้าจอ ส่วนฝาหลังสีสันแซ่บใจสามารถถอดเปลี่ยนได้หากเป็นคนขี้เบื่อ บวกกับมีกล้องถ่ายภาพความละเอียด 3.2 ล้านพิกเซลมาให้ ด้านข้าง (ขวา) จะมีปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง และปุ่ม power ด้านบนเป็นช่องเสียบสายชาร์จ สาย micro-USB และช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ตามมาตรฐานทุกอย่างเป๊ะ ประกอบได้แนบแน่นดีไม่มีกรอบแกรบเพราะตัวกรอบเป็นยูนิบอดี้ชิ้นเดียวจร้าาา ที่สำคัญใช้ได้ 2 ซิมนะคะคู๊ณณณณณ เลิศปะล่ะ

• ฟังก์ชั่นเด่น

Review_Asha_501_03 Review_Asha_501_04 Review_Asha_501_05
พอเปิดเครื่องมา แล้วเข้าสู่หน้าจอการใช้งานเท่านั้นเจ๊ก็ต้องร้องอู้ว!!! เพราะจัดหนักให้แอพพลิเคชั่นมาเพียบ ทั้งแอพเสริม และเกมส์ (โหลดเพิ่มได้)
ส่วนจุดเด่นที่โชว์หรามาเลยคือระบบ Fastlane หรือพูดง่ายๆว่าช่องทางด่วนนั้นแหละ คล้ายๆกับ Shortcuts โดยขณะอยู่ในหน้าจอพร้อมใช้ให้ปัดนิ้ว Swipe ไปทางขวาก็จะเจอกับ Fastlane ส่วนตัวของคุณ ซึ่งจะรวมแอพ หรือรายการที่สำคัญที่คุณใช้บ่อยๆเอาไว้ให้ โดย ซึ่ง Fastlane จะดึงข้อมูลมาจากการใช้งานของคุณนั่นแหละ เป็นไงฉลาดแมะ?

Review_Asha_501_08

นอกนั้นก็จะมีฟังก์ชั่นพื้นฐานสำหรับใช้งานทั่วๆไป อย่าง โทรศัพท์ รายชื่อ ข้อความ นาฬิกาปลุก ปฏิทิน บันทึกเสียง ฯลฯ ให้มาอย่างครบครัน ส่วนความบันเทิงเริงใจ แน่นอนว่าจัดเต็มกับ แกเลอรี่ ดูหนัง ฟังเพลง ฟังวิทยุ เกมส์ เรียกว่าแน่นจนสะใจเจ๊ หรือถ้ายังแน่นไม่พอ ก็ไปดาวน์โหลดเพิ่มได้เอง

• ถ่ายภาพ

Review_Asha_501_06
กล้องถ่ายภาพก็พอใช้ได้สมราคา สามารถตั้งค่าหน่วงเวลาถ่ายภาพ หรือปรับ White Balance ได้ จะขาดก็แต่ไม่มีแฟลชมาให้ (แต่จุดนี้เจ๊ก็ให้อภัย เพราะถึงมีแต่พอถ่ายภาพใช้แฟลชขึ้นมาทีไร เจ๊ไม่กล้าดูรูปตัวเองทุกที) อ๊ะๆ เค้ามีแอพถ่ายภาพ Camera 5 in 1 พร้อมเครื่องมือตกแต่งแสนเก๋มาให้ด้วย ไม่มี camera 360 ก็เอาไปใช้แทนขำๆก่อนได้

• ระบบเชื่อมต่อ

Review_Asha_501_07
จะ Wi-Fi b/g/n , Bluetooth 3.0, หรือ EDGE ก็มีมาให้หมด จะอยู่ที่ไหนก็ไม่พลาดการติดต่อแน่นอนจ้ะ รุ่นหน้าควรจะพ่วง 3G มาให้ด้วยแล้วนะคุณ Nokia

• แบตเตอรี่

ถือเป็นจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งเลยนะเจ๊ว่า เพราะปัจจุบันเราแทบจะต้องใช้โทรศัพท์กันเกือบตลอดเวลาเลยทีเดียว แบตยิ่งอึดก็ยิ่งได้เปรียบ Ahsa 501 เลยจัดแบตความจุ 1200 mAh มาให้ สามารถแสตนบายด์รับสายได้ 624 ชั่วโมง ย้ำ 624 ชั่วโมง!!! สนทนาโทรศัพท์ได้นาน 17 ชั่วโมง และเล่นเพลงได้นานถึง 56 ชั่วโมง เรียกว่าใช้กันจนลืมว่าชาร์จแบตครั้งที่แล้วตอนไหน ปรบมือให้เลยจ้ะ

• แอพพลิเคชั่น

Review_Asha_501_09
จัดเต็ม!! เพราะไม่ว่าจะ Facebook Line Twitter หรือเกม Asha 501 จัดมาให้แบบเต็มหน้าจอจ้ะ เลือกใช้กันได้ตามสบายอารมณ์

• ความคุ้มค่า

Review_Asha_501_10
หยิบราคามาดูแล้วก็ต้องรีบยกมือทาบอกด้วยความตกใจ เพราะวางขายในราคาแค่ 2,990 บาท เท่านั้น คุณพระ!!! เรียกว่าถ้าจะหาโทรศัพท์เครื่องแรกสำหรับใครที่ไม่ได้ต้องการโทรศัพท์อลังการดาวล้านดวงสเป็คแรงรุ่งพุ่งไปดาวพลูโต เพียงแค่อยากได้โทรศัพท์เครื่องเล็กๆ กะทัดรัด สีสันจัดจ้าน ดีไซน์น่ารัก พ่วงมาด้วยฟังชั่นครบครันทันสมัยแบบไม่เขินอาย หรือใครที่อยากได้โทรศัพท์เครื่องที่สองเอาไว้ใช้โทรออกรับสาย ถ่ายรูปเล่น ฟังเพลงชิวๆ แบตถึกทน ใช้ได้ 2 ซิม 2 เบอร์ว่ารักแถบ (แบบว่ารักเธอ) รีบไปคว้ามาเลยนะ คุ้มจริง!!! เจ๊พูดเลย

สรุปผลคะแนน

• ดีไซน์และการประกอบ เอาไป 7.5 แต้ม
• ฟังก์ชั่น ฟีเจอร์ เอาไป 7.5 แต้ม
• ประสิทธิภาพการใช้งาน เอาไป 7.5 แต้ม
• ความคุ้มค่าและราคา เอาไป 8 แต้ม
• รวม 7.7 แต้ม

เจ็ขอแซว

ไหนๆก็อุตส่าห์ให้ microSD มาแล้ว เจ๊ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า Nokia จะใจดีเพิ่มสาย micro USB มาให้ซักนิ๊ดดดดเถอะนะ แล้วเจ๊จะให้จุ๊บ 3 ทีเลยเอ้า!!!

รีวิวโดย : เจ้ปลวก

ท้ายนี้เรามีวิดีโอรีวิวมาให้ดูกันด้วย

[youtube link=”http://www.youtube.com/watch?v=RwBuBvhifbg” width=”590″ height=”315″]

ดีแทค ไตรเน็ต พร้อมให้บริการ 23 ก.ค. นี้ น้อมรับทุกคำแนะนำจากลูกค้า

ดีแทคเผยผลทดสอบสัญญาณมือถือในโครงการ 77/77 ดีแทค อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริปผ่านมาตรฐานทุกภาค

dtac_XU5C2839

ดีแทค ไตรเน็ต บริษัทในเครือดีแทค พร้อมแล้วสำหรับการให้บริการลูกค้าบนโครงข่ายใหม่ TriNet 3 โครงข่ายอัจฉริยะ โดยลูกค้าจะเริ่มทยอยใช้งานได้ตั้งแต่ 23 กรกฏาคมนี้เป็นวันแรก หลังจากผ่านการทดสอบจากพนักงานดีแทคในช่วงที่ผ่านมา พร้อมรับคำแนะนำและความคิดเห็นจากลูกค้า ทั้งนี้ ดีแทคเตรียมนำข้อมูลที่ได้รับมาปรับปรุงและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าโดยจะได้เริ่มสัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งการโทรและการใช้งานดาต้าบนโครงข่าย TriNet
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทคกล่าวว่า ?หลังจากที่ดีแทค ไตรเน็ต บริษัทในเครือดีแทค เปิดตัวโครงข่ายใหม่ TriNet 3 โครงข่ายอัจฉริยะ ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยลูกค้าได้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet แล้วเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถใช้งานบนโครงข่ายใหม่ TriNet ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ ลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet ไว้แล้วก่อนหน้านี้ ก็สามารถทยอยใช้งานบนโครงข่ายใหม่ TriNet ได้ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคมนี้เป็นต้นไปเช่นกัน ซึ่ง ดีแทค ไตรเน็ตได้ทำการทดสอบระบบจากพนักงานดีแทคกว่า 5,000 ราย พร้อม ๆ กับการเร่งตั้งสถานีฐาน ปัจจุบัน ดีแทค และดีแทค ไตรเน็ตมีสถานีฐาน 3G รวมกันแล้วประมาณ 8,000 สถานีฐาน และจะยังคงพัฒนาเพิ่มสถานีฐานต่อไป ซึ่งจะทำให้ในเดือนตุลาคมจะมีสถานีฐาน 3G ทั้งหมดประมาณกว่า 10,000 สถานีฐานทั่วประเทศ?
สำหรับลูกค้าดีแทคที่ได้ลงทะเบียนใช้บริการบนโครงข่ายใหม่ TriNet ไว้ล่วงหน้านั้น ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม เป็นต้นไป ลูกค้าจะทยอยได้รับ SMS แจ้งให้ทราบถึงกำหนดการโอนย้าย รวมถึงขั้นตอนแนะนำต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถดำเนินตามได้โดยง่าย และเมื่อเสร็จสิ้น ระบบจะส่งการตั้งค่าเครื่องสำหรับการใช้งาน Internet และ MMS ไปให้ เพื่อใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ ทั้งนี้ ถ้าลูกค้ามีความคิดเห็นจากการใช้งาน หรือมีคำแนะนำสามารถโทรแจ้งได้ที่ 1678
นอกจากนี้ ดีแทคได้เผยผลทดสอบสัญญาณมือถือในโครงการ 77/77 ดีแทค อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริปผ่านมาตรฐานทุกภาค โดยนายประเทศ ตันกุรานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวเพิ่มเติมว่า ?เป็นที่น่ายินดีว่าผลทดสอบสัญญาณจากจากโครงการ 77/77 ดีแทค อินเทอร์เน็ต ฟอร์ ออล โรด ทริป (77/77 dtac internet for all road trip) มีผลออกมาได้ตามมาตรฐานทุกภาค สร้างความมั่นใจให้ลูกค้าโดยจะได้เริ่มสัมผัสกับประสบการณ์ที่ดีที่สุดทั้งโทรและการใช้งานดาต้า ทั้งนี้ การทดสอบได้ใช้ซิมการ์ดระบบเติมเงินของดีแทค และค่ายอื่นอีก 2 ซิมเพื่อเปรียบเทียบ โดยทั้งหมดคือซิมทั่วไปที่มีจำหน่ายในตลาด และนำซิมใส่ในมือถือเพื่อทำการทดสอบโทรเข้า-รับสาย ตามเส้นทางทุกภาค และผลทดสอบออกมาทุกค่ายผ่านมาตรฐานการใช้งาน?
สำหรับผลการทดสอบของภาคเหนือ ภาคตะวันออก ภาคใต้ และสุดท้ายคือภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานคร จากการทดสอบได้ผลว่ามีการโทรสำเร็จ (Call Setup Success) คิดเป็นกว่า 99% จากทุกค่าย และอัตราสายหลุด (Dropped Call) คิดเป็นประมาณ 1% จากทุกค่ายเช่นกันถือว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานด้วยกัน

ทรูมูฟ เอช เดินสายโปรโมท 4G LTE ใช้งานได้จริงแล้ว

ทรูมูฟ เอช เดินสายโปรโมท 4G LTE ใช้งานได้จริงแล้ว
บน iPhone5 iPad with Retina display และ iPad mini รายแรกและรายเดียวในไทย
พร้อมแนะนำโปรโมชั่นสุดคุ้มใช้ 4G LTE ฟรี ถึง 30 มิถุนายน 2557

TM H_Man U (3)

ทรูมูฟ เอช นำทีมโดย ดร. ปพนธ์ รัตนชัยกานนท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มด้านการพาณิชย์ กลยุทธ์การขายและรีเทล / ทรูไลฟ์สไตล์รีเทล บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมพระเอกหนุ่มสุดหล่อ ?ซี ? ศิวัฒน์ โชติชัยชรินทร์? เดินสายเชิญชวนชาวเอชสัมผัสประสบการณ์ 4G LTE แรงเต็มสปีดและใช้ได้จริงแล้วเป็นรายแรกและรายเดียวในไทย พร้อมมอบประสบการณ์ความแรง และแนะนำโปรโมชั่นสุดคุ้มให้ลูกค้าที่ใช้iPhone 5 iPad with Retina display และ iPad mini ใช้บริการ 4G LTE ได้จริง ฟรี ถึง 30 มิถุนายน 2557ตามปริมาณการใช้งานดาต้าที่ระบุไว้ในแต่ละแพ็คเกจ ทั้งนี้ บริการ 4G LTE จาก ทรูมูฟ เอช ช่วยให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น ดาวน์โหลดเร็วกว่า 3G+ ถึง 3 เท่า อัพโหลดเร็วกว่า 3G+ ถึง 5 เท่า เร็วแรงไม่มีสะดุด ถูกใจคนรุ่นใหม่อย่างแรง พิเศษ!! ลูกค้าเปิดเบอร์ใหม่ รับปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตเพิ่มอีก 2 GB เป็นเวลา 30 วัน สำหรับแพ็คเกจที่กำหนด (Free Size 599, XL 899, XXL 999, Net (i) 599, Net (i) 699, Net (i) 799)

โดยในปัจจุบันทรูมูฟ เอช ได้นำร่องเปิดให้บริการ 4G LTE เฟสแรกในพื้นที่สำคัญๆ อาทิ สยามสแควร์ สีลม สาทร โรงพยาบาลศิริราช และถนนสายสำคัญ เช่น ถ.พระราม 9 ถ.เพชรบุรี ถ.สุขุมวิท บางส่วนของเส้นทางรถไฟฟ้า BTS MRT Airport link สนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งปริมณฑล อาทิ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และจะขยายครอบคลุมอีก15 หัวเมืองหลัก ได้แก่ พัทยา หัวหิน ชะอำ เชียงใหม่ ภูเก็ต สมุย นครปฐม อยุธยา พิษณุโลก ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และสงขลาภายในสิ้นปีนี้
ลูกค้าที่ใช้ iPhone 5 iPad with Retina display รุ่น Wi Fi + Cellular และ iPad mini สามารถอัพเดทซอฟท์แวร์เป็น iOS 6.1 ขึ้นไป จากนั้นเข้าไปตั้งค่าเครื่องเพื่อใช้บริการ 4G LTE โดยเข้าไปที่ การตั้งค่า (Settings) > ทั่วไป (General) > เกี่ยวกับ (About) และทำตามขั้นตอนจนการอัพเดทเสร็จสมบูรณ์ และสามารถขออัพเกรดเป็นซิม 4G LTE ได้ฟรีที่ร้านทรูช้อป

แอลจีเปิดตัว LG OPTIMUS G PRO พร้อมให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้สัมผัสที่สุดของสมาร์ทโฟนแห่งปีจากแอลจี

LG Optimus G Pro_01

บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมาร์ทโฟน ด้วยการเปิดตัว แอลจี ออพติมัส จี โปร (LG Optimus G Pro) สมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง ที่มาพร้อมหน้าจอ Full HD IPS ขนาด 5.5 นิ้ว และระบบประมวลผล Snapdragon? 600 Quadcore 1.7 Ghz ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานอย่างไร้ขีดจำกัด พร้อมให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้

คุณศิวกร ดำรงภัทร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ?LG Optimus G Pro จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับตลาดสมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอขนาด 5 นิ้วขึ้นไป พร้อมตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการมือถือที่สามารถเป็นได้ทั้งสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตในเครื่องเดียวกัน ซึ่งตลาดกลุ่มนี้ถือว่ามีศักยภาพการเติบโตในประเทศไทย เราเชื่อว่าด้วยฟีเจอร์การใช้งานที่ครบครันและโดดเด่นของ LG Optimus G Pro จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ใช้งานชาวไทย และส่งผลให้แอลจีเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนได้อย่างแน่นอน?

LG Optimus G Pro_02

นอกจากนี้ ด้วยการออกแบบของ LG Optimus G Pro ที่พัฒนามาเพื่อผู้ใช้งานอย่างแท้จริง พร้อมฟีเจอร์ที่โดดเด่น ใช้งานง่าย สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อีเลคทรอนิคส์ได้หลากหลายรูปแบบ ผสานกับตัวเครื่องที่มาพร้อมดีไซน์สวยงามตามแบบฉบับของแอลจี ส่งผลให้ LG Optimus G Pro ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคด้วยความสำเร็จจากยอดขายสูงกว่า 500,000 เครื่องในระยะเวลาเพียง 40 วัน ภายหลังจากการเปิดตัวในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งสูงกว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นถึง 2 เท่าในระยะเวลาการวางจำหน่ายเท่ากัน โดย LG Optimus G Pro ยังได้รับการยกย่องให้เป็น Best of MWC 2013 ในงาน Mobile World Congress 2013 (MWC) และ รางวัล Best LTE Device/Handset จากการประชุม LTE World Summite 2013 ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 24-26 มิถุนายนที่ผ่านมา รวมถึงได้รับรางวัล red dot award ที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า Optimus G Pro เป็นเป็นสุดยอดนวัตกรรมด้านการดีไซน์อีกด้วย

LG Optimus G Pro มาพร้อมระบบประมวลผล Snapdragon? 600 Quadcore 1.7 Ghz และ Adreno 320 GPU ที่ให้ประสิทธิภาพการทำงานเหนือระดับ ตอบสนองการทำงานได้อย่างรวดเร็ว รองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ในเวลาเดียวกันได้โดยไม่มีสะดุด พร้อมคุณสมบัติเต็มประสิทธิภาพ อาทิแบตเตอรี่ขนาดถึง 3,140mAh หน่วยความจำ (RAM) ขนาด 2GB หน้าจอแบบ Full HD IPS ขนาด 5.5 นิ้ว แสดงภาพที่ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล ที่ 400ppi มอบภาพคมชัดทุกมุมมอง สีสันสมจริงเป็นธรรมชาติมากที่สุด LG Optimus G Pro ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ที่สวยงาม หรูหรามีระดับ ตัวเครื่องเพรียวบาง จับกระชับพอดีมือและยังสะดวกในการพกพา

LG Optimus G Pro มาพร้อมความโดดเด่นของโปรแกรมและฟังก์ชั่นการใช้งานเพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด อาทิ Dual Camera & Dual Recording ฟังก์ชั่นที่ถ่ายภาพหรือถ่ายวิดีโอ พร้อมกันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง, VR Panorama โปรแกรมที่ช่วยให้สามารถถ่ายภาพมุมกว้าง ทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้แบบ 360 องศา, Pause & Resume Recording ให้ผู้ใช้งานสามารถหยุด และกลับมาบันทึกภาพวิดีโอได้อย่างต่อเนื่องโดยยังคงบันทึกไว้ในไฟล์เดียวกัน, Smart Video ฟังก์ชั่นอัจฉริยะที่สามารถเล่น และหยุดไฟล์วิดีโออัตโนมัติด้วยการใช้เซ็นเซอร์จับที่สายตาของผู้ใช้งาน และ QRemote 2.0 ฟังก์ชั่นที่สามารถใช้งานสมาร์ทโฟนแทนรีโมทคอนโทรล โดยใช้กับโทรทัศน์, เครื่องเล่นบลูเรย์, เซตท็อป บ็อกซ์, เครื่องปรับอากาศ หรือโปรเจ็คเตอร์ที่เป็นอินเตอร์แบรนด์ได้ทุกแบรนด์

?LG Optimus G Pro นับเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ที่แสดงถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนของแอลจี และยังตอกย้ำว่าแอลจีเข้าใจเป็นอย่างดีในความต้องการของผู้บริโภคที่มองหาสมาร์ทโฟนเพื่อสะท้อนตัวตนของตนเองได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาและสร้างสรรค์ LG Optimus G Pro ให้เป็นสมาร์ทโฟนที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดและดีที่สุดในกลุ่มหน้าจอขนาด 5 นิ้วขึ้นไป เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และได้รับประสบการณ์การใช้งานอันไร้ขีดจำกัดผ่านโปรแกรมที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ที่จะทำให้พวกเขารู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องยึดติดกับกรอบการใช้งานแบบเดิมๆ? คุณศิวกรกล่าว

LG Optimus G Pro ราคา 19,900 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) (รุ่น E988 รองรับระบบ 3G 900/2100 MHz และรุ่น E989 รองรับระบบ 3G 850/2100 MHz) มีให้เลือกระหว่างสีดำและสีขาว มาพร้อมหูฟัง Quadbeat ช่วยยกระดับประสบการณ์ความบันเทิงให้เสียงคมชัดสมจริงทุกจังหวะได้อย่างเต็มอรรสรส พร้อมรับฟรี เคสนำเข้าจากเกาหลีและฟิล์มกันรอย ให้คุณได้สัมผัสและเป็นเจ้าของแล้วที่ตัวแทนจำหน่ายของแอลจีทั่วประเทศ ข้อมูลเพิ่มเติมเข้าชมได้ที่ www.lg.com/th และ www.facebook.com/thailandlifesgood หรือติดต่อศูนย์บริการแอลจี โทร 02-878-5757

Lenovo ฉีกข้อจำกัดด้านราคา เปิดตัวสมาร์ทโฟนประสิทธิภาพเหนือกว่า ฟังก์ชั่นครบครัน ในราคาสบายกระเป๋า

เลอโนโวประกาศวางจำหน่ายสมาร์ทโฟนรุ่นแรก A ซีรียส์ ในราคาสบายกระเป๋า แต่ประสิทธิภาพเกินคุ้ม รองรับระบบปฎิบัติการ Android จำหน่ายแล้ววันนี้ที่ร้านค้าตัวแทนทั่วประเทศ

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำ Lenovo สมาร์ทโฟนมาจำหน่ายในประเทศไทย ??ในส่วนของร้านค้าและการจัดจำหน่าย เราได้มีการประสานงานกับ อินแกรม ไมโคร และเดอะแวลลูซิสเตมส์ เพื่อวางจำหน่าย Lenovo สมาร์ทโฟนในกว่า 200 ร้านค้าทั่วประเทศไทย ??????ข้อมูลจากจีเอฟเคแสดงให้เห็นว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในต่างจังหวัด สำหรับ Lenovo สมาร์ทโฟนเป็นอีกภาคธุรกิจที่มีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ PC+ ของเราและผู้บริโภคก็เริ่มหันมาใช้สมาร์ท ดีไวซ์ แทนการใช้งานคอมพิวเตอร์มากขึ้น?

Lenovo A706 ? มากกว่าความคุ้มค่า เต็มประสิทธิภาพสมาร์ทโฟน

A706_hero_home page_04

Lenovo A706 คือสมาร์ทโฟนที่อัดแน่นด้วยประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นระบบประมาลผลแบบ 1.0GHz quad Core Cortex? A5 และแรมขนาด 1GB สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังคงเน้นประสิทธิภาพสำหรับผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าคุ้มราคาแต่ต้องมาพร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่เต็มเปี่ยมไม่ว่าจะเป็นการใช้งานอีเมลล์ เล่นเว็บ ฟังเพลง ดูหนัง เล่นเกมส์ ด้วยจอแสดงผล IPS ขนาดใหญ่ถึง 4.5 นิ้ว ทำให้การส่งข้อความสะดวกขึ้นและดูหนังได้เต้มอารมณ์มากยิ่งขึ้น ?Lenovo A706 มาพร้อมกล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล? ทั้งยังมีเทคโนโลยีระบบเสียง Dolby Digital Plus ที่ให้เสียงเบสดังชัด คุณภาพเสียงสมจริงเทียบเท่าสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์?? ช่องใส่ซิมของรองรับระบบ Dual SIM ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ A706 ซึ่งทำงานบน Android OS v4.1 Jellybean เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการความสมบูรณ์แบบ

 

Lenovo A390 ? เปลี่ยนข้อจำกัดเดิมๆด้านราคาของสมาร์ทโฟน

A390_hero

Lenovo A390 เป็นสมาร์ทโฟนที่เหมาะสำหรับมือใหม่ที่ใช้สมาร์ทโฟนเป็นครั้งแรก หากแต่มีคุณสมบัติครบครันกว่าสมาร์ทโฟนพื้นฐานรุ่นอื่นๆ ในระดับราคาใกล้เคียงกัน โดย A390 ใช้ 1.0GHz dual-core processor พร้อม 512MB RAM และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 4GB (ขยายได้ถึง 32GB) ทั้งยังใช้เล่นเกมได้ไม่สะดุด ขณะที่กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เพียงพอสำหรับการถ่ายภาพและแบ่งปันภาพถ่ายในกลุ่มเพื่อน สมาร์ทโฟน A390 จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพที่เชื่อถือได้โดยไม่กระทบกับงบประมาณ ทั้งยังมีแอพมากมายที่มาพร้อมกับเครื่องที่ถูกออกแบบมาให้จับกระชับเหมาะมือ
ราคาและการวางจำหน่าย

Lenovo สมาร์ทโฟน A ซีรี่ย์วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ตัวแทนร้านค้าเลอโนโว สมาร์ทโฟนกว่า 200 ร้านทั่วประเทศ

Lenovo A390 ราคา 2,990 บาท

Lenovo A706 ราคา 5,990 บาท

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ อินแกรม ไมโคร ประเทศไทย โทร +662-793-1723, +662-7931921 หรือ เดอะแวลลูซิสเตมส์ โทร +662-661-6666, +662-261-2900 หรือติดต่อ เลอโนโว คอลล์ เซ็นเตอร์ โทร 001 800 060 015

ติดตามข่าวสาร Lenovo Smartphone ได้ที่ www.facebook.com/LenovoMobileThailand

[iPad] Pinterest Digital idea Pinboard

pic01

ณ เวลานี้คงต้องยกพื้นที่ให้กับโซเชี่ยลแอพน้องใหม่อย่าง Pinterest (พินเทอร์เรส) ดิจิตอลบอร์ดที่เป็นศูนย์รวมภาพจากไอเดียเก๋ๆ ตามหมวดหมู่ที่ทุกคนสามารถแชร์ภาพขึ้นสู่ดิจิตอลบอร์ดแห่งนี้เหมือนการนำภาพไปปักหมุนไว้บนบอร์ดสาธารณะนั่นเอง
หลังจากที่ผมได้โหลดแอพนี้มาใช้ ขอบอกเลยว่าเข้ามาแล้วหาทางออกยากจริงๆ เรียกว่าใช้เวลาอยู่กับมันพอๆ กับ Facebook เลยทีเดียว เอาเป็นว่าหลงเสน่ห์เจ้าดิจิตอลบอร์ดแห่งนี้จนโงหัวไม่ขึ้นเสียแล้ว เอาล่ะครับมาดูกันเลยดีกว่าว่าเจ้า Pinterest ทำให้ผมต้องใช้เวลาอยู่กับมันแทนที Facebook ได้อย่างไร

ศูนย์รวมไอเดียสุดเก๋

pic07

ด้วย Pinterest เป็นเสมือนดิจิตอลบอร์ดที่ให้ทุกคนสามารถปักรูปแชร์เอาไว้ให้เพื่อนได้ชม ซึ่งถือเป็นสังคมออนไลน์อีกรูปแบบหนึ่งที่เน้นการแชร์รูปไอเดียสร้างสรรค์ต่างๆ ตามหมวดหมู่ โดยเฉพาะในหมวด Design ที่เป็นหมวดที่ผมชอบมาก ภายในหมวดนี้จะมีภาพไอเดียต้นแบบหรือที่ใช้จริงไปแล้วมากมาย ทั้งแบบโฆษณาแนวๆ, แพคเกจดีไซน์, อินโฟกราฟิกต่างๆ ซึ่งเหมาะมากกับผู้ที่ต้องการแสวงหาแรงบรรดาลใจ หรือแนวทางในการออกแบบ นอกจากนี้ยังมีหมวดต่างๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็น Architecture, Art, DIY & Crafts, Illustrations & Posters, Men?s Fashion, Technology, Photography, Weddings เป็นต้น

How to get Pin

pic08?pic07

สำหรับวิธีการค้นหาไอเดียในหมวดหมู่ต่างๆ นั้นก็ไม่ยากเลย เพียงแค่แตะที่ปุ่มเมนูมุมบนซ้าย แล้วเลือกหมวดหมู่ที่ต้องการ เพียงเท่านี้ก็จะแสดงภาพทั้งหมดที่ถูกปักหมุดตามหมวดหมู่นี้เอาไว้ ซึ่งเรียกว่า Pin นั่นเอง นอกจากนี้เรายังสามารถแตะบน Pin เพื่อดูแบบเต็มหน้าจอได้อีกด้วย

แชร์ Pin ไปยัง Facebook

pic04

หากต้องการแชร์ Pin ที่ถูกใจไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์คอย่าง Facebook ก็สามารถทำได้ เพียงแค่แตะปุ่ม Share แล้วเลือก Share on Facebook ภาพดังกล่าวก็จะถูกแชร์ไปยัง Facebook พร้อมกับสเตตัสที่เราพิมพ์เข้าไป นอกจากนี้ยังสามารถแชร์ไปยัง Twitter, ส่งผ่านทางอีเมล์ หรือจะบันทึกเก็บไว้ใน Camera Roll บน iPad ก็ได้

ชอบกด Like ใช้กดคอมเม้นท์

pic05

บนแต่ละ Pin ที่เราเปิดดูสามารถที่จะกด Like ได้เช่นเดียวกับการใช้งานบน Facebook หรือหากต้องการคอมเม้นท์ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน ไม่เพียงเท่านั้นมันยังสามารถ Repin เพื่อให้เพื่อนๆ ที่ติดตามเราได้เห็น Pin ดังกล่าวอีกครั้งได้ด้วย เรียกว่านำคุณสมบัติทั้งของ Facebook และ Twitter มารวมไว้ในหนึ่งเดียว

Follow ตามหมวด หรือตามบุคคลที่ Pin

pic06

ในขณะที่เรากำลังดู Pin ที่ชื่นชอบอยู่แล้วต้องการติดตาม Pin อื่นๆ (ถ้ามี) ในหมวดเดียวกันนี้ ก็สามารถเลื่อนลงมาด้านล่างของ Pin ดัวกล่าวแล้วแตะ Follow ตามหมวดหมู่อ้างอิงที่มีอยู่ได้เลย ซึ่งคราวหน้าหากมี Pin ถูกปักเข้ามาใหม่ เราก็จะได้เห็น Pin ดังกล่าวเข้ามาในหน้า Following ของเรา

pic07

นอกจากนี้ยังสามารถติดตามเฉพาะบุคคลที่โพสต์ Pin ดังกล่าวที่เราต้องการได้อีกด้วย โดยในแต่ละ Pin จะมีชื่อของบุคคลที่ได้ทำการแชร์ Pin เอาไว้ใต้ภาพดังกล่าว จากนั้นให้แตะบนชื่อของบุคคลดังกล่าวแล้วแตะ Follow All หรือ เลือก Follow เฉพาะบางหมวดหมู่ตามที่บุคคลนี้ได้จัดแบ่งเอาไว้ก็ได้

โพสต์ลิงค์ที่ถูกใจขึ้นสู่ Pinterest

pic10

สำหรับการโพสต์รูปต่างๆ สู่ Pinterest นั่น บน iPad จะสามารถโพสต์ได้เฉพาะลิงค์จากเว็บต่างๆ เท่านั้น โดยภายในแอพจะมีหน้าเบราเซอร์มาให้ในตัว เพียงแตะที่ปุ่มเมนูมุมขวาบน แล้วแตะ Browse the web จากนั้นก็พิมพ์ชื่อเว็บไซต์หรือลิงค์หน้าเว็บเพจที่เราต้องการโพสต์ลงไป เสร็จแล้วก็แตะปุ่ม Pin it แล้วเลือกรูปที่ต้องการโพสต์ แตะในช่องข้อความแล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการแนบไปด้วย แตะเลือกหมวดหมู่เหนือช่องข้อความ โดยสามารถสร้างหมวดหมู่หรือบอร์ดใหม่ได้อีกด้วย จากนั้นให้แตะปุ่ม Pin it
แต่หากต้องการจะโพสต์รูปใหม่ที่มีอยู่ในเครื่องจะต้องทำผ่านเบราเซอร์บนพีซีเท่านั้น ยังไม่สามารถนำรูปที่ถ่ายบน iPad มาโพสต์ได้

เอาล่ะครับงานนี้ก็คงพอที่จะแนะนำการใช้งาน Pinterest ในเบื้องต้นได้อย่างพอสมควรแล้ว เชื่อว่าเพียงแค่นี้ก็คงจะทำให้คุณหลงติดอยู่ในวังวนของเจ้าดิจิตอลบอร์ดแห่งนี้จนวางไม่ลงแล้วล่ะครับ

วิธีเช็ค iPhone 5 ว่าเป็น Model อะไร

iPhone5-34Flat-iOS7_PRINT800

สำหรับใครที่อยากลองอัพเดท iOS 7 beta ต่างๆ ที่ปล่อยออกมาสำหรับนักพัฒนา สิ่งหนึ่งที่ควรต้องรู้คือ Model ในอุปกรณ์ของเรา ยกตัวอย่างเช่น iPhone 5 ก็จะมีออกมาหลายโมเดล ไม่ว่าจะเป็นรุ่นที่รองรับระบบ GSM หรือรุ่นที่รองรับระบบ CDMA ซึ่งแต่ละประเทศก็จะแตกต่างกันไป ดังนั้นเราจะควรตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าเครื่องของเราเป็นรุ่นไหน Model อะไร เพื่อจะได้ดาวน์โหลดไฟล์ .ipsw ที่ใช้ในการติดตั้ง iOS 7 beta ได้ตรงรุ่นนั่นเอง

โดยวิธีการง่ายๆ ดังนี้

แตะไอคอน Settings > General > About > Legal > Regulatory เท่านี้ก็จะแสดงชื่อรุ่น Model ของ iPhone 5 ขึ้นมาทันที

Photo 9-7-2556, 15 00 49

จากรูปนี้ จะเป็น Model : A1429 ซึ่งเป็นเครื่องศูนย์ true move H

 

iOS 7 Beta 3 มาแล้ว พร้อมดาวน์โหลดที่นี่

iPAD-MINI-IOS-7

หลังจากที่ผมได้ลองติดตั้ง iOS 7 Beta 1 ลงไป ก็เจอกับปัญหามากมาย โดยเฉพาะเรื่องการสูบแบตจนต้องยอมแพ้ ถอยกลับมาใช้ iOS 6 เหมือนเดิม จนกระทั่งไม่นานก็มี Beta 2 ออกตามมา แต่ก็ยังไม่กล้าอัพเดทเพราะเกรงว่าัยังมี Bug อีกเพียบ จนเมื่อคืน iOS 7 ได้ปล่อยอัพเดท Beta 3 ออกมาให้กับนักพัฒนาได้ลองกัน ซึ่งก็มีอินเตอร์เฟสบางอย่างที่เปลี่ยนไป เช่น บนแถบ Notification Center ได้เพิ่มแถบเวลาของการเล่้นเพลงเข้ามา และภาพนาฬิกาปรับจากใสมาเป็นแบบทึบแทน, เปลี่ยนรูปแบบกราฟิกแสดงความคืบหน้าการดาวน์โหลดแอพ, ปฏิทินเพิ่มจุดสีเทาในวันที่สร้างนัดหมายเอาไว้ เป็นต้น สำหรับผู้ที่ใช้ iOS Beta 2 ก็สามารถอัพเดทผ่าน WiFi หรือ OTA ได้เลย ส่วนใครที่ต้องการติดตั้ง iOS 7 Beta 3 ก็สามารถ ดาวน์โหลดไปติดตั้ง ด้วยวิธีการกดปุ่ม Shift แล้วคลิกปุ่ม Check for Update ในโปรแกรม iTunes สำหรับ Windows ได้เลย หรือสำหรับ Max OS กดปุ่ม?Option+Shift เสร็จแล้ว คลิกที่ปุ่ม?Check for Update ?(ห้ามกด?Shift + Restore เด็ดขาด) จากนั้นก็เลือกไฟล์ .ipsw ตามรุ่นที่เราได้ดาวน์โหลดมา แล้วรอให้ติดตั้งจนเสร็จ

 

ฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 7 Beta 3

[youtube link=”http://www.youtube.com/watch?v=695k8U6yhjI” width=”590″ height=”315″]

 

คำเืตือน : ควรแบ็กอัพทุกสิ่งอย่างให้เรียบร้อยก่อนติดตั้ง iOS 7 Beta 3 และที่สำคัญ iOS Beta ทุกเวอร์ชั่นจะมีวันหมดอายุ ต้องอัพเดทเวอร์ชั่นใหม่ที่ออกมาหรือรีสโตร์กลับไปเวอร์ชั่นเก่าถึงจะใช้งานต่อได้ และการอัพเดทนี้อาจมีความเสี่ยงที่ทำให้ระบบปฏิบัติการเสียหายได้ ซึ่งถือเป็นความสมัครใจของผู้ใช้งานเอง ทางเว็บไซต์ไม่มีส่วนในการรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น

 

iOS 7 beta 3 Downloads

คลิกโหลดกันให้ตรงรุ่นนะครับ อยากรู้้่ว่าเครื่องเราเป็น Model อะไร คลิก วิธีเช็ค iPhone 5 ว่าเป็น Model อะไร

  • iPad (4th generation Model A1458) (LINK)
  • iPad (4th generation Model A1459) (LINK)
  • iPad (4th generation Model A1460) (LINK)
  • iPad mini (Model A1432) (LINK)
  • iPad mini (Model A1454) (LINK)
  • iPad mini (Model A1455) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi (3rd generation) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi + Cellular (model for ATT) (LINK)
  • iPad 3 Wi-Fi + Cellular (model for Verizon) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi (Rev A) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi + 3G (GSM) (LINK)
  • iPad 2 Wi-Fi + 3G (CDMA) (LINK)
  • iPhone 5 (Model A1428) (LINK)
  • iPhone 5 (Model A1429) (LINK)
  • iPhone 4S (LINK)
  • iPhone 4 (GSM Rev A(8GB) (LINK)
  • iPhone 4 (GSM) (LINK)
  • iPhone 4 (CDMA) (LINK)
  • iPod touch (5th generation) (LINK)

หรือดาวน์โหลดได้ที่?http://imzdl.com/ios.php

หมายเหตุ : เมื่อดาวน์โหลดไฟล์เรียบร้อยแล้วจะได้เป็น Image File นามสกุล .dmg ให้ใช้โปรแกรมแตกไฟล์อย่าง Power ISO แล้วก็อปเฉพาะไฟล์นามสกุล .ipsw ออกมาใช้งาน

Source?:?gdeluxe

ซัมซุงชวนคอลูกหนังชาวไทย ร่วมส่งแรงเชียร์รับการมาเยือนของทีมเชลซี ผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์ค

Cheer The Blues
คอลูกหนังชาวไทยมีเฮ เมื่อทีมฟุตบอลระดับโลกอย่างเชลซีจะเดินทางมาฟาดแข้งโชว์ฝีเท้าถึงเมืองไทยใน Chelsea Asia Tour 2013 วันพุธที่ 17 กรกฎาคม 2556 เวลา 18.00 น. ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน งานนี้โกลบอลสปอนเซอร์อย่างซัมซุงจัดเต็ม เชิญชวนสาวกสิงห์บลูมาร่วมเชียร์กับกิจกรรม ?ซัมซุง เชียร์ เดอะ บลูส์ (Samsung Cheer the Blues)? เชียร์เชลซี มันส์สะใจกับซัมซุง แฟนชาวไทยเลือดน้ำเงินสามารถร่วมโชว์สปิริตความเป็นเชลซีและส่งแรงใจเชียร์เชลซีหรือนักเตะคนโปรดได้โดยโพสต์ภาพหรือข้อความเด็ดๆ ผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์ค (Facebook, Twitter, IG) พร้อมพิมพ์ #CheerTheBlues เพื่อลุ้นรางวัลร่วม Meet & Greet อย่างใกล้ชิดกับทีมเชลซี ตั๋วเข้าชม Chelsea Asia Tour สุดพิเศษ และ Samsung Galaxy S4 มูลค่ารวมรางวัลกว่า 100,000 บาท ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.samsung.com/th/cheertheblues