[MWC2014] โฉมหน้าตัวเป็นๆ Galaxy Gear 2 & Gear 2 Neo

Gear 2 and Gear 2 Neo at WMC 2014 [2]
 

ซัมซุงนำเสนอ wearable device 2 รุ่นล่าสุด ซัมซุง เกียร์ 2 (Samsung Gear 2) และซัมซุง เกียร์ 2 นีโอ (Samsung Gear 2 Neo) ได้รับการออกแบบเพื่อเพิ่ม ความสะดวกสบายและมอบความอิสระในการใช้งานให้มากขึ้น ภายใต้ดีไซน์ใหม่ล่าสุดของอุปกรณ์อัจฉริยะ แบบสวมใส่ได้ ซัมซุง เกียร์ ทั้ง 2 รุ่นจะมอบการเชื่อมต่อที่เหนือชั้นยิ่งกว่าและเป็นหนึ่งเดียวกับอุปกรณ์อื่นๆ มากยิ่งขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานอุปกรณ์อัจริยะแบบสวมใส่ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ซัมซุง เกียร์ 2 และ ซัมซุง เกียร์ 2 นีโอ เป็น wearable device 2 รุ่นแรกที่ใช้ระบบปฏิบัติการไทเซน (Tizen based wearable platform) ทำให้สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนซัมซุงได้มากกว่า 12 รุ่น และใช้งานแอพลิเคชันต่างๆ ได้ อย่างหลากหลาย
 

มร. เจเค ชิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า “ซัมซุงการันตีความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมของตลาด wearable device ด้วย ซัมซุง เกียร์ 2 และซัมซุง เกียร์ 2 นีโอ การสรรสร้างดีไวซ์ที่ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับวิถีชีวิตของผู้บริโภค อันเพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติด้านการเชื่อมต่อที่ยอดเยี่ยม ระบบของแอพลิเคชันที่เหนือชั้น และคุณสมบัติที่รองรับการปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้ การพัฒนาทุกๆ องค์ประกอบที่ผู้บริโภคชื่นชอบผลิตภัณฑ์ตระกูลเกียร์ เพื่อนำเสนอวิถีชีวิตใหม่ที่ทั้งสะดวกสบายและมีความอัจริยะมากขึ้นกว่าเดิม”
 

Group_Gear 2_Gear 2 Neo

 
ซัมซุง เกียร์ 2 และซัมซุง เกียร์ 2 นีโอ มากับน้ำหนักเบาและดีไซน์เหนือระดับ กล้องถ่ายภาพติดตั้งบนตัวเรือนแทนที่บริเวณสายเหมือนรุ่นก่อนหน้า ซึ่งช่วยให้ดูเพรียวบางและมีดีไซน์ที่ทันสมัยยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกสีสันของสายให้เข้ากับเสื้อผ้าที่สวมใส่หรือเพื่อแสดงความรู้สึกได้อย่างหลากหลาย โดยซัมซุง เกียร์ 2 มี 3 สีให้เลือก ได้แก่ สีดำชาโคลแบล็ก (Charcoal Black) น้ำตาลโกลด์ บราวน์ (Gold Brown) และส้มไวลด์ออเรนจ์ (Wild Orange) และซัมซุง เกียร์ 2 นีโอ มี 3 สีคือสีดำชาโคลแบล็ก (Charcoal Black) เทามอคค่าเกรย์ (Mocha Grey) และส้มไวลด์ออเรนจ์ (Wild Orange) ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถเปลี่ยนสีแบ็กกราวน์ของโฮม สกรีน ภาพหน้าปัดนาฬิกา หรือแม้แต่ตัวอักษรที่แสดงผลบนหน้าจอได้ตามต้องการ

 

Group_Gear 2
Galaxy Gear 2

 
ซัมซุง เกียร์ 2 และซัมซุง เกียร์ 2 นีโอ ได้รับการออกแบบให้เป็นอุปกรณ์เสริมเพื่อความสะดวกสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน เพราะสามารถเลือกรับหรือปฏิเสธข้อความหรือโทรศัพท์ได้ และยังแสดงการแจ้งเตือนต่างๆ ตามกิจกรรมหรือวิถีชีวิตของผู้ใช้ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังได้รับการออกแบบให้เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันผ่านคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ที่ทำงานได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้หรือเชื่อมต่อ กับดีไวซ์อื่น เช่น แอพลิเคชันวอชออน รีโมท (WatchON Remote) ที่ช่วยให้สามารถควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น โทรทัศน์หรือกล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ได้ผ่านเซนเซอร์อินฟราเรดแอลอีดี (IrLED sensor) ที่ติดตั้งมากับเครื่อง ยิ่งไปกว่านี้ ยังสามารถเพลิดเพลินกับเสียงเพลงได้แม้ไม่มีสมาร์ทโฟน ด้วยแอพลิเคชันเครื่องเล่นเพลง ที่รองรับการใช้งานคู่กับหูฟังบลูทูธ เพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น มีคุณสมบัติที่สนับสนุนการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ ช่วยให้สามารถปรับแต่งตารางการออกกำลังกายได้ตามต้องการและตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจระหว่าง การออกกำลังกายได้

 
ซัมซุง เกียร์ 2 และซัมซุง เกียร์ 2 นีโอ จะเริ่มวางจำหน่ายทั่วโลกตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป รายละเอียดและภาพผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการสามารถเข้าชมได้ที่ www.samsungmobilepress.com

Group_Gear 2 Neo
Galaxy Gear 2 Neo

 

เปิดตัวแล้ว Nokia X, Nokia X+, Nokia XL สมาร์ทโฟนที่เล่นแอพ Android ได้ และ Nokia Asha 230, Nokia 220 มือถือราคาย่อมเยา

nokia_x_front_yellow_home

บาร์เซโลน่า สเปน – 24 กุมภาพันธ์ 2557: โนเกียตอกย้ำพันธะสัญญาในการเชื่อมต่อผู้คนอีกพันล้านคนทั่วโลกสู่อินเตอร์เน็ตด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนราคาประหยัด รวมถึง Nokia X สมาร์ทโฟนที่สามารถใช้แอพแอนดรอยด์
พร้อมบริการไมโครซอฟต์และประสบการณ์โนเกียอันเป็นเอกลักษณ์

 

โนเกีย X โนเกีย X+ และโนเกีย XL จะวางจำหน่ายในราคาย่อมเยาเพื่อเจาะตลาดที่สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยามีการเติบโตสูง พร้อมเปิดประสบการณ์บริการจาก Lumia และไมโครซอฟต์ เช่น Skype, OneDrive และ Outlook.com
Nokia Asha 230 สมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัส full touch ที่มีราคาย่อมเยาที่สุดในตระกูล Asha ราคา 45 ยูโร
Nokia 220 โทรศัพท์มือถือที่พร้อมเข้าถึงอินเตอร์เน็ต มาพร้อมโซเชี่ยลแอพ ราคา 29 ยูโร

 

สตีเฟ่น อีลอป รองประธานบริหาร กลุ่มธุรกิจอุปกรณ์และบริการ โนเกีย กล่าวว่า “โนเกียได้เชื่อมต่อผู้คนหลายพันล้านคนทั่วโลก และวันนี้ เราได้สร้างสรรค์สมาร์ทโฟนใหม่ๆ ที่ได้รับการออกแบบเพื่อเชื่อมต่อผู้คนอีกนับพันล้านคนสู่ประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยม”

 

“แนวทางของเราคือการนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ใน 4 ระดับ ได้แก่ อุปกรณ์ขั้นพื้นฐาน อย่าง Nokia 220, สมาร์ทโฟนราคาย่อมเยาตระกูล Asha อย่าง Nokia Asha 230, สมาร์ทโฟนตระกูลใหม่ Nokia X, X+ และ XL ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนสำหรับตลาดที่กำลังเติบโต และสมาร์ทโฟน Lumia ซึ่งมากับนวัตกรรมขั้นสูงพร้อมประสบการณ์ไมโครซอฟต์สมบูรณ์แบบ” อีลอปกล่าวเสริม

 

Nokia X มอบสิ่งที่ดีที่สุดจากหลากแพลทฟอร์ม

nokia_x_front_green_fastlane
สมาร์ทโฟนโนเกีย X มากับตัวเครื่องที่ดีทั้งคุณภาพและการออกแบบ พร้อมอินเตอร์เฟซแบบ tile ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสมาร์ทโฟนตระกูล Lumia พร้อมหน้าจอ Fastlane ให้สลับใช้งานแอพต่างๆ ได้ราบรื่นยิ่งขึ้น ผู้ใช้งานสามารถโหลดแอพที่ได้รับการทดสอบคุณภาพแล้วจาก Nokia Store, เลือกโหลดแอพจากร้านแอพออนไลน์อื่นๆ กว่า 12 แห่ง และโหลดผ่านโปรแกรมจากคอมพิวเตอร์ (side load) ผู้ใช้งานยังสามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์โนเกียได้ฟรี เช่น แผนที่ โนเกีย ซึ่งรวมถึงการใช้งานแบบออฟไลน์ บริการนำทางแบบเลี้ยวต่อเลี้ยว และ Nokia MixRadio สำหรับการฟังและดาวน์โหลดเพลง นอกจากนี้ ยังมีแอพและเกมยอดนิยมที่ติดตั้งไว้แล้วในเครื่องอีกมากมาย

 

สมาร์ทโฟนตระกูล Nokia X เป็นสมาร์ทโฟนราคาย่อมเยา ที่มาพร้อมบริการที่ได้รับความนิยมจากไมโครซอฟต์ รวมถึงบริการจัดเก็บข้อมูลฟรีบนคลาวด์ผ่าน OneDrive นอกจากนี้ ในบางประเทศผู้ซื้อ Nokia X จะสามารถใช้งาน Unlimited World Subscription จาก Skype เป็นเวลา 1 เดือนโดยจะสามารถโทรไปยังโทรศัพท์พื้นฐาน (landline) ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก และโทรไปยังโทรศัพท์มือถือในอีก 8 ประเทศทั่วโลกฟรีในระยะเวลาที่กำหนด

nokia_x_front_red_skype

 

Nokia X สมาร์ทโฟนรุ่นแรกของตระกูล มากับหน้าจอสัมผัส capacitive IPS 4 นิ้ว และกล้อง 3 ล้านพิกเซล

สำหรับ Nokia X+ ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อคนใช้งานมัลติมีเดียโดยเฉพาะ เพื่อให้เพลิดเพลินกับเกม เพลง รูปภาพและวิดีโอได้อย่างเต็มที่ มาพร้อมหน่วยความจำที่ให้เก็บข้อมูลได้มากขึ้น ทั้ง Nokia X และ Nokia X+ จะมีสีเขียวสด แดงสด ฟ้า เหลือง ดำและขาว ให้เลือก

สำหรับ Nokia XL มากับหน้าจอขนาด 5 นิ้ว กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล เพื่อใช้ทำวิดีโอคอลล์ เช่น Skype และกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล พร้อมโฟกัสอัตโนมัติและแฟลช โดย Nokia XL จะมีสีเขียวสด ส้ม ฟ้า เหลือง ดำ และขาว ให้เลือก สมาร์ทโฟนตระกูล Nokia X ขับเคลื่อนด้วยหน่วยประมวลผลแบบ dual core Qualcomm Snapdragon พร้อมรองรับการใช้งานสองซิม สามารถสลับซิมได้ง่ายเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากอัตราค่าใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่แตกต่างกัน

 

Nokia X จะมีราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 89 ยูโร จะเริ่มวางจำหน่ายทันทีในเอเชียแปซิฟิก ยุโรป อินเดีย ละตินอเมริกา อาฟริกาและตะวันออกกลาง ส่วน Nokia X+ และ Nokia XL คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 2 ในราคาประมาณ 99 ยูโร และ 109 ยูโร ตามลำดับ

 

Nokia Asha 230 และ Nokia 220 โทรศัพท์ที่ได้รับการสร้างสรรค์ เพื่อการใช้อินเตอร์เน็ตบนมือถือเป็นครั้งแรก

1200-nokia_asha_230_group
โนเกียเปิดตัวโทรศัพท์มือถือสองรุ่นที่ได้รับการออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์อินเตอร์เน็ตเป็นครั้งแรก โดย Nokia Asha 230 จะเปิดประสบการณ์การใช้งานโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัสที่มากับประสบการณ์ Asha สุดสนุก ได้แก่ Fastlane และการเข้าถึงแอพสังคมออนไลน์อาทิ Line, WeChat และ WhatsApp เพียงแค่ swipe เดียวจากหน้าจอ lockscreen ก็สามารถเปิดใช้งานกล้องได้ทันที และแตะเพียงครั้งเดียวเพื่อแบ่งปันภาพไปยังสังคมออนไลน์ที่คุณโปรดปราน Nokia Asha 230 จะมาพร้อมพื้นที่จัดเก็บข้อมูลขนาด 7GB ฟรีบนคลาวด์ของไมโครซฟอท์ OneDrive และสามารถเลือกเก็บสำรองภาพถ่ายบนคลาวด์ได้อีกด้วย

 

Nokia Asha 230 จะวางจำหน่ายในราคาประมาณ 45 ยูโร ถือเป็นสมาร์ทโฟน Asha ระบบสัมผัสที่ย่อมเยาที่สุดในปัจจุบัน โดย มีทั้งซิมเดี่ยวและซิมคู่ จะวางจำหน่ายทันทีในเอเชียแปซิฟิก ยุโรป อินเดีย ละตินอเมริการ ตะวันออกกลาง และ อาฟริกา

 

โนเกียขอแนะนำ Nokia 220 โทรศัพท์มือถือดีไซน์สวยในราคาถูกที่สุดที่สามารถรับส่งข้อมูลอินเตอร์เน็ตได้ ช่วยให้ผู้คนนับล้านทั่วโลกสามารถเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้อย่างง่ายดาย ด้วยหน้าจอสี 2.4 นิ้ว พร้อมแป้นพิมพ์กันฝุ่นและน้ำสาด Nokia 220 ได้รับการออกแบบเพื่อมอบประสบการณ์การสื่อสารเคลื่อนที่และอินเตอร์เน็ตครั้งแรก มาพร้อม Facebook, Twitter และระบบการค้นหา Bing ใน Nokia Xpress browser ที่โหลดไว้แล้วบนเครื่อง Nokia 220 จะวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นประมาณ 29 ยูโร และวางจำหน่ายทันทีทั้งซิมเดี่ยวและซิมคู่ ในเอเชียแปซิฟิก ยุโรป อินเดีย ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และอาฟริกา

1200-nokia_220_-group

 

หมายเหตุ
1 อาจมีค่าใช้ข้อมูลอินเตอร์เน็ต
2 สีที่วางจำหน่ายจะต่างกันไปในแต่ละประเทศ
3 ราคาโดยประมาณ ยังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมอื่นๆ

 

 

ดาวน์โหลด Firmware เวอร์ชั่นล่าสุดและย้อนหลัง ลิงค์ตรงสำหรับ iPhone และ iPad

Wassuppp! หลายคนเสียเวลาดาวน์โหลดเฟิร์มแวร์ (ระบบปฏิบัติการสำหรับ iPhone, iPod, iPad) บน iTunes หลายๆรอบกรณีเน็ตหลุดระหว่างทาง หรือเกิด iTunes Error ต่างๆ แนะนำให้ดาวน์โหลดจากลิงค์ตรงจะได้เป็นไฟล์ .ipsw เก็บไว้ แล้วเลือกติดตั้งบน iTunes ภายหลังเมื่อต้องการ

คำเตือน ควรแบ็คอัพก่อนรีสโตร์ทุกครั้ง! หรือถ้าใครเปิด iCloud>Find My iPhone เอาไว้ จะมีข้อความเตือนให้เข้าไปปิดก่อนค่ะ

 

restore_01
สามารถ Shift + Update หรือ Shift + Restore iPhone เวอร์ชั่นล่าสุด (ข้อมูลไม่หาย) iTunes จะแบ็คอัพให้อัตโนมัติ แต่เพื่อความปลอดภัยควรแบ็คอัพเองด้วยทุกครั้ง

 

IMG_1116
วิธีสังเกตง่ายๆว่าเครื่องนี้โมเดลอะไร, เลข IMEI อะไร ฯลฯ แค่พลิกดูหลังเครื่องก็ได้แล้วค่ะ ซึ่งส่วนใหญ่จะรองรับแบบ GSM 

 

 

เวอร์ชั่นล่าสุด:

iPhone

6.1.6 (3GS): iPhone2,1_6.1.6_10B500_Restore.ipsw
7.0.6 (4 GSM): iPhone3,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (4 8GB): iPhone3,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (4 CDMA): iPhone3,3_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (4S): iPhone4,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5 GSM): iPhone5,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5c GSM): iPhone5,3_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5c GSM+CDMA): iPhone5,4_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5s GSM): iPhone6,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5s GSM+CDMA): iPhone6,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw

 

iPad
7.0.6 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 2 GSM): iPad2,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 2 New): iPad2,4_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini GSM): iPad2,6_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 3 GSM): iPad3,3_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 4 GSM): iPad3,5_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 4 GSM+CDMA): iPad3,6_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Air Wi-Fi): iPad4,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Air Cellular): iPad4,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini 2 Wi-Fi): iPad4,4_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini 2 Cellular): iPad4,5_7.0.6_11B651_Restore.ipsw

 

รวมทุกเวอร์ชั่น:

iPhone

1.0.0: iPhone1,1_1.0_1A543a_Restore.ipsw
1.0.1: iPhone1,1_1.0.1_1C25_Restore.ipsw
1.0.2: iPhone1,1_1.0.2_1C28_Restore.ipsw
1.1.1: iPhone1,1_1.1.1_3A109a_Restore.ipsw
1.1.2: iPhone1,1_1.1.2_3B48b_Restore.ipsw
1.1.3: iPhone1,1_1.1.3_4A93_Restore.ipsw
1.1.4: iPhone1,1_1.1.4_4A102_Restore.ipsw
2.0.0 (2G): iPhone1,1_2.0_5A347_Restore.ipsw
2.0.0 (3G): iPhone1,2_2.0_5A347_Restore.ipsw
2.0.1 (2G): iPhone1,1_2.0.1_5B108_Restore.ipsw
2.0.1 (3G): iPhone1,2_2.0.1_5B108_Restore.ipsw
2.0.2 (2G): iPhone1,1_2.0.2_5C1_Restore.ipsw
2.0.2 (3G): iPhone1,2_2.0.2_5C1_Restore.ipsw
2.1.0 (2G): iPhone1,1_2.1_5F136_Restore.ipsw
2.1.0 (3G): iPhone1,2_2.1_5F136_Restore.ipsw
2.2.0 (2G): iPhone1,1_2.2_5G77_Restore.ipsw
2.2.0 (3G): iPhone1,2_2.2_5G77_Restore.ipsw
2.2.1 (2G): iPhone1,1_2.2.1_5H1_Restore.ipsw
2.2.1 (3G): iPhone1,2_2.2.1_5H11_Restore.ipsw
3.0.0 (2G): iPhone1,1_3.0_7A341_Restore.ipsw
3.0.0 (3G): iPhone1,2_3.0_7A341_Restore.ipsw
3.0.0 (3GS): iPhone2,1_3.0_7A341_Restore.ipsw
3.0.1 (2G): iPhone1,1_3.0.1_7A400_Restore.ipsw
3.0.1 (3G): iPhone1,2_3.0.1_7A400_Restore.ipsw
3.0.1 (3GS): iPhone2,1_3.0.1_7A400_Restore.ipsw
3.1.0 (2G): iPhone1,1_3.1_7C144_Restore.ipsw
3.1.0 (3G): iPhone1,2_3.1_7C144_Restore.ipsw
3.1.0 (3GS): iPhone2,1_3.1_7C144_Restore.ipsw
3.1.2 (2G): iPhone1,1_3.1.2_7D11_Restore.ipsw
3.1.2 (3G): iPhone1,2_3.1.2_7D11_Restore.ipsw 
3.1.2 (3GS): iPhone2,1_3.1.2_7D11_Restore.ipsw
3.1.3 (2G): iPhone1,1_3.1.3_7E18_Restore.ipsw
3.1.3 (3G): iPhone1,2_3.1.3_7E18_Restore.ipsw
3.1.3 (3GS): iPhone2,1_3.1.3_7E18_Restore.ipsw
4.0.0 (3G): iPhone1,2_4.0_8A293_Restore.ipsw
4.0.0 (3GS): iPhone2,1_4.0_8A293_Restore.ipsw
4.0.0 (4): iPhone3,1_4.0_8A293_Restore.ipsw
4.0.1 (3G): iPhone1,2_4.0.1_8A306_Restore.ipsw
4.0.1 (3GS): iPhone2,1_4.0.1_8A306_Restore.ipsw
4.0.1 (4): iPhone3,1_4.0.1_8A306_Restore.ipsw
4.0.2 (3G): iPhone1,2_4.0.2_8A400_Restore.ipsw
4.0.2 (3GS): iPhone2,1_4.0.2_8A400_Restore.ipsw
4.0.2 (4): iPhone3,1_4.0.2_8A400_Restore.ipsw
4.1.0 (3G): iPhone1,2_4.1_8B117_Restore.ipsw
4.1.0 (3GS): iPhone2,1_4.1_8B117_Restore.ipsw
4.1.0 (4): iPhone3,1_4.1_8B117_Restore.ipsw
4.2.1 (3G): iPhone1,2_4.2.1_8C148_Restore.ipsw
4.2.1 (3GS): iPhone2,1_4.2.1_8C148a_Restore.ipsw
4.2.1 (4): iPhone3,1_4.2.1_8C148_Restore.ipsw
4.2.6 (4 CDMA): iPhone3,3_4.2.10_8E600_Restore.ipsw
4.3.0 (3GS): iPhone2,1_4.3_8F190_Restore.ipsw
4.3.0 (4 GSM): iPhone3,1_4.3_8F190_Restore.ipsw
4.3.1 (3GS): iPhone2,1_4.3.1_8G4_Restore.ipsw
4.3.1 (4 GSM): iPhone3,1_4.3.1_8G4_Restore.ipsw
4.3.2 (3GS): iPhone2,1_4.3.2_8H7_Restore.ipsw
4.3.2 (4 GSM): iPhone3,1_4.3.2_8H7_Restore.ipsw
4.2.7 (4 CDMA): iPhone3,3_4.2.7_8E303_Restore.ipsw
4.2.8 (4 CDMA): iPhone3,3_4.2.8_8E401_Restore.ipsw
4.3.3 (3GS): iPhone2,1_4.3.3_8J2_Restore.ipsw
4.3.3 (4 GSM): iPhone3,1_4.3.3_8J2_Restore.ipsw
4.2.9 (4 CDMA): iPhone3,3_4.2.9_8E501_Restore.ipsw
4.3.4 (3GS): iPhone2,1_4.3.4_8K2_Restore.ipsw
4.3.4 (4 GSM): iPhone3,1_4.3.4_8K2_Restore.ipsw
4.2.10 (4 CDMA): iPhone3,3_4.2.10_8E600_Restore.ipsw
4.3.5 (3GS): iPhone2,1_4.3.5_8L1_Restore.ipsw
4.3.5 (4 GSM): iPhone3,1_4.3.5_8L1_Restore.ipsw
5.0 (3GS): iPhone2,1_5.0_9A334_Restore.ipsw
5.0 (4 GSM): iPhone3,1_5.0_9A334_Restore.ipsw
5.0 (4 CDMA): iPhone3,3_5.0_9A334_Restore.ipsw
5.0 (4S): iPhone4,1_5.0_9A334_Restore.ipsw
5.0.1 (3GS): iPhone2,1_5.0.1_9A405_Restore.ipsw
5.0.1 (4 GSM): iPhone3,1_5.0.1_9A405_Restore.ipsw
5.0.1 (4 CDMA): iPhone3,3_5.0.1_9A405_Restore.ipsw
5.0.1 (4S): iPhone4,1_5.0.1_9A405_Restore.ipsw
5.0.1 (4S) [9A406]: iPhone4,1_5.0.1_9A406_Restore.ipsw
5.1.0 (3GS): iPhone2,1_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (4 GSM): iPhone3,1_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (4 CDMA): iPhone3,3_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (4S): iPhone4,1_5.1_9B179_Restore.ipsw
5.1.1 (3GS): iPhone2,1_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (4 GSM): iPhone3,1_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (4 GSM Build 9B208): iPhone3,1_5.1.1_9B208_Restore.ipsw
5.1.1 (4 CDMA): iPhone3,3_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (4S): iPhone4,1_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
6.0.0 (3GS): iPhone2,1_6.0_10A403_Restore.ipsw 
6.0.0 (4 GSM): iPhone3,1_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (4): iPhone3,2_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (4 CDMA): iPhone3,3_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (4S): iPhone4,1_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (5 GSM): iPhone5,1_6.0_10A405_Restore.ipsw
6.0.0 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_6.0_10A405_Restore.ipsw
6.0.1 (3GS): iPhone2,1_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (4 GSM): iPhone3,1_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (4): iPhone3,2_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (4 CDMA): iPhone3,3_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (4S): iPhone4,1_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (5 GSM): iPhone5,1_6.0.1_10A525_Restore.ipsw
6.0.1 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_6.0.1_10A525_Restore.ipsw
6.0.2 (5 GSM): iPhone5,1_6.0.2_10A551_Restore.ipsw
6.0.2 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_6.0.2_10A551_Restore.ipsw
6.1.0 (3GS): iPhone2,1_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (4 GSM): iPhone3,1_6.1_10B144_Restore.ipsw
6.1.0 (4): iPhone3,2_6.1_10B144_Restore.ipsw
6.1.0 (4 CDMA): iPhone3,3_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (4S): iPhone4,1_6.1_10B142_Restore.ipsw
6.1.0 (5 GSM): iPhone5,1_6.1_10B143_Restore.ipsw
6.1.0 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_6.1_10B143_Restore.ipsw
6.1.1 (4S): iPhone4,1_6.1.1_10B145_Restore.ipsw
6.1.2 (3GS): iPhone2,1_6.1.2_10B146_Restore.ipsw 
6.1.2 (4 GSM): iPhone3,1_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (4): iPhone3,2_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (4 CDMA): iPhone3,3_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (4S): iPhone4,1_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (5 GSM): iPhone5,1_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.3 (3GS): iPhone2,1_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (4 GSM): iPhone3,1_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (4): iPhone3,2_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (4 CDMA): iPhone3,3_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (4S): iPhone4,1_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (5 GSM): iPhone5,1_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.4 (5 GSM): iPhone5,1_6.1.4_10B350_Restore.ipsw
6.1.4 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_6.1.4_10B350_Restore.ipsw
6.1.6 (3GS): iPhone2,1_6.1.6_10B500_Restore.ipsw
7.0.0 (4 GSM): iPhone3,1_7.0_11A465_Restore.ipsw 
7.0.0 (4 8GB): iPhone3,2_7.0_11A465_Restore.ipsw 
7.0.0 (4 CDMA): iPhone3,3_7.0_11A465_Restore.ipsw 
7.0.0 (4S): iPhone4,1_7.0_11A465_Restore.ipsw 
7.0.0 (5 GSM): iPhone5,1_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_7.0_11A465_Restore.ipsw 
7.0.1 (5c GSM): iPhone5,3_7.0.1_11A470a_Restore.ipsw
7.0.1 (5c GSM+CDMA): iPhone5,4_7.0.1_11A470a_Restore.ipsw
7.0.1 (5s GSM): iPhone6,1_7.0.1_11A470a_Restore.ipsw
7.0.1 (5s GSM+CDMA): iPhone6,2_7.0.1_11A470a_Restore.ipsw
7.0.2 (4 GSM): iPhone3,1_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (4 8GB): iPhone3,2_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (4 CDMA): iPhone3,3_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (4S): iPhone4,1_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (5 GSM): iPhone5,1_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (5c GSM): iPhone5,3_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (5c GSM+CDMA): iPhone5,4_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (5s GSM): iPhone6,1_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (5s GSM+CDMA): iPhone6,2_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.3 (4 GSM): iPhone3,1_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (4 8GB): iPhone3,2_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (4 CDMA): iPhone3,3_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (4S): iPhone4,1_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (5 GSM): iPhone5,1_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (5c GSM): iPhone5,3_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (5c GSM+CDMA): iPhone5,4_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (5s GSM): iPhone6,1_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (5s GSM+CDMA): iPhone6,2_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.4 (4 GSM): iPhone3,1_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (4 8GB): iPhone3,2_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (4 CDMA): iPhone3,3_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (4S): iPhone4,1_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (5 GSM): iPhone5,1_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (5c GSM): iPhone5,3_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (5c GSM+CDMA): iPhone5,4_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (5s GSM): iPhone6,1_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (5s GSM+CDMA): iPhone6,2_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.5 (5c GSM+CDMA): iPhone5,4_7.0.5_11B601_Restore.ipsw
7.0.5 (5s GSM+CDMA): iPhone6,2_7.0.5_11B601_Restore.ipsw
7.0.6 (4 GSM): iPhone3,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (4 8GB): iPhone3,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (4 CDMA): iPhone3,3_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (4S): iPhone4,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5 GSM): iPhone5,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5 GSM+CDMA): iPhone5,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5c GSM): iPhone5,3_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5c GSM+CDMA): iPhone5,4_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5s GSM): iPhone6,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (5s GSM+CDMA): iPhone6,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw

 

iPad
3.2.0: iPad1,1_3.2_7B367_Restore.ipsw
3.2.1: iPad1,1_3.2.1_7B405_Restore.ipsw
3.2.2: iPad1,1_3.2.2_7B500_Restore.ipsw
4.2.1: iPad1,1_4.2.1_8C148_Restore.ipsw
4.3.0 (iPad 1): iPad1,1_4.3_8F190_Restore.ipsw
4.3.0 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_4.3_8F191_Restore.ipsw
4.3.0 (iPad 2 GSM): iPad2,2_4.3_8F191_Restore.ipsw
4.3.0 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_4.3_8F191_Restore.ipsw
4.3.1 (iPad 1): iPad1,1_4.3.1_8G4_Restore.ipsw
4.3.1 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_4.3.1_8G4_Restore.ipsw
4.3.1 (iPad 2 GSM): iPad2,2_4.3.1_8G4_Restore.ipsw
4.3.1 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_4.3.1_8G4_Restore.ipsw
4.3.2 (iPad 1): iPad1,1_4.3.2_8H7_Restore.ipsw
4.3.2 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_4.3.2_8H7_Restore.ipsw
4.3.2 (iPad 2 GSM): iPad2,2_4.3.2_8H7_Restore.ipsw
4.3.2 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_4.3.2_8H8_Restore.ipsw
4.3.3 (iPad 1): iPad1,1_4.3.3_8J3_Restore.ipsw
4.3.3 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_4.3.3_8J2_Restore.ipsw
4.3.3 (iPad 2 GSM): iPad2,2_4.3.3_8J2_Restore.ipsw
4.3.3 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_4.3.3_8J2_Restore.ipsw
4.3.4 (iPad 1): iPad1,1_4.3.4_8K2_Restore.ipsw
4.3.4 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_4.3.4_8K2_Restore.ipsw
4.3.4 (iPad 2 GSM): iPad2,2_4.3.4_8K2_Restore.ipsw
4.3.4 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_4.3.4_8K2_Restore.ipsw
4.3.5 (iPad 1): iPad1,1_4.3.5_8L1_Restore.ipsw
4.3.5 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_4.3.5_8L1_Restore.ipsw
4.3.5 (iPad 2 GSM): iPad2,2_4.3.5_8L1_Restore.ipsw
4.3.5 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_4.3.5_8L1_Restore.ipsw
5.0 (iPad 1): iPad1,1_5.0_9A334_Restore.ipsw
5.0 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_5.0_9A334_Restore.ipsw
5.0 (iPad 2 GSM): iPad2,2_5.0_9A334_Restore.ipsw
5.0 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_5.0_9A334_Restore.ipsw
5.0.1 (iPad 1): iPad1,1_5.0.1_9A405_Restore.ipsw
5.0.1 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_5.0.1_9A405_Restore.ipsw
5.0.1 (iPad 2 GSM): iPad2,2_5.0.1_9A405_Restore.ipsw
5.0.1 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_5.0.1_9A405_Restore.ipsw
5.1.0 (iPad 1): iPad1,1_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (iPad 2 GSM): iPad2,2_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (iPad 2 Unknown): iPad2,4_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.0 (iPad 3 GSM): iPad3,3_5.1_9B176_Restore.ipsw
5.1.1 (iPad 1): iPad1,1_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (iPad 2 GSM): iPad2,2_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (iPad 2 New): iPad2,4_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
5.1.1 (iPad 3 GSM): iPad3,3_5.1.1_9B206_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad 2 GSM): iPad2,2_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad 2 New): iPad2,4_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_6.0_10A406_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad 3 GSM): iPad3,3_6.0_10A403_Restore.ipsw
6.0.0 (iPad 3,4): iPad3,4_6.0_10A407_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 2 GSM): iPad2,2_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 2 New): iPad2,4_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad Mini GSM): iPad2,6_6.0.1_10A8426_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_6.0.1_10A8426_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 3 GSM): iPad3,3_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_6.0.1_10A523_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 4): iPad3,5_6.0.1_10A8426_Restore.ipsw
6.0.1 (iPad 4): iPad3,6_6.0.1_10A8426_Restore.ipsw
6.0.2 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_6.0.2_10A550_Restore.ipsw
6.0.2 (iPad Mini GSM): iPad2,6_6.0.2_10A8500_Restore.ipsw
6.0.2 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_6.0.2_10A8500_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 2 GSM): iPad2,2_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 2 New): iPad2,4_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad Mini GSM): iPad2,6_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 3 GSM): iPad3,3_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 4 GSM): iPad3,5_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.0 (iPad 4 GSM+CDMA): iPad3,6_6.1_10B141_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_6.1.2_10B146_Restore.ipsw 
6.1.2 (iPad 2 GSM): iPad2,2_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 2 New): iPad2,4_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad Mini GSM): iPad2,6_6.1.2_10B147_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_6.1.2_10B147_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 3 GSM): iPad3,3_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_6.1.2_10B146_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 4 GSM): iPad3,5_6.1.2_10B147_Restore.ipsw
6.1.2 (iPad 4 GSM+CDMA): iPad3,6_6.1.2_10B147_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 2 GSM): iPad2,2_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 2 New): iPad2,4_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad Mini GSM): iPad2,6_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 3 GSM): iPad3,3_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 4 GSM): iPad3,5_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
6.1.3 (iPad 4 GSM+CDMA): iPad3,6_6.1.3_10B329_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_7.0_11A465_Restore.ipsw 
7.0.0 (iPad 2 GSM): iPad2,2_7.0_11A465_Restore.ipsw 
7.0.0 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad 2 New): iPad2,4_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad Mini GSM): iPad2,6_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad 3 GSM): iPad3,3_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad 4 GSM): iPad3,5_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.0 (iPad 4 GSM+CDMA): iPad3,6_7.0_11A465_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 2 GSM): iPad2,2_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 2 New): iPad2,4_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad Mini GSM): iPad2,6_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 3 GSM): iPad3,3_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 4 GSM): iPad3,5_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.2 (iPad 4 GSM+CDMA): iPad3,6_7.0.2_11A501_Restore.ipsw
7.0.3 (iPad Air Wi-Fi): iPad4,1_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (iPad Air Cellular): iPad4,2_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (iPad Mini 2 Wi-Fi): iPad4,4_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.3 (iPad Mini 2 Cellular): iPad4,5_7.0.3_11B511_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 2 GSM): iPad2,2_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 2 New): iPad2,4_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad Mini GSM): iPad2,6_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 3 GSM): iPad3,3_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 4 GSM): iPad3,5_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad 4 GSM+CDMA): iPad3,6_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad Air Wi-Fi): iPad4,1_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad Air Cellular): iPad4,2_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad Mini 2 Wi-Fi): iPad4,4_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.4 (iPad Mini 2 Cellular): iPad4,5_7.0.4_11B554a_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 2 Wi-Fi): iPad2,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 2 GSM): iPad2,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 2 CDMA): iPad2,3_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 2 New): iPad2,4_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini Wi-Fi): iPad2,5_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini GSM): iPad2,6_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini CDMA): iPad2,7_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 3 Wi-Fi): iPad3,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 3 CDMA): iPad3,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 3 GSM): iPad3,3_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 4 Wi-Fi): iPad3,4_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 4 GSM): iPad3,5_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad 4 GSM+CDMA): iPad3,6_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Air Wi-Fi): iPad4,1_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Air Cellular): iPad4,2_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini 2 Wi-Fi): iPad4,4_7.0.6_11B651_Restore.ipsw
7.0.6 (iPad Mini 2 Cellular): iPad4,5_7.0.6_11B651_Restore.ipsw

 

Source : iclarified iclarified

 

วิธีบล็อคข้อความ ชวนเล่น หรือโชว์อวดคะแนน Line Cookie Run

Block-Cookie-run-04
สำหรับใครที่กำลังเพลิดเพลินกับการเล่นเกม LINE Cookie Run คุณทราบหรือไม่ว่า คุณได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของผู้สร้างความหนักใจให้กับเพื่อนๆ ที่อยู่ในไลน์ด้วยกัน อย่างไม่ตั้งใจ โดยเฉพาะเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบเล่นเกม เพราะเพื่อนของคุณจะได้รับข้อความเชิญชวนให้มาเล่นเกมวันละหลายๆ รอบ หรือบางทีก็ส่งคะแนนมาอวด โดยที่คุณเองไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าได้ส่งข้อความไปหาเพื่อนๆ

 

และแน่นอนว่าใครที่เคยได้รับข้อความเหล่านี้ใน LINE บ่อยๆ คงจะอารมรณ์เสีย แต่ก็ไม่อยากที่จะบล็อครายชื่อเพื่อนสนิทที่ไม่ได้ตั้งใจส่งข้อความมารบกวน ดังนั้นผมจะมาเผยถึงวิธีบล็อคข้อความจากการแจ้งเตือนของเกม LINE Cookie Run ให้เพื่อนได้ลองทำกันดูนะครับ โดยวิธีนี้จะใช้ได้กับเฉพาะผู้ที่ติดตั้งเกม LINE Cookie Run เอาไว้บนเครื่องด้วยเท่านั้น

 

1. แตะแท็บ More แล้วแตะ Settings จากนั้นให้แตะ Accounts

Block-Cookie-run-01

 

2. แตะที่ Authorized Apps จะเข้าสู่หน้ารายการแอพที่เกียวข้องกับ LINE ให้แตะเลือกที่เกม LINE Cookie Run

Block-Cookie-run-02

 

3. ให้ปิดการรับข้อความ Receive Message และ การแจ้งเตือนต่างๆ Receive Notifications 

Block-Cookie-run-03

 

เพียงเท่านี้เราก็ไม่ต้องรำคาญกับข้อความแจ้งเตือนจากเกม LINE Cookie Run อีกต่อไปแล้วล่ะครับ ส่วนเกมอื่นๆ ของ LINE ก็น่าจะใช้วิธีเดียวกันได้ครับผม

 

 

แนะนำแอพสร้าง-เซฟ-แชร์ไฟล์ GIFs บน iPhone, iPod, iPad

Wassuppp! นอกจากไฟล์ภาพ JPG และ PNG แอพ Photos ยังสามารถเก็บไฟล์ภาพเคลื่อนไหวอย่าง GIFs ที่เซฟมาจากเว็บได้ด้วย! แต่ปัญหาที่เจอคือเวลาเปิดดูจะเห็นเป็นภาพนิ่ง ไม่ใช่ภาพเคลื่อนไหว! ทำให้เลือกไฟล์ค่อนข้างลำบาก (อันไหน JPG, PNG, GIFs?) ควรสร้างเป็นอัลบั้มแยกให้ชัดเจนจะดีกว่า ส่วนปัญหาไม่เล่นภาพเคลื่อนไหววันนี้เรามีแอพพลิเคชั่นฟรี! 2 ตัวสำหรับช่วยจัดการไฟล์ GIFs มาแนะนำ ตัวแรกคือ GIFWrapped สำหรับมองหาเฉพาะไฟล์ GIFs ในเครื่อง จะเปิดดูหรือแชร์ต่อก็ได้ รวมถึงค้นหาภาพ GIFs จากเว็บชื่อดัง ตัวที่สองคือ GifBoom จะช่วยสร้างไฟล์ GIFs โดยใช้ภาพถ่ายหรือวิดีโอในอัลบั้มของเรา เสร็จแล้วบันทึกเก็บเข้าอัลบั้มพร้อมอัพโหลดขึ้นเซิร์ฟเวอร์ดูแบบออนไลน์ได้เลย คราวนี้ไฟล์ GIFs ก็จะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ iDevice อีกต่อไป

 

เซฟไฟล์ GIFs

วิธีง่ายๆเหมือนการบันทึกภาพทั่วไปบนหน้าเว็บ แค่แตะค้างที่ภาพ แล้วเลือก Save Image วิธีสังเกตว่าเป็นไฟล์ GIFs ภาพจะเคลื่อนไหวไม่เกิน 6 วินาที และที่สำคัญมีคำสั่งให้เซฟได้นั่นเอง เนื่องจากไฟล์วิดีโอหรือไฟล์แฟลช Safari ไม่อนุญาตให้เซฟแน่นอน เสร็จแล้วไฟล์จะถูกเก็บเข้าที่อัลบั้ม Camera Roll

 

IMG_1021

 

icon gif_1 

GIFWrapped 

Download 

เปิดแอพขึ้นมาให้แตะไอคอนมุมขวาบน จะพบ 3 เมนูด้านล่างคือ

Search  ค้นหาภาพ GIFs ออนไลน์ จะค้นหาตามชื่อสถานที่ ชื่อศิลปิน ชื่อหนัง ชื่อเพลง ฯลฯ (ภาพเค้าเยอะจริงๆ)

Photos  ค้นหาภาพ GIFs ในแอพ Photos

Twitter  ค้นหาภาพ GIFs ในหน้าโปรไฟล์ Twitter ของเรา (ทวิตเตอร์อนุญาตการแชร์ไฟล์ GIFs สามารถเปิดดูได้โดยไม่ต้องใช้บราวเซอร์ ส่วน Facebook ยังไม่อนุญาตค่ะ ต้องเปิดดูผ่านเว็บอีกที)

 

IMG_1048
เปิดเล่นไฟล์ GIFs ในเครื่อง หรือค้นหาจากเว็บก็ได้ เมื่อแตะไอคอนแชร์จะมีตัวเลือกทั้งแชร์ภาพ, ก็อปปี้, แชร์และก็อปปี้ลิงค์ (สำหรับภาพที่หาในเว็บเท่านั้น) เป็นต้น

 

IMG_1027
เนื่องจาก Facebook ยังไม่รองรับไฟล์ GIFs เลยต้องใช้วิธี Share URL จึงจะเห็นเป็นภาพเคลื่อนไหว ส่วนแอพ Message, Mail, Twitter เล่นภาพเคลื่อนไหวให้ทันทีค่ะ

 

 

icon gif_2 

GifBoom

Download

นอกจากเป็นแอพโซเชียล GifBoom ยังเป็นเซิร์ฟเวอร์เก็บไฟล์ GIFs ของคนใช้ iOS เลยก็ว่าได้ ก่อนอื่นล็อกอินด้วยแอคเคาท์ Facebook หรือ Twitter (เพื่อความรวดเร็ว) จะเข้ามาที่หน้าโปรไฟล์ ให้แตะที่กล้องถ่ายรูปเราจะสร้างภาพเคลื่อนไหวกันค่ะ

 

IMG_1041
ในหน้าโปรไฟล์จะมีไอคอน Gallery ซึ่งเป็นอัลบั้มเก็บไฟล์ GIFs ให้เราจำอัลบั้มนี้ไว้ดีๆ เพราะเดี๋ยวต้องเข้าไปเซฟรูปหลังจากสร้าง GIFs เสร็จแล้ว แต่ตอนนี้แตะที่ไอคอนกล้องก่อนค่ะ

 

IMG_1102
แตะ + เลือกรูปภาพ (เลือกได้หลายภาพต่อกันเป็นภาพเคลื่อนไหว) หรือวิดีโอก็ได้

 

IMG_1105
รูปภาพให้ปรับสปีดความเร็วได้ ส่วนคลิปวิดีโอจะได้สูงสุดแค่ 6 วินาที

 

IMG_1110
แต่งภาพและวิดีโอเสร็จแล้วก็แตะ Done แชร์ขึ้นหน้า Feed ได้เลย (หรือแตะไอคอน Facebook, Twitter และอื่นๆได้เช่นกัน)  โดยไฟล์ GIFs จะเข้าไปอยู่ใน Gallery ทันที

 

IMG_1043
กลับมาที่หน้าโปรไฟล์ (ไอคอนรูปคนมุมขวาล่าง) เปิดดูอัลบั้ม Gallery จะพบไฟล์ GIFs ทั้งหมดที่สร้างไว้ สามารถเปิดดูแล้ว Save as GIF เก็บเข้า Camera Roll ได้เลย

 

 

GIFs ใน Camera Roll

ไฟล์ GIFs ที่เซฟไว้ใน Camera Roll ถึงแม้จะเปิดดูเป็นภาพเคลื่อนไหวไม่ได้ แต่สามารถแชร์ไฟล์ได้เหมือนภาพถ่ายทั่วไป ส่วนใครที่มีไฟล์ GIFs เยอะๆ จะสร้างอัลบั้มไว้ต่างหากเพื่อไม่ให้เกิดความสับสนก็ได้ค่ะ

 

IMG_1112

 

จับกระแส Smartwatch เทรนด์ใหม่มาแรง ปี 2014

smartwatch-main-2014

 

เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้พัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันอุปกรณ์แบบสวมใส่นาฬิกาข้อมือ Smartwatch ก็เริ่มมีบทบาทมากขึ้น สำหรับนาฬิกาข้อมือไฮเทคนั้นเป็นการนำเอาเทคโนโลยีบนมือถือ มาพัฒนาและออกแบบให้เป็นผลิตภัณฑ์ขนาดเล็กเหมือนนาฬิกาข้อมือ Smartwatch ที่แสนชาญฉลาด
 
Smartwatch นาฬิกาข้อมือไฮเทคอาจจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายและใช้งานในชีวิตประจำวันมากขึ้น และยังคงเป็นกระแสร้อนแรงกันอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ล่าสุดก็ได้มีข่าวการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือ Smartwatch อุปกรณ์แบบสวมใส่ ให้ได้ติดตามกันหลายรุ่น มีทั้งที่เปิดตัววางจำหน่ายไปแล้ว หรือบางรุ่นก็เป็นเพียงข่าวลือที่หลุดออกมาจากค่ายมือถือยักษ์ใหญ่ ทั้ง Samsung, Apple, Google, Sony
 
สำหรับอุปกรณ์ Smartwatch นาฬิกาอัจฉริยะ ไม่ได้เป็นเพียงแค่นาฬิกาดูเวลาเท่านั้น แต่มาพร้อมคุณสมบัติการทำงานที่ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว โดยใช้งานได้ทั้งการสนทนาโทรศัพท์และวิดีโอสนทนา และใช้ในการกล้องถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอ มีระบบการแจ้งเตือน นอกจากนี้ยังใช้เป็นอุปกรณ์เพื่อสุขภาพและออกกำลังกาย และการใช้งานอื่นๆ ทางเราได้รวบรวมนาฬิกาข้อมือไฮเทค มีของค่ายไหนบ้างที่น่าสนใจบ้างมาดูกันเลย
 

Samsung Galaxy Gear
 

Galaxy Gear 2 และ Galaxy Gear 2 Neo
Galaxy Gear 2 และ Galaxy Gear 2 Neo

 
Samsung Galaxy Gear รุ่นแรกเปิดตัวเมื่อปลายปี 2013 คู่หูข้างกายของ Galaxy Note 3 ได้รับตอบรับจากผู้ใช้งานมากมาย จนเป็นกระแสฮิตชั่วข้ามคืน ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าจะมีการเปิดตัว Galaxy Gear รุ่น 2 ในงาน MWC 2014 นี้ รายงานข่าวแจ้งมาว่า เครื่องรุ่นใหม่จะมีให้เลือก 2 แบบ คือ Galaxy Gear 2 และ Galaxy Gear 2 Neo รุ่นหลังนี้จะเป็นรุ่นราคาถูก โดยทั้งสองรุ่นจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Tizen มีฟังก์ชั่นการใช้งานกับมือถือ สามารถสั่งการด้วยเสียง S Voice เล่น LINE ได้ และยังมีคุณสมบัติอื่นๆ อีกมาก เปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้
 

Apple iWatch
 

ภาพคอนเซ็ปของนาฬิกาข้อมือ iWatch
ภาพคอนเซ็ปของนาฬิกาข้อมือ iWatch

 
iWatch อาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ปลุกกระแสอุปกรณ์ smartwatch เลยก็ว่าได้ โดยมีข่าวลือออกมาให้เห็นตั้งแต่ต้นปี 2013 ว่าแอปเปิลจะออกวางจำหน่ายอุปกรณ์ smartwatch จนถึงบัดนี้ ก็ยังไม่มีข่าวการเปิดตัวอุปกรณ์ชนิดนี้ แต่ก็ยังคงมีข่าวลือออกมายั่วน้ำลายสาวกแอปเปิลกันอยู่เลื่อนๆ ในข่าวรายงานว่าช่วงเดือนมิถุนายนปีนี้จะมีการเปิดตัว iWatch ที่งาน WWDC ประจำปีของแอปเปิล แต่ก็คงต้องรอลุ้นกันต่อไป
 

Google Smartwatch
 

ภาพคอนเซ็ปของ Google Smartwatch
ภาพคอนเซ็ปของ Google Smartwatch

 
กูเกิลขอเกาะกระแสความฮิตด้วยการส่ง Google Smartwatch นาฬิกาอัจฉริยะออกมาบ้าง ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวลือออกมาว่ากูเกิลวางแผนจะผลิตสินค้าแบบสวมใส่นาฬิกาข้อมือไฮเทค ในข่าวยังรายงานอีกว่าอุปกรณ์จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.4 KitKat คุณสมบัติเด่นที่กูเกิลจะนำมาใส่ไว้ในนาฬิกาไฮเทคนั้นคือจะสามารถสั่งควบคุมการทำงานด้วยเสียง ส่วนสเปคเครื่องยังไม่มีรายงานข่าวออกมาอย่างเป็นทางการ สำหรับบริษัทที่ได้เป็นผลิตอุปกรณ์ให้กับกูเกิลนั้นอาจจะไม่ใช่บริษัท Motorola โดยกูเกิลจะผลักดันให้ออกวางจำหน่ายในปี 2014 นี้ ซึ่งโมโตโรล่าอาจจะผลิตออกมาช้าเกินไป กูเกิลอาจจะโอนไปให้บริษัท HTC เป็นผู้ผลิตก็ได้ ทั้งหมดเป็นเพียงข่าวลือออกมาเท่านั้นข้อมูลบางอย่างอาจเปลี่ยนแปลงได้
 

Sony Smartwatch 2
 

หน้าตาของ Sony Smartwatch 2
หน้าตาของ Sony Smartwatch 2

 
Sony Smartwatch 2 เป็นความพยายามอีกครั้งสำหรับค่ายโซนี่ ในการพัฒนานาฬิกาข้อมือไฮเทค ซึ่งจะเป็นอุปกรณ์ที่นำมาเป็นอุปกรณ์เสริมการใช้งานของมือถือของโซนี่ แต่หากตัดขาดออกจากมือถืออาจจะทำให้ไม่สามารถใช้งานอื่นๆ ได้ (อาจเป็นเพียงนาฬิกาบอกเวลาเท่านั้น) โดยอุปกรณ์จะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.0 (Ice Cream Sandwich) หน้าจอ 1.6 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอที่ 220 x 176 พิกเซล หน้าจอแสดงตัวเลขบอกเวลาอยู่เสมอ ตัวเครื่องสีดำ ส่วนสายรัดทำจากพลาสติกมีให้เลือก 5 สี ดำ, ชมพู, ม่วง, ฟ้าคราม และเหลือง
 

Pine Smartwatch
 

Pine Smartwatch
Pine Smartwatch

 

Pine Smartwatch ได้รับการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากกลุ่มที่ชื่อว่า Neptune ซึ่งที่ได้รับเงินสนับสนุนในการประดิษฐ์และพัฒนาสินค้าจากเว็บไซต์ Kickstarter ที่มีผู้สนใจร่วมบริจาคเงินสนับสนุนมากมาย โดยรูปร่างหน้าตาของนาฬิกานั้นจะมีหน้าจอขนาดใหญ่และหนา หน้าจอกว้างถึง 2.4 นิ้ว ความละเอียดหน้าจอ 320 x 240 พิกเซล ติดตั้งระบบปฏิบัติการ Android 4.1 Jelly Bean เชื่อมต่อสัญญาณ Wi-Fi สำหรับท่องอินเตอร์เน็ต รองรับการสนทนาโทรศัพท์และวิดีโอสนทนา มีช่องใส่ Micro SIM การใช้งานแอพพลิเคชั่นสามารถดาวน์โหลดแอพได้จาก Play Store มาดูกันที่กล้องถ่ายภาพกันบ้าง กล้องด้านหลังความละเอียด 5 ล้านพิเซล และกล้องหน้าความละเอียด VGA ส่วนหน่วยความจำเครื่องมีให้เลือกตั้งแต่ 8 GB, 16 GB, 32 GB และ 64GB เรียกได้ว่าความสามารถใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนเลยทีเดียว
 
นอกจากนี้ยังมีบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์ไฮเทคอีกหลายเจ้าที่เปิดตัวสินค้านาฬิกาข้อมือไฮเทคออกมา เช่น Pebble Watch นาฬิกาที่สามารถเชื่อมต่อกับมือถือได้ทั้ง iOS และ Android, Huawei smartwatch ค่ายมือถือยักษ์ใหญ่จากจีน, LG smartwatch ที่ส่งรุ่น G Arch นาฬิกาข้อมือและ G Health สายรัดข้อมืออุปกรณ์เพื่อสุขภาพ และยังมีบริษัทอื่นๆ อีกหลายเจ้า
 
เมื่อดูจากสเปคและฟังก์ชั่นการใช้งานของนาฬิกาข้อมือไฮเทค ก็จะมีคุณสมบัติที่ใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น ซึ่งในอนาคตจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่มาใช้ในชีวิตประจำวันแทนมือถือหรือไม่นั้นก็คงต้องรอดูกันไป
 
นี่เป็นเพียงตัวอย่างนาฬิกาอัจฉริยะที่คัดสรรเอาเฉพาะบางรุ่นมาแนะนำเท่านั้น จริงๆ ก็จะมีอีกหลายรุ่น คุณสามารถติดต่ออัพเดทข่าวจากทางเว็บของเราในครั้งต่อไป
 

เล่นเกม “Flying Cyrus” กับนักร้องสุดเฟี้ยว “ไมลีย์ ไซรัส” ลิ้นไม่ยาวเล่นไม่ได้นะจ๊ะ

Wassuppp! ลิ้นจะดัง! เอ้ยคนจะดังเอาอะไรมาฉุด..ก็ฉุดไม่อยู่ เมื่อนักแสดงสาวใส (ในอดีต) ไมลีย์ ไซรัส กลายเป็นสาวเปรี้ยวลิ้นเรี่ยราด (ในปัจจุบัน) ไม่ว่าจะท่าไหนลิ้นนางต้องมาก่อน จนหลายคนนำไปตัดต่อใส่หน้าคนดังนับไม่ถ้วน ล่าสุดแอพพลิเคชั่นเกมแนว Flying ก็ได้นำทั้งหน้าและลิ้นของเธอมาเรียกกระแสต่อจากเกม Flappy Bird อีกครั้ง โดยใช้ชื่อเกมว่า Flying Cyrus – Wrecking Ball เกร๋ๆตรงสีผมกับลิ้นยาวๆนี่แหล่ะ แต่ความยาวของลิ้นอาจจะเป็นอุปสรรคเล็กน้อยทั้งด้านฟิสิกส์ และกราฟิก (น้ำลายจะกระเด็นมั้ยอะ..แซวขำๆ) แถมยังเคลื่อนไหวตลอดเวลาถ้าสะกิดโดนลูกตุ้มขึ้นมาเริ่มใหม่เลยสินะ แต่โดยรวมแล้วก็ถือว่าโอเค แฟนคลับน่าจะปลื้ม ระดับความยากไม่เท่าไหร่แค่เอาชนะลิ้นนางให้ได้ก็พอ สมาธิเท่านั้น!

 

iOS
Android

 

IMG_1070
โหลดฟรีทั้ง iOS และ Android เปิดขึ้นมาแตะ Start เริ่มได้เลย

 

IMG_1074
วิธีเล่นคุ้นเคยกันดี แตะหน้าจอติดกันตามจังหวะไมลีย์ ไซรัส ให้ผ่านลูกตุ้มได้มากที่สุด มีระดับความยากและเหรียญทั้งหมด 7 สี คือ เขียว, ฟ้า, ม่วง, แดง, บรอนซ์ (hard), เงิน (very hard), ทอง (บ้าไปแล้ว)

 

เล่นไปเล่นมาทำไมต้องแลบลิ้นตามนาง!! 😛 (มันเป็นฟิลลิ่ง+) ไม่รู้เหรียญทองกับสีผม!อะไรจะแรงกว่ากัน ต้องทำให้ได้ 70+ แพร่บๆ!

 

Samsung Gear 2 วางจำหน่ายเมษายนนี้

Group_Gear 2, Gear 2 Neo
 
Samsung Gear 2 นาฬิกาอัจฉริยะอุปกรณ์คู่กายของคนวัยมันส์ ปรับรูปโฉมใหม่เหมาะกับผู้หญิงและผู้ชาย พร้อมวางจำหน่ายทั่วโลกในเดือนเมษายนนี้
 
หน้างาน MWC 2014 ที่เมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน ก่อนที่งานจะเริ่มขึ้นก็ได้มีรายงานข่าวเกี่ยวกับสเปคและรูปโฉมของตัวเครื่อง Gear 2 ออกมาให้เห็นกันก่อน โดย Samsung Gear 2 นั้นก็ได้รับการปรับเปลี่ยนโฉมใหม่ ตัวเครื่องมีออกมาให้เลือกถึง 2 รุ่น คือ Gear 2 และ Gear 2 Neo มีปุ่ม Home บนตัวเครื่องเพื่อให้สลับเปิด-ปิดหน้าจอแอพได้ง่ายขึ้น ทั้งสองรุ่นจะติดตั้งระบบปฏิบัติการ Tizen ซึ่งอาจจะเป็นเครื่องรุ่นแรกที่ติดตั้ง Tizen OS ที่ซัมซุงและพันธมิตรได้ร่วมพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาเอง

 

GEAR 2
GEAR 2

GEAR 2 สีทอง
GEAR 2 สีทอง

 
GEAR 2 Neo
GEAR 2 Neo

 
สำหรับตัวเครื่องมี Gear 2 จะมีขนาด 37.9 x 58.8 x 10.0 มม. มีน้ำหนัก 68 กรัม (ใหญ่และหนักกว่ารุ่น Neo) เครื่องจะมีสี Charcoal Black, Gold Brown และ Wild Orange สำหรับเครื่องรุ่น Gear 2 Neo จะมีขนาด 36.9 x 58.4 x 10.0 มม. ตัวเครื่องหนัก 55 กรัม เครื่องจะมีสี Charcoal Black, Mocha Grey และ WIld Orange
 
ส่วนสเปคเครื่องทั้งสองรุ่นจะแตกต่างจากเล็กน้อย โดยเครื่องมีขนาด 1.63 นิ้ว หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด 320 x 320 พิกเซล ซีพียู dual-core 1 GHz, RAM 512MB, หน่วยความจำ 4GB, กล้องถ่ายภาพ 2 ล้านพิกเซล โฟกัสภาพอัตโนมัติ (AutoFocus) บันทึกถ่ายวิดีโอ 720p (30 เฟรมต่อวินาที), รองรับการสั่งงานด้วยเสียง S Voice, เซ็นเซอร์ตรวจจับอัตราการเต้นหัวใจสำหรับใช้งานด้านสุขภาพ และโหมดการออกกำลังกาย อุปกรณ์ทั้งสองรุ่นรองรับ IP67 สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดี และคุณสมบัติการใช้งานเดิม เช่น โทรศัพท์, บลูทูธ, การแจ้งเตือน SMS, อีเมล์, เครื่องเล่นเพลง, นาฬิกาจับเวลา, ตั้งเวลานับถอยหลัง และตรวจสอบสภาพอากาศ แบตเตอรี่ 300mAh ใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 2-3 วัน หรือเปิดเครื่องทิ้งไว้จะอยู่ได้นานถึง 6 วัน
 
นอกจากนี้ ยังรองรับแอพพลิเคชั่นเด็ดๆ เช่น CNN, eBay, Paypal, Evernote, BMW และอื่นๆ อีกมากมาย ที่สำคัญเล่น LINE ได้ด้วย
 
หากใครสนใจต้องการอยากได้นาฬิกาข้อมือสุดไฮเทคไว้คู่กาย เมษายนนี้เทรนด์แน่นอน
 

อัพเดทข่าว : ซัมซุงจะไม่ใช้ชื่อ Galaxy กับนาฬิกาข้อมือ Gear รุ่นใหม่แล้ว จะใช้ชื่อใหม่เป็น Gear 2 และ Gear 2 Neo แทน
 
source : androidcommunity

[Tips] มาแล้ววิธีเจลเบรค iOS 7.0.6 แบบ Official

เพิ่งปล่อยไปได้วันเดียวทาง Evasi0n ทาง Evasi0n ก็รีบปล่อย Evasi0n 1.0.6 มาทันที สำหรับคนที่จะเจลเบรค
 
 
เราสามารถเจลเบรค iOS 7.0.6 ได้โดย Evasi0n 1.0.6
 
 
แนะนำให้อัพเดท iOS 7.0.6 ผ่าน iTunes  ก่อนจะทำการเจลเบรค สำหรับคนที่อัพเดทแบบ OTA ให้ Restore แล้วอัพเดทผ่าน ITunes เท่านั้น เสร็จแล้วทำตามขั้นตอนนี้เลย
 
 
ดาวน์โหลด Evasi0n 1.0.6 สำหรับ Windows

ดาวน์โหลด Evasi0n 1.0.6 สำหรับ Mac
 
 

ดาวน์โหลดเสร็จแล้วเสียบสาย iPhone iPad iPod Touch ที่จะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แล้วเปิดEvasi0n ขึ้นมา กด JailBreak2014-02-23_08-13-38

เรียบร้อย

แก้ปัญหาไอคอนขึ้นข้อความ “Waiting” ลบไม่ออก..เปิดไม่ได้บน iOS

Wassuppp! วันนี้มีอาการแปลกๆของไอคอนแอพบน iOS มาฝากค่ะ! เผื่อใครเจอสถานการณ์เดียวกันคือไอคอนเปลี่ยนจากชื่อแอพ เป็นคำว่า “Waiting” ซึ่งอาการแบบนี้เราเคยเจอกรณีดาวน์โหลดแอพพร้อมกันหลายๆอัน แต่ในที่นี้ดาวน์โหลดเสร็จไปนานแล้ว จู่ๆวันนึงก็บอกให้รอ! รอแล้วไม่ได้อะไรก็เลยแตะที่ไอคอนซ้ำไป 1 ทีเผื่อจะขึ้น “Pause” เพื่อหยุดพัก แล้วแตะซ้ำดูว่าจะขึ้น “Downloading” หรือไม่ แต่ก็ยังขึ้น Waiting เหมือนเดิม เลยตัดสินใจแตะค้างเพื่อลบทิ้งแต่ไม่มีเครื่องหมาย x ให้ลบ งานนี้ถ้าปล่อยไว้นานอาการจะยิ่งลามไปหาแอพอื่นๆได้นะคะ.. มารีบจัดการกันเลยดีกว่า!

 

IMG_1071
จากรูปแอพ Wechat ขึ้น Waiting  ให้เราเปิดแอพ App Store ขึ้นมา ค้นหาแอพ Wechat แล้วแตะที่ปุ่ม OPEN (บางแอพอาจขึ้นเป็นรูปวงกลมให้แตะได้เช่นกัน)

 

IMG_1056
จากนั้นใส่รหัสผ่าน Apple ID ลงไป สำหรับ iPhone 5S ถ้าตั้ง Touch ID เอาไว้ก็ให้วางนิ้วแทน แล้วรอดาวน์โหลดแอพสักครู่

 

IMG_1072
เสร็จเรียบร้อย กลับมาใช้งานได้อีกครั้งแล้วจ้า

 

บางคนบอกว่าจำชื่อแอพไม่ได้ ถ้าอย่างนั้นก่อนค้นหาให้แตะแท็บ Updates>Purchased>All ค่อยๆเลื่อนดูไอคอนที่มีปุ่ม OPEN อยู่ด้านหลังก็ได้ค่ะ ความพยายามอยู่ที่ไหน..ความพยายามอยู่ที่นั่น Oops!!