[CES 2014] Core และ Smartband เทรนด์สายรัดข้อมือใหม่จาก Sony จะตื่นนอน, ถ่ายรูป หรือออกกำลังกายรายงานด้วยแอพ Lifelog

Wassuppp!! ต่อไปนี้ไม่ว่าเราจะทำอะไร เทรนเนอร์ส่วนตัวพร้อมตามเราไปทุกที่ด้วยอุปกรณ์  Core และสายรัดข้อมือ Smartband จากค่าย Sony ซึ่งเปิดตัวไปแล้วในงาน CES 2014 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาและกำลังได้รับความสนใจในวงการคนรักสุขภาพ Fitness & Health เพราะไม่ใช่แค่ช่วยนับก้าว นับเวลา เช็คการเต้นของหัวใจ แต่ต้องตรวจสอบสภาพอากาศ, วางแผน และกำหนดเป้าหมายล่วงหน้าได้ด้วย รวมถึงกิจกรรมยามว่างอื่นๆ!! เช่น ดูวินัยการตื่น การนอน, เช็คตำแหน่งของคุณขณะถ่ายภาพและวิดีโอ เรียกสั้นๆว่า “bookmarking” โดยทำงานร่วมกับแอพพลิเคชั่นชื่อว่า Lifelog ผ่านบลูทูธ วิธีการทำงานเพียงกดที่ปุ่มบน Smartband แอพก็จะเริ่มบันทึกทันที หรือกรณีมีสายเรียกเข้าและข้อความเข้ามาสายรัดข้อมือจะสั่นเช่นกัน

 

sony-core (1)
สายรัดข้อมือ smartband และ Core ขอบคุณรูปภาพจาก Sony

 

sony-smartbandd
แอพพลิเคชั่น Lifelog ทำงานร่วมกับ Smartband

 

ภายในงาน Sony ยังได้เผยคอนเสปต์การออกแบบของ Smartband ให้เป็น “24/7 wearable” เพื่อสวมใส่ได้ทุกวัน ประสิทธิภาพกันน้ำสูง และแบตเตอรี่ใช้งานได้ถึง 5 วัน ในส่วนของราคายังไม่ถูกเปิดเผยแต่มีหลุดออกมาให้ทราบกันเบาๆ $135 ซึ่งต้องลุ้นอย่างเป็นทางการต่อไปในไตรมาสนี้

 

photo-520x390
ขอบคุณรูปภาพในงานจาก thenextweb.com

 

มาดูคลิปคอนเสปต์และการใช้งานร่วมกับแอพ Lifelog กันค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=3CMiSK7ENlA

http://www.youtube.com/watch?v=rBtG9OoqBag

[CES 2014] ชมภาพตัวเป็นๆ ของ Samsung Galaxy Note Pro และ Tab Pro series พร้อมสเปก

ces_article_07

 

เปิดตัวกันไปเรียบร้อยแล้วกับ Samsung Galaxy Note Pro และ Galaxy Tab Pro เมื่อวานนี้ (7 ม.ค. 57) ในงาน CES2014 ณ ลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถือเป็นซีรีส์ใหม่ล่าสุดในตระกูลแท็บเล็ตและโน้ตจากซัมซุง ที่ได้สร้างมาตรฐานขนาดหน้าจอขึ้นมาใหม่ในระดับ 12.2 นิ้ว โดยยังคงหน้าตาและใช่้วัสดุเช่นเดียวกับ Galaxy Note 10.1 2014 edition แต่สิ่งที่ต่างคือขนาดหน้าจอและสเปกที่อัดมาให้อย่างเต็มที่ โดยมีออกมาทั้งหมด 4 รุ่น คือ Galaxy Note Pro 12.2, Galaxy Tab Pro 12.2, Galaxy Tab Pro 10.1 และ Galaxy Tab Pro 8.4 แต่ปีนี้ดูเหมือนจะไำม่มีอะไรแปลกใหม่และตื่นเต้นมากนักเพราะเหมือนเอาของเดิมที่มีอยู่แล้วมา่ขยายหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเท่านั้น ซึ่งก็เป็นข้อได้เปรียบของซัมซุงเองอยู่แล้วที่มีโรงงานผลิตหน้าจอเป็นของตัวเอง จึงสามารถผลิตแท็บเล็ตไซส์ต่างๆ ออกมาให้เลือกได้หลากหลาย ซึ่งงานนี้จะเวิร์คหรือไม่นั้นคงต้องรอดูกันต่อไป แต่ที่แน่ๆ เรื่องแค่นี้ขนหน้าแข้งซัมซุงไม่ร่วงอยู่แล้วสินะ ว่าแล้วก็ไปดูสเปกของแต่ละรุ่นกันเลยดีกว่า

 

Samsung Galaxy Note Pro 12.2

Note Pro 12-2_01
ขนาด : 295.6 x 204 x 7.95 มม. น้ำหนัก 750 กรัม
หน้าจอ : 16 ล้านสี ขนาด 12.2″ Super Clear LCD capacitive touchscreen ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล
ระบบปฏิบัติการ OS : Android 4.4 KitKat with TouchWiz UI
ชิปเซ็ต รุ่น LTE : Quad-core 2.3GHz Krait 400 CPU, Adreno 330GPU, RAM 3GB , Snapdragon 800 chipset
ชิปเซ็ต รุ่น 3G, Wi-Fi : Quad-core 1.9 GHz Cortex-A15 & quad-core 1.3 GHz Cortex-A7, Mali-T628 MP6 GPU; RAM 3GB , Exynos 5420 chipset
กล้อง : กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ; กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
ถ่ายวิดีโอ : ความละเอียด 2160p@30fps, 1080p@60/30fps, 720p@120fps
หน่วยความจำ : มี 2 ขนาดให้เลือก คือ 32GB และ 64GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้สูงสุด 64GB
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi a/b/g/n/ac, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, พอร์ต microUSB 3.0 รองรับการเชื่อมต่อมาตรฐานเก่า microUSB 2.0, GPS, A-GPS, แจ็คหูฟัง 3.5 มม., NFC, รองรับการเชื่อมต่อแลนแบบ Ethernet ผ่านหัวแปลงอะแด็ปเตอร์
แบตเตอรี่ : 9500mAh
ฟีเจอร์ที่มากับเครื่อง : S-Pen support, S Note, Scrapbook, Action Memo, Air Commands, ฟรีสิทธิพิเศษจาก Dropbox, Evernote, Bitcasa, NY Times, LinkedIn, Remote PC, Cisco WebEx Meetings and more

Note Pro 12-2_02 Note Pro 12-2_03 Note Pro 12-2_04

 

Samsung Galaxy Tab Pro 12.2

Tab Pro 12-2_01
ขนาด : 295.6 x 204 x 7.95 มม. น้ำหนัก 732 กรัม
หน้าจอ : 16 ล้านสี ขนาด 12.2″ LCD capacitive touchscreen ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล (WQXGA)
ระบบปฏิบัติการ OS : Android 4.4 KitKat
ชิปเซ็ต รุ่น LTE : Quad-core 2.3GHz Krait 400 CPU, Adreno 330 GPU, RAM 3GB, Snapdragon 800 chipset
ชิปเซ็ต รุ่น 3G, Wi-Fi : Quad-core 1.9 GHz Cortex-A15 & quad-core 1.3 GHz Cortex-A7, PowerVR SGX 544MP3 GPU, RAM 3GB, Exynos 5410 chipset
กล้อง : กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ; กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
ถ่ายวิดีโอ : ความละเอียด 1080p@60/30fps, 720p@120fps
หน่วยความจำ : มี 2 ขนาดให้เลือก คือ 32GB และ 64GB, ใส่ microSD card เพิ่มได้ (ไม่ระบุความจุสูงสุด)
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi b/g/n/ac, Assisted GPS, Bluetooth 4.0, 30-pin connector
แบตเตอรี่ : 9500mAh
ฟีเจอร์ทีมากับเครื่อง : Scrapbook, ฟรีสิทธิพิเศษจาก Dropbox, Evernote, Bitcasa, NY Times, LinkedIn, Remote PC, Cisco WebEx Meetings and more

Tab Pro 12-2_02 Tab Pro 12-2_03 Tab Pro 12-2_04

 

Samsung Galaxy Tab Pro 10.1

Tab Pro 10-1_01
ขนาด : 343.1 x 171.4 x 7.3 มม. น้ำหนัก 469 กรัม
หน้าจอ : 16 ล้านสี ขนาด 10.1″ LCD capacitive touchscreen ความละเอียด 2560×1600 พิกเซล (WQXGA)
ระบบปฏิบัติการ OS : Android 4.4 KitKat
ชิปเซ็ต รุ่น LTE : Quad-core 2.3GHz Krait 400 CPU, Adreno 330 GPU, RAM 2GB, Snapdragon 800 chipset
ชิปเซ็ต รุ่น 3G, Wi-Fi : Quad-core 1.9 GHz Cortex-A15 & quad-core 1.3 GHz Cortex-A7, PowerVR SGX 544MP3 GPU, RAM 3GB, Exynos 5410 chipset
กล้อง : กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล ; กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล
ถ่ายวิดีโอ : ความละเอียด 1080p@60/30fps, 720p@120fps
หน่วยความจำ : 16GB/32GB internal memory, microSD card slot
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi b/g/n/ac, Assisted GPS, Bluetooth 4.0, 30-pin connector
แบตเตอรี่ : 8,200mAh

Tab Pro 10-1_02 Tab Pro 10-1_03 Tab Pro 10-1_04

 

Samsung Galaxy Tab Pro 8.4

Tab Pro 8-4_01
ขนาด : 128.5 x 219 x 7.2 มม. 331 g
หน้าจอ : 16M colors 8.4″ LCD capacitive touchscreen of 2560×1600 pixel (WQXGA) resolution
ระบบปฏิบัติการ OS : Android 4.4 KitKat
ชิปเซ็ต รุ่น LTE : Quad-core 2.3GHz Krait 400 CPU, Adreno 330 GPU, 2GB of RAM, Snapdragon 800 chipset
ชิปเซ็ต รุ่น 3G, Wi-Fi : Quad-core 1.9 GHz Cortex-A15 & quad-core 1.3 GHz Cortex-A7, PowerVR SGX 544MP3 GPU, 3GB of RAM, Exynos 5410 chipset
กล้อง : 8MP main camera; 2MP front-facing camera
ถ่ายวิดีโอ : 2160p@30fps, 1080p@60/30fps, 720p@120fps video capture
หน่วยความจำ : 16GB/32GB internal memory, microSD card slot
การเชื่อมต่อ : Wi-Fi b/g/n/ac, Assisted GPS, Bluetooth 4.0, 30-pin connector
แบตเตอรี่ : 4800mAh

Tab Pro 8-4_02 Tab Pro 8-4_03 Tab Pro 8-4_04

 

สังเกตได้ว่าทุกรุ่นที่ออกมานั้นจะมีชิปเ็ซตสำหรับ 4G LTE และ 3G ที่แตกต่างกันพอสมควร งานนี้เลยอาจทำให้ซัมซุงประเทศไทย ต้องพิจารณาให้ดีว่าจะนำเข้ามาเฉพาะรุ่นใดรุ่นหนึ่ง หรือทั้ง 2 รุ่น เพื่อไม่ให้มีประวัติศาสตร์ ดราม่าซ้ำรอยเหมือน Galaxy Note 3 อย่างที่ผ่านมา นะครัช อิอิอิ…

 

Source : gsmarena

 

ประตูบ้านยุคล้ำต้องล็อคกุญแจ DEAD BOLT ด้วย Okidokeys บนมือถือ

Wassuppp! บ้านที่ใช้ประตูระบบกุญแจล็อค 2 ชั้น ต้องมีลูกกุญแจล็อคจากด้านนอกหรือเรียกว่าระบบ DEAD BOLT (เดทโบล์ท) แบบมาตรฐาน ANSI อาจทำให้มั่นใจว่าจะไม่ลืมลูกกุญแจไว้ในบ้านอย่างแน่นอน แต่ปัญหาคือลืมหรือทำหายนอกบ้านนี่สิ! หุหุ ทางบริษัท OpenWays (ผู้เชี่ยวชาญการใช้สมาร์ทโฟนล็อคประตูในโรงแรมชั้นนำ) จึงได้พัฒนาและแก้ไขปัญหาการใช้งานจนออกมาเป็น OKIDOKEYS อุปกรณ์ล็อคประตูรุ่นใหม่มาตรฐาน AES 256 บิตสำหรับทุกครัวเรือน โดยการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนจะต้องมีอุปกรณ์หลักๆ 2 ชิ้นคือ Smart-Lock สำหรับติดตั้งด้านในประตูและต้องเชื่อมเข้ากับกุญแจ DEAD BOLT พอดี (ราคาพรีออเดอร์ $179) และอุปกรณ์ Smart Phone ที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นเรียบร้อยแล้ว โดยเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ 4.0 (LE)
 

1-7-2014 7-27-25 PM
ถึงจะบอกติดตั้งง่ายแค่ลองใช้ไขควงและสกรูไม่กี่นาที แต่ถ้าไม่ชำนาญให้ช่างติดตั้งดีกว่าค่ะ

 

1-7-2014 7-28-35 PM
สั่งปลดล็อคประตูจากด้านนอกผ่านแอพพลิเคชั่นจนขึ้นสัญลักษณ์สีเขียว ส่วน Smart Lock ด้านในจะขึ้นไฟสีเขียวเช่นกัน

 

ตระกูล OKIDOKEYS ยังมีอุปกรณ์อื่นๆอีกมาก ทั้งเคสหน้ากาก Smart-Lock ราคา $19.99 (ทั้งหมด 5 สี หรือจะแต่งเองก็ได้) รวมถึงอุปกรณ์ไม่ง้อสมาร์ทโฟนอย่าง SMART-READER เมื่อเชื่อมต่อบลูทูธจับคู่กับ Smart-Lock แล้วจะสามารถใช้อุปกรณ์อื่นๆปลดล็อคเข้าบ้านได้หลายวิธีมากขึ้น เช่น Smart-Key Card, Smart-Key Wristband, Smart-Key Keychain มีให้เลือกทั้งเด็กและผู้ใหญ่
 

1-7-2014 7-54-58 PM
SMART-READER ดูแล้วติดตั้งง่ายกว่า Smart-Lock มากทีเดียว ราคาเสนอที่ $79 ส่วนอุปกรณ์ปลดล็อคทั้ง 3 แบบราคาอยู่ที่ $25 ถ้าใครอยากเหมาๆเป็นแพ็คเกจก็มีให้เลือกถึง 3 แบบด้วยกัน

 

แอพพลิเคชั่น OKIDOKEYS  ที่จะปล่อยอย่างเป็นทางการสิ้นเดือนนี้สามารถสร้าง, แชร์ หรือยกเลิกคีย์ของสมาชิกภายในบ้าน รวมถึงเพื่อนที่เราเคยเพิ่มเข้ากรุ๊ปได้ด้วย และที่สำคัญเมื่อประตูถูกเปิดออกจะมีการแจ้งเตือนให้ทราบทันที ถือได้ว่าเป็นระบบการรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัยมากทีเดียว
 

1-7-2014 8-21-59 PM
OKIDOKEYS รองรับการใช้งานบน iOS, Android และบน PC ทุกที่ทุกเวลา

ขอบคุณข้อมูลจาก redmondpie.com
 

ช่วงนี้ยังเป็นช่วงพรีออเดอร์หากใครสนใจจองก่อนเปิดตัวสิ้นเดือนนี้คลิกที่นี่ได้เลยค่ะ

 

Whited00r 7.0 เพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับ iDevice รุ่นเก่า..ฟินเบาๆเหมือนใช้ iOS 7

Wassuppp!! ระหว่างที่ Whited00r กำลังปรับปรุงเวอร์ชั่นใหม่สำหรับ iDevice รุ่นเก่าให้ใช้งานและมีรูปร่างหน้าตาเหมือน iOS 7 อยู่นั้น เราเคยติดตั้งเฟิร์มแวร์ Bl4ck0ut 7 beta 5 ทดลองการใช้งานฟีเจอร์ใหม่อย่าง Multitasking, Do Not Disturb, Camera button grabber ในหน้า Lockscreen มานานพอสมควรซึ่งยังมีบัคหลายอย่างเช่นพื้นหลังข้อความเป็นสีขาวทำให้อ่านยาก และการทำงานค่อนข้างช้าเนื่องจากใช้ iOS 4.2.1 เป็นต้นแบบ หลายคนจึงตั้งหน้าตั้งตารอ Whited00r 7 ที่ดัดแปลงมาจาก iOS 3.1.3 ซึ่งถือว่าเหมาะกับ iDevice รุ่นเก่ามากกว่า และจัดเต็มฟีเจอร์ใหม่ๆมาให้เช่นเดียวกัน โดยวันนี้ทีมงาน Whited00r พร้อมแล้วที่จะให้พวกเราได้ฟินเบาๆกับ Whited00r 7.0 ซึ่งรองรับทั้งเครื่องล็อคและปลดล็อค ดังนี้

 

ดาวน์โหลด Whited00r 7.0

 

เครื่องปลดล็อค (เครื่องศูนย์)

iPod Touch 1G

iPod Touch 2G

iPhone 2G Normal

iPhone 3G Normal

เครื่องล็อค

iPhone 2G Unlocker

iPhone 3G Unlocker

 

1-3-2014 6-49-07 PM copy
ดาวน์โหลดเสร็จแล้วจะได้ไฟล์ .zip ให้แตกไฟล์ออกมาเป็นโฟลเดอร์ หรือดับเบิลคลิกขึ้นมา ดังรูป แล้วคลิกลากเฉพาะ 2 ไฟล์นี้ออกไปวางในโฟลเดอร์ที่ต้องการ (ในที่นี้ลากไปไว้ที่ Desktop)

 

วิธีติดตั้งเฟิร์มแวร์ Whited00r 7.0

1. เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าคอมด้วยสาย USB

2. เปิดโปรแกรม redsn0w 0.9.14b2 ที่ได้มาพร้อมเฟิร์มแวร์ คลิกปุ่ม Extras > Pwned DFU เข้าโหมด DFU ด้วยมือเปล่าตามสเต็ป 3 10 15 ดังนี้
– กดปุ่ม Power ค้างไว้ 3-4 วินาทีจนขึ้นแถบ slide to power off
– กดปุ่ม Power พร้อมปุ่ม Home ต่อไปอีก 10 วินาทีจนเครื่องดับ!
– ปล่อยปุ่ม Power แต่ยังกดปุ่ม Home ต่อไปอีก 15 วินาที ถ้าทำถูกต้องทั้งหมดจะมีข้อความ Waiting for reboot เสร็จแล้วจะขึ้น Done ส่วนหน้าจออุปกรณ์จะดับสนิท

1-3-2014 6-52-11 PM copy
ปุ่ม Next คลิกไม่ได้ไม่ต้องสนใจค่ะ ให้เข้า DFU Mode ตามสเต็ป 3 10 15 ได้เลย

 

3. เปิดโปรแกรม iTunes ขึ้นมา กดคีย์ Shift ที่คีย์บอร์ดค้างไว้ (เครื่องแมคให้กดคีย์ Alt) แล้วคลิกปุ่ม Restore iPhone ดับเบิลคลิกเลือกเฟิร์มแวร์ Whited00r 7.0

1-3-2014 7-41-03 PM copy

 

4. รอติดตั้งจนเสร็จ

 

ฟินเบาๆกับฟีเจอร์ใหม่บน Whited00r 7.0

 

All-new iOS7 look and feel.

ดีไซน์เรียบง่าย เน้นสีสันสดใสสไตล์ iOS 7 ทั้งไอคอน แบ็คกราวน์ ฟีเจอร์ แต่การใช้งานยังรวดเร็วเหมือนเดิม (iOS 3.1.3) แบตเตอรี่เปิดทิ้งไว้ 1 คืนยังเฉยๆ (หายไปประมาณ 5%) แต่พอเริ่มใช้งานสูบแบตพอสมควร และยังมีบางหน้าต่างที่พื้นข้อความเป็นสีขาวทำให้อ่านยากเล็กน้อย

iOS7oniPhone3GLook

 

Push Notifications

รูปแบบการแจ้งเตือนเมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามาจะเป็นแบบ Banners (เลื่อนลงมาจากขอบจอด้านบน) โดยข้อมูลที่ยังไม่ได้เปิดอ่านจะแสดงในหน้า Lock Screen สามารถสไลด์เปิดดูได้ทันที

iPhone2GNotificationBar

 

Multiple Stores for Applications

เปิด App Market ขึ้นมาเลือกได้ถึง 3 สโตร์

•  AppTimeMachine แนะนำแอพที่รองรับ iOS 3.1.3

• AppStore แอพทั้งหมดที่รองรับ iDevice แต่จะมีบางแอพที่ Apple อนุญาตให้ติดตั้งเวอร์ชั่นเก่าตาม iOS ที่ใช้ได้

• Cydia ติดตั้งทวีคที่จำเป็น เช่น ultrasn0w สำหรับเครื่องล็อคให้อัตโนมัติ หรือจะค้นหาเพิ่มเติม เช่น Activator ช่วยถนอมปุ่ม Home, iFile จัดการไฟล์ในเครื่องทั้งหมด

CydiaAppTimeMachine

 

 

New and Improved Camera App

มีแถบเปลี่ยนโหมดสไตล์ iOS 7 โดยใช้วิธีแตะสลับระหว่าง VIDEO และ PHOTO สามารถกดปุ่ม Volumn เพื่อกดชัตเตอร์ และเปิดกล้องได้อย่างรวดเร็วจากหน้า Lock Screen อีกด้วย

Whited00rCameraVideo

 

 

Multitasking

กดปุ่ม Home สองครั้งติดกันเพื่อเรียกหน้าต่างการทำงานล่าสุดใน Multitasking ตามสไตล์ iOS 7 ถ้าปุ่ม Home เน่าสนิทอาจต้องหาทวีค Activator ใน cydia มาติดตั้ง (ไอคอนสีชมพูจาก BigBoss) อย่าลืมรอ reload ข้อมูลใน cydia ก่อนนะคะ หรือเพิ่ม Source นี้ http://cydia.xsellize.com/ไว้ด้วยก็ได้

MultitaskingiOS7

 

 

Control Center

แตะค้างขอบด้านล่างของหน้าจอขึ้นมาเพื่อเปิดแผงควบคุม Control Center ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่บน iOS 7 เช่นกัน จะพบไอคอนคำสั่งเปิด-ปิด และการตั้งค่าที่ใช้งานบ่อยๆ

ControlCenteriPhone3G

 

Voice Control

กดปุ่ม Home ค้างไว้จะเข้าหน้าการสั่งงานด้วยเสียง Voice Control สำหรับสั่งงานและค้นหาข้อมูล (ใช้ภาษาอังกฤษ)

SiriOniPhone3G

 

Customize features on the fly

ตั้งค่าการทำงานของ Whited00r 7.0 ได้โดยเข้าไปที่ Settings>Whited00r Settings จะพบเมนู Features สำหรับเปิดปิดฟีเจอร์บน iOS 7 ที่ต้องการได้ และ Daemons สำหรับตั้งค่าอย่างละเอียด

Whited00rSettingsCustomFirmware

ขอบคุณข้อมูลจาก whited00r.com

 

ปิดท้ายด้วยคลิปวิดีโอเช่นเคยค่ะ

 

ดีแทคเตรียมพร้อมเครือข่ายรองรับการใช้งานทุกสถานการณ์

8375-64302

ดีแทคมั่นใจรับมือการใช้งานหนาแน่นของเครือข่ายในทุกสถานการณ์ เน้นทีมงานพิเศษดูแลติดตามตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด พร้อมดึงความสามารถเครือข่ายรองรับการใช้งานด้วยประสิทธิภาพสูงสุด ตามพฤติกรรมแบบเรียลไทม์ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้สูงสุด

 

นายปัญญา เวชบรรยงรัตน์ ผู้อำนวยการอาวุโสสายงานปฏิบัติการโครงข่าย บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่าเพื่อเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าดีแทคในการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกสถานการณ์และกรณีฉุกเฉิน ดีแทคได้จัดทีมงานพิเศษดูแลเครือข่ายเพื่อประเมินเกาะติดสถานการณ์อย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนและมาตรการรองรับ ทั้งพื้นที่การใช้งานหนาแน่น ไม่เพียงแค่ในกรุงเทพ แต่ยังรวมถึงตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ที่อาจจะได้รับประสบภัยจากธรรมชาติ เพื่อให้ลูกค้าดีแทคในทุกพื้นที่ได้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้อย่างปกติตลอดเวลา

 

“ดีแทคได้เพิ่มแผนรองรับการใช้งานในช่วงนี้เป็นพิเศษ ด้วยการมอนิเตอร์การใช้งานพร้อมปรับพารามิเตอร์ให้เสาส่งสัญญาณรองรับพื้นที่สอดคล้องพฤติกรรมการใช้งานโทรเข้า-ออก หรือใช้งานดาต้าให้ดีที่สุด และด้วยดีแทค ไตรเน็ต มีจุดแข็งด้วย 3 คลื่นความถี่ คือ 850MHz, 1800MHz และ 2100MHz จึงคล่องตัวในการกระจายรองรับการใช้งานบนแบนด์วิธที่มากกว่า ทั้งนี้จากประสบการณ์การรองรับพื้นที่จัดงานหนาแน่นช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาถือว่าทีมงานประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ตามมาตรการต่างๆ ที่ออกมารองรับ และยังทำอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้งาน” นายปัญญา กล่าว

 

Flipagram ทำภาพสไลด์โชว์ รวมเด็ดสะเก็ดข่าว บน Instagram

เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นเพื่อนๆใน IG ต่างโพสต์คลิปวิดีโอภาพรวมเด็ดสเก็ดข่าว ของตัวเองกันใหญ่ เลยสงสัยว่าทำไงอ่ะ อยากเล่นบ้าง ดีนะที่แอพนี้ตามหาได้ไม่ยาก เนื่องจากมีลายน้ำบอกชื่อแอพอยู่ ซึ่งแอพนั้นก็คือ Flipagram นั่นเอง โดยแอพนี้มีให้ดาวน์โหลดทั้ง iOS และ Android โดยคราวนี้จะขอสาธิตวิธีการใช้งานบน แอนดรอยด์กันบ้าง ซึ่งจะขอใช้ LG G2 ในการแคปเจอร์ภาพนะครับ ส่วนเครื่องยี่ห้ออื่นๆ ก็อาจจะใช้งานคล้ายๆ กัน ลองประยุกต์ใช้กันดูนะครับ

ดาวน์โหลด Flipagram : iOS , Android

 

 

1. เมื่อเปิดแอพขึ้นมาครั้งแรก ให้แตะปุ่ม เริ่ม จากนั้นจะมีตัวเลือกแหล่งเก็บภาพขึ้นมา ถ้าเลือก คลังภาพ หรือ Gallery ก็จะเป็นการเลือกรูปจากในเครื่อง แต่ถ้าเลือก Instagram ก็จะเป็นการเลือกรูปจาก Instagram ของเรา ในที่นี้ผมขอเลือกภาพจาก Instagram นะครับ

Flipagram-01

 

2. ใส่แอคเคาท์ และรหัสผ่านของ Instagram ของเรา จากนั้นก็แตะปุ่ม เข้าสู่ระบบ รอสักครู่ แล้วแตะปุ่ม Authorize

Flipagram-02

 

3. ระบบจะแสดงภาพบน Instagram ทั้งหมดขึ้นมาให้เราแตะเลือก โดยสามารถเลือกได้ทีละหลายๆ รูป เมื่อเลือกครบจนพอใจแล้วให้แตะปุ่มเครื่องหมายถูก จากนั้นรอให้ดาวน์โหลดภาพออกมาสักครู่

Flipagram-03

 

4. จะได้ภาพที่เลือกทั้งหมดเข้ามาอยู่ใน ไทม์ไลน์ โดยเราสามารถจัดเรียงลำดับภาพตามความพอใจก่อนได้ เพียงแตะค้างบนรูปแล้วลากไปวางยังลำดับที่ต้องการ แต่หากต้องการเพิ่มรูปอีก ก็ให้แตะปุ่ม +Add หรือหากต้องการลบ ก็ให้แตะปุ่ม ถังขยะ เมื่อจัดเรียงได้ตามต้องการแล้วให้แตะปุ่มลูกศรชี้ถัดไป

Flipagram-04

 
5. แตะที่ เพลง(หากต้องการ) เพื่อเพิ่มเพลงประกอบคลิปสไลด์โชว์ จากนั้นแตะที่ My Music

Flipagram-05

 
6. แตะเลือกแอพที่จะลองเล่นเพลง อันไหนก็ได้ จากนั้นแตะเลือกเพลงที่ต้องการ

Flipagram-06

 
7. แตะที่ ใส่ชื่อเรื่อง เพื่อเพิ่มไตเติ้ลลงในคลิป จากนั้นแตะเลือกฟอนต์ได้ตามต้องการ

Flipagram-07

 
8. เมื่อใส่เพลงประกอบและไตเติ้ลเรียบร้อยแล้ว ให้แตะที่เครื่องหมายถูก แล้วแตะ ใช่

Flipagram-08

 
9. จากนั้นแตะปุ่ม แชร์ แล้วเลือกแอพที่ต้องการแชร์ได้เลย หากแชร์ไปยัง Instagram แล้วแอพเด้งออก ให้ใช้วิธีการโพสต์วิดีโอโดยตรงจากแอพ Instagram จะดีกว่านะครับ เพราะคลิปวิดีโอ Flipagram ที่เราทำไว้จะถูกเก็บอยู่ใน Gallery เรียบร้อยแล้ว

Flipagram-09

 

เพียงเท่านี้เราก็จะได้คลิปวิดีโอสไลด์โชว์ ไว้โพสต์บน Instagram ได้่ง่ายๆ แล้วล่ะครับ ใครมีภาพสวยๆ ก็โพสต์มาโชว์กันที่ Fanpage OopsMobile กันบ้างนะครับ

 

 

ศุกร์นี้ (10 ม.ค.) เตรียมช้อปใน เทศกาล Red Friday ฉลองตรุษจีน บน Apple Store TH

redfriday

 

ในเมื่อต่างประเทศเค้ามีเทศกาล Black Friday พี่ไทยอย่างเราก็ไม่น้อยหน้า กับเทศกาล Red Friday ต้อนรับกับช่วงตรุษจีนของทุกต้นปี โดยในวันศุกร์ที่ 10 ม.ค. 57 นี้ เหล่าสาวก Apple เตรียมช้อปออนไลน์กันให้ดี เพราะจะมีสินค้าราคาพิเศษให้เลือกช้อปได้เพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น และหากช้อปเกิน 2000 บาท ยังได้รับการจัดส่งฟรีอีกด้วย

 

เทศกาล Red Friday นี้ จัดขึ้นบนเว็บไซต์ Apple Store เฉพาะประเทศในแถบเอเชียเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็น จีน , ใต้หวัน , ฮ่องกง , สิงคโปร์ , ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย

 

ดังนั้นใครที่กำลังมองหาของขวัญชิ้นพิเศษให้ตัวเอง หรือให้คนที่คุณรัก ศุกร์นี้เตรียมเฝ้าอยู่บนหน้าจอไว้ให้ดี ช้าหมดอดนะครัช

 

Source : Apple Store TH

 

Apple เตรียมเปิดตัว iPhone Phablet พฤษภาคม นี้

apple-headquarters1

 

 

มีรายงานจากเว็บไซต์ Yahoo News ภาษาญี่ปุ่น ออกมาว่า Apple กำลังเตรียมที่จะเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้น โดยอาจจะอยู่ที่ขนาด 5.7 นิ้ว หรือใหญ่กว่านี้ โดยข่าวนี้อาจจะทำให้ดูสบสนระหว่างข่าวลือก่อนหน้าที่จะมีการเปิดตัว iPhone 6 เดือนกันยายน แต่ iPhone Phablet (ไอโฟน แฟบเล็ต) หรือ iPhone จอยักษ์ อาจจะชิงเปิดตัวก่อนในเดือน พฤษภาคมนี้แทน

 

ภายใต้ข่าวลือดังกล่าว iPhone Phablet อาจจะไม่ได้ใส่ชิป A8 ตัวล่าสุดมาให้ แต่ยังคงใช้ชิป A7 เท่ากับ iPhone 5s รุ่นปัจจุบัน

 

ข่าวลือนี้อาจมีแนวโน้มที่เป็นจริงขึ้นได้ เพราะที่ผ่านมา Apple ก็โดนสมาร์ทโฟน Android กินส่วนแบ่งตลาดไปมากพอสมควรสำหรับกลุ่มมือถือที่มีหน้าจอใหญ่กว่า 4 นิ้ว ถึงแม้ว่าจะพยายามส่ง iPhone 5c หลากสีสันมาช่วยฉุดยอดขายแต่กลับกลายเป็นกระแสนิ่งไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไร นี่จึงอาจเป็นอีกทางออกหนึ่งที่จะทำให้ Apple ในยุคไร้ซึ่ง สติฟ จ็อปส์ สามารถอยู่รอดในยุคของ ม่านน้ำสีแดงของสงครามสมาร์ทโฟน ก็เป็นได้

 

Source : gsmarena

Galaxy S5 เตรียมเปิดตัว ในงาน MWC2014 เดือน ก.พ. นี้

s5

 

เริ่มต้นศักราชใหม่ ก็มีข่าวลือความคืบหน้าของซัมซุง Galaxy S5 ว่าที่สมาร์ทโฟนเรือธงประจำปี 57 ที่คาดกันว่าจะวางจำหน่ายได้ราวกลางปีนี้ โดยล่าสุดมีข่าวรายงานการใ้ห้สัมภาษณ์จากผู้บริหารระดับสูงของซัมซุงเกาหลี นาย Dong-hoon Chang VP and Head of Design Strategy ในงานฉลองปีใหม่เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมากว่า มีโอกาสที่จะได้เปิดตัว Galaxy S5 ในงาน MWC2014 หรืองาน Mobile World Congress 2014 ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการสื่อสาร รวมถึงโทรศัพท์มือถือระดับโลก ซึ่งทุกๆ ปีภายในงานก็จะมีมือถือรุ่นใหม่ๆ เปิดตัวทั้งต้นแบบและที่พร้อมวางจำหน่ายจากแบรนด์ต่างๆ ทั่วโลก โดยงานนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 24-27 กุมภาพันธ์ 2557 ที่จะถึงนี้

 

และมีการคาดเดากันว่า วัสดุที่ใช้อาจจะเปลี่ยนไปเป็นโลหะ แทนพลาสติก หรือไม่ก็เ้ป็นหน้าจอโค้งงอได้

 

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือกันอีกว่าซัมซุงอาจจะผลิตสมาร์ทโฟนเพิ่มอีกหนึ่งซีรีส์ ที่เน้นความหรูหรา ระดับพรีเมี่ยม โดยอาจจะใช้ชื่อรุ่นว่า Galaxy F เพื่อมาเติมเต็มช่องว่าตลาดนี้โดยเฉพาะ เลยก็ได้

 
Galaxy F Line

 

Source : gsmarena

7 เหตุผลที่ควรใช้ 6Tag มากกว่า Instagram Beta บน Windows Phone

6tag-08

 

ถึงแม้ว่า Instagram จะมีให้ใช้งานอย่างเป็นทางการบน Windows Phone เรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่ยังเป็นเพียงแต่เวอร์ชั่นทดลองหรือ Beta ซึ่งยังมีบางฟีเจอร์ที่ไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้นสำหรับผู้ที่เคยใช้แอพ 6Tag ซึ่งเป็นแอพที่ใช้แทนมาก่อนหน้าที่ Instagram Beta จะมาเสียอีก คงรู้ดีว่ามันสามารถใช้งานแทน Instagram ได้ดีกว่าหลายช่วงตัวเลยทีเดียว และบางอย่างอาจจะดีกว่าแอพ Instagram บน iOS หรือ Android ด้วยซ้ำ ซึ่งมีอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ

 

1. regram ฟีเจอร์นี้ขอยกให้เป็นอันดับแรกเลยเพราะเราสามารถรีแกรม หรือรีโพสต์รูปของเพื่อนๆ หรือของเราเองซ้ำได้ คล้ายๆ กับการรีทวีตบนทวีตเตอร์ แถมยังโพสต์ข้อความเพิ่มเติมบนภาพที่จะรีแกรมได้อีกด้วย เรียกว่าเหนือกว่า ความสามารถที่แอพ Instagram ทุกแพลตฟอร์มเลยทีเดียว

6tag-01

 

2. Save Picture ฟีเจอร์นี้ดูเหมือนจะออกแนวละเมิดกฎของ Instagram ไปสักนิดกับความสามารถในการเซฟภาพเก็บไว้ในเครื่องได้ด้วย ซึ่งก็เพิ่มความสะดวกมากขึ้นกว่าการแคปเจอร์หน้าจอตามปกติวิสัยที่จะทำกัน

6tag-02

 

3. Post Video สำหรับ Instagram Beta บน Windows Phone นั้นยังไม่สามารถโพสต์วิดีโอได้ แต่แอพ 6Tag กลับสามารถยอมให้เราถ่้ายคลิปวิดีโอโพลส์ลงบน IG ของเราได้โดยตรง แต่ก็มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถโพสต์วิดีโอคลิปที่ถ่ายไว้แล้วจาก Gallery ได้ จะต้องถ่ายสดแล้วโพสต์เลยทันที แต่ก็ดีกว่าไม่มีเลยจริงไหม

6tag-03

 

4. Share via NFC หากใช้มือถือรุ่นที่มีฟังก์ชั่น NFC สิ่งที่ 6Tag เพิ่มขึ้นมาให้อีกหนึ่งอย่างคือการแชร์รูปผ่าน NFC เพียงนำเครื่องมาแตะกันก็สามารถส่งลิงค์รูปบน IG ไปให้เพื่อนดูได้

6tag-04

 

5. Reply to comment แตะค้างบนชื่อเพื่อตอบกลับ ถือเป็นความสามารถที่เทียบเท่าเวอร์ชัน iOS เลยทีเดียว สำหรับการแตะค้างบนชื่อเพื่อนๆ เพื่อตอบกลับอ้างถึงบุคคลนั้น ซึ่งฟีเจอร์นี่แม้แต่บน Android ก็ยังทำไม่ได้ ซึ่งหากจะเมนชั่นอ้างถึงใครก็จะต้องพิมพ์ @ชื่อแอคเคาท์ ของคนนั้นด้วยตนเอง

6tag-05

 

6. #Hashtag Suggestion พูดเลยว่าชอบมากกับฟีเจอร์นี้ ที่สามารถจดจำ Hashtag ที่เราเคยใช้เอาไว้ในระบบ เพียงแต่พิมพ์ # เข้าไป ก็จะมี Hashtag ที่เราเคยใช้บ่อยๆ แสดงขึ้นมาให้เลือก ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ใหม่ทุกครั้ง ซึ่งบน iOS และ Android ก็ยังไม่สามารถทำได้ถึงขนาดนี้

6tag-06

 

7. Frame แบ่งเฟรมได้อิสระ ให้เราสามารถแบ่งเฟรมภาพได้อย่างอิสระ ไม่ต้องไปใช้แอพแบ่งเฟรมภาพตัวอื่นๆ ให้เสียเวลา่ เพราะ 6Tag เขามีฟีเจอร์นี้มาให้ในตัว และเลิศกว่า ด้วยการปรับแต่งขนาดเฟรมได้อย่างอิสระ จะเอาช่องเล็กช่องใหญ่ แบ่งย่อยหลายๆ ช่อง ได้ตามต้องการ

6tag-07

 

และนี่คือ 7 เหตุผลที่ทำไมหลายคนถึงติดใจแอพ 6Tag มากกว่าแอพ Instagram Beta ตัวแท้ๆ เสียอีก

 

Thank : Nokia Lumia 1520 for Image Capture