การอนุญาตเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวใน Facebook หลายคนอาจมองว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะใครๆก็ทำกัน ยกตัวอย่าง การปั๊มไลค์, การเล่นเกม, การดูดวง ฯลฯ ต้องยืนยันใช้งานแอพและอนุญาตให้ดึงข้อมูลส่วนตัวก่อน แต่ประเด็นไม่ใช่แค่ตัวเราเพราะเพื่อนของเราอาจโดนลูกหลงไปด้วย ดังนั้นความปลอดภัยอย่างแรกที่ทำได้คือตั้งค่าความเป็นส่วนตัว (Privacy Settings) หรือล้างประวัติที่เคยค้นหา แต่ในทางกลับกันถ้าเพื่อนของเราโดนแฮกข้อมูล? 5 สิ่งที่เราไม่ควรโพสต์บน Facebook จะมีอะไรบ้างไปดูกัน
1. วันเกิดตัวเอง/รายชื่อครอบครัว
เคยได้ยินคำว่า “ขโมยตัวตน” มาก่อนรึเปล่าคะ เหล่ามิจฉาชีพมักมีเครื่องมือส่วนตัวสำหรับคัดลอกข้อมูล โดยใช้ Facebook เป็นช่องทางขโมยอย่างสะดวก เริ่มจากแฮกแอคเคาท์ (อาจใช้โปรแกรมหรือแฝงตัวใช้งานหากเราลืม Log Out) เพื่อดูข้อมูลวันเดือนปีเกิดของคุณและคนใกล้ตัว, ดูประวัติการค้นหาใน Facebook ฯลฯ แล้วขโมยตัวตนไปยืนยันสิทธิต่างๆบนโลกออนไลน์ง่ายขึ้น หากใครคิดว่าการบอกวันเกิดจะช่วยให้เพื่อนเข้ามาอวยพรเยอะๆ ลองเปลี่ยนให้เพื่อนจำวันเกิดเราดูสิคะ ถ้ารักกันจริงต้องจำได้จริงมิ!
2. ชื่อจริง นามสกุลจริง
จากข้อแรก ถ้ารู้วันเดือนปีเกิดใครๆก็เกิดซ้ำกันได้ แต่ถ้ารู้ชื่อกับนามสกุลจริง (อย่าได้โพสต์ใบแจ้งหนี้, ใบขับขี่, สูติบัตร เชียว!) โอกาสขโมยตัวตนจะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งตอนนี้มีกฎใหม่ของ Facebook ประกาศให้เปลี่ยนแอคเคาท์เป็นชื่อจริง-นามสกุลจริง เพื่อป้องกันไม่ให้อ้างตนเป็นบุคคลอื่น ยกตัวอย่างข้อมูลจาก Pantip โดยคุณ โซเฟีย เพชชี่โรวรี่ (ชื่อเก่า) รวมถึงคุณช่า บันทึกของตุ๊ด ทั้ง 2 คนนี้มีเพื่อนมากมีผู้ติดตามมากจึงไม่แปลกที่จะโดน Facebook ใช้มาตรการใหม่ก่อนใคร โดยแจ้งให้เปลี่ยนมาใช้ชื่อจริง นามสกุลจริง แล้วรออีก 60 วันจึงสามารถตั้งชื่อใหม่ได้ ณ จุดนี้ต้องบอกว่าเป็นโอกาสดีของแฮกเกอร์ที่จะได้รู้จักชื่อจริงของทุกคน..อุ๊ปส์! แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อ Facebook เป็นคนตั้งกฎสะเอง
3. สถานะ “โสด”, “ไม่โสด”
ช่วงแรกรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน เปลี่ยนสถานะ relationship แต่เมื่อไหร่รักขมกลับมาใช้สถานะโสดอีกครั้ง นอกจากเพื่อนซ้ำแล้วยังเจอพวกไม่หวังดีฉวยโอกาสติดตาม และรอเวลาตอนอยู่คนเดียวได้ง่ายๆ ดังนั้นทางออกที่ดีเข้าไปตั้งค่า relationships ให้เป็น only me จะดีที่สุด เพราะที่น่ากลัวไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นแฟนเก่าของเรานี่เอง หากใครได้ตามข่าวหนุ่มวัย 17 ปีถูกบอกเลิก แค้นแฟนสาววัย 15 ปี สะกดรอยตามจาก Facebook แล้วบุกฆ่าอย่างเลือดเย็น คงต้องหันมาดูสถานะของตัวเองบ้างแล้วนะคะ
4. แท็กที่อยู่ปัจจุบัน
หากสถานการณ์เริ่มคลุมเครือเหมือนในข้อที่ 3 หรือกำลังไม่ไว้วางใจใครก็ตาม สิ่งแรกที่เห็นชัดจากกรณีสะกดรอยตามแฟนเก่าจาก Facebook นั้น แสดงให้เห็นว่ามีการเปิดโลเคชั่น เช่น โพสต์รูป, เช็คอิน แล้วแท็กตำแหน่งปัจจุบันไว้เรียบร้อย แต่ถ้าใครมั่นใจว่าแท็กได้ไม่มีปัญหาก็ไม่ว่ากันค่ะ แค่ต้องระวังนิดนึง! ยิ่งช่วงเทศกาลหรือมีใครรู้ว่าเราอยู่คนเดียวจะเป็นการเปิดโอกาสทางอ้อมให้โจรแบบไม่รู้ตัว
5. อยู่บ้านคนเดียวนะรู้ยัง
ประเด็นสุดท้ายหนักกว่าแท็กที่อยู่ปัจจุบันอีกจ้า บอกไปเลยตรงๆ “เค้าอยู่บ้านคนเดียว” เราอาจต้องการสื่อให้รู้ว่าเหงา ถูกทอดทิ้ง อิจฉาคนได้ไปเที่ยว ฯลฯ แต่นั่นเป็นการชี้โพรงให้กระรอกชัดๆ ยิ่งเป็นผู้หญิงยิ่งไม่ควรโพสต์แบบนี้ เดี๋ยวสักกะรินจะหนีสักกะรินลี่ไปหาได้ง่ายๆนะจ๊ะ
ข้อห้ามไม่ควรโพสต์บน Facebook ยังมีอีกหลายข้อที่ไม่เหมาะสม หรือไม่ควรละเมิดกฎอีกมาก แต่สำหรับ 5 ข้อนี้ขอเน้นเรื่องความปลอดภัยล้วนๆ เพราะนอกจากการตั้งค่า Privacy อนุญาตเฉพาะเพื่อนเท่านั้นอาจไม่เพียงพอ หากเพื่อนของเราโดนแฮกข้อมูลจริงๆ อย่างน้อย 5 ข้อนี้ก็พอจะช่วยได้บ้างนะคะ