เครื่องปริ้น 3 มิติมาถึงจุดนี้ได้ยังไง! จุดที่ใช้เวลา 3 ชม. สร้างบ้าน 2 ชั้น โดยบริษัทรับออกแบบและสร้างบ้าน “Yongliang” ในประเทศจีน พร้อมตกแต่งภายในเสร็จสรรพ มีทั้งระบบน้ำประปาและไฟฟ้าอีกด้วย สำหรับบ้านที่ประกอบในเมืองซีอานแห่งนี้แบ่งออกเป็น 6 ชิ้นส่วนซึ่งแต่ละส่วนมีน้ำหนักมากเกิน 100 กิโลกรัมประกอบไปด้วยห้องรับประทานอาหาร, ห้องนอน, ห้องครัว และห้องน้ำ ราคาอยู่ที่ตารางเมตรละ 2,500-3,500 หยวน (1 หยวน เท่ากับประมาณ 5 บาท) โดยชิ้นส่วนประกอบทั้งหมด ใช้เวลาในการผลิตประมาณ 10 วันเท่านั้น ขณะที่บ้านทั่วไปต้องใช้เวลาในการสร้างนานถึง 6 เดือน ขณะเดียวกันบ้านที่ทำจากเครื่องปริ้นท์ 3 มิติมีความแข็งแรงทนทานต่อภัยแผ่นดินไหวและยังมีคุณสมบัติทนความร้อนได้ดีอีกด้วย ถือเป็นอีกเรื่องราวดีๆที่พี่จีนไม่เคยทำให้เราผิดหวังนะคะ Oops! Source : shanghaiist
Author: Dr.JBroken
พบเนื้องอกต่อมน้ำลายในกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น สาเหตุเพราะ “โทรศัพท์เป็นเวลานาน” แล้วติดแชทหล่ะเสี่ยงเป็นโรคอะไร?
ก่อนหน้านี้สำนักข่าวบีบีซีออนไลน์เคยรายงานผลการวิจัย พบว่าการใช้โทรศัพท์มือถืออย่างหนักระหว่างวัน มีความเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งที่ต่อมน้ำลายเพิ่มสูงขึ้น และในปัจจุบันพบว่าเป็นเช่นนั้นจริง ยกตัวอย่างวัยรุ่น 25 ปีคนหนึ่งเล่าว่า
“เธอใช้โทรศัพท์มือถือคุยกับแฟนทุกคืนวันละ 2 ชั่วโมง (เพราะค่าโทรเวลานั้นถูก) คุยกันจนมือถือร้อนถึงวางหู กลางวันทำงานเป็นพนักงานขายก็ต้องใช้มือถือตลอดเวลาอีก ในระยะเวลา 5 ปี เธอเปลี่ยนโทรศัพท์มาแล้วถึง 7 เครื่อง” //ไม่ได้อยากออกรุ่นใหม่นะ แต่ใช้จนมันพังจริงๆ Oops!
ไม่นานเธอพบก้อนแข็งๆ ใกล้ๆบริเวณใบหูแต่ไม่ได้สนใจอะไร หลังจากนั้นสองเดือนมันก็เริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อไปตรวจที่โรงพยาบาลพบว่าเป็นเนื้องอกต่อมน้ำลาย หลายคนอาจสงสัยว่านอกจากคุยโทรศัพท์นานๆยังมีกรณีอื่นที่อาจทำให้เป็นโรคมะเร็งได้หรือไม่ บอกเลยว่ามีค่ะ เช่น
1.การวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างหมอนอาจจะทำให้เกิดความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง
คลื่นจากโทรศัพท์มือถือส่งผลเสียต่อสมองมากกว่าที่คุณคิด โดยเฉพาะการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดอาการปวดหัว มึนหัว นอนไม่พอ หลับไม่สนิทหรือผมร่วง
2.ใช้สายคล้องโทรศัพท์ไว้แบบคล้องคอมีผลทำให้การทำงานของหัวใจและต่อมไร้ท่อผิดปกติ
คลื่นแม่เหล็กมีผลต่อการเมตาบอลิซึมของเซลล์ ทำให้การเผาผลาญของเซลล์ การควบคุมปริมาณโพแทสเซียม แคลเซียม โซเดียมและไอออผิดปกติ และยังมีผลต่ออาการผิดปกติของประจำเดือนของสาวๆอีกด้วย
3.การพกโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋ากางเกง มีผลต่อการทำงานของระบบสืบพันธุ์ และเป็นไปได้ว่าทำให้เกิดการดัดแปลงระดับชั้นพันธุกรรม ( DNA)
หากคุณพกโทรศัพท์มือถือไว้บริเวณเอวหรือหน้าท้องบ่อยๆ ควรระวังเพราะว่าคลื่นของโทรศัพท์มือถืออาจจะแผ่รังสีไปโดนเซลล์สืบพันธุ์ทั้งของผู้ชายและผู้หญิง และเป็นไปได้หากเซลล์สืบพันธุ์ได้รับคลื่นในขณะที่กำลังเจริญเติบโตนั้นอาจะทำให้เกิดการดัดแปลงระดับชั้นพันธุกรรม ( DNA)
4.การใช้สายตาเล่นเนตหรืออ่านหนังสือบนมือถือมากๆ อาจทำให้เกิดมะเร็งในดวงตาได้
จากผลการวิจัยในประเทศเยอรมนีพบว่า คนที่เล่นโทรศัพท์มือถือบ่อยๆมีโอกาสเป็นโรคมะเร็งในดวงตามากกว่าคนปกติถึง 3 เท่า
วิธีป้องกัน
วิธีที่ 1. การติดแผ่นกันสัญญาณแม่เหล็กบนมือถือ
รังสีอันตรายจากมือถือนั้นมาจากสัญญาณโทรศัพท์ที่ส่งมาจากเสาอากาศ แล้วอย่างนี้การติดที่กันคลื่นแม่เหล็กบนยนมือถือจะช่วยได้ขนาดไหนเชียว
วิธีที่ 2. เลือกใช้เคสโทรศัพท์ที่ทำมาจากพลาสติก
ไม่ว่าเคสโทรศัพท์ที่ใช้จะเป็นพลาสติกหรือไม่รังสีที่ส่งออกมาจากมือถือนั้นก็ยังเท่าเดิม
วิธีที่ 3. ในขณะที่รับสายโทรศัพท์ไม่ควรนำโทรศัพท์เข้ามาใกล้หูทันที
โทรศัพท์ในขณะที่เพิ่งรับสายนั้นเป็นช่วงที่สัญญาณแรงที่สุด หลังจากกดรับสายแล้วนั้นความแรงของสัญญาณโทรศัพท์จะลดลงและคงที่ เพราะฉะนั้นเวลากดรับสายโทรศัพท์ไม่ควรนำโทรศัพท์เข้ามาใกล้ศีรษะทันที
วิธีที่ 4. อย่าคุยนาน
ลดเวลาการคุยผ่านโทรศัพท์มือถือ และพยายามอย่าพูดสายนานเกิน 1-2 ชม.ต่อวัน
วิธีที่ 5. อย่าโทรบ่อย
ความแรงของสัญญาณโทรศัพท์ในการโทรออกและการรับสายนั้นต่างกัน สัญญาณโทรศัพท์ขณะที่โทรออกนั้นแรงกว่าขณะรับสาย
วิธีที่ 6. สลับข้างการคุยซ้ายขวา
วิธีที่ 7. หลีกเลี่ยงการพูดสายในที่ๆมีสัญญาณโทรศัพท์ต่ำ
เมื่อคุยโทรศัพท์มือถือในที่ที่มีสัญญาณต่ำนั้น แปลว่าอยู่ไกลจากตู้สัญญาณซึ่งทำให้ต้องใช้สัญญาณแรงขึ้นในการต่อสาย
วิธีที่ 8. ต่อหูฟังเวลาพูดสาย
ควรใช้หูฟังเวลาต้องคุยโทรศัพท์นานๆ และควรวางโทรศัพท์ให้ห่างจากศีรษะมากกว่า 30 เซนติเมตร เพื่อไม่ให้สัญญาณมือถือเข้าใกล้ศีรษะโดยตรง
วิธีที่ 9. หลีกเลี่ยงการพูดสายเวลาแบตใกล้หมด
วิธีที่ 10. ไม่พูดสายขณะกำลังชาร์มือถือ
วิธีที่ 11. เวลานอนไม่ควรวางโทรศัพท์มือถือไว้ข้างหมอน
แบตหมดร้องไห้หนักมาก! เข้าใจมั้ย? “ไม่มีเอ็งแล้วข้าจะอยู่ยังไง”
ฟังจากเสียงร้องไห้ของสาวคนนี้ไม่แปลกใจเลยว่า “ทำไมทุกคนบนรถไฟใต้ดินถึงหันมามองเธอกันหมด” มันไม่ใช่แค่เสียงดังสิคะแทบจะลงไปดิ้นกับพื้น ทุกคนจึงหันไปมองด้วยความสงสัย “เธออ่านข้อความในมือถือมีใครเป็นอะไรรึเปล่านะ?” ปรากฎว่าจริงๆแล้ว แบตเตอรี่มือถือหมด บอกเลยว่าเหมือนโดนทิ้งกลางทาง “ไม่มีเอ็งแล้วข้าจะอยู่ยังไง”
ดีเจต้นหอมเล่นใหญ่มาก! ถ่ายวิดีโอเซลฟี “เชื่อสิเดี๋ยวเทรนด์นี้ต้องมา”
ดูคลิปนี้แล้วพูดเลยว่า “จะไม่ยอมเห็นคนเดียว” แอบสงสัยอยู่ว่าใครกันที่ถ่ายวิดีโอได้ระยะประชิดขนาดนี้ #จะรีเทิร์นกันรึเปล่านะ แต่ปรากฎว่าเธอถ่ายเองจ้า เล่นใหญ่มากอะต้นหอม หลายคนเชื่อกันว่าวิธีที่เธอใช้อยู่นี้จะอินเทรนด์ตามมาในไม่ช้า ไปดูคลิปกันเลยดีกว่าค่ะว่าจะฮาขนาดไหน
GrabTaxi แจกรหัสโปรโมชั่น “GrabCar, GrabBike” ต้อนรับบริการใหม่รับส่งผู้โดยสารและพัสดุด้วยจักรยานยนต์
GrabBike บริการรับส่งผู้โดยสาร พัสดุ หรือเอกสารของคุณด้วยรถจักรยานยนต์ ด้วยระบบติดตามแบบ real-time วินาทีต่อวินาที ซึ่งพนักงานที่ผ่านการอบรมและตรวจประวัติทุกคนของเราจะไปหาคุณถึงที่ภายใน 15 นาทีหลังจากการเรียกรถ
อีกทั้งยังแสดงราคาที่แน่นอนก่อนใช้บริการจริงบนหน้าแอพฯ และในกรณีเกิดอุบัติเหตุระหว่างรับส่งผู้โดยสาร รวมไปถึงพัสดุ-เอกสารเสียหายหรือสูญหายระหว่างการจัดส่ง เราการันตีให้กับพัสดุ-เอกสารทุกชิ้น สูงสุด 2,000 บาทต่อท่าน หรือต่อชิ้น
**ให้บริการครอบคลุมทั่ว กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ
**รับส่งพัสดุทุกขนาดที่สามารถขนส่งด้วยจักรยานยนต์ได้
อัตราค่าบริการ สำหรับโปรโมชั่นต้อนรับ GrabBike!
อัตราค่าบริการจะแสดงให้ผู้โดยสารทราบก่อนจะทำการยืนยันการจองบนหน้าแอพพลิเคชั่น
โดยจะคำนวณตามรูปด้านล่างนี้
ดาวน์โหลด GrabTaxi
รหัสโปรโมชั่น
• ไม่ว่าจะโดยสารหรือจะส่งของด้วย GrabBike ก็จ่ายเพียง 35 บาท พิมพ์ “BIKEBETA” ในช่องรหัสโปรโมชั่น สำหรับผู้ใช้ใหม่เท่านั้น
• GrabCar+ และ GrabCar (Economy) ขอมอบส่วนลด 50 บาท สำหรับทุกเที่ยวโดยสารด้วยรหัสโปรโมชั่น “GCJULY” ถึงวันที่ 31 ก.ค. 58
คำถามที่พบบ่อย
ฉันจะสามารถใช้บริการ GrabBike อย่างไร ?
ลูกค้าสามารถใช้บริการ GrabBike ผ่านแอพพลิเคชั่น GrabTaxi โดยเลือกประเภทของรถเป็น GrabBike ก่อนใช้บริการ
GrabBike แตกต่างจาก GrabExpress อย่างไร ?
– GrabBike จะให้บริการรับส่งทั้งผู้โดยสาร พัสดุ และเอกสาร โดยพัสดุและเอกสาร เราจะรับแล้วไปส่งให้ทันที และให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น GrabTaxi เท่านั้น
– GrabExpress จะให้บริการรับส่งเฉพาะพัสดุขนาดเล็กและเอกสาร โดยจะเป็นรับวันนี้ แต่ส่งวันทำการถัดไป และให้บริการผ่าน www.grabexpress.com เท่านั้น
GrabBike สามารถส่งอะไรได้บ้าง ?
เราบริการรับส่งผู้โดยสาร พัสดุ และเอกสาร
ในส่วนของพัสดุและอกสาร GrabBike รับส่งทุกขนาดที่สามารถขนส่งด้วยรถจักรยานยนต์ โดยผู้ส่งจะต้องแพ็คสินค้าให้เรียบร้อย และเราจะไม่รับส่งสิ่งเสพติด สิ่งของผิดกฎหมาย อัญมณีที่มีค่า หรือเงินสด
GrabBike ครอบคลุมพื้นที่ใดบ้าง ?
ปัจจุบัน GrabBike ครอบคลุมพื้นที่ทั่ว กรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ และเรากำลังจะขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมมากขึ้น
ในกรณีรับส่งของ มีจำกัดจำนวนชิ้นขั้นต่ำในการส่งหรือไม่ ?
ไม่มีจำนวนขั้นต่ำ เรายินดีบริการลูกค้าทุกท่านด้วยมาตรฐานเดียวกัน ไม่ว่าลูกค้าจะส่งกี่ชิ้นก็ตาม
ทำไมฉันถึงต้องใช้ GrabBike และฉันจะได้ประโยชน์อะไรจากการใช้ GrabBike ?
GrabBike รับส่งผู้โดยสาร
– เราไปรับคุณถึงที่ภายใน 15 นาทีหลังจากการจองรถ
– ไม่ต้องเสียเวลาต่อรองราคาค่าโดยสารให้เสียเวลา
– พนักงานของเราทุกคนผ่านการอบรม และตรวจประวัติอาชญากรรม อีกทั้งมีระบบติดตามแบบ real-time วินาทีต่อวินาที ผ่านในแอพพลิเคชั่น
GrabBike รับส่งพัสดุ-เอกสาร (รับแล้วไปส่งให้ทันที)
– การันตีสินค้าในกรณีเสียหายหรือสูญหายระหว่างการจัดส่ง สูงสุดชิ้นละ 2,000 บาท/ชิ้น
– ทราบอัตราค่าบริการที่แน่นอนก่อนใช้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น พร้อมรับใบเสร็จผ่านอีเมล์ที่คุณใช้สมัคร
– พนักงานของเราทุกคนผ่านการอบรม และตรวจประวัติอาชญากรรม อีกทั้งมีระบบติดตามแบบ real-time วินาทีต่อวินาที ผ่านในแอพพลิเคชั่น
ไปเชียงใหม่-ภูเก็ต-ตรัง เปิดแอพ Google Maps เช็คสภาพจราจรแบบ Real Time ได้แล้วตั้งแต่วันนี้
วันนี้ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารในประเทศไทยสามารถดูข้อมูลสภาพการจราจรเพิ่มเติมอีก 3 จังหวัดบนGoogle Maps ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และตรัง โดย Google Maps พร้อมให้บริการเช็คสภาพการจราจรแบบ Real Time ของ 3 จังหวัดดังกล่าวทั้งบนมือถือและเดสก์ท็อป
เมื่อเปิดใช้งาน Layer แสดงข้อมูลการจราจรบน Google Maps ผู้ใช้ท้องถนนสามารถดูเส้นทางบนแผนที่ได้โดยจำแนกตามสี ซึ่งจะแสดงให้เห็นสภาพการจราจรที่แตกต่างกันในแต่ละเส้นทาง เส้นสีเขียวจะแสดงถึงสภาพการจราจรที่คล่องตัว สีส้มแสดงถึงบริเวณที่มีสภาพการจราจรที่สามารถเคลื่อนตัวได้เรื่อยๆ และสีแดงแสดงถึงบริเวณที่มีสภาพการจราจรคับคั่ง
ความสามารถในการเช็คสภาพการจราจรในบริเวณต่างๆ ได้ทุกที่ทุกเวลาเช่นนี้ ทำให้ผู้ใช้ท้องถนนสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายกว่าที่เคยด้วย Google Maps นอกจากนี้ Google Maps ยังมีโหมดนำทางที่จะช่วยให้เช็คข้อมูลการจราจรแบบ Real Time และกำหนดระยะเวลาไปยังจุดหมายปลายทางต่างๆ ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ และสามารถวางแผนเส้นทางใหม่ๆ เพื่อให้การเดินทางสะดวกและรวดเร็วขึ้นได้
ภาพ Street View หาดูได้ยาก มีแต่รถ Google Maps เท่านั้นที่ทำได้
กลับมาอีกครั้งกับภาพแปลกภาพฮาจากแผนที่ Google Maps แบบ Street View ดูแล้วเหมือนจะเตี้ยมกันไว้แต่จริงๆแล้ว เตี้ยมค่ะ!! ไม่ใช่ๆแค่รถ Google Maps มาได้ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้นเอง ถ้าเจ้าตัวมาเห็นรูปตัวเองแบบนี้คงร้องไห้หนักมาก
วอนซัมซุงเห็นใจ! เพิ่มคำสั่ง “ถ่ายแม่ะ” แชะเซลฟีด้วยเสียงแบบไทยๆแทน “ชีสส-แคปเจอร์”
หลายคนคงได้เห็นโฆษณาซัมซุงเดินหน้าโปรโมท Galaxy S6 โดยการคว้าพรีเซ็นเตอร์ตัวแม่อย่าง “ชมพู่ อารยา” และดาราชื่อดังหลายท่าน อาทิ โจอี้ บอย, เต้ย จรินทร์พร, ย่าแย้ม..เอ๊ยยยย คุณต๊งเหน่ง-รัดเกล้า มาพูดประโยคสุดฮอต “อย่าเลือก Galaxy S6!! ถ้าคุณยังชินกับการถ่ายเซลฟีแบบเดิมๆ” แบบใหม่ที่ว่านี้คือการ แตะเซ็นเซอร์ ด้านหลังเครื่อง กับใช้ท่า “ยกฝ่ามือขึ้น”
ส่วนการสั่งด้วยเสียงไม่ใช่เรื่องใหม่แฟนซัมซุงเคยใช้มาหลายรุ่นแล้ว เพิ่งจะมาจริงจังตอนชมพู่พูดว่า “แคปเจอร์” นี่แหล่ะค่ะ หลายคนเห็นแล้วอดพูดตามไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะคุณ Teerawat Budtaya ที่ได้พยายามแล้วพยายามอีกกับการถ่ายภาพด้วยเสียง แต่ก็ไม่สำเร็จ จนต้องทำคลิปขอความเห็นใจจากซัมซุง เพิ่มคำสั่ง “ถ่ายแม่ะ” เป็นตัวเลือกง่ายๆสำหรับคนอีสาน หรือ “ถ่ายฮูปกั๋น” น่ารักๆแบบชาวเหนือ
หลังจากดูคลิปแล้วต้องบอกว่า “สมแก่ใจข้ายิ่งนัก” สำเนียงพี่ใช้ได้เลย แต่.. “เจ้าลืมเปิดคำสั่งถ่ายภาพด้วยเสียงแม่นบ่?” คำสั่งนี้ไม่ได้เปิดไว้ให้อัตโนมัติ เผื่อใครใช้ Galaxy S6 ถ่ายภาพด้วยเสียงไม่ได้ลองเข้าไปตั้งค่าตามนี้เลยค่ะ
• เปิด Voice control ใน Camera settings (คำที่รองรับในการถ่ายภาพด้วยเสียง เช่น Smile , Cheese , Capture หรือ Shoot และใช้คำสั่ง Record video บันทึกวิดีโอ)
• เปิด Gesture control ใน Camera settings (ยกฝ่ามือขึ้นมาขณะเปิดกล้องหน้า ระบบจะจับการเคลื่อนไหวแล้วถ่ายภาพโดยใช้ระยะเวลา 2 วินาที)
15 ภาพสะท้อน “สังคมก้มหน้า” ใครติดมือถือ..ไม่มี๊
หากถามว่า “คุณติดมือถือแค่ไหน?” น้อยครั้งที่เราจะได้ยินการยอมรับจากคนติดโซเชียลหรือติดมือถือแน่นอน เพราะทุกวันนี้ใครๆก็ใช้มือถือตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอนทั้งนั้น แต่ถ้าได้เห็น 15 ภาพเหล่านี้คุณอาจจะเริ่มคิดได้ว่า “เออ..เราติดมือถือจริงๆด้วยนะ”
1. ไปทะเลกัน แต่ลายเส้นตอนอาบแดดบนตัวมันชัดมาก
2. ฉันต้องไปนอน! แต่ก่อนนอนขอเช็คไลน์อีกรอบแล้วกัน
3. เล่นมือถือบนท้องถนน ไม่ต่างอะไรกับคนตาบอดที่ต่อไปอาจต้องใช้ไม้ช่วยคลำทาง
4. ติดการถ่ายเซลฟี จนแม่มดต้องขอยืมไปถามประโยคฮิตบ้างแล้ว “สมาร์ทโฟนเอ๋ย บอกขาเถิดรูปโปรไฟล์ใครเลิศในปฐพี)
5. ใครเป็นนายใครกันแน่ เราเป็นคนใช้งานสมาร์ทโฟนแท้ๆ แต่พอมีแจ้งเตือนขึ้นมาทีไร ทำไมเราต้องเชื่อมันทุกทีเลยสิ!!
6. ไม่สนใจคนที่อยู่ตรงหน้า เราอาจจะพลาดโอกาสดีๆ หรือไม่ได้พูดคุยกับเพื่อนที่อยู่ตรงหน้าอีกเลย ถ้ายังใช้ชีวิตในสังคมออนไลน์ตลอดเวลา
7. รำคาญเวลาแฟนติดเกม แต่ลืมดูตัวเองว่าติดมือถือขนาดไหน 555+
8. เปลี่ยนบรรยากาศไปดูนก ชมไม้ แต่เดี๋ยวนะ!! ต้องไม่ใช่นกทวิตเตอร์ด้วยปะ?
9. มีอะไรทำไมไม่บอก? ก็ตอนที่เค้ามาบอกดันไม่ฟังเองนี่นา
10. มีอะไรอยากทำเป็นครั้งสุดท้ายมั้ย? ขออัพเดทรูปโปรไฟล์เป็นครั้งสุดท้าย //เพื่อนๆจะได้หมดห่วง แฮร่
11. เก็บหลักฐานทุกครั้งเมื่อเจอเหตุการณ์สำคัญ แต่ลืมไปว่าอะไรสำคัญกว่าการถ่ายรูปหรือถ่ายคลิปวิดีโอ
12. วิธีหักดิบ จะเลิกก้มหน้าได้ยังไงถ้าไม่ใช้วิธีนี้ //คิดได้เนาะ
13. แชทก่อนกินเสมอ แม้หนึ่งในนั้นจะนั่งอยู่ข้างๆก็ตาม
14. อย่าเถียงกับคนติดมือถือ เดี๋ยวนี้มีแอพเก็บสถิติรายวันชื่อว่า Checky ถ้าคุณบอกว่าติด! ระวังเค้าหยิบแอพขึ้นมาโชว์แบบนี้นะ
15. มือถือสำคัญที่สุดในชีวิต หรือคนที่อยู่ข้างๆคุณในวันแต่งงานสำคัญกันแน่?
รวบตึง 10 ฟีเจอร์ใหม่บน iOS 9 มั่นใจได้ใช้กันแน่ๆ!
Apple จัดเต็มกว่า 200 ฟีเจอร์ให้ทีไร ไม่เคยใช้ครบสักทีจริงมั้ยคะ? วันนี้แอดเลยขอจัดอันดับ 10 ฟีเจอร์น่าใช้ และต้องได้ใช้แน่ๆ (ไม่มากก็น้อย) ให้สาวก iDevice ที่กำลังรออัพเดท iOS 9 ตัวเต็ม (หรือคนที่สนใจลงเวอร์ชั่นเบต้า) ได้น้ำลายหกกันเบาๆ ไม่ว่าจะเป็นแนบไฟล์เอกสารผ่าน Mail, โหมดประหยัดแบตเตอรี่, เปิดแฟลชขณะถ่ายวิดีโอ, ตอบกลับข้อความได้ทุกแอพ หรือแม้แต่ฟีเจอร์ค้นหาคำสั่งในหน้า Settings แหม..อันนี้ Apple เค้ารู้จริงว่าหากันไม่ค่อยจะเจอ Oops!
1. iCloud Drive
iCloud Drive บน iOS 9 จะมีบทบาทร่วมกับแอพอื่นๆมากขึ้น เสมือนเป็น SD Card อีกตัวที่สามารถเก็บไฟล์จากอีเมล์ รวมถึงอัพโหลดไฟล์ขึ้นเว็บได้ด้วย แต่ก่อนอื่นไปดูวิธีเรียกใช้ iCloud Drive บน PC และอุปกรณ์ที่ใช้ iOS กันก่อนดีกว่าค่ะ
PC
เข้าไปที่ www.icloud.com ล็อกอิน Apple ID ให้เรียบร้อย จะเห็นไอคอน iCloud Drive ดังรูป
จากนั้นเข้าไปเพิ่มไฟล์ต่างๆที่อยู่ในเครื่องคอมขึ้น iCloud Drive หรือดึงจาก iCloud Drive เข้าเครื่องคอมก็ได้ โดยใช้วิธีลากมาวางในโฟลเดอร์หรือหน้าที่ต้องการได้เลย
อุปกรณ์ที่ใช้ iOS 9
ให้เข้าไปเปิดใช้งานที่ Settings > iCloud > iCloud Drive ก่อน จากนั้นเปิด Show on Home Screen เพื่อแสดงไอคอนแอพขึ้นมาที่หน้า Home สำหรับเปิดดูไฟล์ต่างๆได้สะดวกขึ้นโดยไม่ต้องเข้าเว็บ icloud.com
• ตัวอย่างการเลือกใช้รูปจาก iCloud Drive
เปิดแอพ Safari แล้วเข้าหน้าเว็บที่ต้องการอัพโหลดไฟล์หรือแชร์ไฟล์ จากนั้นจะเห็นตัวเลือก iCloud Drive ดังรูป
2. Mail แนบไฟล์เอกสาร
Add Attachment เป็นคำสั่งที่หลายคนเฝ้ารอมานาน เพราะก่อนหน้านี้ Apple ให้แนบได้เฉพาะไฟล์ภาพอย่างเดียว ใครอยากจะส่ง pdf, word, excel ต้องใช้วิธีอื่น แต่พอมี iCloud Drive ที่เปรียบเสมือน SD Card ส่วนตัว ก็ยิ่งทำให้เลือกไฟล์ได้หลายนามสกุลมากขึ้น
• ตัวอย่างบันทึกไฟล์แนบจาก Mail เข้า iCloud drive
แตะค้างที่ไฟล์แนบในอีเมล์เลือก Save Attachment
• ตัวอย่าง Markup แต่งรูปในแอพ Mail
นอกจากบันทึกไฟล์และแนบไฟล์ได้แล้ว แอพ Mail ยังสามารถแต่งภาพก่อนส่งได้ด้วย โดยหลังจากเลือก Insert Photo or Video แล้ว ให้แตะที่รูป 1 ครั้ง เลื่อนหาคำสั่ง Markup จากนั้นเพิ่มข้อความหรือวาดเส้นลงไปได้เลย
3. Low Power ประหยัดพลังงาน
โหมดประหยัดพลังงานจะแสดงขึ้นถามทันทีเมื่อเหลือการใช้งานแบตเตอรี่ 20% หากแตะ Low Power Mode ก้อนแบตเตอรี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง รวมถึงปิดการทำงานเบื้องหลังที่ไม่จำเป็น และลดสปีดอินเตอร์เน็ตลงเล็กน้อย
ถ้าต้องการใช้โหมด Low Power บน iOS 9 ตลอดเวลาให้เข้าไปที่ Settings > Battery > Low Power Mode จะช่วยลดการใช้งานที่ไม่จำเป็น โดย iPhone 6 จะยืดการใช้งานได้อีก 1 ชั่วโมง และบน iPad ยืดการใช้งานได้ถึง 4 ชั่วโมง
4. Passcode Lock 6 ตัว
หน้าลงทะเบียน iOS 9 สามารถตั้งรหัส Passcode lock ได้ถึง 6 ตัว หรือจะเลือก Passcode Options ตั้งแค่ 4 ตัวเหมือนเดิมก็ได้
5. ซูมขยายขณะเล่นวิดีโอ
iOS 9 อนุญาตให้ย่อขยายวิดีโอขณะเปิดดูได้เป็นที่เรียบร้อย จะถ่ายมาไกลแค่ไหนก็ซูมดูใกล้ๆได้เหมือนรูปภาพ
6. เปิด/ปิดแฟลชขณะบันทึกวิดีโอ
กล้อง iPhone ต้องยอมรับว่าถ่ายวิดีโอในที่มืดได้มืดจริงๆ โชคดี iOS 9 สามารถเปิดแฟลชขณะบันทึกได้แล้ว ช่วยให้มองเห็นชัดเจนขึ้นว่าใครกำลังทำอะไรนะ อุ๊ปส์!
7. Note คำสั่งครบครันแนบไฟล์ภาพได้
สมุดโน๊ตหน้าตาคุ้นเคยแต่เครื่องมือใช้งานมากกว่าเก่า สามารถเพิ่มเมนูรายการ, บูลเล็ต, รูปภาพ, แนบลิงค์ รวมถึงสเก็ตช์ภาพได้ สังเกตจากไอคอนรูปบวก + แตะเมื่อไหร่มีคำสั่งขึ้นมาเมื่อนั้น
• ตัวอย่างเขียนข้อความด้วยปากกาขนาดต่างๆ สีปากกาค่อนข้างอ่อนไปสักหน่อย แต่หลังจากเขียนเสร็จแล้วจะรู้ว่าไม่ใช่ข้อความธรรมดา เพราะสามารถแตะแชร์ต่อได้โดยจะถูกแปลงเป็นไฟล์ภาพให้ทันที
8. ใช้ Touch ID ปกป้องแอคเคาท์
Username และ Password เป็นสิ่งที่หลายคนลืมเป็นประจำ ดังนั้นหากใครใช้ iPhone 5S ขึ้นไป สามารถเปิดใช้ Touch ID เพื่อปกป้องแอคเคาท์ที่บันทึกไว้ใน Settings > Safari > Passwords ได้อย่างสบายใจมากขึ้น
9. Reply ตอบกลับได้ทุกแอพ
แจ้งเตือนจากแอพโซเชียลทั้งหลายบน iOS 9 จะไม่เสียเวลาตอบกลับอีกต่อไป ด้วยการลากแถบข้อความนั้นลงมา แล้วเลือก Reply ได้ทันที
10. Search ใน Settings
ช่วยได้เยอะทีเดียวสำหรับแถบ Search Settiings จะตั้งค่าใน Settiings แต่ละทีหาคำสั่งไม่เจอ ให้ใช้วิธีพิมพ์คำค้นหลักๆลงไป เช่น อยากตั้งค่าอีเมล์ก็พิมพ์ mail ลงไป ระบบจะค้นหาคำสั่งที่เกี่ยวข้องขึ้นมา ดังรูป
และนี่คือ 10 ฟีเจอร์ใหม่บน iOS 9 ที่แอดใช้บ่อยจนต้องบอกต่อ หวังว่าคนที่กลัวแบตหมดเร็วจะวางใจ Low Power และเริ่มใช้ระบบป้องกันความปลอดภัยของ Touch ID กับ Passcode Lock 6 ตัวมากขึ้นนะคะ