LG ปล่อยทีเซอร์ G2 ก่อนเปิดตัวพรุ่งนี้ (7 ส.ค.)

LG_G2_01

เหลือเวลาอีกแค่้ 1 วันเท่านั้น LG G2 สมาร์ทโฟนรุ่นที่เป็นเรือธงอีกตัวของปีนี้ก็กำลังจะเปิดตัวขึ้น โดยล่าสุดแอลจีได้ปล่อยคลิปทีเซอร์ เผยให้เห็นถึงคอนเซ็ปของ G2 ออกมาแล้ว โดยพยายามจะสื่อให้เห็นถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ถึงแม้จะล่ำเลิศแค่ไหน แต่ก็ยังมีความผิดพลาดและไม่สมบูรณ์แบบได้เทียบเท่ากับควา่มเป็นมนุษย์ที่มีจิตวิญญาณความรู้่สึก ตามประโยคตบท้ายที่ว่า “There’s no greater technology than humans” ไม่มีเทคโนโลยีใดที่ดีไปกว่ามนุษย์ และจบด้วยภาพเงาของ LG G2 ที่มาพร้อมกับสโลแกน Learning from You LG G2 โดยที่บนหน้าจอเหมือนมีปุ่ม Home หรือปุ่มควบคุมอะไรสักอย่าง อยู่บนจอ

Teaser ล่าสุด

[youtube link=”http://youtu.be/QdBpmfk56UQ” width=”590″ height=”315″]

 

โดยก่อนหน้านี้ก็ได้มีคลิปโปรโมท QuickWindow Case สำหรับ G2 ออกมา ซึ่งรองรับการใช้งานฟังก์ชั่น Quick Window ที่สามารถควบคุมการเปิดปิดเพลง รับสายเข้า ตั้งนาฬิกาปลุก แสดงนาฬิกา หรือข้อความต่างๆ โดยที่ไม่ต้องเปิดฝาเคสขึ้นมา ซึ่ง LG G2 จะเปิดตัวในวันที่ 7 ส.ค. นี้ โดยสามารถติดตามผ่าน Youtube Channel ได้อีกด้วย

LG_G2_02

คลิปโปรโมท QuickWindow Case

[youtube link=”http://youtu.be/We1PV5uk2r8″ width=”590″ height=”315″]

 

คลิป Teaser Flim ตัวแรก

[youtube link=”http://youtu.be/zqmQ1A22nIQ” width=”590″ height=”315″]

เผย 2 คลิปหลุดล่าสุด ชิ้นส่วน iPad 5 กับ iPhone 5C

iPad5Rumor

หลุดถี่ขึ้นเรื่อยๆ นะครับช่วงนี้กับชิ้นส่วนของ iPad 5 และ iPhone 5C โดยคลิปล่าสุด ที่มาจาก macotakara ได้เผยให้เห็นชิ้นส่วนของ iPad 5 โดยมีกรอบหน้าจอด้านหน้า และฝาหลังของตัวเครื่องที่ยังคงเป็นเหมือนโลหะสีเงิน แต่โลโก้จะกลายเป็นโปร่งแสงเหมือนจะทำไว้ให้แสงทะลุผ่านได้เหมือน Macbook

[youtube link=”http://youtu.be/5Fhwkz6H9MU” width=”590″ height=”315″]

 

ส่วนคลิปของ iPhone 5C ก็เผยให้เห็นฝาหลังและเปรียบเทียบกับ iPhone 5 กันแบบจะๆ ซึ่งยังคงมีรายละเอียดเหมือนกับคลิปที่หลุดมาก่้อนหน้านี้

[youtube link=”http://youtu.be/QvrE5zZUoLk” width=”590″ height=”315″]

 

Source 😕macrumors

หรือจะเป็น Samsung GALAXY GEAR!!!

Samsung Galaxy Gear
Samsung Galaxy Gear

ตามข่าวที่จะมีการเปิดตัว Smart Watch ในงานเดียวกับ Galaxy Note 3 ในงาน IFA2013 ณ เมืองเบอร์ลิน เยอรมันนี ในวันที่ 4 กันยายนนี้ ได้มีข่าวหลุดออกมาว่าซัมซุงได้จดชื่อตราผลิตภัณฑ์ว่า Samsung Galaxy Gear และยังมีรายละเอียดที่แสดงถึงคุณสมบัติว่าเป็นอุปกรณ์ดิจิตอลอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้สวมใส่กับข้อมือ โดยสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้ รับสายหรือโทรออกได้ รับส่งอีเมล์หรือข้อความได้ โดยยังระบุอีกว่าสามารถเชื่อมต่อร่วมกับ Smartphone, Tablet และ PC ได้อีกด้วย

TMsmwatch

 

Galaxy_smartwatch_concept

 

ภาพจาก : www.patentlyapple.com

ดูเหมือนว่า Smartwatch ของซัมซุงจะใกล้เป็นความจริงเข้ามาทุกที ผิดกับ iWatch จาก Apple ที่ยังเป็นเพียงข่าวลือว่ากำลังพัฒนาต้นแบบอยู่ ซึ่งอาจจะเปิดตัวในปี 2014 แต่ถึงเวลานั้น ซัมซุงคงกวาดเงินจากสาวก Gadgets ทั่วโลกไปได้ไม่น้อยแล้วล่ะครับ

Apple-iWatch-trademark-mission-on-the-move
Apple iWatch

 

Source 😕phonearena.com

ฮ๊ะ อะไรนะ Note 3 กำลังจะเปิดตัว 4 กันยานี้

samsung-red_0

เว็บไซต์ Asia Economic ของเกาหลีได้รายงานว่า อีกไม่นาน Samsung จะเปิดตัว Galaxy Note 3 โดยคาดว่าจะุเป็นวันที่ 4 กันยายน นี้ ในงาน IFA 2013 ที่เมืองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมันนี ซึ่งถือเป็นงานแสดงโชว์สินค้าและนวัตกรรมทางด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกอีกงานหนึ่ง โดยทางซัมซุงจะใช้งานนี้เป็นงานแถลงข่าวเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ที่เชื่อว่าน่าจะมี Galaxy Note 3 เป็นหัวหอกสำคัญของงานนี้ และนอกจากนี้ยังมาข่าวอีกว่าจะมีการเปิดตัวของเล่นใหม่ที่เรียกว่า Smart Watch ซึ่งน่าจะคล้ายๆ กับ Sony Smartwatch ที่เป็นนาฬิกาข้อมือซึ่งเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Android เพื่อควบคุมการเล่นเพลง รับสายหรือโทรออก อ่านสถานะบน Facebook ได้ เป็นต้น

สำหรับ Galaxy Note 3 อาจจะมาพร้ิอมหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นขนาด 5.7 นิ้ว 1080P AMOLED จากเดิม 5.5 นิ้ว พร้อม Ram 3GB และ CPU ตัวใหม่ 8 แกนสมอง Exynos 5 Octa CPU และระบบปฏิบัติการ Android 4.3

งานนี้คาดว่าน่าจะมีความเป็นไปได้สูง เพราะถึงเวลาแล้วที่ Note 2 จะต้องตกรุ่นไปตามกาลเวลาเสียที

Source : Androidcentral,?phonearena

แอลจีเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2556 กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือทุบสถิติทำรายได้ประจำไตรมาสต่อเนื่องสูงที่สุด ด้วยยอดขายกว่า 12 ล้านเครื่อง

Photo 12-7-56 10 30 58

ภาพประกอบบทความเท่านั้น

 

แอลจี อีเลคทรอนิคส์ เผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ประจำปี 2556 ซึ่งเป็นไปในทิศทางที่ดีสืบเนื่องมาจากผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจหลักที่ดีขึ้น โดยเฉพาะจากกลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือซึ่งสามารถเพิ่มยอดขายได้ถึง 12.1 ล้านเครื่องในช่วงเดือนเมษายนถึงมิถุนายน นับเป็นประวัติการณ์สูงสุดของบริษัทตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจในกลุ่มโทรศัพท์มือถือ

ในไตรมาสที่สองของปี 2556 บริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 เมื่อเทียบปีต่อปี หรือมีรายได้รวม 13.58 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 40.74 พันล้านบาท) ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของเกือบทุกกลุ่มธุรกิจ โดยมีกำไรจากการดำเนินงานรวมทั้งสิ้น 426.92 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.2807.6 หมื่นล้านบาท) และมีกำไรสุทธิรวม 139.04 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.171 พันล้านบาท) ซึ่งลดลงเพียงเล็กน้อยจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา แต่เพิ่มขึ้น อย่างมากจากไตรมาสที่ผ่านมา

กลุ่มผลิตภัณฑ์โฮมเอ็นเตอร์เทนเมนต์มีรายได้รวม 4.91 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.473แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 จากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งมีมูลค่าเท่ากับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ 2 มีกำไรจากการดำเนินงานรวม 95.37 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2. 61 พันล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากยอดขายที่แข็งแกร่งในประเทศที่กำลังพัฒนา และผลสำเร็จจากการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา กำไรจากการดำเนินงานลดลงเนื่องจากการแข่งขันที่สูงขึ้น และ ความต้องการซื้อที่ลดลงส่งผลให้ราคาขายของผลิตภัณฑ์ต่ำลง ด้วยความต้องการซื้อที่ลดต่ำลงและการคาดการณ์ว่าการแข่งขันในตลาดทั่วโลกจะยังคงสูงอย่างต่อเนื่อง แอลจีจึงวางแผนที่จะลงทุนในตลาดของกลุ่มผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมี่ยมและทีวีจอใหญ่ รวมถึงการขยายตลาดของผลิตภัณฑ์ Ultra HD TV และ OLED TV ในประเทศที่พัฒนาแล้ว

กลุ่มผลิตภัณฑ์โทรศัพท์มือถือมีรายได้ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่สอง โดยทำรายได้ถึง 2.78 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8.34 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 34.5 จากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เนื่องจากบริษัทส่งออกสมาร์ทโฟนกว่า 12.1 ล้านเครื่อง ซึ่งเป็นยอดการส่งออกประจำไตรมาสที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของแอลจี มีกำไรจากการดำเนินงานรวมเป็น 54.37 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.631.1 พันล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบแบบปีต่อปี แต่ลดลงจากไตรมาสที่ผ่านมาเนื่องจากความต้องการซื้อที่ลดลงในประเทศเกาหลี, ราคาต่อเครื่องที่ลดลงจากการแข่งขันที่สูงขึ้น, รวมถึงการลงทุนด้านการตลาดที่สูงขึ้น การส่งออกโทรศัพท์มือถือรุ่นยอดนิยม อาทิ L-Series II และ F-Series จะช่วยเรื่องการเติบโตของยอดขาย ในขณะเดียวกัน ทางแอลจีคาดหวังว่า สมาร์ทโฟนรุ่น จี โปร (G Pro) และ แอลจี จีทู (LG G2) จะช่วยเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันให้กับบริษัทด้วยเช่นกัน

กลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านมีรายได้ประจำไตรมาสสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยยอดขายในไตรมาสที่สองถึง 2.84 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8.52 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.9 จากปีที่ผ่านมา จากยอดขายที่สูงขึ้นในสหรัฐอเมริกา และการขยายสู่ตลาดใหม่ อาทิ ประเทศจีน และละตินอเมริกา มีกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่สองรวม 107.84 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3.235.2 พันล้านบาท) เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก แต่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา เนื่องจากการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา แอลจีมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องในกลุ่มธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่าง พร้อมกับการประหยัดพลังงาน รวมถึงการปรับปรุงโครงสร้างต้นทุน

สำหรับกลุ่มเครื่องปรับอากาศและโซลูชั่นส์ด้านพลังงานมีรายได้ในไตรมาสที่สองรวม 1.55 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.65 หมื่นล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ร้อยละ 18.4 และเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีนี้ร้อยละ 42.5 มีรายได้จากการดำเนินงานรวม 152.41 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 4.572.3 พันล้านบาท) ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก ปีที่ผ่านมา และจากไตรมาสที่ผ่านมาเช่นกัน ในขณะเดียวกัน กำไรจากการดำเนินงานก็เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 9.9 เป็นผลสืบเนื่องมาจากการพัฒนาด้านการผสมผสานผลิตภัณฑ์ และโครงสร้างทางธุรกิจ

ข้อมูลเกี่ยวกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2556
การตรวจสอบผลประกอบการประจำไตรมาสที่สองของแอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ซึ่งยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านการบัญชี) ใช้หลักเกณฑ์อ้างอิงจาก International Financial Reporting Standards (IFRS) เป็นผลประกอบการในช่วงระยะเวลา 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2556 โดยอัตราแลกเปลี่ยนของเงินวอนต่อดอลล่าร์สหรัฐจะเท่ากับอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของสามเดือนในไตรมาส มีอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลล่าร์สหรัฐ ต่อ 1,122 วอน

?เอซุส? เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์ออลอินวันพีซีและเดสก์ท็อปพีซีใหม่ล่าสุด ตอบโจทย์ความต้องการในทุกฟังก์ชั่นกับคอนเซ็ปต์ ?Innovation of Lifestyle Living?

Asus_AIO_03

กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลตฟอร์ม (โอพี บีจี) บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ ?เอซุส? ผู้นำด้านการผลิตและพัฒนามาเธอร์บอร์ดชั้นนำที่มียอดขายและได้รับรางวัลมากที่สุดในโลก ประกาศเปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือเดสก์ท็อปพีซี ? และออลอินวันพีซี (AiO) ใหม่ล่าสุดเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของทัพสินค้าในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 โดยในงาน ?Innovation of Lifestyle Living? นี้เอซุสได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซี ใหม่รวมถึง 10 รุ่นด้วยกัน ซึ่งเป็นเดสก์ท็อปพีซี 4 รุ่นที่มี ROG TYTAN G50AB และ ASUS?M51AC เป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ นอกจากนี้ยังมีออลอินวันพีซีถึง 6 รุ่นที่พร้อมลงสู้ตลาดไตรมาสนี้ นำทีมโดยสุดยอดนวัตกรรมดูอัลดีไวซ์ (Dual Device) อย่าง ASUS Transformer AiO P1801 ออลอินวันพีซีระบบ Windows 8 เครื่องแรกของโลกที่สามารถถอดออกเป็นแท็บเบล็ตยักษ์ขนาด 18.4 นิ้วบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Jelly Bean 4.1 ได้ ตามมาด้วย ASUS ET2311 และ ASUS ET2702 และรุ่นอื่นๆ อีกมากมาย โดยเอซุสได้สานต่อเจตนารมย์ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้านไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับผู้บริโภค ย้ำเดสก์ท็อปพีซียังคงเป็นอุปกรณ์ที่ให้สมรรถนะในการใช้งานและอรรถรสสูงสุดในการเล่นเกม ดูหนังฟังเพลง คอนเท้นต์มัลติมีเดียต่างๆ ไปจนถึงการใช้งานในออฟฟิศและภายในครัวเรือนทั่วไป ซึ่งทางเอซุสได้วางกลยุทธ์ด้านการตลาดสำหรับครึ่งปีหลัง 2556 นี้ไว้ตามหลักการ ?4P? ประกอบด้วย 1) Product หรือผลิตภัณฑ์ โดยเน้นความโดดเด่นเรื่องคุณภาพและความน่าเชื่อถือของตัวสินค้าที่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ใช้งานได้อย่างดี 2) Price Premium หรือการมุ่งสร้างมูลค่าเพิ่มเพื่อความพึงพอใจให้กับลูกค้า โดยนำเสนอสเป็คเครื่องที่สูงกว่า บริการหลังการขายที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ 3) Partner มุ่งเน้นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและจำนวนของคู่ค้าให้มากขึ้น และ 4) Promotion ซึ่งเป็นการจับมือกับพาร์ทเนอร์เพื่อจัดดปรโมชั่นพิเศษในโอกาสต่างๆ เพื่อดึงดูดผู้บริโภค ทั้งนี้ เอซุสได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีให้ได้ถึง 3% ภายในสิ้นปี 2556

AiO Transformer P1801

คุณปกรณ์ พฤทธิบูรณ์สกุล ผู้จัดการพัฒนาธุรกิจอาวุโส กลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์ม บริษัท เอซุสเทค คอมพิวเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ?ในส่วนของภาพรวมสินค้ากลุ่มเดสก์ท็อปและออลอินวันพีซี เอซุสได้เปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีสำหรับคอนซูมเมอร์ เข้าสู่ตลาดประเทศไทยเมื่อช่วงไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และก่อนหน้านั้น ในช่วงต้นปี 2555 ที่ผ่านมา เราได้ปูทางตลาดคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปคอมเมอร์เชียลสำหรับองค์กร โดยได้เข้าร่วมประมูลและผลิตเดสก์ท็อปพีซีให้กับโครงการต่างๆ มากมายในส่วนของหน่วยงานราชการ โดยเราร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการจัดหาอุปกรณ์พีซีตั้งโต๊ะให้กับหน่วยงานต่างๆ ภายใต้การดูแลของสพฐ. โดยปัจจัยหนึ่งที่ช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้กับเอซุสอย่างหนึ่ง คือหน่วยงานต่างๆ ได้หันมาเปลี่ยนกฎข้อบังคับใหม่ซึ่งกำหนดให้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะที่จะนำมาใช้งานเป็นทรัพย์สินของทางราชการนั้น ต้องมีส่วนประกอบภายในที่มาจากแบรนด์เดียวกันทั้งหมด ทำให้เอซุสได้มีโอกาสเข้ามาผลิตเดสก์ท็อปพีซีในส่วนของตลาดคอมเมอร์เชียลนี้มากขึ้น และสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดของเดสก์ท็อปพีซีแบรนด์เอซุสในเบื้องต้นอยู่ที่ 1% และหลังจากที่เราได้เปิดตัวธุรกิจเดสก์ท็อปสำหรับคอนซูมเมอร์ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว ควบคู่ไปกับการรุกตลาดออลอินวันพีซีหรือ AiO อย่างเป็นรูปธรรมในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2556 นี้ เราก็ได้รับการตอบรับจากตลาดที่ดีเรื่อยมา โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่มีความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของสินค้าคอมโพแน้นต์ต่างๆ จากเอซุสอยู่แล้ว อาทิ มาเธอร์บอร์ด กราฟฟิกส์การ์ด จอภาพ ไปจนถึงเคสที่มีความคงทนเป็นพิเศษ เช่น กลุ่มเกมเมอร์ กลุ่มผู้ใช้งานเฉพาะทาง กลุ่มลูกค้าร้านอินเตอร์เน็ต หรือร้านเกมต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเอซุสก็ยังตั้งเป้าหมายในการสร้างส่วนแบ่งการตลาดรวมของทั้งธุรกิจพีซีคอมเมอร์เชียลและคอนซูมเมอร์รวมทั้งสิ้นอยู่ที่ประมาณ 3 % ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสัดส่วนของธุรกิจเดสก์ท็อปพีซีของเอซุสระหว่างตลาดคอมเมอร์เชียลจะอยู่ที่ 80% ต่อตลาดคอนซูมเมอร์ที่ 20%?

 

?สำหรับงาน ?ASUS Innovation of Lifestyle Living? วันนี้เอซุสได้เปิดตัวไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีใหม่ล่าสุดในช่วงครึ่งปีหลัง 2556 นี้ โดยเราได้ขนทัพสินค้าใหม่รวมถึง 11 รุ่นด้วยกัน ซึ่งประกอบด้วยเดสก์ท็อปพีซี 4 รุ่นที่มี ROG TYTAN G50AB และ ASUS M51AC เป็นผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ ตามมาด้วย ASUS M51AC และ ASUS CM6731 ในส่วนของออลอินวันพีซี เราเปิดตัวกันในวันนี้ถึง 6 รุ่น นำทีมโดยสุดยอดนวัตกรรมดูอัลดีไวซ์ (Dual Device) หรือสองอุปกรณ์ในหนึ่งเดียวอย่าง ASUS Transformer AiO P1801 ออลอินวันพีซีระบบ Windows 8 เครื่องแรกของโลกที่สามารถถอดออกเป็นแท็บเบล็ตยักษ์ขนาด 18.4 นิ้วบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ Jelly Bean 4.1 ได้ ตามมาด้วย ASUS ET2311?และ ASUS ET2702 ที่เปิดตัวไปอย่างฮือฮาในงาน Taipei Computex 2013 ที่ผ่านมา รวมถึง ASUS ET1612, ET2020 และรุ่น ET2220 โดยนอกจากไลน์อัพสินค้าเดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีใหม่แล้ว ทางเอซุสยังได้นำสุดยอดแห่งนวัตกรรมเกมมิ่งเดสก์ท็อปเพื่อการเล่นเกมที่เหนือชั้น กับ ROG TYTAN CG8890 ที่ถึงแม้จะเปิดตัวไปในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังสามารถครองตำแหน่งเกมมิ่งพีซีที่มีประสิทธิภาพความแรงสูงที่สุดในตลาดจนถึงปัจจุบันมาโชว์ ณ จุดสาธิตผลิตภัณฑ์ในงานนี้ด้วย โดยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งหลายในวันนี้ เอซุสได้สานต่อเจตนารมย์ของแบรนด์ในการสร้างสรรค์ประสบการณ์ด้าน???? ไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แบบที่สุดให้กับผู้บริโภค พร้อมตอกย้ำความสำคัญของเดสก์ท็อปพีซีในฐานะเป็นอุปกรณ์ที่ให้สมรรถนะการใช้งานและอรรถรสสูงสุดในการเล่นเกม ดูหนังฟังเพลง ใช้งานคอนเท้นต์มัลติมีเดียต่างๆ ไปจนถึงการใช้งานในออฟฟิศและภายในครัวเรือนทั่วไป? คุณปกรณ์กล่าวถึงไลน์อัพสินค้าใหม่

Asus_AIO_02

คุณเก่ง กวิสรา?ดรอยด์เจแห่งเว็บ Droidsans และ AiO Transformer

 

?ในส่วนของกลยุทธ์ด้านการตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ เราได้ดำเนินนโยบายภายใต้หลัก ?4P? ซึ่งประกอบด้วย P ที่หนึ่งคือ ?1) Product หรือผลิตภัณฑ์ เนื่องจากเอซุสเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและฟีเจอร์ที่ดีที่สุดและแรงที่สุดที่มีอยู่ในตลาด ณ เวลาที่เปิดตัวสินค้านั้นๆ เราจึงมีความโดดเด่นในเรื่องของคุณภาพและความน่าเชื่อถือในตัวผลิตภัณฑ์และแบรนด์จากผู้บริโภค แต่สำหรับไลน์อัพสินค้าเดสก์ท็อปพีซีใหม่ของเราในปีนี้ สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือเรื่องของการตีความด้านไลฟ์สไตล์ที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น ครอบคลุมทุกความต้องการได้มากขึ้น และเข้าใจถึงวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างแท้จริงยิ่งขึ้น ทุกท่านจึงจะเห็นได้ว่าในวันนี้สินค้าเดสก์ท็อปและออลอินวันพีซีใหม่ล่าสุดของเอซุสล้วนแล้วแต่สามารถตอบทุกโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้ใช้งาน สำหรับ P ที่สองก็คือ 2) Price Premium หรือ การสร้างมูลค่าที่เพิ่มขึ้นเพื่อความพึงพอใจให้กับลูกค้า ซึ่งส่วนนี้เอซุสก็ยังคงยืนหยัดอยู่ที่จุดยืนเดิมว่าแบรนด์ของเราจะไม่มีการแข่งขันด้านราคา แต่ในระดับราคาเดียวกันหรือสูงกว่าแบรนด์อื่นเล็กน้อย เราสามารถนำเสนอมูลค่าเพิ่มอันน่าพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ อาทิ สเป็คของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สูงกว่า การให้บริการหลังการขายและเงื่อนไขการรับประกันของศูนย์ซ่อมที่ดีกว่า ฯลฯ รวมถึงการตอกย้ำจุดเด่นในการทำธุรกิจของเอซุสที่เรามุ่งเน้นเรื่อยมาตั้งแต่ที่ได้เปิดตัวเดสก์ท็อปพีซีเข้าสู่ตลาดประเทศไทยตั้งแต่แรก นั่นคือเรื่องของ TCO หรือ Total Cost of Ownership พูดง่ายๆ ก็คือในเวลาที่เราซื้อสินค้าอะไรก็ตามมาอย่างหนึ่ง ค่าใช้จ่ายในการเป็นเจ้าของสิ่งนั้นไม่ใช่แค่ราคาสินค้าที่ตั้งอยู่หน้าร้าน แต่ยังรวมถึงการบำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการซ่อมแซมเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ โดยเอซุสมุ่งเน้นการสร้าง TCO ที่คุ้มค่าและให้ประโยชน์สูงสุดกับลูกค้าในการเป็นเจ้าของสินค้าของเรา และสำหรับหมวดสินค้าเดสก์ท็อปและออลอินวันพีซีนี้ เราได้มอบการรับประกันที่ดีที่สุดในท้องตลาดแบบออนไซต์เซอร์วิส หรือรับซ่อมส่วนประกอบทุกชิ้นถึงบ้านนานถึง 3 ปี โดยเป็นเงื่อนไขการรับประกันที่ดีที่สุดและเป็นการซ่อมให้ในทุกกรณีหากเป็นส่วนประกอบแรกเริ่มที่มาพร้อมกับเครื่องพีซีที่ซื้อมาจากตัวแทนจำหน่ายของเอซุส โดยผู้บริโภคสามารถรับบริการซ่อมแบบออนไซต์เซอร์วิสนี้ได้อย่างสะดวกสบายผ่านเอซุส คอลเซ็นเตอร์ ที่หมายเลข 02-4011-717 ทั้งนี้ผู้ใช้สินค้าเอซุสจะสามารถเปรียบเทียบได้กับสินค้าแบรนด์อื่นๆ เลยว่าให้ความคุ้มค่าและประหยัดมากยิ่งกว่าครับ? คุณปกรณ์กล่าวต่อไป

 

?และสำหรับกลยุทธ์ P ที่ 3 ของเอซุส ถือเป็นส่วนที่สำคัญและจะขาดเสียไม่ได้เลยก็คือ 3) Partner ของเรานั่นเอง โดยเรามีนโยบายที่จะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายรวมถึงจำนวนของคู่ค้าซึ่งทั้งที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจของเราอยู่แล้ว รวมถึงรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้น โดยหลักๆ ในตอนนี้เอซุสมีพาร์ทเนอร์อยู่ประมาณ 4-5 บริษัทฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจสำหรับหมวดสินค้าอื่นๆ ของเอซุสด้วยไม่เพียงแต่ในกลุ่มเดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีเท่านั้น โดยในช่วงครึ่งปีหลังนี้เราจะเริ่มปูทางสร้างพาร์ทเนอร์ใหม่เพิ่มจากที่มีอยู่ 4-5 ราย เป็น 15-20 รายเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุมทั่วประเทศ โดยไม่จำกัดอยู่แค่หัวเมืองตามต่างจังหวัด และทางเอซุสก็จะมีการสนับสนุนอย่างเต็มที่ด้วยงบการตลาดสำหรับกลุ่มธุรกิจโอพีบีจีที่ไม่น้อยกว่าปี 2555 ที่ผ่านที่มีมูลค่าประมาณ 10 ล้านบาท เพื่อใช้ในการสื่อสารและเตรียมรุกตลาดอย่างเต็มตัว ผ่านช่องทางในรูปแบบต่างๆ ทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สื่อออนไลน์ รวมไปถึงการทำการตลาดแบบบีโลว์เดอะไลน์ (Below-the-line) หรือการร่วมจัดงานอีเว้นต์ต่างๆ นอกจากนี้เรายังเน้นการสร้างกระแสการรับรู้จากผู้บริโภคทั่วไปจากการทำประชาสัมพันธ์ตรงจุดขายหน้าร้านเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภค โดยเปิดโอกาสให้เข้ามาทดลองใช้ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีของเอซุสก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจริงครับ และในส่วนของกลยุทธ์ P สุดท้ายของเราก็คือ 4) Promotion ซึ่งทางเอซุสจะมีการจับมือกับคู่ค้าและพันธมิตรต่างๆ ในการจัดโปรโมชั่นพิเศษเพื่อมอบส่วนลดและสิทิประโยชน์ต่างๆ แก่ลูกค้าของเราตามโอกาสต่างๆ โดยกลยุทธ์ทั้งหมดนี้ เอซุสมั่นใจว่าจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและความพึงพอใจให้กับผู้บริโภคของเราได้ รวมถึงช่วยผลักดันให้เกิดยอดขายและความสำเร็จด้านเป้าหมายทางการตลาดของเราต่อไป?

 

สำหรับการเปิดตัวไลน์อัพผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ ?เอซุสได้นำเสนอนวัตกรรมออลอินวันพีซีและเดสก์ท็อปพีซีประสิทธิภาพสูงที่เป็นรุ่นไฮเอ็นด์จากกลุ่มผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากมาย นำทีมโดย ?ASUS Transformer AiO P1801? ออลอินวันพีซีเครื่องแรกของโลกที่สามารถถอดจอขนาด 18.4 นิ้ว ออกมาใช้งานเป็นแท็บเบล็ตได้อย่างอิสระในสไตล์ ?ดูอัล ดีไวซ์? (Dual Device) ที่รวบรวมฟังก์ชั่นการทำงานของ 2 อุปกรณ์ไว้ในหนึ่งเดียว โดยออลอินวันพีซี ASUS Transformer AiO P1801 มาพร้อมระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ใหม่ล่าสุด พร้อมโปรเซสเซอร์เจนเนอเรชั่นที่สามจาก Intel? Core? ที่แรงเต็มประสิทธิภาพ และระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.1 (Jelly Bean) ในส่วนของแท็บเบล็ต พร้อมโปรเซสเซอร์แบบ Quad-core เทคโนโลยีจาก NVIDIA? Tegra? 3 ซึ่งถอดออกมาใช้งานจากพีซีสเตชั่นได้ทันที โดยไม่ต้องติดตั้งหรือเซ็ทระบบเพิ่มเติมใดๆ สร้างความสะดวกสบายในการแชร์หน้าจอขนาดใหญ่ตามความต้องการต่างๆ นอกเหนือจากไฮไลท์ดังกล่าวแล้ว เอซุสยังเปิดตัวเกมมิ่งพีซีรุ่น ซึ่งเป็นเกมมิ่งพีซีรุ่นไฮเอ็นด์สำหรับเกมเมอร์นิวเจนเนอร์เรชั่นที่ต้องการความมันส์ในการเล่นเกมในอีกขั้น โดย ROG TYTAN G50AB มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Intel? Core? i7 Processor เจนเนอเรชั่นที่ 4 ใหม่ล่าสุด พร้อมใช้งานกับระบบปฏิบัติการ Windows 8 ได้อย่างเต็มรูปแบบ โดดเด่นด้านด้วยปุ่ม Turbo Gear เพียงปุ่มเดียวที่ทำให้การโอเวอร์คล็อกง่ายขึ้น และสามารถประมวลภาพได้อย่างคมชัดมีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยกราฟฟิกส์การ์ด NVIDIA? GeForce? GTX 680 และอ็อพชั่น NVIDIA? 3D Vision Surround เพื่อให้การเล่นเกมสามมิติได้อย่างสุดมันส์ สามารถต่อพ่วงเข้ากับจอมอนิเตอร์ได้พร้อมกันแบบหลายจอเพื่อเพิ่มความมันส์และมุมมองที่กว้างกว่า นอกจากนี้ยังใช้ระบบเสียงกระหึ่มทรงพลังจาก ASUS SonicMaster ลิขสิทธิ์เฉพาะจากเอซุส และระบบทำความเย็นเหนือชั้นที่ผสานการระบายความร้อนด้วยของเหลวด้วยเทคโนโลยี Liquid Cooled CPU พร้อมช่องระบายอากาศ 5 ช่องทาง ภายใต้รูปทรงสวยงามแบบโพลีกอนอันเป็นเอกลักษณ์ของเกมมิ่งเดสก์ท็อปจากตระกูล ROG มาพร้อมไฟบอกสภานะ DEFCON Indicator สีฟ้าในโหมดการใช้งานทั่วไป และสีแดงในโหมดการโอเวอร์คล็อกที่สูงสุดถึง 4.5 GHz

?ทางบริษัทฯ หวังว่าในปี 2556 นี้ สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวัน เรามีเป้าหมายในการสร้างส่วนแบ่งการตลาดรวมของทั้งในส่วนของพีซีคอมเมอร์เชียลและพีซีคอนซูมเมอร์อยู่ที่ประมาณ 3 % ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้ยอดขายรวมของกลุ่มธุรกิจโอเพ่น แพลทฟอร์มบรรลุถึง 1,800 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้นอีก 10% ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ภายในสิ้นปี 2556 นี้? คุณปกรณ์ กล่าวทิ้งท้าย

 

เตรียมพบกับไลน์ผลิตภัณฑ์เดสก์ท็อปพีซีและออลอินวันพีซีใหม่ล่าสุดจากเอซุสวันนี้ ได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายเอซุสทั่วประเทศ ดูข้อมูลผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ www.asus.co.th หรือพูดคุยผ่านทาง www.facebook.com/ASUS.DIY

Asus_AIO_01

 

LINE BAND เพิ่มฟีเจอร์ห้องสนทนาแบบตัวต่อตัว พร้อมเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ในรูปแบบ PC บนเว็บไซต์

PC_intro_Thai

LINE BAND แอพพลิเคชั่นการให้บริการแบบกลุ่ม ที่มาพร้อมกับพื้นที่สำหรับการสนทนาแบบกลุ่มที่สามารถช่วยจัดการชีวิตของคุณกับกลุ่มเพื่อนไม่ให้พลาดการอัพเดทกับเพื่อนสนิทในแบบส่วนตัวเฉพาะกลุ่ม ตอนนี้ได้มีการเปิดตัวเวอร์ชั่น 2.0 อย่างเป็นทางการแล้วทั่วโลก โดยในเวอร์ชั่นนี้ LINE BAND ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่มอบความสะดวกสบายให้แก่ผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสนทนากับเพื่อนในรูปแบบใหม่และฟีเจอร์สำหรับค้นหาคำในกรุ๊ปบอร์ด นอกจากนี้ยังได้มีการเปิดตัวเวอร์ชั่นใหม่ในรูปแบบพีซี (www.band.us) เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้ใช้งานมากขึ้นไม่ว่าจะใช้งานบนเครื่องคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต โดยมีตัวเลือกภาษาให้เลือกใช้งานได้มากถึง 9 ภาษาเพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วโลกได้เพลิดเพลินไปกับ LINE BAND มากยิ่งขึ้น

Mobile_English

LINE BAND เวอร์ชั่นโทรศัพท์มือถือ

 

PC_English (2)

LINE BAND เวอร์ชั่น PC

 

LINE BAND มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาการสนทนาแบบกลุ่มอยู่เสมอ โดยเวอร์ชั่น 2.0 นี้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสนทนาแบบตัวต่อตัวและความสะดวกในการสนทนาที่เพิ่มขึ้นจากเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้ที่ผู้ใช้สามารถสนทนากันได้เฉพาะแบบกลุ่มเท่านั่น แต่ตอนนี้ผู้ใช้ LINE BAND สามารถสนุกและเพลิดเพลินมากยิ่งขึ้นด้วยการสนทนาแบบตัวต่อตัวและสามารถเลือกกลุ่มคนที่ต้องการสนทนาได้โดยไม่ต้องออกจากแอพพลิเคชั่นนั่นๆ เพื่อไปส่งข้อความด้วย SMS หรือส่งข้อความจากแอพพลิเคชั่นอื่น ฟีเจอร์ใหม่นี้นับว่าเป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับกลุ่มผู้สนทนาขนาดใหญ่ที่ชื่นชอบการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ อยู่เสมอ

 

โดย LINE BAND เวอร์ชั่น 2.0 นี้ได้เพิ่มฟีเจอร์สำหรับค้นหาคำลงไปใน bulletin boards ด้วย เนื่องจากจำนวนผู้ใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งข้อมูลในแต่ละ BAND ที่บันทึกไว้มีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ LINE BAND ตัดสินใจพัฒนาฟีเจอร์ดังกล่าวขึ้นมา โดยผู้ใช้งานเพียงแค่พิมพ์คำที่ต้องการค้นหาหรือใส่ชื่อสมาชิกในกลุ่มลงไป ก็จะปรากฏข้อความขึ้นมาให้เห็นในหน้า bulletin boards ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อความที่โพสต์ไว้ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย

 

นอกจากนี้ LINE BAND ยังได้เปิดตัวเวอร์ชั่น PC บนเว็บไซต์ (www.band.us) โดยมีฟีเจอร์และฟังก์ชั่นพื้นฐานอย่างหน้า bulletin boards แกลลอรี่รูปภาพ บันทึกการสนทนาและข้อมูลของสมาชิกทุกคนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งาน โดย LINE BAND เวอร์ชั่น PC บนเว็บไซต์ได้รับการออกแบบมาให้รองรับกับการทำงานของรูปแบบเว็บไซต์ ผู้ใช้งานสามารถลงชื่อเข้าใช้ LINE BAND ได้ทั้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือเว็บไซต์บนโทรศัพท์มือถือ โดยมีตัวเลือกภาษาให้เลือกใช้งานได้มากถึง 9 ภาษา ได้แก่ เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, ไทย, สเปน, อินโดนีเซีย, มาเลย์ และเวียดนาม ทั้งนี้ LINE BAND จะเปิดตัวเวอร์ชั่นที่เป็นทางการในไตรมาส 4 ซึ่งจะรองรับอีกหลายภาษาได้มากขึ้นอีก

 

LINE BAND เริ่มเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความเป็นผู้ให้บริการพื้นที่การสนทนาแบบส่วนตัวอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยยอดดาวน์โหลด 15 ล้านครั้งกับ 5 ล้านกลุ่มผู้สนทนา ซึ่งใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 ปีหลังจากเปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2555 โดย LINE BAND สามารถรองรับความต้องการการใช้งานของผู้ใช้หลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไป กลุ่มพนักงานบริษัท โรงเรียน สมาคมศิษย์เก่า องค์กรบริษัทต่างๆ ที่ต้องการพื้นที่การสนทนาแบบกลุ่มก็ได้เริ่มหันมาใช้งาน LINE BAND กันมากขึ้นเรื่อยๆ นับได้ว่า LINE BAND ได้กลายเป็นช่องทางการสนทนาสำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่มองหาช่องทางการสนทนาที่มีฟีเจอร์รองรับการสนทนาแบบกลุ่มไว้บริการ

 

มร. ไมค์ วอน (Mike Won) หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจและการตลาดทั่วโลกของ LINE BAND กล่าวว่า ?เราคาดหวังว่าการอัพเดท LINE BAND เวอร์ชั่น 2.0 นี้ จะช่วยให้ LINE BAND สามารถให้บริการพื้นที่สนทนาแบบกลุ่มและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เรากำลังมุ่งมั่นในการเพิ่มจำนวนผู้ใช้งานจากหลากหลายประเทศทั่วโลกมากขึ้น โดยเรามีการพัฒนาและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความแตกต่างของสภาพแวดล้อมในการสื่อสารข้ามประเทศ พร้อมทั้งตรวจสอบกระแสตอบรับของผู้ใช้งานในแต่ละประเทศและนำมาปรับปรุงพัฒนาการให้บริการ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการใช้แอพพลิเคชั่น LINE BAND ของเรามากขึ้น อีกทั้งเรายังคงให้การสนับสนุนกลุ่มผู้ใช้งานทั่วโลกอย่างต่อเนื่องอีกด้วย?

เลอโนโวเปิดตัว เลอโนโว S ซีรี่ยส์ สมาร์ทโฟนที่โด่ดเด่นด้วยดีไซน์ เพื่อคนเอ็นเตอร์เทนตัวจริง

S920_standard_05

เลอโนโวเปิดตัวเลอโนโวสมาร์ทโฟน S ซีรียส์ สมาร์ทโฟนที่เน้นด้านดีไซน์และความทันสมัย รองรับระบบปฎิบัติการณ์ Android โดยพร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ทั่วประเทศ

นายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า, ?ความต้องการการใช้งานสมาร์ทโฟนในประเทศมีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เลอโนโวดีใจที่เราสามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับผู้บริโภค เลอโนโวเปิดตัวและวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน A ซีรียส์ไปเมื่อไม่นาน และได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีเนื่องจากผู้บิโภคเห็นถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ การวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน เลอโนโว S ซีรี่ยส์ในวันนี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกที่มากขึ้นให้กับผู้บริโภคที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ต้องการหน้าจอขนาดใหญ่ในราคาสบายกระเป๋า?

Lenovo สมาร์ทโฟน รุ่น S920 – มากกว่าแค่ความบันเทิง
สมาร์ทโฟน Lenovo S920 มาพร้อมกับความโดดเด่นสะดุดตา ตัวเครื่องดีไซน์โค้งมนเรียบ จอแสดงผล IPS ขนาด 5.3″ (1280 x 720) สมาร์ทโฟนในตระกูล S-series ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้วัยหนุ่มสาว กลุ่มก๊วนต่างๆ สาวกสื่อสังคมออนไลน์ และเหล่าเกมเมอร์ โดยกล้องหลังระดับ ?super camera? ของ S920 มาพร้อมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดกว่า และถ่ายภาพต่อเนื่องได้มากถึง 100 ภาพใน burst mode พร้อมถ่ายภาพนิ่งในขณะถ่ายวิดีโอและฟังก์ชั่นการปรับแต่งภาพขั้นสูง รุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผล 1.2GHz quad-core processor ช่วยให้ถ่ายวิดีโอและเล่นเกมที่เต็มไปด้วยกราฟิกได้อย่างลื่นไหล ไม่เพียงเท่านั้น S920 ยังมีรูปลักษณ์และสัมผัสที่ยอดเยี่ยม น้ำหนักเพียง 159 กรัมและมีความลึกเพียง 7.9 มม. ส่วนดีไซน์ที่คล้าย “นาฬิกาทราย” ทำให้ดูเพรียวบางยิ่งขึ้นและโดดเด่นสะดุดตา

Lenovo สมาร์ทโฟน รุ่น S820 ? เต็มที่เรื่องความบันเทิงในน้ำหนักที่บางเบา
ภายใต้ผลงานการออกแบบดูเพรียวบางอย่างยอดเยี่ยมของ Lenovo S820 กลับอัดแน่นด้วยคุณสมบัติล้ำสมัยของมัลติมีเดียโฟนที่ให้ความรู้สึกแตกต่างตั้งแต่ครั้งแรกที่ถือ และภายใต้กระจกโค้งสวยสะดุดตาเมื่อมองจากภายนอก ภายในบรรจุ quad core processor อันทรงพลังเพื่อความลื่นไหลในการใช้ระบบปฏิบัติการ Android คุณสมบัตินี้ผสานอย่างลงตัวกับหน้าจอ HD ขนาดใหญ่ 4.7″ ให้ภาพคมชัดยิ่งกว่าและให้ประสบการณ์การรับชมที่ดีกว่าเมื่อเล่นเกม ดูวิดีโอ หรือท่องเน็ต ส่วนกล้องความละเอียดสูง 12 ล้านพิกเซลของ S820 สามารถบันทึกทุกรายละเอียดและถ่ายภาพในโหมด ultra-fine ได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งยังมาพร้อมซอฟแวร์ SuperCamera ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถทำสิ่งที่น่าทึ่งได้มากมาย เช่น การถ่ายภาพต่อเนื่อง 100 ภาพใน burst mode หรือถ่ายภาพนิ่งในขณะบันทึกวิดีโอ

ราคาและการวางจำหน่าย
Lenovo สมาร์ทโฟน S ซีรี่ย์วางจำหน่ายแล้ววันนี้ที่ตัวแทนร้านค้าเลอโนโว สมาร์ทโฟนกว่า 200 ร้านทั่วประเทศ Lenovo S920 ราคา 9,900 บาท Lenovo S820 ราคา 10,090 บาท
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ อินแกรม ไมโคร ประเทศไทย โทร +662-793-1723, +662-7931921 หรือ เดอะแวลลูซิสเตมส์ โทร +662-661-6666, +662-261-2900 หรือติดต่อ เลอโนโว คอลล์ เซ็นเตอร์ โทร 001 800 060 015

ติดตามข่าวสาร Lenovo Smartphone ได้ที่ www.facebook.com/LenovoMobileThailand

ดีแทค ไตรเน็ต รายงานผลหลังเปิดให้บริการ 3G คุณภาพสูงทั่วประเทศ 1 สัปดาห์ เหนือกว่าบน 3 โครงข่ายอัจฉริยะ รุกต่อเนื่องเพิ่มแบนด์วิธที่กว้างกว่า

dtac_1879

ดีแทค ไตรเน็ต ปลื้มเปิดใช้บริการมา 1 สัปดาห์ ผลตอบรับการใช้งานราบรื่นจาก 3G บน 3 โครงข่ายอัจฉริยะ พร้อมรุกต่อเนื่องด้วยแบนด์วิธที่กว้างกว่า หลังจากทยอยโอนย้ายลูกค้าตั้งแต่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา สำหรับกลุ่มเงื่อนไขบริการพิเศษต่างๆ อาทิ ลูกค้าที่ใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ, บริการ Multi SIM และ Group Bill ตลอดจนผู้ที่ใช้แอร์การ์ดและแท็บเล็ต จะสามารถเข้ามาทำเรื่องขอโอนย้ายข้อมูลและเปลี่ยนซิมการ์ดได้ที่ศูนย์บริการดีแทคทุกสาขาตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม ศกนี้ เป็นต้นไป โดยบริษัทฯ จะทยอยส่ง SMS หรือจดหมายแจ้งกำหนดการเปลี่ยนซิมฟรีให้ลูกค้าทราบอีกครั้ง และให้ได้รับความสะดวกมากที่สุด

นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ เปิดเผยว่าบริษัทดีแทคต้องขอแสดงความยินดีกับบริษัท ดีแทค ไตรเน็ตด้วย จากการที่ ดีแทค ไตรเน็ตสามารถเปิดให้บริการ 3G ภายใต้คลื่นความถี่ 2.1 GHz และโครงข่าย TriNet ในสัปดาห์แรกผ่านพ้นไปด้วยความราบรื่น โดยบริษัทดีแทค ไตรเน็ตได้เริ่มทยอยดำเนินการโอนย้ายลูกค้าที่ได้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ขอโอนย้ายไป TriNet ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนแล้วประมาณกว่า 3.5 ล้านราย

?TriNet ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ลูกค้าพอใจผลการใช้งานในเชิงตอบรับการไลฟ์สไตล์มากขึ้น เช่น ชอบใช้งานโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น Facebook และ Instagram ก็สามารถโหลดภาพ, ดูไทม์ไลน์, อัพโหลดรูปภาพ หรือวิดีโอได้เร็วขึ้นกว่าเดิม รวมไปถึงการชมวิดีโอ ดูทีวีสดๆ ผ่านแอพพลิเคชั่น dtac Watchever และ YouTtube ก็เป็นไปอย่างราบรื่นมากขึ้นทั้งนี้ ด้วยจำนวนลูกค้าที่ลงทะเบียนไว้จำนวนมาก และปริมาณหมายเลขที่สามารถดำเนินการโอนย้ายได้ตามข้อกำหนดในแต่ละวัน อาจทำให้ลูกค้าต้องรอนาน อย่างไรก็ดี ดีแทค ไตรเน็ต จะพยายามดำเนินการทยอยโอนย้ายลูกค้าให้ได้รวดเร็วที่สุด? นายปกรณ์ กล่าว

?สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ, บริการ Multi SIM และ Group Bill ตลอดจนผู้ที่ใช้แอร์การ์ดและแท็บเล็ตนั้น บริษัทดีแทคยินดีอำนวยความสะดวกให้สามารถเข้ามาทำเรื่องขอโอนย้ายข้อมูลและเปลี่ยนซิมการ์ดได้ที่ ศูนย์บริการดีแทคทุกสาขา ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม ศกนี้ เป็นต้นไป ทั้งนี้ ภายหลังจากการเปลี่ยนมาสู่ TriNet แล้ว ลูกค้าจะยังคงได้รับสิทธิประโยชน์จากโปรโมชั่นเดิม, อายุการใช้งาน, บริการและสิทธิประโยชน์อื่นๆ โดยไม่เปลี่ยนแปลง หรือจะเลือกโปรโมชั่นใหม่ของ TriNet ก็ได้เช่นเดียวกัน?

นายประเทศ ตันกุรานันท์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทดีแทค ไตรเน็ตกำลังเร่งดำเนินการติดตั้ง สถานีฐาน 2.1 GHz และบริษัทฯ ได้เปิดให้บริการแล้วใน 54 จังหวัด อาทิ กรุงเทพและปริมณฑล พร้อมทั้งเมืองท่องเที่ยวหลักๆ ของประเทศ ซึ่งด้วย TriNet 3 โครงข่ายอัจฉริยะ จะช่วยให้การเชื่อมต่อสัญญาณ เพื่อการใช้งาน เป็นไปอย่างราบรื่น ไร้รอยต่อ ลูกค้าสามารถใช้งานต่อเนื่องบน 3G ได้โดยไม่สะดุด และสามารถทำให้ลูกค้าของเราได้รับบริการที่มีคุณภาพสูงตลอดการใช้งาน

?จุดเด่นในส่วนของโครงข่าย ขอยกตัวอย่างเปรียบเสมือนกับมีถนนที่เพิ่มขึ้นในเส้นทางที่ต้องขับรถ เช่น จากเดิม เรามีแค่ 850MHz และ 1800MHz จึงเปรียบเสมือนกับถนนที่มีอยู่แค่ 4 ช่องทาง เมื่อมีรถมากขึ้นในช่วงที่ใช้งานพร้อมกันจะทำให้วิ่งได้ช้าลง เมื่อเข้าสู่ TriNet 3 โครงข่ายอัจฉริยะแล้ว จะเปรียบเสมือนกับขับรถที่วิ่งอยู่บนถนนที่มีช่องการจราจรที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิมจาก 4 ช่องทาง เป็น 6 ช่องทาง จึงทำให้รถวิ่งได้สะดวกเพิ่มขึ้น และขับรถใช้ความเร็วได้เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ การใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนต่างๆ ลูกค้าหลายรายจะทราบได้ เช่น การดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นขนาดใหญ่จากเดิมที่ต้องใช้ระยะเวลานาน แต่พอเปลี่ยนมาใช้ TriNet แล้วจะสามารถทำได้เร็วขึ้นกว่าเดิม? นายประเทศ กล่าวในที่สุด

หลุด กล่องใส่ iPhone 5c กับคลิบรีวิวบอดี้ iPhone 5 ราคาประหยัด

xl_iphone5c
มีภาพหลุดกันมาอีกแล้วกับกล่องใส่ iPhone 5 ราคาประหยัด ที่ตีพิมพ์ข้างกล่องว่า iPhone 5c โดยเป็น กล่องพลาสติก ซึ่งคาดเดากันว่าจะเป็นแพกเกจสำหรับ iPhone 5 รุ่น low cost นั่นเอง ภาพนี้ถูกเผยแพร่จากเว็บไซต์จีน WeiPhone ซึ่งผมคิดว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ในเมืองจีนเพราะก็รู้ๆกันอยู่ว่าเมืองจีนไม่มีกฏหมายควบคุมการละเมิดลิขสิทธิ์อย่างจริงจัง ฉะนั้นภาพที่หลุดอาจจะเป็น iPhone 5c รุ่นสอดใส้ตามสไตล์จีนแดงอีกก็เป็นได้ใครจะไปรู้ (เอ…ตัวย่อ C อาจจะหมา่ยถึง copy รึเปล่านา…อิอิ)

นอกจากนี้ยังมีเว็บบล็อก detroitborg ออกมารีวิวบอดี้ของ iPhone 5 ราคาประหยัด ว่าอาจจะมีความเป็นไปได้และมีบอดี้ใกล้เคียง iPhone 5 ซึ่งใช้พลาสติกเป็นวัสดุเพื่อลดต้นทุนนั่นเอง ลองดูวิดีโอคลิปกันได้เลยครับ
[youtube link=”http://youtu.be/44biradk84Y” width=”590″ height=”315″]