ซัมซุงไทย ชวนดูถ่ายทอดสดงาน Samsung Unpacked 2013 ep.2 เตรียมนับถอยหลัง 4 ก.ย. นี้

Samsung UnPacked2013
จากข่าวลือของ Galaxy Note 3 รวมถึง Galaxy Gear ตลอดทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งกำลังจะเปิดตัวในวันที่ 4 ก.ย. นี้ ในชื่องาน Samsung Unpacked 2013 Episode 2 ณ เมืิองเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี ทางซัมซุงประเทศไทยได้เปิดลิงค์บนหน้าเ็ว็บ เชิญชวนให้คนไทยได้เฝ้าติดตามการถ่ายทอดสดงานนี้ผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยสามารถลงทะเบียนเพื่อให้แจ้งเตือนก่อนถ่ายทอดสด ครึ่งชั่วโมง ผ่านทางเบอร์มือถือที่กรอกไว้ หรือทาง Facebook ใครที่เป็นสาวก Galaxy ก็อย่าได้พลาดชมการถ่ายทอดสดในครั้งนี้กันนะครับ แถมซัมซุงเค้ายังมีให้ลุ้นสำหรับผู้เข้าชมการถ่ายทอดสด 1 ใน 10 จะได้ไปเข้่าร่วมงาน Galaxy Fan อีกด้วย…

 
ไปลงทะเบียนกันได้ที่ http://www.samsung.com/th/UnpackedEp2/?cid=th_banner_UnpackedEp2_Mxphone_20130830

สัมภาษณ์ 3 ทีม นักพัฒนาไทย ที่ชนะเลิศจากโครงการ dtac Accelerate – Wizard of Apps

dtac-accelerate-05

เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม ที่ผ่านมา OopsMobile ได้มีโอกาสร่วมงาน Demo Day ซึ่งเป็นงานที่รวม 10 ทีมสุดท้าย จากโครงการ dtac Accelerate ซึ่งเป็นงานประกวดผลงานโมบายแอพพลิเคชั่น ในธีม Wizard of Apps เพื่อเฟ้นหานักพัฒนาแอพที่จะได้เป็นสุดยอดทีมในการก้าวสู่ ซิลิคอนแวลลีย์ ศูนย์กลางธุรกิจไฮเทคที่รู้จักกันทั่วโลก โดยงานนี้ ทุ่มงบกว่า 50 ล้านบาท ในการจัดโครงการนี้

โดยในรอบ 10 ทีมสุดท้าย จะให้แต่ละทีมขึ้นมานำเสนอผลงานว่ามีจุดเด่นของแอพอย่างไร มีกลยุทธ์ในการทำตลาดอย่างไร แล้วอะไรคือกุญแจความสำเร็จของแอพที่ตัวเองสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยให้เวลาทีมละ 10 นาที และทุกทีมต้องนำเสนอต่อคณะกรรมการ 5 ท่าน เป็นภาษาอังกฤษล้วนๆ โดยช่วงท้ายคณะกรรมการจะมีเวลา 5 นาที ในการซักถามเพิ่มเติม งานนี้แต่ละทีมก็ได้สุ่มฟิตซ้อมกันมาอย่างดี และนำเสนอได้อย่างราบรื่น อาจจะมีบางทีมที่ตื่นเต้นแต่ก็ถือว่าทำกันได้ดี ลองไปดูภาพบรรยากาศของการนำเสนอกัน

dtac-accelerate-01
โฉมหน้าคณะกรรมการทั้ง 5 ท่าน

 

รายชื่อกรรมการมีดังนี้ เรียงจากขวาไปซ้าย

??Benjamin Ranck, CTO แห่ง Jetabroad บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสำรองตั๋วเครื่องบิน และการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในอนาคต

??Matt Walters, Principal จาก Ardent Capital? ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsNew และ Topicmarks มีความเชี่ยวชาญด้าน Rapid Scaling และการร่วมทุน

??ชวภาส องค์มหัทมงคล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร PrimeStreet Advisory บริษัทที่ปรึกษาด้านการร่วมทุน อาจารย์พิเศษ และที่ปรึกษาให้กับองค์กรธุรกิจและการศึกษาหลายแห่ง

??Stephanie Palmeri, Principal จาก SoftTech VC ที่ลงทุนในบริษัท Startup กว่า 15,000 ล้านบาท มืิอขวาของ Jeff Clavier หนึ่งในบุคคลที่อายุน้อยกว่า 30 ปี ที่มีอิทธิพลที่สุดของโลก คู่กับ Mark Zuckerberg แห่ง Facebook

??ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย Business Support System ดีแทค

 

dtac-accelerate-03
แต่ละทีมนำเสนอได้แบบมืออาชีพ

 

dtac-accelerate-02

 

dtac-accelerate-04
ทีม Story Log กรรมการบอกเลยว่านำเสนอได้ฮามาก

ได้เวลาประกาศผล

และหลังจากที่ทุกทีมได้ผ่านการนำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการจนครบหมดแล้ว มาถึงช่วงเวลาลุ้นระทึกว่าทีมใดที่จะได้ไปซิลิคอนแวลลี่ย์ และทีมที่ได้รางวัลชนะเลิศ (ที่ 1) ก็ืคือ….

ทีม Fastinflow ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่จะทำให้นักการตลาด สามารถหาผลสำรวจความต้องการของลูกค้าได้ในเวลา 5 นาที

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 (ที่ 2) ได้แก่ ทีม Haamor ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาด้านสุขภาพขั้นพื้นฐาน จากแพทย์ชั้นนำ

รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 (ที่3) ได้แก่ ทีม DietParty ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก ไปพร้อมกับเพื่อนๆ

เอาล่ะครับเราขอแสดงความยินดีกับผู้ชนะเลิศทั้ง 3 ทีม ด้วยนะครับ ฉะนั้นทีม Fastinflow จะได้เข้าร่วมโปรแกรม Blackbox Connect ที่ซิลิคอน แวลลี่ย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเข้าคอร์สติวเข้ม เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ในการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลก จากผู้บริหารและนักธุรกิจชั้นนำของซิลิคอน แวลลี่ย์ ภายใต้แนวคิด “Half-a-year Silicon Valley experience condensed in a two-week immersion progran”

ส่วนทีมที่ผ่านเ้ข้ารอบโครงการ dtac Accelerate ก็จะได้รับการสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์จากดีแทคต่อไป เรียกว่าก็ไม่ได้ทอดทิ้งทีมที่เหลือ ซึ่งถือเป็นการดีที่ช่วยส่งเสริมให้นักพัฒนาแอพไทยได้มีโอกาสสร้า้งสรรค์ผลงานต่อยอดได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

Resize of IMG_4063

ทำความรู้จักกับแต่ละทีม

เอาล่ะครับ ถึงเวลาที่เรามาทำความรู้จักกับแต่ละทีมที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ โดยเรามีคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ความรู้สึกของแต่ละทีมมาให้ดูกันด้วยครับ

Fastinflow

เป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถสำรวจความต้องการจากลูกค้าได้อย่างรวดเร็วภายใน 5 นาที โดยแบ่งผู้่ใช้งานออกเป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งแรกจะเป็นส่วนของนักการตลาดที่จะต้องตั้งคำถาม ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นคนทั่วไปที่ตอบคำถาม โดยผู้ที่ตอบคำถามจะได้รับคะแนน หรือมีรางวัลต่างๆ เป็นของตอบแทน ส่วนผู้ที่ตั้งคำถามก็จะต้องเสียเงินให้กับแอพนี้ในการตั้งคำถามแต่ละครั้งนั่นเอง ดังนั้นความท้าทายของแอพพลิเคชั่นนี้ ก็อยู่ที่เรื่องของการทำอย่างไรให้มีจำนวนผู้ตอบคำถามที่มาก และหลากหลายที่่สุด เพราะแน่นอนว่าข้อมูลจากการตอบคำถามดังกล่าวจะมีความแม่นยำมากขึ้น ที่สำคัญคือจะช่วยให้สามารถนำไปใช้งานในเชิงสถิติได้จริงนั่นเอง จุดเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือผู้ตั้งคำถามสามารถระบุเพศ อายุ หรือรายละเอียดต่างๆ ของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน เมื่อส่งคำถามออกไปแล้ว คำถามดังกล่าวก็จะไปแสดงเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่ตรงกับเงื่อนไขที่กำหนดไว้เท่านั้น เบื้องต้นคาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดแอพ Fastinflow จาก Apple Store ประมาณปลายปีนี้

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม Fastinflow

[youtube link=”http://youtu.be/Ln8RyrM5A90″ width=”590″ height=”315″]

 

Haamor

เป็นแอพพลิเคชั่นที่ช่วยคลายปัญหาสุขภาพด้วยการตอบคำถามง่ายๆ จากแพทย์ชั้นนำ โดยสมมติว่าผู้ใช้มีอาการไม่สบาย แล้วอยากรู้ว่ามีแนวทางรักษาอย่างไร ต้องนัดพบแพทย์เมื่อไร เพียงพิมพ์อาการเข้าไป ก็จะมี Flow คำถามที่เกียวกับอาการนั้นขึ้นมา ให้ผู้ใช้ตอบเพียง Yer หรือ No เท่านั้น โดยจะมีฐานข้อมูลจากตำราแพทย์ระดับโลกที่รวบรวมเอาไว้ ซึ่งครอบคลุมโรคกว่า 6000 โรค พอสิ้นสุึดคำถามของ Flow นั้นๆ แล้ว ก็จะมีคำแนะนำขึ้นมาให้ว่าผู้ใช้จะต้องทำยังไง เช่น คุณจะต้องดูแลตัวเองยังไง คุณจะต้องไปพบแพทย์ได้แล้ว เป็นต้น ซึ่ง Flow คำถามเหล่านี้ได้ใช้ทีมแพทย์กว่า 100 ท่าน เขียน Flow พวกนี้ขึ้นมา ซึ่งมีความเชื่อถือได้เป็นสิ่งที่แพทย์ทุกคนเรียนมา โดยความได้เปรียบของแอพนี้คงอยู่ที่การมีคอนเน็กชั่้นที่ดีกับแพทย์จากโรงพยาบาลต่างๆ โดยมีเว็บไซต์ Haamor.com ที่มีข้อมูลอยู่มากพอสมควรแล้ว ดังนั้นแอพนี้เหมือนเป็นการต่อยอดให้กับเว็บไซต์ที่ตนเองทำอยู่ ให้เข้าถึงผู้ใช้งา่นได้ง่ายยิ่งขึ้นนั่นเอง

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม Haamor

[youtube link=”http://youtu.be/XgTQR-NZCRk” width=”590″ height=”315″]

 

DietParty

เป็นแอพพลิเคชั่นเพื่อคนที่ต้องการลดน้ำหนัก ให้สามารถบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้น โดยมีการแข่งขันกันลดน้ำหนักร่วมกับเพื่อนได้อย่างสนุกสนาน โดยผู้ใช้จะต้องป้อนข้อมูลด้านอาหารการกิน รวมถึงเก็บสถิติการลดน้ำหนักของเราเอาไว้ โดยสามารถแชร์ไปยังโซเชียลมีเดียต่างๆ ได้ เพื่อเป็นการแข่งขันกันลดน้ำหนักกับเพื่อนๆ นอกจากนี้ในระหว่างที่เล่นก็จะเป็นการสะสมแต้ม เพื่อสร้างให้เกิดแรงกระตุ้นในการลดน้ำหนัก โดยอาจจะมีของรางวัลจากสปอนเซอร์เป็นตัวดึงดูด เรียกว่าเป็นแอพที่ทันกระแสกับยุคนี้ที่คนส่วนใหญ่หันมาดูแลสุขภาพตัวเองกันมากขึ้น และยังมีช่องทางในการต่อยอดได้อีกหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมที่ใช้ในการวัดแคลอรี่ รวมถึงการคำนวนอัตราการเผาผลาญร่วมด้วย ก็จะเป็นอะไรที่น่าสนใจยิ่งขึ้น

ชมคลิปวิดีโอสัมภาษณ์ทีม DietParty

[youtube link=”http://youtu.be/5a3b0aGbhNI” width=”590″ height=”315″]

 

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเวทีการประกวดดีๆ แบบนี้จะมีเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆ แล้วในเมืองไทยก็มีการตื่นตัวในเรื่องนี้มากโดยเฉพาะจากภาคเอกชน ที่โอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 รายใหญ่ ก็พยายามสร้างเวทีให้กับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นทั้งหลายได้มาประลองฝีมือกัน และจะเป็นการดีขึ้นอีกถ้าภาครัฐจะเข้ามาช่วยสนับสนุนและผลักดันโครงการเหล่านี้ ให้ประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นระดับโลกกับเค้าบ้าง และที่สำคัญ OopsMobile จะขอเป็นสื่อกลางที่ช่วยในการผลักดันนักพัฒนาไทยให้ก้าวไกลระดับโลกอีกแรงหนึ่งด้วยนะครับ

 

iStudio Day ลดสูงสุด 80% ทั้งสินค้า Apple และอุปกรณ์เสริมต่างๆ 30-31 ส.ค. นี้เท่าันั้น

istudioday-promotion

มหกรรมลดราคาสินค้า Apple และ Accessory ลดสูงสุด 80% ที่ iStudio ทุกสาขา โดยมีเงื่อนไขดังนี้
– เมื่อซื้อสินค้า Apple เฉพาะที่ร่วมรายการจะได้สิทธิ์รับ Voucher มูลค่า 300-1500 บาท เพื่อใช้แลกซื้อ Accessory ภายในร้าน
– Accessory ภายในร้านลด 5-80%
– ส่วนลด Apple Care 15%

– สำหรับลูกค้าจะซื้อ iPhone/iPad มีข้อเสนอพิเศษจาก AIS, TruemoveH, dtac มอบแพ็กเกจราคาพิเศษ พร้อมจดทะเบียนในวันงานเท่านั้น
นอกจากนี้ยังมีผ่อน 0% นาน 10 เดือน กับบัตรเครดิตธนาคารธนชาติ, Citibank, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย และกรุงศรีอยุธยา ได้อีกด้วย

Source : iStudio

สำหรับที่ Studio by copperwired มีประกาศรายการส่วนลดให้ด้วย ส่วนเงื่อนไขอื่นก็เหมือนกัน
istudioday-promotion04

istudioday-promotion03

istudioday-promotion02

istudioday-promotion01

istudioday-promotion05

 

ดูโปรโมชั่นกันแล้ว ก็สอบถามพนักงานกันให้ชัดเจนอีกทีนะครับ บางตัวที่ลดมากๆ อาจจะเป็นสินค้าตัวโชว์ หรือไม่ก็สินค้ามีตำหนิ ส่วนสินค้าที่ตกรุ่นดูแล้วยังราคาไม่ต่างกันมาก ขึ้นอยู่ว่ามันสมเหตุสมผลแค่ไหน อันนี้คงต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวกันเองนะครับ ที่สำคัญอย่าลืมช้อปอย่างมีสติกันนะครับ

Source 😕https://www.facebook.com/Mustlovemac

วิธีซื้อ SIM ไว้เล่นเน็ตที่ญี่ปุ่น

Japan_SIM_06

 

ช่วงนี้แอบเห็นใครๆ ก็ไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน บ่องตง อิจฉาอย่างแรง แม้ว่าจะไม่ต้องทำวีซ่าเข้าญี่ปุ่นแล้วก็ตาม แต่นักเขียนธรรมดาๆ อย่างเราก็ยังไม่มีปัญญาจะได้ไปกับเค้าเสียที สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือนั่งอ่านคู่มือท่องเที่ยวญี่ปุ่น บิวท์อารมณ์ สร้างมโนฯ ให้ตัวเองไว้ก่อน พร้อมกับคลิกไลค์บนหน้าวอลล์ของชาวบ้านที่กำลังเพลิดเพลินอยู่ท่ามกลางทุ่งลาเวนเดอร์ หรือกำลังซดราเมงร้อนๆ ให้เรายิ่งอิจฉาเข้าไปอีก แต่ไม่เป็นไรสักวันเราจะไปเหยียบดินแดนญี่ปุ่นให้ได้ ไฟล์ท โตะ!

 

สำหรับใครที่พร้อมและกำลังจะเดินทางไป OopsMobile มีสิ่งที่คุณไม่ควรพลาดมานำเสนอ นั่นคือการซื้อซิมอินเทอร์เน็ตในญี่ปุ่น เพื่อให้เราสามารถโพสต์ภาพ สร้างความอิจฉาให้เพื่อนๆ ผ่าน Facebook หรือ IG (Instagram) ได้ตลอดเวลา หรือจะเปิดโรมมิ่งไปจากเมืองไทยก็ได้ โดยข้อมูลทั้งหมดนี้ทางทีมงาน Dplus ได้ทดลองใช้จริงที่ญี่ปุ่นมาแล้ว เราจึงขอนำมาบอกต่อให้เพื่อนๆ OopsMobile กันบ้าง ซึ่งมีขั้นตอนอย่างไรนั้น ตามไปดูกันได้เลยครับ

 

ซื้อ SIM ไว้เล่นเน็ตที่ญี่ปุ่น

Japan_SIM_01

วิธีนี้ความจริงอาจมีซิมแบบนี้ให้เลือกหลายเจ้า แต่ที่คนไทยนิยมใช้กันคือ ของบริษัท B-Mobile ซึ่งเป็นซิมแบบ Prepaid จ่ายแล้วใช้ได้ตามเงื่อนไขที่กำาหนด (โดยสัญญาณจะวิ่งบนเครือข่ายของ Docomo อีกทีหนึ่ง) โดยปัจจุบันจะมีให้เลือกใช้สองแบบคือ

• แบบรับส่งข้อมูลได้ 1GB (1GB prepaid) ไม่ขึ้นกับว่าใช้กี่วัน และไม่จำกัดความเร็ว แบบนี้เหมาะสำหรับคนที่ใช้มากๆ อัพรูป แชร์ เมนท์บ่อยๆ และอยากได้ความเร็วแบบเต็มๆ
• แบบใช้ได้ 14 วัน (14 days prepaid) โดยไม่จำกัดปริมาณข้อมูล แต่จำกัดความเร็วแค่ 300 k (หรือประมาณสองเท่าของระบบ Edge ที่ใช้กันก่อนจะมี 3G ในบ้านเรา) เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานไม่หนักและอยากประหยัดให้ใช้ได้หลายๆ วัน โดยเริ่มนับตั้งแต่วันที่รับซิมไปเลย

 

OLYMPUS DIGITAL CAMERA
หน้าตาของชุด Micro SIM แบบเหมา 1 GB
OLYMPUS DIGITAL CAMERA
แกะซิมใส่เครื่องแล้วใช้ได้เลย

 

ส่วนสมาร์ทโฟนที่รองรับกับซิมของเครือข่ายนี้ก็จะมี iPhone 5, iPhone 4S, iPad mini, iPad 2, iPad 3, The New iPad หรือเอาง่ายๆ ว่าสมาร์ทโฟนที่รองรับคลื่นความถี่?W-CDMA/HSDPA/HSUPA 2100 MHz หรือ 800 MHz ก็สามารถใช้งานเครือข่ายนี้ได้ แต่เมื่อดูรายชื่ออุปกรณ์ที่รองรับกลับไม่เห็นมี Samsung Galaxy S4 เลยอ่ะ อาจจะเป็นเพราะ Galaxy S4 มีขายแยกตามเครือข่ายก็เป็นได้เลยยังไม่ได้อัพเดทเพิ่มรายชื่อลงในรายการ ลองดูรายชื่ออุปกรณ์ที่รองรับได้ที่ลิงค์นี้ครับ
http://www.bmobile.ne.jp/english/devices.html

 

ซิมทั้งสองแบบนี้ราคาเท่ากันคือ 3,980 เยน หรือประมาณ 1,300 บาท โดยจะมีเฉพาะบริการเน็ต ไม่สามารถใช้โทรออกหรือส่ง SMS หรือ MMS ได้ ดูรายละเอียดและสั่งซื้อได้ที่เว็บ www.bmobile.ne.jp/english โดยจะต้องสั่งซื้อทางออนไลน์และชำระเงินด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น และรับซิมได้ที่สนามบิน หรือให้ส่งซิมไปรอที่โรงแรมที่พักในญี่ปุ่นเท่านั้นด้วย และเมื่อใช้จนครบตามเงื่อนไขแล้ว เช่น ครบ 1GB หรือครบ 14 วันก็จะใช้ต่อไม่ได้ นอกจากจะเติมเงินอีก 3,980 เยนก่อน ซึ่งจะเติมผ่านเว็บได้ที่ www.bmobile.ne.jp/english/visitor_charge.html

 

เปิดบริการใช้เน็ตไปจากเมืองไทย

หรือที่เรียกว่าบริการ Data Roaming ซึ่งมีให้เลือกทั้งสามค่ายคือ AIS, dtac และ Truemove H ในราคาพอๆ กัน วิธีนี้คุณใช้เครื่องและเบอร์เดิมได้เลย โดยก่อนจะใช้ถ้าไม่เคยเปิดบริการแบบนี้ไว้ก่อนเลย ก็ต้องไปแจ้งขอเปิดกับโอเปอเรเตอร์หนึ่งในสามค่ายนี้ก่อน จากนั้นเมื่อจะเดินทางจะต้องทำดังนี้

 

• AIS โทรแจ้งศูนย์ว่าจะเดินทางไปกี่วัน มีแพ็คเกจอะไรให้เลือกบ้าง แนะนำให้เลือกแบบ Unlimited คือไม่จำกัดปริมาณข้อมูล (จะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าจะเสียค่าบริการแพงเพราะใช้เกิน) โดยเลือกแพ็คเกจให้มีจำนวนวันที่ใกล้เคียงวันที่จะใช้ เช่นออกเดินทางไปตอนกลางคืน ไม่นับ นับเฉพาะวันที่อยู่ญี่ปุ่น ส่วนวันกลับถ้าออกแต่เช้าและคิดว่าจะไม่ใช้เน็ตก็ไม่ต้องนับ (แต่ตั้งแต่เที่ยงคืนก่อนหน้านั้นต้องอย่าลืมปิดการรับส่งข้อมูลหรือ Mobile data บนสมาร์ทโฟนของเราด้วยก็แล้วกัน) ค่าบริการจะตกเฉลี่ยวันละประมาณ 350-400 กว่าบาท (ไม่รวมค่าโทร) และต้องเลือกโอเปอเรเตอร์เป็น Softbank ด้วย (ห้ามปล่อยเป็น Automatic เด็ดขาด)

 

• Truemove Hถ้าเคยแจ้งขอเปิดใช้บริการ Data Roaming ไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ตาม จะสามารถนำโทรศัพท์และซิมเดิมไปใช้ที่ญี่ปุ่นได้เลยโดยไม่ต้องแจ้งอีก พอเปิดเครื่องและใช้เน็ตก็จะเริ่มนับโดยอัตโนมัติและคิดค่าบริการเป็นวันๆ ไป ตกวันละ 300 กว่าบาท เพียงแต่ต้องเลือกโอเปอเรเตอร์ที่ญี่ปุ่นเป็น Docomo ให้ถูกเท่านั้น (ห้ามปล่อยเป็น Automatic เด็ดขาด) ทั้งนี้ Docomo เป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่งที่ญี่ปุ่น เท่าที่เคยใช้รู้สึกว่าความเร็วและความครอบคลุมจะดีกว่าอันดับสองคือ Softbank อยู่บ้าง

 

• dtac สำหรับการเปิด Data Roaming ของดีแทคมีขั้นตอนเหมือนค่ายอื่นๆ คือโทรไปสมัคร เลือกประเทศ และเลือกแพ็กเกจที่ต้องการ และระบุจำนวนวันที่จะใช้ สำหรับโอเปอเรเตอร์ที่ญี่ปุ่น หากใช้ dtac สามารถเลือกโอเปอร์เรเตอร์เป็น NTT และ Docomo (ห้ามปล่อยเป็น Automatic เด็ดขาด) ค่าบริการจะตกเฉลี่ยประมาณ 350 บาทต่อวัน (แพ็กเกจอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบราคาในเว็บของ DTAC เท่านั้น)

 

เช่าตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi

Japan_SIM_05

วิธีนี้จะใช้ตัวกระจายสัญญาณ Wi-Fi แบบพกพาได้ขนาดเล็กๆ (บางทีก็เรียก Pocket Wi-Fi หรือ Mobile Wi-Fi หรือ Mi-Fi ก็มี) ซึ่งรับส่งข้อมูลผ่านระบบโทรศัพท์มือถือ แต่กระจายสัญญาณออกมาเป็น Wi-Fi ให้คุณใช้พร้อมกันได้หลายเครื่อง สามารถหาเช่าได้ โดยสั่งจองผ่านเว็บและรับของที่สนามบิน นอกจากนี้ยังมีระยะที่ใช้งานได้จำกัด คือทุกคนที่จะใช้ต้องอยู่ใกล้ๆ กันตลอดเวลา ถ้าใครเดินแตกแถวหรือแยกกัน เช่น ไปห้องน้ำ ก็จะใช้ไม่ได้

 

อุปกรณ์แบบนี้มักจะเปิดใช้งานได้ทันที และเมื่อใช้เสร็จแล้วก็มีซองให้ส่งไปรษณีย์คืนบริษัทให้เรียบร้อย แค่ใส่ซองแล้วนำไปหยอดตู้จดหมายเท่านั้น ลองดูที่ www.econnectjapan.com, www.rentafonejapan.com/Mobile-Internet.html, www.telecomsquare.co.jp/inbound/en, www.globaladvancedcomm.com

 

อย่างไรก็ตามควรอ่านเงื่อนไขการเช่าให้ละเอียด ในกรณีเครื่องหาย หรือชำรุด เราจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ถึงแม้ว่าจะซื้อประกันรวมไว้ด้วยก็ตาม

 

เอาล่ะครับก็ลองเลือกกันตามสะดวก ว่าเราจะใช้วิธีไหนให้สามารถเชื่อมต่อสู่โลกโซเชียลต่างๆ ได้แบบตลอดเวลาที่กำลังลั่นล้าท่องเที่ยวไปทั่วญี่ปุ่น หรือหากใครได้ลองใช้บริการที่นอกเหนือจากนี้ก็แชร์ประสบการณ์มาให้เราได้ทราบกันบ้างนะครับ ขอให้เที่ยวกันสนุกๆ นะครับ

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : หนังสือฮอกไกโด คนเดียวก็เที่ยวได้

 

ดีแทคประกาศผลผู้ชนะเลิศทีม ฟาสอินโฟล (Fastinflow) จากโครงการ dtac Accelerate คว้าชัยลัดฟ้าสู่ ซิลิคอน แวลลีย์

Resize of IMG_4096

ดีแทคประกาศผลทีม ฟาสอินโฟล (Fastinflow) ผู้ชนะเลิศในโครงการ dtac Accelerate ประกวดผลงานโมบายแอพพลิเคชั่น ในธีม Wizard of Apps เฟ้นหาสุดยอดนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น หลังขับเคี่ยวกับหลายทีมและผ่านเวิร์คช้อปจากนักธุรกิจชื่อดังที่บินตรงมาจากซิลิคอน แวลลีย์อย่างเข้มข้น ตั้งแต่เปิดโครงการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ จนได้ ทีมฟาสอินโฟล ที่ชนะใจกรรมการ ด้วยแอพพลิเคชั่นที่เกี่ยวกับ การวิจัยการตลาดที่ง่ายต่อการใช้งาน ภายใน 5 นาที กับ 3 ขั้นตอน คือ 1. สร้างแนวคำถามที่ต้องการถามลูกค้า 2. ส่งคำถามไปยังกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ และ 3. รับผลสรุปจากกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ฟาสอินโฟลเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดให้กับนักวิจัยการตลาดที่ต้องการเจาะลึกถึงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง

รางวัลสำหรับผู้ชนะ จะได้เข้าร่วมโปรแกรม Blackbox Connect ที่ซิลิคอน แวลลีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นการเข้าคอร์สติวเข้ม ระยะเวลา 2 สัปดาห์ ภายใต้แนวคิด ?Half-a-year Silicon Valley experience condensed in a two-week immersion program? ด้วยเนื้อหาจากประสบการณ์จริงของ ผู้บริหาร นักพัฒนา นักลงทุน และนักธุรกิจชั้นนำของซิลิคอน แวลลีย์ เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวสู่การเป็นบริษัทระดับโลก และสำหรับผู้ผ่านเข้ารอบโครงการ dtac Accelerate จะได้รับการสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดเชิงพาณิชย์จากดีแทคอีกด้วย

นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค กล่าวว่า ?ผมขอแสดงความยินดีกับทีมที่ชนะเลิศ และทีมที่เข้ารอบทั้งหมดในวันนี้ซึ่งได้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจและพลังสร้างสรรค์ ที่อยากทำงานอย่างอิสระ มีเป้าหมายที่จะเป็นผู้ประกอบธุรกิจที่มีอนาคตไกล ผลงานที่แต่ละทีมนำเสนอเข้ามา ทำให้มองเห็นเทรนของการพัฒนาแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายรองรับการดำเนินชีวิต mobility lifestyle ในอีก 3-5 ปี ข้างหน้า

โครงการ dtac Accelerate เกิดขึ้นจากการที่ดีแทคมีความเชื่อมั่นในความสามารถของคนไทย และต้องการสร้างแรงกระตุ้นให้คนไทยเป็นผู้ริเริ่มสร้างนวัตกรรม แอพพลิเคชั่นใหม่ ๆ ร่วมปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เพิ่มพื้นที่เรียนรู้และแสดงศักยภาพให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

Resize of IMG_4063

ดีแทคให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจสู่โมบายคอนเทนท์และแอพพลิเคชั่น ที่เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการทรานฟอร์มบริษัทสู่ธุรกิจโมบายล์ อินเทอร์เน็ตอย่างเต็มตัว เพื่อสร้าง application ecosystem ที่สมบูรณ์แบบขึ้นในประเทศไทย ซึ่งเป็นการสร้างความสัมพันธ์ทางด้านการส่งเสริมการตลาดกับนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นในประเทศไทย เพื่อนำแอพพลิเคชั่นดีๆ สู่ผู้ใช้บริการ และยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นไทยก้าวสู่เวทีระดับโลก?

โครงการ dtac Accelerate ได้รับเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยม ด้วยจำนวน Like กว่า 8,000 บน Facebook Fan Page มีผู้ลงทะเบียนเป็นสมาชิกกว่า 2,500 คน มีไอเดียที่ผ่านเกณฑ์คัดเลือกมากกว่า 200 ไอเดียจากผู้เข้าแข่งขันประมาณ 1,000 คน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา dtac Accelerate เป็นโครงการที่สร้างความโดดเด่นและแตกต่าง ด้วยการจัด Workshop กับผู้บริหารดีแทค นักพัฒนา นักลงทุนและนักธุรกิจชื่อดังที่บินตรงมาจาก ซิลิคอน แวลลีย์ เพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะ เช่น Matt Monday อดีต editor จาก Apple App Store และ Paul Jastrzebski ผู้เชี่ยวชาญด้าน Business Development ที่นำเกมดังมากมายเช่น Grand Theft Auto 3, Shadowgun มาสู่ Google Play Fadi Bishara ผู้ก่อตั้ง Blackbox Accelerator เป็นต้น

และในที่สุดก็มาถึงวันเดโมเดย์ รอบชิงชนะเลิศที่ทั้ง 10 ทีมที่เข้ารอบจะได้พรีเซ้นท์ผลงานต่อคณะกรรมการ 5 ท่าน ซึ่งประกอบไปด้วย
1. Stephanie Palmeri, Principal จาก SoftTech VC ที่ลงทุนในบริษัท Startup กว่า 15,000 ล้านบาท
2. Benjamin Ranck, CTO แห่ง Jetabroad บริษัทท่องเที่ยวออนไลน์ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการสำรองตั๋วเครื่องบิน และการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวในอนาคต
3. Matt Walters, Principal จาก Ardent Capital ผู้ร่วมก่อตั้ง WhatsNew และ Topicmarks
4. ชวภาส องค์มหัทมงคล ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้บริหาร PrimeStreet Advisory บริษัทที่ปรึกษาด้านการร่วมทุน อาจารย์พิเศษ และที่ปรึกษาให้กับองค์กรธุรกิจและการศึกษาหลายแห่ง
5. ปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่าย Business Support System ดีแทค

โดยมีรายชื่อทีมผู้เข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายและแอพพลิเคชั่นดังนี้
? DietParty: แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้คุณสนุกกับการลดน้ำหนัก ด้วยวิธีการที่น่าสนุกและลดน้ำหนักไปพร้อมกับเพื่อนๆ
? Evrdi, Social Diary: ไดอารี่ออนไลน์แนวใหม่ ที่จะช่วยเก็บความทรงจำของคุณ ไม่หล่นหายไปตามกาลเวลา
? Facecard: แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้ นามบัตรของคุณ ไม่เป็นเพียงบัตรกระดาษใบเล็กอีกต่อไป
? Fastinflow: แอพพลิเคชั่นที่จะทำให้นักการตลาด สามารถหา consumer insight ของลูกค้าได้ ในเวลา 5 นาที!
? Shopsuke: แอพพลิเคชั่นที่จะรวมร้านค้าที่ถูกใจใน Facebook พร้อมช่องทางสื่อสารกับร้านค้าโดยตรง มาอยู่ในมือคุณ
? Haamor: นวัตกรรมทางการแพทย์ ที่จะช่วยให้ปัญหาสุขภาพของคุณมีคำตอบ ด้วยคำถามง่าย ๆ จากแพทย์ชั้นนำ
? Packlink: ทริปท่องเที่ยวของคุณ จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป กับแอพพลิเคชั่นที่จะช่วยให้คุณไม่พลาดของสำคัญในการเดินทาง
? Quest: แอพพลิเคชั่นที่จำช่วยให้ startups ค้นหาความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ และสร้างความสัมพันธ์เพื่อธุรกิจที่ยั่งยืน
? sabuy.me: แอพพลิเคชั่นที่ช่วยสร้างช่องทางให้กับร้านค้าออนไลน์ พร้อมระบบการซื้อขายที่สะดวกยิ่งขึ้น
? Storylog: การแบ่งปันเรื่องสนุกของคุณ จะไม่เป็นเพียงเรื่องเล่าธรรมดาๆ อีกต่อไป กับแอพพลิเคชั่น Storylog

Nokia ขอมีภาพหลุดบ้าง กับ Lumia 1520 หรือ “Bandit”

lumia1520
เห็นมีแต่ข่าวหลุดของ iPhone 5S, 5C กันมาเยอะแล้ว คราวนี้โนเกียขอชิงพื้นที่ข่าวหลุด ข่าวลือกับเค้าบ้าง โดยในเว็บไซต์ The Verge ได้นำเสนอภาพหลุดจากสมาชิกใช้งาน Forum ของตนเอง โดยเป็นภาพ Nokia Lumia 1520 ที่เป็น Windows Phone ตัวล่าสุดที่มีขนาดจอใหญ่ถึง 6 นิ้ว ความละเอียดระดับ HD 1080P ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นภาพของจริงรึเปล่า

แต่เมื่อเดือนก่อน มีแหล่งข่าวบอกกับทาง The Verge ว่าผู้ให้บริการเครือข่ายอย่าง AT&T ได้กำลังทดสอบมือถือจอใหญ่ที่ใช้โค้ดเนมหรือชื่อรหัสว่า Bandit ซึ่งมีขนาดหน้าจอเท่ากับในรูป และเรายังรู้มาอีกว่า Nokia Lumia รุ่นหน้าจอ 6 นิ้วนี้ อาจจะมาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm’s Snapdragon quad-core processor และเป็นตัวแรกของ Windows Phone ที่มีหน้าจอระดับ Full HD

นอกจากนี้ยังมีทวีตข้อควาามจาก Evleaks ว่าโค้ดเนม Bandit อาจจะขายภายใต้ชื่อรุ่นว่า Lumia 1520 อีกด้วย

อย่างไรก็ตามโนเกียยังมีข่าวลืออีกหนึ่งรุ่นที่เป็น Windows 8 Tablet ที่อาจจะมาพร้อมหน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ติดตั้ง Windows RT และมีความละเอียดหน้าจอระดับ 1080P ในราคาที่พอๆ กับ iPad เลยทีเดีัยว

LumiaTablet

Source : The Verge

 

LG G2 เตรียมเปิดตัวในไทย 3 กันยายนนี้

 

LG_G2_02

3 กันยายนนี้ พี่น้องชาวไทยเตรียมพบตัวเป็นกับ LG G2 สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ รุ่นเรือธงจาก LG ที่คาดว่าจะมาแรงแซงทางโค้งจากทุกค่ายที่เป็นคู่แข่งด้วยกัน โดยหลังจากเปิดตัวใน New York (ดูข่าวเก่า OPTIMUS G2 เปิดตัว สเปคแร๊งอะ!!) เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เรียกว่าเพียงไม่ถึงเดือน ทาง LG ประเทศไทย ก็ได้ส่งหมายเชิญมาให้สื่อมวลชนชาวไทยกันแล้ว และแน่นอนว่า OopsMobile ก็ได้รับหมายเชิญดังกล่าว โดยทีมงานของเราจะรายงานข่าวนี้ให้กับทุกท่านได้ติดตามกันอย่างแน่นอน

LG G2 Day e-invitation_TH

ติดตาม Live Feed ได้ทาง Twitter : @Oops_Mobile

Galaxy S4 และ S4 mini คว้ามงกุฎสุดเริ่ดจาก EISA Awards

GALAXY S 4 Crown
แหม่…เกริ่นชื่อเรื่องมาเหมือนกับงานประกาศนางงามอะไรอย่างงั้น แต่แท้ที่จริงแล้ว เมื่อวันที่ 26 ส.ค. ที่่ผ่านมา ซัมซุงได้ประกาศคว้ารางวัล EISA หรือรางวัลจากสมาคมอุปกรณ์ด้านภาพและเสียงแห่งยุโรป (European Imaging and Sound Association) โดยงานนี้มีมือถือติดเข้ารอบและได้รางวัลไปถึง 2 รุ่นด้วยกัน นั่นคือ

Samsung Galaxy S4 ได้รางวัลสมาร์ทโฟนเพื่อสิ่งแวดล้อมยอดเยี่ยม โดย S4 ถือเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนหน้าจอขนาดใหญ่ที่มีอัตราการใช้พลังงานต่ำและมีแบตเตอรี่ที่ถอดเปลี่ยนได้ ซึ่งนอกเหนือจากความสะดวกของผู้ใช้งานแล้วยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ส่วนอีกรางวัลได้แก่

Samsung Galaxy S4 mini ได้รับรางวัลสมาร์ทโฟนเพื่อการใช้งานสังคมออนไลน์ยอดเยี่ยม ด้วยขนาดกระทัดรัดที่มีทุกสิ่งพร้อมสรรพ อัดแน่นด้วยโปรแกรมสังคมออนไลน์ต่างๆ ช่วยให้ผู้ใช้งานไม่พลาดทุกการติดต่อ

ซัมซุง กาแล็คซี่ เอส4 มินิ

 

นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ด้านอื่นๆ อีก 3 รางวัลที่งานนี้ซัมซุงคว้าไปครอง นั่นคือ
รางวัลสมาร์ททีวียอดเยี่ยม ได้แก่ Samsung Smart TV รุ่น F8000

ซัมซุง สมาร์ททีวี รุ่น F8000
รางวัลกล้องดิจิตอลยอดเยี่ยม ได้แก่้ Samsung NX 300

ซัมซุง เอ็นเอ็กซ์ 300

 

รางวัลกล้องถ่ายภาพที่มีนวัตกรรมโดดเด่น ได้แก่ Samsung Galaxy NX

ซัมซุง กาแล็คซี่ เอ็นเอ็กซ์

ที่มาของรางวัล “EISA AWARDS? เป็นรางวัลระดับโลกที่มอบโดยสมาคมภาพและเสียงแห่งยุโรป (European Imaging and Sound Association) เป็นรางวัลที่มอบให้แก่ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีด้านภาพและเสียง ที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบที่ลงตัวและตอบสนองไลฟ์สไตล์ได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยได้รับการลงความเห็นจากบรรณาธิการนิตยสารชั้นนำ 50 ฉบับ จาก 19 ประเทศทั่วยุโรป ซึ่งถือเป็นรางวัลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดรางวัลหนึ่งของยุโรป