Author: Dr.JBroken

Dr.JBroken เซียนซ่อม แงะ แคะมือถือที่ภายนอกดูเรียบร้อย ขำลึก สะดุ้งทุกความฮา เกรียนตามประสาคนกรุ๊ปบี แต่จริงๆแล้ว..ตามนั้นแหล่ะค่ะ อิอิ!! พร้อมแล้วที่จะแหกกฎทุกพื้นฐาน ไม่สร้างภาพแต่จะสร้างคลิป..พรีวิวจริงจากประสบการณ์ จิตวิญญาณคือของฟรี (บางอย่างก็ซื้อนะแหม่)

เข้า Google พิมพ์ “find my phone” ทางลัดค้นหาสมาร์ทโฟนตระกูล Android เร็วที่สุดในโลก (ถ้าเน็ตแรงนะ)

การค้นหาสมาร์ทโฟนตระกูล Android ทำได้หลายวิธี เช่น ใช้แอพพลิเคชั่น หรือค้นหาผ่านหน้าเว็บ โดยการล็อกอิน Google Account ที่ลงทะเบียนบนสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นลงไป แต่กว่าจะโหลดแอพ หรือหาเว็บ find my phone ได้อาจใช้เวลานาน Google เลยจัดให้ง่ายๆ แค่พิมพ์คำว่า “find my phone” ลงในช่อง Search กด Enter จะขึ้นรูปแผนที่และชื่อรุ่นสมาร์ทโฟนที่เคยใช้งานทันที (แนะนำว่าใช้บราวเซอร์ Chrome จะเชื่อมข้อมูลกับแอคเคาท์ที่ลงทะเบียนบนคอมได้ในตัว)

ถ้าพร้อมแล้วคลิก ที่นี่ ค้นหากันได้เลยจ้ะ

google_findmyphone_2 — ล็อกอินแอคเคาท์ที่ลงทะเบียนบนสมาร์ทโฟน Android

google_findmyphone_3 — รอค้นหาสมาร์ทโฟนสักครู่ ถ้าเครื่องไม่ออนไลน์จะค้นหาไม่เจอนะจ๊ะ หรือคลิกบนแผนที่เพื่อเปิดหน้าเว็บ android.com/devicemanager จะมีคำสั่งจัดการสมาร์ทโฟนมากกว่าปุ่ม Ring (ส่งเสียงเรียก)

google_findmyphone_4 — เว็บ Android Devicemanager มีด้วยกัน 3 ปุ่มคำสั่ง ได้แก่ Ring, Lock และ Remove ในกรณีที่ต้องการทำลายหลักฐานคงต้องใช้วิธีนี้ค่ะ

3 วิธีตามหาเครื่อง Android? แบบประนีประนอม เผลอต่อเน็ตเมื่อไหร่รู้เรื่อง!

Posted by OopsMobile on Friday, April 17, 2015

คลิปวิดีโอทดสอบความแรง iOS 8.3 ใครยังไม่อัพให้ไว สปีดดี-แบตอึด คุยกับ Siri รู้เรื่อง!

หลายคนอัพเดท iOS 8.3 เพราะอยากคุยกับ Siri (Settings>General> เปิด Siri > เลือก Language เป็นภาษาไทย แล้วกดปุ่ม Home ค้างไว้เริ่มใช้งาน) แต่เรายังไม่ลืมเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานไปซะทีเดียว เมื่อ kabriolett เจ้าเก่าส่งลิงค์คลิปวิดีโอทดสอบมาให้ชม ซึ่งถือว่าพลิกความคาดหมาย เราเห็นการแก้ปัญหาเป็นร้อยๆข้อบน iOS 8.3 (มันต้องหนักเครื่องแน่ๆ) แต่ปรากฎว่าบน iPhone 5 และ iPhone 4S สปีดเร็วกว่า iOS 8.2 และ 7.1.2 พอสมควร ไม่กินแบตเตอรี่ แค่นี้แหล่ะที่พี่ต้องการ Oops!!

iOS 8.3 vs iOS 8.2 on iPhone 5

iOS 8.3 vs iOS 8.2 on iPhone 4S

iOS 8.3 vs 7.1.2 on iPhone 4S

The new Retina MacBook ขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว 3 สี 4 ราคา เริ่มต้นที่ $1,299

ขึ้นชื่อว่า “โน๊ตบุ้คบางที่สุดในโลก” รายละเอียดเรื่องการดีไซน์ไม่ต้องพูดถึง ระบบสัมผัสใหม่ Trackpad, Keyboard (แป้นพิมพ์แบบผีเสื้อตามข่าวลือเปะ) ที่สำคัญมาพร้อมกัน 3 สี เทา, เงิน และทอง บนขนาดหน้าจอที่ทุกคนเฝ้ารอ 12″ ถ้าถามเรื่องแบตเตอรี่ Apple ฝากบอก “all-day battery life” Oops! เล่นเน็ตสบายๆ 9 ชม.ต่อเนื่อง หรือจะดูคลิปวิดีโอจนตาแฉะ 10 ชม.ก็ยังไหว

USB-C เป็นพอร์ตเดียวบน The new Retina MacBook 12″ ทำให้หลายคนกังวลเรื่องอุปกรณ์เสริม (ต้องซื้อเพิ่มรึเปล่า?) แน่นอนค่ะว่าต้องซื้อเพิ่ม ไปสืบราคามาให้บางส่วน

USB-C to USB Adapter ราคา $19 (เอาไว้เชื่อมต่อกับ FlashDrive, External Hard Disk…)

USB-C Digital AV Multiport Adapter ราคา $79 (ตัวนี้มี HDMI, USB 3.1, USB-C)

ราคาอย่างเป็นทางการ 10 เมษายน 58

ขนาดหน้าจอเท่ากัน 12″ แตกต่างที่ความเร็วของซีพียู fifth-Gen intel Core M และความจุฮาร์ดดิสตามราคาด้านล่างนี้

1.1 GHz, 256 GB SSD ($ 1,299) ประมาณ 42,300 บาท
1.3 GHz, 256 GB SSD ($ 1,549) ประมาณ 50,400 บาท
1.2 GHz, 512 GB SSD ($ 1,599) ประมาณ 52,100 บาท
1.3 GHz, 512 GB SSD ($ 1,749) ประมาณ 56,900 บาท

เห็นราคาแล้วสัมผัสได้ว่ามันแพงทีเดียว แต่แลกกับความบาง ความเร็ว ความละเอียดหน้าจอ 2304 x 1440 px และเทคโนโลยีที่กล้าพูดได้ว่าเป็นโน๊ตบุ้คดีที่สุดสำหรับใครหลายๆคนในตอนนี้ คงต้องรอดูยอดสั่งซื้อ 10 เมษายนแล้วล่ะ! อาจจะช่วยให้เพื่อนๆตัดสินใจง่ายขึ้นก็ได้นะ Oops!!

สเปค The new Retina MacBook

Source

iBackupBot จากโปรแกรมโอนไฟล์ กู้แบ็คอัพ! รู้ยังว่าเช็คแบตเสื่อมได้อีกด้วย

Wassuppp! เราเคยใช้โปรแกรม iTools, iFile, iFunbox สำหรับโอนหนัง, เพลง, ริงโทน หรือดึงแบ็คอัพจาก iTunes มาไว้ในมือถือได้ง่ายๆ วันนี้แอดอยากแนะนำอีกสักโปรแกรมคือ iBackupbot โปรแกรมนี้เคยช่วยชีวิตแอดไว้ได้ครั้งนึง เมื่อ iTunes, iTools, iFunbox ไม่สามารถรีสโตร์แบ็คอัพจาก iTunes ได้สักโปรแกรมเดียว (ขนาด iTunes ยังทำไม่ได้) สุดท้ายได้ลอง iBackupbot ข้อดีของมันคือแสดงผลข้อมูลในก้อนแบ็คอัพอย่างละเอียด รู้หมดมีอะไรในนั้นบ้าง แต่อาจจะรำคาญเวลาขึ้น Error ขึ้นถี่ๆ ขึ้นอยู่ได้!! โชคดีข้อมูลไม่หายเลยให้อภัย

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นในวันนี้ 55+ เมื่อเพื่อนส่งบทความใน Pantip มาให้ แอบตกใจ “เฮร้ยย iBackupbot มีคำสั่งนี้ด้วยเหรอ” More Information ที่ทุกคนมองข้าม ไม่มีอะไรน่าสนใจ วันนี้กำลังจะได้รู้กันสักทีว่าแบตเตอรี่ใน iPhone ของเราใช้งานหนักแค่ไหน ใกล้เสื่อมเมื่อไหร่ ปีใหม่ไทยหวังว่าไม่ต้องซื้อใหม่นะจ๊ะ Oops+++

ดาวน์โหลดโปรแกรม iBackupbot

Windows

Mac

ระหว่างติดตั้งอาจเห็นหน้าต่าง Error แบบนี้ไม่ต้องตกใจค่ะ เป็นเรื่องปกติของโปรแกรมเวลาไม่ได้เชื่อมต่ออุปกรณ์เข้าคอม แถมโปรแกรมเป็นเวอร์ชั่นทดลองใช้ฟรีอีก บางคำสั่งจึงไม่สามารถใช้ได้จนกว่าจะเสียตังค์ซื้อ แต่หลังจากได้ลองใช้คำสั่งที่ต้องเสียตังค์ เช่น Export>Excel ก็ยังใช้งานได้ปกติ นี่คือข้อดีของโปรแกรมด้วยรึเปล่านะ?

ทักทาย Backups สักครู่

อย่างที่เล่าไปตอนต้นว่ามันเคยช่วยชีวิตแอดเอาไว้ ให้สังเกตหัวข้อ Backups ด้านซ้ายมือ นั่นคือก้อนแบ็คอัพที่อยู่ใน iTunes ของเรา (แสดงว่าแอดหมั่น backup ใน iTunes เสมอๆนะจ๊ะ)

คลิกเลือกก้อนแบ็คอัพที่ต้องการดึงข้อมูลออกมา จะเห็นรายละเอียดมือถือและ User Information ทางด้านล่าง แยกเป็นหัวข้อชัดเจน เช่น Contacts, Messages, Call History ฯลฯ คล้ายกับ iTools แต่บอกเลยว่า iTools ต้องดึงไปทั้งก้อนแยกแบบนี้ไม่ได้นะจ๊ะ

ในที่นี้คลิก Contacts จะแสดงรายชื่อทั้งหมดที่อยู่ในก้อนแบ็คอัพนั้น วิธีดึงออกมาให้คลิก Export > เลือกชนิดไฟล์ที่ต้องการ (แนะนำเป็น vCard file จะสะดวกเวลาเก็บและเรียกใช้บนมือถือ)

เช็คดู Battery

• ก่อนอื่นต้องเชื่อมต่อมือถือเข้าคอมก่อน เปิดโปรแกรม iBackupBot ที่เมนู Devices คลิกชื่อ iPhone ของตัวเอง

• คลิกคำสั่ง More Information

โปรแกรมจะแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับแบตเตอรี่ ทั้งจำนวน Cycle, ความจุแบตเตอรี่จากโรงงาน และความจุแบตเตอรี่จริงที่ใช้งานอยู่ (ถ้าไม่เสื่อมมากนัก ความจุน่าจะยังอยู่ที่ราวๆ 1000+ ถ้าต่ำกว่านี้เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยนค่ะ)

CycleCount : จำนวนครั้งแบตเตอรี่ที่ได้ใช้งานไป นับ 100% เป็น 1 Cycle
DesignCapacity : ความจุแบตเตอรี่ที่มาจากโรงงาน
FullChargeCapacity : ความจุแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้ ณ ขณะนี้ (หมายถึง สามารถชาร์จไฟให้เต็มได้จำนวนเท่านี้)

ข้อสังเกต
– แบตเตอรี่ที่ยังมีสภาพดีอยู่ จะมีค่า Cycle ไม่เกิน 600–700 แบตเตอรี่จะเริ่มเสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ เมื่อค่า Cycle เกินระดับนี้ไป
– จำนวน FullChargeCapacity จะต้องมีค่าใกล้เคียงกันกับ DesignCapacity เสมอ หากต่ำกว่ามากเกินไปเท่าไหร่ แปลว่าแบตเตอรี่เสื่อมสภาพแล้วมากเท่านั้น

Source : Pantip

Fast & Furious เก่งแค่ไหนยังไม่กล้าแชทในรถ แต่วัยรุ่นส่วนใหญ่กล้า! โชคดีรอดมาได้หวุดหวิด [มีคลิป]

ช่วงนี้วัยรุ่นกำลังอินหนัง Fast & Furious 7 อยากแต่งรถ, อยากขับรถให้เก่งขึ้นก็ว่าไป แต่อยากให้ดูคลิปนี้เป็นอุทาหรณ์สักนิดค่ะ เพราะตัวละครเค้าไม่ติดเล่นมือถือเลยสักนิด สังเกตจากรูปด้านล่าง “วิน ดีเซล” และ “เจสัน สตาร์แทม” คุยนอกรถจ้า!!

ขึ้นรถแล้วคือตั้งสติ! ไม่มีการส่งไลน์ หรืออัพเดทเฟซบุ๊ค นั่นเพราะเค้ามีประสบการณ์และรู้ดีถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากความประมาทเพียงเสี้ยววินาที

จากการวิเคราะห์เกือบ 1,700 วิดีโอของมูลนิธิ AAA Foundation for Traffic Safety ปรากฎว่า กว่า 60% ของอุบัติเหตุระดับรุนแรงมากถึงปานกลางล้วนเกิดจากวัยรุ่นเล่นโทรศัพท์มือถือขณะขับขี่ บางคนโชคดีวิ่งไม่เร็วมากจึงรอดมาได้หวุดหวิด ดูคลิปแล้วเสียวแทนนะ Oops! สงกรานต์นี้ก็อย่าวิ่งเร็วมากนะจ๊ะ ถนนลื่นแอดเป็นห่วง 🙂

Source : viralnova

รองเท้าเซลฟี! คือดีงาม..ถ่ายท่ายาก ยกขาสูง ก็ลมมันเย็น

บอกเลยเป็นห่วงสุขภาพขาของสาวๆ กับคนที่ต้องเห็นท่ายากแบบนี้อยู่เหมือนกัน แต่พอรู้ว่าเป็นคอนเซ็ปต์รองเท้าแบรนด์ดัง Miz Mooz ใน New York เพื่อเซอร์ไพรซ์วัน April Fools’ day (1 เมษายน) โดยเฉพาะ ก็ค่อยสบายใจนิดนึง แล้วถ้ากระแสดีขนาดที่มีคนคิดทำจริงๆล่ะ หน้าตาและวิธีใช้แบบนี้สาวๆจะว่าอย่างไร

จุดเริ่มต้นรองเท้าเซลฟีมาจากการใช้ “ไม้เซลฟี” ที่มีขนาดใหญ่ เกะกะ เสียเวลาพับ เก็บยาก แถมบางประเทศก็ไม่อนุญาตให้ใช้ เลยต้องพึ่งขาของเรานี่แหล่ะเป็นไม้แทนซะเลย โดยออกแบบรองเท้าให้มีช่องใส่สมาร์ทโฟน เลือกสีและไซส์ตามรุ่นสมาร์ทโฟนที่ต้องการ

จากนั้นก็เริ่มยกขาขึ้นตามความสามารถส่วนบุคคล แล้วเกร็งขาไว้สักครู่ภาพจะออกมาสวยดูดี ยิ่งใช้ iPhone 6 Plus ที่มีระบบป้องกันการสั่นสะเทือนยิ่งไม่ต้องกังวล ยกปุ๊บถ่ายปั๊บ (นับถือนางแบบคนนี้จริงๆค่ะ ใส่กระโปรงถ่ายชิลล์ๆไม่เป็นอุปสรรคแต่อย่างใด หุหุ)

ตัวอย่างภาพเซลฟีแบบทั่วไป กับใช้รองเท้าเซลฟี เป็นไงหละเห็นมือครบนะจ๊ะ ใครเห็นแล้วสนใจลองเข้าไปลงทะเบียนจองได้ 55+ แอดก็ลงทะเบียนไว้เหมือนกัน miz-mooz.com/selfieshoes เพื่อ!!เป็นกำลังใจให้คนออกแบบนิดนึงนะคะ

Source

รับส่วนลด iPhone รุ่นใหม่มากขึ้น! จะเก่าแลกใหม่หรือขายเครื่องเปล่า ดูโปรโมชั่นยาวๆที่ช้อป True และ Dtac

เมื่อเดือนที่แล้วมูลค่าแลกซื้อ iPhone 5s หลังนำ iPhone รุ่นเก่ามาแลกยังไม่สูงเท่านี้ (มาตัวเปล่าไม่มีกล่อง ไม่มีอุปกรณ์เสริมก็ได้) แอดถึงต้องรีบมาแจ้งโปรโมชั่นให้เพื่อนๆทราบ เรียกว่าประหยัดเงินในกระเป๋ามากกว่าเดิมเกิน 1 พันบาทเลยทีเดียว จะไปช้อปไหนเลือกได้ทั้ง True และ Dtac

Dtac

(แลกซื้อได้เฉพาะ iPhone 5S รุ่น 16GB และ 32GB)

จากตารางด้านล่างในช่อง “มูลค่าแลกซื้อ รวมส่วนลดพิเศษ” คือส่วนลดเมื่อนำ iPhone 4 และ 4S (ค่ายใดก็ได้ที่ไม่ใช่เครื่องล็อค) ตามความจุ 16-32-64 GB มาแลก ดังนั้นเงินที่ต้องควักจริงๆจะอยู่ในช่อง “ราคาแลกซื้อ” โดยต้องบวกค่าแพ็กเกจรายเดือน Love & Roll 999 บาท ล่วงหน้า 6 เดือน และใช้แพ็กเกจนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะครบ 1 ปี

ดูจากตารางแล้วไม่มีรุ่นไหนที่เราจ่ายต่ำกว่า 5,000 บาท ดังนั้นสามารถใช้บัตรเครดิตผ่อน 0% 10 เดือนได้อีกด้วย ส่วนบัตรเครดิตซิตี้แบงก์เรดดี้เครดิตให้ผ่อนนานถึง 20 เดือนไปเลย (รีบหน่อยนะคะถึง 30 เมษายนนี้เท่านั้น)

ส่วนคนที่ไม่ต้องการแลกแต่อยากขายเครื่องเปล่าตั้งแต่ iPhone 5S ลงไป Dtac ก็ยินดีรับซื้อค่ะ โดยให้ราคาตามตารางด้านล่างนี้ (ดูราคารับซื้อ iPad และสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่น คลิกที่นี่)

True

ทรูไม่มีรับแลกซื้อ iPhone 5s แต่นำเครื่องเก่า (ค่ายใดก็ได้ที่ไม่ใช่เครื่องล็อค) มาแลก iPhone 5c (ได้ในราคาพิเศษสุดๆ) รวมถึง iPhone 6 และ 6 Plus ได้ตามตารางด้านล่างนี้ หากใครนำเครื่องเก่าของทรูมาแลกจะได้ส่วนลดเพิ่มอีก 1,000 บาทด้วย

โดยมีเงื่อนไขคล้ายกับ Dtac คือต้องจ่ายค่าแพ็กเกจ 4G iSmart (เริ่มต้น 699 บาท) ล่วงหน้า 6 เดือน

และที่สำคัญเช็คสภาพเครื่องก่อนนำไปแลกด้วยนะจ๊ะ เห็นเงื่อนไขการรับเครื่องมั้ย? ถ้าโทรออกรับสายได้ ไม่เคยตกพื้นรุนแรง หรือตกน้ำรับรองว่าผ่านค่ะ

ยังกันน้ำได้จริง! Galaxy S6 edge แช่น้ำสบายใจ 20 นาที ใช้งานต่อได้ยกเว้น…

ยังไม่ถึงวันจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (10 เมษายนนี้) Sumsung Galaxy S6 ต้องโดนทดสอบอย่างหนักซะแล้วค่ะ เช่น DropTest เรียกว่าเขวี้ยงลงพื้นจะดีกว่า

https://www.youtube.com/watch?v=_r5BFHDnCTs

และล่าสุดที่หลายคนแอบถามในใจ “รุ่นใหม่แต่กันน้ำไม่ได้คือไร” อย่าเพิ่งตัดพ้อไปค่ะ ลองชมคลิปนี้กันก่อน ด้วยวัสดุที่ใช้มีความแข็งแรงรอบตัว ผสมผสานระหว่างโลหะและแก้วอย่างดี แต่ก็แอบหวั่นเรื่องแบตเตอรี่ที่ไม่สามารถถอดออกได้ ลองมาดูกันว่าน้ำจะเข้าได้มั้ย และอึดนานกี่นาที

หลังจากเปิดเครื่องและเปิดแอพจับเวลา ก็วางเครื่องลงในอ่างน้ำทันที จะเห็นว่ามีฟองอากาศเริ่มออกมาทางช่องหูฟังแล้ว!!! เมื่อเวลาผ่านไป 23 นาทียังเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจนกระทั่งแบตใกล้หมด เจ้าของคลิปจึงยกเครื่องออกมาเช็ดแห้ง เขย่าๆเอาน้ำออกแล้วชาร์จให้ดูเลยว่าแบตยังไม่เจ๊ง ไฟเข้าตามปกติ อาจจะมีปัญหาเรื่องกล้องถ่ายภาพฝ้าขึ้นเต็มจอ ดังนั้นเพื่อการใช้งานที่ยั่งยืน อย่าเพิ่งเล่นน้ำนานเกินไปเลยนะคะ แค่ตกใจทำหล่นสัก 1-2 นาที คอนเฟิร์มว่าใช้งานต่อได้ไม่มีปัญหา

Source : redmondpie

แอพ “2 Shots” สำหรับตัวแทนจำหน่ายเท่านั้น! ผู้ใช้ระบบเติมเงินต้องนำหลักฐานไปเอง หากเสียตังค์รีบโทรแจ้ง 1200

shot2_5 — ตัวอย่างร้านตัวแทนจำหน่ายที่ลงทะเบียนไว้กับ “กสทช. โทรคมนาคม 2 แชะ แวะลงทะเบียนซิม”

“2 แชะ” แอพสำหรับงานลงทะเบียนยืนยันตัวตนของเลขหมายโทรศัพท์แบบเติมเงิน (ใครใช้รายเดือนนั่งสวยๆไม่ต้องทำอะไร) วัตถุประสงค์เพื่อลดปัญหาการใช้เอกสารแสดงตนปลอม (Fake) และการใช้เอกสารการแสดงตนของบุคคลอื่น (Fraud) รวมถึงรักษาสิทธิผู้ใช้บริการในการลงทะเบียนซิมการ์ด

ซึ่งต้องเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างช้อป True, AIS, Dtac หรือร้านค้ากว่า 50,000 ราย ที่มีสัญลักษณ์ “กสทช. โทรคมนาคม 2 แชะ แวะลงทะเบียนซิม” รวมถึง เซเว่นอีเลฟเว่น, เทสโก้โลตัส, บิ๊กซี และธนาคารกรุงไทย ถึงสามารถลงทะเบียนให้ได้ หากใครเสียค่าบริการโทรไปแจ้งได้ที่เบอร์ 1200 เพราะงานนี้ กสทช. ย้ำ! “ไม่มีค่าใช้จ่าย” คงต้องรีบไปลงทะเบียนแล้วสินะ หากพ้นกำหนดวันที่ 31 ก.ค. นี้ จะโทรออก ส่งข้อความ และใช้บริการโมบายอินเทอร์เน็ตไม่ได้! เรียกง่ายๆว่า “ซิมดับ”

วิธีตรวจสอบการก่อนลงทะเบียน

• เตรียมโทรศัพท์ที่ใช้ซิมระบบเติมเงิน

• เปิดแอพ Phone กด *151# แล้วกด โทรออก

• แล่วๆๆ เบอร์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียน ต้องจดรหัสบนหน้าจอ และเตรียมเอกสารอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังนี้

• บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง (กรณีชาวต่างชาติใช้หนังสือเดินทาง หรือบัตรต่างด้าว)

• พาสปอร์ต หรือใบขับขี่ตัวจริง

ข้อควรระวัง! อย่างที่บอกว่าแอพนี้มีไว้สำหรับตัวแทนจำหน่าย เพราะฉะนั้นต้องดูให้ดีว่าทางร้านเปิดแอพ “2 แชะ” ขึ้นมาจริงหรือยัง หากใช้แอพอื่นถ่ายบัตรประชาชนของเรา รูปภาพจะถูกบันทึกไว้ในเครื่องเจ้าของร้านทันที แต่หากใช้แอพ “2 แชะ” จะไม่ถูกเก็บไว้ในเครื่องแน่นอนค่ะ ระบบจะส่งตรงมายังสำนักงาน กสทช.และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เจ้าของเครือข่ายโดยไม่มีการเก็บไว้ในสมาร์ทโฟนที่ใช้ลงทะเบียน

สำหรับยอดลงทะเบียนซิม ณ วันที่ 9 มี.ค. 2558 มีทั้งหมด 6,017,902 เลขหมายแล้ว โดยแยกเป็นซิมในเครือข่าย AIS 3,473,362 เลขหมาย ซิมในเครือข่าย DTAC 1,540,547 เลขหมาย ซิมในเครือข่าย TRUE 870,496 เลขหมาย TOT 99,336 เลขหมาย และCAT 34,161 เลขหมาย เฉลี่ยมีประชาชนลงทะเบียนซิมเติมเงินวันละ 170,000 เลขหมาย

Source

Samsung Galaxy S6 ถอดฝาไม่ได้? สุดท้ายใช้เวลาชำแหละเพียง 17 นาที [มีคลิป]

อยากเปลี่ยนแบต, เปลี่ยนอะไหล่เอง ต้องดูคลิปนี้เลยค่ะ แต่ใครจะเชื่อว่าที่ถืออยู่นี้คือ Samsung Galaxy S6 สมาร์ทโฟนสุดเนี้ยบ บางเบา ที่กำลังจะวางขาย 10 เมษายน 58 หลังปรับโฉมฝาหลังให้ปิดสนิท (แต่กันน้ำไม่ได้) หลายคนเสียดาย “แบตบวมจะเปลี่ยนยังไง” บอกก่อนว่างานนี้ไม่หมูอย่างที่คิด ต้องใช้ความชำนาญโดยเฉพาะส่วนประกอบที่ทำจากกระจก เสียวแทนเลย! Oops+

Source